ความคิดเห็นที่ 1 อย่าเพิ่งเลยครับ ดอกเบี้ยขาลง แต่ถ้าเงินอยู่เฉยๆไม่มีอะไรทำให้งอกเงยจริงๆก็ไปโปะเถอะครับ จากคุณ : Spinnecker - [ 4 ก.ค. 50 21:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นเงินเย็นอยู่ในแบงค์ตลอดก็เอาเลยครับ กันสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินซักก้อนก็พอ. จากคุณ : Sulakkin - [ 4 ก.ค. 50 22:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เอาเงินไปซื้อกองทุนดูละคะ ลองศึกษารายละเอียดตามแบงค์ดูนะคะ สามีดิฉันก็ซื้อกองทุนไว้ให้ลูกค่ะ พึ่งซื้อตอนปลายปีที่แล้ว เงินต้นสามหมื่น ตอนนี้ได้ดอกเกือบหมื่นบาทแล้วค่ะ ติดแต่ว่าสามีใช้ลดหย่อนภาษีเลยยังถอนไม่ได้ค่ะ ต้องครบห้าปีจึงจะถอนได้ค่ะ แต่ถ้าคุณจะซื้อกองทุนไว้กินดอกแบบนี้ ถอนได้ทุก 6 เดือนรึไงเนี่ยค่ะ ไม่แน่ใจ แต่จะขอลดภาษีไม่ได้น่ะค่ะ จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 4 ก.ค. 50 23:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำให้โปะค่ะ แต่ต้องกันเงินไว้อีกก้อนนึงด้วยนะคะ ดิฉันเคยเจอลูกค้าคนนึง ผ่อนมา4 ปี จ่ายดีมากๆ เคยโปะครั้งละแสนก็มี พอเข้าปีที่ 5 เกิดตกงาน ไม่มีรายได้ก็ต้องใช้เงินเก่าแต่โชคร้ายที่ตกงานนานเป็นปีจนเงินหมด ไม่มีเงินส่งค่าบ้าน ถามว่าbank เข้าใจมั้ย คำตอบคือ เค้าสนใจแค่ว่าคุณจ่ายได้ตามงวดหรือไม่ แม้คุณจะโปะไปเกินกว่าค่างวดปกติก็ตาม (เพราะจริงๆแล้ว bank ไม่ชอบหรอก เค้าก็อยากได้ ดบ.) ดังนั้น ดิฉันคิดว่ากันเงินสำรองไว้อีกส่วนหนึ่งก็จะดีนะคะ เผื่ออนาคตที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น / ความจริงการโปะควรทำมาตั้งแต่เริ่มผ่อนใหม่ๆ เพราะต้นๆ สัญญา ดบ.ค่อนข้างต่ำมาก แต่หากเป็นช่วงปีที่เค้าปล่อย ดบ.ลอยตัวแล้วก็ต้องดูว่ามันอยู่ในช่วงขาลงหรือว่าขึ้น จากคุณ : kapook - [ 5 ก.ค. 50 08:14:24 A:61.91.155.146 X: TicketID:148282 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องดูว่าตอนนี้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ rate เท่าไหร่ แล้วเงินเก็บในปัจจุบัน ได้ดอกผลอยู่ที่เท่าไหร่ การที่คุณมาถามแบบนี้ แสดงว่าเงินเก็บอยู่ในฝากประจำ ได้ดอกน้อยกว่าผ่อนเยอะ เพราะถ้าสามารถเอาไปลงทุนอะไรที่ได้ดอกผลมากกว่า คงไม่ต้องมาถามแล้วแหละ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมคงแนะนำให้ดูว่าในระยะ 1 ปีนี้ มีรายจ่ายใหญ่ๆอะไรอีกบ้างมั้ย เช่นซื้อรถ ตกแต่งบ้าน ค่าแปะเจี๊ยะลูกเข้าโรงเรียน ที่มันต้องจ่ายเป็นแสนๆ ถ้ามีก็กันจำนวนนั้นไว้ แล้วก็คำนวณว่ารายจ่ายต่อเดือนเฉลี่ยเท่าไหร่ กันเผื่อเอาไว้ซัก 4-6 เดือน แล้วแต่ความแน่นอนของรายได้คุณเอง ที่เหลือก็โปะให้หมดครับ จากคุณ : s7014249 - [ 5 ก.ค. 50 09:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ช่วงแรกผ่อนมาก โปะมาก ดีกว่า โปะทีหลังครับ เพราะ ช่วงแรกเป็นการผ่อนดอกเบี้ย ช่วงหลังเป็นการผ่อนเงินต้น ถ้าต้องการลดดอกเบี้ย ลดเวลาจะต้องโปะช่วงแรกครับ จากคุณ : น้าพร - [ 5 ก.ค. 50 10:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าไม่มีอย่างอื่นจริงๆ แล้วก็ควรโปะนะ กู้ตั้งลามล้าน ดอกเบี้ยแต่ละเดือนน่าจะตกหลายพันหรือเป็นหมื่นอยู่ คุณอาจกำหนดไว้ว่า จะเก็บเงินสดแบบเก็บตายไว้เลยเท่าไหร่ เช่น เก็บตาย หนึ่งล้านบาท และเก็บสำรองไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน 300,000 บาท ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเกินนี้จึงจะโปะบ้าน ดิฉันว่าต่อให้ดอกเบี้ยขาลง แต่ถ้ามีจะโปะก็โปะเถอะค่ะ ให้เหลือจำนวนที่สบายๆ เช่น เหลือล้านห้าแล้วจึงหยุดโปะ เพื่อลดรูรั่วเรื่องดอกเบี้ยเดือนละมากๆ ดีใจด้วยที่มีทางเลือกนะคะ ของเราบ้าน 3.5 ล้าน มีหนี้อยู่ล้านนึง ถ้าผ่อนอย่างทุกวันนี้ สี่ปีผ่อนหมด ตอนนี้มีเงินเก็บล้านห้า จะโปะเลยก็ได้ แต่เราลงทุนทำอะไรบางอย่างอยู่เลยเก็บไว้ก่อน ไว้ดูปลายปีอีกที ถ้าที่ลงทุนได้กำไรค่อยเอากำไรไปโปะ กัดฟันโปะปีละสองแสนห้า สองปีก็หมดแล้ว ที่สำคัญคือต้องมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งไว้เก็บตายก่อนค่ะ อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่ยังงงเรื่องโปะไม่โปะ ลองคำนวณดอกเบี้ยด้วยตารางสำเร็จรูป แล้วคุณจะเห็นภาพรวมๆ ลองเปลี่ยนตัวเลขได้ตามใจชอบ ลองไปดูที่ http://www.bankrate.com/brm/popcalc2.asp นะคะ จากคุณ : คิดว่านะ - [ 5 ก.ค. 50 10:33:35 A:124.120.169.99 X: TicketID:015714 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ามีเหลือเฟือ แล้วก็ไม่มีโครงการจะเอาเงินไปทำอะไรอีก ก็ควรโปะครับ จากคุณ : อภิอัครมหายาน - [ 5 ก.ค. 50 11:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เหลือๆ เอาเลยคับ จากคุณ : - - [ 5 ก.ค. 50 12:29:37 A:202.183.185.87 X: TicketID:141361 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยขาลงอ่ะค่ะ เมื่อวานเพิ่งโปะไปเยอะอยู่ เสียดายไม่ได้อ่านกระทู้นี้ก่อน แต่ก็ถือซะว่าได้หมดเร็ว ๆ จากคุณ : weirdbird - [ 5 ก.ค. 50 14:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ควรโปะ ครับ น่าจะเก็บเงินไว้ก่อน เหตุฉุกเฉินมาเราไม่รู้ตัวหรอก ครับ เพราะ ระยะ ชิวิตมันยังยาวไกล  เหลือแค่ 3.2 ล้าน มีเงินเก็บ 1.5 ล้าน เก็บอีกนิดครับ โปะทีเดียวหมดเลย เป็นไท แท้ๆ ดีกว่าโปะตอนนี้ครับ จากคุณ : per@ping - [ 5 ก.ค. 50 17:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าโปะได้ ย่อมดีกว่าแน่นอน เพราะ ดอกเบี้ยที่จะเสียต่องวดจะลดลง (เพราะเงินต้นลดลง) เวลาที่เป็นหนี้แบงค์ก็ลดลงตาม  แต่ก็ต้องเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วย เช่น ตกงาน ก็ต้องคิดประมาณเอาว่ามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไร (ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่ากับข้าว ค่าเล่าเรียนลูก ) จากนั้นมาคูณด้วย จำนวนเดือนที่น่าจะตกงาน (ก็ต้องดูอาชีพตัวเอง  เปรียบเทียบไว้ เว่อร์ๆ เช่นถ้าเป็นหมอ ผมว่าไม่เกินเดือน แต่ถ้ามีอาชีพรับจ้างล้างจาน อาจต้องเผื่อไว้สักปี) แล้วก็เผื่อไว้อีกหน่อย กรณีอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนเรื่องเงินลงทุน ในความคิดของผม ถ้าไม่ใช่ลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรที่ให้ดอกเบี้ย( หรือผลตอบแทน) สูงกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้ แน่นอน เพราะว่าจะเป็นกองทุน ผมว่ามันก็คือการระดมเงินฝาก ในอีกรูปแบบหนึ่งของแบงค์นั่นแหละ (ดอกสูงกว่าเงินฝากธรรมดา แต่ก็เสี่ยงสูงขึ้น)  ยังไงแบงค์ก็ต้องกินกำไรส่วนต่าง ระหว่างดอก เงินกู้ กับ ดอกเงินฝากอยู่ด๊ ก็มันอาชีพของเค้านี่ครับ จากคุณ : อัยเรศ - [ 5 ก.ค. 50 18:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โปะเลย + เก็บสำรอง จากคุณ : greenwish - [ 18 ก.ค. 50 02:00:09 ]