Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มีใครเคยย้ายบ้านหนีเพราะทนเพื่อนบ้านไม่ไหวบ้างครับ

    ผมอยู่บ้านเดี่ยวหลังนี้มา 12ปีแล้ว ปัจจุยันผมอายุ39ปี
    หมู่บ้านนี้ใช้วิธีผลัดกันเป็นกรรมการหมู่บ้านชุดละ1ปี  ผมก็เคยเป็น
    พบว่า ลูกบ้านจำนวนหนึ่งทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเดือดร้อนอะไร
    และไม่เคารพกฎกติกาอะไรเลย  อ้างว่าตัวเองมีสิทธิ์
    เพราะทำในที่ของตนเอง  และ/หรือ    ทำในที่สาธารณะส่วนกลาง  
    คนอื่นรวมทั้งกรรมการไม่มีสิทธืห้าม    กรรมมการเองก็ไม่อยากมีเรื่องก็ปล่อยผ่าน
    และภาวนาให้ครบ1ปี หมดวาระของตัวเองเร็วๆ  

    บ้านผมมีข้อดีหลายอย่าง  ใกล้ที่ทำงาน  ใกล้ รร ลูกเล็ก2คน
    ใกล้ทางด่วน,มอเตอร์เวย์  เข้าซอยไม่ลึก ไม่เปลี่ยว  ใกล้ห้างสรรพสินค้า
    หน้าบ้าน เป็นทะเลสาป  ไม่ต้องหันหน้าชนกับบ้านอื่น ทิศใต้ลมดี    มีเพื่อนบ้าน 3หลัง
    คือ  ซ้าย ชวา หลัง  (ทุกด้าน อายุมากกว่าผม15-20ปี)     ตลอดมาผมไม่ค่อยอยู่บ้าน
    เช้าก็ออกไปส่งลูก แล้วเลยไปทำงาน กว่าจะกลับก็เย็นมาก  
    นานๆมากจึงจะได้พูดจากับเพื่อนบ้าน  แต่ผมจะพูดดีด้วยเสมอ เรียก พวกเขาว่า พี่ ตลอด  
    เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ต้านขวา กับ ด้านหลัง 2-3ครั้ง เมื่อเขาทำให้ผมเดือดร้อน เช่น

    ด้านขวา ฉีดยาฆ่าแมลงบ่อยๆตรงต้นไม้ริมรั้วเตี้ย ระหว่างบ้าน
    ทำให้ครอบครัวผมต้อง หายใจรับยาฆ่าแมลงนั้นไปด้วย  
    เพราะฝั่งผมตรงนั้นเป็น ชิงช้าและสนามเล็กๆ ให้ลูกเล่น
    ผมบอกเขา เขาก็อ้างว่าเขาทำในบ้าน ผมมายุ่งอะไรด้วย
    ผมจึงขออนุญาติสามีเขาทำรั้วให้สูงขึ้น
    และจะฉาบ,ทาสีให้ด้านเขาด้วย โดยผมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด  สามีอนุญาติ

    พอผมจ้างช่างเข้ามาทำ  ภรรยาซึ่งอยู่บ้านทั้งวันข้ดขวางไม่ให้ทำ อ้างว่าจะทำให้บ้านเธอ
    เลอะเทอะเศษปูนทราย ถ้าผมต้องการทำรั้ว ก็ต้องทำราวแขวนต้นไม้ติดกำแพงให้เธอด้วย
    ผมอธิบายว่า รั้วสูงขึ้นมีผลดีต่อทั้ง 2ฝ่าย จะได้ทำอะไรได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
    ไม่ต้องเกรงว่าจะมีผลกระทบกับเพื่อนบ้าน   เธอบอกว่า เธอไม่สนใจ
    และเธอไม่ได้เป็นผู้อยากทำรั้วให้สูงขึ้น เป็นความปรารถนาของผมฝ่ายเดียว
    ผมจึงบอกว่า ผมขออนุญาติกับสามีเธอแล้ว  จึงจ่ายเงินซื้อของและว่าจ้างช่างมาทำ
    ถ้าเปลี่ยนใจจะไม่อนุญาติให้ทำ  ผมก็เสียหาย  ดังนั้นผมขอคุยกับสามีเขาหน่อย
    ภรรยาเขาโทรไปหาสามีที่ทำงานนอกบ้านอยู่  เขายังรักษาคำพูด
    โดยให้ช่างของผมทำงานได้ โดยไม่ต้องทำราวแขวนต้นไม้ติดกำแพง
    ผมก็สบายใจนึกว่าจบ    

    พอทำงานได้ครึ่งวัน  ช่างมาบอกผมว่า ขอเลิกไม่ทำงานนี้
    เพราะพอข้ามไปทำฝั่งโน้นเจอเสียงบ่นด่าตลอด  และเธอยังเอาไม้เสียบลูกชิ้นหลายไม้
    ปักเรียงยาวบนพื้นข้างกำแพง  ทำให้ทำงานยาก  กลัวไม้ทิ่มขาตอนปีนกำแพงทำงาน
    ผมต้องขอร้องช่าง และเพิ่มค่าแรงให้ งานจึงผ่านไปได้ใน7วัน
    แต่ก็นับว่าหมดปัญหายาฆ่าแมลงไปอย่างถาวร

    เพื่อนบ้านคนแรกเป็นปัญหาเล็กสำหรับผมครับ

    ปัญหาใหญ่คือด้านซ้าย   เขาเป้นเอเยนต์ค้า เหล้าเบียร์  ออกเงินกู้  
    เชาย้ายเข้ามาอยู่หลังผม6เดือน  

    1 . ตอนเขามาอยู่ใหม่ อยู่ๆมีช่างมาปีนกำแพง(ระหว่างบ้านผมกับบ้านเขา)  
    แล้วเข้ามายืนในบ้านผม เพื่อติดเหล็กแหลมบนกำแพงเป็นแนวยาวตลอด
    ในบ้านผม มีเพียงภรรยากับลูกอายุไม่กี่เดือน  ภรรยารีบโทรเรียกผมกลับบ้าน
    พอผมไปคุยกับเขาว่า ทำไมทำอย่างนี้ ไม่บอกหรือปรึกษากันก่อน
    เขาโวยวายว่า ผมไปหาเรื่องเขา  ผมควรจะเห็นเองว่า ช่างมาทำงาน
    ผมไม่อยากมีเรื่อง ก็เลยเดินหนีเข้าบ้าน

    2. ผ่านไป2-3ปี  อยู่ๆเอารถเครนมาจอดหน้าบ้านผม แล้วเอาต้นสัตยาบัน
    สูงประมาณ บ้าน3ชั้น มาปักบนพื้นที่ในบ้านเขา ห่างกำแพง(ระหว่างบ้านผมกับบ้านเขา)  
    ประมาณ1 เมตร  โดยยกต้นไม้ข้ามสนามบ้านผม   พอผมไปห้าม  
    เขาอ้างว่า ขออนุญาติกรรมการหมู่บ้านแล้ว  และ เขาใช้เพียงอากาศที่อยู่เหนือสนามบ้านผม
    ไม่ได้ใช้พื้นดินผมไม่มีสิทธิ์ห้าม    พอดีคนขับรถเครนมายกมือไหว้ผม ขอให้ผมยอม
    คิดว่าช่วยเหลือเขา เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้ค่ารถซึ่งขับมาไกล
    ผมจึงยอม    หลังจากนั้น ก็ยังทำอีก4-5ครั้งแต่ผมไม่อยู่บ้าน

    3. ต่อมากำแพงค่อยๆพังลงโดยเอนมาทางบ้านผม  ครอบครัวผมจึงไม่ค่อยอยากเดินไปใช้พื้นที่ด้านนั้น
    พอให้ช่างมาดู ช่างบอกว่าเป็นเพราะ แรงดันจากต้นไม้ใหญ่4-5ต้นฝั่งโน้น และดินที่เขาถมสูงขึ้น
    (ทางด้านผมไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นสนามโล่งๆ   ทางเขาทำเป็นสวนมีเนินและต้นไม้ใหญ่)
       ผมจึงโทรไปเสนอกับเขาว่า ให้ทุบกำแพงเก่าออก แล้วทำใหม่โดยออกเงืนคนละครึ่ง
        เขาตกลง แต่พอช่างเอาสัญญาไปให้เขาเซ็น  เขาเพิ่มเติมสัญญาลงไปว่า
    ถ้าสวนของเขาเสียหาย   ช่างต้องชดใช้        ช่างเลยไม่ยอมรับงาน
    ผมเลยให้ช่างสร้างกำแพงใหม่ร่นเข้ามาในที่ผม โดยผมออกเงินคนเดียว

    4. เขาเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่2-3ตัว  แล้วให้คนงานจูงมาเดินเล่นและถ่ายในสวนริมทะเลสาป
      คนงานก็ขี้เกียจจูง ปล่อยให้วิ่ง   เคยกัดคนแก่ที่เดินเล่น เข้า รพ
       พอผมเปิดประตูบ้าน จะเอารถเก็บเข้าบ้าน   หมาพวกนั้นเคยวิ่งเข้ามาในบ้านผม
       2-3ครั้ง   ลูกผมตกใจกลัวมาก

    5. ถังขยะไม่ยอมไว้หน้าบ้านตัวเองบอกว่าเหม็น  เลยมาวางไว้หน้าบ้านผม
    พอไปบอก  กลับหาว่าผมเอา ถังขยะบ้านผมไปวางหน้าบ้านเขาเหมือนกัน
    ทั้งที่ผมเอาอิฐก้อนใหญ่ตั้งกั้น ถังขยะให้อยู่หน้าบ้านคัวเองอยู่แล้ว

    6. กิ่งไม้และใบไม้งอกยื่นเข้ามาในบ้านผม  และใบไม้ร่วงในบ้านผมมาก
    เมื่อเดือนที่แล้วไปบอกเขา เขาบอกว่า ต้นไม้เขาเป็นพันธุ์ที่ใบไม่ร่วง
          พอผมชี้ให้ดู   เขาก็บอกว่า ให้ผมตัดส่วนที่ยื่นเข้ามาในบ้านผมเอง แต่ห้ามตัดล้ำมาในบ้านเขา
          ผมชี้แจงว่า ต้นไม้ของเขาทั้งสูงทั้งใหญ่   การตัดส่วนที่ยื่นเข้ามาเป็นเรื่องยาก
          เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย    เขาโมโหบอกว่า”เรื่องของมรึง” แล้วอาละวาด
           ด่า มีสัตว์เลื้อยคลาน ออกมาเต็มไปหมด ( ภรรยาเขาช่วยด่าด้วย )
            และ ทำทีว่าจะเข้ามาทำร้ายผม แต่ภรรยาเขาห้ามไว้

    ผมบอกเขาว่า ผมไม่พูดแบบคุณหรอก  ต่างคนต่างมีอายุ มีฐานะดี ไม่ควรทำแบบนี้

    จริงๆแล้วเขามีปัญหากับเพื่อนบ้านทีติดกับเขาทุกหลัง  ผมเคยปรึกษากรรมการ
    ซึ่งหลังบ้านติดกับเขา      กรรมการเปิดบ้านให้ผมดูว่า กรรมการเองก็โดน  
    เขาต่อเติมหลังบ้านโดยใช้กำแพงเป็นผนัง จนกำแพงทรุดร้าว
    และปลูกต้นไม้ใบเล็ก ร่วงเข้าไปในบ้านกรรมการเยอะ  ต้องกวาดเองทุกวัน
    แต่กรรมการก็ทำอะไรไม่ได้ เคยกดกริ่งขอคุย ก็ส่งคนงานออกมาไม่ยอมคุยด้วย

       ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร เพราะ

    1. ใช้กฎหมู่บ้าน  คณะกรรมการก็อ่อนแอ   ตัวเพื่อนบ้านก็ไม่รับฟังอยู่แล้ว

    2.   ใช้กฎหมาย  ตำรวจและ เขต ก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง  อีกทั้งจะสร้างความบาดหมาง
            เพิ่มขื้นอีก  บ้านอยู่ติดกันแบบนี้ ถ้ามีคดีความ เราอยู่บ้านจะไม่มี ความสุข

    3. ผมคุยกับเพื่อน  เขาบอกว่า 2หมื่นก็เรียบร้อยแล้ว  เขาเป็นคน ตจว  
    รู้จักมือปิน    ผมปฎิเสธ    ผมคิดว่า   ไม่ควรแข่งกันทำเลว ทำบาป
    เราทำเขาได้    ญาติมิตรเขาก็ทำเราได้เหมือนกัน


    ปีหน้าลูกผมต้องย้าย รร เข้าไปใจกลางเมือง  เดิมเคยคิดว่าจะซื้อคอนโดเล็กๆ อยู่ จ-ศ
    กลับบ้าน ส-อา       ตอนนี้เลยนึกว่าขายบ้านนี้ แล้วย้ายไปอยู่คอนโดถาวรเลยดีไหม
    แต่ครอบครัวผมอยู่บ้านเดี่ยวจนชิน  ถ้าต้องอยู่คอนโดตลอด คงอึดอัด
    และมีคนบอกว่าปัญหาเยอะกว่าบ้านเดี่ยว

    ถ้าเพื่อนๆเป็นผมจะทำอย่างไรดีครับ

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 15:02:16

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 13:31:39

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 10:43:30

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 10:42:23

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 10:40:57

    จากคุณ : bookboss - [ 17 ม.ค. 50 07:43:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom