ความคิดเห็นที่ 1 ผมยินดีด้วย ที่คุณแผ่ส่วนกุศลให้เพื่อนร่วมงานที่ทำไม่ดีกับคุณ เพราะจะทำให้ใจคุณสบายขึ้น ผมมีคาถาอยู่คาถาหนึ่งซึ่งใช้ได้ผลมาตลอด ถ้าคุณแบบไหนว่ามาจะนำไปใช้ก็ได้นะครับ ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครแช่ง ช่างเขา ใครด่า ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธ์จริงๆครับ เมื่อเรามีอารมณ์โกรธขึ้นเมือใดให้นึกถึงนะครับจะช่วยคุณได้แน่นอน จากคุณ : ใจใสเป็นบุญใจขุ่นเป็นบาป - [ วันแรงงาน 15:05:41 A:203.151.206.73 X:202.133.139.233 TicketID:140158 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่คุณบอกมาก็พิสูจน์ได้แล้วนี่ครับ เค้าพูดว่าร้ายเรา แล้วเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริง คนอื่นเห็นเค้าก็รู้เองละครับว่าใครดีไม่ดี ปล่อยๆไปเถอะครับ คนแบบนี้ เคยเจอพวกปัดสวะให้คนอื่นเหมือนกันครับ แต่พอดีเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ เลย นิ่งไปเลยครับ จากคุณ : คนข้างๆ - [ วันแรงงาน 15:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ณ วัดแห่งหนึ่ง หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า "ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ" หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า "เจ้ารู้ไหมในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา "คนเราล้วนมีความฝัน ความทะเยอทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ " "มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ  จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ " "อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ  บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร " คนที่ชอบนินทานั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล " "แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ " ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้ว เริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา "เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม " "เข้าใจครับหลวงตา" เด็กน้อยยิ้มมี ความสุขอีกครั้ง ............................................................................... พอดีผมอ่านแล้วชอบนะครับ  เลยเอามาฝาก ทุกที่มีปัญหาหมดครับ อย่าหนีปัญหา ถ้าคุณหนีคุณก็ต้องหนีตลอด พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ลองดูครับ จากคุณ : little_rabbit (B16a) - [ วันแรงงาน 15:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนประเภทนี้มีทุกที่คะ  เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนมาชอบเราคะ  เรื่องนินทาฝรั่งที่นี่ก็เป็นคะ  ขนาดเป็นเพื่อนกันแท้ๆ พอลับหลังก็นินทาคนอื่น ดิฉันก็โดนแต่ไม่สนใจ  อย่าไปสนใจคนประเภทนี้คะ ทำงานของเราให้ดีที่สุด จากคุณ : เที่ยงตรง - [ 2 พ.ค. 50 01:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านคำพูดของหลวงตาเเล้วรู้สึกขนลุกเลย คุณ จขกท. มีคนอีกมากมายที่เจอเหตุการณ์ & คนงี่เง่าเช่นนี้ค่ะ เราก็เป็นหนึ่งใน(ล้าน)นั้นด้วย เหตุการณ์คล้ายกันเดี๊ยะ ผิดกันนิดเดียวตรงที่ของเราเกิดขึ้นในครอบครัวสายเลือดเดียวกัน ซึ่งเราเคยคิดว่ามันหนักหนาสาหัสมากกว่าคนภายนอก เพราะคนภายนอกนินทาเรา เรายังหลบกลับมาพึ่งไอเย็นในบ้าน ที่ไหนได้ ของเราในบ้านมันร้อนเร่าเพราะทิฐิ นอกบ้านเเม้จะเเรง เราก็เลยทนได้ ขอยืมกลอนของคุณใจใสเป็นบุญฯไปแปะที่ฝาบ้านนะคะ จากคุณ : iamjetski - [ 2 พ.ค. 50 09:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นเหมือน คห 2 ครับ ตอนนี้เรื่องมันเริ่มแดงขึ้นมา ว่าสิ่งที่เขาพูดใส่ร้ายต่างๆ มันไม่จริง ต่อไปสิ่งที่เขาพูด จะไม่มีใครเชื่อเลยครับ และก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่าในที่ทำงานเองแหละครับ (ถ้าสังคมในที่ทำงานของคุณดีอ่ะนะ) เพราะที่เก่าผมก็มีแบบนี้ ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่มีใครคบแล้ว และพวกนี้ก็มีอยู่ สองสามคน สองสามคนเหล่านี้ก็ไม่คบกันเองด้วยอ่ะ 555 แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าสังคมนั่นมีคนพวกนี้เยอะจริงๆ ก็คงไม่ไหวแหละครับ อยู่ไปก็เปลืองตัวเปล่าๆ ยิ่งเจอหัวหน้างี่เง่า คุมเกมส์เรื่องคนไม่เป็น มันเหนื่อยใจครับ อันนี้น่าเห็นใจ คนเก่งๆคนดีๆ เขาไม่อยู่ให้เสียเวลากันหรอกครับ เขาก็ไปหาที่ที่เห็นคุณค่าในตัวเขา ให้เขาได้แสดงศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ พวกนี้ก็เยอะครับ จากคุณ : องค์ประกอบหลายอย่างอ่ะนะ - [ 2 พ.ค. 50 12:51:55 A:125.25.204.66 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จนกว่าที่เราทำกับเขาหมดครับถึงจะหาย  ไม่มีใครหนี พ้นครับ  ให้ทานด้วยถึงจะหมดเร็วขึ้น จากคุณ : คนนอกระบบ - [ 2 พ.ค. 50 15:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 - ไม่มีใครทำให้คุณรู้สึกมีปมด้อยได้  หากคุณไม่ให้ความยินยอม ( Eleanor Roosevelt ) ( จากหนังสือ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี 7  โดย รศ.วรากรณ์  สามโกเศศ ) - สัพเพ  ธัมมาลานัง  อภินิเวสายะ  ( ใดใดในโลก  อันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น ) - อภัย = อ + ภัย แต่ อ = ไม่  จึงแปลรวมได้ว่า  " ไม่มีภัย " ลองดูแล้วคุณจะมีความสุขที่สุดในโลกครับ จากคุณ : Learn and Live - [ 2 พ.ค. 50 17:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ต้องไปใส่ใจเลยค่ะ เราทำงานดีที่สุดของเรา ดีต่อเพื่อนร่วมงานคนอื่น  แต่ยกเว้นคนนี้ไว้ แบบให้เป็นอากาศธาตุ .. ก็คนไม่ดี  ไม่ต้องห่วงไปคบหา-พึ่งพา อยู่แล้ว จากคุณ : ceacar salad - [ 2 พ.ค. 50 21:46:36 ]