ความคิดเห็นที่ 1 บ้านเราก็ประกาศขายเหมือนกัน ทาวน์เฮ้าส์ 24 วา ยังขายไม่ได้เล้ยอยู่คลอง 8 อยากรู้เหมือนกันทำไมไม่สนใจกันเลย  อิ  อิ จากคุณ : jimyai - [ 22 ก.ค. 50 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รังสิต คลอง 6  บ้านแฟนเรา ขายมานานยังไม่ได้เรื่องเล้ย  บ้านเดี่ยว 60 ตรว  ล้านเดียวยังไม่มีคนเอา  ก็ไกลสะขนาดนั้น  เห้ออ จากคุณ : Jikkoi - [ 22 ก.ค. 50 19:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใจเย็นๆ ครับ หลายๆ ท่านอาจจะติดทำเลอื่นๆ พยายามหาเวบที่ผู้สนใจซื้อบ้าน เข้าไปอ่านเยอะๆ นะครับ เอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : Kong - [ 22 ก.ค. 50 19:58:17 A:58.8.106.161 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขายไม่ได้เพราะอะไร เคยลองประเมินมั้ยครับ   1. บ้านไม่ดี ทำเลไม่ดี ตกแต่งต่อเติมไม่ดี สภาพไม่ดี 2. โฆษณาไม่ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 3. ราคาสูงเกินไป 4. หรืออื่นๆ ถ้ายังวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาไม่ออก รอๆๆๆต่อไป ก็คงต้องรอฤกษ์ดีว่าจะมีคนอยากซื้อมาเจอะโฆษณาที่เราแปะเอาไว้ที่ไหนซักแห่ง เกิดสนใจแวะมาดู แล้วเลือกซื้อบ้านเราจากหลายแสนหลังที่อยู่ในตลาดตอนนี้ ลองคิดดูว่าทำยังไงถึงจะทำให้บ้านคุณดูโดดเด่นขึ้นมา น่าสนใจในสายตาผู้ซื้อ ลองคิดง่ายๆดูก็ได้ว่าถ้าคุณอยากซื้อบ้านซักหลัง ทำไมคุณถึงเลือกหลังนี้ และทำยังไงคุณถึงจะหาไอ้บ้านหลังนี้เจอก่อนไปถูกใจหลังอื่น ถ้าทำได้อีกไม่นานก็ขายได้ครับ ผมขอแชร์ประสบการณ์ตอนผมขายรถก็แล้วกัน - เริ่มต้นผมก็เสริชในเนต ลิสต์เวปที่มีการโพสต์ซื้อขายรถทั้งหมดออกมา (ได้มาประมาณเกือบ 10 เวป) - ผมไล่นั่งดูคนที่โพสต์ขายรถรุ่นเดียวกับผมทั้งหมดในช่วง 1 เดือนย้อนหลังหาราคาเฉลี่ย ราคาถูกที่สุด ราคาต่ำที่สุดออกมา นอกจากนั้นก็ดูว่าผู้ขายโฆษณารถเค้าว่ายังไงบ้าง เลือกอันที่เราอ่านแล้วโดนใจรู้สึกอยากซื้อออกมาหลายๆอัน - ผมทำความสะอาด รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่ดีเกี่ยวกับรถผม ถ่ายรูปทุกมุม - ผมเริ่มร่างโฆษณารถผม ลองเอาไปให้คนอื่นดูว่า เป็นไง แล้วก็เริ่มลงโฆษณา - ผมตั้งราคาไม่ใช่ที่ต่ำที่สุด แต่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคันอื่นๆ (ถูกกว่าค่าเฉลี่ยแค่สองหมื่นบาทเองครับ แต่พอดีมันไปตรงกับตัวเลขจิตวิทยาที่ทำให้รู้สึกว่าถูกพอดี) - ผมเข้าไปอัพเดท โพสต์ของผมทุก 2 วัน ให้มั่นใจว่ามีโฆษณาของผมอยู่ไม่หน้าแรกก็หน้าที่สองตลอด - ผมคอยจับตาดูคนที่โพสต์รถรุ่นเดียวกับผมตลอด ให้มั่นใจว่าถ้ามีคนมองหารถรุ่นนี้ หรือมองหารถที่ระดับราคาขนาดนี้ คันของผมคือคันที่น่าซื้อที่สุดในตลาดขณะนั้น - ก่อนคนมาดูก็เอารถไปเช็คสภาพเข้าศูนย์ให้เรียบร้อย มั่นใจว่า test drive แล้วต้องประทับใจ (ซึ่งผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว) ผลคือ ผมรับโทรศัพท์แทบทั้งหมดประมาณ 20 สาย คนขอนัดดูกระหน่ำมาก - มาถึงตอนนัดดูนะครับ ผมเองไปใช่เซลล์ พูดไม่เก่ง จิตวิทยาก็ไม่ค่อยเก่งเหมือนกัน ก็ชวนเพื่อนที่บริษัทที่เป็นเซลล์แล้วชอบพวกรถยนต์ไปด้วยกัน - การนัดดู ไม่ใช่เรากะจะขายอย่างเดียว แต่เราแสดงออกให้คนซื้อรู้ว่าเรารักรถเรา ดูแลกันมาเป็นอย่างดี ขายเพราะจำเป็นต้องขายจริงๆ เพื่อนผมก็ช่วยในลักษณะสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเอง รวมทั้งแนะนำคนจะซื้อด้วยว่า ต้องดู ต้องเช็คอะไรบ้าง ให้เค้ารู้ว่าเรารู้เรื่องรถ ไม่ใช่สักแต่ขับ - หลักฐานการดูแลรักษา เปลี่ยนอะไรมาแล้วบ้างเมื่อไหร่ ใบเสร็จมีครบ - พอมาถึงการต่อราคา ผมบอกเลยว่าไม่ลดนะ มีคนรอต่อคิวดูอีก 3 คนพรุ่งนี้ คุณโทรมาก่อน ผมเลยให้คุณดูก่อน ตามคิว จะกลับไปคิดก่อนก็ได้ ใครวางมัดจำก่อนผมก็ขายคนนั้น แต่เจอคนต่อเก่งเข้าไป ในที่สุดก็ใจอ่อน ลดไป 5 พัน นัดโอนแล้วจ่ายเงินสดเลย คนที่สองที่มาดูก็ตัดสินใจซื้อเลย สรุปก็คือ ทำการบ้านให้มากกว่าคนอื่นซัก 3 เท่า ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดเลยครับ ทั้งตัวสินค้าที่เราจะขาย ช่องทางการโฆษณาให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย วิธีการโฆษณา การตั้งราคา การนัดดูและเจรจาปิดการขาย รถผมก็ไม่ได้วิเศษเลิสเลอไปกว่าที่เค้าโพสต์ขายกันเลยครับ  รถบ้านๆไม่มีแต่งอะไรเลย แถมคนซื้อไม่ชอบสีรถผมซะด้วยซ้ำ แต่เค้าก็ซื้อครับ ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ บ้านอาจจะขายยากกว่า แต่ถ้าคุณทำได้ดีจริงๆผมเชื่อว่า ขายได้ครับ (หมายเหตุ) บ้านขายตัวเองไม่ได้ คุณต้องเป็นคนทำให้มันขายได้ครับ แก้ไขเพิ่มข้อมูล แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 16:05:17 จากคุณ : s7014249 - [ 23 ก.ค. 50 14:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ มีประโยชน์มากค่ะ คิดในแง่คนซื้อ แล้วคุณจะเป็นคนขายที่คนมาซื้อประทับใจ และประสบความสำเร็จ จากคุณ : cocoa butter - [ 23 ก.ค. 50 19:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ทราบว่าอยู่หมู่บ้านอะไรค่ะ จากคุณ : แม่ถุงทอง-ฟ้าใส (แม่ถุงทอง-ฟ้าใส) - [ 5 ส.ค. 50 09:58:41 ]