Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "คำถามแห่งชีวิต" ของบัณฑิตใหม่จากฮาวาร์ดคนหนึ่งที่ชื่อ "บิล เกตส์"

    ถ้าผิดห้องก็ขอโทษด้วยนะครับ    ใน Pantipนี่ผมเข้าแต่ห้องชายคาเท่านั้น
    ผมอ่านบทความในคอลัมน์  ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ  ของ หนุ่มเมืองจันทร์ ในมติชนรายสัปดาห์ที่เขียนถึง  “บิล เกตส์”     ซึ่งผมเห็นว่าเป็นบทความที่น่าสนใจ    อยากให้เพื่อนในชายคา
    ได้อ่านกัน  จึงขออนุญาตคุณหนุ่มเมืองจันทร์   มา ณ ที่นี้
    "ถ้าคุณมีเวลา 2-3 ชม.ต่อสัปดาห์ และมีเงิน 2-3 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับอุทิศให้กับอะไรสักอย่างที่มีผลสูงสุดต่อการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  หรือทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น  ถามว่าคุณจะใช้เวลาและเงินนั้นอย่างไร"
    เป็นคำถามที่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้รับ  ในวันรับปริญญาจาก  “บัณฑิตใหม่”  คนหนึ่งที่ชื่อ  ”บิล เกตส์”
    “บิล เกตส์”  เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแต่เรียนไม่จบ  เขาเลิกเรียนเพื่อไปสร้างตำนานบทใหม่กับอาณาจักรธุรกิจที่กลายเป็นความใฝ่ฝันของคนหนุ่มสาว    นั่นคือ “ไมโครซอฟต์”
    หลังจากลาออกไป  30 ปี  วันนี้มหาวิทยาลัยได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตให้กับ  “บิลเกตส์”  พร้อมกับเชิญเขาเป็นผู้กล่าว “ปัจฉิมนิเทศ”  ให้กับบัณฑิตใหม่
    ใครๆก็นึกว่า “บิล เกตส์”  มหาเศรษฐีอันดับ 1  ของโลก  จะพูดถึงเรื่องวิธีคิดทางธุรกิจ หรือเส้นทางสู่ความสำเร็จแบบ “กบฏ”
    แต่ใครจะไปนึกว่าสิ่งที่เขาตั้งใจที่จะบอกกับ “บัณฑิต”  และคณาจารย์ของ “ฮาร์วาร์ด”  กลับเป็น “มุมมองใหม่”  และ  “คำถามแห่งชีวิต”
    เขาเริ่มต้นปาฐกถาด้วยการยิงมุขเรียกเสียงฮาจากคนฟัง
    “บิล เกตส์”  บอกว่าเขาคอยมา 30 ปีเพื่อที่จะพูดว่า “คุณพ่อครับ ผมบอกคุณพ่อเสมอมาใช่ไหมว่าวันหนึ่งผมจะกลับมาเอาปริญญาให้ได้” และ “ผมมักชักนำคนไปในทางเสีย นั่นคือเหตุผลที่ผมได้รับเชิญให้มาพูดในวันรับปริญญาของคุณ   เพราะถ้าผมมาพูดในวันปฐมนิเทศของคุณ คุณบางคนอาจเรียนไม่จบในวันนี้ก็ได้”
    จากนั้น  “บิล เกตส์”  ก็เริ่มเล่าเรื่องราวของเขากับ “ฮาร์วาร์ด”
    “สิ่งที่ผมจำได้เกี่ยวกับฮาร์วาร์ด  ได้แก่  การอยู่ท่ามกลางพลังงานและปัญญา”
    ก่อนจะ  “ตีแสกหน้า”  คณาจารย์และบัณฑิตของสุดยอดมหาวิทยาลัยของโลก  
    เขาบอกว่าเมื่อมองย้อนกลับไป  มีความสลดใจเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในใจของเขา  
    “ผมออกจากฮาร์วาร์ดไปโดยไม่มีความตระหนักอย่างแท้จริงเลยถึงความไม่เสมอภาคอันแสนโหดร้ายในโลก  ความเหลื่อมล้ำอันน่าขนหัวลุกในด้านสุขภาพ  ทรัพย์สิน และโอกาส  ผมได้เรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ  ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองอย่างมากมายในฮาร์วาร์ด  ผมได้สัมผัสใกล้ชิดถึงความก้าวหน้าซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์  แต่ความก้าวหน้าของมนุษยชาติไม่ได้ขึ้นอยู่กับการค้นพบ    หากอยู่ที่การค้นพบนั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดความไม่
    เสมอภาคได้อย่างไรต่างหาก    ผมออกจากฮาร์วาร์ดไปโดยแทบไม่รู้เลยว่าเยาวชนนับล้านคนถูกโกงโอกาสด้านการศึกษาในประเทศของเรานี่เองและผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนเป็นล้านๆที่ต้องมีชีวิตอยู่กับความยากจนแสนสาหัสและโรคร้ายในประเทศกำลังพัฒนา  เป็นเวลาหลายทศวรรษกว่าผมจะค้นพบ”  
            จากนั้นเขาก็เริ่มตั้งคำถาม  
    "ถ้าคุณมีเวลา 2-3 ชม.ต่อสัปดาห์ และมีเงิน 2-3 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ
    อุทิศให้กับอะไรสักอย่างที่มีผลสูงสุดต่อการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  หรือทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น  ถามว่าคุณจะใช้เวลาและเงินนั้นอย่างไร"
            “2-3 ชม.ต่อสัปดาห์”  หรือ “2-3 ดอลลาร์ต่อเดือน”  เป็นการสร้างเงื่อนไขที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า  “ไม่มีเวลา-ไม่มีเงิน”
    สำหรับ  “บิล เกตส์”  และภรรยา  ความท้าทายของเขาในมุมเดียวกันก็คือ
    “เราจะทำอย่างไรให้เกิดผลดีที่สุดต่อคนจำนวนมากที่สุดจากทรัพยากรที่เรามีอยู่”
    “บิล เกตส์”  ตอนนี้อายุ  52 ปี  อีก  1 ปี เขาจะเกษียณจากบริษัทไมโครซอฟต์เพื่อไปบริหารมูลนิธิของเขา   มูลนิธินี้มีเงินทุนประมาณ  30,000 ล้านเหรียญ และ “วอร์เรน บัฟเฟ็ตน์”  มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก  ซึ่งเป็น “สหายต่างวัย”  ของเขาสมทบให้อีก 37,000 ล้านเหรียญ  ครับ ทรัพยากรที่
    เขามีอยู่ คือ 67,000 ล้านเหรียญ หรือ 2.4 ล้านล้านบาท  เขากำลังจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง    ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อ “ตัวเอง”  แต่เพื่อ  “ผู้อื่น”
    เขาไม่เชื่อว่าคนเราไร้ “น้ำใจ”
    “ผมเชื่อว่าเรามีน้ำใจมากจนไม่รู้ว่าจะใช้ทำอะไรหมด”  แต่ที่ไม่แสดงออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร  ถ้าทุกคนเข้าใจปัญหา  มองเห็นทางแก้ปัญหาและเห็นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น  ทุกคนคงแสดงน้ำใจกันแล้ว  แต่เพราะ  ”ความสลับซับซ้อน”  ปิดกั้น  ทำให้ทุกคนไม่เห็นปัญหา-ทางแก้และ
    ผลลัพธ์  ทุกคนจึงไม่รู้ว่าจะแสดงน้ำใจอย่างไรดี
    “บิล เกตส์”  เสนอแนวทางทะลุทะลวง  “ความสลับซับซ้อน”  4  ขั้นตอนด้วยกัน
    1. พิจารณาจุดหมายหรือกำหนดเป้าหมาย
    2. ค้นหากลวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
    3. หาเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด
    4. ระหว่างที่กำลังค้นหา  ให้นำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาใช้อย่างชาญฉลาด
    เขาเชื่อว่าการนำเสนอที่ดีจะนำมาซึ่งการร่วมมือร่วมใจทั้งภาครัฐและเอกชน
    ในตอนท้ายของปาฐกถา “บิล เกตส์”  ย้อนกลับไปถามคนใน “ฮาร์วาร์ด”  อีกครั้งหนึ่ง
    “ฮาร์วาร์ด”สามารถจะอุทิศพลังทางปัญญาของตนเพื่อช่วยปรับปรุงชีวิตของผู้คนที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อฮาร์วาร์ดได้ไหม”
    “สติปัญญาชั้นยอดเยี่ยมของเราควรจะอุทิศให้แก่การแก้ปัญหาที่หนักหนาสาหัสที่สุดของเราหรือไม่”
          ก่อนจะทิ้ง “ความหวัง”  ให้กับ  “บัณฑิตใหม่”  ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
    “ผมหวังว่าคุณจะกลับมาที่ฮาร์วาร์ดในอีก 30 ปีจากนี้ไป  และมาไตร่ตรองถึงการใช้พรสวรรค์และพลังงานของคุณ  ผมหวังว่าคุณจะวินิจฉัยตัวคุณเองไม่เฉพาะในด้านของความสำเร็จในอาชีพเท่านั้นแต่ในด้านผลงานของคุณเกี่ยวกับความไม่เสมอภาคกันอันล้ำลึกที่สุดด้วย  คุณได้ปฏิบัติต่อคนที่อยู่คนละฟากโลกได้ดีแค่ไหน  เมื่อคนเหล่านั้นไม่มีอะไรร่วมกับคุณเลย  ยกเว้นแต่ความเป็นมนุษย์ของเขาเท่านั้น”
    ในบทความจบเท่านี้ครับ
    อ่านแล้วลองสรุปกันนะครับว่า  เราควรปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างไร

    แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 50 14:51:41

    จากคุณ : ไม้คุณ - [ 3 ก.ค. 50 14:37:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom