ความคิดเห็นที่ 1 อยากรู้ด้วย ไว้มาดูใหม่ตอนมีคนตอบ จากคุณ : จระเข้น้อย - [ 7 ธ.ค. 49 16:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดีครับ ใช้อยู่ จากคุณ : อืมม...V2 - [ 7 ธ.ค. 49 16:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดีครับ..สองร้อยก่าบาทแต่ก่อนสามก่ามั้ง...ก่อนฉีดพ่นน้ำเปล่าก่อนนะเพื่อให้ฝุ่นนุ่มขึ้น ซักพักนึงฝุ่นจะออกมาดำปรื๋อ คลอย์สะอาดเงาเลย เวลาเปิดหอมอีกต่างหาก จากคุณ : ไม่รู้นะแล้วแต่ (jumpffish) - [ 7 ธ.ค. 49 16:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยใช้กับแอร์ตัวเก่า แคเรีย ตัวเหลี่ยมๆ ตั้งพื้น ใช้ไป 3 ปี ล้าง 6 เดือนครั้ง ตัวรังผึ้ง (เค้าเรียกฟินหรือปล่าว) จำสีออกดำๆ   ซื้อเจ้ากระป๋อง เขียวๆ ตัวฉีดสีขาว ฉีด ไปๆ มาๆ สนุกดี เป็นฟองฟู่ๆ แล้วตัวเหล็กเงาเลย แต่เล่นไปแป๊บๆ หมดล่ะ ตกลง 1 ตัว ต่อ 1 กระป๋อง หลังฉีดเสร็จ พอเปิด รู้สึกแอร์เย็นเร็วขึ้น และมีกลิ่นเหมือนใหม่ๆ หน่อยอ่ะครับ จากคุณ : thebLuR - [ 7 ธ.ค. 49 16:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้ได้ครับ ของผมท่อน้ำทิ้งตัน น้ำทิ้งไหลไม่สะดวก เวลาเปิดแอร์ น้ำจะไหลบริเวณคอยล์เย็นด้วย พอฉีดตัวนี้เข้าไป สิ่งสกปรกไหลออกตามท่อหมด เปิดแอร์ก็ใช้ได้ดีเหมือนเดิม แถมกลิ่นสะอาดกว่าเดิมอย่างสังเกตได้ จากคุณ : Katoman - [ 7 ธ.ค. 49 17:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยต้องซื้อมาใช้มั่งแล้วละครับ ถาม เวลาฉีดต้องถอดอุปกรณ์ของแอร์ไหมครับ หรือ ฉีดเข้าไปที่ลูกกลิ้งพัดลมเลย ครับ จากคุณ : TooT (Chotanan) - [ 7 ธ.ค. 49 17:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฉีดแล้วน้ำยาไม่หกเลอะห้องหรือครับ ไม่งั้นเจ้าสกปรกจะไหลไปไหนได้ครับ งงครับ? จากคุณ : mr_ohmmo - [ 7 ธ.ค. 49 17:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้ดีครับ แต่ต้องคอยเขย่ากระป๋องนี่สิเมื่อย ไม่งั้นมันไม่ออกเป็นโฟม  สามารถฆ่าเชื้อราได้ด้วยครับ #6  ฉีดเฉพาะส่วนที่เป็นคอล์ยเย็นครับ # 7 ไม่เลอะห้องครับ สิ่งสกปรกจะไหลไปตามท่อน้ำแอร์ จากคุณ : คุณชายร้ายเล่มเกวียน - [ 7 ธ.ค. 49 17:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ามันล้างได้เฉพาะแผงรังผึ้งน่ะ แต่ที่ใบพัดมันก้อยังสกปรกเหมือนเดิม แล้วก้อไม่รู้ว่ามันจะกัดกร่อนตัวแผงคอล์ยเย็นมากขนาดไหนถ้าใช้นานๆ สรุปเรียกช่างมาล้างใหญ่ทุก 6 เดือนดีกว่า จากคุณ : meaosct - [ 7 ธ.ค. 49 19:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยเหมือนกัน บอกยี่ห้อด้วยสิครับ จะได้ไปซื้อมาใช้บ้าง จากคุณ : เพชรปู - [ 7 ธ.ค. 49 19:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำซื้อแบบที่เป็นน้ำดีกว่าครับ แบบที่เป็นโฟมอ่านที่ฉลากดูให้ดีๆ จะบอกว่า ต้องล้างน้ำเปล่าอีกครั้งด้วยนะครับ แถมแบบเป็นโฟมนี่เข้าได้ไม่ลึกเท่าแบบน้ำครับ ผมลองใช้ทั้งโฟมทั้งน้ำแล้ว แบบน้ำดีกว่าครับ ถูกกว่าด้วย จากคุณ : monjangja - [ 7 ธ.ค. 49 20:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พอฉีดเสร็จให้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีค่ะ ให้โฟมมันไปจับฝุ่นออกมา แล้วก็เอาฟ้อกกี้ที่ฉีดรีดผ้านะค่ะ  ใส่น้ำเปล่าฉีดตามไปเหมือนไปล้างทำความสะอาดค่ะ แล้วใช้ฟองนำอันใหญ่แบบที่ใช้ล้างรถ ซับเอาน้ำที่เราฉีดล้างโฟมมาทิ้ง จนคิดว่าไม่มีน้ำค้างอยู่ น้ำมันจะดำแล้วมีฝุ่นเป็นก้อนเยอะเลยค่ะ อย่าเพิ่งเปิดแอร์ทิ้งไว้สักครึ่ง ชม.รอให้คอยล์แห้งก่อน ของเราพอเปิดแล้วเย็นขึ้นเยอะเลยค่ะ จากที่มีแต่ลม แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 49 20:48:23 จากคุณ : santasz01 - [ 7 ธ.ค. 49 20:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเรียกช่างมาล้างดีกว่า แค่ 300 บาทต่อเครื่องเท่านั้น จากคุณ : mar รุ่นเก๋า - [ 7 ธ.ค. 49 21:33:13 A:61.47.107.15 X: TicketID:122020 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วแอร์รถล้างยังไงอ่ะ ต้นเร็วเหมือนกัน จากคุณ : ขวัญชัย - [ 7 ธ.ค. 49 22:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมให้คนมาล้าง400บาท ปีละครั้ง (น้อยไปป่าวครับ) จากคุณ : Yoawarat - [ 7 ธ.ค. 49 23:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าแบบเป็นโฟม จะเป็นกรดแบบที่ข้างบนบอกไว้ แต่ถ้าเป็นแบบน้ำ ค่า ph พอๆ กับน้ำธรรมดานี่แหละครับม่ายมีปังหา เล่นมาหลายปีแล้วยังไม่มีรายการผุให้เห็นเลย ครับ ส่วนช่องแอร์ในรถก็สามารถใช้วิธีเดียวกันแก้ขัดได้ แต่สู้ถอดออกมาล้างไม่ได้เหมือนกันแต่ข้อดีก็คือ จะได้ไม่เจอช่างฝีมือห่วยๆ ทำให้คอนโซลรถพังครับ ส่วนวิธีไม่ให้แอร์รถยนต์ตันนั้น พวกน้ำหอมปรับอากาศทั้งหลายนะแหละครับ ตัวดีเลย ยิ่งใช้ยิ่งตันเน้อ 66666 จากคุณ : monjangja - [ 8 ธ.ค. 49 05:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับทุกความเห็น ผมเข้ามา เสริซหลายครั้ง แต่ไม่เจอเนื้อหาเข้าข่ายเลยตั้งกระทู้ เองเลย สงสัยต้องลองสักกระป่อง ยืนดูอยู่นานแล้ว จากคุณ : . (XXL) - [ 8 ธ.ค. 49 09:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จ้างช่างมาล้างดีกว่าครับ ใช้ไอ้กระป๋องอยู่หลายปีแล้วแต่ปัญหาแอร์จริงๆไม่ใช่คอยล์เย็นตัน แต่ใบพัดต่างหากที่ตันเพราะฝุ่นจับมาก ต้องถอดใบพัดมาล้าง(ซึ่งยากมาก) หรือฉีดน้ำล้าง(ต้องระวัง)ทำเองใช้เวลาเกือบครึ่งวัน สุดท้ายต้องพึ่งช่างมาทำเพราะเค้ามีอุปกรณ์และความชำนาญมากกว่า และคอยล์เย็นก้อสะอาดแบบเดียวกันด้วย จากคุณ : ตอง 111 - [ 8 ธ.ค. 49 10:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใช้สเปย์ล้าง 2 รอบ แล้วค่อยล้างใหญ่สลับกันอีกครั้งก็ยังไม่สายครับ ส่วนช่างล้างนี่ต้องเลือกดีๆ ด้วยน่า ไม่งั้นบ้านเละ จากคุณ : monjangja - [ 8 ธ.ค. 49 14:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ซื้อมาลอง 2 ยี่ห้อ ไม่ได้เรื่อง ใบพัดข้างในฝุ่นจับเคอะ  ต้องล้างใหญ่ อย่างเดียว  เชื้อโรคบานที่ใบพัดลม ด้านใน fin ด้านหลัง มันล้างลำบาก จากคุณ : หญิงยอดนักทดลอง - [ 9 ธ.ค. 49 06:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยังไงยังไง ก็อย่าละเลยวิธีให้ช่างมาล้างใหญ่นะครับ เพราะเห็นชัดเลยว่า ความสกปรกมันซอกซอนไปถึงไหนถึงไหน ลำพังแค่สเปรย์ฉีดเข้าไป คงจะล้างได้แค่รังผึ้งเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นการล้างแก้ขัด ให้แอร์หายเหม็นขั่วคราว จากคุณ : เฮฮา - [ 9 ธ.ค. 49 12:59:15 A:58.9.172.92 X: TicketID:011396 ]

ความคิดเห็นที่ 23 4 เดือนล้างด้วยสเปย์ 2 ครั้ง 300 บาท ปีนึงล้างใหญ่ทีนึง 500 รวม 800 ยังไงก็คุ้มกว่าล้างใหญ่ทุก 4 เดือน 1500 น่า ล้างใหญ่ต้องล้างเหมือนกันครับ แต่ไม่จำเป็นต้องล้างทุกครั้ง เหมือนกับล้างรถ คงไม่จำเป็นต้องไปล้างที่ปั้มทุกอาทิตย์หรอกครับ จากคุณ : monjangja - [ 9 ธ.ค. 49 21:14:11 ]