ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนระบบ UV ข้อดี คือ -ไม่ได้กรองแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายไปด้วย -ความเร็วในการกรองเร็วกว่า RO มากและไม่สูญเสียน้ำทิ้งเหมือน RO ข้อเสีย -กรองได้เพียง 0.3 ไมครอน ความบริสุทธิ์ของน้ำเป็นรองระบบ RO คำถาม คือ น้ำระดับ 0.3 ไมครอนเนี่ย บริสุทธิ์พอที่จะดื่มได้หรือไม่ ต้องเอามาต้มอีกรอบหรือไม่ จากคุณ : wut3616 - [ 15 พ.ย. 48 13:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลักษณะการใช้น้ำที่บ้านนะครับ 1.ใช้ดื่ม (ระบบเดิมที่ใช้ไม่มี UV เป็นกรอง 3 ชั้น ปกติแม่ผมเอาน้ำกรองได้มาต้มอีกครั้ง) 2.ใช้ทำกับข้าว หุงข้าวด้วยทุกวัน 3.ครอบครัวขนาด 6 คน ช่วยตัดสินใจให้ทีครับเลือกระบบไหนดี หากเลือก UV ไม่แน่ใจว่าระดับ 0.3 ไมครอน บริสุทธิ์พอจะดื่มได้เลยไหม หรือควรต้มอีกครั้ง หากเลือก RO เกรงเรื่องแร่ธาตุในน้ำที่หายไป ซึ่งจะต้องดื่มน้ำแร่เสริม หรือทานอาหารอื่นๆที่มีแร่ธาตุเสริมอีกมั้ย และจะสิ้นเปลืองหรือไม่ เมื่อน้ำทิ้งเยอะมาก ช่วยตัดสินใจทีครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : wut3616 - [ 15 พ.ย. 48 13:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อ มองยี่ห้อ pure กับ inventa ไว้ อีกยี่ห้อที่ดูๆ คือ mazuma ใครเคยใช้ครับ เอายี่ห้อไหนดี จากคุณ : wut3616 - [ 15 พ.ย. 48 13:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องความละเอียดในการกรอง ความละเอียดระดับ 0.3 ไมครอนในระบบ UV นั้น ที่จริงได้มาจากตัวไส้กรองเซรามิกครับ ตัว UV ฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อโรคเท่านั้น ดังนั้นถ้าต้องการการกรองละเอียดระดับ 0.3 ไมครอน ซื้อไส้กรองมาใส่พ่วงเข้าไปอีกตัวก็พอแล้ว เรื่องความสะอาด น้ำประปา ที่จริงเค้าใส่คลอรีนฆ่าเชื้อโรคไปแล้ว น้ำประปาที่ต้นทางตอนออกจากโรงกรองน้ำเลยนั้น สะอาดและดื่มได้ครับ เพียงแต่จะเหม็นคลอรีน แต่กว่าจะมาถึงบ้านคุณ ระบบส่งน้ำอาจมีรอยรั่วที่ไหนก็ได้ ทำให้คนไม่มั่นใจในความสะอาด เมื่อผ่านการกรองแบบสามท่อที่บ้านคุณใช้อยู่ ปรกติก็ดื่มได้แล้วครับ เรื่องแร่ธาตุสารอาหารในน้ำ เป็นเรื่องเหลวไหลครับ ที่ว่าคนเราต้องการสารอาหารจากน้ำดื่ม แร่ธาตุต่างๆในน้ำดื่มที่เราต้องการนั้นมีอยู่จริง แต่ในปริมาณที่น้อยมากๆๆๆ ทานอาหารครบหมู่ก็ใช้ได้แล้วครับ ร่างกายไม่ได้ต้องการสารอาหารขี้ปะติ๋วแค่ที่ปะปนอยู่ในน้ำดื่มหรอก เรื่องอัตราการไหลของน้ำและความสิ้นเปลืองน้ำ ไม่ทราบคุณได้ศึกษายี่ห้ออื่นบ้างหรือเปล่าครับ? ทำไมอัตราการกรองน้อยปานนั้น? ทำไมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมากมายปานนั้น? เท่าที่ทราบ ข้อเสียของระบบ RO คือไส้กรองแพงตะหากมิใช่รึ? จากคุณ : เสนอข้อเท็จจริงให้พิจารณา - [ 15 พ.ย. 48 13:57:55 A:58.10.224.4 X: TicketID:102813 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำของระบบ RO เนี่ย แต่ละคนพูดไม่ตรงกันเลยครับ บางคนบอก 30% บางคนบอก 50% บางคนบอก 70% งงครับ ส่วนเรื่องนี้เนี่ยไม่มีใครเขียนลงในโบร์ชัวร์หรอก เพราะมันเป็นข้อเสีย ผมถามพนักงานขายเอาครับ ส่วนเรื่อง 0.3 ไมครอนได้จากไส้กรองจริงครับ แต่ UV มันช่วยฆ่าเชื้อโรคเนี่ยจำเป็นไหมครับ อ้อ ไส้กรอง RO กับ UV เท่าที่ถาม ค่าใช้จ่ายพอๆกันครับ สรุปแล้วเลือกระบบ 3 ท่อธรรมดาก็พอแล้ว ไม่ต้องใช้ UV หรือ RO หรือครับ คือ ยังไงคงต้องเปลี่ยนเพราะตัวเก่ามันหาอะไหล่ไม่ได้น่ะครับ ตัวเก่าเป็นแบบธรรมดา 3 ไส้กรอง ตัวบอดี้เป็นเหล็กเงาๆน่ะ ระบบอะไรเรียกไม่ถูกครับ ยี่ห้อดีม่าครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 48 14:29:59 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 48 14:28:57 จากคุณ : wut3616 - [ 15 พ.ย. 48 14:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในนัยยะแห่งมาตราฐานของน้ำสำหรับบริโภค ไม่ว่าจะเป็น  Ceramic filter with หรือ without UV และ RO ให้น้ำที่ผ่านมาตราฐานสำหรับน้ำเพื่อการบริโภคทั้งสิ้น จากคุณ : วเนจรป่าคอนกรีต - [ 15 พ.ย. 48 14:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบเท่าที่รู้ละกันนะ -จุดที่ผมติดใจ คือ คนเราจำเป็นต้องดื่มน้ำบริสุทธิ์ขนาดนั้นหรือไม่ครับ และแร่ธาตุที่ว่าหายไปเนี่ย เราสามารถกินผัก ผลไม้เสริมได้มั้ย ใช่แร่ธาตุตัวเดียวกันมั้ย ตอบคือ น้ำบริสุทธิ์ขนาดนั้นเค้าน่าจะเรียกว่าน้ำกลั่นแล้วมั้งคะ ไว้เติมพวกรถน่ะคะ  เราว่าร่างกายคงยังต้องการแร่ธาตุอยู่บ้าง เรื่องความละเอียดในการกรองน่ะ ถ้ากลัว 0.3 ไมครอนไม่ละเอียดพอ ก็ลองดูยี่ห้อที่เค้ากรองได้ละเอียดกว่านั้นสิคะ น่าจะพอมีนะ ลองสำรวจดู ส่วนเรื่องของ uv เค้ามีไว้สำหรับฆ่าพวกเชื้อโรคนี่คะ แต่เครื่องกรองที่เป็นระบบ RO เนี่ยไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคแต่เป็นการกรองหลายๆ  ชั้น จนแร่ธาตุสูญหายไปไม่ใช่เหรอ เท่าที่เคยได้ยินมานะคะ เพราะฉะนั้นน้ำที่ผ่านระบบ uv ไม่จำเป็นต้องเอามาต้มแล้วล่ะค่ะ แค่นั้นก็สะอาดพอแล้ว เพียงแต่ว่า คุณ จขกท ต้องดูรายละเอียดนิดนึงว่า uv เค้าฆ่าเชื้อโรคได้กี่ชนิด  ใช้เวลานานแค่ไหนในการฆ่าเชื้อโรค ขนาดแสงของเค้าเท่าไหร่น่ะ  เพราะบางยี่ห้อเค้าก็ประมาณว่ามี uv แต่ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคไม่สูง ส่วนระบบ 3 ท่อที่ คุณ จขกท ว่าถึง ไม่รู้ว่าไส้กรองคืออะไร  เพราะบางที่เค้าก็แค่กรองตะกรองหยาบกะปรับความกระด้างของน้ำเท่านั้น แต่พวกสิ่งปนเปื้อนที่มันละเอียดมาก ๆ บางทีมันก็ยังผ่านไปได้  หลายๆ คน เลยต้องเอาน้ำไปต้มเพื่อความมั่นใจว่ามันสะอาดจริง  แต่เราว่าเสียเวลากะเปลืองแก๊ซอ่ะ  แบบว่าทั้งขี้เกียจและขี้งก หุหุ ลองใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ดูนะคะ จากคุณ : หัวใจสีชมพู - [ 15 พ.ย. 48 15:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระบบ UV ความละเอียดในการกรองเท่าที่ดูทุกยี่ห้อที่โฮมโปร 0.3 ไมครอนเป็นมาตรฐานครับ ไม่เห็นที่ละเอียดกว่านี้ครับ ส่วน uv เค้าฆ่าเชื้อโรคได้กี่ชนิด  ใช้เวลานานแค่ไหนในการฆ่าเชื้อโรคขนาดแสงของเค้าเท่าไหร่น่ะ  เท่าที่ดูในโบร์ชัวร์ไม่มียี่ห้อไหนให้รายละเอียดขนาดนั้นเลยนะครับ บอกแต่ว่าฆ่าเชื้อโรค เชื้อไวรัสได้เท่านั้นครับ  ยังลังเลๆอยู่คงหาข้อมูลไปเรื่อยๆระหว่าง 2 ระบบนี้ แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์คงต้องซื้อล่ะครับ จากคุณ : wut3616 - [ 15 พ.ย. 48 15:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาร์โอ ดีกว่าแน่นอนครับ เพราะผมใข้อยู่ ใช้ครับr.o.จะกรองเอาสารหารจากน้ำไปหมดน่ะใช่ครับ เพราะมันสะอาดมากและร่างกายเราก็ต้องการแบบนั้นด้วย ถามว่ามีตำราใหนบอกมั้ยว่าคนเราต้องการสารอาหารจากน้ำครับ ไม่ได้มาขายของนะ แต่ที่บ้านใช้ยี่ห้อมินเนอรี่อยู่ราคา27000 ถ้วน ที่ตัดสินใจซื้อเพราะว่า มีอะไหล่ทุกตัว กรอง 6ชั้น ราคาอะไหล่แพงสุด2500 ถูกสุด350 มันก็ดีนะครับ สนใจติดต่อผมก็ได้นะ 040820308ฟลุ้ค sadboy01@hotmail.com จากคุณ : 040820308ฟลุ้ค (sadboy01) - [ 15 พ.ย. 48 16:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลืมบอกไปว่าของมินเนอรี่กรองได้ 0.0001  ไมครอน คือเท่ากับโมเลกุลของน้ำซึ่งไม่สามารถกรองได้ละเอียดกว่านี้แล้วในโลก จากคุณ : sadboy01 - [ 15 พ.ย. 48 16:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขออาศัยกระทู้คุณ wut3616 ถามด้วยค่ะ ที่บ้านใช่แบบมี uv แต่คนขายบอกต้องเปลี่ยนเมื่อหมดอายุ ก็ประมาณ 2 ปี แต่แฟนเราสงสัยว่ามันน่าจะเหมือนหลอดไฟนะ ถ้าหลอดไม่ขาดก็ไม่ต้องเปลี่ยน ความจริงเป็นอย่างไรค่ะ วานผู้รู้ตอบด้วยค่ะ คือมันแพงน่ะค่ะไอ้ หลอด uv เนี่ย จากคุณ : สุขา - [ 15 พ.ย. 48 16:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองดูเป็น RO ยี่ห้อที่ทำตลาดพวกตู้หยอดเหรียญสิครับ บ้านผมก็ใช้อยู่ยี่ห้อ SAVELIFE ครับผม ผมว่าน่าจะถูกกว่ายี่ห้อที่ึคุณดูๆอยู่ไม่มากก็น้อยล่ะครับ ส่วนใหญ่ผมว่าอาจจะใช้ใส้เดียวกันด้วยซ้ำต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอก ยังไงไส้ก็ผลิตจากในอเมริกาและเกาหลีในบางอันไม่ได้ทำในไทยครับ สนใจหลังไมค์มาก็ได้ครับ http://www.thaiday.com/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9480000023643 จากคุณ : Hackerz14 - [ 15 พ.ย. 48 20:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คคห.5 คุณ wut3616 เครื่องกรองน้ำสามท่อที่คุณใช้อยู่ เป็นแบบสารกรองครับ โดยทั่วๆไปในนั้นจะมี... ท่อที่ 1-2. Activated Carbon ไว้ดูดคลอรีน กลิ่น สีและสารพิษบางตัว ทรายละเอียด ทรายหยาบ เพื่อกรองตะกอนให้น้ำใส สองท่อนี้แล้วแต่ๆละยี่ห้อจะเรียงลำดับสาร ทำความสะอาดด้วยการ back wash เพื่อให้น้ำไหลย้อนกลับ ไล่ตะกอนทิ้ง บางยี่ห้อก็ใช้ แมงกานิสไดอ๊อกไซด์ท่อนึง เพื่อจับประจุพวกสารหนักต่างๆ ตัวนี้ล้างด้วยด่างทับทิม (ที่จริงจำเป็นสำหรับน้ำบาดาลในบางเขตเท่านั้น) ท่อที่ 3. Zeolite resin จับประจุขั้วบวกต่างๆ เช่น แคลเซี่ยม(หินปูน) แมกนีเซี่ยม ฯลฯ ตัวเรซิ่นนี้ทำให้น้ำหายกระด้าง ต้มแล้วไม่เป็นตะกรันติดก้นกาน้ำ และทำให้น้ำมีรสหวานนิดๆ ทำความสะอาดด้วยการแช่น้ำเกลือไว้สักครึ่งชั่วโมง แล้วล้างไล่น้ำเกลือทิ้ง สำหรับน้ำประปา ผ่านเครื่องกรองชนิดนี้ก็ดื่มได้สบายใจและปลอดภัยดีแล้วครับ ผมเองและครอบครัวก็ดื่มน้ำจากเครื่องกรองแบบนี้มาเป็นสิบๆปีแล้ว ยังแข็งแรงดีกันทุกคน (ที่จริงการประปายืนยันว่าดื่มได้โดยไม่ต้องต้มมาตั้งหลายปีแล้ว เพราะอย่างที่บอก น้ำประปาเค้าใส่คลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคไปเรียบร้อยแล้ว) เพียงแต่เราไม่แน่ใจในระบบส่งน้ำ ว่าดูแลป้องกันการแตกการรั่วของท่อส่งดีแค่ไหน อีกอย่าง ท่อประปาในบ้านเราเองนี่แหละ ตัวดี ยิ่งถ้าเป็นท่อกัลวาไนส์แบบเก่าที่ใช้มาหลายปีแล้ว ดังนั้นถ้าว่ากันจริงๆ สำหรับในครัวเรือน การฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV ก็ดี การกรองด้วยระบบ RO ก็ดี ล้วนเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน เพราะเป็นการสิ้นเปลืองเงินเพื่อทำในสิ่งที่เกินความจำเป็นทั้งสิ้น ส่วนเรื่องสารอาหารในน้ำที่คุณเกรงว่าระบบ RO จะกรองออกไปหมดจนร่างกายได้รับไม่พอนั้น ขอยืนยันว่า บรรพบุรุษเราที่จริงดื่มน้ำกลั่นมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปีแล้วครับ เป็นน้ำกลั่นตามธรรมชาติ ซึ่งก็คือ น้ำฝน นั่นเอง คุณคิดว่าในน้ำฝนจะมีสารอาหารอะไรที่ร่างกายต้องการนัก? ถ้าใครยังยืนยันว่ามนุษย์เราต้องการสารอาหารจากน้ำดื่ม ผมขอตัวเลขและเอกสารยืนยันหน่อยได้ไหมครับ? ว่าน้ำดื่มที่ว่านั่นเป็นมาตรฐานของประเทศไหน มีสารอาหารใดที่เราต้องการ? เป็นปริมาณเท่าใด? กี่ p.p.m.? ส่วนที่พูดกันว่าไม่ควรดื่มน้ำกลั่นนั้น ถูกต้องครับ ผมเห็นด้วย แต่หมายถึงน้ำกลั่นที่เขาผลิตไว้เพื่อเติมแบตเตอรี่นะครับ น้ำพวกนั้นไม่ได้ผ่านขบวนการขจัดสารหนักต่างๆออกไป เพราะเขาไม่ได้ผลิตมาเพื่อให้มนุษย์ดื่ม ถ้าถามผมว่าแล้วผมล่ะ ดื่มน้ำอะไรที่บ้าน ทุกวันนี้ผมดื่มน้ำ RO ครับ แต่ไม่ได้ซื้อเครื่องมาใช้เอง ผมอยู่คอนโดฯคนเดียว ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องติดเครื่องกรอง หิ้วถังลงไปหยอดตู้เอา ลิตรละบาท สะดวกสบายดี ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องบำรุงรักษาเครื่อง และไม่ต้องเสียเงินก้อน อิอิอิ เรื่องน้ำทิ้งจากระบบ RO ถ้าเดาไม่ผิด ผมว่าคงสิ้นเปลืองน้ำในการล้างตัวเมมเบรนกระมัง? ถ้าใช่ หาทางต่อท่อนำน้ำส่วนนั้นไปใช้ได้นี่ครับ เช่นต่อไปลงแท็งค์น้ำ ไว้สำหรับใช้ล้างถ้วยล้างจาน อาบน้ำ ฯลฯ หรือถ้าตะกอนมาก ก็ต่อไปใช้รดต้นไม้ ถูบ้าน ยิ่งไม่น่ามีปัญหา จากคุณ : เสนอข้อเท็จจริงให้พิจารณา - [ 15 พ.ย. 48 21:18:00 A:58.10.226.17 X: TicketID:102813 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลืมไปอย่างครับ ที่คุณว่าตัวเก่าสามท่อของคุณต้องเปลี่ยน เพราะไม่มีอะไหล่ มันเสีย? หรือมันยังไงครับ? อาการเป็นยังไง? ไม่ทราบว่าได้ล้างสารกรองตามระยะเวลาอันควรหรือเปล่า? หรือถ้าสารกรองเสื่อม แค่เปลี่ยนสารกรองก็ใช้ได้เหมือนใหม่แล้วนะครับ ค่าใช้จ่ายคงไม่กี่ร้อยบาท จากคุณ : เสนอข้อเท็จจริงให้พิจารณา - [ 15 พ.ย. 48 21:37:08 A:58.10.226.17 X: TicketID:102813 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าใช้ระบบ RO ครับ.... น้ำที่ผลิตจากระบบ RO ซึ่งมีคุณภาพใกล้เคียงน้ำกลั่นมันเป็นอันตรายต่อร่างกายนะครับ เพราะว่า น้ำกลั่นนั้นจะมีสภาพใกล้เคียงความเป็นกรด ซึ่ง ตัวน้ำจะดูดซึมเอาแร่ธาตุในร่างกายเราออกไปไว้ในน้ำแทน ทำให้เราสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นออกไปครับ การดื่มน้ำกลั่นนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายนะครับ ทางแพทย์เค้าถึงไม่แนะนำกัน แล้วที่บอกว่าน้ำฝนคือน้ำกลั่น มันก็ไม่ถูกครับ เพราะในน้ำฝนมีแร่ธาตุนะครับ เพียงแต่วิธีการเกิดฝนมันเหมือนกับการทำน้ำกลั่นแค่นั้นเองครับ คนเราไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำสะอาดเว่อร์อย่างน้ำ RO หรอกครับ มีแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี และ แร่ธาตุในน้ำมีความจำเป็นต่อร่างกายครับ เพราะแร่ธาตุที่มากับน้ำจะช่วยปรับสมดุลของร่างกายครับโดยเฉพาะในระหว่างที่ร่างกายเพิ่มดื่มน้ำ และมีการดูดซึมเกิดขึ้น ซื้อไส้กรองแบบ UV หรือความจริง แค่ต้มน้ำประปาดื่มก็พอครับ วิธีต้มก็ง่าย แค่รองน้ำประปาทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยน้ำมาต้ม ก็จะปราศจากกลิ่นคลอรีนแล้วครับ อนึ่ง ทางการแพทย์ได้ออกมาประกาศเตือนถึงอันตรายของน้ำ RO แล้วนะครับ แต่ทำไมไม่ค่อยมีคนรู้นะแปลกจริงเลยครับ จากคุณ : G-7 - [ 15 พ.ย. 48 22:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การดื่มน้ำ RO ไม่ทำให้ขาดสารอาหารหรอก เพราะเราได้จากอาหารอย่างอื่นอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน เคยมีเหมือนกันในสมัยโบราณพวกที่ออกเรือนานๆ แถบสแกนดิเนเวีย เช่นพวกไวกิ้งจะเป็นโรคลักกะปิดลักกะเปิด เพราะการดื่มน้ำกลั่นเป็นเวลานาน การปรุงอาหารก็ใช้น้ำกลั่นปรุง และไม่ได้ทานผลไม้สดเป็นปีๆ มันประกอบด้วยหลายสาเหตุครับ ไม่น่าเชื่อน่ะครับว่ามีคนตายเพราะโรคเลือดออกตามไรฟันแต่ก็มีมาแล้ว คนที่ต่อต้านการดื่มน้ำ RO เขามักจะเอามาอ้างครับว่าดื่มนานๆ อาจตายได้ จากคุณ : tb - [ 15 พ.ย. 48 22:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอาข้อมูลมาฝากครับ นักเคมีเผยดื่มน้ำบริสุทธิ์ ก็ฉุดให้ตายได้ http://www.manager.co.th/qol/ViewNews.asp?NewsID=2000000024454 ก็แล้วแต่พิจารณาเนาะ อิอิอิ ผมอ่านแล้วอยากให้นักเคมีที่ว่า ออกมาตั้งโต๊ะถกกับหมอจัง เอาเอกสารมายืนยันให้มันชัดเจนกันไปเลย คงสนุกดีพิลึก นี่เงียบไปเลย สองปีกว่าแล้ว ไม่เห็นออกมายืนยันต่อ เอ๊ะ! หรือว่าผมตกข่าว? อิอิอิ ไงก็อยากให้มองทะลุผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะทางการค้า การเมือง ฯลฯ เข้าไปให้เห็นความจริง คงต้องแล้วแต่สติปัญญาของแต่ละคนเนาะ เรื่องแบบนี้ อันนี้กระทู้ใน pantip นี่เอง รบกวน คุณแมวเหมียวพุงป่อง ขอความรู้เรื่องน้ำหน่อย http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3479182/V3479182.html นี่สดๆร้อนๆ สกู๊ปหน้าหนึ่งไทยรัฐเมื่อวานนี้ น้ำตู้..เอื้ออาทร ดื่มแล้ว..อันตรายหรือ? http://www.thairath.co.th/thairath1/2546/column/scooper/sep/5_9_46.php อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผมจริงๆแล้วน้ำประปาแค่ผ่านระบบกรองสามท่อนั่น ผ่านไส้กรอง 0.3 ไมครอนอีกชั้นเอ้า แค่นี้ก็เหลือรับประทานแล้วครับ อิอิอิ จากคุณ : เสนอข้อเท็จจริงให้พิจารณา - [ 16 พ.ย. 48 12:49:32 A:61.91.169.25 X: TicketID:102813 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ราคาเครื่องละประมาณเท่าไหร่คะ จากคุณ : Bee (Bon chic) - [ 17 พ.ย. 48 19:01:47 ]