ความคิดเห็นที่ 1 ก็ไปติดต่อแบงค์ เดี๋ยวเขาจะโอนเงินทั้งหมดที่กู้ เข้าบัญชีให้เรา จากนั้นเขาจะให้เราเซ็นต์โอนเงินทั้งหมดให้โครงการบ้าน ตอนที่ดิฉันเคยไปทำ ไม่ต้องทำอะไรเลย เอกสารมีที่แบงค์ เขาเตรียมไว้ให้หมดแล้ว คือทางโครงการกับแบงค์เค้าโคกันอยู่ เราไปแค่เซนต์ลูกเดียว เซนต์ๆๆๆจนเมื่อยมือ โดยบ้านจะเป็นชื่อเรา แต่โฉนดและเอกสารเก็บเข้าแบงค์หมด จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 25 พ.ย. 49 19:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นัดแบงก์ คนขาย และคนซื้อ ไปที่ดินเพื่อทำนิติกรรมซื้อขายจำนอง จากคุณ : บ้านตรงข้าม - [ 25 พ.ย. 49 21:41:01 A:124.121.127.206 X: TicketID:098723 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1ไปตรวจรับบ้าน ตรวจให้พอใจ จนแน่ใจว่าไม่มีจุดที่ต้องแก้ไขจริง แล้วค่อยเซ็นต์รับ 2หลังจากตรวจรับบ้าน ว่าโอเคทุกอย่างเป็นที่พอใจ ก็นัดวันทำสัญญากู้เงินกับแบงค์ 3พอทำสัญญา(บางแบงค์สามารถทำสัญญากู้และนัดโอนได้ในวันเดียวกัน) ก็นัดโอนบ้าน ทางโครงการจะบอกคุณเองว่าต้องไปที่ใหน แล้วเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ซึ่งสำหรับตัวคุณ ก็จะมีบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้าน(ทั้งสำเนาและตัวจริง) ส่วนเอกสารอื่นทางโครงการกับธนาคาร จะเป็นผู้เตรียมให้คุณ 4ที่กรมที่ดินถ้าเป็นโครงการดีๆหน่อย คุณไม่ต้องทำอะไรเลย เจ้าหน้าที่โครงการกับเจ้าหน้าที่แบงค์เค้าจะจัดการเอง คุณมีหน้าที่เซ็นต์.......เซ็นต์........และเซ็นต์ อ้ออย่าลืม จ่ายค่าจดจำนองกับค่าโอนด้วย(ตรงนี้ต้องเตรียมเงินสดไป) 5ธนาคารจะจ่ายเช็คเป็นชื่อโครงการ(ไม่ใช่ชื่อคุณ)ร่อน เช็คฟิ๊ววววว ผ่านหน้าคุณไป คุณมีหน้าที่เซ็นต์รับ หนี้แล้วให้เช็คกับโครงการ 6หลังจากรอพวกเขาทั้งคู่เล่นตี่จับกับกรมที่ดิน(ตรงนี้คุณมี หน้าที่เป็นกองเชียร จะแอบหลับมั่งก็ได้ เดี๋ยวเค้าก็มาปลุก คุณเองแหล่ะ........พี่ๆๆเซ็นต์.......พี่ๆๆโว๊ยหลับอีกแล้ว เซ็นต์นี่ก่อน)ประมาณ1-3ชั่วโมง(แล้วแต่คิวยาว มั้ย)คุณก็จะได้โฉนดที่เป็นตัวก๊อปปี้(เพราะตัวจริงแบงค์เอา ไป)ซึ่งข้างหลังสลักว่าคุณเป็นเจ้าของแต่จดจำนองอยู่ กับแบงค์นั้นๆ รวมทั้งทะเบียนบ้านเปล่าๆที่มีแต่เลขบ้าน กับรายละเอียด(ยังไม่มีชื่อคน) 7พอได้ทะเบียนบ้าน คุณก็ไปที่ว่าการอำเภอเขตนั้นๆ แจ้งย้ายตัวคุณเองเข้าไปเป็นเจ้าบ้านซะ(ทำบัตรใหม่ ด้วยเลยก็ได้)บางที่โชคดี ที่ดินกับเขตอยู่ใกล้กันก็ไม่ ต้องวิ่งไกล อ้อ....ตรงข้อ7นี่แบงค์กับโครงการตัดหาง ปล่อยวัดคุณแล้วนะ เค้าไม่ยุ่งแล้วเพราะถือว่าเป็น เรื่องของคุณเองแล้ว(ได้บ้านแล้วนิ.......โครงการก็ได้เช็ค ส่วนแบงค์ก็ได้ลูกหนี้แล้ว) ที่เหลือที่นี้.......คุณจะต้มยำทำแกงยังไงกับบ้านคุณก็ เชิ๊ญญญญญญญ จากคุณ : varada - [ 26 พ.ย. 49 08:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้...ขอบคุณคุณ varada มากคะ สำหรับคำแนะนำ เป็นประโยชน์มาก ๆ จริง ๆ เดี๋ยวเดือนหน้าเราก็ต้องไปโอนบ้านแล้ว เหมือนกันค่ะ จากคุณ : V (*^-^*) - [ 26 พ.ย. 49 11:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ varada ให้รายละเอียดได้ดีจริง ๆ แลยครับ ผมก็รอบ้านเสร็จ ตรวจรับบ้านแล้วคงจะได้โอน จากคุณ : khunjumnien - [ 26 พ.ย. 49 12:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 -  สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการมีบ้าน ก่อนโอน   คือตรวจสอบบ้านให้เรียบร้อยก่อน ( โปรดพาคนที่มีความรู้เรื่องบ้านมาช่วยตรวจ +ถ่ายภาพ และควรตรวจโดยละเอียดทุกจุด  ทุกระบบ  ทั้งนอกบ้านและในบ้าน  อาจต้องใช้เวลาประมาณ 1-2  วัน )  และแจ้งซ่อมแก้ไข + แนบภาพถ่าย  พร้อมเอกสารแจ้งซ่อมเป็นทางการ โดยลงชื่อผู้แจ้ง + วันที่แจ้ง   และยื่นให้โครงการรับเป็นทางการ  โดยลงชื่อผู้รับ + วันที่รับ  อย่าลืมเก็บสำเนาไว้ที่เราเป็นหลักฐาน  1  ชุด -  อย่าโอนก่อนที่การซ่อมแก้ไขจะเสร็จเรียบร้อยตามรายการแจ้งซ่อม  อบ่างเด็ดขาด   เพราะมีตัวอย่างเกิดปัญหาโครงการไม่ซ่อมให้  หรือซ่อมช้า  อยู่บ่อย ๆ   อย่าลืมคำขวัยประจำใจผู้ซื้อบ้าน  " ก่อนโอนผู้ซื้อจะมีอำนาจมาก   แต่หลังจากโอนแล้วผู้ขายจะเป็นผู้มีอำนาจแทน" - ลองฟังรายการตรวจสอบบ้านก่อนโอนได้ที่นี่ เรื่อง การตรวจรับบ้านอย่างไรไม่ให้ถูกหรอกเสียผลประโยชน์ ทั้งบ้าน  คอนโด และทาวเฮาส์ http://radio.mcot.net/fm965/__programView.php?id=15306 - ลองอ่านรายการตรวจรับบ้าน คุณฝนโอ่ง ใจดีอีกแล้ว 555+ ** ผมขออนุญาตเจ้าของความเห็นที่กรุณาให้คำเเนะนำในเว็บนี้เเหละครับ (ต้องขออภัยจำชื่อไม่ได้จริงๆ เพราะผม copy ใส่ word)  ผมได้นำคำเเนะนำเหล่านั้นไปใช้ประกอบการตรวจรับ ซึ่งปรากฎว่าได้ผล ช่วยได้เยอะครับ ฝากขอบคุณท่านเหล่านั้นผ่านกระทู้นี้ไปด้วยเเล้วกัน 1.เอาน้ำเทที่กระเบื้องห้องน้ำ ชาน ปูนหน้าบ้าน ดูว่าน้ำขังเป็นแอ่งไหม 2.เอาน้ำขัง ห้องน้ำ ชาน 1 คืน เอาอะไรมาปิดรูระบายอ่ะค่ะ ดูว่ามันรั่วไปฝ้าชั้นล่างหรือเปล่า 3. วงกบ ประตูหน้าต่าง ดูให้ดี ระวังฝนซึมเข้ามา ซิลิโคนอุดดีไหม หน้าต่างแตกไหม 4.พื้นได้ระดับไหม เอาลูกปิงปองวางดู ตามจุดต่างๆ ถ้ากลิ้งก็ดูว่าเร็วมาก และกลิ้งไกลไหม รับได้เปล่า 5. ใส่ถุงเท้าเดินลากตามพื้นไม้ ว่ามีรอยมุมไม้แหลมตามพื้นไหม 6.ราวกันตก ราวบันได บันได้ตรงหรือเปล่า เขย่าราวบันไดแรงๆ ถ้าโยกก็ให้ทำใหม่อยู่ไปอันตราย 7.หลังคารั่ว ต้องดูตอนฝนตก ดูรอยรั่วจากฝ้า 8. ทาสีสม่ำเสมอเปล่า ดูดีๆอาจแหว่งๆ กระดำกระด่าง 9.ยาแนวห้องน้ำ ส่วนมากเขรอะ ไม่ขาว ต้องมานั่งยาเอง ปวดหลังเลย 10.เปิดไฟดูปุ่มซ้ายไฟดวงซ้ายติด ไม่ใช่สลับกัน 11.กระเบื้องร่อนเปล่า เอาเหรียญเคาะดู ฟังเสียง ดูกระเบื้องทุกแผ่นด้วย มันมักแตก บิ่น เสมอ ช่างมันชุ่ยน่ะ 12.ท่อปลวกล่ะ บ้านเรามานเอาปูนเททับหายไปเลย ก่อนโอนให้ขุดท่อปลวก แล้วเทปูนใหม่ 1.น้ำในห้องน้ำ สั่งให้เอาพลาสติกอุดท่อในห้องน้ำทุกจุดครับ  แล้ว ให้ขังน้ำทิ้งไว้สักสองชั่วโมง  เพื่อการเช็คว่าน้ำนั่นซึมจากพื้นลงมาขั้นช่างหรือป่าว ถ้ารั่วซึม จะผ่านตามมุมกำแพงชั้นเดียวกัน หรือลงมาที่ฝ้าของชั้นที่เราตรวจ ครับ แล้วก็เปิดน้ำดีไว้สักพัก ถ้าท่อน้ำดีไม่แน่นพอก็จะหลุดออกมาให้เห็นที่ฝ้าครับ 2.โครงการไหนแถมแอร์ ให้เปิดเทสต์สัก สองชั่วโมงเลยครับ เพราะถ้าสโลปไม่ดีก็จะรั่วครับ 3.เปิดฝ้าหลังคา ดูว่าติดฉนวนตามเสป็คป่าว 4.เช็คปั้มน้ำ เปิดน้ำทิ้งไว้สักห้านาที เพื่อดูว่าปั้มทำงานติดขัดหรือไม่ แล้วก็ปิดอุปกรณ์ที่ใช้น้ำทุกจุด แล้วดูว่าปั้มยังทำงานหรือป่าว ถ้าทำงานคือน้ำรั่วจุดไหนสักที่ครับ และเช็คลูกลอยในถังน้ำดี ถ้าน้ำเต็มแล้วยังไม่ตัด ก็คือเสีย หรือถ้าเต็มแล้วตัด ลองไปดูที่มิเตอร์น้ำ ว่าวิ่งไหม ถ้าวิ่ง คือท่อน้ำรั่ว ดูความเรียบร้อยโดยรวมของตัวบ้านตั้งแต่หน้าประตู ประตูปิดสนิทไหม  งานสีเรียบร้อยไหม  ปูกระเบื้องเรียบร้อยไหม  เปิดไฟตรวจดูทุกดวง  เอาเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นโคมไฟตั้งโต๊ะไปเช็คเต้าเสียบทุกอันว่าไฟเข้าหรือไม่  เปิดน้ำดูว่าไหลดีหรือเปล่า  อ่างล้างหน้าเปิดน้ำให้เต็มอ่างแล้วปล่อยออกดูว่าระบายน้ำได้ดีไหม  ตันหรือเปล่า  ชักโครกก็ลองเอาทิชชูใส่ลงไปสัก 2 - 3 แผ่นแล้วกดน้ำดูว่าหมดหรือเปล่า  เปิดฝ้าดูว่าใต้เพดานมีช่องให้นกมาทำรังไหม  ที่นึกออกก็มีเท่านี้ค่ะ จากภาพฝีมือการยาแนวปูกระเบื้องไม่ผ่านครับ เข้าขั้นห่วยแตกเลยครับ การแก้ไขนั้นทำได้แต่ไม่รู้ทางหมุ่บ้านจะยอมได้แค่ใหน แต่ก็อยากให้คุณอย่ายอมครับแก้ไขให้ได้มากที่สุด อีกอย่างเรื่องทดสอบระบบน้ำสำคัญมาก พวกช่างประปาหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่รับผิดชอบต่องานที่ตัวเองทำ ทำให้การแกไขยากมากโดยเฉพาะเมื่อมีการยาท่อไม่ดี จะทำให้น้ำรั้วใต้พื้นที่ถูกฝังกลบหรือปูกระเบื้องแล้ว ทีนี่การแก้คือหาให้เจอ ซ่งเป็นเรื่องยากพอสมควร และต้องทุบทำใหม่ การทดสอบน้ำ ก่อนให้หมู่บ้านเดินเครื่องปั้มน้ำ ให้คุณปิดวาวน้ำทุกตัวให้สนิท แล้วให้เปิดปั้มน้ำ ปั้มน้ำจะเดินสักครู่ พอความดันในท่อได้ระดับมันก็จะหยุด ตอนนี้ให้ลองนั้งฝังเสียงว่าภายให้ 5 นาที 10 นาที หรือ 30 นาที ปั้มมันเริ่มทำงานใหม่เองอัตโนมัติหรือปล่าว  โดยทีคุณยังไม่ได้เปิดวาวน้ำตัวใดเลย ถ้าปั้มยังเงียบก็แสดงว่าระบบท่อน้ำโอเค แต่ถ้าปั้มมันทำงาน เป็นระยะๆ หรือ 1 นาที หรือ 30 วิทำงาน แล้วหยุด แล้วเริ่มทำงานใหม่ แสดงว่า มีจุดรั่วในระบบน้ำคุณแน่นอน ทีนี้ก็ต้องหา ถ้ามันรั่วส่วนที่อยู่บนดินมองเห็นก็แก้ง่าย แต่ถ้าเป็นท่อใต้ดิน ปรือใต้พื้นห้องน้ำ นั่นแหละปัญหาใหญ่เลยละ ต้องทุบสถานเดียว แต่ต้องดูจุดที่น้ำรั่งทีมักมองข้ามคือที่โถชักโครก ซึ่งมักจะรั่วก็คอยสังเกตุในโถว่าเวลาเราปิดก๊อกหมดทุกตัว ยังมีน้ำไหลทิ้งในโถชักโครกหรือปล่าว หรือได้ยินเสียงน้ำไหลหรือปล่าว ถ้ามี  ก็ให้ช่างแก้ได้ ไม่ยากในจุดนี้ ที่ยากคือพวกท่อน้ำที่เดินผังในผนัง หรือใต้พื้นครับ ผมเองมีประสพการณตอนทำบ้าน ช่างประปามักง่าย หาข้อต่องอไม่ได้ มันแทนที่จะออกไปหาซื้อ มันกลับตัดท่อตรงมา แล้วเผาไฟให้งอเพื่อต่อเข้ากับปลายท่ออีกด้านเราเห็นเข้าก้ต่อว่าผู้รับเหมา แล้วเราก็บอกให้เงานประปาที่เหลือเราไม่ให้ช่างคนนี้ทำต่อ หใหช่างคนใหม่เลยครับ ที่สุดผู้รับเหมาต้องลงมาทำเองเพราะหาช่างใหม่ไม่ได้ ท่อที่ช่างมักง่ายเผาไฟให้ท่อมันงอถึงแม้จะเป็นท่อระบายน้ำทิ้งที่ไม่มีแรงดัน มันก็จะทำให้น้ำทิ้งมันรั่วซึมได้ แล้วก็จะทำให้พื้นและผนังชื้อนตลอดเวลาและอาจเหม็นได้เพราะเป็นน้ำทิ้ง นี่เป็นตัวอย่างช่างมักง่ายช่างพวกนี้จริงๆถ้าเป็นบ้านมันเองมันจะทำแบบนี้ใหม เพราะมันเป็นบ้านคนอื่นมันเลยทำอย่างสุกเอาเผากิน เขียนมาซัยืดยาวแค่เป็นอุทธาหรณ์ครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Learn and Live - [ 27 พ.ย. 49 17:03:48 ]