ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วย  คนซื้ออยู่จริงเลยต้องจ่ายแพงเนื่องจากความต้องการเทียม  ดีไม่ดีไม่ได้อยู่อีกต่างหาก  เพราะผู้สร้างก็เจอดีมานด์ปลอม  เจ้งตามพวกเก็งกำไรไปด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 11:28:16 จากคุณ : ผีตากผ้าอ้อม - [ 17 ก.ค. 50 11:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เสียวด้วยคนครับ ไม่รู้เราอยู่ยอดดอยหรือเปล่า หนาวๆขาวุ้ย... จากคุณ : หัดขับ - [ 17 ก.ค. 50 12:44:09 A:203.155.181.188 X: TicketID:106592 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าน่าจะต่างกันนะ ผมก็ผ่านปี40มา 1.ไม่กระทันหันเหมือนคราวก่อน 2.ดอกเบี้ยต่ำ เงินไหลจากธนาคารออกมาซื้อ 3.ผู้ลงทุนรายใหญ่บางรายมีเงินทุนสำรอง เพราะเคยเห็นเหตุการณ์ปี40 มาก่อน แต่รายเล็กๆเสี่ยงนะ ขึ้นกับแบงค์/นโยบายรัฐ อาจมีร่วงได้ 4.อาจทำให้ซัพพายล้นตลาดอยู่พักนึง แต่ราคาคงไม่ค่อยลง 5.ที่ดินสวยๆส่วนหนึ่งก็ถูกขายไปแล้ว(สร้างไปแล้ว) ที่มีคงไม่มาขายให้ราคาถูกกว่าเดิม หรืออาจอยูในมีอเดเวโลบเปอร์แล้ว ผมว่า ไม่เหมือนกันครับ เป็นอีกความคิดเห็นนึงนะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องหุ้นผมว่าตอนนี้น่ากลัวมากๆ จากคุณ : 0.@ - [ 17 ก.ค. 50 12:45:39 A:125.24.107.60 X: TicketID:147236 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาเรื่อยๆ แฮะ กระทู้ถามเรื่องฟองสบู่อสังหาฯ ไม่รู้คราวนี้จะกลายเป็นกระทู้ฮอตอีกป่าว เพราะตอนนี้คลับเราเงี๊ยบเงียบ _______________________________________ ส่วนความเห็นผม ไม่ชอบใจเหมือนกันที่ทำไมทุกวันนี้ราคาอสังหาฯ บ้านเรามันถึงได้ดูแพงเวอร์จัง น่าสงสารคนไทยจัง เงินเดือนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เยอะอะไร ราคาบ้านก็ดันถีบตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ (แบบไม่เป็นธรรมชาติ) แต่ในทางที่ตรงกันข้ามกับคุณภาพและปริมาณ (ขนาด) ที่จะได้รับอ่ะ จากคุณ : Dark_Shnider - [ 17 ก.ค. 50 12:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ซื้อบ้านเป็นล้านขับรถดูแล้วดูอีก ไอ้คอนโดที่ขายหมดขายหมด มันผิดวิสัยคนซื้ออยู่จริงครับ เห็นๆอยู่ การซื้อให้เช่า ซึ่ง คือถ้าเป็นพวกมีฐานข้อมูลเยอะ ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ สุดท้าย ก็มีปัญหาในการบริหารและการบำรุงรักษา เหมือนกันทุกราย จากคุณ : Mollusk - [ 17 ก.ค. 50 12:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความเดิมตอนที่แล้ว !!!!!คอนโดไม่ใช่การลงทุน ถ้าไม่ได้อยู่เองอย่าซื้อ!!!!! http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R5495981/R5495981.html จากคุณ : Dark_Shnider - [ 17 ก.ค. 50 13:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าเกมมันเปลี่ยนนะ ไม่เหมือนปี40 เพราะ รถไฟฟ้า จะซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ในเมืองมันแพงและไม่ปลอดภัยนัก  ราคาที่ดินในเมืองกับที่ติดรถไฟฟ้าราคาสูงเป็นสาเหตุหลักที่ราคาขึ้นไม่หยุด  ผมแน่ใจว่าถ้าคอนโดติดรถไฟฟ้าน่ะ ปล่อยเช่าได้แน่ แต่ไม่ยืนยันราคานะ และคนจะไม่เทขายเหมือนที่แย่งกันซื้อ เพราะมีรายได้รออยู่   อีกส่วนที่อยู่ไกลรถไฟฟ้าไม่มีคนเช่า ถ้าเทกันขายออกมา ผมก็ไม่แปลกใจเพราะตอนซื้อมีคนปั่นราคาให้สูงเกินจริง แล้วหาผู้เช่าไม่ได้ หรือไม่ได้อยู่เองเพราะตอนซื้อซื้อเพราะอารมณ์ ไม่ได้คิดดีๆ จากคุณ : Kerry - [ 17 ก.ค. 50 13:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมล่ะเบื่อพวกจองแล้วไม่ซื้อ  แล้วมาขายใบจอง   ค่าเปลี่ยนชื่อทีตั้งหลายหมื่น เสียดายเงินจริงๆ คนอยากซื้อจริงๆ ก็ต้องลำบาก อย่างคอนโดหลายๆที่ ขายเกือบหมด  ทั้งๆที่ยังไม่ได้สร้าง   ที่แท้มีแต่พวกเก็งกำไรทั้งนั้น จากคุณ : close2heaven - [ 17 ก.ค. 50 14:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมองว่านักลงทุน ณ วันนี้ เป็นแบบผสม ต่างกะเมื่อปี 40 มาก ที่ตอนนั้นเน้นเก็งกำไรกันอย่างเดียว แต่ในวันนี้มันมีทั้งผู้ที่ลงทุนระยะ สั้น กลาง ไปถึง ยาว ซึ่ง ผู้ลงทุน อสังหา แบบ กลางถึงยาว เนี่ย ส่วนใหญ่เงินจะเย็นมาก ฝากbankไม่ออกดอก เล่นหุ้นไม่ออกผล เลยไหลมาทางนี้กันมากขึ้น อีกอย่างลองมองดูจากต่างประเทศ ถ้าโครงการดีๆ ทำเลดีๆมีแต่ยิ่งเพิ่มค่า ดังนั้นถ้าไม่อยากเจอพิษฟองสบู่ ต้องเลือกตัวเล่นดีดีเท่านั้น ถึงจะอยู่รอบครับผม ส่วนแตกไม่แตกอันนี้ไม่อาจทราบได้ จากคุณ : ตาตี๋โต - [ 17 ก.ค. 50 14:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 .....ที่สำคัญต้องมีสติและไม่โลภเกินตัวครับ...... จากคุณ : BBQ - [ 17 ก.ค. 50 14:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันเป็นพฤติกรรมเลียนแบบเข้ามาผสมโรงด้วย ใครๆก้อเห็นว่าซื้อใบจองแล้วได้กำไร ในการขายต่อ ใครรู้จักเป็นเพื่อนกะเซลล์กับเส้นสายภายในก้อเอาบ้าง ไม่ไม่หนักไม่นาไรนี่หน่า เงินแค่ไม่กี่หมื่น พอมันแผ่วงเข้าขยายไปเรื่อยๆ ผมว่า ราคาไม่มีวันตกลงเท่าไรหรอกครับ เพราะว่าผู้ที่ถือก้อจำนวนมากขึ้นคนเข้าไปแย่งกันซื้อจำนวนมาก แล้วก้อไม่มีเหตุจำเป็นให้ปล่อยจวบจนที่โครงการเสร็จแล้วโอนนี่สิ จากราคาที่เราเห็นว่าพอเสร็จแล้วจะขึ้นมีคนไปแย่งกันซื้อ ผมว่าต่อไป จะมีแต่คนแย่งกันขาย ตอนนี้ก้อมีให้เห็นหลายๆที่แล้ว จากคุณ : =ส้มสีทอง= - [ 17 ก.ค. 50 15:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนจตุคามหรือเปล่า จากคุณ : ม้าหงอย - [ 17 ก.ค. 50 16:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่แตกหรอกครับ ฟันธง เพียงแต่ซื้อแล้วราคาไม่ค่อยจะยอมขึ้นแล้ว คอนโดที่อยู่พื้นที่ Red Zone ในมุมมองของผมนะ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า แถวนี้ 1. สถานีอ่อนนุช BTS 2. สถานีสุทธิสาร MRT 3. สถานีลาดพร้าว MRT 4. สถานีห้วยขวาง MRT ซึ่งปัจจุบันราคาถูกปั่นไปสูงมาก แต่ไม่ค่อยโดดเด่นในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ทำเลของชาวต่างชาติ อีกหน่อย เมื่อมีส่วนต่อขยายของ รถไฟฟ้า ยาวไปไกล ๆ บริเวณพวกนี้จะขึ้นราคาช้าครับ จากคุณ : ไรเฟิล - [ 17 ก.ค. 50 17:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่คิดว่าบู่.. ส่วนพวกที่เกร็ง เอ้ย เก็งกำไร ซื้อไว้หลายๆๆๆๆๆห้องมากๆๆๆๆๆ เก็งไม่ออกเมื่อไหร่ ก็นอนตัวเกร็ง ง่อยกันไปเอง.. ถึงตอนนั้นขายขาดทุน คนซื้ออาศัยจริงก็แฮปปี้ ไม่ดีเรอะ อิอิ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 17 ก.ค. 50 19:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จงอย่าประมาท แต่อย่าไปกังวลในอนาคต จากคุณ : VERAPONT - [ 17 ก.ค. 50 20:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข่าวล่าสุดค่าเช่าคอนโดติดรถไฟฟ้า ราคาประมาณ 200-250 บาทต่อตารางเมตร คอนโด 50 ตารางเมตร ราคาคอนโด 50 x 80000 = 4 ล้านบาท ได้ค่าเช่า 10000-12500 บาทต่อเดือน คิดค่าตอบแทนต่อปี = 3% ถึง 3.75 % ต่อปี ฝากประจำธนาคารได้ 3 % ต่อปี ทั้งสองตัวเลขยังไม่ได้หักภาษี แล้วถ้าเกิดว่างคนเช่าสัก 2 เดือน / และค่าซ่อมแซมกรณีผู้เช่ามือเท้าหนัก? ฝากธนาคารกับลงทุนอย่างใหนผลตอบแทนเป็นอย่างไร? ผมว่ากลไกการตลาดเริ่มทำงานของมันแล้วครับ ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : Gib - [ 17 ก.ค. 50 21:56:27 A:58.8.186.48 X: TicketID:135092 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ Gib ตั้งราคาเช่าโหดจังค่ะ เพื่อนมี condo size เท่าๆกันแถวพระราม 3 อายุกว่า 5 ปีแล้ว ยังให้เช่าได้ 26000 เลยค่ะ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงค่ะ นักลงทุนทุกท่านคงทราบแก่ใจดีแล้ว จากคุณ : ladybear - [ 17 ก.ค. 50 22:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ราคาคอนโดคงถูกกว่าเดิมยาก เพราะต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นตลอดบวกกับราคาที่ดินใกล้รถไฟฟ้าก็แพงมากอีก  คนส่วนใหญ่ที่ซื้อคอนโดคงพิจารณาจากตัวนึ้  ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ราคาจะแพงขึ้นในอนาคต   ที่กังวลก็คือคอนโดล้นตลาดคนซื้อน้อยลง การเก็งกำไรคงยากขึ้นเท่านั้น จากคุณ : อิดะจัง - [ 17 ก.ค. 50 23:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่ายังนะครับ มีหน้าใหม่เข้ามาแจมเรื่อยๆอ่ะ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 18 ก.ค. 50 01:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่คิดว่าราคาคอนโดโดยเฉพาะที่ใกล้รถไฟฟ้าทั้งใต้ดินบนดิน จะตกไปมากกว่านี้นะคะ เพราะที่ดินทำเลสวยๆก็หมดไปๆทุกวัน ถ้าไม่ซื้อตอนที่ทำเลถูกใจแล้วรอให้ราคาถูกลง ก็ไม่แน่ว่าจะซื้อได้นะคะ จากคุณ : tiraned - [ 18 ก.ค. 50 06:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมมองว่าที่ราคามันสูงได้ขนาดนี้ เพราะทำเล และการปั่นราคาของผู้สร้างคอนโดนะครับ ถ้าอีก 2 ปี ทำเล ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ mrt กับ bts ที่มีอยู่แค่นี้ หมายความประมาณว่า ถ้ารถไฟฟ้ามีส่วนต่อขยายมากขึ้นไปกว่าเดิม ผมก็เชื่อว่า ตรงส่วนต่อขยาย จะมี คอนโด ขึ้นมาอีกตรึมเหมือนกัน ก็แน่นอนนะครับ สร้างที่หลังอาจจะเสียเปรียบเรื่องลูกค้าที่อาจจะหมดไปก่อน แต่ถ้าหากมีโปรโมชั่นดี ๆ ราคาถูกกว่า ที่เป็นอยู่ ซัก ตรม ละ 4 หมื่น ผมว่าคอนโดที่ ตรมละแพง ๆ เนี่ย อาจจะขายไม่ออกยาวเลยก็ได้ครับ (ไม่ใช่ว่าทำราคานี้ไม่ได้นะครับ ตรงพหล 14 ตอน presale ยังแค่ 35000 เอง ตอนนี้ ปาไป 60000 กว่า ๆ แล้ว แต่ผมไม่ทัน T_T) แล้วตอนนี้ คนซื้อส่วนใหญ่ ผมว่าน่าจะเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้ซื้อเพื่ออยู่เองนะ อาจจะต้องการปล่อยต่อ หรือปล่อยให้เช่า ถ้าอีก สองปี มีส่วนต่อขยาย คอนโดก็มีเยอะสุด ๆ เพราะช่วงนั้นคงสร้างกันหมดแล้ว  คนที่เป็นผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นคนสุดท้าย ซึ่งผมเองก็คิดว่า เราอาจจะได้เห็นของคนโดสร้างเสร็จจริงก่อนการที่จะได้ซื้อ และคอนโดช่วงนั้น มันคงไม่แพงไปกว่านี้แล้วหละครับ     เพราะตอนนี้ผมมองว่าราคาถูกปั่นไปสูงสุดแล้ว สมมุตินะครับ สมมุติ เกิดฟองสบู่แตกจริง ผมก็เชื่อว่า เราคงจะได้เห็นคอนโด ราคาถูกหรือไม่ก็ติดกรมบังคับคดี อีกพริบเหมือนกัน ในกรณีที่คอนโดจะสร้างอีกพริบ ผมก็มองอีกว่า ผู้ที่ต้องการอาศัยอยู่ในระยะยาว เขาก็มองที่จะซื้อคอนโดเป็นของเขาเองเหมือนกัน ฉะนั้น ผมว่า คนที่จะลงทุนด้านนี้ เสี่ยงมาก ๆ ครับ แต่ถ้าเป็นเงินสดที่ไม่ได้เอาไปใช้อะไร ผมก็มองว่าพอไหวนะครับ แต่ถ้าไม่มีเงินสดสำรองไว้ หรือต้องผ่อนทีละหลาย ๆ ห้อง เกิดฟองสบู่แตกขึ้นมาจริง ผมว่าแย่แน่ ๆ แหละ แต่อย่างไรก็ตาม ผมมองดูว่า จะแตก ไม่แตก ก็คงขึ้นอยู่กับประเทศในแถบเอเซียด้วยแหละ ความคิดส่วนตัว พิมพ์อาจจะสับสน แต่ผมคิดประมาณนี้แหละ จากคุณ : Kim (juckrid) - [ 18 ก.ค. 50 08:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สถานการณ์ ไม่ค่อยเหมือนปี 40 เท่าไหร่นะครับ มันมากระจุกอยู่เฉพาะคอนโด และเป็นคอนโดแนวรถไฟฟ้าเสียเกือบทั้งหมดด้วย ผิดกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้านจัดสรร หุ้น รถยนต์ เงินออกจากแบงค์ง่ายมาก ทุกอย่างมันเอื้อกันไปหมด เรื่องเก็งกำไรกับคอนโดมีแน่นอน เจ็บตัวหรือไม่ คงเป็นราย ๆ เสียมากกว่า จะเห็นเทกระจาดแบบหลังลดค่าเงิน ผมว่า ไม่เห็นหรอก Demand แฝงยังมีอีกมาก ทำเลรถไฟฟ้าทีไกล ๆ ที่ยังมีโครงการขึ้นมาแข่งขันกัน อาจจะไม่บูมเท่าไหร่ แต่. ถามว่า ลองเทคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า 200-300 เมตรในสถานีอย่างพร้อมพงษ์ ทองหล่อ หรืออารีย์ดูซิ กลัวจะแย่งกันต่อคิวอีก จากคุณ : ชอบอารีย์ - [ 18 ก.ค. 50 09:13:07 A:222.123.52.247 X: TicketID:062453 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากประสบการ์ณตรง ตอนแรกก็กะรอครับ แต่ก็มีปัจจัยอื่นก็เลยไม่รอ ผมเก็บเงินสดกันมา เพราะคู่หูเป็นต่างชาติ กู้ไม่ได้ ผมเองก็ไม่อยากกู้ ปีที่แล้วก็ว่าฟองสบู่จะแตก ก็เลยรอทนเช่าที่เดิม โชคดีเจ้าของไม่ขึ้นค่าเช่า ตั้งแต่ปลายรุ่น 97 ซึ่งค่าเช่าถูกมาก ไปดูมาหลายที่ ไม่ลงซะที คือช่วงที่เริ่มดู ปี 2003 – 2004 ราคาเริ่มขึ้นพอดี คือตอนช่วงไปเช่า คอนโดอยู่ ต้นปี 2000 ค่าเช่าหมื่นกว่า คอนโดเดินห้าสิบเมตรจริงๆ ถึงบันไดรถไฟฟ้า คือออกจากคอนโดหัวมุม ข้ามถนน ถึงเลย (ไม่เหมือนโฆษณา บอก200 เมตร เดินซะแฮ่กเลย) ราคาขายตอนนั้นห้องละประมาณ สองล้าน ได้ข่าวว่าปลายปี 97 ราคาห้องนี้ตกลงไปที่ล้านห้า ตอนที่เริ่มอยากซื้อ ปี 2004 – 2005 ราคาห้องนี้ขึ้นไปเป็นสามล้าน ตามที่ประกาศขายกัน (แบบว่าไม่เอาเลยโครงการใหม่ เพื่อนฝรั่งเคยผ่อนดาวน์แล้วโครงการล้มตอนปี 97 สั่งห้ามไว้เลย) ตอนที่ เริ่มซีเรียสจะซื้อ แบบหาตังค์ได้ละ ปี 2005 ห้องที่เช่าอยู่ราคาอัพขึ้นไปเป็นตารางเมตรละ แปดหมื่นห้า ในตึกนิติบุคคลบอกไม่มีห้องไหนมาแจ้งขายเลยอ่ะ หาดูตามรถไฟฟ้า รถใต้ดิน เอาที่ไกลไม่เกิน 4-500 เมตรจากรถไฟฟ้า ก็พอมีบ้าง แต่ ราคาแพงเว่อร์ ห้องไม่ค่อยสวย ที่ปล่อยกัน มีคอนโดหนึ่ง ห้องว่างเยอะมาก ไม่แพงด้วย สืบไปมา Sinking funds เป็นเรื่องอยู่ในศาล เงินส่วนกลางติดลบ ขอดูบัญชีนิติบุคคลบอกให้เชื่อใจกันดีกว่า อะไรเนี่ย หามาเรื่อยๆ จนเหนื่อยละ สุดท้ายปีนี้ กลางปี ก็เริ่มเห็นเหมือนกันว่ามันฟองสบู่ใกล้แตก เห็ฯโฆษณาขายเยอะมาก ให้เช่าก็เยอะ (เมื่อก่อนเอ่านเจอแอดใหม่ๆที ก็แสนจะดีใจ) แต่พออ่านดู ห้องที่ขายๆ ก็ไกลรถไฟฟ้า แบบเดินไม่ได้ ต้องนั่งมอไซค์ทั้งนั้น พอคิดอีกที สเปคที่เดินไม่เกิน 4-500 เมตร ผู้เช่าก็ยังตรึม ค่าเช่าก็ยังดี คนขายก็ยังเล่นตัว ถ้าไปเอาห้องถูกๆ ก็ไม่มีสเปคนี้ อีกทั้งคู่หู ก็ต้องอยู่ที่ประเทศเค้านานกว่าเดิน ถ้ายื้ออาจเลิกกันเสียก่อน อิอิ สรุป ก็เลยซื้อๆไปซะ คิดว่าที่รอมา ยังไงใกล้รถไฟฟ้า ราคาก็ไม่เปลี่ยน ก็เลยซื้อ ไปตารางเมตรละเจ็ดหมื่น เจ็ดสิบตารางเมตร ได้เรียนรู้เยอะแยะเกี่ยวกับการซื้อคอนโด ตึกเดียวกันแต่ละห้องราคาต่างกันลิบ ห้องหัวมุม ห้องหันไปทางไหน ทางถนนเสียงดังหรือเปล่า ห้องโดนแดดเช้าหรือบ่าย ชั้นสูงหรือเตี้ย สระว่ายน้ำดีไหมสระว่ายน้ำโดนแดด หรือหลบแดด (ฝรั่งชอบแบบโดนแดด จะได้อาบแดด) กว่าจะได้ห้องหันไปมุมโดนแดดตอนเช้า ร่มตอนบ่าย (จะได้โดนแดดแรงๆ แค่ตอนเก้าโมง ถึงสิบเอ็ดโมง- ถ้าโดนแดดตอนบ่าย แดดจะแรงตลอดตั้งแต่บ่ายถึงสี่ห้าโมงเย็น ห้องจะร้อนมาก) ห้องอยู่ด้านที่ไม่เจอถนน แต่เป็นบ้าน เสียงไม่ดัง สระว่ายน้ำในแดด ล้อบบี้ไม่หรูเว่อร์แต่ดูสะอาดสะอ้านดี มีคีย์การ์ด ก็หาแทบแย่ แต่ก็ยังมีข้อด้อยคือ วิวสวยไม่เท่าฝั่งถนน ที่เห็นแสงไฟรถเป็นสาย กับแสงไฟตึกสวยๆ ทั้งๆที่อยู่เกือบชั้นสามสิบ ผมว่าไอ้ที่แตกก็แตกไป แต่อันที่ใกล้รถไฟฟ้า ใต้ดินแบบเดินถึง ก็ยังอยู่เหนือกาลเวลา ก็ยังต้องตื่นตีห้าไปจองอยู่ดี ชีวิตนี้ ถ้าได้อยู่คอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า แล้วไปทำงาน ที่ทำงานใกล้รถไฟฟ้าอีก ชีวิตแสนจะง่าย แทบจะคำนวณเป็นมูลค่าได้เป็ฯตัวเงินเลย ผมแทบจะใช้รถไฟฟ้าตลอด ถ้าผมจะขับรถไปทำงาน ผมต้องตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อไปทำงานเจ็ดโมง แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้า ผมได้นอนต่ออีก สี่สิบห้านาที ตื่นอ หกโมงสิบห้า อาบน้าแต่งตัวสิบห้านาที เผ่นออกจากบ้าน หกโมงครี่ง ถึงที่ทำงานเจ็ดโมง ขากลับ ถ้าขับรถออกจากที่ทำงานสี่โมงเป๊ะ ถึงบ้าน สี่โมงสี่สิบห้า ถ้าออกจากที่ทำงานหลังสี่โมงครึ่ง โน่นถึงบ้านหกโมงกว่า แต่ถ้ารถไฟฟ้า ออกตอนไหนก็ถึงบ้านครึ่งชั่วโมง ด้วยเงิน สามสิบห้าบาท ถูกกว่าน้ำมัน เวลา ความเครียด ผมเอาเวลาไปเรียนวาดรูป ไปยิม กิ๊กเด็ก เรียนเพิ่มเติมได้อีกเยอะ คอนโดราคาเท่าเดิม แต่เศรษฐกิจอย่างนี้ คนทำงานในเมืองมีแนวโน้มจะปรับตัวมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ห้องสตูดิโอ 35 ตารางเมตร เช่าอยู่กันสามคน อัดกันเข้าไป มีเวลาทำงานมากขึ้น มีเวลานอนมากขึ้น เวลาเดินทางน้อยลง เลิกงานก็ไปนั่งทำงานร้านกาแฟ ห้องไว้นอนอย่างเดียว ผมเห็ฯที่คอนโดเค้าทำกัน จากคุณ : Ter - [ 18 ก.ค. 50 09:47:23 A:169.252.4.21 X: TicketID:132907 ]

ความคิดเห็นที่ 24 "ผมว่าไอ้ที่แตกก็แตกไป แต่อันที่ใกล้รถไฟฟ้า ใต้ดินแบบเดินถึง ก็ยังอยู่เหนือกาลเวลา ก็ยังต้องตื่นตีห้าไปจองอยู่ดี ชีวิตนี้ ถ้าได้อยู่คอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า แล้วไปทำงาน ที่ทำงานใกล้รถไฟฟ้าอีก ชีวิตแสนจะง่าย แทบจะคำนวณเป็นมูลค่าได้เป็ฯตัวเงินเลย ผมแทบจะใช้รถไฟฟ้าตลอด ถ้าผมจะขับรถไปทำงาน ผมต้องตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อไปทำงานเจ็ดโมง แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้า ผมได้นอนต่ออีก สี่สิบห้านาที ตื่นอ หกโมงสิบห้า อาบน้าแต่งตัวสิบห้านาที เผ่นออกจากบ้าน หกโมงครี่ง ถึงที่ทำงานเจ็ดโมง ขากลับ ถ้าขับรถออกจากที่ทำงานสี่โมงเป๊ะ ถึงบ้าน สี่โมงสี่สิบห้า ถ้าออกจากที่ทำงานหลังสี่โมงครึ่ง โน่นถึงบ้านหกโมงกว่า แต่ถ้ารถไฟฟ้า ออกตอนไหนก็ถึงบ้านครึ่งชั่วโมง ด้วยเงิน สามสิบห้าบาท ถูกกว่าน้ำมัน เวลา ความเครียด ผมเอาเวลาไปเรียนวาดรูป ไปยิม กิ๊กเด็ก เรียนเพิ่มเติมได้อีกเยอะ คอนโดราคาเท่าเดิม แต่เศรษฐกิจอย่างนี้ คนทำงานในเมืองมีแนวโน้มจะปรับตัวมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ห้องสตูดิโอ 35 ตารางเมตร เช่าอยู่กันสามคน อัดกันเข้าไป มีเวลาทำงานมากขึ้น มีเวลานอนมากขึ้น เวลาเดินทางน้อยลง เลิกงานก็ไปนั่งทำงานร้านกาแฟ ห้องไว้นอนอย่างเดียว ผมเห็ฯที่คอนโดเค้าทำกัน" ^^^^ ^^^^ *_* ชอบประโยคนี้จริงๆ เข้ากับทฤษฎีของ ชาร์ลส์ดาวิน เลยนะ ผู้แข็งแรงและรู้จักปรับตัวก็จะอยู่รอด จากคุณ : 0.@ - [ 18 ก.ค. 50 10:34:46 A:125.24.100.252 X: TicketID:147236 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านจนตาลาย.... เห็นด้วยกับหลายๆความเห็น ฟองสบู่แตกหรือไม่แตก??? อย่าไปสนมันดีกว่า 1-ถ้าคุณมั่นใจว่า คอนโดที่คุณมองอยู่ มันมีศักยภาพ อยู่แล้วสบายตัว สบายใจ ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือตัวคุณนั่นแหละ รายได้เป็นอย่างไร?  มีปัญญาผ่อนได้ตลอดรอดฝั่งไหม? ถ้าตอบว่า " มี " ก็ซื้อไปเหอะ ถ้าฟองสบู่แตกจริงๆ คิดเสียว่าอย่างเลวร้าย ก็คืออาจต้องเหนื่อยหาเงินมาผ่อนยากขึ้น...เหนื่อยมากขึ้น... แต่อานิสงค์อย่างหนึ่งก็คือ คอนโดที่จะสร้างใหม่...ซัพพลายใหม่ๆ มันก็คงไมเกิดอีก อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่งล่ะ 2-หากคุณไม่คิดจะอยู่ คิดจะซื้อให้คนเช่า ขอให้กลับไปอ่านคห.23 หลายๆรอบ การซื้อให้เช่ามันคนละกรณีกับซื้อเพื่ออยู่โดยสิ้นเชิง คุณต้องทั้งคุยทั้งหาข้อมูลจากกลุ่มคนที่คุณคิดว่าจะเป็นผู้เช่า ตอบโจทย์ของเขาให้ได้ทุกข้อ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่คอนโดควรอยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่อย่าลืมนะ รถไฟฟ้ามันสร้างต่อไปเรื่อยๆแน่นอน ดังนั้น หากคอนโดของคุณมีจุดแข็งแค่ใกล้รถไฟฟ้า มันน่าคิดเหมือนกันว่า ราคา/ตรมทั้งค่าเช่าและราคาขาย มันจะขึ้นได้ไหม??? อย่างไร??? เพราะคนที่ซื้อคอนโด ณ นาทีนี้ กำลังซื้อที่ราคาสูงมากๆ อาจพูดได้ว่าไม่ค่อยคุ้มค่าการลงทุนแล้วล่ะ 3-กลุ่มสุดท้ายที่ต้องกล่าวถึงเป็นพิเศษ คือกลุ่มนักเก็งกำไร เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า30เปอร์เซนต์ ของยอดซื้อ/ยอดจองทั้งหมด เพราะวันก่อนได้อ่านสัมภาษณ์ผู้บริหารLPN ในแมกกาซีนรู้สึกจะเป็น "ไทคูน" (ลองหาอ่านดูก็น่าจะดีนะ) แน่นอนว่าหากสภาวะทุกอย่างยังดี ก็คงไมมีใครบาดเจ็บ แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามวัฎจักร มีขึ้น...ก็ต้องมีลง... จะลงด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่โดยส่วนตัวแล้วยังเชื่ออยู่ว่า หากการเก็งกำไรทุกอย่างอยู่บนความไม่ประมาท ก็คงพอจะออกตัวกันไปได้ แต่หากเล่นจองกันเกินกำลัง เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ฟองสบู่....หากจะแตก.... ก็เพราะคนเหล่านี้นี่แหละ...... ไม่ใช่แมวที่ไหนหรอก จะบอกให้ จากคุณ : mjh - [ 18 ก.ค. 50 12:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณฮับ ส่วนหนึ่งที่ซื้อคอนโดนี้ เพราะห่างจากที่ทำงาน 1 สถานีรถไฟฟ้า จากทีอยู่ปัจจุบันห่าง 5 สถานีรถไฟฟ้า แต่ว่าระยะทางจากคอนโดไปถึงสถานี เพิ่มจาก 50 เมตร เป็น กว่าสามร้อยเมตร (ใช้วิธีนับก้าว คอนโดปัจจุบันเดิน 50 ก้าวกว่าๆ คอนโดใหม่เดิน 300 ก้าว กว่าๆ ฮับ) ปล ถ้าจะเป็นผู้ให้เช่า อย่าลืมหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่ระหว่างผู้เช่า กับนิตินะฮะ ห้องผมถูกห้องผมเคยถูกหาว่า สูบบุหรี่กลิ่นเหม็น ทั้งๆที่ไม่ได้สูบ ไปบอกนิติก็ไม่เชื่อ เจ้าของห้อง (ที่มีห้องหลายห้อง) ก็เลยฟังข้อเท็จจริงจากเรา แล้วไปช่วยเคลียร์ให้ คือเค้ากะว่าจะมาถามเราว่าเรา สูบหรือเปล่า แต่เราเอง เช่ามา ไม่เคยรบกวนเจ้าของห้องเลย จ่ายค่าเช่าตรงไม่เคยต้องทวง ไม่เคยร้องขอเปลี่ยนพรม ตู้เย็น(ตู้เย็น สิบกว่าปี กินไฟมั่กๆ) จากคุณ : Ter - [ 18 ก.ค. 50 13:15:46 A:169.252.4.21 X: TicketID:132907 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 23 โหที่ทำงานกับที่บ้านใกล้รถไฟฟ้าทั้งสองที่เลย  ดีจังเลยครับ ผมขึ้นรถไฟฟ้าจริง ต้องต่ออีกหนึ่งกิโล เลยขับรถไปเอง เสียมากหน่อยเเต่เช้าๆเร็วกว่าเยอะ   แต่ตอนเย็นเจอติดแบบนรก หลายครั้งเหมือนกัน  อิจฉาคนที่บ้าน-ที่ทำงานใกล้ๆรถไฟฟ้าจริงๆ สบายๆ จากคุณ : supercc - [ 18 ก.ค. 50 13:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าไอ้ที่แตกก็แตกไป แต่อันที่ใกล้รถไฟฟ้า ใต้ดินแบบเดินถึง ก็ยังอยู่เหนือกาลเวลา ก็ยังต้องตื่นตีห้าไปจองอยู่ดี ^ ^ ถูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ต้อง . ชีวิตนี้ ถ้าได้อยู่คอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า แล้วไปทำงาน ที่ทำงานใกล้รถไฟฟ้าอีก ชีวิตแสนจะง่าย แทบจะคำนวณเป็นมูลค่าได้เป็ฯตัวเงินเลย ผมแทบจะใช้รถไฟฟ้าตลอด ถ้าผมจะขับรถไปทำงาน ผมต้องตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อไปทำงานเจ็ดโมง แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้า ผมได้นอนต่ออีก สี่สิบห้านาที ตื่นอ หกโมงสิบห้า อาบน้าแต่งตัวสิบห้านาที เผ่นออกจากบ้าน หกโมงครี่ง ถึงที่ทำงานเจ็ดโมง ^ ^ เห็นด้วยอีกเหมือนกัน ทุกวันนี้ตื่นเจ็ด50 ถึงที่ทำงานแปด50 วิ่งไปแต๊ปบัตรทัน 9 โมงพอดี อิอิ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 18 ก.ค. 50 17:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สิ่งที่น่ากลัวสำหรับสถาณการณ์"คอนโดแตก"คือ จะมีคนอยู่ 2 พวก พวกแรก / พวกสมหวัง ได้คอนโดของดี / ราคาพอประมาณ <ไม่กล้าพูดว่าคอนโดถูก / เพราะราคาถูกปั่นใกล้ยอดดอยแล้ว> คงหน้าชื่นตาบานได้ พวกที่สอง / พวกดวงไปดาวน์คอนโดฟองสบู่แตก ถึงวันโอนเหลือคนผ่อนดาวน์ไม่กี่คน หาคนโอนก็ยากยิ่ง แบงค์รู้ข่าวก็หยุดเงินกู้เพราะไม่อยากมีลูกหนี้ NPL โครงการหยุดสร้าง / แต่ไม่มีวันประกาศบอกพวกแมงเม่าหรอก ดูที่หยุดสร้างตอนนี้ที่ๆเห็นข่าวกัน ใช้วิธีแอบหลบเข้ากลีบเมฆแบบเนียนๆทั้งนั้น พอรู้ตัวอีกทีก็ผ่อนดาวน์ไปลึกมากแร้ว ไม่ผ่อนต่อ / ตามสัญญาก็ถูกริบเงินฟรี ผ่อนต่อก็เห็นๆว่าเขาไม่สร้างแน่ๆ แล้วรอฟ้องเงินที่เป็นอ้อยเข้าปากช้าง อาจย่อยเป็นปุ๋ยไปแล้ว จะไปง้างออกมาก็ต้องจ้างทนายอีกเป็นแสน ผมมองแล้วมันน่าสยองขวัญยิ่งกว่าหนังผีแบบไทยๆแยะ ดวงของเพื่อนๆแต่ละคนจะออกหัว / หรือออกก้อยครับ หรือจะโชคดีออกหัวกันถ้วนหน้า สำหรับผมเจอตอนปี 40 อยู่หนึ่งเคส เชื่อใหมตอนนี้ยังตามเรื่องไม่จบ อาทิตย์หน้าต้องไปศาล แล้วยังไม่เห็นเงินกลับมา / แม้แต่บาทเดียว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : Gib - [ 18 ก.ค. 50 19:25:34 A:58.8.187.178 X: TicketID:135092 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พวกที่สอง / พวกดวงไปดาวน์คอนโดฟองสบู่แตก ถึงวันโอนเหลือคนผ่อนดาวน์ไม่กี่คน หาคนโอนก็ยากยิ่ง แบงค์รู้ข่าวก็หยุดเงินกู้เพราะไม่อยากมีลูกหนี้ NPL โครงการหยุดสร้าง / แต่ไม่มีวันประกาศบอกพวกแมงเม่าหรอก ดูที่หยุดสร้างตอนนี้ที่ๆเห็นข่าวกัน ใช้วิธีแอบหลบเข้ากลีบเมฆแบบเนียนๆทั้งนั้น มีตัวนี้แหละครับที่เป็นไปได้ ตอนนี้ทำสัญญาดาวน์ต่ำ กลัวว่าตึกครึ่งๆ กลางๆ แล้วคนยอมทิ้งดาวน์กัน จากนั้นก็ .. . จากคุณ : irq5 - [ 19 ก.ค. 50 00:56:02 A:203.146.63.185 X: TicketID:129004 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อึ๊ย คุณว่านน้ำมาตอบด้วย ดีใจจัง หวัดดีคับ ตามอ่านกระทู้คุณว่านน้ำมานาน ขอบคุณท่านอื่นๆ ที่เห็นด้วยนะคับ จากคุณ : Ter - [ 19 ก.ค. 50 10:02:31 A:169.252.4.21 X: TicketID:132907 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สถานการณ์ตอนนี้กับปี 40 ต่างกันเยอะครับ 1. ปี 40 ดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่า 10% 2. มีการกู้เงินจากต่างประเทศจำนวนมาก (ดอกเบี้ยถูกว่าเราเยอะ) 3. ตลาดหุ้นตอนนั้น PE ประมาณ 30 เท่า ราคาหุ้น Over value กันทั้งนั้น ถ้าตลาดหุ้นไทย PE ขนาดนี้ ให้หนีให้ไกลตลาดหุ้นพันลี้ 4. ค่าเงินบาท Peg กับ USD และมีการโจมตีค่าเงินบาท 5. แบงค์ปล่อยกู้โดยไม่ระวัง (เพราะว่าแบงค์ได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงมาก) สถานการณ์ปัจจุบัน 1. ดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ก็ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ (โดยส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างเหมาะสม) 2. ส่วนต่างของดอกเบี้ยไทยกับต่างประเทศไม่ได้ต่างกันมากนัก 3. ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ PE 10 ต้นๆ น่าจะยังเป็นตลาดที่ถูกที่สุดในภูมิภาค ถึงแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วก็ตาม แต่ก็อย่าลืมว่าดัชนีหุ้นมันย่ำอยู่กับที่ตั้งแต่ปี 46 แล้ว 4. ปัจจุบันเราลอยตัวเงินบาท ค่าเงินเป็นไปตามกลไกตลาด 5. แบงค์ระมัดระวังในการปล่อยกู้มากขึ้น คอนโด ถ้ายังโตในระดับที่เป็นอยู่ โอกาสที่จะ Over supply เป็นไปได้สูง แต่จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างปี 40 ครับ ผมคิดว่าปรากฎการณ์ปัจจุบันคือการปรับเปลี่ยนของวิถีชีวิตคนเมือง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐานมากกว่า ช่วงนี้ยอมรับว่ามันอาจจะพีค และมีกระแสเก็งกำไรเข้ามาผสม แต่มันจะปรับตัวเข้าสู่สมดุลย์ในที่สุด และอัตราการโตของคอนโดจะเริ่มต่ำลง ในเรื่องเศรษฐกิจส่วนที่ต้องระวังคือเรื่องเสถียรภาพเงินบาทมากกว่า เนื่องจากบาทแข็งมากๆอย่างปัจจุบัน ก็กระทบส่งออกเต็มๆ จากคุณ : Lifelong Learning - [ 19 ก.ค. 50 22:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ระดับคุณว่านยังต้องแต๊บบัตรอีกเหรอครับ อิอิ จากคุณ : Trump Jr. - [ 20 ก.ค. 50 12:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทุกวันนี้ตื่นเจ็ด50 ถึงที่ทำงานแปด50 วิ่งไปแต๊ปบัตรทัน 9 โมงพอดี อิอิ จากคุณ : ว่านน้ำ อ่าวๆๆๆๆๆ   ระดับคนนี้ยังต้อง แต๊ปบัตรอีกหรือนี่   นึกว่าพนง.ทั้งออฟฟิตจะยืนตรงโค้งคำนับ และกล่าว " สวัสดีค่า(ครับ)ท่าน ปธ " อิ อิ อิ อิ จากคุณ : supercc - [ 20 ก.ค. 50 13:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 33 อิอิอิ พอดีก่อนเที่ยงพิมพ์ค้างไว้ไม่ได้ส่ง พอส่งตอนบ่าย เลยเห็นว่า อิ อิ อิ มีคนคิดเหมือนกันเลย จากคุณ : supercc - [ 20 ก.ค. 50 13:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 -_-' ใหญ่แค่ไหนก็ต้องอยู่ใต้ระเบียบ เพื่อเป็นตัวอย่างอันดีแก่มวลชน.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 20 ก.ค. 50 22:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ใหญ่ที่ว่านี่หมายถึงไซซ์ตัวนะ เอิกๆๆๆๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 20 ก.ค. 50 22:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เบื่อพวกอ้างปี 40 จังครับ   ลองดูครับ ตอนนี้ ศก เราดีมากเลยนะครับ  เงินเฟ้อต่ำ ทุนสำรองเพียบ ส่งออก โตเป็นเลขสองหลัก ยังมีอะไรอีกนะ อ้อดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่ทั่วโลกเป็นขาขึ้น เงินบาทก็แข็งอาจจะได้เห็นเลข 2 นำหน้า เออล่าสุดอัตราการว่างงานก็ต่ำ แต่ไหงไปไหนมาไหน เงียบ สวนทางกับข้อมูลที่ดีๆเหล่านี้ ผมจะคอยดูครับ  ว่าใครผิด(ผมไม่ฟันธงครับ แต่ขออยู่ข้างเจ้าของกระทู้ ด้วยคน) คนที่เอาอสังหาริมทรัพย์ไปเปรียบเทียบกับหุ้นนี่ก็แปลกนะ  ผมเรียนมาเค้าว่า อสังหาริมทรัพย์จะเสี่ยงมากกว่าหุ้นอีก  สงสัยต้องไปทวนใหม่  หุ้นมีตั้ง 4-500 ตัว  ดันไปดูตัวที่แพงๆ  แปลกดี จากคุณ : STOCK_BABY - [ 13 ส.ค. 50 03:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ทุกวันนี้ ตื่น 8 โมง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ 8.15 ดูข่าวกีฬาคุณเอกราชถึง 8.25 เดิน 80 ก้าวจากคอนโดถึงตึกที่ทำงาน 8.30 พอดีเด๊ะ จากคุณ : LuiJiNo - [ 21 ส.ค. 50 16:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 วันนี้เงียบมาก เงียบจริงๆ จากคุณ : ศนิ xxx - [ 28 ส.ค. 50 11:53:35 ]