ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นอยู่ว่า ตอนคุณทำสัญญาเช่า มีระบุไว้ไหม ถ้ามี ให้แจ้งความก่อน แล้วเรียกตำรวจมาเป็นพยานได้ (จ่ายค่าพยานด้วนนะ) คือ ทำอะไรให้เอาตำรวจมาเป็นพยาน ดีที่สุด ถ้าสัญญาไม่มีระบุ ต้องแจ้งความ ค่อยฟ้องศาลขับไล่อีกที งานนี้ยาว เมื่อก่อนพ่อผมเคยเจอมา ก็ประมาณ 8-10 ปี กว่าจะไล่ไปได้ จากคุณ : Tors (ongtor) - [ 8 พ.ค. 49 22:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเลยกำหนดก็ตัดน้ำตัดไฟได้เลยค่ะ ล็อคห้อง(ด้วยแม่กุญแจอีกที)ได้จนกว่าจะมาจ่ายเงิน แต่ไม่มีสิทธิไปรื้อของเขานะ ถ้าจะเปิดห้องของเขาก็เรียกตำรวจมาถ่ายรูปลงบันทึกทรัพย์สินในห้องไว้เป็นหลักฐานได้เลยค่ะ แต่เราคิดว่าตัดน้ำตัดไฟไปก่อนดีกว่าค่ะ เขาไม่มีใช้เขาก็ต้องมาจ่ายอ่ะ ไม่งั้นก็ล็อคห้อง จากคุณ : Gook_Gai - [ 8 พ.ค. 49 22:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าทำอย่าง หนู Gook_Gai เราโดนฟ้องกลับแน่ ฟังรายการกฎหมาย หลายๆ รายการ บอกมาเป็นทางเดียว ตัดน้ำ ตัดไฟ ล๊อคห้อง ทำไม่ได้ทั้งนั้น โดนฟ้องกลับเราเสียเปรียบ ถึงแม้เป็นเจ้าของทรัพย์ เพราะเค้าเป็นผู้มีสิทธิ์ในการใช้ทรัพย์ ต้องฟ้องขับไล่กรณีเดียว แต่ถ้าฟ้องเฉยๆ ก็อย่าง คห 1 ว่า นาน ดังนั้น การฟ้องจะต้องระบุถึงความเสียหายของเราด้วย เช่น ถ้าผู้เช่าย้ายออก เราสามารถนำไปให้คนอื่นเช่า ในราคาสูงขึ้น สมมุต จากเดือนละ 3,000 เป็น 10,000 แล้วเราก็ระบุ ถึงความเสียหายนับจากวันฟ้อง ถึงวันศาลตัดสิน พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งเราก็ชนะอยู่แล้วในรูปคดี แต่ก็จะกดดันให้ ผู้เช่าเดิมย้ายออกเร็วขึ้น เพราะอยู่นาน ดอกก็เพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าศาลตัดสินแล้ว เราสามารถใช้คำตัดสินสืบทรัพย์ ตามยึดทรัพย์ผู้เช่า ให้มาจ่ายได้อีก จากคุณ : น้องปลาดาว - [ 9 พ.ค. 49 02:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โห  เพ่งรู้ว่ายุ่งยากนะเนี่ย จากคุณ : ต้อมMRP - [ 9 พ.ค. 49 02:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าในสัญญาเช่าไม่ได้ให้อำนาจหรือสิทธิที่เจ้าของบ้านล็อคกุญแจได้แล้ว ถ้าเจ้าของบ้านไปปิดล็อคบ้านนั้น เจ้าของบ้านจะมีความผิดฐานบุกรุกนะครับ เพราะตราบใดที่ผู้เช่ายังครอบครองบ้านเช่านั้นอยู่ เขาก็ยังคงมีสิทธิครอบครองบ้านตามสัญญาเช่า เมื่อเจ้าของบ้านเข้าไปทำอะไรอันเป็นการรบกวนสิทธิของเขาแล้วก็จะมีความผิดฐานบุกรุก ควรทำเป็นหนังสือทวงถามค่าเช่าและบอกด้วยว่า ถ้าไม่ชำระค่าเช่าภายในเวลาที่เรากำหนด ให้สัญญาเช่านั้นเป็นอันสิ้นสุดลง หลังจากพ้นกำหนดแล้วยังไม่มีการชำระค่าเช่า เจ้าของจึงจะมีสิทธิฟ้องขับไล่ พร้อมทั้งเรียกร้องค่าเช่าและค่าเสียหายรวมทั้งดอกเบี้ยไปในคำฟ้องด้วย คำพิพากษาฎีกาที่ 4854/2537 หนังสือสัญญาเช่าห้องพักระหว่างบ.ผู้เช่ากับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าข้อ 3 ระบุว่า "ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าให้แก่ ผู้ให้เช่าภายในวันที่ 30 ของเดือนทุก ๆ เดือน ถ้าไม่ชำระตามกำหนด นี้ ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ายึดเงินประกันของผู้เช่าได้และใส่ กุญแจห้องผู้เช่าก็ได้ หรือผู้เช่ายินยอมอนุญาตให้ขนย้ายทรัพย์สิน ออกไปจากห้องเช่าได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ" ข้อ 9 ระบุว่า "ถ้าผู้เช่าประพฤติผิดล่วงละเมิดสัญญาแม้แต่ข้อหนึ่งข้อใด หรือกระทำ ผิดวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งข้อใด ยอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่ จะเข้ายึดครอบครองสถานที่และสิ่งที่เช่าได้โดยพลันและมีสิทธิ บอกเลิกสัญญาทันที" และข้อ 10 ระบุว่า "เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้เช่าผิดสัญญาเช่าก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายอมออกจาก ที่เช่า" ข้อสัญญาดังกล่าวนี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงใช้บังคับได้ เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนด เวลาและจำเลยที่ 1 ได้บอกเลิกสัญญาเช่าด้วยแล้ว บ.และ ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิ บ. ย่อมไม่มีสิทธิ อยู่ในห้องพิพาทต่อไป เมื่อ บ. ไม่ยอมออกไปจากห้องพิพาท จำเลยที่ 1 จึงใช้สิทธิตามหนังสือสัญญาเช่าห้องพัก โดยเข้าไป ในห้องพิพาทแล้วใช้คีมหนีบกุญแจลูกบิดประตู บานพับหน้าต่าง ถอดเอาสะพานไฟฟ้าและเครื่องรับโทรศัพท์ในห้องพิพาทออกไป จึงไม่มีมูลความผิดฐานบุกรุก คำพิพากษาฎีกานี้ เจ้าของมีอำนาจตามสัญญาเช่าที่ให้ไว้ จึงไม่มีความผิดฐานบุรุก คำพิพากษาฎีกาที่ 1980/2514 โจทก์ร่วมทำสัญญาเช่าห้องพิพาทมาจากจำเลยที่ 1 แม้โจทก์ร่วม จะเอาไปให้เช่าช่วง เมื่อการเช่าช่วงไม่มีหลักฐานการเช่า ก็ต้องถือว่า โจทก์ร่วมยังเป็นผู้ครอบครองห้องพิพาทนั้นอยู่โดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่า กับจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 ถือโอกาสให้ผู้เช่าช่วงอยู่ออกไปจาก ห้องพิพาทโดยโจทก์ร่วมไม่ทราบแล้วช่วงชิงใส่กุญแจห้องมิให้โจทก์ร่วม เข้าใช้ห้องพิพาท ถือได้ว่าเป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์ร่วม โดยปกติสุข จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 ประมวลกฎหมายอาญา (อ้างฎีกาที่ 1/2512) ฎีกานี้เจ้าของไม่มีอำนาจที่จะทำได้ เมื่อกระทำจึงมีความผิด จากคุณ : นะครับ - [ 9 พ.ค. 49 10:24:13 A:58.9.43.64 X: TicketID:104415 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หาคนเช่าดีๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะคะ ก็ต้องพยายามดูว่าไว้ใจได้ถึงจะให้เช่า แต่ก็อย่างว่า  ที่เหลือก็ต้องปลง จากคุณ : นิลกาฬ - [ 9 พ.ค. 49 10:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นี่อีกหนึ่งคำพิพากษาฎีกา ฎีกาเลขที่ 1/2512 ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จำเลยโต้แย้งสิทธิกันในทางแพ่งเกี่ยวกับสัญญาเช่าที่โจทก์ทำไว้กับเจ้าของเดิม หากจำเลยเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิอยู่ในห้องพิพาทต่อไป ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน ไม่มีอำนาจโดยพละการที่จะปิดห้องที่โจทก์ครอบครอง และยังโต้แย้งสิทธิตามสัญญาเช่ากันอยู่นั้นได้ แม้ห้องพิพาทจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์ยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ ถ้าจำเลยเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุข จำเลยก็มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒ ได้ และเห็นว่า การที่จำเลยใช้ไม้กระดานตีขวางทับประตูห้องที่โจทก์ครอบครองในขณะที่โจทก์ไม่อยู่และปิดห้องไว้ ทำให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องไม่ได้ เป็นการล่วงล้ำเข้าไปในอำนาจการครอบครองของโจทก์ ถือได้ว่าเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุขตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒ แล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด จากคุณ : นะครับ - [ 9 พ.ค. 49 11:39:42 A:58.9.43.64 X: TicketID:104415 ]