ความคิดเห็นที่ 1 คุณทำได้ห้าชั้นๆละเก้าห้องรวมสี่สิบห้าห้องเต็มที่ ราคาก่อสร้างห้องละสองแสน ถ้าถู้แบงค์ทั้งหมดคุณจะนั่งเก็บเงินให้แบงค์ไป20ปี จึงจะเหลือซากเป็นของตัวเอง ปะเหมาะเคราะห์ร้ายดอกเบี้ยขึ้นสูงมากๆเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีคนเช่าไม่มีส่งแบงค์ก็จะโดยฟ้องยึดไม่เหลืออะไรเลยอีกต่างหาก ถ้ามีที่เองและมีเงินสร้างเองครึ่งหนึ่งก็จะพอเอาเป็นรายได้ได้ครึ่งหนึ่ง หากมีมรสุมอะไรในอนาคตก็พอถูไถไปได้ไม่ถึงกับโดนยึด จากคุณ : Cyber Sage - [ 26 เม.ย. 49 08:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม คห ข้างบนเลยฮะ ก่อนจะทำเนี่ยก็ต้องหาข้อมุลศึกษาความเป็นไปได้คับ แต่ทำเลคุณถือว่าใช้ได้เลย ลองดูๆแถวนั้นฮะว่าเค้าให้เช่าห้องละกี่บาท แล้วก็มาคำนวนดูฮะ ว่าไหวไหม สุ้ไม่สู้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ก็กู้มาสร้างทั้งหมดเหมือนกันคับ ลองดูหลังไมค์ฮะ มีข้อมุลเพิ่มเติมคับ จากคุณ : ตาโป้ง - [ 26 เม.ย. 49 15:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอตอบเป็นข้อ ๆ ดังนี้แล้วกันนะคะ ถือว่าเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง บางข้อ อาจจะยาวหน่อย ก็มาสร้างสีสรร ให้กระทู้ยาว ๆ อ่ะค่ะ 1. หากอยากสร้างเป็นอพาทเม้นท์ ขนาดที่ดินนี้สามารถสร้างได้หรือไม่ครับ - ได้ค่ะ ขนาด 100 ตรว. 2. หากสร้างได้ จะทำได้กี่ชั้นกี่ห้อง ขนาดห้องเท่าไร - อันนี้เราไม่ทราบค่ะ ไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้นักอ่ะค่ะ 3. ใช้ที่ดินอย่างเดียวยื่นกู้ธนาคารได้หรือไม่ - ยื่นกู้ ได้ค่ะ แต่ธนาคาร จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ นี่เป็นอีกเรื่องค่ะ ขอเล่าประสบการณ์ตรงแล้วกันนะคะ คนรู้จักเราคู่หนึ่ง (สองสามีภรรยา) พี่ผู้หญิงมาคุยกับแฟนเรา เรื่องจะลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง เพราะเบื่อกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่แบบว่า คุยกันเล่นๆ เหมือนบ่นๆ อ่ะค่ะว่า เออ จะทำอะไรดีน๊อ...ประมาณนี้น่ะค่ะ ทีนี้แฟนเราก็คุยว่า ถ้ามีเงินพอนะ อยากจะทำธุรกิจอพาทเม้นท์ คุยกันไปคุยกันมา ไม่คิดว่า พี่ผู้หญิงเขาจะลงมือทำจิงๆน่ะค่ะ เขาก็ไปซื้อที่ดิน 100 ตรว. ที่ ต่างจังหวัด ใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วก็นำที่ดินเป็นหลักค้ำประกันรวมทั้งสิ่งก่อสร้างที่จะสร้างขึ้น ในอนาคต มาเป็นหลักค้ำประกัน แล้วยังงัยก็ไม่รู้ ไปรู้จักกับ บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นเจ้าของ ซึ่งทำการเขียนแปลน ก่อสร้างให้ และจะดำเนินเรื่องการขอยื่นกู้กับธนาคารให้ด้วย อีกทั้งยังมี ทีมงานผู้รับเหมาลงมือก่อสร้างให้ด้วย พี่ทั้งสอง ก็ลงมือโอเค ตกลง (ก่อนหน้านี้หาคนเขียนแบบมานานเหมือนกัน) หลังจากนั้น ไปๆมาๆ เจ้าของ บ. นี้ ก็บอกยังกู้ไม่ได้ติดโน่นติดนี่ (รายละเอียดตรงนี้ปลีกย่อยมาก ขี้เกียจพิมพ์ด้วยค่ะ แหะๆ) สรุป สุดท้ายก็กู้ไม่ได้ เงินลงทุนที่ก่อนหน้านี้ลงทุนก่อสร้างฐานราก ไปแล้ว ก็เป็นหนี้ร้านค้าที่เอาของเขามาสร้างอีก วิ่งไปกู้ ธนาคารที่ไหนๆ ก็กู้ไม่ได้ สักธนาคารเดียว ไม่มีธนาคารไหน ยอมปล่อย เพราะพี่สองคนนี้ ไม่มีเงินลงทุนหรือเงินเก็บอยู่ก่อนเลย คือ พี่เขาจะทำ เขาก็ทำเลย โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดลึกๆ ให้ถ่องแท้ก่อน สุดท้าย ก็ร้องไห้ร้องห่ม มาหาแฟนเรา ให้แฟนเราช่วยหน่อย เพราะลงทุนไปแล้ว ถ้าหยุด ก็เป็นหนี้เขาไปแล้วไม่รู้จะเอาเงิน ตรงไหนไปใช้หนี้เขา(ค่าก่อสร้างที่สร้างลงมือสร้างไปแล้วเฉพาะ พวกเสาเข็ม ฐานตึก อะไรพวกนี้) ซึ่งก่อนหน้านี้แฟนเรากับเราก็เตือนแล้ว ถ้ายังไม่มีเงินทุนไม่น่าจะ รีบร้อนทำ กู้ทำธุรกิจไม่เหมือนกู้ซื้อบ้านนะ ที่ธนาคารเขาจะมา ปล่อยสินเชื่อให้ 100% แล้วก็ด้วยความหวังดีเตือนเรื่อง เจ้าของ บ. นั้น เชื่อถือได้หรือไม่ เขาก็บอกเชื่อถือได้ เขามีเส้น หรือคนรู้จัก อยู่ที่ธนาคารที่จะขอกู้ด้วย แล้วอีกอย่าง ก็ไปรู้จัก บ้านช่องเขาแล้ว ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร อะไรประมาณนี้ แถม พูดให้เราฟังว่า ถ้าไม่ได้ อีตา(เจ้าของ บ. คนนี้) พวกพี่สองคน ก็คงไม่มีหนทาง หรอก รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ อีตา(เจ้าของ บ. คนนี้หรอก) อีกอย่าง เขาก็คิด% จากส่วนที่เขาต้องได้ อะไรทำประมาณนี้ ซึ่งเราก็เตือนพี่เขาไปว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ว่าคนไม่ได้รู้จักมักจี่ สนิทสนมกันมาก่อน จะช่วยเหลืออะไรกันขนาดนี้โดยไม่หวัง ผลประโยชน์ เราไม่เชื่อเด็ดขาดเพราะเพื่อนเราก็อยู่ในวงการ ก่อสร้างพอสมควร ยังไม่เคยเห็นคนแบบนี้สักที พอพูดไป ก็เหมือนผิดใจกัน เหมือนเราเป็นเด็กกว่า บังอาจไปสั่งสอนพี่เขา ซะงั้น..... กลายเป็นพี่เขาไม่ชอบขี้หน้าเราไปพักหนึ่ง ที่เขาพูดอะไร ก็ไปขัดเขาซะทุกอย่าง ........สุดท้าย เราเพิ่งจะมารู้จากแฟนเราเมื่อไม่นานมานี้เอง ว่า พี่สองคนนี้เขาโดน ไอ้เจ้าของบริษัทนี้ โกงเงินไป โดยการเอาโฉนดไปจำนองไว้กะสถาบันการเงินที่หนึ่ง เอาเงินไปใช้สบายใจเฉิบ สุดท้ายตัวเองต้องมาวิ่งหาเงิน ไปไถ่โฉนดคืนมา แล้วเขาก็ขอร้องแฟนเราไม่ให้บอกเรา เกี่ยวกับเรื่องนี้ (คงเพราะกลัวเสียหน้าหรืออย่างไรเราก็ไม่ทราบ เพราะเราเคยเตือนแล้วพี่เขาไม่พอใจ หรือเพราะมายืมเงินเราไปแล้วไม่อยากให้เรารู้มั้ง เราก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกัน) แต่แฟนเราเพิ่งจะมาบอกเรา ก็เพราะว่า เราบ่นว่า ว่า เราไม่มีเงินจะให้พี่สองคนนั้นเขายืมไปหมุนแล้วววว แล้วไหนบอกกู้ธนาคารได้แล้วงัย ทำไมยังต้องมายืม เงินเราอีก ขอร้องหว่านล้อมเราสารพัด โอ้ย... เราก็สงสาร ช่วยจนไม่รู้จะช่วยยังงัย ทั้งที่ไม่ใช่ญาติกันสักหน่อย สุดท้ายก็ให้แฟนเราเป็นที่ปรึกษา ไปคุยกับธนาคารให้ อ่อ ก่อนหน้านี้หลังจากที่โดน เจ้าของ บ. นั้นโกงไป เขาก็ให้ อบต. ในพื้นที่ช่วย เพราะมีคนรู้จักทำงานในด้านสินเชื่อ โดยตรงก็ยังกู้ไม่ได้เลย แล้วยิ่งพวก ธ. SME อย่าไปหวัง โฆษณาไปอย่างงั้น เอาเข้าจิงๆ กู้ยากจะตาย พี่ผู้หญิงคนนี้ โดนปฏิเสธมาแล้ว ไม่ผ่าน ขนาด หอพักสร้างอยู่ใกล้ กับมหาวิทยาลัยเลย มีรายได้แสดงให้ธนาคารดูเห็น ๆ ยังผ่านยากเลย สุดท้าย ตอนนี้กู้ธนาคารได้แล้ว แต่กว่าจะกู้ได้ จากพี่เขา ตัวอ้วนๆ ตอนนี้เหมือนลด น้ำหนักไปในตัว เพราะเครียดจัด ผ่ายผอม หุ่นดีไปเลยอ่ะค่ะ รายละเอียดยังมีอีกเยอะ....ค่ะ หลายเรื่อง........ เอาเป็นว่า ถ้าจะทำ ก็ศึกษาให้ดีๆ แล้วกันค่ะ แล้วอีกอย่าง รู้ให้ทันผู้รับเหมา ด้วยนะคะ อย่าห่วงแต่ save cost อย่างเดียว แล้วถ้าจะให้ดี มีเพื่อนๆ อยู่ในหลายๆวงการก็ดีค่ะ ตอนนี้ พี่ผู้หญิง เขาผิดใจกับแฟนเราไปแล้ว แต่กับเรา เรายังคุย กับพี่เขาอยู่ เพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน ผิดใจเพราะคำพูดคำเดียวว่า "แฟนเรามัวแต่คิดๆ คิดอย่างเดียว ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เหมือนเขาลงมือทำเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเห็นไหม" 5555 แฟนเราปกติเป็นคนขี้สงสารคน พอๆ กับเรา ได้ยินคำนี้ไป โกรธกันไปเลยอ่ะค่ะ ดีนะ ที่ตอนดีกัน เขาช่วยให้กู้ธนาคารผ่านแล้ว อ่ะค่ะ แต่พี่ผู้หญิง เขาไม่รู้หรอกว่า เขาต้องเจออะไรอีกเยอะ อันนี้ แฟนเราบอกมา ถ้ารู้ไม่ทันผู้รับเหมา งบประมาณมีแต่บานปลาย ยกตัวอย่าง เขาเขียนแบบจะสร้าง 5 ชั้น ตอนนี้ทำไปทำมา เหลือ3 ชั้น แถมตอนแรกลงฐานราก+คาน+เสาเข็มอะไรพวกนี้ รองรับตึก 5 ชึ้นไปซะแล้ว คุณว่า ลงทุนเสียไปเปล่าๆไหมล่ะค่ะ แค่ของพวกนี้ ก็ปาไป 2 ล้านแล้วค่ะ เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าค่าอะไรมั่ง สรุป ตอนนี้หอพักยังไม่เสร็จดี งบประมาณ เบ็ดเสร็จ 7 ล. แต่กู้ธนาคารได้ 3.7 ล อ่ะค่ะ แฟนเราบอกว่า ที่เขาว่ามา ที่ยังไม่ทำเพราะขาดแต่เงินทุนเท่านั้น เราไม่มีเงินทุนเอง นอกนั้น แฟนเรามีทีมงานหมดแล้ว ทั้งผู้รับเหมา คนเขียนแบบ เพื่อนฝูง ในเรื่องเฟอร์นิเจอร์ น้ำ ไฟ โอ๊ย... จิปาถะ ฟังเขาพูดแล้ว จำไม่หมด เขาบอกว่า เขายังไม่ทำ รอเป็นคอนเซ้าล์ ให้คนที่จะทำไปก่อนดีกว่า อ่อ....ที่ช่วยเหลือพี่คนนี้ไป ก็ไม่ได้คิดสตางค์เขาซักแดงเดียว มีแต่เขาอ่ะ มายืมเราอีกตังหาก..........ดอกเบี้ยเราก็ไม่ได้คิดด้วย ........แต่ตอนนี้เราก็ไม่ให้ยืมแล้วล่ะ เพราะเราก็จะสร้างครอบครัว ของเราเองมั่งแล้ว......เพราะถือว่าช่วยเหลือมาหลายครั้งแล้ว กลายเป็นยิ่งช่วย....ยิ่งยืม....เอา...ๆ เข้าไป พี่ผู้หญิงเขาบอกว่า ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงเขา ไม่มีใครให้ยืมเลย....กลัวไม่ได้คืน... เราเป็นหนทางสุดท้าย ขอร้องให้ช่วยเขาหน่อย....... เราก็บอกแล้ว ถ้ายังไม่พร้อมเรื่องเงินทุน ก็อย่าเพิ่งทำ ทำพวกนี้ มันต้องเผื่องบประมาณไว้ด้วย เพราะมันอาจจะมี คชจ. ที่เราคาดไม่ถึง มาอยู่เรื่อยๆ.... .......................................................................................... เฮ้อ......พิมพ์มาจนเหนื่อยแล้ว แอบอู้เจ้านายมาเข้าพันทิบนะเนี่ย พอดีกว่า เล่าสู่กันฟัง เก็บไว้เป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่จะทำ อพาร์ทเมนท์ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง อย่างที่บอก detail มันเยอะ ขี้เกียจพิมพ์แล้วค่ะ คนอ่าน ก็คงขี้เกียจอ่านเหมือนกันมั้งค่ะ....อิๆ 4. สุดท้าย ราคาโดยประมาณเท่าไรครับ - อันนี้ก็คงขึ้นกับปัจจัยหลายๆ อย่างค่ะ ทั้งจำนวนห้อง จำนวนชั้น ขนาดห้อง และก็วัสดุ ที่ใช้นะค่ะ ว่าจะ save cost มาก น้อยแค่ไหน ถ้าโดยประมาณ ก็คล้ายๆ กับที คห.1 บอกไว้น่ะค่ะ ถ้าจะเอาให้เป๊ะ จิงๆ ต้องขอกลับบ้านไปถามคุณแฟนก่อนค่ะ ถ้ามีเวลาว่าง จะกลับมาตอบให้นะคะ จากคุณ : ลูกหมูซู่ซ่า - [ 26 เม.ย. 49 17:10:29 A:172.16.201.52 X:202.183.221.83 TicketID:099129 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อีกนิด..... พี่ข้างๆ บ้านเรา เขาก็มีที่ดินติดถนนเพชรเกษม ประมาณ 100 ตรว. ที่ดินอยู่ที่เพชรเกษม ซอย ร้อยก่าๆ (จำไม่ได้ เพชรเกษม ซอย ร้อยที่เท่าไหร่) เหมือนกัน ปล่อยว่างไว้เฉยๆ พี่เขาก็อยากทำอาพาทเมนต์เหมือนกัน ซึ่งตัวเขาเอง มีเงินเก็บเย็น ๆ ไว้ 4 ล. พี่เขาว่าจะไปกู้ ธ. พอไปสอบถาม ได้เห็นดอกเบี้ย เขาก็ตัดสินใจ เอาไว้ก่อนดีกว่า พี่เขาบอกว่า ใจไม่ถึงพอ เก็บที่ดินไว้เฉยๆ อย่างงั้นแหละ ไว้ให้ลูกให้หลาน ไม่มีเวลาดูแลถ้าสร้าง ไม่อยากเป็นหนี้แบงค์ ....555 เป็นเราหน่อยไม่ได้ มีเงินเก็บเท่าพี่เขานะ ป่านนี้คงลงทุนทำไปแล้ว... จากคุณ : ลูกหมูซู่ซ่า - [ 26 เม.ย. 49 17:23:01 A:172.16.201.52 X:202.183.221.83 TicketID:099129 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นครับ โดยเฉพราะคุณลูกหมูซู่ซ่า ส่วนตัวก็คิดว่าเก็บกินค่าเช่าไปเรื่อยๆก่อนดีกว่า (กลัวป้าที่เช่าอยู่จะเดือดร้อน) แต่อีกใจก็ไม่อยากเป็นลูกจ้างเค้าไปตลอดชีวิต ก็เลยคิดว่าถ้าได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ก็จะลงมือทำ Project Feasibility จากคุณ : Phongnu (Phongnu) - [ 26 เม.ย. 49 22:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้โห อ่านคห.คุณมู๋ซู่ซ่าแล้ว อึ้ง  (ใจดีจัง) ขอเซฟไว้อ่านเป็นกรณีศึกษานะครับ ^_^ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 27 เม.ย. 49 09:40:26 ]