ความคิดเห็นที่ 1 ซื้อ LCD ต้องดูอะไรบ้าง LCD มีคุณสมบัติ 2 ประเภทครับ คือที่ระบุเป็นตัวเลขได้  และระบุเป็นตัวเลขไม่ได้ คุณสมบัติที่เป็นตัวเลข - ที่สำคัญ - resolution , contrast ratio , response time - ความละเอียด ( resolution) หมายถึงจำนวนจุดของในการแสดงภาพ LCD   ปัจจุบันขั้นต่ำจะอยู่ที่ 1388X 768  ถ้าต่ำกว่านี้อย่าซื้อครับของตกรุ่นแน่นอน  ยิ่งมากยิ่งแพง  ซึ่งความละเอียดขนาดนี้จะทำให้ใช้กับ HD ได้ที่ 1080i และ 720 P ซึ่งเป็นความละเอียดสูงปานกลาง  สูงกว่า DVD ทั่วไปแต่ต่ำกว่า HD-DVD หากต้องการความละเอียดสูงสุด ปัจจุบันอยู่ที่ 1920 X 1080 ซึ่งแสดวผลได้แบบละเอียดที่สุดแต่จะต้องใช้กับ  HD-DVD player หรือ Media Player เฉพาะรุ่น  เวลาซื้อ  ไม่ต้องสนใจว่าที่โฆษณา เป็น HD-Ready  Full HD   HD-LCD  Native-HD  ให้ดูตัวเลขเป็นหลัก ครับ  เพราะเคยเจอจอ CRT โฆษณาว่า HD Ready แต่ความละเอียดต่ำก็มีครับ ข้อคิดในการดูความละเอียด - ตอนนี้คงอยู่ระหว่างจะเอาแบบ 1388 x 768(HD) ดี หรือ 1920X1080 (FULL HD)ดี ถ้าซื้อ FULL HD - แน่ใจว่าคุณมี source ที่จะดูได้แบบ FULL HD  หากมี FULL HD แต่เอามาเปิดดู TV , DVD ธรรมดา ผมว่าเราไม่ได้ใช้ส่วนที่มันดีขึ้นมาเลยครับ  ใช้ HD ธรรมดาก็เกินพอ จริงอยู่ภาพที่แสดงอาจจะละเอียดขึ้น  แต่ก็มาจากต้นทางที่มีความหยาบ  เราจึงได้ดูภาพที่หยาบบนจอที่ละเอียดครับในราคาต่างกันเยอะ  เอาไว้ตอนที่มีแผ่น HD เครื่องเล่น HD ออกมามากๆแล้วค่อยซือ  ตอนนั้นราคาก็ถูกลงเยอะแล้ว  ไม่ต้องซื้อรอ HD ครับ สินค้าเทคโนโลยีซื้อมารอก็ขาดทุนสถานเดียว ในเวลาซัก 2 ปีผมมั่นใจว่าคงกลายเป็นแบบ 1920X1080 หมด ตอนนี้ผู้ผลิตรอให้เกิด critical mass สำหรับ economy of scale แล้วราคาก็จะลดลง แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:34:43 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความเปรียบต่าง( Contrast Ratio - ที่เป็นจุดขายที่ sale ท่องไว้ขึ้นใจตอนนี้) หมายถึงอัตราส่วนความต่างระหว่างจุดมืดสุดกับจุดสว่างสุดว่าต่างกันกี่เท่ามีวัดกัน สองแบบคือ Typical ,Native : คือวัดโดยไม่ส่นใจ Backlight (เพราะว่า Backlight มีผลกับความสว่างสูงสุด) เพราะปกติความสว่างของจุดภาพนั้นมาจากความสว่างของจุดภาพ+ความสว่างของ Backlight  การวัดแบบนี้คือเอาเฉพาะความสว่างจุดภาพเพียวๆมาคิด Dynamic : คือวัดจุดมืดสุดเมื่อ Backlight ต่ำสุด และวัดจุดสว่างสุดตอน Backlight สว่างสุด   ความเปรียบต่างมีผลต่อผู้ชมอย่างไร ตัวอย่างเช่น LCD มี contrast ratio = 500 หมายความว่า  หากคุณดูหนังแบบฟิล์มนัวร์ หรือหนังที่มีเงามืดเยอะ ( หรือถ้านึกไม่ออกก็นี่ครับBatman )  ถ้ามีการเล่นแสงเงา  สมมุติว่าพระเอกส่องดูเพชรในความมืด  จุดที่มืดสุดแน่นอนว่ามีความสว่างเท่ากับ 0 แต่จุดสว่างบริเวณที่เพชรมีแสงประกายออกมานั้นมีความสว่างตั้งแต่ 450 ไล่ไปเรื่อยๆไปจนถึง  700   ถ้าจอมี contrast ต่ำก็จะว่าเพชรมีความสว่างแค่ 450-500 ที่เลยไปกว่านั้นก็จะเห็นเป็นแถบสว่างปื้นเดียวหมือนกันหมด  (saturated)เพราะจอแสดงได้แค่ 500จากเพชรน้ำเอกก็จะกลายเป็นเพชรรัสเซีย  แต่โดยปกติถ้าเป็นหนังทั่วไปอัตราความเปรียบต่างของภาพจะไม่ต่างกันมากขนาดนี้  ทั่วไปอยู่ที่ซัก 300-400  เพราะความเปรียบต่างคือความแตกต่างระหว่างจุดที่สว่างจ้า กับจุดมืดสนิท  มีน้อยมากครับที่ใครจะทำหนังให้มีภาพแบบนี้ไปตลอดเรื่อง  ดูแล้วปวดตา ข้อคิดในการดู Contrast สำหรับส่วนตัวผม Native Contrast แค่ 500!  ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ  อันนี้ต้องดูด้วยตาประกอบด้วย   เพราะตัวเลขนั้นบางที  ปั้นมาหลอกกันได้   ผมเคยเจอจอภาพ  contrast 400  ที่ดูดีกว่า contast  1200 ก็มีครับ  เนื่องจากการดู Contrast นั้นมีองค์ประกอบมากกว่าดูแค่ตัวเลข คือ 1. การปรับ Brightness ของจอในขณะนั้น 2.การปรับ Contast ของจอในขณะนั้น 3.การปรับ Backlight ในขณะนั้น 4.แสงรบกวนรอบข้าง 5.การปรับที่ Source -หนังที่ดู  และ ตัว DVD Player  กรณีที่เอาหนังมาเปิดดู ดังนั้น จอ 2 จอ หากองค์ประกอบทั้ง 4 ไม่เหมือนกัน  ยาก ที่จะบอกว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน    ถ้าเอาจอมาเทียบกันการปรับเพื่อให้อีกตัวนึงแย่กว่าทำได้ง่ายมาก เราควรทำอย่างไรดี อย่ากังวลกับตัวเลขมาก  ผมเชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันค่า Contrast ไม่ต่างกันมากนัก   หากอยากซื้อจริงให้เอาแผ่นแนวมืดๆไปลองดู  และลองปรับดูว่า ว่าตอนที่มีฉากมืดๆนั้น ความกลมกลืนของแสงกับรายละเอียดในที่มืดและที่สว่างนั้นเป็นอย่างไร  เช่นผิวเนื้อ  รอยยับของเสื้อผ้า  ถ้ามีของประกอบฉากที่มี texture เช่นเชือก ตาข่าย ผิวไม่  พวกนี้จะช่วยให้ดูง่ายขึ้น ถ้าเป็นปื้นไปหมด   ตัวเลข Contrast สูงเท่าไหร่ก็ไม่ work  สุดท้ายตัดสินด้วยตามากว่าตัวเลขครับ   โดยทั่วไปการลดปัญหาของ Contrast  Ration ต่ำ ก็คือลด  Brightness ลง เพื่อให้ภาพเข้าไปอยู่ในโซนที่มีการ saturate ให้น้อยที่สุด ปัญหาอีกประการของ LCDที่กวนใจมากคือ  จุดที่มืดแต่มันไม่มืดมีแสงสว่างเรื่อๆอยู่  อันนี้มีสาเหตุหลักคือ Back Light ครับ  เพราะ LCD บางรุ่น Contrast ไม่มาก แต่อาศัยเปิด Back light ให้มากเพื่อจะได้ดูสว่างเจิดจ้า   ซึ่งทำให้จุดมืดมันไม่มืด  เพราะความสว่างของจุดภาพนั้นมาจากความสว่างของจุดภาพ+ความสว่างของ Back Light (ที่มันเล็ดลอดออกมา)ดังนั้นหากจุดภาพนั้นมืดสนิท(0) แต่ดันเปิด Back lightไว้(ที่มีแสงเล็ดลอดออกมา)= 20  ภาพทีเห็นก็จะเท่ากับ (0+20) มันเลยไม่ยอมมืด ให้ลองลด Backlight จนภาพมืดสนิทดี  หลังจากนั้นค่อยเปิดหนังดู  หากรู้สึกว่ามันทึมๆไม่สว่าง   ก็แสดงว่าจอนั้นไม่ Work ครับ ส่วนสาเหตุอีกอันที่คนมองข้ามคือแผ่นที่เปิดกับเครื่อง DVD ครับ DVD Player บางรุ่นถูกตั้งค่ามาให้สว่าง  พอช่วงที่ภาพมันมืด   DVD ก็ยังส่งสัญญาณภาพมาว่ามีแสงสว่างอยู่นี๊ซซซนึง  ปรับที่จอเท่าไหร่ก็ไม่หาย   เจอบ่อยเสียด้วย DVD บางแผ่น โดยเฉพาะ concert  โดยส่วนใหญ่ภาพมันไม่มืดจริงครับ  ภาพที่เราเห็นว่ามีแสงเรื่อก็เพราะต้นทางมันมีแสงเรื่อมาตั้งแต่แรก ถามว่าทำไมดูบน CRT แล้วมันมืดแต่ดูใน LCD แล้วไม่มืด   นั่นก็เป็นเพราะลักษณะการแสดงภาพของจุดภาพ CRT  (โดยย่อ แสงจาก CRT นั้นมีทิศทางพุ่งเข้าสู่ตาเราสูงกว่า LCD ที่แสงมีการกระจายตัว)นั้นมีความสว่างจ้ามากกว่า LCD ครับ  เวลาจุดภาพที่แสดงไกล้กันอีกอันสว่างจ้าจะทำให้อีกจุดภาพที่แสงน้อยกว่ามากจะดูมืดกว่าปกติครับ   ลองมองดูไฟฉายตรงๆสิครับ   หน้ามืดมองอะไรไม่เห็นไปเลย แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:38:54 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:22:49 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:19:02 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:06:55 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Response time - เวลาทีจุดภาพใช้ในการปิด-เปิดให้แสงผ่าน LCD แสดงผลโดยอาศัยการบิดตัวของผลึกเหลว  ที่จะให้แสงผ่านมาก-น้อยตามองศาการบิด คล้ายกับม่านที่ใช้ใน office ที่ มีม่านเป็นแถบ(Blind)แล้วบิดเพื่อบังตาได้ครับ   ซึ่งในการบิดตัวนั้นแต่ละครังก็จะต้องใช้เวลาอยู่ค่านึง  ค่านี้เรียกว่า response timeค่านี้จะเป็นตัวที่บอกว่า  จุดภาพจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันกับความเคลื่อนไหวของภาพหรือไม่ เช่นพระเอกจุดเทียนอยู่ในความมืด (อีกแล้วครับท่าน) พอดีผีกำลังมาเลยมีลมกรรโชกทำให้เทียนดับอย่างฉับพลัน(ถ้าเป็นในโรงจะทำให้แฟนคุณตกใจสะดุ้งโผเข้าหาคุณ ทันทีคุณอาจใช้จังหวะนี้หอมแก้มเธอได้ 1 ครั้ง)  แต่ภาพในจอมันไม่ดับทันทีครับ  ยังมีเงารางๆของเปลวเทียนอยู่ (เพราะว่าจุดภาพที่แสดงเปลวเทียน มันบิดตัวไม่ทัน  ในระหว่างทีมันบิดตัวอยู่ก็ทำให้มันมีแสงลอดออกมาได้)  ค่านี้สำคัญเพราะว่าเวลาคุณดูหนังภาพมันจะเปลี่ยนตลอดเวลา  หาก Response Time สูงก็มักจะมีเงารางๆของภาพเดิมปรากฏอยู่เรื่อยๆที่เรียกว่า ghosting ดูแล้วจะรำคาญมาก     ให้สังเกตุง่ายในการดูกีฬาเช่นเทนนิส หรือฟุตบอล  หาก response time สูง ลูกเทนนิสเวลาเคลื่อนที่มักจะเเป็นแถบขาวไล่หลัง(tailing) แต่ต้องดูเทียบกับเครื่องอื่นด้วยนะครับ เพราะบางทีภาพมันยืดมาจากสถานีหรือ DVD ก็มี   โดยส่วนตัวผมไม่สามารถอดทนดูได้เลยครับ  ที่ทำงานผมมี Plasma 42. รุ่น 2 ปีที่แล้ว ที่ดูเทนนิสทีไรปวดหัวตลอดก็เพราะเจ้า response time นี่แหละ ค่า response time ยิ่งต่ำยิ่งดี   แต่ถ้า response time ตั้งแต่ 12 ms ลงมา  ตาผมไม่สามารถแยกแยะได้เลยครับ  คือ 12 ms กับ 5 ms ผมก็ไม่เห็นเงาปรากฎเหมือนกัน  สำหรับผมถ้าจอที่ response time แค่ 6 ms แต่แพงกว่าจอ 10 ms ผมก็ซื้อ10 ms ครับเพราะผมมองไม่ออก ไม่รู้จ่ายแพงทำไม อย่างที่ผมบอกสุดท้ายตัดสินด้วยตาครับ เอาแผ่นที่มีการเคลื่อนที่เร็วและมีความเปลี่ยนแปลงความสว่างเร็ว เช่นติดดับในทันที  จะมองเห็นชัดครับ  อย่าลืมว่าตัวเลขปั้นได้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:21:58 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:04:26 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณสมบัติที่ไม่เป็นตัวเลข LCD มีคุณสมบัติหลายอย่างที่เป็นเชิงคุณภาพ (Qualitative) ไม่สามารถนับเป็นตัวเลขได้ ที่สำคัญได้แก่ การลดสัญญาณรบกวน (Noise Reduction) เนื่องจาก LCD มีความละเอียดสูงกว่า TVทั่วไปประมาณ 4 เท่า  ดังนั้นเวลาแสดงผลจึงขยายสัญญาณรบกวนออกไป 4 เท่าด้วยในสัดส่วนที่เท่ากัน  แต่ทีนี้มนุษย์เรามีความอดทนต่อ Noiseจำกัด  เช่น Noise 100 จุดก็เฉยๆเพราะไม่มีนัยสำคัญ  แจ่ถ้า Noise มากกว่า 300 จุด  อาจจะรู้สึกรำคาญและทนไม่ได้  เพราะมันเริ่มเห็นชัดขึ้นโดยไม่คำนึงว่าภาพนั้นจะใหญ่หรือเล็ก ปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนมีผลน้อยมากกับการดู DVD (ผ่านช่อง Component หรือ HDMI) เพราะไม่ค่อยมี Noise ซึ่งเมื่อขยายแล้วก็ยังถือว่าน้อยแต่จะเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับการรับชม TV  เพราะสัญญาณ TV นั้น Noise เยอะอยู่แล้วพอมาโดนขยายเข้าเลยยิ่งแย่ไปอีก  ใครเอา LCD  ไปดู TV แล้วหวังว่าจะเนียนเหมือน DVD เลยผิดหวังมากมากๆๆๆๆๆๆ โดยทั่วไป TV ทุกยี่ห้อก็มีเรื่อง Noise Reduction มาด้วย  ดีบ้าง  ธรรมดาบ้าง  แต่ที่ผมเคยเห็นว่าดีมากๆคือ Pixel Plus ของ PHILIPS ครับ  เขาชำนาญมาตั้งแต่สมัยจอ CRTภาพชัดกิ๊ก Noise แทบไม่มี  ตอนเป็น CRT ก็ราคาแพงมากกครับ 29" สมัยก่อนผมซื้อมา 69900 ถ้วน  แต่คุ้มครับปัจจับันยังไม่เห็นว่ารุ่นไหนกินกันลง เข้าใจว่า LCDของเขาปัจจุบันรุ่นแพงก็น่าจะมีเทคโนโลยีนี้ด้วย ถ้าซื้อไปดู TVเป็นหลัก ตัวนี้สำคัญมากครับเพราะเป็นตัวกระตุ้นต่อมรำคาญที่มีประสิทธิภาพมาก  อันนี้เวลาซื้อให้ลองดูแล้วเทียบกันครับ   แต่ในห้างบางที่ถ้าตอนที่ทดสอบสัญญาณโทรทัศน์มันไม่ดีมาก  เช่นภาพล้มหรือ Noise เยอะเกินไป   ให้ Noise Reduction ดียังไงก็ดูไม่ออกครับ  เพราะผลออกมาห่วยพอกัน  เลยไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีกว่า ผมเคยลองซื้อ TV reciever ที่ให้ Output ออกมาเป็น DB-15 ที่ ความละเอียดสูงแล้วส่งเข้า LCD ผลออกมาภาพดีขึ้น  เนียนขึ้นเยอะ Noise ก็หายไป  แต่สีไม่สวยครับ  เลยถอดออกใช้ภาครับของ LCD เหมือนเดิม ข้อแนะนำสำหรับคนที่นำไปดู TV คือ เนื่องจาก LCD ไวกับ Noise เป็นพิเศษ  เราอาจจะต้องช่วยมันหน่อย โดยการทำความสะอาดขั้วต่อสายอากาศทั้งหลายก่อนเข้าเครื่อง  หรือใช้บูสเตอร์ขยายสัญญาณโทรทัศน์ให้สูงขึ้นกว่า Noise มากๆ   Noise ก็จะลดลงได้มากพอสมควร แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:33:52 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ความกลมกลืนของของสีทั่วทั้งจอภาพ อันนี้ต้องดูเวลาจอภาพแสดงสีใดสีหนึ่งทั้งจอแล้วสีมันสม่ำเสมอหรือเปล่า    ลองดูที่ สีขาวเป็นหลักก่อนครับ  ถ้าบางที่ขาว  บางที่เทา   อันนี้มีปัญหาครับ ความกลมกลืนของสี ดูว่าเวลาไล่สีนั้นกลมกลืนหรือไม่  เพราะบางทีการตอบสนองของสีไม่เป็นเชิงเส้น  แทนที่สีจะค่อยๆเข้ม  แต่สีกระโดดออกมาเข้มมากกว่าปกติเป็นบางช่วง เอาหนังที่มีฉากคุ้นตาไปทดสอบดูจะช่วยได้ครับ ความคมชัดของภาพ อันนี้จะขึ้นอยู่กับการประมวลผลภาพก่อนที่จะฉายขึ้นจอด้วย Digital Processing (ง่ายๆ ก็นึกถึงโปรแกรม photoshop)  ว่าจะให้คมจะให้สว่าง  ลบรอยตีนกา  ทำจั๊กกะแร้ให้ขาว ก็ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละยี่ห้อก็มีเทคนิคของตัวเองให้ภาพดูดึงดูดใจผู้ซื้อ คุณภาพของภาพหลังจากผ่านการขยาย ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Source ของสัญญาณที่เป็น HD จริงๆ  ภาพที่แสดงจะเป็นภาพผ่านการขยายทั้งสิ้น เพราะทั้ง DVD และ TV ต่างก็มีความละเอียดต่ำกว่า LCD และมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับกับตัวประมวลผลในการขยาย ภาพของ LCD ว่าจะทำได้ดีหรือไม่ ถ้าทำแบบทื่อๆเลย  ภาพก็จะเป็นหยักๆ  โดยเฉพาะเส้นโค้งต่างๆ   แต่ถ้าตัวประมวลผลดีก็จะมีการเกลี่ยสีให้ดูกลมกลืน แต่..... ที่สำคัญ  DVD Player ก็มีส่วนสำคัญครับเพราะDVD บางตัวให้ภาพที่มีรอยหยักมาตั้งแต่ต้น    ซึ่งกรณีนี้ Processcor ใน LCD ก็ช่วยไม่ได้  ขอเน้นเป็นพิเศษว่าเวลาทดสอบดูพยายามเลือก DVD รุ่นที่ดีที่สุดมาลองดูครับ  จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง   ส่วนจะลองยังไงได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านว่าจะอำนวยความสะดวกคุณหรือเปล่า   บางที่เขาก็รำคาญเอาได้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:26:22 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สรุป 1.จะเห็นว่าผมเน้นการ"ดู"ของเราเป็นสำคัญ   เพราะจากประสบการณ์ผม เชื่อว่า ตาของเราจะตัดสินได้ดีที่สุด แต่  ....  แต่ต้องรู้ครับว่าจะดูอะไร  เพื่ออะไร  หากไปยืนดู Demo ของคนขายรับรองภาพสวยหมดเพราะอะไร ที่แสดงจุดออ่นออกมาเขาก็ไม่ฉายให้เราดูอยู่แล้ว 2.เข้าใจความต้องการของเราเอง  ซื้อโดยอยู่บนพื้นฐาน Price/Benefit ครับ ไม่ใช่ Price/Feature     เพราะฟีเจอร์หลายๆอย่างประดามี  ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้ใช้แน่ก็ไม่ต้องไปจ่ายเงินแพง  อะไรที่เราซื้อแล้วเรา"ใช้" ได้สูงสุดคือคุ้มสุดครับ  เช่นหากไม่ดู TV เลย  Noise Reduction  ก็ไม่ต้องให้ความสำคัญเป็นต้น 3.จอที่ฉายโชว์ในห้างนั้นส่วนใหญ่จะตั้งค่าไว้ให้สว่างและคมชัดมากกว่าปกติครับเพราะแสงแวดล้อมมาก  และต้องการแข่งกันดึงดูดลูกค้า  เวลาดูที่บ้านจะต้องลดลงมาพอสมควร 4.ไม้ตายของพนักงานขาย  คือ เมื่อเห็นว่าเกลี้ยกล่อมคุณไม่สำเร็จแล้ว จะใช้วิธีสาดโคลนคู่แข่ง  แบบว่ามันห่วยยังโง้นยังงี้  เพื่อให้คุณไม่สบายใจ  ไม่มั่นใจและไม่กล้าซื้อ เพราะธรรมดานิสัยคนไทยเรา  จิ้งจกทักก็ยังฟังเกิดซื้อไปตัวก็ไม่เล็ก ราคาก็ไม่ถูก แล้วเป็นดังที่ว่า ก็จะรู้สึกผิด "เห็นมั๊ย  เขาทักแล้วก็ไม่เชื่อ โสน้าหน้า"  โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีจะหวั่นไหวง่ายเป็นพิเศษ                อันนี้ต้องหนักแน่นครับ  ฟังหูไว้หู  เพราะเขาก็ต้องทำหน้าที่เขา(ถึงแม้ใช้วิธีการที่ ไม่ถูกต้องนัก และข้อมูลทีให้นั้นแทบจะไม่มีมูลความจริงก็ตาม)  ต้นเดือนที่ผ่านมาผมต้องเข้าไปช่วยเพื่อนเลือกซื้อ LCD ก็เพราะเหตุนี้หละครับ  เป็น LCD 32" ของจีนราคาถูกมาก  เพื่อนดูแล้วก็ว่าดี  แต่เจอพนักงานขาย 3 คน รุมกระหน่ำซะจนไม่กล้าซื้อ  ต้องกลับมาตามผมไปช่วยดูสุดท้ายก็ตกลงใจซื้อครับ (ท่ามกลางสายตา  ดูแคลนของพนักงานขายที่ผิดหวังหลายคู่)  เธอบอกว่าถ้าไม่มีเพื่อนมาด้วยยังไงเธอก็คงไม่กล้าซื้อ  อาทิตย์ที่แล้วยังโทรมาขอบคุณผมอยู่เลย  เพราะว่าเธอ happy กับคุณภาพที่ได้มาก(ดีกว่าที่เธอคาดหมายไว้มาก)  ผมยังเตือนเธอไปบอกให้รอดูอีกหน่อยเผื่อมันยืนระยะไม่นาน จบแค่นี้ครับ  ขอให้มีความสุขกับ LCD ตัวใหม่ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:28:27 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:20:19 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 17:19:42 จากคุณ : suratin_tom - [ 26 ก.พ. 50 15:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากสำหรับข้อเขียนที่เป็นประโยชน์ ผมเองกำลังจะซื้อ LCD 46-47 นิ้ว เดินดูไม่รู้กี่รอบตัดสินใจไม่ถูก ชอบความสวยของSony รุ่นใหม่ x series แต่แพงระเบิด ลองดูทีวี พบว่าของ Samsung ให้สีสวยกว่า Sony ราคาก็เท่าๆกัน แต่ก็ชอบ Sony มากกว่า แต่กลัวว่าเอาไปดู ยูบีซี แล้วไม่ชัด (ที่บ้านสัญญานอนาล๊อด ของยูบีซี สูงมาก ดูทีวีธรรมดา34 นิ้ว ชัดมาก) วันนี้เห็นที่เซ็นทรัลบางนา เอาเครื่อง 47 นิ้ว ของ Philips Toshiba เป็น full HD มาขายที่ราว 125000 บาท จอใหญ่ดี ลองดูทีวีธรรมดา ของPhilips สีไม่สวยมาก อาจเป็นเพราะสัญญาณไม่ดี ส่วน Toshiba แบบไม่สวยเท่าไร ส่วน JVC มีขนาด 46 นิ้ว เป็น full HD เหมือนกัน ราคา145000 บาท แต่แถม LCD อีกเครื่องหนึ่ง..โดยสรุปก็ยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะมีงบแสนกว่าๆเอง อยากได้ Full HD แต่ด้วยงบที่มี ก็ยังหาเครื่องถูกใจไม่ได้ เพราะอยากได้สวยด้วย ภาพยูบีซี ชัดด้วย ไว้ดูบอล กับกอล์ฟ แต่ชอบข้อเขียนของคนตั้งกระทู้มาก ถ้ามีคำแนะนำอะไรดีๆ ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆๆ(ไม่รู้ Sony V series ดูยูบีซี ชัดไหมครับ เพราะอยู่ในงบ) จากคุณ : อ้วน - [ 26 ก.พ. 50 16:17:56 A:210.86.182.238 X: TicketID:139258 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ ได้อย่างดีเลยครับ จากคุณ : HK-G36C - [ 26 ก.พ. 50 16:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ  มีประโยชน์มากเลยครับ จากคุณ : TONjija - [ 26 ก.พ. 50 16:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจ๋งครับ จากคุณ : muuther - [ 26 ก.พ. 50 16:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมครับ จากคุณ : kevin{the man} - [ 26 ก.พ. 50 17:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเจ้าของกระทู้ไม่ทราบใช้รุ่นไหนอยู่ หรือ ถ้ายังไม่ได้ซื้อ ไม่ทราบว่ามีรุ่นไหนอยู่ในใจครับ (คนที่มีความรู้มาก ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง จริงไหมครับ) จากคุณ : bookiekid - [ 26 ก.พ. 50 17:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วยเข้ามาให้ความรู้อีกนะครับ จากคุณ : silly1 (silly1) - [ 26 ก.พ. 50 18:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถามเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ ทำไมผมดูทีวีระบบ Pixel Plus ของฟิลิปส์ ทุกครั้ง (ดูตามห้าง) ผมว่าภาพมันเคลื่อนไหวแปลกๆ  ไม่เป็นธรรมชาติเลย แต่ต้องยอมรับเรื่องความคมชัด สีสรร ผมว่าสุดยอด ผมติดอยู่เรื่องของภาพเคลื่อนไหว เอาเป็นว่าถ้าผมยืนดูซัก ห้านาที ผมจะอ้วก เพราะเมานะครับ ไม่ทราบว่าเคยเจอใครมีอาการแบบผมหรือเปล่า ตามความเห็นของผม คงจะเป็นผมอยู่คนเดียวมังครับ ที่เกิดอาการแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นมาอ่านแล้วจะกลัว ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่มาแบ่งปันความรู้กัน จากคุณ : asawavet - [ 26 ก.พ. 50 18:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ ข้อมูลแน่นมาก ตอนนี้คิดเหมือน คห.12 เลยค่ะ คิก คิก จากคุณ : xMonkey - [ 26 ก.พ. 50 18:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ...เสียดายมาอ่านช้าไป...ผมเพิ่งสั่งซื้อที่ PW-buy สงสัยพนักงานกล่อมผมสะอยู่เลย ..ตอนแรกจะอาชาร์ป แต่ตอนจ่ายตังเอาtosiba wl66t..บอกตรงๆผมซื้อโดยไม่เข้าใจเท่าไหร่...ซื้อเพราะพนักงานบอกว่าดีกว่า.. จากคุณ : pichai46 - [ 26 ก.พ. 50 18:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ จากคุณ : สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง - [ 26 ก.พ. 50 19:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจ๋งเป็งครับ จากคุณ : peter7710 - [ 26 ก.พ. 50 20:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กำลังจะซื้ออยู่เหมือนกัน ได้ความรู้มากๆครับ จากคุณ : ไผ่ใบเขียว (Tpbz) - [ 26 ก.พ. 50 23:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วฟิลิปส์ เป็นยังไง ของเค้า 4 เอ็มเอส (พลัส 2) ครับ จากคุณ : บลูเรย์ - [ 27 ก.พ. 50 08:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เจ้าของกระทู้ให้ความรู้ดีมากๆครับ เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ LCD TV มากครับ จากคุณ : brutus_103tfs - [ 27 ก.พ. 50 10:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 " พอดีผีกำลังมาเลยมีลมกรรโชกทำให้เทียนดับอย่างฉับพลัน(ถ้าเป็นในโรงจะทำให้แฟนคุณตกใจสะดุ้งโผเข้าหาคุณ ทันทีคุณอาจใช้จังหวะนี้หอมแก้มเธอได้ 1 ครั้ง " อย่าให้รู้เบอร์แฟนนะครับ มีเผาแน่ ๆ หุหุ แหมตอนนี้กระแส LCD มาแรงเหลือเกิน อยากให้พี่suratin_tomจัดกระทู้ให้คะแนน เฉพาะทางจริง ๆ ครับ เหมือนกนังสือ Chip WHM ประมาณ ถ้าดู ฟรีทีวี รุ่น xxx ดีที่สุด แต่ยี่ห้อ yyy คุ้มราคาที่สุด ประมาณนี้อ่ะคับ จากคุณ : พี่หมี (meecom) - [ 27 ก.พ. 50 11:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วยโหวตให้กระทู้ดี ๆ นี้อยู่นาน ๆ จากคุณ : พี่มีให้แค่นี้จริง ๆ.. - [ 27 ก.พ. 50 14:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาติชมครับ   ผมขอตอบถามเพื่อนๆที่ถามไว้ตามลำดับนะครับ คำถามคุณอ้วน ในความเห็นที่ 7. ผมแนะนำว่าคุณอ้วนค่อยๆจัดเรียงความต้องการให้เป็นระบบก่อนครับ   จากข้อมูลที่ให้ผมพออนุมานได้ดังนี้ครับ -ขนาดที่ต้องการ  >46" -ลักษณะการดูส่วนใหญ่ - Analog input โดยช่อง AV (จาก UBC) -งบประมาณ   100,000 +/- -ยี่ห้อที่ชอบ - (ถ้ามี ) ผมแนะนำวิธีการเลือกดังนี้ครับ  ตัดสินใจให้ได้ก่อนว่า 1.จะซื้อรุ่นสูงสุดตามงบที่มี หรือ 2.งบอาจยืดหยุ่นได้แต่จะซื้อเผื่ออนาคตไปเลย เพราะ ผบทบ.(ถ้ามี :=) ล้อเล่นครับ)  อาจจะไม่อนุญาตให้ซื้ออีกภายใน 2 ปีนี้ เดี๋ยว HD-DVD Player ออกมาก็จะซื้อมาเล่นได้เลย 3.ซื้อแบบพอเพียง  ให้ได้ใช้งานสูงสุดตามความต้องการโดยใช้งบน้อยที่สุด เพราะถ้าตัดสินใจเชิงนโยบาย (อะแฮ่ม ดูจริงจังมากเลย) ข้างต้นได้  ก็จะทำให้ตัวเลือกน้อยลงครับ 1.ถ้าเลือกข้อ 1.  ตัวใหนที่เกิน 100,000.- ก็ตัดทิ้งได้เลย 2.ถ้าเลือกตัวที่ 2. ตัวใหนไม่ใช่ FULL  HD  ก็ตัดทิ้งได้เลย 3.ถ้าเลือกข้อนี้  เกิน 100,000 และ FULL  HD ก็ตัดทิ้งได้เลย  เพราะความต้องการใช้งานปัจจุบันดูไม่สูงนัก วิธีการทดสอบ เนื่องจากดู UBC เป็นหลัก  สัญญาณจาก UBC ส่วนใหญ่สัญญาณรบกวนจะไม่สูงมาก ความคมชัดจะอยู่ราวๆ SVCD สิ่งที่ทดสอบแล้วไกล้เคียงกับ UBC ที่สุด (ดีกว่า UBC นิดหน่อย) ก็คือการต่อกับ DVD Player โดยผ่าน ช่อง AV ครับ สิ่งที่เราจะดูก็คือ  คุณภาพการขยายภาพจากความละเอียดต่ำจาก Analog Input แล้วแสดงบนจอ 46" นั้นภาพดูเป็นอย่างไร แล้วเทียบกันดูครับ  ดูกลมกลืนของสี  ความสดใสของภาพ  แล้วค่อยมาดูความเปรียบต่าง  ดูในฉากมืดๆตามที่แนะนำข้างบน ให้เอาหนังที่เราดูคุ้นตาไปทดสอบนะครับ  จะได้จำได้  ถ้าให้ดีเอาหนังเรื่องทรอย ไปทดสอบครับ  จะได้เห็นเวลากองทหารแสนคน อยู่หน้ากำแพง   หมุดที่อยู่บนชุดเกราะของทหารคนหลังๆ  LCD มัน Process จนเละกายเป็นปื้นหรือเปล่า  ฉากใหนที่มี Detail เยอะ ให้ Pauseไว้ก็ดีครับเพราะจะดูไม่ทัน ถ้าทดสอบข้างต้นเป็นที่พอใจก็จะหลือแนวสี  ว่าชอบแบบใหนครับ แบบ Vivid ฉูดฉาดหน่อยหรือ Conservative ที่สุขุมอันนี้แล้ว แต่ความชอบครับ  ถ้าชอบเท่ากันก็ตัดสินด้วยราคาและของแถมครับ  แต่ถ้าของแถมอันไหนดูไม่จำเป็น  ก็เอาที่ราคาถูกดีกว่าครับ ของไม่อยากได้เอาไปก็รกบ้าน ส่วนอีกอันคือการบริการหลังการขาย  แต่อันนี้ตัดสินยาก  เพราะทุกคน"บอกว่า" ดีหมด ฟันธงไม่ได้ ขอสั้นสั้นแค่นี้ละกันครับ จากคุณ : suratin_tom (suratin_tom) - [ 27 ก.พ. 50 15:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คำถามที่ 12 - ผมใช้หรือเล็งรุ่นไหน ผมเลือกที่จะรอให้ฝุ่นควันของ HD-DVD WAR จางลงก่อนครับ  ตอนนี้ผมเห็นว่าเป็นช่องปลายของ HD LCD และช่วงต้นของ FULL HD  หากเรื่อง Software และ Source ลงตัว  LCD ทั้งหมดก็จะเป็น FULL HD หมด  แล้วตอนนั้นราคาก็จะคุ้มค่ากว่าตอนนี้มาก ทั้งจอภาพและ Player ครับ  สำหรับผม HD LCD เป็นแค่ช่วงรอยต่อ (interim)เพื่อรอให้ตลาดพร้อมสำหรับการมาของ FULL HD ครับ   จะเห็นว่าอายุในตลาดของ HD LCD นั้นสั้นมาก  ปีนึงเห็นจะได้  และตอนนี้ก็จะถูก FULL HD ไล่ออกมาเรื่อยๆครับ ในแง่การผลิตผมเข้าใจว่าต้นทุนไม่ต่างกันมากครับ   ราคาที่สูงของ FULL  HD ก็เพื่อ subsidize ราคาที่ต่ำลงของ HD และเนื่องจากเป็น การเข้ามาใหม่  ก็เป็นธรรมชาติที่จะต้องมีกำไรสูงครับ   แต่ผมคงอดทนรอได้ไม่นานมาเหมือนกันครับ  กิเลสค่อนข้างจะเรียกร้องหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ตัดสินใจจะซื้อผมคงค่อยเปรียบเทียบอีกทีครับ  ตอนนี้ไม่ค่อยมีข้อมูลของแต่ละยี่ห้อเท่าไหร่ เพราะยังไม่คิดซื้อครับ   ช่วงนี้เลยต้องเล่น Nintendo Wii ฆ่าเวลาไปก่อนเพื่อข่มกิเลสไม่ให้ใจเร็วด่วนได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Suratin_tom (suratin_tom) - [ 27 ก.พ. 50 15:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ -- อัดแน่นไปด้วยความรู้จริงๆ ^^ . แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 17:36:56 จากคุณ : ~ Rain Or Shine ~ - [ 27 ก.พ. 50 17:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ ชัดเจนดีครับกำลังตัดสินใจอยู่ Jvc 32ex6 ดีไหมครับแล้วเทียบกับ Jvc 32Fx6 อันไหนดีต่างกันอยู่ 5000 บาท จากคุณ : GT-Four - [ 27 ก.พ. 50 19:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ดูพิกเซล พลัสแล้วเวียนหัวเหมือนกัน ไม่งั้นคงสอยแล้ว ชอบสีของมันจริงๆ จากคุณ : . - [ 27 ก.พ. 50 21:14:15 A:125.24.133.184 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับคำตอบ ผม ตัดสินใจจะซื้อ LCD full HD ของ Sony ครับ เพราะเห็นว่าชัดสุด และสวยกว่ายี่ห้ออื่นๆ คงเป็นอุปกรณ์ที่เสริมเข้าไปให้ชัดขึ้น ว่าจะหาร้านที่ถูกสุด ผบ สส ที่บ้านบอกถ้าไม่ซื้อ Sony อย่าเอามาให้เห็น แต่ อาจรอสักนิด อยากได้ราคาอยู่ในงบ เพราะคิดว่า อีกสักเดือนสองเดือน ราคาน่าจะถูกลง เพราะตอนนี้ เห็นยอดขายเครื่องไฟฟ้าลดลงถึง 10% ถ้าขายแพงๆ และมีคู่แข่งมากขึ้น ราคาน่าจะลดลงอีก ดู Samsung ตอนนี้ รุ่น 1 Mega pixel แถม Sony 40 นิ้วอีกเครื่อง คงขายไม่ค่อยออก และ อาจตกรุ่นเร็วๆนี้ แต่ ขอบคุณจริงๆสำหรับคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมมากๆ จากคุณ : อ้วน - [ 27 ก.พ. 50 22:43:26 A:124.120.170.134 X: TicketID:139258 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แผงวงจรก็สำคัญเหมือนกานเน้อ อย่างของโซนี่ที่เปลี่ยนจาก เวก้าเอนจิน มาเป็น บราเวีย เอนจิน ก็เพราะ เวก้าไม่มีวงจรอัพสเกลในตัว แต่บราเวียมีวงจรอัพสเกล 480 ให้กลายเป็น 1080 ได้ในตัว จึงไม่แปลกที่บางคนดูฟรีทีวีจากซีรีย์ X หรือ SXRD แล้วภาพฟรีทีวีชัดกว่า LCD ตัวอื่นแม้กระทั่งของโซนี่เองด้วยซ้ำไป ครับ จากคุณ : monjangja - [ 27 ก.พ. 50 22:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แหม.. จขกท เล่น wii ฆ่าเวลา.. อยากเล่นด้วยจังครับ.. ตอนนี้ได้แต่เอา NDSLite มาเหวี่ยงแทน... กระทู้นี้มีประโยชน์มากจริงๆโดยเฉพาะสำหรับผมที่ไม่รู้อะไรเลยและกำัลังเริ่มจะเล็งๆเอาไว้บ้าง "การลดสัญญาณรบกวน (Noise Reduction) เนื่องจาก LCD มีความละเอียดสูงกว่า TVทั่วไปประมาณ 4 เท่า  ดังนั้นเวลาแสดงผลจึงขยายสัญญาณรบกวนออกไป 4 เท่าด้วยในสัดส่วนที่เท่ากัน " ^ ^^ ^^^ ผมอยากรบกวนถามว่าถ้าซื้อ LCD มาดู TV เราจะสามารถ set ให้มันไม่ต้องขยายสัญญาณได้มั้ยครับ ถ้าไม่ได้ก็คือต้องดูที่ Noise Reduction อย่างเดียวเท่านั้นใช่มั้ยครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 23:20:42 จากคุณ : namit - [ 27 ก.พ. 50 23:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ สิ่งที่น่าจะดูอีกอย่างนึงคือเรื่อง Input ของภาพที่รับได้ครับ ดังที่ทราบกันว่าสัญญาณภาพแบบ HD นั้นแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 720p คือ สัญญาณภาพความละเอียด 1280x720 แบบ Progressive 1080i คือ สัญญาณภาพความละเอียด 1920x1080 แบบ Interlace 1080p คือ สัญญาณภาพความละเอียด 1920x1080 แบบ Progressive ซึ่งมาตรฐานของภาพใน Format รุ่นใหม่ คือ HDDVD และ Blue-ray disc เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ส่งสัญญาณภาพได้สูงถึง 1080p ในขณะที่ LCD TV บางรุ่น ถึงแม้ว่าจะมีความละเอียดเป็น 1920x1080 แต่ก็ไม่สามารถรับภาพแบบ 1080p โดยตรงได้ รับได้สูงสุดแค่ 1080i ทำให้สูญเสียโอกาสในการรับชมภาพที่ดีกว่า จึงควรศึกษาให้แน่ชัดก่อนว่า LCD TV เครื่องนั้น สามารถรับภาพแบบ 1080p โดนตรงได้หรือไม่ครับ อย่างไรก็ตาม หากท่านไปถามคนขายว่า LCD (ที่เป็น 1920x1080) รุ่นนี้รับ 1080p ได้หรือเปล่า เขาก็จะตอบว่ารับได้ครับ ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะทีวีบางยี่ห้อ โฆษณาว่าตัวเองเป็น 1080p ในที่นี้คือแสดงภาพแบบ 1080p ครับ ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่า ระบบการแสดงภาพของ LCD มันเป็นแบบ Progressive อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าท่าน Input ภาพแบบ 1080i เข้าไป มันก็จะแสดงภาพแบบ 1080p ซึ่งเป็นจากการ Upscale ไม่ใช่จาก Native ของภาพครับ วิธีการที่ดีที่สุดจึงควรทดลองครับ โดยการต่อกับ DVD ที่สามารถ Upscale ได้ถึง 1080p แต่ DVD ดังกล่าวก็ค่อนข้่างหาได้ยาก การหาความรู้จากในเนตเอาก็ง่ายดีครับ แต่ไม่ควรเชื่อคนขายเด็ดขาดครับ ขอบอก แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 01:31:46 จากคุณ : nutsaint (nutsaint) - [ 28 ก.พ. 50 00:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เรียน คุณ namit      - LCDจะsetให้ไม่ต้องขยายสัญญาณได้หรือไม่        ไม่ได้ครับ  -ธรรมดาความละเอียดของ TV ซึ่งเป็นสัญญาณอะนาล็อกจะนับความละเอียดเฉพาะจำนวนเส้นในแนวตั้ง  ส่วนในแนวนอนนั้นจะเป็นเส้นลากต่อเนื่องไปจึงนับเป็นความละเอียดไม่ได้แต่พอมาเป็นแบบดิจิตอลยังไงก็ต้องหั่นออกเป็นจุดทั้งแนวตั้งและแนวนอน   ซึ่งพอหั่นออกมาแล้วจะมีความละเอียดไม่สูงมาก ต่ำกว่า VGA อีก ผมจำตัวเลขไม่ได้         สมมุติว่าเท่ากับ VGA ละกันคือ 640x480  ถ้าไม่มีการขยายสัญญาณ (เพิ่มจำนวนจุด) จะทำให้ภาพไม่เต็มจอครับ  เพราะว่า LCD มีจำนวนจุด 1378x768  แต่ภาพที่เข้ามามีจำนวนจุดเพียง 640 x480   ก็เหมือน เอารูป 2 นิ้วไปใส่กรอบจัมโบ้ครับ  จะมีที่ว่างเหลือเพียบ  ดังนั้นเพื่อให้ภาพเต็มจอจึงต้องมีการยืดภาพออกทั้งแนวตั้งและแนวนอนโดยการเติมจุดเข้าไปครับ เหมือนกับเป็นการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นครับ  เขาจะมีเทคนิคในการเติมจุดให้มันดูแล้วภาพไม่เพี้ยนมาก   ดังนั้นไม่ว่าสัญญาณที่เข้ามาเป็นยังไง ก่อนการแสดงผลก็จะต้องผ่านกระบวนการขยายภาพเสมอ   ไอ้ตอนนี้ละครับที่มันช่วยขยาย(หรืออีกนัยหนึ่งคือเพิ่มจำนวนจุด)ของ noiseไปด้วย ไม่ต้องตกใจครับ LCD ทุกตัวมี Noise Reduction มาให้หมดครับ  แต่ว่าความฉลาดของแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากันครับ  และมันก็มีขีดจำกัดของมันครับ  ถ้ามันลด  Noise น้อยเกินไปภาพจะดูยุบยิบ  ถ้ามันลด Noiseมากเกินไป รายละเอียดของภาพก็จะถูกทำลายครับ  เช่นไรผมของนางเอก หากเจอ Noise reduction ที่โหดๆ มันจะนึกว่าเป็น Noise เพราะไรผมมันเส้นเล็ก  มันก็จะลบทิ้งครับ สำหรับการดู TV ซึ่งมี Noise มากเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าไม่มี Noise Reduction ที่ฉลาดๆ  รับรองว่าดูได้ไม่มีความสุขครับ  เพราะมันจะคอยยุบยิบตลอดเวลา  แล้วก็เห็นชัดด้วยครับ  ผมจึงแนะนำให้ดูเรื่องNoise ก่อนแล้วค่อยไปดูฟีเจอร์อื่น  ถ้าหาก LCD มันจัดการ Noise ไม่ได้  ต่อให้ Contrast ต่ำยังไงก็ไม่  work ครับ หรือไม่งั้นก็ดู TV ผ่านเคเบิ้ล  หรือ จานดาวเทียมไป  เรื่อง Noise ก็จะไม่มากวนใจ  คราวนี้ก็ทำให้เลือก LCD ได้ง่ายขึ้นครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 11:05:14 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 01:01:52 จากคุณ : suratin_tom (suratin_tom) - [ 28 ก.พ. 50 01:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคงได้แต่คิดว่าต่อไปเทคโนโลยีของ Noise reduction ก็คงจะดีขึ้นมีตัวช่วยมาให้เป็น option ในการตัดสินใจกันอีกแน่นอน ที Photoshop ยังมี noise ninja ให้เลย... แต่ให้รอจนถึงวันนั้นคงอดใช้ไปอีกหลายปี.. ขอบคุณสำหรับความกระจ่างครับคุณ จขกท... ได้ความรู้ใหม่ไปเดินห้างละ... จากคุณ : namit - [ 28 ก.พ. 50 07:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ว่าจะซื้อมาดู TV แล้วก้อ DVD เท่านั้น  รอก่อนก้อแล้วกันนะ จากคุณ : ดุ๊กกะดุ๋ย - [ 28 ก.พ. 50 08:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม โหวตครับ จากคุณ : jiiwii - [ 28 ก.พ. 50 11:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากๆ เลยครับ ได้ความรู้เยอะขึ้นเลย กำลังจะมองหาซื้อ LCD TV อยู่เหมือนกันครับ  vote! เอ้อ ถ้าไม่เป็นการรบกวน อยากให้ช่วยแนะนำซักตัวครับ องค์ประกอบก็ 1. ราคาไม่เกิน 40k 2. ขนาด 32" ก็พอ 3. สำหรับ หนังDVD/games(ps2)/TV  อัตราส่วนก็ 45/45/10 เอารุ่นไหนดีครับ ตอนนี้เห็นมีอยู่หลายรุ่นเหมือนกัน เช่น LG, Philip, BenQ, Sharp, Toshiba... ขอบคุณมากครับ ปล. เพื่อนๆ คนอื่นก็แนะนำได้ครับ จากคุณ : Lonely Guy - [ 28 ก.พ. 50 12:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นประโยชน์มากเลยครับ ชอบการอธิบายข้อมูลเชิงเปรียบเทียบให้เห็นภาพ แม้หลายๆเรื่องจะรู้มาก่อนอยู่แล้ว แต่ก็ทำให้เข้าใจมากขึ้นเยอะทีเดียว ส่วนเรื่อง Wii ได้ยินมาว่าต่อออก LCD แล้วแตกกระจาย - -'' เพราะ nin ทำมาให้แสดงผลได้แค่ 480p เท่านั้น แต่ผมก็เพิ่งสอยมาเหมือนกันครับ เพราะที่บ้านยังมีแค่ CRT  :) และเรื่อง lcd ผมก็คงรอดูไปอีกจนปลายปีเลย เพราะช่วงนี้ราคา hd lcd หลายๆตัวลดกันเดือนต่อเดือนเลย ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ โหวตและแอบ save เก็บไว้แล้ว จากคุณ : The Jia (MR.Pokkk) - [ 28 ก.พ. 50 12:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าขนาดแค่32นิ้ว และดูไม่ใกล้มาก ผมคิดว่าความชัดไม่น่าจะต่างกันมากนะครับระหว่างfull hd กับไม่ full ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกรึปล่าว เพราะส่วนตัวแล้วจะไปถอยชาร์ป รุ่น32AX5M แล้วครับ 29900 แล้วเอาส่วนต่างไปถอยพี่ไพ 696 มาดูสบายๆ อีก2-3ปีค่อยมาว่ากันใหม่ หวังว่าตอนนั้น PS3คงเล่นแผ่นก็อปได้แล้วนะ จากคุณ : ผมเป็นพ่อคนแล้วนะ - [ 28 ก.พ. 50 20:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากๆ ครับ มีประโยชน์มากเลย ไม่ทราบว่า Sharp AQUOS R series เข้าเมืองไทยหรือเปล่าครับ ยังไม่เห็นเลย เคยได้ยินเพื่อนบอกว่า AQUOS สเปกมักไม่สูงกว่ายี่ห้ออื่น แต่ภาพที่ออกมาน่าประทับใจกว่ามากครับ จากคุณ : toh TH - [ 28 ก.พ. 50 23:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อะ1โหวต จากคุณ : To Be Or No[t]T To Be - [ 1 มี.ค. 50 15:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ต้องขอขอบคุณมากเพราะได้อ่านแล้วไปคุยกับเซลขายtvตามห้าง  สนุกมากเขาจะบอกอะไรที่ไม่ใช่ข้อมูลจริง บอกจริงก็ไม่หมด เราก็ใช้ข้อมูลตรงนี้ไปอ้างกับเขา อึ้งไปเลยครับไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมากล่อมเรา ข้อมูลดีมากครับรู้เรื่องขึ้นเยอะเลย จากคุณ : หยิมต้ก (หยิมต้ก) - [ 1 มี.ค. 50 15:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดส่วนตัวผม คงซื้อ LCD ในอีก 1-2 ปี ข้างหน้า เพราะ ชีวิตประจำวันของผม ดู Free TV and DVD เท่านั้น ตอนนี้ ก็ดู DV322M64 แบบจุใจแล้ว อนาคตรอให้ Full-HD มันแพร่หลายในไทยเสียก่อน ตอนนั้น LCD Full-HD ระดับ 47 นิ้ว คงลงมาใกล้ๆ 60000 แล้วล่ะมั๊ง จากคุณ : s_thongdee - [ 1 มี.ค. 50 17:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Vote ซะ จากคุณ : YellowFever - [ 1 มี.ค. 50 21:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โรงแรมในไทยเดี่ยวนี้ก็เริ่มหันมาใช้ ทีวี LCD กันเยอะแล้วน่ะ 2-3เดือนก่อน พักที่เชอร์ราตัน ก็เป็นจอ LCD ขนาด 32 นิ้ว พลาซ่าแอนธินีก็ใช้ LCD Tv LCD กำลังบูม จากคุณ : Guess_Walker - [ 2 มี.ค. 50 05:29:17 A:58.8.122.115 X: TicketID:139396 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เจ้าของกระทู้ทำงานด้านไฟฟ้าหรือเปล่าคะ เก่งจัง หรือว่าเป็นเพราะความชอบจึงทำให้สนใจ และมีความรู้เป็นพิเศษ จากคุณ : MARON CREAM - [ 2 มี.ค. 50 11:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณนะคะ สงสัยต้องไปเก็บตังค์ซื้อบ้างแล้ว จากคุณ : Shikoku (Shikoku) - [ 2 มี.ค. 50 11:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ กำลังจะซื้อจอ Lcd พอดี เมื่อวานไปดูมา เจอเซลเน้นแต่เรื่อง Contrast (จริงอย่าง จขกท ว่าเลยค่ะ) เราฟังๆ แต่แปลกใจเรื่องราคาเพราะจอ 32 กับจอ 26 ราคาเท่ากันเลย ถามเขาว่า แล้วมันมีอะไรต่างกัน จอไม่เท่ากันนะ ราคาทำไมออกมาเป็นแบบนี้ เขาบอกทำโปรโมชั่นเฉพาะตัวนี้ เราว่าแปลก แปลกมากๆ  เลยเดินออกมาแบบงงๆ กลับบ้านก่อน มาพันทิปก่อน ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ได้ข้อมูลก่อนตัดสินใจ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : DirtyDuck - [ 2 มี.ค. 50 12:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โหวต+เก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : bubblebaba - [ 2 มี.ค. 50 16:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ความรู้มากๆครับ จากคุณ : Mr.pokpak - [ 2 มี.ค. 50 23:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 51 Sony KV-DA322M64 กับ Haier 32" ผมตัดสินใจไม่ถูกเลยครับ ราคามันเท่ากันเลยครับ ผมก็จะเอามาเล่นเกม (PS3, XBOX360) + ดูหนัง, การ์ตูน ครับ ตอนนี้เลยสงสัยว่า ถ้าเราจะต่อ สัญญาณ HD จาก PC (GeForce 6600GT) เข้า KV-DA มันจะได้ความละเอียดที่เท่าไหร่ครับ จะมองเห็นตัวหนังสือเล็กๆมั้ยครับ (เช่นไอค่อน) แล้วอัตราส่วนของภาพจะเป็นไวด์หรือไม่ครับ แต่เจ้า Sony KV-DA นี่ก็หนักเอามากๆครับ ถ้าผมซื้อผมต้องซื้อโต๊ะทีวีใหม่เลยครับ ส่วน Haier เท่าที่ผมดูมันก็ชัดดีนะครับสมราคามันดี แต่ไม่รู้ว่าถ้าเอาไปเล่นเกมเฟรมจะตกรึเปล่า แต่มันก็บางและเบากว่าโซนี่ DA อยู่เท่าตัวเลยครับ แล้วถ้าต่อกับคอมทาก VGA หรือ DVI ความละเอียดจะได้เท่าไหร่ครับ ยังไงขอคำชี้แนะด้วยนะครับ ส่วนเรื่องเซลผมก็เจอมาเยอะครับ แบบผมชอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทนึง... แบบประมาณว่าจะซื้อแล้ว เซลก็เชียรให้แบรนด์ของตัวเองก่อน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผมอคติมันมากๆ พอผมไม่เอาจะเอาตัวที่ผมอยากได้ก็ บอกว่า อีกยี่ห้อดีกว่า ผมเลยเดินออกจากร้านเลยครับ ไปซื้อที่อื่นก็ได้...... แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 50 09:43:14 จากคุณ : UnCLe'Tonn - [ 4 มี.ค. 50 09:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาโหวตค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 5 มี.ค. 50 09:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เรียน คุณ Uncle Ton ถ้า Sony KV-DA322M64 กับ Haier  32"   ถ้า Haier 32"  ราคา  19,900 ยังเหลือ  ผมฟันธง Haier เลยครับ  (ตอนนี้ไม่น่าเหลือแล้วครับ ) ความละเอียด ได้ 1376 x768     เท่าที่เคยเห็น( พอดีเพื่อนซื้อไปติดที่โชว์รูม หลายตัว)ภาพที่ต่อจาก DVI จะสวยกว่าจาก VGA  เรื่องเล่นเกมไม่น่าจะมีปัญหาภาพเต็มจอดี  แต่สีจะสดสู้ Sony ไม่ได้ครับ (LCD ตัวใหนก็สีสดสู้ CRT ไม่ได้) ส่วนเวลาต่อกับPC นั้นจะต้องปรับ refresh rate ให้พอดีจึงจะได้ภาพที่ความละเอียดสูงสุดครับ  แต่ไมน่าจะมีปัญหาสำหรับ Gforce ปล.  ถ้าเจอที่ใหนมีเหลือช่วย post บอกด้วยนะครับ  ผมจะเอาไปต่อกับ Wii แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 10:43:15 จากคุณ : Suratin_tom (suratin_tom) - [ 6 มี.ค. 50 10:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โห ............... เจ้าของกระทู้ทำงานอะไรนี่ รู้ดีจิงๆเลย................. ขอคาระวะ จากคุณ : ก้านไม้ - [ 6 มี.ค. 50 15:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 DA32 เล่นเครื่อว ps2 หรือ wii ภาพที่ได้จะดีกว่า LCD 32 นิ้วเยอะมั้ยครับ ใครเคยเห็นเปรียบเทียบบ้าง จากคุณ : ผมเอง (ผมเอง) - [ 6 มี.ค. 50 20:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับได้ความรู้มาก อยากทราบว่าของชาร์ปดีไหม เห็นเซลล์บอกว่าความละเอียดคูณสาม 1368x3x768  และมีตัวปรับจอแบบพานอรามา ทำให้ภาพไม่อ้วนเหมือนดูทีวีปกติ ทำให้เทใจไปแล้ว ขอความเห็นด้วยครับ จากคุณ : moneye - [ 6 มี.ค. 50 22:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณอย่างสูงครับคุณ suratin_tom ได้วิชาขึ้นมากเลย ว่าจะถอยมาอยู่เหมือนกัน ผมมีข้อสงสัยอยู่คือสังเกตว่าค่ายที่ผลิตคอมพิวเตอร์เบรนทั้งหลายขณะนี้ก็ทำ LCD TV ออกมาจำหน่ายทั่วหน้ากันและราคาก็ถูกกว่าเบรน TV เจ้าเก่าค่อนข้างจะมาก อยากจะรบกวนถามว่ามีความคุ้มค่าในการตัดสินใจซื้อแค่ไหนครับ เท่าที่ผมดูมาในความเห็นส่วนตัวแล้วคุณภาพจะไม่กินกันเท่าไรถ้าไม่คำนึงถึงดีไซด์ภายนอก กรุณาชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : insurin (insurin) - [ 6 มี.ค. 50 22:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เรียนคุณ Moneye       ความละเอียดคูณสามที่เซลว่านั้นคงเป็นประเภทความจริงครึ่งนึงครับ   คือในหนึ่งจุดภาพ(Pixel)นั้นมันมีจุดภาพย่อยของแม่สีแสงสามสีครับ  คือ แดงเขียวและน้ำเงิน  ดังนั้นในหนึ่งจุดภาพก็มี 3 จุดย่อย ซึ่งยี่ห้อใหนก็ต้องมีเท่านี้ทั้งนั้นครับ  แต่ไม่มีใครนับเป็นคูณสามหรอกครับ  แหมเซลนี่ก็จริงๆเลย ทำไปได้       ส่วนเรื่องการขยายภาพแบบพานอรามานั้นเป็นการยืดภาพแบบไม่เป็นเชิงเส้นครับ  คือตรงช่วงตรงกลางของภาพจะยืดน้อยๆ  ส่วนที่ไกล้กับขอบภาพซ้ายขวาจะยืดมาก  ทำให้ภาพที่อยู่ตรงกลางสัดส่วนจะไม่เพี้ยนมาก  แต่ภาพตรงขอบซ้ายขวาจะยืดมาก  โดยส่วนตัวผมว่าโหมดนี้เป็นโหมดที่มีเพื่อการตลาดมากกว่าครับ  เพราะเวลาดูจริงจะไม่น่าดู ไม่เป็นธรรมชาติ เพราะจะดูเหมือนจอมันโค้งโดยเฉพาะข่าวที่มีตัววิ่งด้านล่างจะเห็นชัดเจนมากว่าตัวหนังสือเดี๋ยวยืดเดี๋ยวหดเวียนหัว  สู้ให้มันยืดเท่าๆกันยังดีกว่าครับ เรียนคุณ insurin       ความเห็นส่วนตัวผมเห็นว่าปัจจุบัน  เทคโนโลยีในการผลิตจอ LCD แต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันไม่มาก  และจริงๆแล้วในโลกนี้มีโรงงานที่ผลิตอยู่ไม่กี่โรงงานนับนิ้วมือได้  ดังนั้นคุณภาพจะไม่ต่างกันมากคือ  สมมติว่าที่ดีสุดที่ตามองเห็นได้ยู่ที่ 100 %    คุณภาพจอที่ขายอยู่ในตลาด ก็อยู่ในช่วง 90-100 % ทั้งนั้นครับ  แย่กว่านี้ไม่น่ามี ส่วนที่เหลือจะเป็นเทคนิคของการประมวลผลภาพ (Image Processing)ของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งชื่อเป็นการค้าของตนเอง เช่น  Dynapix(JVC)   PixelPlus2 (Philips)  Metabrain(Toshiba)  Bravia (Sony)  ส่วนสุดท้ายก็แข่งกันที่ดีซายน์ว่าใครทำได้โดนใจกว่า     สภาพการณ์จะคล้ายกับการเลือกซื้อเครื่อง PC ครับ  สมัยก่อนจะมีว่าต้องเมนบอร์ดของใครดีไม่แฮงก์  ของใครแย่   แต่ทุกวันนี้หลับตาซื้อก็เอามาใช้ได้หมด  เพราะคุณภาพไกล้เคียงกัน  ยกเว้นถ้ามีความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะก็จะต้องเลือกเฉพาะรุ่น  แต่หากให้งานทั่วไปตามปกติก็แทบจะไม่ต่างกัน        สำหรับหลายคำถามที่ถามที่ระบุถึงยี่ห้อใดดีหรือไม่   ผมขออนุญาตไม่ออกความเห็นละกันนะครับ   ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 50 10:47:17 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 50 09:32:14 จากคุณ : suratin_tom - [ 7 มี.ค. 50 09:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านมาทั้งหมด ผมสรุปสั้นๆได้ว่า เวลาซื้อให้ 50% ใช้ตาตัดสิน อีกครึ่งหนึ่งใช้ตัวเลขกับเงินในกระเป๋าตัดสิน ที่สำคัญอย่างมาก คือ อย่าใช้หู มาตัดสิน 555 จากคุณ : wanchale - [ 7 มี.ค. 50 12:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอถามอีกครั้งนะครับ ผมเองก็เลือกไม่ถูกระหว่าง CRT กับ LCD ช่วยแนะนำหน่อยครับ เพราะเจ้าไห่เอ๋อรู้สึกจะไม่มีแล้วอะครับ ยังไงใครรู้ว่าที่ไหนมีช่วยบอกด้วยนะครับ เรื่องก็มีอยู่ว่าวันนี้ไปดูทีวีมาครับ CRT ก็คงหนีไม่พ้น Sony DA32 ซึ่งราคาน่าจับมากๆ 19900 (ผ่อน 0% 6 เดือนด้วยอิอิ) แต่ LCD 32" ผมไปเห็น Philips 32PF7321 ที่เป็น Pixel Plus และมีช่อง HDMI ด้วย ราคาอยู่ที่ 39900 แล้วแปะไว้ว่าลดจากป้าย 5% แล้วถ้าผ่อนด้วยบัตร KTC อีกลดไปอีก 3% ราคาก็น่าจะเหลือ 37107 แถมยังผ่อน 0% อีก 10 เดือนอีกตะหาก... ฃ เลยทำให้ลังเลใจ ต้องกลับมาคิด ว่าควรจะซื้อตัวไหนดี ก็เลยอยากจะทราบว่า TV 2 ตัวนี้ ถ้าตัดเรื่อง ขนาด และน้ำหนัก ตัวไหนจะคุ้มค่ากับราคามากกว่ากันครับ ให้ภาพที่สวยถูกใจ ผมไม่อยากแบบว่าซื้อมาแล้ว ต้องกลับมาเสียใจทีหลังว่า เอ.. ทำไมเราถึงไม่ซื้ออีกตัวมานะ... หรือจะเป็นอีกตัวก็คือ Philips 32TA1600 ที่เป็น Crystal Clear แต่ไม่มี HDMI ราคาถูกลงมาอยู่ที่ 29900 ครับ แต่ผมดูเดโมที่เค้าเปิดให้ดูเทียบกับ Pixel Plus ก็ไม่ประทับใจเท่าไหร่แล้วครับ แต่ถ้าเทียบ Pixel Plus กับ Pixel Plus 2 HD ในความรู้สึกภาพที่ได้ ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองครับแต่เรื่องสีจะดูดีกว่า (หรือว่าซอฟแวรที่เค้าเปิดมันไม่ดีพออันนี้ก็ไม่รู้นะ) แต่ผมว่าถ้าเปิดเต็มสูบจริงๆ คงสมราคาเค้าแหละครับ ซึ่งตัวนี้ผมมองข้ามไปได้เลย 32" ตั้ง 59900 T_T และได้แวะไปดู Regza ของ Toshiba ตัวล่าสุด 32" เห็นลดราคาจากราวๆ 45000-49000 มาเหลือ 39900 เช่นกันอะครับก็ดูน่าสนใจดี แต่ว่าเซลพล่ามมากจนผมไม่สนใจไปเลยอะครับ T_T แล้วถ้ากรณีเราจะไปขอลอง (เอาเครื่องเกมไปลองเลย) ข้ามค่ายแบบนี้จะน่าเกลียดมั้ยครับ เพราะผมก็ไปถามทั้ง 2 บูตมาแล้ว เค้าบอกว่าเอามาลองได้ จุดประสงค์ในการใช้งานก็คงเอาไว้เล่นเกมกับดูหนัง DVD + ต่อคอม แหละครับ ยังไงถ้ามียี่ห้ออื่นรุ่นอื่นที่พอสูสีกับที่ผมเอ่ยมา หรือว่ามีอะไรจะแนะนำก็บอกมาได้เลยนะครับ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ปล. มีคนแนะนำ sharp ax5m ไม่ทราบว่าดีกว่า Pixel Plus มั้ยครับ  พอดีไม่ได้ไปดูน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 07:24:55 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 01:36:36 จากคุณ : UnCLe'Tonn - [ 8 มี.ค. 50 01:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ UnCle'Tonn ถ้าตัดเรื่องขนาดและน้ำหนักออกสิ่งที่ต่างกันระหว่าง CRT กับ LCD ก็คือ LCD- ความละเอียดสูงกว่า จุดภาพเล็กกว่า ทำให้ภาพดูเรียบเนียนมากกว่า  โดยเฉพาะถ้าได้ซอฟต์แวร์ดีๆ  จะดูสวยงามมาก CRT- ความละเอียดต่ำกว่า จุดภาพใหญ่กว่า อาจจะมีช่องว่างระหว่างเส้นให้เห็น CRT - สว่างสูง  ความเปรียบต่างสูง  ดูไกลๆก็ยังเห็นภาพได้ชัดเจน LCD - สว่างน้อยกว่า  ความเปรียบต่างต่ำกว่า  ดูไกลๆ หรือแสงแวดล้อมมากอาจจะมองเห็นภาพไม่ชัด LCD -  ตอบสนองกับภาพเคลื่อนไหวฉับพลันได้ดีปานกลาง  อาจมีเงารางๆบ้างในบางครั้ง CRT- ภาพเคลื่อนไหวคมชัดกว่ามาก LCD-จอมืดไม่สนิท เห็น blacklight เป็นสีเทาจางๆ CRT-จอมืดสนิท LCD-ภาพนิ่งสนิท CRT-ภาพมีเต้นสั่น(มากบ้างน้อยบ้าง  ตามแต่ยี่ห้อ) CRT-วางไกล้ลำโพง(แม่เหล็ก)แล้วสีเพี้ยน แล้วแต่ชอบแบบใหนครับ เกือบลืมไปถ้าคุณจะเอาไปต่อกับคอมด้วย CRT คงได้ความละอียดไม่มากและภาพคงหยาบน่าดูครับ ส่วนถามเรื่องยี่ห้อคงขอสงวนไว้ครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 09:57:22 จากคุณ : suratin_tom - [ 8 มี.ค. 50 09:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านข้อมูลเจ้าของกระทู้แล้วอึ่ง เนื่องจากเพิ่งจะสั่ง LA40R71B ของซัมซุงไป ซึ่งความละเอียดภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ จขกท. บอกว่ากำลังตกรุ่น ถ้าหากเราสามารถซื้อรุ่นนี้ได้ในราคา 45,000 บาท(ปรับปรุงข้อความ:ซื้อในราคาโครงการ) จขกท.คิดว่าคุ้มหรือเปล่าครับ Spec.(ปรับปรุงข้อความ:coppy จากเวปซัมซุง) • ระบบ Digital Natural Image Engine (DNIe) ถ่ายทอดภาพด้วยความสมจริงสูงสุด • ความละเอียดภาพระดับ 1366x768 จุด รองรับการใช้งานเป็น Computer Monitor ได้ทันที • จอภาพสว่างคมชัดสูงถึง 500 cd/m2 • อัตรา Contrast Ratio 5,000 : 1 (Dynamic Contrast Mode) • สแกนภาพแบบ Progressive Scan ให้ภาพไร้การสั่นไหว • ระบบเสียง Nicam / A2 Stereo • ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ SRS TruSurround XT (10 watt x 2) • ระบบรับภาพซ้อนภาพ PIP • ช่องต่อ HDMI ที่ให้สัญญาณภาพและเสียง ในแบบดิจิตอล 100% • ช่องต่อ PC Input, DVD component, S VDO, AV • มุมมองในการรับชมกว้างถึง 178/178 ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 13:39:31 จากคุณ : เห็นแก่ของถูก (RadiusRoof) - [ 8 มี.ค. 50 10:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณ Radius อย่ากังวลมากเลยครับ  จอที่คุณซื้อกับราคาที่ได้ก็ถือว่าดีนี่ครับ  ไม่ได้มีอะไรแย่ครับ จากคุณ : suratin_tom - [ 8 มี.ค. 50 13:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 64 งั้นผมคงเหมาะกับ LCD แล้วล่ะครับ LCD- ความละเอียดสูงกว่า จุดภาพเล็กกว่า ทำให้ภาพดูเรียบเนียนมากกว่า  โดยเฉพาะถ้าได้ซอฟต์แวร์ดีๆ  จะดูสวยงามมาก --- นำมาเล่นเกม Next Gen คิดว่าทั้ง Hardware และ Software ซัพพอรดได้ดีนะครับอย่างน้อยๆก็ 720p ล่ะ... LCD - สว่างน้อยกว่า  ความเปรียบต่างต่ำกว่า  ดูไกลๆ หรือแสงแวดล้อมมากอาจจะมองเห็นภาพไม่ชัด -- ถ้าผมแก้ปัญหาโดยการเล่นในที่ที่แสงสว่างน้อย หรือที่ที่ไม่มีแสงรบกวน แล้วไม่ได้นั่งไกลมาก (3-4 เมตร)  มันคงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปใช่มั้ยครับ LCD -  ตอบสนองกับภาพเคลื่อนไหวฉับพลันได้ดีปานกลาง  อาจมีเงารางๆบ้างในบางครั้ง --- ตรงนี้แหละที่ผมกลัวที่สุดในการเล่นเกมครับ แต่ปัจจุบันผมใช้ LCD 17" ของคอม (SDM-HS95P) ก็เล่น PC GAMES ได้อย่างไม่เสียอารม ทั้ง FPS, Racing หรือแม้แต่ดูหนังก็ไม่มีเรื่อง Ghost มากวนใจครับ ค่า Response Time ตั้ง 12 ms- แน่ะ.. LCD-จอมืดไม่สนิท เห็น blacklight เป็นสีเทาจางๆ --- ถ้าดูอะไรที่มืดๆ หรือพวกคอนเสิรตจะทำให้เสียอรรถรสรึเปล่าครับ ตรงนี้ผมนึกภาพไม่ออก ถ้าผมจะรอไปซื้อตอนงานคอมมารทที่จะถึงนี้ จะดีมั้ยครับ.... ยังไงขอบคุณมากๆนะครับ คุณ suratin_tom ช่วยให้ผมตัดสินใจได้เลยว่าตัวเองเหมาะกับอะไร... แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 50 16:23:46 จากคุณ : UnCLe'Tonn - [ 8 มี.ค. 50 16:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าเอา LCD TV มาต่อคอมเล่นเกมส์บ่อยๆนี่ จอจะเสียไหมครับ เพราะจอมันคงใหญ่สะใจดี จากคุณ : ... (Fraudster) - [ 10 มี.ค. 50 08:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ #Suratin_tom  เล่น Wii นี่เองถึงบอกว่า response time 6 กับ 10 ดูแล้วแยกไม่ออก จริงๆ response time สำคัญมากสำหรับคนเล่นเกมส์ next gen อย่าง xbox360, ps3 นะผมว่า 8 ms อย่างเกมส์แข่งรถยังเห็นภาพเป็นเงาๆเลยครับ ผมว่าเราจะยอมรับ response time ได้แค่ไหนลองดูหนังหรือฉากที่ภาพเคลื่อนที่เร็วๆดูครับ เพราะอย่างที่เจ้าของกระทู้บอก response time ยิ่งน้อยยิ่งดียิ่งแพงด้วย ปล. ผมกำลังจะไปซื้อ wii ตอนเที่ยงนี่ครับ (เผื่อได้เล่นออนไลน์กันนะ) จากคุณ : XBOX360 - [ 10 มี.ค. 50 09:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เคยไปดู LCD Haierราคา 19000 เห็นภาพลักษณะที่ว่าตรงกลางชัด และขอบมันจะยืด ๆ เหมือนดูผ่านเลนนูน แต่โทรทัศน์ที่ตั้งคู่กันไม่เป็น ก็เลยคิดว่ามันคงเป็นของไม่ดีมาขาย ก็เลยไม่สนใจ พอมาอ่านกระทู้นี้ คิดว่าเซลคงตั้งค่าเป็นแบบพานอรามา (ตั้งค่าเหมือนไม่อยากขาย) แสดงว่า Haier ตั้งค่าแบบธรรมดาก็ได้ใช่ไหมครับ ส่วนที่ผมเห็นเป็นการตั้งค่าแบบพานอรามาใช่ไหมครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : P - [ 11 มี.ค. 50 11:51:27 A:58.10.27.145 X: TicketID:119309 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ชาร์ป 32 ax5m  ไม่มีช่องต่อ พีซี และ s-video ใช่ไหมครับ จากคุณ : moneye - [ 11 มี.ค. 50 16:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอSave แล้วกันให้ความรู้ดีมาก จากคุณ : Pop - [ 18 มี.ค. 50 10:39:39 A:222.123.85.188 X: TicketID:118873 ]