ความคิดเห็นที่ 1 มันคงไม่เกี่ยวกับภูมิประเทศหรอกครับ มันเกี่ยวกับภูมิอากาศมากกว่า ไม้จากเยอรมัน คือไม้สนขาว จะสังเกตได้ว่าสีของไม้จะขาวกว่า ไม้จากเอเชีย และมีแผ่นยาว และใหญ่กว่าเล็กน้อย คุณภาพผ่าน QC อย่างดี หน้ากระดาษลามิเนต คุณภาพสูง แต่เนื้อไม้มีการขยายตัวสูงเมื่อเจออากาศเมืองไทย ที่ร้อนชื้น ราคาแพงกว่า 800 บาทต่อ ตร.ม. ขึ้นไป ไม้จากมาเลเซีย เป็นไม้สนธรรมดา เนื้อไม้สีคล้ำกว่า แผ่นจะสั้นและเล็กกว่าเล็กน้อย ใช้เครื่องจักรจากยุโรปเหมือนกัน มีการผ่าน QC ใช้หน้าลามิเนตจากต่างประเทศ เหมาะกับสภาพอากาศของไทย ขยายตัวน้อยกว่า ราคาถูกกว่า ประมาณ 600-700 บาท ต่อ ตร.ม และยังมีของจีน อันนี้ไม่แนะนำเพราะห่วยมาก แม้กระทั้งหน้ากระดาษลามิเนต สีเดียวกัน ยังไม่เท่ากันเลย ต้องเปิดกล่องคัดกันเลยทีเดียว เวลาช่างปูต้องเผ้าเพราะปัญหาสีไม่เท่ากัน แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 500 บาท ต่อ ตร.ม. ส่วนของไทยก็มีเหมือนกัน ราคาถูกของมีแน่นอนไม่ต้องรอนาน เรื่องการซ่อมไม่มีปัญหา เพราะผลิตในประเทศ ราคาเท่ากับของจีน หรือแพงกว่าเล็กน้อยเท่านั้น จากคุณ : resqtec - [ 3 พ.ค. 50 09:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่บ้านปูยี่ห้อ Halo ของเยอรมัน อีก 5-6 ปีมาถามใหม่ได้มั้ยครับ ตอบตอนนี้ไม่ได้เพราะยังไม่รู้ อิอิ จากคุณ : JoeRazz - [ 3 พ.ค. 50 22:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เลือกไม้ในโซนเอเชียด้วยกันดีกว่าครับ เหมือนคุณresqtec จากคุณ : ปุลากง (ปุลากง) - [ 4 พ.ค. 50 02:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอแก้ คคห.2 นิดนึงครับ HDF ของมาเลเซีย เป็นชนิดที่ผลิตมาจากไม้ป่าเขตร้อนชื้น จำพวกไม้เนื้อแข็ง ทำให้สามารถทนต่อน้ำและความชื้นได้ดีกว่าไม้สนของเยอรมัน ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน ลองไปดูได้ในงานสถาปนิกครับ มีให้ดูตั้งแต่ ถูกสุด ยันแพงสุด งานนี้ ตาดีได้ ตาร้ายเสียครับ เพราะเซลล์เยอะมาก สาดกันไปมา ตอนนี้เทคโนโลยีล่าสุดคือการเคลือบขอบกันน้ำด้วยระบบสุญญากาศ ซึ่งช่วยในเรื่องกันน้ำได้เกือบ 100% ลองเดินหาดูนะครับ มีอยู่สัก 2 ยี่ห้อที่มีfeatureนี้ แต่คนละเทคนิค ของจีนไม่ว่าถูกหรือแพง ไม่มีแน่นอน จากคุณ : morpheus (มอร์เฟียส) - [ 4 พ.ค. 50 14:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบฝรั่งก็เยอรมัน ชอบแขกก็มาเลย์ จากคุณ : neonicus - [ 7 พ.ค. 50 15:35:24 ]