ความคิดเห็นที่ 1 เอ๊ะ ถ้าจำไม่ผิด บ้านหลังใหม่ที่ซื้อต้องแพงกว่าหลังเก่านะคะ . รอผู้รู้ยืนยันละกันค่ะ แหะๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 10 มี.ค. 49 08:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้คืน.. เขาให้ซื้อใหม่แพงขึ้นเพื่อลดหย่อนภาษี จากคุณ : แปะ - [ 10 มี.ค. 49 09:05:57 A:58.8.26.7 X: TicketID:007052 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1.ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายบ้านหลังเก่า ภาษีเงินได้ที่ได้รับการยกเว้น เท่ากับจำนวนมูลค่าของ อสังหาฯหลังเก่า  แต่ไม่เกินจำนวนมูลค่าของอสังหาฯแห่งใหม่ (อ้างอิง กฎกระทรวงฉบับที่126 (พศ.2509)ข้อ2(62) ) .............................. คุณจขกท. ขายหลัง  6 ล้านไปซื้อหลัง 3 ล้าน  จึงเข้าหลักเกณฑ์ได้รับคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา   ...ขอคืนได้ ............................. 2.ยกเว้นอากรแสตมป์ สำหรับรายรับจากการกระทำตราสาร  อันเนื่องมาจากการขายบ้านหลังเก่าและซื้ออสังหาฯหลังใหม่( เฉพาะอากรแสตมป์ ที่เสียจากการขายแหล่งเดิม   อากรฯ บ้านหลังใหม่ คืนไม่ได้) (อ้างอิง ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่50) ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2548) จากคุณ : Stuff_shirt - [ 10 มี.ค. 49 11:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แก้ไข"เฉพาะอากรแสตมป์ ที่เสียจากการขายแหล่งเดิม" "เป็น....ที่เสียจากการขายบ้านหลังเดิม..." จากคุณ : Stuff_shirt (Stuff_shirt) - [ 10 มี.ค. 49 11:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอถามต่อนะครับ 1 ที่เราจะได้คืนเมื่อซื้อบ้านหลังใหม่(มือสอง) ก็คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและค่าอากรแสตมป์ ที่เราเสียไปใช่มั้ยครับ (แล้วค่าธรรมเนียม จะได้คืนด้วยมั้ยครับ) 2 เท่าที่ได้ยินว่ามี กม ใหม่ บอกว่าถ้าเจ้าของบ้านหลังนั้น มีทะเบียนบ้านอยู่ในนั้นเกินกว่า 1 ปี ถ้าขายจะ งด หรือ ลดภาษีอะไรอีกบ้างครับ (เคยได้ยินมาว่า คนที่ซื้อต่อจากเราก็จะได้ลดค่าธรรมเนี่ยมจดจำนองด้วย) 3 กรณีของคุณพ่อผมนั้น ขายบ้านไปในครั้งนั้น แต่ว่ามีสองโฉนดในคราวเดียวกัน นั่นคือแปลงที่คุณพ่อย้ายไปเป็นเจ้าบ้าน ส่วนอีกแปลงไม่ได้ย้ายใครเข้าไป(เพราะเป็นส่วนโกดัง ที่เจ้าของเก่าขอเลขที่บ้านเอาไว้ แต่มันอยู่ในบริเวณรั้วบ้านเดียวกัน) ครั้งนั้นตอนขาย คุณพ่อผมโดนภาษีธุรกิจเฉพาะไปด้วย(ย้ายไปไม่ถึง 3 ปี)----คำถามก็คือ เราสามารถใช้ กฎเกณฑ์ดังกล่าว ในการขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งสองแปลงนั้นได้หรือไม่ หรือได้แค่แปลงที่คุณพ่อผมเป็นเจ้าบ้านอยู่แค่นั้นครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Erc - [ 10 มี.ค. 49 23:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อ 1 ได้ครับ แต่ขอคือเรื่องภาษี  ธุรกิจเฉพาะ ไม่ได้ครับ จากคุณ : dir/w - [ 11 มี.ค. 49 23:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอถามต่อนะครับ 1 ที่เราจะได้คืน   เมื่อซื้อบ้านหลังใหม่(มือสอง) ก็คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและค่าอากรแสตมป์ ที่เราเสียไปใช่มั้ยครับ (แล้วค่าธรรมเนียม จะได้คืนด้วยมั้ยครับ) ตอบ: ค่าธรรมเนียม เป็นรายได้  ที่รัฐ เก็บ จากผู้ใช้บริการกับหน่วยงานของรัฐ    บางครั้งมีการลดค่าธรรมเนียม เพื่อจูงใจให้คนมาทำนิติกรรม    แต่ไม่เคยงด ค่าธรรมเนียมจดเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน นี้    ที่ดินจัดเก็บ  สังเกตได้ครับ ว่า   หากงด...ที่ดินจะไม่จัดเก็บ   หากลด...ที่ดินจะจัดเก็บน้อยลง   ไม่ใช่เก็บ แล้วมาขอคืนทีหลัง  เหมือนภาษีสรรพากร บางกรณ๊   ต่างกับภาษีเงินได้ในกรณีนี้    ที่แม้ยกเว้น   ที่ดินก็ต้องจัดเก็บก่อน  หากเข้าข้อยกเว้น จึงจะไปขอคืนจากสรรพากร ต่อไปภายหลัง     ( เหตุผล ดูต่อไป)       2 เท่าที่ได้ยินว่ามี กม ใหม่ บอกว่าถ้าเจ้าของบ้านหลังนั้น มีทะเบียนบ้านอยู่ในนั้นเกินกว่า 1 ปี ถ้าขายจะ งด หรือ ลดภาษีอะไรอีกบ้างครับ (เคยได้ยินมาว่า คนที่ซื้อต่อจากเราก็จะได้ลดค่าธรรมเนียมจดจำนองด้วย) ตอบ ผู้ขายที่จะได้คืนภาษีเงินได้ และอากรแสตมป์ ต้องเข้าหลักเกณฑ์  ขายบ้านหลังเก่า  เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ กล่าวคือต้องขายบ้านที่เป็นแหล่งอาศัยสำคัญ   มีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี  และไปซื้อบ้านหลังใหม่ จะได้คืนภาษีและอากรแสตมป์ ตามข้อกม.ที่อ้างอิงข้างบน หากขายบ้านหลังเก่า  (หลังเก่าต้องมีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่น้อยกว่า 1 ปี )  แต่ยังไม่ซื้อหลังใหม่ จะไม่เข้าข้อกม. จึงขอคืนภาษีและอากรแสตมป์  จากการขายบ้านหลังเก่า ไม่ได้ ดังนั้น คนที่ซื้อ   ตามคำถาม  มิใช่จะได้คืนทุกราย  หากไม่ได้ขายบ้านหลังเก่า...มาซื้อบ้านหลังใหม่   ก็ไม่ได้คืนภาษีและอากรฯ   3 กรณีของคุณพ่อผมนั้น ขายบ้านไปในครั้งนั้น แต่ว่ามีสองโฉนดในคราวเดียวกัน นั่นคือแปลงที่คุณพ่อย้ายไปเป็นเจ้าบ้าน ส่วนอีกแปลงไม่ได้ย้ายใครเข้าไป(เพราะเป็นส่วนโกดัง ที่เจ้าของเก่าขอเลขที่บ้านเอาไว้ แต่มันอยู่ในบริเวณรั้วบ้านเดียวกัน) ครั้งนั้นตอนขาย คุณพ่อผมโดนภาษีธุรกิจเฉพาะไปด้วย(ย้ายไปไม่ถึง 3 ปี)----คำถามก็คือ เราสามารถใช้ กฎเกณฑ์ดังกล่าว ในการขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งสองแปลงนั้นได้หรือไม่ หรือได้แค่แปลงที่คุณพ่อผมเป็นเจ้าบ้านอยู่แค่นั้นครับ ตอบ  ตามข้อเท็จจริง   ผมเข้าใจว่า  คุณพ่อของคุณ  ขายที่ดิน สองโฉนด   แปลงหนึ่งเป็นโกดัง  อีกแปลงเป็นบ้านอยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ จะพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นแปลงๆ ไป   แม้จะขายไปพร้อมกัน    กล่าวคือ 1. แปลงที่เป็นที่ตั้งของโกดัง หากขายไปภายใน 5 ปีนับแต่วันได้มา   กม.ถือว่าขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางค้าหรือหากำไร  ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 2.แปลงที่เป็นที่ตั้งของบ้าน หากมีชื่อในทะเบียนบ้าน เกินกว่า 1 ปี จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะ ดังนั้น คุณพ่อของคุณ   จะนำหลักเกณฑ์ นี้ไปใช้ได้ เฉพาะแปลงที่ตั้งของบ้านหลังเก่า  ไป ซื้อบ้านหลังใหม่ เท่านั้น    ส่วนการขายที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโกดังนั้น ไม่เข้าหลักเกณฑ์ขอคืนภาษีเงินได้และอากรแสตมป์   เพราะ มิใช่การขายบ้านอันเป็นที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญ   สรรพากรจะตรวจคืนภาษีและอากร  จากการตรวจเอกสาร    ที่ปกติที่ดินออกใบเสร็จรับเงิน   ระบุเลข ที่ดิน ทั้งสองโฉนด       หากสงสัย จะสอบถามว่า แปลงไหน มีบ้านตั้งอยู่    ผมคิดว่าส่วนใหญ่  ที่ดินจะระบุละเอียด รอบครอบ มาก   ไม่ค่อยพลาด จากคุณ : Stuff_shirt - [ 13 มี.ค. 49 09:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่มเติม  ที่บอกว่า  คุณจขกท. ขายหลัง  6 ล้านไปซื้อหลัง 3 ล้าน  จึงเข้าหลักเกณฑ์ได้รับคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา   ...ขอคืนได้   แต่ขอคืนได้ไม่หมด ขอคืนได้ไม่เกินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์หลังใหม่ (ราคาประเมิน 3 ล้าน )  นะครับ ตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 126  ข้อ  2 (62) เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้ (ก) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย (ข) อสังหาริมทรัพย์ตาม (ก) พร้อมที่ดิน (ค) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ทั้งนี้ เฉพาะสำหรับกรณีการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้มีเงินได้ใช้เป็น ที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญ โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด การได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ต้องปรากฏว่าภายในกำหนดเวลาหนึ่งปีก่อนหรือ นับแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ผู้มีเงินได้ได้ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ซึ่งมีลักษณะตาม (ก) (ข) หรือ (ค) เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตน และให้ได้รับยกเว้นเท่ากับจำนวนมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว แต่ไม่เกินจำนวนมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ ทั้งนี้ ให้ถือตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน“ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 49 10:30:36 จากคุณ : Stuff_shirt - [ 13 มี.ค. 49 09:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนที่ขายและจะซื้อใหม่จะต้องเป็นชุดเดียวกันแต่หาลูกมากู้ด้วยก็ขอคืนไม่ได้ครับ โดนมาแล้วเซ็ง จากคุณ : คนปีฉะ (คนปีฉะ) - [ 14 มี.ค. 49 12:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ คห9 ครับ กรณีของคุณนี่ ถ้าหาคนมากู้ร่วมก็ไม่ได้หรือครับ เช่นนาย ก ขายบ้านเก่า พอมาซื้อหลังใหม่ ทำสัญญากับธนาคารแล้วให้ลูก ข เป็นกู้ร่วม ทางสรรพากรก็ไม่ให้หรือครับ และคุณStuff_shirt ครับ ประโยคที่ว่า "ขอคืนได้ไม่เกินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์หลังใหม่ (ราคาประเมิน 3 ล้าน )" หมายความว่า ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ขอคืนได้ไม่เกิน 3 ล้านบาทอย่างนั้นหรือครับ อย่างขอผมเนี่ยจ่าย ค่าภาษีเงินได้ไป 44,000 ค่าอากร 18000 แสดงว่าขอคืนได้หมดใช่มั้ยครับ (แล้วมันจะไม่ได้ อย่างคุณ คห9 หรือเปล่าครับ) จากคุณ : Erc - [ 15 มี.ค. 49 00:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ใช่ครับคุณErc ขายบ้านหลังเก่า 6 ล้าน จะได้ภาษีเงินได้และอากรแสตมป์ ที่คำนวณจากราคา 6 ล้าน  คืน ทั้งหมดต้องซื้อบ้านหลังใหม่ราคาไม่ต่ำกว่า 6 ล้าน หากซื้อหลังใหม่ ในราคา 3 ล้าน ต้องนำราคาประเมินทุนทรัพย์ 3 ล้าน มาคำนวณภาษีว่าจะได้คืนเท่าไหร่ (ไม่ใช่คืนทั้งหมด...การคืนใช้ตัวภาษีเปรียบเทียบกับภาษี ไม่ใช่ภาษีเทียบกับราคาบ้าน) อันนี้  ไม่ทราบว่าสรรพากรมีแนวทางปฏิบัติในการคำนวณอย่างไร  แต่ผมเข้าใจอย่างนี้     กรณีขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่   ผู้ขายและซื้อต้องขายและซื้อในสภาพของบุคคลเดิม  หากเปลี่ยนแปลงคู่สัญญา  หาผู้ร่วมกู้ใหม่...จะไม่ได้คืน   แม้ในตัวบทกฎหมาย ไม่เขียนไว้  เข้าใจว่า กม.ไม่ต้องเขียนรายละเอียด  เพราะกฎหมายเขียนหลักเกณฑ์เปลี่ยนแปลงเฉพาะราคาบ้านเก่าและใหม่ เท่านั้น  นอกนั้นเหมือนเดิม จากคุณ : Stuff_shirt - [ 15 มี.ค. 49 08:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งั้นแสดงว่า ก่อนหน้านั้น ถ้ามีผมเป็นผู้กู้ร่วม(แต่ไม่ได้สิทธิ์)กับคุณพ่อ พอขายไปแล้ว จะซื้อบ้านหลังใหม่ คนซื้อก็ต้องเป็นคุณพ่อและมีผมเป็นผู้กู้ร่วม(แต่ไม่ได้สิทธิ์) เหมือนเดิมใช่มั้ยครับ อ้อ กรณีช่วยตอบผมหน่อยว่า เงื่อนไขที่เคยได้ยินว่ามีการลดค่าธรรมเนียมการโอนให้เหลือ 0.01% เนี่ย มันคือกรณีไหนครับ จากคุณ : Erc - [ 15 มี.ค. 49 23:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างนี้ครับเพื่อความเข้าใจตอบอย่างชาวบ้านที่ไม่เรียน กฎหมายมา เข้าใจง่าย ๆ   เดิมขายบ้านเก่าไป (ชื่อคนเดียว ย้งไม่ได้สมรส) ต่อมา ไปซื้อบ้านใหม่ (จดทะเบียนสมรสแล้ว) ไปทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายบ้าน เป็นชื่อ 2 คน คือ สามี หรือ ภรรยา แต่ต้องอยู่ในระเบียบหรือประกาศของกรมสรรพกรฉบับที่ 125 สามารถขอคืนภาษีเงินได้ และ ขอคืนค่าอากรแสตมป์ ได้ (ผมยื่นเรื่องให้สรรพากรภาคตีความแล้วเป็นบรรทัดฐานไว้)     การขอคืนค่าอากรนั้นต้องทำสัญญาซื้อขายตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิการยน 2548 เป็นต้นไป     ส่วนขอคืนภาษีเงินได้ ที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายนั้น ต้องทำสัญญาซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 เป็นต้นไป     ส่วนผู้ที่ถามว่า ขายบ้านเก่าไป 6 ล้านบาท เสียภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ ต่อมาไปทำสัญญาซื้อขายบ้านหลังใหม่ในราคา 3 ล้าน (ผู้ขายใหม่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ.ที่จ่าย ไว้)     สามารถขอคืนได้ในส่วนที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายในราคาที่ ทำสัญญาซื้อขายบ้าน 3 ล้านบาท    อธิบายให้เข้าใจ ขายบ้าน 6 ล้าน ถูกหักภาษี 1 แสนบาท ต่อมาไปทำสัญญาซื้อขายบ้านหลังใหม่ราคา 3 ล้านบาท ผู้ขายถูกหักภาษี ณ.ที่จ่ายไว้ 5 หมื่นบาท     สามารถขอคืนได้จำนวน 5 หมื่นบาท ที่กล่าวมาข้างบนนี้เป็นตัวเลขสมมุตินะครับ ไม่ใช่ 1 แสนบาท จากคุณ : ดำ บางจาก - [ 16 มี.ค. 49 08:01:04 ]