ความคิดเห็นที่ 1 แผ่นพื้นแบบไหนครับ ถ้าเป็นแผ่นพื้นท้องเรียบก็น่าจะได้ราวๆ 200-250 กก.ต่อตรม.ครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนลวดอัดแรงที่ใช้ครับ   ปกติถ้าใช้จำนวนพอสมควรเค้าจะมีวิศวกรเซ็นต์รับรองให้ครับ จากคุณ : TheWorldOfArt - [ 12 ก.ค. 50 18:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองอ่านดูนะครับอาจได้ประโยชน์บ้างครับ ................................................................................................ ปูนที่ใช้เททับหน้าพื้นสำเร็จต้องเป็นคอนกรีตและต้องมีเหล็ก เสริมด้วยนะครับ ผู้ก่อสร้างบางคนไม่รู้ (หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้) จะเทปูนผสมทรายเท่านั้นทับ หน้าของแผ่นพื้นสำเร็จ ซึ่งเป็น “ความผิดร้ายแรง” เพราะจะทำให้พื้นมีความแข็งแรงไม่ เพียงพอ เพราะตามกำหนดที่ถูกต้องนั้น เมื่อวางแผ่นพื้นสำเร็จเรียบร้อยแล้ว จัดวาง ปรับระนาบของผิวแผ่นพื้นให้เรียบตรงและเท่ากันทุกแผ่นแล้ว ก็จะต้องวางเหล็ก ตะแกรงลงไปก่อน แล้วจะเท “คอนกรีต” ทับลงไปอีกครั้งหนึ่ง (คอนกรีต หมายถึง ปูน+ทราย+หิน) จึงจะมีความแข็งแรงเพียงพอ คนก่อสร้างบางคนเข้าใจผิด (หรือแกล้งเข้าใจผิด) ระหว่างปูนที่ใช้เททับหน้า พื้นสำเร็จซึ่งเป็นงานโครงสร้าง กับปูนทรายที่ใช้เทปรับระดับก่อนจะปูวัสดุตกแต่งพื้น (เช่น พรม ปาร์เก้ เป็นต้น) ซึ่งขอย้ำว่า “ไม่เหมือนกัน” ครับ http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/534.htm ................................................................................................ พื้นสำเร็จชั้นล่าง อย่าลืมแผ่นพลาสติกกันซึมนะครับ พื้นบ้านชั้นล่างที่อยู่ชิดกับพื้นดิน (บางบ้านอาจจะยกพื้นชั้นล่างขึ้นมาสูงจาก ดินบ้าง) จะมีความชื้นจากดินพยายามแทรกซึมเข้ามาเสมอ ไม่ว่าท่านจะก่อสร้างพื้นด้วย ระบบหล่อกับที่ธรรมดาหรือจะเป็นระบบแผ่นพื้นสำเร็จ ขอให้อย่าลืมปูแผ่นพลาสติก กันความชื้นที่ผิวดินด้วย แผ่นพลาสติกที่ใช้ก็เป็นแผ่นพลาสติกธรรมดาสีขาวๆนั่นแหละ ครับ เพราะแผ่นพลาสติกนี้จะช่วยกันความชื้นไม่ให้ผ่านมาถึงพื้นห้องเราได้ง่ายๆ ถ้าไม่ มีการป้องกันเอาไว้ ความชื้นจะแทรกซึมเข้าทำให้เหล็กโครงสร้างเป็นสนิม และแทรกขึ้น มาทำให้กระเบื้องร่อน ไม้ปาร์เก้ปูด หินอ่อนเป็นจ้ำๆไม่สวยงาม http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/535.htm ................................................................................................ อย่าลืมค้ำยันใต้แผ่นพื้นสำเร็จหากยังไม่ได้เทปูนทับหน้า แผ่นพื้นสำเร็จแบบธรรมดาทั่วไป ตัวแผ่นพื้นเองเมื่อวางลงที่บ่าคานแล้ว จะมี การแอ่นตัว ยังไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักต่างๆได้แม้กระทั่งน้ำหนักของตัวแผ่นพื้นเอง ดังนั้น จะต้องมีการค้ำยันใต้ท้องพื้นเพื่อปรับระดับให้ได้ระนาบก่อนที่จะเทปูนทับหน้า ถ้าไม่มีการค้ำยันปรับระดับใต้ท้องพื้นแล้วเทปูนทับหน้าลงไปเลย จะทำให้เสียปูนเป็น จำนวนมาก มีน้ำหนักที่ไม่จำเป็นไปกดทับแผ่นพื้น ทำให้แผ่นพื้นไม่แข็งแรง เป็นอีกเรื่อง หนึ่งที่อยากจะฝากผู้ก่อสร้างและเจ้าของบ้านให้ช่วยๆกันตรวจสอบครับ เพราะของเล็กๆ น้อยๆแบบนี้จะเป็นอันตรายไม่น้อยครับ http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/533.htm ................................................................................................ พื้นสำเร็จที่เป็นรูๆ ต้องระวังอย่าให้น้ำซึมเข้าไปเป็นอันขาด มีพื้นสำเร็จประเภทหนึ่ง เป็นพื้นสำเร็จที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ มาก และสามารถวางพาดอาคารที่มีช่วงเสาห่างๆได้ เป็นพื้นสำเร็จที่มีรูเป็นช่องๆ (การ เจาะให้เป็นช่องนั้นไม่ได้ทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักน้อยลง แต่ทำให้ลดน้ำหนัก ของคอนกรีตส่วนที่ไม่ต้องการใช้ให้น้อยลง เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้มีราคาไม่แพง) สิ่งที่ต้อง ระมัดระวังในการจัดวางแผ่นพื้นสำเร็จแบบมีรูนี้ (ภาษาช่างเรียกพื้นสำเร็จแบบนี้ว่า Hollow Core) คือ รูของพื้นจะต่อกันเป็นช่องว่างผืนยาว หากมีจุดใดจุดหนึ่งที่ก่อสร้าง ไม่ได้มาตรฐานหรือก่อสร้างผิดวิธีการและทำให้มีน้ำซึมเข้าไปได้ น้ำจะวิ่งต่อไปตามรูที่ ต่อกันของพื้น Hollow Core นี้ แล้วก็ขังอยู่ภายใน หากจุดใดไม่สามารถจะกันน้ำต่อไป ได้ ก็จะไหลลงมาที่ฝ้าเพดาน จะซ่อมจะแก้ก็ทำได้ลำบาก เพราะไม่ทราบว่าจุดที่เกิด ปัญหาอยู่ที่ไหน เนื่องจากน้ำรั่วเข้าจุดหนึ่ง แต่ไปรั่วออกอีกจุดหนึ่ง จึงอยากจะเรียนผู้ ก่อสร้างทั้งหลายหรือเจ้าของบ้านที่ จะใช้พื้นสำเร็จแบบ Hollow Core (ซึ่งเป็นพื้นที่มี คุณภาพและมีความแข็งแรงมาก) จะต้องระมัดระวังเรื่องของการรั่วซึมของพื้นระบบนี้ อย่างดีเป็นพิเศษนะครับ http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/531.htm .............................................................................................. อย่าไปใช้พื้นสำเร็จบนพื้นที่เปียกๆ เช่น ห้องน้ำ ระเบียงที่โดนแดดโดนฝน และที่สำคัญที่สุดก็คือ ดาดฟ้า เพราะ พื้นสำเร็จที่เป็นแผ่นๆมาวางนั้น เมื่อมีแรงสั่นสะเทือนหรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ จะมีการ “ดิ้น” ทำให้เกิดร่องรอยต่อเล็กๆระหว่างแผ่นพื้น (ซึ่งเราอาจจะมองเห็นหรือ มองไม่ค่อยจะเห็นก็ได้) ถึงแม้ว่าจะมีการเทปูนทับลงไป ก็ไม่สามารถจะช่วยป้องกันการ รั่วซึมได้ คนก่อสร้างบางคนอาจจะบอก (หลอก) ท่านว่า ถ้าผสมน้ำยากันซึมลงที่ปูนที่เท ทับหน้าพื้นสำเร็จ จะสามารถแก้ปัญหาการรั่วซึมดังกล่าวได้ ก็อยากจะบอกว่าเขาหลอก เข้าให้แล้ว จะหลอกทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ หรือหลอกเพราะเขาเองก็ไม่มีความรู้ก็ได้ ดังนั้น จึงขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า บริเวณที่มีน้ำเปียกๆ เช่น ห้องน้ำ ระเบียง และดาดฟ้า ห้ามใช้ การก่อสร้างระบบพื้นสำเร็จเด็ดขาดนะครับ http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/529.htm ................................................................................................. อย่าเสริมพื้นให้สูงขึ้นโดยวิธีเทคอนกรีตทับ ท่านที่ต้องการดัดแปลงต่อเติมบ้านของตน โดยการดัดแปลงนั้นบางส่วนท่านต้องการเสริม ความสูง ของพื้นขึ้นมา (เช่นอยากให้ห้องครัว ที่ต่ำกว่าห้องทานข้าว ให้มีความสูงเท่า ๆ กัน) กรุณาอย่าเทคอนกรีต เพื่อเสริมความหนา (ความสูง) เด็ดขาด เพราะคอนกรีตที่ท่านเทสูงขึ้นเพียง 10 ซม. นั้น หนักถึง 240 กิโลกรัม/ตารางเมตร (คอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตร หนักถึง 2.4 ตันครับ) ในขณะที่ วิศวกรโครงสร้าง ออกแบบ ให้พื้นนั้นรับน้ำหนักได้เพียง 150 กก./ตร.ม เทปุ๊ปอาจพังปั๊บเลยครับ แต่หากคุณต้องการเสริมระดับจริง ๆ ขอให้คิดถึงวัสดุที่เบา ๆ เช่นไม้หรืออิฐมอญ เป็นต้น ทางที่ดี และปลอดภัย ที่สุดก็คือ ปรึกษาสถาปนิก-วิศวกรหน่อยเถอะครับ http://se-ed.net/winyou2/100_1000_2/235.htm ............................................................................................ อย่าก่อผนังอิฐด้านนอกบ้านทับบนแผ่นพื้นสำเร็จนะครับ โอกาส รั่วซึมมีสูงจริงๆครับ เพราะโดยปกติแล้ว พื้นสำเร็จจะไม่วางทับลงบนตัวคานจนเต็มบ่าคานอยู่แล้ว ทำให้การก่ออิฐผนังที่อยู่ด้านนอกจึงก่อลงบนบ่าคานโดยตรงได้ ซึ่ง ผนังที่ว่านี้จะทำหน้า ที่เป็นตัวกันไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้ามาในบ้านเรา แต่ถ้าเราวางแผ่นพื้นสำเร็จผิดพลาด (แม้ ด้วยประสงค์ดีเพราะอยากจะให้แผ่นพื้นวางอยู่บนบ่าคานมากๆ และนึกว่าจะแข็งแรง ขึ้น) ทำให้มีการก่อผนังอิฐลงบนแผ่นพื้นสำเร็จ ก็จะทำให้ด้านนอกบ้านของเรามีรอยต่อ มากเกินไป (จากเดิมที่มีเพียงรอยต่อเดียวคือ ผนังกับคาน กลายเป็นมี ๒ รอยต่อคือ ผนังกับพื้นสำเร็จและพื้นสำเร็จกับคาน) โอกาสจะมีน้ำรั่วซึมเข้ามาในบ้านเราก็มากขึ้น ๑๐๐% อีกทั้งการเสียบเหล็กเส้นเล็กๆที่จะเชื่อมระหว่างคานกับผนังหรือเสาเอ็นทับหลัง ก็ทำไม่ได้หรือทำลำบากมาก ก็จะทำให้โครงสร้างของผนังอ่อนแอลง และยามเมื่อพื้น สำเร็จเกิดแรงสั่นสะเทือนหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทำให้เกิดการยืดหด ก็จะทำ ให้รอยต่อระหว่างแผ่นพื้นสำเร็จกับผนังมีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นและใหญ่มากขึ้นทุกวัน เป็นการเชื้อเชิญน้ำจากภายนอกบ้านให้เข้ามาในบ้านเราได้สะดวกขึ้น ดังนั้น การจ่ายเงิน มากขึ้นโดยขาดความเข้าใจระบบการก่อสร้าง อาจจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้ตัวเองก็ได้นะ ครับ http://www2.se-ed.net/winyou3/100-1000-05/532.htm ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง โดย ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ ( อ.ยอดเยี่ยม ฯ  เป็นอดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ฯ ) จากคุณ : Learn and Live - [ 12 ก.ค. 50 18:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าต้องการเป็นตัน ต้องใช้คานที่เขาใช้วางบนสะพานครับ มีขายด้วย แต่แพงน่าดู จากคุณ : น้าพร - [ 12 ก.ค. 50 21:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาตราฐานบ้านโดยทั่วไปก็ 200 กก/ตรม. ครับ จากคุณ : ปิงปอง001 - [ 14 ก.ค. 50 00:44:33 ]