ต้องยอมรับว่าการขนส่งมวลชนในยุโรปตะวันตกนั้นพัฒนาไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางอากาศ ทางบก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรถไฟ หลายประเทศได้พัฒนารถไฟความเร็วสูงขึ้นมาให้บริการประชาชน เช่น ในเยอรมันนีก็มีรถด่วนความเร็วสูง "ICE" ในอิตาลีก็มี "Eurostar" ที่สามารถทำความเร็วได้กว่า 200 กม / ชม หรือแม้แต่ในประเทศสเปนก็ซื้อเทคโนโลยีจากฝรั่งเศสไปทำรถไฟความเร็วสูงที่ชื่อว่า "AVE" ที่วิ่งเชื่อมกรุงมาดริดและเมืองเซวิล
ที่จริงแล้วประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นชาติแรกที่พัฒนารถไฟความเร็วสูงขึ้นมาใช้ก่อนใคร โดยกำหนดเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อคราวที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิคฤดูร้อนขึ้น สมัยนั้นหารถไฟที่วิ่งเกิน 200 กม / ชม นั้นไม่มีเลย ด้วยความเร็วที่สูงมาก กอปรกับมีรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ที่ถูกต้องตามหลักเออร์โก้ดีไซด์ ทำให้รถไฟชิงคังเซนได้รับชื่อเล่นว่า "รถไฟหัวกระสุน" และการเปิดให้บริการครั้งแรกในช่วงการจัดงานโอลิมปิคนั้นก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างทึ่งในเทคโนโลยีของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
รถไฟ "หัวกระสุน" ของญี่ปุ่นได้เป็นแรงพลักดันให้ประเทศต่างๆในยุโรปตะวันตกหันมาพัฒนาระบบรางของตัวเอง ดูเหมือนว่าฝรั่งเศสจะก้าวหน้ามากทานด้านนี้ โดยได้มีความคิดริเริ่มว่า "ต่อไปเราจะต้องพัฒนารถไฟแข่งกับเครื่องบิน" (ย้อนมาดู รฟท บ้านเรา ร้อยกว่าปีแล้วก็ยังไม่ไปไกลกว่าเดิมเลย หากเราไม่คิดแข่งกับเครื่องบิน มันก็คงไม่ทำให้ฝันเป็นจริงได้เหมือนประเทศอื่นๆ) นับตั้งแต่นั้นมา การรถไฟแห่งประเทศฝรั่งเศสจึงได้ให้บริษัท ALSTOM พัฒนาและผลิตรถไฟความเร็วสูง TGV ขึ้นมา เอ่อ หลายท่านคงคุ้นๆชื่อนี้ใช่ใหมครับ (หัวรถจักรบ้านเราส่วนมากก็สั่งซื้อจากบริษัทนี้นะครับ แต่ตอนนี้บ้านเราไม่มีเงิน จะเนื่องด้วยปัญหาอะไรก็แล้วแต่ เลยทำให้ไม่ค่อยมีหัวรถจักรรุ่นใหม่ๆเลย)
ตอนแรกๆนั้นรถไฟ TGV ก็ใช้ความเร็วได้ 200 กม / ชม (ปกติรถไฟธรรมดาของฝรั่งเศสก็วิ่งที่ 160 กม / ชม แล้วนะครับ) หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงเดือน พค ปี คศ 1990 รถไฟ TGV สายแอตแลนติกก็สามารถทำความเร็วเป็นสถิติโลกได้ที่ 515.3 กม / ชม ซึ่งเป็นสถิติที่อยู่ยงคงกระพันมาได้เป็นระยะเวลายาวนานมากๆ และก็ทำให้ทั้งโลกได้รู้จักเทคโนโลยีทางด้านความเร็วของฝรั่งเศสเป็นอย่างดีอีกด้วยครับ
จากคุณ :
ซอร์บอนน์
- [
27 เม.ย. 50 03:28:21
]