ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเจอช่างที่ไม่เอาเปรียบนะครับ ซ่อมแล้วก็น่าจะใช้ได้อีกหลายปีครับ ถ้าอะไหล่ไม่ชำรุด เนื่องจากอายุการใช้งานล่ะก้อ 1.เติมน้ำยา (สารทำความเย็น) 2.เช็ครอยรั่วต่างๆ แล้วซ่อมหรือเปลี่ยน ก็เรียบร้อยครับใช้งานได้ต่อ จากคุณ : pat_ma - [ 4 พ.ค. 50 16:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตไล่เรียงตอบเป็นรายข้อไป 1.การตรวจรั่วกระทำได้หลายอย่างเช่น เบื้องต้น ก็อาจ ดูคราบน้ำมันในบริเวณจุดหล่อแหลม เช่น จุดต่อแฟร์นัต บริเวณเซอร์วิสวาล์ว ,จุดเชื่อมต่อท่อ,บริเวณคอยล์เย็น หรืออาจอัดน้ำยาเข้าไปแล้วใช้ฟองสบู่หาตรงบริเวณที่ คาดว่าน่าจะรั่ว ( ปกติการรั่วจะไม่เกิดบริเวณไลน์ท่อ ) หรืออาจจะปล่อยน้ำยาทิ้ง แล้วอัดแก๊สไนโตรเจนเข้าไป 2.ส่วนใหญ่เหมารวมไปในค่าซ่อมบำรุงเบ็ดเสร็จ 3.การเติมน้ำยาไม่ต้องทำระบบสุญญากาศใหม่ ( หมายถึง น้ำยาในระบบยังมีอยู่ ) 4.ทุกครั้งที่มีการโบวน้ำยาทิ้งจะมีน้ำมันคอมเพรสเซอร์ออกมาพร้อมกับน้ำยาด้วย แต่ปริมาณจะไม่มากนัก ส่วนใหญ่ไม่นิยมเติมเข้าไป เพราะไม่ทราบปริมาณที่แน่ชัดสำหรับการเติมเข้าไปหากเติมมากจะเกิดผลเสียกับคอมเพรสเซอร์ในภายหลัง  ทั้งสอง ตัวไม่ใช่ตัวเดียวกันครับ คุณสมบัติก็คนละประเภท จากคุณ : ดาราเดช - [ 4 พ.ค. 50 17:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณคุณ pat_ma และคุณ ดาราเดช ครับ ขอถามเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ เนื่องจากยังหาช่างมาทำไม่ได้เลย เลยอยากเก็บข้อมูลไว้ก่อน 1.จุดที่ล่อแหลมต่อการรั่วนี่ ตรงครีบอลูมิเนียมที่มีท่อน้ำยาวิ่งขดไปมา ตรงนี้ถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการรั่วหรือเปล่าครับ 2.ตรงที่รั่วนี่จะเห็นเป็นคราบน้ำมันเสมอหรือเปล่า 3.หากมันรั่วอยู่ในตัวแอร์ในห้อง มันจะเป็นอันตรายต่อการสูดดมโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ (มันมีกลิ่นหรือไม่) 4.ราคากรณีเติมน้ำยา เขาคิดเป็นปอนด์ ใช่รึเปล่าครับ แล้วราคาคิด/ปอนด์ ประมาณเท่าไหร่ แล้วต้องเติมให้ถึงกี่ปอนด์ (9000 BTU) 5.กรณีของผมหากหาจุดรั่วเจอ ก็ต้องปล่อยน้ำยาก่อนแล้ว แก้ไข ก็เท่ากับต้องทำสุญญากาศใหม่ ใช่รึเปล่าครับ แล้วน้ำมันคอมมันจะพร่องไปมากจนต้องเติมหรือไม่ อ้อสุดท้าย รบกวนช่วยแนะนำร้านแถวๆ อ่อนนุชให้ทีครับ ผมอยู่ตรงใกล้ๆ ตลาดเอี่ยม ผมไม่รู้จะติดต่อไปที่ไหนดี เบอร์โทรร้านเก่าผมหาไม่เจอซะแล้ว แนะนำทางหลัง mic ก็ได้ครับ หากไม่เหมาะสมที่จะลงตรงนี้ จากคุณ : Ph - [ วันฉัตรมงคล 16:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1.สำหรับแอร์ที่มีอายุการใช้งานมายาวนาน บริเวณแผง คอยล์เย็นถือเป็นอีกจุดที่เสี่ยงต่อการรั่ว ( สำหรับการซ่อม ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งแผง) 2.ส่วนใหญ่จะเห็น ยกเว้นกรณีซึม 3.ไม่ต้องวิตกครับ สารชนิดนี้ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด 4.หลายเรท หลายราคา ตั้งแต่ 20 - 40 บาท/ปอนด์ 5.ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องตัวนี้มีการโบวน้ำยาทิ้งไปแล้วกี่ครั้ง ตลอดระยะของการซ่อมบำรุง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ช่าง ว่าคอมฯเป็นชนิดใด หรือ หากเห็นว่า คอมฯสตาร์ทเสียงดังผิดปกติ ก็อาจมีการเติมบ้างนิดๆหน่อยๆ จากคุณ : ดาราเดช - [ 6 พ.ค. 50 12:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ คุณ ดาราเดช อีกครั้งครับ ชัดเจนเลย จากคุณ : Ph - [ 7 พ.ค. 50 00:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ้อ ขออีกนิดครับ คือถ้าช่างเติมเกินไปหรือขาดไปเล็กน้อย มันมีผลอะไรอย่างไร (ปกติต้องกี่ปอนด์ครับ) ขออภัยที่ถามซ้ำหลายๆครั้งครับ จากคุณ : Ph - [ 7 พ.ค. 50 00:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปกติ 60-70 ปอนด์ ยิ่งมากก็มีรอยรั่วเพิ่มอีก เนื่องจากความดันในระบบเพิ่มขึ้นครับ ถ้าเครื่องยิ่งเก่า ก็จะใส่อ่อนๆหน่อยครับ เย็นได้เหมือนกัน ตามสภาพครับ จากคุณ : pat_ma - [ 7 พ.ค. 50 16:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำมันคอมฯเวลาเติมเข้าไปในระบบวัดกันเป็น CC ครับ ส่วนปอนต่อตารางนิ้วคือหน่วยทีนิยมเรียกแรงดันด้านต่ำ ของระบบเครื่องปรับอากาศ  ส่วนปัญหาหากเติมมากจะทำให้น้ำมันคอมฯเข้าไปปะปน อยู่ในระบบไม่ว่าจะเป็นภายใน ท่อรูเข็ม ( แคปพิรารี่ ทิวป์ ) หรืออีแวปปอเรเตอร์มากทำให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง หากน้อยเกินไปชิ้นส่วนภายในของคอมฯ จะสึกหรอ ทำให้เกิดเสียงดังจากการทำงาน เพราะไม่มี น้ำมันช่วยในการหล่อลื่น จากคุณ : ดาราเดช - [ 7 พ.ค. 50 17:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากๆ ครับ นึกว่ากระทู้โดนลบไปแล้วซะอีก ตอนนี้ซ่อมเรียบร้อยแล้ว เห็นคราบน้ำยาจริงๆ รั่วตรงช่วงที่3 ท่อบรรจบกัน เป็นตัว T  (ท่อที่ต่อมาจากช่องเติมน้ำยา ตรงที่มันไปเชื่อมต่อกับท่อหลัก) เชื่อมเสร็จ ช่างทำสุญญากาศ แค่ 9 นาทีกว่าๆ เอง จากคุณ : Ph - [ 15 พ.ค. 50 12:01:25 ]