การเปลี่ยนหรือคืนสินค้าทำได้แค่ไหน ( นักช็อปควรรู้ )
เมื่อเดือนกันยายน 2005 ที่ผ่านมาบรรดาห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์สโตร์
รวมถึงคอนวีเนียนสโตร์หรือร้าน
สะดวกซื้อได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือกำหนดมาตรฐานการรับประกัน
คุณภาพสินค้า
และบริการร่วมกับกรมการค้าภายในเพื่อเป็นการยืนยันว่า
สินค้าที่มีการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าได้
มาตรฐานและรับประกันคุณภาพของสินค้า
ซึ่งรายละเอียดการรับประกันสินค้าของแต่ละห้างเป็นอย่างไร เชิญ
ตรวจสอบกันได้ในบทความนี้เลยนะคะ
ไม่พอใจสินค้า เรายินดีคืนเงิน
นักช้อปโดยทั่วไปมักเข้าใจว่าการเปลี่ยนหรือคืนสินค้านั้นจะทำได้เฉพาะ กับ
สินค้าที่ชำรุดบกพร่องหรือผลิตมาไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น
แต่ความจริงแล้วการเปลี่ยนหรือคืนสินค้านั้นทำได้
แม้กระทั่งสินค้านั้นไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแค่คุณไม่ชอบใจมันเอาดื้อๆ
คุณก็สามารถเปลี่ยนหรือเอาเงิน
คืนได้ ในห้างสรรพสินค้าบางแห่งคุณอาจจะเคยเห็นป้ายแบบนี้บ้างแล้ว " ไม่พอใจสินค้า
เรายินดีคืนเงิน " ซึ่ง
หมายความว่า สำหรับสินค้าที่คุณจ่ายเงินซื้อนำกลับไปถึงบ้านแล้ว
แม้ว่าตัวสินค้ามันจะไม่มีความผิดอะไร ไม่
มีความเสียหายชำรุดบกพร่อง
เพียงแต่แค่คุณเกิดความรู้สึกไม่พอใจสีสันหรือรูปทรงของสินค้า ( แม้ว่าตอนที่
อยู่ในห้างคุณจะรู้สึกพอใจเอามากๆก็ตาม )
คุณมีสิทธิ์ขอคืนสินค้าเปลี่ยนเป็นเงินคืนได้
แล้วคุณเคยลองพิสูจน์ข้อความเช่นว่านั้นหรือไม่ว่าทำได้จริงหรือเปล่า
วารสารฉลาดซื้อได้ทดลองส่งอาสา
สมัครไปซื้อสินค้าราคาปกติตามร้านค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์โตร์ทั้งหมด
7 แห่ง เป็นห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง คือ
1. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว
2. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน
3. ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี
4. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดาภิเษก
และเป็นดิสเคาน์สโตร์ 3 แห่ง คือ
1. คาร์ฟูร์ สาขาบางปะกอก
2. บิ๊กซี สาขาสุขสวัสดิ์ และ
3. เทสโก โลตัส สาขางามวงศ์วาน
โดยมีเงื่อนไขให้กับอาสาสมัครว่าให้ซื้อสินค้าที่ขายในราคาปกติ
ขายโดยร้านหรือบูธที่เป็นส่วนของห้างสรรพ
สินค้า ( ไม่ใช่ร้านที่เข้ามาเช่าพื้นที่ ) และเมื่อซื้อสินค้ามาแล้ว 1-2
วันให้นำสินค้าไปคืน โดยขอคืนเงินที่จ่ายไป
ทั้งหมดไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนสินค้าแทน
โดยมีข้ออ้างว่าไม่พอใจสินค้าด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่ความชำรุดบกพร่อง
ของตัว สินค้า เช่น ไม่ชอบสีสันหรือรูปทรงที่เลือกไป เป็นต้น
ผลการสำรวจมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าเพื่อความพอใจของลูกค้าผลที่ได้คือ
ดิสเคาน์สโตร์ทั้ง 3
แห่ง ยอมคืนเงินให้กับลูกค้า โดยคาร์ฟูร์และบิ๊กซีขอจดชื่อที่อยู่ของลูกค้าไว้
ในขณะที่ เทสโก โลตัส ยอมคืน
เงินให้โดยไม่มีการจดข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าแต่อย่างใด
สำหรับกลุ่มห้างสรรพสินค้าพบว่า
* ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง
เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้ากับพนักงานขาย พนักงานขาย
ไม่ยอมให้คืนสินค้าแต่เสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า
อื่นเปลี่ยนแทน แต่เมื่อลูกค้ายังยืนยันต้องการคืนสินค้าเหมือนเดิม
พนักงานขายก็ยังไม่ยอมคืนให้ ท้ายที่สุด
อาสาสมัครได้ไปติดต่อที่จุดบริการลูกค้าของห้างสรรพสินค้าจึงได้รับเงินคืน
* ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน
เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน
แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืน
เงินเหมือนเดิมพนักงานขายบอกให้ไปติดต่อที่แคชเชียร์ของแผนกสินค้านั้น
ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่
สามารถคืนเป็นเงินได้ ( ทั้งๆ ที่มีป้ายเขียนไว้ว่า รับประกันความพอใจ
เปลี่ยนคืนสินค้าสำเร็จได้ภายใน 5-10
นาที แสดงไว้อย่างชัดเจนที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ )
และได้ออกเป็นใบคูปองใช้แลกซื้อสินค้าในห้างแทนมีอายุ
30 วัน
จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไปแจ้งว่าเรากำลังทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าของห้าง
กับผู้บริหารระดับสูง ทางห้างจึงคืนเงินให้
พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลงโทษกับการประ
พฤติตัวที่่ไม่เหมาะสม ของพนักงาน แคชเชียร์และพนักงานขาย
* ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์
เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน
แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืน
เงินเหมือนเดิมพนักงานขายและแคชเชียร์ปฏิเสธ
ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่สามารถคืนเป็นเงินได้และได้ออก
เป็นใบคูปองใช้แลกซื้อสินค้าในห้างแทน แต่มีระยะเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น
จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไป
แจ้งว่าห้างกำลังถูกทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า กับผู้บริหารระดับสูง
ทางห้างจึงคืนเงินให้
พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลง
โทษกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของพนักงานขาย
* ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน
แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืน
เงินเหมือนเดิมพนักงานขายบอกให้ไปติดต่อที่แคชเชียร์ของแผนกสินค้านั้น
ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่
สามารถให้คืนเป็นเงินได้
จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไปแจ้งว่าเรากำลังทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือ
คืนสินค้าของห้างกับผู้บริหารระดับสูง ทางห้างจึงคืนเงินให้
พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลง
โทษกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของพนักงานขาย
และแจ้งว่าหากลูกค้าต้องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าให้
ไปติดต่อที่จุดบริการลูกค้า ( ซึ่งอยู่ที่ชั้นสอง คนละชั้นกับจุดที่มีปัญหา )
จะดีที่สุด
จะเห็นได้ว่าแม้จะมีข้อตกลงดังกล่าว ( ซึ่งตามจริงหลายๆ
ห้างก็มีข้อตกลงการเปลี่ยนหรือคืนสินค้ามาก่อน
หน้านี้ตั้งนานแล้ว ) แต่ในทางปฏิบัติคุณอาจพบปัญหาได้
โดยเฉพาะกับพนักงานขายของห้างสรรพสินค้าที่
สนใจเปอร์เซ็นต์ยอดขายมากกว่าหัวใจในการบริการลูกค้า
ไม่สนใจที่จะคืนเงินให้กับลูกค้า ทั้งๆ ที่ลูกค้าได้แส
ดงเจตน์จำนงค์อย่างชัดเจนแล้ว
ซึ่งหากผู้บริหารของกลุ่มห้างสรรพสินค้าไม่มีการปรับตัว เช่น ไม่มีการเข้ม
งวดกวดขันอบรมพนักงานขายที่ดีพอหรือไม่มีจุดบริการลูกค้าที่เห็นเด่นชัดทุกชั้น
ทุกแผนก ก็อาจกลายเป็นจุด
อ่อนของห้างสรรพสินค้าที่ทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดจนต้องหันไปใช้บริการกับกลุ่มดิสเคาน์โตร์ใหญ่ๆ
ได้ง่าย
สำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหาในการขอเปลี่ยนหรือขอคืนสินค้าให้ติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือผู้บริหาร
ระดับสูงของห้างทันที
กรณีสินค้าชำรุดบกพร่องเปลี่ยนหรือคืนได้เพียงแค่วันที่ห้างกำหนดจริงหรือ ?
ความรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม . 472
ในกรณีที่ทรัพย์สินซึ่งขายนั้นชำรุดบกพร่องอย่างใดอย่าง
หนึ่งอันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดีประโยชน์ที่มุ่ง
หมายโดยสัญญาก็ดี ท่านว่าผู้ขายต้องรับผิด
ความที่กล่าวมาในมาตรานี้ย่อมใช้ได้ทั้งที่ผู้ขายรู้อยู่แล้วหรือไม่รู้
ว่าความชำรุดบกพร่องนั้นมีอยู่ ม .473
ผู้ขายย่อมไม่ต้องรับผิดในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) ถ้าผู้ซื้อได้รู้อยู่แล้วแต่ในเวลาซื้อขายว่ามีความชำรุดบกพร่องหรือควรจะได้รู้
เช่นนั้นหากได้ใช้ความระมัด
ระวังอันจะพึงคาดหมายได้แต่วิญญูชน
(2)
ถ้าความชำรุดบกพร่องนั้นเป็นอันเห็นประจักษ์แล้วในเวลาส่งมอบและผู้ซื้อรับเอาทรัพย์สินนั้นไว้โดยไม่อิด
เอื้อน
(3) ถ้าทรัพย์นั้นได้ขายทอดตลาด ม . 474 ในข้อรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องนั้น
ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้น
เวลาปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนสินค้าใหม่ของห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ
นั้น ในทางกฎหมาย
มีลักษณะเป็นคำมั่น
ซึ่งหากทางห้างไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับผู้บริโภคจะมีผลเป็นการผิดสัญญา
อย่างไรก็
ตาม หากสินค้าชำรุดบกพร่องทางห้างจะต้องรับผิดชอบทุกกรณีตามกฎหมาย ( มีอายุความ 1
ปี ) โดยไม่เกี่ยว
กับเงื่อนไขการรับคืนสินค้าซึ่งห้างเป็นผู้กำหนดขึ้นส่วนจะรับผิดชอบในลักษณะใดนั้น
ก็ต้องพิจารณาตาม
ความบกพร่องที่เกิดขึ้น เช่น การคืนเงิน การเปลี่ยนสินค้า เป็นต้น
นายชัยรัตน์ แสงอรุณ
กรรมการสภาทนายความด้านสิทธิมนุษยชน
ให้ความเห็นต่อการคืนสินค้าว่าหลายคนซื้อของจากห้างสรรพ
สินค้าแล้วไม่พอใจหรือใช้แล้วไม่มีประสิทธิภาพ แล้วคืนได้
ปล:มีมาตราฐานแบบเมืองนอกก็ดี เปลี่ยนได้ เสื้อใส่แล้วป้ายยังอยู่ก็ คืนได้ เอาไปใช้แล้วทำหล่นเสียหายก็เปลี่ยนได้ไม่มีการถามอะไรเลยบอกว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยน
เมืองไทยจานเคยซื้อมือถือในห้าง แต่พอเอาไปใช้ได้ 2 วันมีปัญหา ก็จะเอาไปเปลี่ยนพนักงานบอกไม่ได้ต้องเอาไปซ่อม 1 เดือน ขนาดซื้อไปได้ 2วันเองน่พนักงานอ้างนู้นอ้างนี่จะไม่ยอมถ้าเดียว จานก็บอกไปเรียกผู้จัดการมา แค่นี้ละก็เปลี่ยนได้แล้วมีที่ไหน ซื้อ 2 วัน ให้ไปซ่อม 1 เดือน
จากคุณ :
สีไม้น้ำ
- [
18 ส.ค. 49 08:12:24
]