ความคิดเห็นที่ 1 มีครัวในบ้านมันก็สะดวกสบายดีค่ะ ตื่นมา เดินดุ่มๆ ไปตั้งน้ำชงกาแฟ ไม่ต้องเปิดประตูเข้าออก ทำอาหาร ล้างจานตอนกลางคืน ก็ไม่ต้องกลัวยุงกัด เรื่องผัดๆทอดๆ ควันโขมงเนี่ย น่าจะมาจากเราใช้ไฟแรงมากๆ ผัดกระเพราเนี่ย แล่ดก็ทำนะครัวในบ้านน่ะ ก็ไม่เห็นจะฉุนมากมาย เพราะใช้แทฟล่อน ไฟก็ไม่ถึงขนาดแล่บแปล๊บๆ ทำกลางวันก็เปิดประตู เครื่องดูดควันแทบไม่ใช้ ส่วนเรื่องทอดๆนั้น ใช้ปิคนิคอย่างเดียว ดีมากๆ จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 20 เม.ย. 49 10:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือนบ้านคุณแล่ดเลยค่ะ จากคุณ : Lauderdale By The Sea - [ 20 เม.ย. 49 10:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับผม ครัวในบ้านใช้ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ เช่น ต้ม นึ่ง ทอดเล็ก ๆ ครับ ส่วนนอกบ้าน ก็มีเตาแก็สอีกชุดนึง ไว้ทำงานหนักครับ เช่น ผัด ทอด ทั้งหลายครับ จากคุณ : หมูมันส์ - [ 20 เม.ย. 49 11:21:22 A:203.150.55.148 X:203.154.77.9 TicketID:026244 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พูดถึงครัวไทย ทำให้นึกถึงบ้านไทยสมัยก่อนที่ครัวจะแยกออกมาเป็นโรงครัวต่างหาก หรือไม่ก็อยู่บนชานเรือนเปิดโล่ง เหตุผลเพราะอะไรก็คงจะทราบกันดี สำหรับบ้านสมัยใหม่ จะให้ครัวอยู่นอกหรืออยู่ในบ้านก็ต้องแล้วแต่พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เราไม่ได้ทำแต่อาหารไทยกลิ่นแรงอย่างเดียวแล้วนี่ อาหารชาติอื่นๆ มีให้เลือกทำเยอะแยะ อย่างที่บ้าน ครัวในนี่จะเอาไว้ให้ฝรั่งตัวจริงเสียงจริงแต่กลัวยุงใช้งาน ต้มน้ำ ทำข้าวโอ๊ต อุ่นอาหารเป็นหลัก ขนาดครัวในว่ามีประตูปิดแล้ว คนไทยเวลาจะทำกับข้าวไทย จะเตรียมอาหารหั่นผักที่ครัวใน แล้วก็ยกออกไปผัดทอดที่ครัวนอกที่มีประตูปิดอีกที ครัวนอกเลยกลายเป็นครัวไทย เพราะมีคนไทยใช้งานจริงๆ เพิ่งกลับบ้านไปช่วงสงกรานต์ เพิ่งรู้ตัวว่าฝีมืออาหารกลับมาดีเหมือนเดิมก็ตอนที่ผัดผักกุ้ยช่ายปลากระพงกับเตาแก็สนี่แหละ..... จากคุณ : Tiwanon48 - [ 20 เม.ย. 49 11:52:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องครัวไทยนี่ก็มีปัญหาคาใจตัวเองมานานมาก จากที่ฟังๆ เพื่อนคุยกัน เล่าให้ฟังแล้วกันนะคะ ..... ที่บ้านก็มีห้องครัวห้องเดียว มีประตูเปิดปิด อ้อ...หน้าต่างบานนึง แถมมีผ้าม่านเกรดดีติดซะด้วย แต่เป็นลูกผสมทั้งฝรั่งและไทยค่ะ 7 วันใน 1 สัปดาห์ ทำอาหารไทยเป็นส่วนมาก ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด... หูด เอ้ย ฮูด ก็รุ่นโบราณกาล อายุมากกว่าลูกชายคุณไอ้แล่ด ความคิดเห็นที่ 1 ที่บ้านปูพรม ยกเว้นห้องน้ำ กับห้องครัว ..... เวลาทำกับข้าวก็ปิดประตูซะ ช่วงหน้าร้อนนี่ก็แง้มๆหน้าต่างช่วยอีกหน่อย แต่หน้าหนาวนี่ หน้าต่างไม่ได้เปิดหรอกนะคะ แน่นอน มีกลิ่นหลังจากทำกับข้าวเสร็จแล้ว โดยเฉพาะเวลาเปิดประตูครัวเข้าไป และสังเกตุได้ว่า ห้องที่อยู่ด้านทิศใต้ จะได้กลิ่นอาหารด้วย แต่โดยปกติแล้ว(เวลาที่ไม่ได้ทำกับข้าว)  บ้านบีไม่มีกลิ่นอาหารติดบ้านนะคะ ทั้งๆ ที่ปูพรมเกือบทั้งบ้าน ..... ....ทำห้องครัวแบบปิด ....เมืองไทยอากาศร้อน หมั่นเปิดประตูหน้าต่างให้ลมโกรก ก็น่าจะช่วยได้มากกว่าที่บ้านบีซะอีก ....ฉีดพวกสเปรย์บ้าง  หรือดีโอโดเร้น(ที่เป็นแท่งๆ สารพัดกลิ่นอะค่ะ) วางตามมุมต่างๆ ของบ้าน หรือไม่ก็จุดน้ำมันหอมระเหยเป็นบางโอกาส ที่ว่ามาเนี่ย จากประสบการณ์ตรง ที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนะคะ ไม่ได้เข้าข้างตัวเองค่ะ แต่แขกที่มาบ้านทุกคนจะชมเสมอว่าบ้านหอมจัง แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 49 15:14:18 จากคุณ : beejasmine - [ 20 เม.ย. 49 15:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่บ้านทำแบบครัวไทยเปิดโล่งค่ะ ไว้ทำกับข้าวทุกอย่างปิ้ง ย่าง ทอด ผัด ทุกประเภท กันฝน ลมเย็น ไร้กลิ่นรบกวน ยกเว้นยุงที่มากวนตอนกลางคืน (ที่บ้านทานข้าวกันเร็วเลยไม่มีปัญหาค่ะ) ส่วนในบ้านใช้ไมโครเวฟอย่างเดียว ก็ลองเลือกเอานะค่ะ จากคุณ : katjang - [ 20 เม.ย. 49 15:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้คงแย่เพราะ - ไม่นึกว่าคนมีครัวแล้วจะยังใช้ปิดนิดเหมือนผมเลย   คุณแล่นนั่นเอง   บ้านผมก็มีครัวนะครับ   แต่ไม่ค่อยทำอาหารเองสักเท่าไร  ครัวเลยสะอาดมากๆ คริ คริ  แต่เวลาทำอาหารแต่ละที  ชอบใช้ปิกนิด  แปล๊กแปลกบ้านนี้  ฮ่า ฮ่า - เห็นพี่ติวานนท์บอกว่าทำผักกุยช่ายปลากระพง    แหม  อยากกินเจงเจงเลย ฮ่า ฮ่า   หอมลอยมาถึงปารีส  คริ คริ - คุณบีจัสมิน   หายไปนานมากๆนะครับ  นี่เป็นขาประจำของห้องชายคาเลย    ยังสบายดีนะครับ   ได้ข่าวว่าซัมเมอร์นี้จะมีใครน๊าในกระทู้นี้ไปกวน   อิอิอิ     ยินดีที่กลับมาชายคานะครับ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 เม.ย. 49 21:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่บ้านเมื่อก่อนไม่ได้คิดจะทำอาหารค่ะ เป็นเจ้าแม่ไมโครเวฟ แก๊สถังเล็กถังนึง ใช้ 2-3 ปี ถึงจะหมด เวลาจะเปลี่ยนถังแก๊สที ต้องถามที่ร้านก่อนว่า หัวถังแก๊สแบบนี้มันยังมีอยู่อีกมั้ย ตอนทำบ้านเลยไม่ได้นึกเรื่องการระบายอากาศในครัวมากนัก มีแค่ช่องลมสูงประมาณครึ่งฟุต ยาวตลอดแนวผนัง กับติดลูกหมุนไว้บนหลังคา 1 อัน แต่พักหลังนี่ออกจากงานมาอยู่บ้าน เลยขยันทำอาหารเอง ทอดไข่เจียวหมูสับหรือทอดปลาก็เหม็นตลบไปทั้งบ้านแล้ว อย่าว่าแต่ผัดกระเพราเลยค่ะ เราเลยไปปรึกษากับพี่ที่รู้จักกัน ซึ่งเขาเป็นช่าง ว่าถ้าติดที่ดูดกลิ่นควันแบบฮู้ด จะช่วยได้มั้ย พี่เขาบอกว่าคงสู้ไม่ไหวหรอก ถ้าทำอาหารไทยทุกวัน เขาแนะนำว่า ให้ติดพัดลมระบายอากาศแบบที่ราคาอันละ 6-700 บาท ก็ได้ผลพอๆ กัน แต่ทีนี้มันต้องทุบผนังบ้าน เราไม่อยากเสี่ยง เขาก็เลยแนะนำว่าให้ลองดูก่อนก็ได้ โดยที่เวลาทำกับข้าว ให้เอาพัดลมตั้งพื้นนี่แหละค่ะ เปิดเบอร์ 3 แล้วแหงนจ่อไปตรงลูกหมุนหรือช่องลมค่ะ ดูว่าจะช่วยได้มั้ย ปรากฏว่าทดลองดูแล้ว เวิร์กมากค่ะ มีกลิ่นตกค้างอยู่ในครัวนิดหน่อยเท่านั้น ไม่กระจายไปทั่วบ้านเหมือนก่อน เลยคิดว่าจะไม่ติดพัดลมระบายอากาศแล้ว ใช้วิธีนี้แหละ จะได้ไม่ต้องทุบบ้าน แล้วอีกอย่างก็คือ พี่เขาบอกว่า ถ้าติดแล้วมันจะสกปรกง่ายเพราะไอน้ำมัน ต้องถอดออกมาล้างบ่อยๆ เลยใช้พัดลมตั้งพื้นดีกว่า ล้างสะดวก ลองดูนะคะ จากคุณ : ฝน - [ 20 เม.ย. 49 21:37:55 A:125.25.143.187 X: TicketID:032625 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รีบกลับมาเมืองไทยเลยค่าน้องบอน พี่จะทำให้ทาน...คริคริ จากคุณ : Tiwanon48 - [ 21 เม.ย. 49 09:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีปัญหามากเลย...ครัวอยู่หลังบ้าน ต่อจากครัวก็เป็นลานซักล้างและรั้วบ้านแล้ว ขยายอีกไม่ได้ ปะตูครัวด้านออกหลังบ้านตรงกับประตูครัวด้านห้องรับแขกมีหน้าต่างบานเปิด 4 บาน มีเครื่องดูดควัน แต่ไม่ได้ต่อท่อออกไปภายนอก ใช้ระบบกรองอากาศภายใน ทำกับข้าวบ้างไม่ทำบ้าง ต่อมาติดเครื่องดักจับควัน คราวนี้เวลาที่ผัดอะไรไฟแรงมันก็จะร้องเสียงดังแสบแก้วหูแบบสะดุ้งเลยนะ เลยจำต้องเจาะผนังติดพัดลมดูดอากาศเข้าไปหวังจะผ่อนหนักเป็นเบา แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย คราวนี้ยอมเจาะผนังต่อท่ออากาศจากเครื่องดูดควันให้ออกไปนอกบ้านเลย อนิจาความสามารถดักจับควันค่อนข้างสูงจริงๆ มันยังส่งเสียงร้องเหมือนเดิม กำลังคิดอยู่ว่าถึงเวลาโยนเครื่องดักจับควันทิ้งหรือยัง เพราะครัวไทยเป็นอะไรที่ลืมไปสนิทใจจริงๆ กว่าจะรู้ค่าก็สายไปจริงๆ จากคุณ : คนครัว - [ 21 เม.ย. 49 13:04:22 A:203.146.6.86 X: TicketID:089466 ]