ผมอ่านจากหนังสือของอาจารย์ยอดเยี่ยมนะครับ แล้วพอสรุปได้ดังนี้ครับ
หลอดตะเกียบ จริงๆไม่ใช่หลอดประหยัดไฟ ที่คนไทยไปบอกว่าประหยัดเพราะหากใช้แทนหลอดแบบใส้
จะประหยัดกว่าหลอดแบบใส้
ที่มาคือเมื่อก่อนเมืองไทยใช้หลอดใส้ กันทุกหลังคาเรือน รัฐบาลก็รณรงค์ให้มาใช้หลอดนีออนฟลูโอเรสเซนท์ แต่ว่าหลายบ้านไม่สะดวกจะเปลี่ยนไปใช้นีออน เช่น โป๊ะไฟดาวน์ไลท์สมัยก่อนใส่หลอดแบบไส้ไว้ หรือค่าใช้จ่ายในการติดตั้งหลอดนีออนฟลูโอเรสเซนท์จะแพงกว่าหลอดแบบไส้ ฉะนั้นทางสะดวกที่สุดคือใช้หลอดตะเกียบเปลี่ยนแทนหลอดแบบไส้.....หลังจากนั้นมา คนไทยก็มีค่านิยมผิดๆว่า หลอดตะเกียบเป็นหลอดประหยัดไฟ จนเลยเถิดจนถึงกับคิดว่าประหยัดกว่านีออนยาวแบบฟลูออเรสเซนท์ เสียด้วยซ้ำ ซึ่งจริงๆไม่ใช่ เพราะค่าความประหยัดของคุณ เงินของคุณจะทุกดูดหมดไปกับความแพงของตัวหลอดตะเกียบเองไปแล้ว
มันจึงไม่ประหยัด และต้องเปิดหลายดวง กว่าความสว่างจะเทียบเท่ากับหลอดนีออนฟลูออเรสเซนท์เพียง 1-2 หลอด
ยกตัวอย่าง หลอดตะเกียบ ราคาประมาณ 150 - 170 บาท แต่หลอดนีออนฟลูออเรสเซนท์ ราคา ไม่กี่สิบบาท เบื้องต้นก็ประหยัดกว่าไปเป็น ร้อยกว่าบาทแล้วครับ ในวัตต์เท่ากัน
แต่ความสว่างต่างกันมากหลอดนีออนฟลูออเรสเซนท์ จะให้แสงสว่างกระจายดีกว่ามากๆ แต่หลอดตะเกียบความสว่างเกือบครึ่งหายไปกับตัวโป๊ะเอง การกระจายแสงก็ถูกตัวโป๊ะบังคับไว้
ความร้อนจากตัวหลอดตะเกียบหลายๆหลอดจะร้อนพอสมควร ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นไปอีก แต่หลอดนีออนฟลูออเรสเซนท์ ความร้อนออกมาน้อยมากๆ
ห้องที่แนะนำให้ติดหลอดนีออนฟลูออเรสเซนท์ คือห้องทำงาน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องเด็ก ห้องทั่วๆไป......ลองติดดูครับ มันไม่น่าเกลียดหรอกครับเชื่อผม หาโป๊ะแบบสวยๆเท่าที่หาได้
ส่วนห้องนอนก็ติดหลอดตะเกียบแบบสีเหลืองนวลๆครับ
จากคุณ :
the door2549
- [
24 ก.ค. 49 21:38:11
]