ความคิดเห็นที่ 1 ที่บ้านใช้แค่ 150  Watt เอง......นำแรงเหลือเฟือแล้ว... จากคุณ : น้าทู (Patunga) - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถามเค้าว่าระบบท่อเค้าทดสอบแรงดันหรือไม่ เท่าไหร่ ตัวท่อนั้น มาตรฐานทดสอบแรงดันที่13.5กก/ตร.ซม. กาวที่ต่อระหว่างท่อกับข้อต่อนั้น อันที่จริงไม่ใช่กาว แต่เป็นตัวทำละลายให้PVCที่ผิวสัมผัสของท่อกับข้อต่อละลายติดกัน ในทางจินตนาการแล้ว การรับแรงของท่อกับข้อต่อ ควรจะเท่ากัน คือ13.5กก/ตร.ซม.ด้วย แต่ในทางความเป็นจริง มีองค์ประกอบหลายอย่าง ที่ทำให้การรับแรงดันตกไป ถ้าต่อถูกต้อง ทากาวทั้ง2ด้านพอ ไม่ต้องมีเทคนิคพิเศษอื่นๆมายุ่งเกี่ยว เปอร์เซนต์ลดไม่ควรเกิน25% คิดให้หยาบๆว่าหักไป40%เลย จะเหลือ60%    13.5 x 60%  = ประมาณ7.6 เท่ากับจุดที่ท่อ+ข้อต่อจะรับแรงได้=7.6 กก/ตร.ซม. มาดูสเปคปั๊มบ้าง ปั๊มH หาข้อมูลไม่เจอ มีแต่ข้อมูลของปั๊มF ขนาด250W มาเปรียบเทียบ ปั๊มF ขนาด250W  แรงดันตอน Cut off =2.8กก/ตร.ซม. ไม่มีทางเกินกว่านี้ ตีให้ปั๊มH แรงดันตอน Cut off=4กก./ตร.ซม. เลย เมื่อเทียบกับแรงดันที่สมควรเป็นของท่อ+ข้อต่อคือ7.6 จะเห็นว่าต่างกันเยอะ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเหลือเฟือ อันที่จริงการตรวจรับบ้านนั้น  ต้องมีมาตรฐานการตรวจแรงดันท่อ ด้วยการปั๊มน้ำเข้าท่อ ด้วยแรงดันที่มากกว่าแรงดันปกติ(จำเปอร์เซนต์ไม่ได้-คู่มือไม่อยู่) ที่ท่อที่ทดสอบนั้น มีPressure Gaugeไว้ด้วย เมื่อปั๊มเข้าไป แล้วปิดวาวล์ไว้ ที่แรงดัน(สมมุติ5กก./ตร.ซม.) ทิ้งไว้24ชั่วโมง เมื่อครบเวลา ปรากฎว่าแรงดันตกไป นั่นคือมีท่อรั่วในระบบ หากเข็มไม่ตก การต่อท่อใช้ได้ เราคิดว่าวิศวกรเค้าต้องการsaveไว้ก่อนครับ   แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่าถ้าข้อต่อจะแตกหลุด  ให้ความดัน2.5หรือ3.5ก็หลุดครับ เอ คุ้นๆนะว่าปั๊มHตัวนี้ของคุณ ตั้งโปรแกรมความดันLow กับHighได้นา  ลองศึกษาคู่มือดูนะครับ หาwebที่มีรายละเอียดไม่เจอ ลองอ่านข้างต้นทั้งหมด แล้วทำความเข้าใจดู  แล้วจะทำอย่างไรต่อก็เชิญพิจารณาครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยเชื่อตามคำนวน แต่ใช้จริงไม่ได้ต้องซื้อใหม่ จากคุณ : แมวเกเร - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้าน 2 ชั้น ก็ใช้ มิตซู ตัวเหลือง ท่อ 6 หุน   คิดว่าแรงเกินไป กินไฟ ใช้ไปไม่กี่ปี ถังผุ  เอาไปพ่นแก๊ส 2 รอบ   รอบที่ 3 รั่ว แต่เจอกาวตะปูรุ่นใหม่ เอามาอุดใช้ไปก่อน  ข้างใน สนิมบานเลย เคยไปถามหม้อสแตนเลส เค้าบอก 2000 กว่าบาท เนี่ยยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ถังสแตนเลสจะรั่วตามรอยเชื่อม จากคุณ : หญิงยอดนักทดลอง - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ คุณต้นโพธิ์ต้นไทร  ที่ให้ข้อมูลด้าน technic อย่างละเอียดครับ และขอบคุณท่านอื่นๆ ที่แนะนำครับ เพิ่มเติมอีกหน่อย พันธงให้หน่อยครับ ว่า Pump Auto กับ แรงดันคงที่ แบบไหนดีกว่ากันครับ ที่ถามอย่างนี้เพราะดูเหมือนข้อเสียของ Pump แบบ Auto จะมีก็แค่ ถ้ามี load มากๆ น้ำก็จะไหลเบาเท่านั้นเอง แต่กับ pump แรงดันคงที่ ถ้าเป็น pump H ก็อาจจะต้องเติ่ม N2 ถ้าเป็น Pump F ก็ต้องแบกไปเติมลม อ๋อ Pump auto ก็แค่ใหญ่กว่า ก็เท่านั้น แต่ก็ไม่มากจนรับไม่ได้ แบบไหนเหมาะสำหรับการใช้งานนานๆ ครับ หรือ Pump แบบ Auto ยี่ห้อ M วิศวกรโครงการผมแนะนำครับ ว่าอึด ไม่งอแงครับ พี่ๆแนะนำด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : คุณชายแอบแซ่บ - [ วันรัฐธรรมนูญ 20:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมใช้ มิตซู ออโต้ 3ปีกว่าแร่ะ ทนทานดี ไม่มีปัญหารัย อ่อ มีอยู่อย่าง ปั๊มออโต้ ถ้า ท่อเรา รั่ว หรือ ซึม มัน จะทำงานโดยที่เรา ไม่ได้เปิดก๊อกน้ำ ดังนั้น เป็นการดี ที่ เรา จะต้องหา สาเหตุ และ แก้ไขจุดที่มีปัญหา นะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 49 21:10:53 จากคุณ : Uncle Handsome - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มานก็AUTOทั้งนั้นครับ แต่เป็นแบบถังแรงดันกับแรงดันคงที่ HกับF เป็นแบบแรงดันคงที่ ถ้าHต้องเปลี่ยนครับ เติมไม่ได้ แต่รับประกันเครมฟรี5ปี พ้น5ปีกระป๋องละ1800 F มีที่สูบลมจักรยานก็เติมได้ ไปปั๊มก็ดี แต่แบบถังแรงดันทรงกระบอก ยี่ห้อM โดยรวมก็ดี เรื่องปั๊มตอนโหลดก็ไม่เป็นไร แต่เสียงจะดังทุกครั้งที่ทำงาน และตัวเติมลมจะมีปัญหา ทำให้ปั๊มทำงานตัดต่อบ่อย จะต้องไล่น้ำในถังออกหรือเปลี่ยนตัวเติมลม พูดตรงคือว่าวิศวคุณยังหลงอยู่ในภูมิเก่าๆ แล้วไม่ใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม เราก็เคยยึดมั่นถือมั่นในรูปแบบเก่าแบบถังแรงดัน   แต่เราก็หาความรู้เพิ่มตลอดจนไปซื้อมาใช้เลยด้วยราคาเต็ม เพื่อที่จะได้มาบอกเพื่อนๆได้ด้วยความเป็นจริงที่พิสูจน์ด้วยตัวเราเองครับ . แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 49 21:15:27 จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อิอิ ถ้าวิดวะผมจะรุ่นเก่าอย่างที่ว่าจริงๆครับ พี่ต้นนโพธิ์ต้นไทร Pump ถังความดันคงที่ ยี่ห้ออะไรนะครับ ที่ใช้ N2 ขอบคุณครับ จากคุณ : คุณชายแอบแซ่บ - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 H    และ    M (มาใหม่ แต่ยังไม่แนะนำครับ) จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกติการตรวจรับบ้านเจ้าของบ้านไม่ควรจะต้องทำการทดสอบการรั่วของระบบท่อด้วยตนเอง เป็นหน้าที่ของผู้รับเหมา (และ/หรือ เจ้าของโครงการ) จะต้องจัดการให้เรียบร้อย หากเจ้าของบ้านพบว่ามีการรั่วของระบบก็ให้แจ้งผู้รับเหมา (และ/หรือ เจ้าของโครงการ)ให้มาซ่อมแซมตามเงื่อนไขการรับประกัน โดย "ทั่วไป" ของข้อกำหนดทางเทคนิค ผู้รับเหมาจะต้องทำการทดสอบรอยรั่วของระบบโดยการทำการอัดแรงดันในระบบไว้ไม่น้อยกว่า 100 psi (หรืออย่างน้อย 2 เท่าของแรงดันใช้งาน) ทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 30 นาทีก็พอเพียงแล้ว แต่ที่นิยมทำกันก็คืออัดแรงดันไว้ 150 psi ทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 1-2 ชม. (ไม่เคยเห็นใครทิ้งไว้ 24 ชม....พึ่งจะเห็นใน pantip นี่แหละ) ถ้าเป็นปั๊มน้ำขนาด 200 watt สำหรับใช้ตามบ้านขนาด 3 ห้องน้ำ ผมเห็นว่ามันใช้งานได้แต่เล็กไปหน่อย จากคุณ : คนงานก่อสร้าง - [ 11 ธ.ค. 49 09:17:42 A:124.121.34.182 X: TicketID:031038 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้ยืนยันเป็นการทดสอบท่อตามที่ได้ร่ำเรียนมาที่จำได้ครับ .....................   -----------------  ..........ลบๆๆๆ  ดีกว่า จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 11 ธ.ค. 49 12:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านผม 2 ชั้น 3 ห้องน้ำ 150 วัตต์ สบายๆ เลยครับ ผมยังไม่เห็นความจำเป็นต้องมากกว่านี้เลย จากคุณ : เดวิดเจียง - [ 11 ธ.ค. 49 17:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การใช้ปั้มน้ำนั้น จะบอกเอาง่ายๆ ว่าเท่านั้นเท่านี้ จึงจะพอ เห็นว่าง่ายเกินไป  หรือในทางกลับกัน จะบอกว่า เท่านี้เท่านั้น ก็เกินพอ ก็ง่ายไป ควรดูจาก "อัตราการใช้น้ำสูงสุด" เช่นมีกีอก ทั้งบ้าน กี่ก๊อก โอกาสที่จะเปิดพร้อมกันมีเท่าใด คิดคร่าวๆ ก็  25% - 50 % ของ จำนวนก๊อก แต่ละก๊อก ใช้น้ำประมาณ 15 ลิตร ต่อนาที สมมุติ มีก๊อก 20 ตัว คิด 25% ก็เหลือ 5 ตัว ใช้น้ำ 15 x 5  = 75 ลิตร ต่อนาที เห็นว่ามากโขอยู่ ถ้าคิด 50 % จะได้ 150 ลิตร ต่อนาที อย่างนี้ ปั้มเล็กๆ ไม่มีทางพอ เอาเป็นว่า minimum คือ 75 ลิตร พอได้ ประมาณการแล้ว จึงนำตัวเลขไปซื้อปั้ม ส่วนมันจะกี่วัตต์ ก็ช่างมัน หลักการของการใช้ปั้มคือ ให้มีการจ่ายน้ำอย่างพอเพียงต่อการใช้ จำนวนวัตต์ ไม่ได้ เป็นตัวบอกว่า น้ำแรงไม่แรง น้ำแรงไม่แรงนั้น ตั้งได้ ที่ pressure switch ส่วนการจ่ายน้ำ มากน้อยเพียงใด ขึ้นกับ spec ของเครื่อง ซึ่ง จะ relate กับ กำลังของเครื่อง อยู่มากทีเดียว ยิ่งบ้าน 3 - 4 ชั้น ละก้อ กำลังส่งจะลดลง ได้ถึง 40 % ทีเดียว ดังนั้น จำต้อง เลือกปั้ม ตามอัตราการใช้น้ำ และ ตั้ง pressure ให้เหมาะกับ อุปกรณ์ครับ ปกติ ถ้าเป็นบ้านสองชั้น ควรตั้ง pressure เปิด-ปิดไว้ที่  30 - 45 ปอนด์ (บางคนแนะนำที่ 20 - 40 ปอนด์)  ผมชอบน้ำแรง จึงตั้งไว้แรงหน่อย 45 ปอนด์ ก็ประมาณ 3.0 กก./ ตารางเซ็นต์ นับว่าไม่มาก และท่อ กะอุปกรณ์ ทนได้ ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นนั้น หลายเครื่อง จะทำงานได้ ต้องมี pressure อยู่ระหว่าง 1.5 - 2.5 Kg/cm^2 เราตั้ง ไว้ที่ 3.0 Kg ถือว่า ยังพอทนได้ ควรอ่าน ที่ plate ของเครื่องทำน้ำอุ่นครับ จะได้ชัวร์ ส่วนของบ้านผม รับได้ถึง 5.5 Kg เป็นเครื่อง ของ เยอรมันรุ่นเก๋า 50 ปีมาแล้ว  ยังใช้ได้ดี จากคุณ : น้าพร - [ 12 ธ.ค. 49 02:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมแนะนำจากประสบการณ์ตัวเองเท่านั้น และตั้งสมมติฐานเอาเองถึงขนาดบ้านและลักษณะการใช้งาน (บ้านผมก็ 3 ห้องน้ำเช่นกัน) ส่วนถ้าท่านคิดว่าขนาด 150 watt เพียงพอสำหรับบ้านของท่านและไม่เห็นจำเป็นต้องใหญ่กว่านี้ก็ตามสะดวกครับ แต่สำหรับผมไม่เอาแน่ๆครับ (ผมให้ความสำคัญกับงานระบบประกอบอาคารมากๆครับ และไม่เคยคิดที่จะประหยัดเงินค่าปั๊มน้ำ ส่วนใครที่จะจัดงบไว้ให้กับปั๊มน้ำบ้านตนเองน้อยๆแล้วไปเพิ่มให้ส่วนอื่น อันนี้ก็ว่ากันไม่ได้...) ส่วนที่ผมมักจะเรียกปั๊มเท่านั้นเท่านี้ watt ว่าพอหรือไม่พอนั้น ก็เพราะเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายเท่านั้น เห็นด้วยกับคุณน้าพรว่ากำลัง watt ของปั๊มไม่ได้เป็นตัวบอกว่าน้ำแรงหรือไม่แรง จากคุณ : คนงานก่อสร้าง - [ 12 ธ.ค. 49 14:34:47 A:124.121.30.237 X: TicketID:031038 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เออ...เออแบบ แรง ๆ  เลยนะ  ... ฝากถามว่า  นายคนนั้นอ่ะ  วิศวกร  หรือ  "วิศวกะ" ครับ... ปั๊มน้ำน่ะ เค้าวัดกันที่แรงดันว่ามากน้อยแค่ไหน  เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องการใช้งานหรือเปล่า วัตต์ของมอเตอรื ไม่ได้เกี่ยวว่า น้ำจะแรง หรือไม่แรง ครับ..... แล้วก็อย่างที่บางท่านบอกน่ะแหละ  ปั๊มน้ำน่ะ  แรงดันแค่ไม่ถึง 3 กิโล ต่อตารางเซ็น แต่เสป็คท่อ น่ะ  อย่างกลาง ๆ ก็  8.5 กก./ตารางเซ็น ครับ มันไม่ถึงครึ่งเลย.... มัน  "กะ"   เอาอย่างเดียว  ไม่ศึกษา  บ้างเลยนะเนี่ย... จากคุณ : HiPex - [ 12 ธ.ค. 49 16:47:55 ]