ความคิดเห็นที่ 1 หมอดูคู่หมอเดาครับ ... เลือกทำอันที่ทำง่าย ทำแล้วสบายใจ ดีก่าครับ หมอที่ดีย่อมไม่บอกอะไรให้คนไข้ตกใจครับ ... อีกอย่างผมว่าถ้า ฮวงจุ้ยดีจริงๆ ป่านนี้ กองทัพคอมฯจีน คงไม่ได้ผุดได้เกิดกันจนมาถึงทุกวันนี้นะครับ เพราะ ฮ่องเต้ สมัยก่อน เค้าสร้างกัน ใช้ฮวงจุ้ยยิ่งกว่านี้อีกนะครับ และอีกอย่าง ... ถ้าถูก จริงๆ เราคงต้องสร้างบ้านแบบวัดจีนแน่ๆคงไม่มี Modern Style หรือ Thai Style ให้เห็นหรอก ครับ เลือกเอาที่ ทำง่ายสบายใจ เลือกเอาที่ไม่สบายใจแล้วทำดีก่าครับ ปล.ไม่ได้ลบหลู่นะครับ แต่ ไม่ชอบอะไรที่อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ได้ครับ อย่างเช่น ประตูที่เปิดมาแล้วชนกัน ทำให้คนในบ้าน มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งอ่ะ ให้แก้โดยการผูกกระพรวนตรงที่ประตูตรงกัน เพราะว่า คนในบ้านจะได้รู้ว่าอีกข้างกำลังเปิดมาจะได้ไม่ชนกัน ไม่ทะเลาะกันคับ หรือ บ้านทาง 3 แพร่งไม่ดี ก็จิงเพราะ รถอาจพุ่งมาชน หรือ เราจะรำคาญไฟ รถที่ส่องมาได้ครับ ให้แก้โดยติดกระจก 6 เหลี่ยม จิงๆ เค้าให้ติดกระจกเพื่อ ให้สะท้อนแสงไฟรถ แจ้งคนขับให้รู้ว่าตรงนี้เป็นทางแยก และให้คนที่ขับรถมาลดไฟลง เพราะมันแยงตาคนขับเช่นกันครับ ไอ้แบบนี้ผมเชื่อนะ มันเป็นกุศโลบาย ให้คนเชื่อน่ะครับ ไม่ต้องอธิบายยาวๆ ปล อีกที .. ซินแส ที่ดี มีนะครับ ลองหาดู จากคุณ : คนขายปลา - [ 7 ส.ค. 50 01:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าก็คงใช้ความเชื่อมาหากินแหละครับ เค้าก็บอกนั่นบอกนี่ พอเราเริ่มจะไม่ค่อยเชื่อ เค้าก็จะบอกว่า " อั๊วบอกลื้อไปแล้ว ถ้าลื้อไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อั๊วไม่รู้ด้วยนะ " จากคุณ : non007 - [ 7 ส.ค. 50 02:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเขาบอกว่าดีหมด เขาก็ไม่ได้เงินค่าให้คำปรึกษาเเก้ไข เเม่เราเชื่ิอซินเเส้เมื่ิอก่อนเรียกมาดูเขาบอกว่า ต้องเปลี่ยนสีประตูเป็นสีฟ้าหมด ให้น้ำดับเพราะตรงข้ามเป็นปั้มน้ำมันร้อนเป็นไฟคนในบ้านจะเดืิอนร้อน  ก็ทากันใหม่ไป  ผ่านไปหลายๆปีซินเเ้ส้คนเดิมก็มาทักอีกว่า ประูตูควรเปลี่ยนเป็นเขียว ใช้ความรมรื่นของตัวเเทนต้นไม้ดับร้อนจากไฟจากตรงข้าม  เเกจำไืม่ได้เเล้วว่าเเกเคยพูดว่าอะไร น้่านเเล้วเเต่จะำพูดจริงๆ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 50 03:41:43 จากคุณ : remy&chanel - [ 7 ส.ค. 50 03:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราได้เคยมีโอกาสคุยกับหมอต้อย น.ต.พญ.นลินี ไพบูลย์ เจ้าของกิฟฟารีน คุณหมอบอกว่า "ชีวิตหมอตั้งแต่ทำธุรกิจมา หมอไม่เคยดูดวงเกี่ยวกับวันเปิดบริษัท หรือเปิดโรงงานแห่งใหม่เลย และไม่เคยใช้ซินแสมาดูทิศทาง หมอใช้ความสะดวกและเวลาของหมอเป็นหลัก หมอถือเอาฤกษ์สะดวกเข้าว่า ชีวิตหมอเคยดูดวงครั้งเดียวตอนดูฤกษ์แต่งงาน แล้วชีวิตคู่หมอก็ล้มเหลว ดังนั้นทุกอย่างที่หมอทำ หมอจะยึดเรื่องความสะดวกของหมอ ดูความเป็นไปได้ มีสติในการทำธุรกิจ" เอาตัวเราเป็นที่ตั้งดีกว่าคะ ถ้าเราคิดดี ทำดี พูดดี มีสติ สิ่งดีๆ ก็จะเข้ามาในชีวิต เชื่อหมอดูมาก ถ้าเขาทักดีก็ดีไป ถ้าทักไม่ดีก็ไม่สบายใจ เอาข้อทักท้วงที่เขาทัก แค่มาเป็นข้อระวังในการดำเนินชีวิต ดีกว่าเอามายึดมั่นถือมั่น ไม่สบายใจซะเปล่าๆ จากคุณ : แบบไหนว่ามา - [ 7 ส.ค. 50 06:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำให้มองเห็นแล้ว เราสบายใจ หาประสบการณ์จาก สถานที่ๆเราชอบ แบบนั้นละ...สุดยอดแล้ว เคยเชื่อมาเหมือนกัน........... .........ไม่ประสบความสำเร็จครับ..... ถ้าจะทำให้สมบูรณ์ต้องใช้เงินและเวลามากเกินไป....เอ้อ.. ..................เสียดายเหมือนกัน เอาใจช่วยนะ...ประสบความสำเร็จดั่งหวังนะนะนะ........ ใจเย็นๆๆ..สมาธิตั้งมั่นแล้วดีน่ะครับ จากคุณ : peeba - [ 7 ส.ค. 50 07:28:25 A:202.139.216.50 X: TicketID:152103 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วย....ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ทำแล้วสบายใจก็ทำ ไม่สบายก็เปลี่ยนซะ ใครพูดไม่เพราะหรือพูดไม่ดี เราคิดว่าเราทำดีแล้ว เราก็เพียงแต่ฟังเอาไว้ หากมันดีกับตัว ก็ปรับเอา หากมันไม่ดีกับตัว เราก็ไม่ต้องทำ เพราะมันจะทำให้คุณลำบาคใจ จากคุณ : January (griffith) - [ 7 ส.ค. 50 08:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจากผมจะไม่เชื่อ ผมยังลบหลู่อีกต่างหากครับ สำหรับคนที่หากินทางนี้ ทำดี ไม่ต้องเกรงใจเทวดาฟ้าดินหรือดวงดาว ทั้งนั้น หนามยอกก็เอาหนามบ่งสิครับ ควักมันอีกตำรา หาซินแสอีกคน (จ้างผมปลอมตัวก็ได้) แย้งคำทำนายให้มันมึนกันไปเลย เชื่อฮวงจุ้ยกันดีนัก ผมนี่แหละอ้างตำราฮวงจุ้ยหลอกสถาปนิกมาแล้ว อ้างว่าฮวงจุ้ยต้องทำแบบนี้ พอสร้างบ้านเสร็จผมแกล้งถามสถาปนิกว่า "คุณรู้ไหมฮวงจุ้ยแปลว่าอะไร" ฮวงจุ้ย(ในความหมายของผม)แปลว่า "อั้วจะเอาแบบนี้ เองอย่าเจือก" ฮา ฮา ฮา จากคุณ : John Luc - [ 7 ส.ค. 50 08:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ...... ... ......... .. .... .........                      ................หนักที่สุดในสายอาชีพตัวเองที่เจอ .... ออกแบบผ่านการคุย  การร่างแบบเสนอแบบ  ผ่านหมดเเล้ว... ลงมือทำแบบจริงไปได้ราวๆ 80 เปอร์เซนต์... อยู่ในช่วงลงลึกถึงรายละเอียดแบบขยายต่างๆ .... ................ ......... วันหนึ่ง...  เสียงตามสายดังมา... คาดว่าคงตามความคืบหน้าของงาน... ขอนัดเจอเพื่อดูเเบบที่ได้ 80 เปอร์เซนต์นั้น... ........  ........... เสียงท่านเจ้าของบ้าน  เอื้อนเอ่ยออกมาว่า .... ขอเปลี่ยนระยะห่างของเสา ถึง เสา ทุกต้น  ให้มีเศษทศนิยม 3 ตำแหน่ง.. และจุดทศนิยม 3 ตำแหน่งนั้น    ช่วงเสานี้ให้ได้ลง 5 ??? ช่วงเสาทิศนี้  ให้ได้ลง 7 ???.... แล้วให้เอาตัวเลขจำนวนเมตรด้านหน้ามารวม  อย่าให้ตัวสุดท้ายได้ 4 ??? .......... ............ ......... ............................   ผมทิ้งงานทันที ???? ....... อ่อ..  แบบทั้งหมดที่ได้ 80 เปอร์เซนต์นั้น  ผมไม่ได้ให้ท่านเจ้าของบ้านไป.. ผมจบงานดื้อๆ  ..แจ้งว่าผมทำงานนี้ไม่ได้  .. ที่สำคัญ  เป็นงานที่ไม่ได้เก็บเงินล่วงหน้า  มัดจำใดๆ ..  ... ...... ผมเป็นคนไม่เชื่อ ???  แต่ไม่ได้ต้านจนไม่ฟังเลย แต่หลายๆ อย่าง .. มันเกินไปจริงๆ  .เเละขัดกับวิถีการคิดของการออกแบบ ยกตัวอย่างเล็ก ๆ นะครับ... ประตูหลักเข้าหน้าบ้าน ..ที่มักเป็นประตูไม้บานคู่ ( หรืออื่นๆ ) ... ทั้งเคยดูผ่านรายการทีวี .. ทั้งอ่านหนังสือเจอ แทบทั้งหมดศาสตร์ทางด้านนี้  ทำไมบอกว่าการเปิดเข้าอาคารเป็นสิ่งดี ??? .... ?????????????????????????             ......... วิถีการคิดของการออกแบบ...  ที่คิดตรงข้าม ( ทิศทางการเปิดเข้า - ออก ) การเปิดประตูหลัก ( หน้าบ้าน )เข้าไปในอาคาร  หรือบ้านนั้น ก่อให้เกิดการสูญเสียพื้นที่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์หนึ่ง... ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อาศัยอยู่ภายในอาคารหนึ่ง... ก่อให้เกิดความเลอะเทอะ กรณีฝนตกเปียกบานประตู น้ำหยดในอาคารหนึ่ง. ....... ..... .......... ...... ........... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 7 ส.ค. 50 08:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซินแสตัวจริง คือ คนที่ออกเงินปลูกบ้าน ดูแม่นจนใครๆก็มองเห็น ถ้าเจ้าของบ้านดูไม่แม่น ก็ไม่มีบ้านมาให้ซินแส พวกเอาแต่พูดแต่ไม่ทำ ดีก็เอาด้วย ซวยก็ยังเอา เลือกดูว่า จะให้ใครมาช่วยปลูกบ้านถ้าถึงเวลาตัวเองต้องปลูกบ้าน  55 คิดไม่ยากช่ายไหมครับ จากคุณ : fairhomes@ho - [ 7 ส.ค. 50 09:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านความเห็นของแต่ละคน สนุกๆ ทั้งนั้น ยอดเยี่ยมครับ  เรื่องแบบนี้ ผมว่าฟังเล่นขำๆ ก็ได้ อย่าไปจริงจังซีเรียส อะไรกับมันเลยครับ ทำเพราะมันทำให้เราสบายใจมีเหตุผล  ไม่ใช่ทำเพราะความเชื่อ ............... จากคุณ : asawavet - [ 7 ส.ค. 50 09:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่ได้ลบหลู่นะครับ แต่เคยอ่านความเห็นของคนในเวปแห่งนึงแล้วชอบ ขอเอามาแบ่งปันก็แล้วกัน เมืองไทยนี่เครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาสตร์ต่างๆด้านความเชื่อ นับว่าอยู่ในอันดับต้นๆของโลก แต่ทำไมความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ถึงได้ห่างประเทศที่เค้าเจริญแล้วอย่างมากมาย ทั้งที่ประเทศพวกนั้นเค้าก็ไม่ได้มีความเชื่ออะไรพวกนี้เลย จากคุณ : s7014249 - [ 7 ส.ค. 50 09:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยเจอเจ้าของงานให้ซินแสมาดู บอกว่าต้องวางอาคารเป็นมุมกับที่ดิน แล้วจะโชคดีกี่ปีจำไม่ได้แล้ว แต่หมดโชคดีแล้ว รออีกราวร้อยปี ลูกน้องกังวลว่า จะวางผังไม่ได้ ผมบอกว่า วางไปเลย เราใช้กล้อง ซินแสใช้เข็มทิศอันจิ๋วเดียว วางยังไงก็แม่นองศากว่าอยู่แล้ว ซินแสมาตรวจบอกถูกต้องแล้วคร้าบ ผมไม่ขัดใจเจ้าของงานครับ ถ้าผมไม่ต้องไปแก้คดีแล้ว ผมทำให้หมด   เป็นแต่ต้องสั่งงานมาเป็นหลักฐาน ผังอาคารผมก็ให้ลงนามอนุมัติก่อนตอกเข็ม ป่านนี้ ยังต้องทนใช้ถนนรอบอาคารที่ไม่ได้ฉากอยู่เลย เพราะเชื่อซินแสที่ให้บิดตัวอาคาร เอียงกับที่ดิน จากคุณ : KittySP - [ 7 ส.ค. 50 10:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แจ่มแจ้ง ตามที่ท่าน คีรีบูน ว่า เลย ไม่ได้ ต้าน แต่ ต้องดูความเป็นจริง จากคุณ : Noo_Lek@TheKop - [ 7 ส.ค. 50 10:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าคิดมากเลยค่ะ ทำได้เท่าที่ทำก็พอ... ...ที่บ้านยายเพื่อนเรา เค้าสร้างห้องน้ำในห้องนอนให้ยายเพื่อความสะดวกของคนแก่ โดยหันหน้าหาประตู ยายจะได้ไม่ต้องเดินไกล ....วันหนึ่งอาการเบาหวานยายกำเริบ ด้วยความเป็นห่วง  น้าเพื่อนเลยพาซินแสมาดู  ซินแสท่านบอกว่าการหันหน้าชักโครกหาประตูไม่ดี ต้องหันหน้าหากำแพงระยะห่างเท่านี้เท่านั้น หันหลังให้ประตู(ซึ่งเพื่อนมานบอกว่าเกิดมาไม่เคยได้ยิน) น้าเพื่อนก็ทำตาม โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของญาติๆ  ห้องน้ำใหม่ที่เสร็จออกมาใครเห็นคงงง ว่าจะเข้ายังไง เพราะพี่แกตั้งชัดโครกหันหน้าเข้าหากำแพง  ระยะห่างจากด้านหน้าไม่ถึงเมตร เวลายายนั่งชักโครกยายต้องนั่งงอๆขา ไม่สามาระเหยียดขาได้  หลังจากนั้นไม่นาน  ยายเป็นโรคปวดหลัง ปวดข้อและอื่นๆตามมา(ซึ่งเราจำไม่ได้ว่าโรคอะไร มัวแต่ขำเพื่อน  มานพูดไป บ่นน้ามานไป) เกิดจากการนั่งผิดท่า บางครั้งในการเชื่อสิ่งใดๆ สิ่งนั้นจะต้องไม่เดือดร้อนทั้งเรา และคนอื่นคะ แฮะๆ เล่าให้ฟังขำๆคะ จากคุณ : แมวดื้อมะลิ - [ 7 ส.ค. 50 10:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องของ ดวง ฮวงจุ้ย และอื่นๆ เป็นหลักที่เกี่ยวเนื่องกับสถิติและวิทยาศาสตร์ ผู้รู้หรือผู้ที่ศึกษา ก็อาจมีความคิดในการประยุกต์ใช้แตกต่างกันออกไป การทำอะไรก็ตามถ้าทำแล้วสบายใจดูดี ไม่รบกวนใคร นั่นสิครับถึงจะดี ผมเองศึกษาเรื่องโหราศาสตร์มาเล็กน้อยและนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสิ่งปัจจุบัน เพราะผมเป็นวิศวกรฯด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผู้รู้ทั้งหลายบอกนั้น ให้เรานึกเสียว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี แต่หากสิ่งใดที่เขาบอกให้ทำแล้วดูไม่ดี เราก็อาจจะประยุกต์หรือถามผู้อื่นได้ อาทิเช่น หลักการใช้กระจก ใยแมงมุม ต้นไม้ หรือลวดลายของต่างๆ ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องเหล่านี้เช่นกัน เพราะคนโบราญ เขามีประสบการณ์แต่ทางแก้อาจจะโบราณเท่านั้นเอง จากคุณ : Maximus (MaxEn) - [ 7 ส.ค. 50 11:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมจะให้ดูว่าของตัวบ้านของจริงเป็นอย่างไร ที่เสาด้านหน้าของทุกต้น ให้ติดดอกโบตั๋นไว้ เพราะเสา 2 ต้น ข้างหน้าเหมือนตะเกียบคู่ที่ปักอยู่ เหมือนจะปักไหว้ผี แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 50 12:59:39 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ไก่ทอดร้อน ๆ (ไก่ทอดร้อน ๆ) - [ 7 ส.ค. 50 12:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พอผมได้ยินที่บ้านว่าพาซินแสมาดู แล้วสั่งให้ทำ โดยที่ไม่ยอมให้เจอกันกับ ผมเลย (ที่บ้านเค้าคงกลัวผมมีเรื่องกับซินแส เพราะผมจะไม่ยอมอยู่แล้ว) ผมก็เลยแก้แคล็ดที่ผมไม่ถูกกับซินแสมั่ง โดยใช้สีสเปรสีแดง พ่นที่ผนัง หน้าบ้านว่า "  บ้านนี้ไม่ต้องการซินแสที่งี่เง่า ถ้าคิดว่าแน่จริงก็ให้มาเจอกัน จากหลานของเจ้ (ซินแสเรียกญาติผมว่าเจ้) ที่งี่เง่ากว่า" มีภาพปลากอบ ที่มีรอยลบไปครึ่งนึงเพราะที่บ้านสั่งให้ช่างลบ แต่ผมไม่ยอมให้ลบ จากคุณ : ไก่ทอดร้อน ๆ (ไก่ทอดร้อน ๆ) - [ 7 ส.ค. 50 12:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บ้านสวยนะครับคุณไก่ทอด ไม่ต้องเครียดตอนผมทำบ้านก็เอาสะดวกผมเหมือนกันครับ อาจจะดูทิศทางลม กับแสงอาทิตย์แค่นั้นละครับ แต่ที่สำคัญอย่าให้คนในบ้านเชื่อไปกับเค้าด้อยก็น่าจะดีครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : khunfah (khunfah) - [ 7 ส.ค. 50 13:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 .... .......... .. .............. ..                       .............. โหวตกันหน่อย   ดีหรือเปล่าเอ่ย ??? ...... ...................... .. ......... ........ จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 7 ส.ค. 50 13:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้างบ้านก็นำซินแซมาดู แก้โน้นแก้นี้ ย้ายห้องน้ำ ทะลุประตู ทำไปทำมาจะต้องรื้อบันไดบ้านอีก ที่นี่พ่อแม่ของฝ่ายชายที่เป็นคนจีนมาจากเมืองจีนมาเยี่ยมลูก มาเห็นก็บอกว่าอย่าเชื่อซินแซหรือหมอดู เขาบอกว่าเขาเป็นคนจีนอยู่เมืองจีนยังไม่เชื่อเลย และตอนนี้คนจีนเขาก็ไม่ค่อยเชื่อกันแล้ว เพราะมีพวกที่หลอกเยอะ ใครจะรู้ว่าหมอไหนของจริงหมอไหนของปลอม ถ้าต้องทุบโน้นทุบนี่แล้วทำให้เราเสียทรัพย์อย่าเชื่อเด็ดขาด จากคุณ : tugsinat - [ 7 ส.ค. 50 13:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าตำรา  เจองูกับเจอแขกให้ตีแขกก่อน  ดังนั้น ทุบหมอง่ายกว่าทุบบ้าน  ล้อเล่นนะครับ ผมว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจคนนอน บ้านเราเราสร้างก็ควรจะสร้างให้ถูกใจเราที่สุดครับ จากคุณ : Please za (Please za) - [ 7 ส.ค. 50 14:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคคห.21ที่ว่าทุบหมอง่ายกว่าทุบบ้าน ว่าแล้วก็ ที่บ้านก็ประตูหน้าบานคู่เปิดเข้าเหมือนกันค่ะ เอาสบายใจขี้เกียจทะเลาะกันกับคนที่เชื่อ แต่เอาเฉพาะที่ไม่เกินไปนัก ก็พอได้อยู่ค่ะ จากคุณ : Baimon - [ 7 ส.ค. 50 15:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยกับคคห.21ที่ว่าทุบหมอง่ายกว่าทุบบ้าน ว่าแล้วก็ ที่บ้านก็ประตูหน้าบานคู่เปิดเข้าเหมือนกันค่ะ เอาสบายใจขี้เกียจทะเลาะกันกับคนที่เชื่อ แต่เอาเฉพาะที่ไม่เกินไปนัก ก็พอได้อยู่ค่ะ โหวต จากคุณ : Baimon - [ 7 ส.ค. 50 15:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูหน้าหลักของชายคา จะพบว่ากระทู้เรื่องฮวงจุ้ยนี่เยอะมาก  จนถึงกับมีการเสนอให้ตั้งห้องฮวงจุ้ยแยกไปเลย  แต่พอเข้ากระทู้นี้ ก็พบว่าผมยังมีเพื่อนที่ไม่ได้ฝังใจเชื่อถือกับเรื่องฮวงจุ้ยอย่างมากมายอยู่อีกไม่น้อยเลย   ส่วนตัวผม  ผมเชื่อแค่ว่าถ้าเราทำดี  ชีวิตเราก็จะดี  แค่นั้นจบ จากคุณ : Minimally Chic - [ 7 ส.ค. 50 15:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านเรื่องฮวงจุ้ยมาก็เยอะค่ะ บางเรื่องทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเองว่า เฮ้อ ..ทำไงได้.... ปล่อยๆไป บางอย่างที่เรามองว่าดี กลายเป็นเรื่องไม่ดีในศาสตร์นี้ก็มี เช่น ที่บ้านจะเป็นลักษณะนี้ค่ะ เห็นว่า อยู่ที่ช่องลมจะได้มีอากาศเข้าหน้าบ้านได้ ไม่ร้อนมากเหมือนบ้านคนอื่น เพิ่งอ่านเจอว่า เป็นลักษณะไม่ดีใน web หนึ่งวันนี้นี่เอง เค้าบอกว่า ช่องแคบๆ อยู่ตรงกับหน้าบ้านไม่ดี แต่เราซื้อแล้ว โอนแล้ว ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แค่ปลอบใจว่า ช่องที่ว่า ตรงหน้าบ้านเราไม่แคบซักหน่อย ออกจะกว้าง กลับรถได้อีกต่างหาก แต่ก่อนโอน sale บอกว่า มีซินแสคนหนึ่งว่า บ้านที่มีช่องตรงข้ามหน้าบ้านแบบนี้ดี ปีนี้บ้านหันหน้าทางทิศใต้ดี แล้วก็มี บันไดขึ้นบ้านทางอยู่ซ้ายมือของบ้านเป็นโชคดีค่ะ เราก็ยิ้มแก้มปริเลย เอ่อ เลือกเชื่อที่ฉบายจาย.. เคยถามคุณ nana36 เรื่องฮวงจุ้ยห้องนอน คุณ nana36 ถามถึงองศาด้วย ต้องเรียนตามตรงว่าไม่กล้าวัดค่ะ แค่คุณเค้าบอกว่า ดี ก็ยิ้มแก้มปริแล้ว ไม่อยากเข้าไปในรายละเอียดเลย ..กลัว จากคุณ : ysawarat - [ 7 ส.ค. 50 16:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บ้านก็บ้านผม... เงินก็เงินผม... ความพอใจที่จะซื้อ/สร้างก็ผม.. ความสุขที่ได้อยู่ก็ผม... อยู่แล้วจะไม่รุ่งเรืองก็เรื่องของผม... ชีวิตนี้ก็ชีวิตผม ถ้าดวงมันจะซวยเมื่ออยู่บ้านแบบที่เราชอบก็ขอรับไว้ด้วยตัวเองไม่ต้องให้ใครมายุ่ง.. ผมก็ไม่ใช่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะครับ เรื่องการจัดบ้านจัดตามได้ก็ดี แต่ถ้าต้องมานั่งทุบนู่นทุบนี้วุ่นกันไปหมดนี่คงไม่ทำ... คคห. ส่วนตัวครับ.. แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 50 16:59:48 จากคุณ : Sulakkin - [ 7 ส.ค. 50 16:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 .....แบบที่ คห.26 นี่สิดีที่สุดแล้วครับ ผมว่าเปิดบ้านรับลมจะได้ไม่ร้อนดี จากคุณ : bootsarin (bootsarin) - [ 7 ส.ค. 50 17:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อีกอย่าง ผู้ใหญ่หรือคนที่มาเยี่ยมบ้านก็สำคัญนะคะ ต่อให้ฮวงจุ้ยดีขนาดไหนนะ แต่มาทีก็ด่าทุกที ไม่เจริญแน่นอน .. .... ...... แม่เราอะ ด่าตลอดเลย ว่าใจร้อนบ้าง ว่าเดวจะไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จะซื้อไว้ทำไมบ้าง ว่าจะผ่อนไม่ไหวบ้าง แม่นะแม่... บ้านลูกจะดีมะเนียะ ใครเป็นแม่ เห็นใจลูกหน่อย จากคุณ : ysawarat - [ 7 ส.ค. 50 18:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าคนที่ คิดจะมีบ้านหรือสร้างบ้าน กว่าจะได้เข้าอยู่นี่ ใช้สมองมาเยอะแล้ว แทนที่พอจะได้นอนให้หลับ กลับต้องมาคิดเรื่องที่ ไม่ได้อยู่ในความคิดพวกช่างตินะ พวกนี้เขาลืมไปว่า ใครเป็นคนใช้ ใครเป็นคนอยู่ ประโยชน์ใช้สอย ที่เราสร้างนั้นก็เผื่อความสะดวกความคล่องตัวของเราเอง ลมมันก็มีทิศทางพัดของมัน  ถ้าลมเข้าหน้าบ้าน เราก็เปิดประตูรับลม ถ้าไม่เข้าหน้าบ้าน ก็คงเข้าหลังบ้าน ถ้าเข้าหลังบ้านเราก็เปิดประตูหลังบ้าน (ตอนที่ควรเปิด)ถ้าลมไม่พัดก็เปิดพัดลม หรือ เปิด แอร์   ล้วนแล้วแต่ เราเป็นคนทำให้เราได้รับความสะดวกสบายอีก  สรุป เรื่องนี้เป็นเรื่อง วิทยาศาสตร์ การคำนวณ เวลาและพื้นที่ นี่ที่เป็นตัวบอกว่า บ้านเราจะทำให้เรามีความสุขไหม แต่ผมว่าเรื่องเหล่านี้ผ่านสมองเรามาเรียบร้อยแล้ว  ถ้ามีใครจะให้เปลี่ยนโน้นเปลี่ยนนี้ บอกว่า เอาเงินมาซิครับ แล้วผมจะเปลี่ยนให้ แค่นี้รับรองเลิกพูดเลย 55 จากคุณ : fairhomes@ho - [ 7 ส.ค. 50 19:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คนฮ่องกง จีนมาเลย์ สิงคโปร์ เขาชอบเรื่องฮวงจุ้ยมาก ประเทศเขาก็รวยเอารวยเอา ผมว่าเชื่อบ้างก็ดี แต่ก็เอามาปรับใช้กับบ้านเราให้เหมาะสม  แต่ถึงขนาดต้องวัดองศากันเป็นจุดหรือเป็นองศานี่ ผมว่ามันก็เกินไปครับ  ซินแสที่ดีต้องช่วยแก้ให้ดีขึ้น ไม่ไช่คอยแต่จะทุบ จะย้ายอยู่ร่ำไป  อย่างนี้ก็ลำบากด้วยกันทั้งสองฝ่าย จากคุณ : p_warat - [ 7 ส.ค. 50 19:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เชื่อได้  ที่มีเหตุผลรองรับเท่านั้น เช่น ประตูหน้าบ้านหลังบ้าน ห้ามตรงกัน เพราะเอ่อ...ไม่แน่ใจ ประมาณว่า เงินทองไหลออก...มั๊ง เราเชื่อนะ  แต่คนละเหตุผล  เพราะถ้าประตูตรงกัน  ลมมันพัดเข้าออก ทำให้ข้าวของกระจุย หรือ ห้ามวางเตียงใต้ขื่อบ้าน  เราเชื่อเพราะเวลาตื่นลืมตามองเพดาน มันรู้สึกอึดอัด หรือ อย่าให้กระจกส่องโดนตัวเวลานอน  เพราะคิดดูซิ เวลาตื่นใหม่ๆ หัวฟู  หันมาเจอกระจกส่องหน้าตัวเอง  เผลอๆ นึกว่าผีหลอก แต่   ถ้าให้ทุบบ้าน  รื้อประตู  ย้ายบันได  อันนี้ขอลาค่ะ แต่อีกเช่นกัน  ถ้าสมาชิกในบ้านเรียกร้อง  ก็คงต้องต่อรองกันหล่ะคะ ว่าทำได้กี่อย่าง  ไม่ได้กี่อย่าง  อย่างจำนวนขั้นบันได  หรือสีบ้าน   ฤกษ์ตอกเข็ม  อะไรยังเงี๊ยะ  มันไม่เหลือบ่ากว่าแรง  ก็ทำปายยย.... จากคุณ : Makit - [ 7 ส.ค. 50 19:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไอ้ซินแสปัญญาอ่อน...คนไทยทำดีได้ดี จากคุณ : ไม่รู้นะแล้วแต่ (jumpffish) - [ 7 ส.ค. 50 19:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราว่านะ  สำหรับเรา เชื่อบ้างบางเรื่องแต่ไม่ทั้งหมด  เชื่อถ้ามันสามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตรหรือคิดแล้วมีเหตุผลเข้าท่าก็โอเคนะ ์ เช่น บอกว่าบ้านที่มีประตู หน้าต่างเยอะๆ หรือกระจกมากๆ ไม่ดี ผิดฮวงจุ้ย เงินทองรั่วไหล อยู่ไม่สุข  สามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ หลักเหตุผลง่ายๆ ว่า บ้านที่ประตูมากมาย หน้างต่างเยอะๆ กระจกมากๆ จะร้อนเพราะแสงแดด  เปลืองแอร์  ค่าไฟบาน   ทางเข้าไ้ด้มากเกินไป  ประตูหน้าต่างมากเป็นช่องทางโจรแอบเข้าได้ ติดกุญแจหรือเหล็กดัดก็เปลือง...   ทำนองนี้ แต่เราว่าซินแสดีๆ ก็มีแหละ  เราจะเคารพคนที่มีความรู้และรู้จักแก้ไขอย่างเหมาะสม ไม่ต้องให้ทุบนู่น ทุบนี่ ย้ายของจ้าละหวั่น  หรือต้องซื้ออะไรบ๊องๆ มาติดตามบ้าน ตามประตู  เราว่าเขาหลอกขายของมากกว่า  ซินแสที่ดีและเก่งจริง ควรอธิบายเหตุผลที่มาที่ไปทุกอย่างได้  และสามารถพลิกแพลง แก้ไขปัญหาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องทุบ   หรือซื้ออะไรมาติดให้เสียเงินเพิ่ม บ้านใหม่เรา  แม่จะให้เอาประตูเปิดเข้า ทั้งรั้ว  ประตูหน้าบ้าน  เรานี่แหละคนออกตังค์  ไม่ฟังแม่เลย เพราะว่าทำประตูแบบนั้นมันเสียพื้นที่มากๆ ๆ ไม่เหตุมีเหตผลเข้าท่า   อยากบอกว่า  คนที่ต้องทุบบ้าน ย้ายประตู หรือต้องสร้างต้องซื้ออะไรมากมายเสียเงินน่ะ คุณแน่ใจแล้วหรือว่าทำแล้วจะได้ดี เงินทองไหลมาเทมา  ---> ยังตอบไม่ได้เลยก็เชื่อเขาหมดแล้ว    แต่ที่แน่ๆ  คุณเสียเงินไปแล้วเพื่อให้ตัวเองอยากมีโชคดีไปตั้งมากมาย จากคุณ : Jikkoi - [ 7 ส.ค. 50 21:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ใครยังไม่ได้ไปติดต่อ ก็ไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ หากไปเรียกเค้ามาแล้ว ก็ต้อง คิด และพิจารณา ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ศาสตร์ทุกอย่างมีดีและเลวอยู่ในตัวมันเอง คัดเลือกพิจารณาแต่สิ่งที่ดีๆมา ให้เป็นวิทยาศาสตร์ คือมีเหตุและผล เพราะวิชาฮวงจุ๊ย เป็นวิชาแห่งเหตุผล ที่มีประวัติยาวนาน แต่ซินแสที่อาจแปลงมาผิดๆ หรือสักแต่ว่าแก่ตำรา ไม่มีสมอง และยุคนี้เป็นยุคหลอกลวง ซินแสก็ไม่มีใบ certificate ซะด้วยสิ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 7 ส.ค. 50 21:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยครับ อย่าไปเชื่อทั้งหมด เชื่อที่มันมีเหตุมีผลรองรับ อธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ต้องทำใจครับ บ้านเราก็เป็นซะแบบนี้ ชอบใช้ความเชื่อมากกว่าเหตุผล วัตถุมงคลจึงกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้คนกลุ่มหนึ่ง จากคุณ : คอบอล - [ 7 ส.ค. 50 22:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เราเคยได้ยินมาบ้างว่า พอสร้างบ้านเสร็จราคาร้อยล้าน มีสระว่ายน้ำข้างบ้าน แล้วอยู่ ๆ ไป เจ้าของบ้านเกิดตาพร่ามัว จนมองไม่เห็น (ตาบอดแสง) เลยจ้างซินแสมา  อ้างทิศทางบ้านไม่ถูกต้อง แล้วแนะให้เจ้าของทุบบ้านราคาร้อยล้านทิ้ง พร้อมถมสระว่าน้ำด้วย  เจ้าของก็ทำตาม พร้อมสร้างใหม่อีกร้อยล้าน แต่ไม่มีสระว่ายน้ำแล้ว เจ้าของบ้านก็กลับมามองเห็นตามเดิม   สรุปตามหลักวิทยาศาสตร์  น้ำจากสระว่ายน้ำสะท้อนแสงเข้าไปในตัวบ้านแล้วเจ้าของเกิดหน้ามืดตามัวบ่อย ๆ    สร้างความชอบธรรมให้ซินแส  จึงเกิดตำนานบ้านสองร้อยล้าน โหวต จากคุณ : เม่นแคระ - [ 8 ส.ค. 50 00:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 8 ส.ค. 50 00:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จะไปเอามาดูทำไมครับ ซินแสเนี่ย ดูแล้วร้อยทั้งร้อย ต้องมีสิ่งติ ต้องแก้ไข เงินก็ไม่ได้ออกให้เราสักหน่อย ไปเชิญพี่คีรีบูนฯ มาดูดีกว่า จากคุณ : นายซาไก - [ 8 ส.ค. 50 04:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาดู จากคุณ : Tsukamoto Yakumo - [ 8 ส.ค. 50 05:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เวลาฟังซินแสแต่ละคน เหมือนเป็นหุ้นส่วนกับผู้รับเหมาก่อสร้าง แล้วตัวซินแสองก็มีร้านขายวัสดุก่อสร้าง เดี๋ยวให้รื้อตรงนั้น เดี๋ยวให้ทุบตรงนี้  ทำเหมือนว่า โสน้าน่า อยากไม่ปรึกษาตูก่อน จากคุณ : gogoget - [ 8 ส.ค. 50 07:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กระทู้นี้อบอุ่นดีครับ การออกแบบบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เกี่ยวข้องกับพลังในแต่ละองศา ไม่เกี่ยวข้องกับที่ว่าต้องมีภาษาจีน ดอกโบตั๋น ยันต์ และต้องไม่ขัดแย้งกับสภาพแวดล้อม ความชอบของเจ้าบ้าน เมื่อเกี่ยวกับทิศทางเป็นหลัก ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปแก้ตามหรอกครับ ( ถ้ามันจำเป็นจริง  ป่านนี้จีนครองโลกไปนานแล้ว ตามคห.1 ) ( คห.3 ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มน้ำมัน เขาใช้ทาสีแก้ แต่เป็นการแก้แบบต่อสู้  - แบบฮ่องกง ซึ่งที่ผมเรียนมาไม่ทำแบบนั้น แต่จะใช้วิธี เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร แทนคือใช้สีเหลือง EarthTone ธาตุดิน - ถ่ายเทไฟ ) ( คห.7 อย่าเพิ่งเหมาไปหมดครับ ซินแสที่ดีและเก่ง ยังมีอยู่  แต่เราจะเชื่อถือได้ ต้องสอบประวัติดูก่อน ) ( คห.8 เหมือนกับที่คุณสัญญา คุณากรสมัยเป็นสถาปนิกเคยเจอ  และเคยได้เชิญ อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์ มาออกเทป  ในรายการปรากฎการณ์คน The ICON  และถามคำถามนี้ อ.ท่านตอบว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  คนจนก็เลื่อนประตูไปอีกนิด ก็รวยเท่าเศรษฐีแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ การที่คนเราจะดีได้นั้น 1.อิกเต็ก -คิดดี 2.ยี่เห็ง-ทำดี 3.ฮวงจุ้ย-อยู่ในที่ดี ฮวงจุ้ยที่ดี ยังต้องประกอบด้วย 4 ปัจจัย 1. ชัยภูมิ - ถนนหนทาง 2. ทิศทาง - องศาของแต่ละหลัง แต่ละยุค 3. ดวงชะตา - ดวงจีน ( ไม่ใช่ดวงไทย ดวงพม่า ดวงสากล ) 4. ฤดูกาล -ฤกษ์ยาม สมัยแรก ๆ ผมก็ต่อต้านเหมือนกัน เราจบตั้งป.โท ทำไมต้องมาเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย 10 กว่าปีมาแล้ว จะไปซื้อ TownHouse ของสมประสงค์ บ้านฝั่งตรงข้ามหันมุมเข้ามาทั้งแนว ผมเฉย ๆ แต่แฟนไม่ยอม ไปถามพ่อตา เขาก็บอกไม่ดี ไปอ่านเจอในมติชน เรื่องทาง 3 แพร่งที่ว่าไม่ดีกับหลักวิทยาศาสตร์ คือ ใครปลูกบ้านตรงนี้ มีโอกาสเสี่ยงจากรถชน แสงและเสียงรบกวน ฝุ่นควัน .... รู้สึกมีเหตุผลสนับสนุน บังเอิญ ได้เจอ อ.เกรียงไกร ท่านก็อธิบายให้ฟัง ว่ามันแนวกระแสลมที่รุนแรง มันมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นกับองศา ท่านให้เอาไปคิดต่อ ไม่บังคับให้เชื่อ ต่อจากนั้นก็ลองวิเคราะห์ดวงดู ก็ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงเริ่มรู้สึกศรัทธาว่าวิชานี้มีความเป็นจริง จึงได้เริ่มศึกษา ) ( คห.14 อันนี้ต้องบอกว่า  เขาบอกให้เราแก้ไขโดยไม่ดูความเป็นจริง ไม่ควรเชื่อ) ( คห.16 เสาต้นเดียวคือธูป ห้ามตรงแนวประตู ไปด้านข้างไม่มีปัญหา  และเสา 2 ต้น ไม่ได้มีปัญหาใด  แต่แบบของคุณ เสาทั้ง 2 ระยะห่างค่อนข้างน้อย  หากเปิดประตูมา แล้วเสาทั้งสองขวางแนวประตู อันนี้ไม่ดีจริงครับ  หมายถึงติดขัด มีอุปสรรค หากเราแก้ให้ห่างหน่อย จะดูดีขึ้น  - แต่ไม่ใช่ไม่ดีเพราะตะเกียบไหว้ผี ) ** เรื่องทุบแก้ - เกิดจากซินแสเรียนรู้ไม่สุด     คือปรับแบบตามฮวงจุ้ย แต่ไม่ปรับแก้ฮวงจุ้ยให้เข้ากับแบบ     ( เรียนบวก แต่ไม่เรียนลบ )     จริง ๆ แล้วการทุบย้าย ต้องเป็นกรณีสุดท้ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้     และต้องเป็นช่วงกำลังก่อสร้าง- แต่หากสร้างเสร็จแล้ว ต้องหาทางแก้      ทางอื่น คห.32 ลองอ่าน ฮวงจุ้ยห้องนอน ดูสิครับ น่าจะถูกใจคุณ http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-bedroom-design-tip.htm WebSite อ.เกรียงไกร http://www.fengshuitown.com จากคุณ : ฮกซิ่ว - [ 8 ส.ค. 50 08:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 บ้านเหมือน กับ คอนโดไหม ในประเภท ที่อยู่ อาศัย  บ้านนะให้ทุบนั่นทุบนี่ แล้ว คอนโด นี่จะมีด้านไหนให้ทุบได้บ้างไหม ถ้าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย กว่าจะหาเงินมาซื้อ มาผ่อนได้ เหงื่อยเป็นปีบ มีทางให้ลมเข้าอยู่ด้านเดียว มีช่องเข้าแต่ไม่มีช่องออก หาซินแสมาทุบ คอนโดกันบ้างไหม รับลอง ซินแสได้ย้ายไปอยู่ในคุก จะได้เข้าไปดูฮวงจุ้ย ในคุกบ้าง คงได้ไปย้ายโน้นทุบนี้กันเพลินไปเลย พื้นที่เยอะ จากคุณ : fairhomes@ho - [ 8 ส.ค. 50 09:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เพื่อนผมที่เป็นสถาปนิกบอกว่าไอ้พวกซินแสนี่ทำงานมัน Ship หายมาหลายงานแล้ว แถมมันบอกเจ้าของบ้านเลย ถ้าจะจ้างออกแบบถ้ามีซินแสให้บอกแต่วันแรกเลย ไม่ใช่ทำแบบไปแล้วค่อยบอก จากคุณ : AutoCrazy - [ 8 ส.ค. 50 09:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สมัยเรียน ก็จะมีวิชาที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์การออกแบบ ซึ่งในรายวิชานี้ก็จะมีเรื่องของ feng shui ในภาษาอังกฤษ หรือ เราเรียกว่า ฮวงจุ้ย ซึ่งจะเรียนในแง่ของการคิดแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาคำตอบว่า ทำไม เพราะอะไร แต่ถ้าเจอถึงขั้นอย่างที่คุณคีรีบูนบอก ก็ไม่ไหว ไอ้จุดทศนิยมนี่ มันเกินไปจริงๆครับ ต้องเอามาหารมาคูณกันให้วุ่นวาย แล้วก็แบบจบไปแล้ว 80% นี่ คุณรู้ไหมว่า เวลาคนออกแบบคิดแบบนี่ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยครับ เหนื่อยสมองครับ ต้องมานั่งแก้แบบไม่มีเหตุผล การแก้แบบที่คุณคีรีบูนบอกนั่นเหมือนกับ การแก้งานใหม่เกือบหมดเลยหละครับ เหอๆๆๆ บางอย่างที่ผมพิสูจน์ได้ผมเชื่อ ผมทำ ถ้าผมยังไม่มีข้อพิสูจน์ ผมก็ทำฮ่าๆๆเพราะว่า ไม่ใช่บ้านผม บ้านคุณ ผมมันประเภทตามใจ แต่ถ้ามีผลกระทบออกมาหลังจบงาน อย่ามาโทษผม ขอแค่คำเดียว ถ้าไม่โอเค ผมก็ไม่ทำเงินก็ไม่เอาแบบท่านคีรีบูนหละครับ ท่านคีรีบูนเคยเจอแบบว่า ทำเสร็จแล้ว กำลังดำเนินการทำอยู่ แล้วเรียกซินแสเข้ามาตอนนั้นไหมครับ สนุกยิ่งกว่าตอนเอาแบบไปให้ซินแสดูอีกนะครับฮ่าๆๆๆๆๆๆ เจ้าของบ้านกลุ้มใจ เลยมาพาลกับเราว่าออกแบบไม่ได้เรื่องฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อันนั้นหละหนักใจกว่า ปล. ผมไม่ได้ลบหลู่ แต่ถ้าอันไหนมีข้อพิสูจน์พอให้ยอมรับได้ ผมเชื่อครับ เพราะหลักพุทธศาสตร์ศาสนาเรา ก็ เป็นหลักวิทยาศาสตร์อยู่แล้วครับ จากคุณ : experimental - [ 8 ส.ค. 50 09:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมต้องขอโทษทุกท่านก่อนล่วงหน้าเลยนะครับ แต่อันนี้คือความเห็นผมนะผมอาจมีความเชื่อบ้างแต่ไม่มากนัก แม่ผมก็เชื่อบ้างเหมือนผมแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ผมว่าต้องดูนะว่าคนที่จะอยู่ในบ้านเราเป็นใครบ้างและความเห็นของคนในบ้านเรา (เพราะนี้คือบ้านเราเราอยู่) แต่ในส่วนของญาติผู้ใหญ่อันนี้ก็อย่าว่าเขาเลยนะครับผมว่าเขาหวังดีนะครับ ถ้าเขาไม่หวังดีเขาคงไม่หาซินแซมาเสียเวลาของเขาเพื่อเราทำให้เราหรอก ครับ การทีเขาไม่ให้เราเจอซินแซก็อาจจะรู้ว่าเราเป็นคนอารมณ์ร้อนเลยไม่ให้อยากเจอก็ได้ผมก็เป็นคนอารมณ์ร้อน ผมขอโทษก่อนนะครับถ้าเรามีลูกแล้วลูกเราแต่งกับศาสนาอื่นแล้วเราแนะนำเขาบอกว่าให้เอาพระเข้าบ้านด้วยนะลูกจะได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขแล้วแต่แฟนลูกเราไม่เห็นด้วยอย่างแรงและต่อต้านอย่างแรง เราจะรู้สึกอย่างไร การแก้ฮวงจุ้ยบางทีก็หาทางออกที่มันเป็นกลางๆก็ได้นี้ครับ(ถ้าอยากเดินคนละครึ่งทางนะครับ) อันไหนพอทำได้เราก็ทำให้อันไหนมันมากไปก็ไม่ต้องไม่สนใจมัน ภาษาจีนหน้าห้องลองเปลี่ยนเป็นภาษาโรมันที่มีความหมายเดียวกันได้ไหม ดอกโบตั้นขอเล็กหน่อยหลบอยู่บนเสาได้ไหม ประมาณนี้อะครับ ผมก็สร้างบ้านเหมือนกันเขาใจครับว่าอะไรที่มันไม่ได้ดังใจเรามันจะรู้สึกไม่ดีผมก็เป็น แต่บางครั้งต้องมองความหวังดีของเขาด้วย (เหมือนเตือนตัวเองเลย อิอิ) จากคุณ : ibig (ibig) - [ 8 ส.ค. 50 09:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เชื่อตัวเราเถอะค่ะ ดูแล้วมันไม่ขัดกับความเป็นจริงก็ไม่ต้องย้ายหรือทุบให้ยุ่งยาก  จริงๆแล้วการแก้ฮวงจุ้ยทำง่ายจะตายไป ไม่จำเป็นต้องทุบหรือย้ายหรอก แค่เอาอะไรมาวางไว้แก้เคล็ดก็น่าจะพอแล้ว เชื่อซินแสมากก็เสียงกะตังค์มากค่ะ แก้ฮวงจุ้ยเพื่อไม่ให้เสียทรัพย์ไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : leslie - [ 8 ส.ค. 50 10:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อาชีพเขา หากินกับความเชื่อ-ศรัทธา ครับ คนเรา ถ้ารู้สึกไม่มีที่พึ่ง หรือไม่มีความมั่นใจ มักจะเชื่อในศาสตร์พวกนี้ครับ ลูกค้าผม เวลาจะแต่งงาน ก็เห็นบอกต้องไปดูดวง วันเดือนปีเกิด ต่างกัน ไหง 5-6 คู่ ได้ฤกษ์วันเดียวกันก็ไม่รู้ จากคุณ : chanin - [ 8 ส.ค. 50 11:11:13 A:124.120.76.118 X: TicketID:147672 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าคุณเป็นคนดี จะปลูกบ้านตรงไหน อย่างไร ทำอะไร ก็จะดีค่ะ จากคุณ : nu_oomsin - [ 8 ส.ค. 50 13:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาโหวต*-* จากคุณ : นินจาน้อย - [ 8 ส.ค. 50 14:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 จขกทเลิศมากเรื่องพ่นสี อิอิ นับถือๆๆ ส่วนตัวเราไม่ค่อยเชื่อซินแสน่ะ แต่จะเชื่อฮวงจุ้ยในเรื่องทิศทางลมกะแดดมากกว่า  แต่ประเภททำนั่นติดนี่แล้วจะรวย อันนี้ไม่เชื่อ!! จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ - [ 8 ส.ค. 50 14:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แต่มันรำคาญใจ ไอ้คนที่ซินแสก้อไม่ใช่ รู้งู ๆ ปลา ๆ มาถึงพูดนั่นไม่ดี นี่ไม่ดี ไม่ติดคำว่าไม่อยากมีเรื่องแล้ว เป็นด่าเปิงแน่ บ้านเราสร้างชิดด้านขวาของเนื้อที่ดิน หันหน้าออกด้านข้าง แบบบ้านมันก้อน้า มีบันไดอยู่กลางบ้านแบ่งเป็นซ้ายขวา เดินลงบันไดออกประตูบ้านไปเลย แต่มันสร้างไปแล้วจะให้ทำไงฟ่ะ ไอ้จะทุบทำหน้าบ้านใหม่ก้อยังหมดตรูดจากการสร้างบ้านอยู่เลย ซินแสเพื่อนเราก้อมาช่วยดูแล้วแก้ไขได้โดยไม่ต้องทุบสร้างอะไรใหม่ ให้ติดรูปภาพวิวบ้าง ย้ายหัวเตียงนอนบ้าง ก็โอเค ทำได้ไม่ยุ่งยากเสียเงินทองอะไร ไว้ตอนมีเงินอีกซักหน่อยจะต่อเติมบ้านค่อยทำให้ดี ๆ  แต่ไอ้พวกพูดแบบไม่คิดถึงใจเจ้าของบ้านว่าเค้าจะกลุ้มใจอย่างไรมันน่าโมโหมากกว่า จากคุณ : ผมเปีย - [ 8 ส.ค. 50 16:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบที่คุณอ๋อ แห่งรายการ อ๋อซียูพูดไว้มากๆ ค่ะ "80% คนทำ  20% ฮวงจุ้ย" จากคุณ : soulfighter - [ 8 ส.ค. 50 17:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถึงชมว่ากล้าพ่นสีสเปร  แต่ถ้าใครเจอปัญหาแบบนี้ ก็อย่าทำตามเลยนะครับ มันรุนแรงมาก ญาติที่รู้เรื่องเค้าก็โทรมาหา บอกให้คุยกันดีดี ไม่มีปัญหา อะไรหรอก ผมก็บอกว่าที่ต้องทำแบบนี้เพราะว่า เวลาที่เชิญซินแสมานะ อยากคุยด้วย จะได้ปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี คุณคุณเชื่อไหมครับว่า ที่ซินแสบอกให้ทำ ผมทำตามหมดทุกอย่างเลยนะ แต่ว่าต้องเป็นแบบ ที่ผมเลือกเองว่าจะเอาแบบไหน ถ้าเป็นทีแรกได้เจอกันกับซินแสก็ไม่ต้อง มีเรื่องกันแบบนี้ แต่ที่ว่ามานี่ก็ยังไม่ได้เจอกับซินแสนะ แค่มีคนกลางมาคุย ว่าจะทำยังไงก็ได้ตามใจเรา แต่ขอให้ทำทุกอย่างที่ซินแสบอกมา และที่บ้าน บอกว่า ต่อไปถ้าจะเชิญซินแสมาอีก จะให้มาเจอกัน จะให้คุยกันได้ เฮ้อ.......................มันเหนื่อยจริงๆนะครับ    จาก  จขกท แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 50 17:30:10 จากคุณ : ไก่ทอดร้อน ๆ (ไก่ทอดร้อน ๆ) - [ 8 ส.ค. 50 17:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาดู ด้วย อิอิ ซินแส มันมักจะมาตอนสร้างแล้ว ครับ เพราะมันขี้เกียจ ดูแบบในกระดาษ   มาตอน มุงหลังคาแล้วทุกที ดูง่ยดี (มั้ง) ก็มันไม่ได้ ทุบเองนี้ บ้านมันก็ไม่ได้อยู่เอง ถึงทำนายผิดๆ ถูกๆ ก็ไม่้เคยเห็นมีกรณีเจ้าของบ้าน ไป ขอเงินคืนซักราย มันก็เลยเหมือน มีปากก็พูดไป ละผมว่านะ จากคุณ : กระเทยชายแดน - [ 8 ส.ค. 50 18:15:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมเชื่อความรู้สึกของตัวเองเป้นหลักครับ ดูบ้านมาเยอะก้อเฉยๆ มาเจอบ้านที่เพิ่งซื้อมันรูสึกคลิกเลยครับ อันนี้บ้านกรูแน่ๆ จองโดยไม่ดูฮวงจุ้ยอะไรเลย แม่มาดูบอกมีมุมหลังคาบ้านด้านหลังทำมุมมาชนมั่ง อะไรมั่ง หัวเตียงหันทางทิศ ตต.ผมก็ไม่สน แต่สุดท้ายต้องตามใจแม่ให้ซินแสมาดู บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ค่อยยังชั่ว ถ้าซินแสบอกไม่ดีผมคงต้องขัดใจแม่แล้ว จากคุณ : junjun - [ 8 ส.ค. 50 21:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ฟังหูไว้หูครับ ทำได้ก็ทำครับ สบายใจทุกฝ่าย จากคุณ : ผ่านมานะครับ - [ 8 ส.ค. 50 23:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อิๆๆ ดูๆหลายๆท่านค่อนข้างจะไม่ค่อยเชื่อ รู้สึกนานแล้วเหมือนกันจะมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งเคยโพสไว้เหมือนกันนะครับ เรื่องทิศทางการวางประตูด้วยแหละ ผมจำไม่ได้เหมือนกันแต่นานพอสมควรเลยหละครับ ถ้าเพื่อนๆท่านใดที่เรียนด้านออกแบบมา น่าจะพอเคยได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับ องศาของพระอาทิตย์ที่มีผลกับความร้อนของตัวบ้าน หรือ ระยะการทำมุมของดวงอาทิตย์กับโลก ที่เราๆเรียกกันว่า Sun Chart บางทีการออกแบบบ้านถ้าพื้นที่ให้ ไม่อยากให้บ้านร้อนก็ต้องดูเรื่องนี้ด้วยแหละครับ เกี่ยวอย่างมากเลยหละครับ ซึ่งมันก็จะมีในเรื่องของหลักฮวงจุ้ย อันนี้ผมเชื่อครับ เพราะสามารถเป็นหลักที่อธิบายทางวิทยาศาตร์ได้ แต่ถ้าเรื่องไหนไร้สาระ ผมก็เฉยๆอิๆๆๆๆ มีเรื่องมาเล่าต่อนิดนึงนะครับ เคยไปช่วยเพื่อนออกแบบร้านอาหารเล็กๆ มันเป็นเจ้าของเอง แต่คุณแม่เพื่อนท่านเชื่อเรื่องพวกนี้มาก เรียกทั้งพระ ทั้งซินแสเข้ามาดู สนุกไปอีกแบบครับ พระท่านอธิบายไปอีกอย่าง ซินแสอีกอย่าง ผมอยู่ตรงกลางดูแล้วก็ขำๆ ฮ่าๆๆๆ ก็เลย บอกว่าตกลงได้เมื่อไหร่เดี๋ยวข้าพเจ้าจะมาใหม่ฮ่าๆๆๆๆ สุดท้าย ผมก็เลยช่วยแค่ หากระถางต้นไม้มาวางเป็นพอ ข้างในสีสันสุดบาดตาบาดใจครับ มีทั้งเหลืองออกครีม ตัดกับสีม่วง แล้วก็มีสีเขียว มาแซมเป็นจุดๆ อืม.... ดูๆไปก็บอกเพื่อนมันว่า ไม่ต้องซีเรียสหรอก ถือว่าตามใจแม่ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : experimental - [ 8 ส.ค. 50 23:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขำแต่ละคน เราก็ชอบทำอะไรตามสะดวกเรา ไม่ยึดติดกับอะไรมากเกินไปค่ะ จากคุณ : janeko - [ 8 ส.ค. 50 23:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 60 งืมงำ ๆ อย่าไปคิดมากครับ ลองอยู่ไปก่อน ถ้าไม่ดีค่อยมาแก้ครับ ปล. เคยเห็นคนแก้แล้วหายจริง ๆ นะครับ อย่าล้อเล่นไป จากคุณ : พี่หมี (meecom) - [ 8 ส.ค. 50 23:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ถามค่ะ ถ้าประตูบ้าน ทั้งประตูหน้าบ้านปิดเปิดรถเข้าออก และประตูที่เข้ามาในตัวบ้านตรงกันกับห้องน้ำ จะเป็นไรไหมคะ? จากคุณ : benjy_p - [ 9 ส.ค. 50 08:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ถ้าเราสบายใจก้ออย่าคิดมากค่ะ  .....เพราะคนอยู่คือเราไม่ใช่คนอื่น จากคุณ : ดุ๊กกะดุ๋ย - [ 9 ส.ค. 50 08:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สำหรับเรา ฮวงจุ้ย คือ หลักธรรมชาติค่ะ ฟังอันไหนมา แล้ววิเคราะห์ให้เป็นวิทยาศาสตร์ พิจารณา แล้วค่อยปฏิบัติค่ะ พวกทิศทางลม แดด ห้องน้ำ มันก็มาจากสภาพธรรมชาติ และเรื่องสุขภาพ สุขลักษณะ (ซึ่งสมัยก่อนอาจจะแย่มาก จนคนป่วย เลยต้องนำมาเป็นหลักการสร้างบ้าน) ถ้าอันไหนฟังแล้ว คิดหาเหตุผลรองรับไม่ได้ จะทำไปทำไมคะ จากคุณ : ถ้วยกลม - [ 9 ส.ค. 50 08:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เฉยๆ กับเรื่องฮวงจุ้ย ถ้าจะสร้างบ้านสักหลังคงสร้างให้ตรงกับความฝันของเราเองมากกว่าทำตามซินแสบอก หลักทิศทางดินน้ำลมไฟก็พอจะนำมาประยุกต์ได้บ้าง ส่วนถ้าจะให้ทุบหรือสร้างออกมาเหมือนโรงงิ้วไม่เอาแน่ ดังนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮวงจุ้ยซะเลยจะสบายใจกว่า แต่ชอบนำเกร็ดของฮวงจุ้ยมาใช้ในการแต่งบ้านนะคะ เช่นแขวนคริสตัล ตั้งเรือใบ มีเก้าอี้เกือกม้า หรือมีตัวสัตว์อยู่ในบ้าน เป็นเรื่องสนุกมากกว่าหวังผลทางโชคลาภ วันหนึ่งหากเบื่อโต๊ะทานข้าวกลมอยากเป็นโต๊ะเหลี่ยมก็จะเปลี่ยนโดยไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชอบอ่านหนังสือของ Lilian Tu ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของมาเลเซีย แล้วเอามาใช้ในการแต่งบ้าน อย่างนี้สนุกดีและง่ายกว่าทุบบ้านทิ้งเยอะเลยค่ะ จากคุณ : Tiwanon48 - [ 9 ส.ค. 50 10:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อย่าไปยึดติดมากค่ะ  .. หมอจีนว่าอย่าง .. หมอไทยว่าอีกอย่าง เชื่อหมดอยู่ไม่มีความสุขพอดี แก้เคล็ดนิดๆ หน่อยๆ ก็พอค่ะ ไปตามเค้าหมดบ้านคงออกมาแย่ ไม่รู้ว่าอยู่วัดหรืออยู่ไหนกันแน่ คุยกับคนที่บ้านเราค่ะ เอาแค่คนละครึ่งทาง เอาแบบพอดีๆ ว่าแต่ .. ทำไมตอนออกแบบบ้านไม่ให้เค้าดูฮวงจุ้ยไว้ก่อนเลยละค่ะ มาแก้ทีหลังยุ่งยากตาย ลำบากใจเราอีก จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาทีหลัง .. จากคุณ : งัวเงีย....มาคุย - [ 9 ส.ค. 50 10:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ซินแสไม่ได้ปัญญาอ่อน คนเชื่อซินแสแหละ ปัญญาอ่อน จากคุณ : you_are_so - [ 9 ส.ค. 50 12:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ผมเชื่อบางคนในหลักเหตุผลครับ อย่างห้องนอนมีเสามีคานข้างบนมันก็ไม่ดี ที่จริงก็เพราะจิตเรานี่แหละที่มันวิ่งไปหาเสาคาน แต่ถ้าเราจิตใจผ่านการฝึกธรรมมาบ้าง ก็จะไม่ไปวิตกวิจารกับมัน  ให้นอนที่ไหนก็ไม่เป็นไร ซินแสก็เหมือนพวกออกแบบเสื้อผ้า จัดสูทแบบนี้ให้บางคนแต่งบางคนก็ชอบ ทำตัวโก๋หรู พอเปลี่ยนเป็นชุดนอนดอกๆ ออกไปเดินถนนแทนสูท มันก็มีความรู้สึกอีกแบบนึง ถ้าใจเราไม่ยึดติดซะอย่าง แต่งยังไงก็อยู่ได้ ผมว่าทุกคนต่างก็เป็นซินแสเองได้ แค่ไปยืนจ้องไซท์งานเองบ่อยๆ ทำใจเป็นกลาง แล้วมองดู ถ้ามีความรู้สึกวิ่งไปที่ไหน หรือเดินแล้วรู้สึกยังไง ก็ตรงนั้นแหละที่แปลกๆ แต่ถ้าคุณเข้าไปบ่อยๆ มันจะไม่เห็นความรู้สึกนั้น เพราะมันชินแล้ว จากคุณ : Dr.slump - [ 9 ส.ค. 50 14:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ไม่ได้เชียร์ นะ แต่ ศาสตร์ของเขาเชื่อได้นะครับ น่าจะอยู่ที่คน ใช้ มากกว่า ผมเคยไม่เชื่อ จนกระทั่ง เจอกะตัวเอง เกือบ สิบครั้ง และเป็นแบบนั้นจริงๆ จากคุณ : miller31 - [ 9 ส.ค. 50 14:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าเสนอแนะตามหลักเหตุผล และพิสูจน์ได้ว่าสมเหตุสมผล >> เชื่อครับ ถ้าเอาศาสตร์มาอ้าง ใช้ศัพท์สูงๆ และขู่ว่าถ้าไม่ทำ ไม่แก้ตามจะอยู่ไม่ได้ >> ไม่เชื่อครับ สำหรับผม เชื่อว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ครับ ใครเชื่ออย่างไร ไม่มีถูกผิดครับ คนเราจะบังคับให้เชื่อเหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ จะดีจะชั่ว ตัวเราที่เป็นคนกำหนด ความสุข สร้างขึ้นมาได้ และทำลายได้ ด้วยตัวเราทั้งนั้น อยากให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ในโลกความจริง มากกว่าวัตถุ ครับ "ยึดเหนี่ยวไม่ผิด ยึดติดไม่ดี" จากคุณ : Kong - [ 9 ส.ค. 50 14:44:19 A:58.8.181.98 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เอามาฝากครับ ***************************************************** กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 (หมายถึง วิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร — how to deal with doubtful matters; advice on how to investigate a doctrine, as contained in the Kalamasutta) 1. มา อนุสฺสเวน (อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา — Be not led by report) 2. มา ปรมฺปราย (อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา — Be not led by tradition) 3. มา อิติกิราย (อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ — Be not led by hearsay) 4. มา ปิฎกสมฺปทาเนน (อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ — Be not led by the authority of texts) 5. มา ตกฺกเหตุ (อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก — Be not led by mere logic) 6. มา นยเหตุ (อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน — Be not led by inference) 7. มา อาการปริวิตกฺเกน (อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล — Be not led by considering appearances) 8. มา ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา (อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว — Be not led by the agreement with a considered and approved theory) 9. มา ภพฺพรูปตาย (อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ -- Be not led by seeming possibilities) 10. มา สมโณ โน ครูติ (อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา -- ฺBe led not by the idea, ‘This is our teacher’) ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตาม (จาก http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=317 ขอบคุณคุณมา ณ ที่นี้ครับ) จากคุณ : Kong - [ 9 ส.ค. 50 14:52:18 A:58.8.181.98 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ...... ........... ..... ............ .......... ........ ........ ....... ........... .... **************************************** แนวทางที่เชื่อถือ  เรื่อง .. QQQ การออกแบบบ้าน / ที่พักอาศัย  ต้องดูธาตุดิน, น้ำ, ลม, ไฟ  วันเดือน/ปี เกิดของเจ้าของบ้าน QQQ ****************************************** วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม QQQ ...การออกแบบบ้าน / ที่พักอาศัย  ต้องดูธาตุเช่นกัน  หากแต่เป็น ” ธาตุแท้ “..ของเจ้าของบ้าน ..QQQ ก่อนจะเริ่มการออกแบบบ้าน / อาคาร  ผู้ออกแบบจะต้องพบปะพูดคุยกับเจ้าของบ้าน  เพื่อขอข้อมูลพื้นฐานหรือความต้องการของเจ้าของบ้าน    ว่ามีผู้อยู่อาศัยกี่คน  อายุและวัยของบุคคลอื่นที่จะอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้  พื้นฐานอุปนิสัยของแต่ละคน  และข้อมูลอื่นๆ  เพื่อใช้ในกำหนดแนวคิดในการออกแบบ   ตรงนี้นี่เองที่ผมเรียกว่า ” ธาตุแท้ “ ของเจ้าของบ้าน  เรียกอีกอย่างหนึ่งซึ่งความหมายเดียวกัน  หรือใกล้เคียงกัน  มันก็คือ..” ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมการอยู่อาศัยจริงของผู้อยู่อาศัย “.. นั่นเอง   ยกตัวอย่างเช่น  เจ้าของบ้านหลังหนึ่ง  ให้ข้อมูลว่าต้องการมีบ้านหลังนึง  มีพ่อแม่ 2 คน  ลูกชาย 1 คน  ลูกสาว 1 คน  พ่อตาแม่ยายอีก 2 คน ( อายุมาก )  ข้อมูลปลีกย่อยคือ  ลูกชายกำลังห้าว  ดูหนังฟังเพลงเสียงดังมาก  พรรคพวกเพื่อนฝูงมาค้างด้วยที่บ้านประจำ  ส่วนลูกสาวชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ  ชอบมีโลกส่วนตัว  ค่อนข้างเรียนดีแต่เก็บตัว  วิถีการคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม  จะต้องพิจารณาวางห้องนอนของลูกชาย  และลูกสาวไม่อยู่ติดกัน ???  เพราะนี่เป็น ..” พฤติกรรมและอุปนิสัย ณ วันนี้ “  ที่ศาสตร์หรือวิทยาสตร์สาขาไหน  ก็คงจะไปเปลี่ยนแปลงได้ยาก  หรือไม่ได้เลย ???  ถูกไหม ???  มันไม่ได้เกี่ยวกับธาตุดิน  ธาตุทอง  วันเดือนปีเกิดเลย   มาดูการจัดวางห้องนอนของพ่อตาแม่ยายกันบ้าง  ในที่นี้สมมุติขึ้นว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว  ในความเชื่อถือทางหนึ่ง  จะให้ใครเป็นประธานของบ้าน ???  ระหว่างตัวพ่อแม่หรือพ่อตาแม่ยาย  ในวิถีการคิดของวิชาสถาปัตยกรรม  นักออกแบบคนนึง  อาจนำเสนอให้จัดวางห้องพ่อตาแม่ยายอยู่ด้านหน้าสุดของบ้าน  เพราะอะไร หรือ  แนวคิดก็คือสังคมไทยทุกวันนี้เปลี่ยนไป  การเคารพนบน้อมผู้ใหญ่ ความผูกพันในครอบครัวน้อยลงไป  วางแบบให้ห้องนอนพ่อตาแม่ยายอยู่หน้าบ้านเลย  ใครจะไปจะมายังไงก็จะต้องผ่านตำแหน่งนี้  เด็กมาผู้ใหญ่ไปผ่านเข้าผ่านออก  ก็จะต้องยกมือไหว้ทักทาย  เป็นการดีกว่าไหมว่า  พ่อตาแม่ยายท่านจะช่วยเป็น  “ ด่านสกรีน “  ทั้งเพื่อนของหลานชาย  หนุ่มๆ ของหลานสาว  ก่อนเข้าไปในบ้านอีกทางหนึ่ง  นี่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับธาตุใดๆ  แม่นบ่  แล้วทำไมส่วนใหญ่จะต้องให้ผู้สูงอายุไปอยู่หลังบ้าน  ห้องหลังสุดหลบที่สุด ???   การวางห้องรับแขกพักผ่อนของบ้านหลังนี้  นักออกแบบคนนึง  อาจนำเสนอให้วางตำแหน่งห้องนี้  อยู่ในส่วนกลางของบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือลูกชายลูกสาว  ก่อนจะเข้าห้องนอน  การออกแบบทางสัญจรภายในบ้าน  ทุกคนจะต้องเดินผ่านตำแหน่งนี้  ไม่ว่าจะเข้าออกจากทางประตูหลัก  หรือประตูย่อย ( ประตูเล็กจากที่จอดรถหรือห้องครัว  ในสภาพความเป็นจริง )  เพื่อเป็นแนวทาง “ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว “  ถามว่า  เฮ้ย..พูดเกินไปหรือเปล่า  การจัดวางแบบ ..” วิทยาศาสตร์ “ . แบบนี้จะช่วยได้ขนาดนั้นหรือ  ในแนวคิดทางวิชาสถาปัตยกรรมที่ดีมีส่วนที่เกื้อหนุนได้  เพราะการกำหนดทางสัญจรภายในบ้าน  สามารถกำหนด  หรือบังคับให้ผู้อาศัยเดินผ่านจุดนั้นจุดนี้ได้  ด้วยการออกแบบวางผัง  ลูกชายจะไปลูกสาวจะมา  พ่อแม่นั่งอยู่ในห้องพักผ่อนก็ได้เห็น  ในทางความเชื่อตามธาตุ  หากห้องลูกชายต้องไปอยู่มุมขวาบนของบ้าน  ซึ่งติดอยู่กับโรงจอดรถ  ลูกชายเข้าออกบ้านกี่โมงกี่ยามก็ไม่รู้  สาวๆ ที่ลูกชายพามาพบปะสังสรรค์ยามค่ำคืน  ครั้นก่อนฟ้าสางเพื่อนสาวของลูกชายก็กลับออกไปก่อนพ่อแม่ตื่น  หากเป็นแบบนี้ ” ศาสตร์ช่วยได้ไหม “ ??? ...... ......... ...... มาเคาะบรรทัดใหม่ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 15:20:02 จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 .......... .......... .......... ........ .... ******************************************************* QQQ ...การออกแบบบ้าน / ที่พักอาศัย  ไม่ควรออกแบบให้เว้าแหว่ง  หรือเป็นรูปตัว I H .L U .QQQ ******************************************************* วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม การที่รูปร่างหรือแบบแปลนก่อสร้างของบ้าน  จะออกมาเป็นรูปทรงอย่างไรนั้น  มีข้อเกี่ยวข้องและที่มามากมายนัก  ตามความต้องการของเจ้าของบ้านให้แนวทางมา  ไหนจะพื้นที่ก่อสร้างจริงว่าเป็นรูปร่างเช่นไร  ที่ดิน 8 เหลี่ยมคางไดโนเสาร์ก็มี  สี่เหลี่ยมด้านไม่เท่าก็มี  รูปร่างที่ดินไม่ใช่กระดาษเอ 3 เอ 4 ที่มีด้านหนึ่งด้านใดเท่ากันเสมอไป   แม่นบ่ ???   รูปร่างหรือรูปทรง  นักออกแบบบางคน  ต้องการนำเสนอรูปแบบอาคาร  ที่มีส่วนลึกส่วนตื้นของห้องต่างๆ  เพื่อเพิ่มมิติของตัวอาคาร  มันเกี่ยวเนื่องไปถึงเวลาเรามองรูปด้านทั้ง 4 ด้าน ( คิดแบบพื้นฐานรูปด้านอาคารนี้มี  4 ด้าน เป็นเกณฑ์ตัวอย่าง )  การที่แบบแปลนมีส่วนงอกส่วนยื่น  นัยหนึ่งของวิถีการคิดแบบวิชาสถาปัตยกรรม   เพื่อให้รูปด้านออกมาไม่เรียบเกินไป  ยามแสงต่างๆ สาดสู่อาคาร  ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติ  หรือแสงประดิษฐ์ ( แสงไฟ )  เหลี่ยมเงาก็จะเกิด  ทาบทาไปตามผนังอาคาร  มันจะก่อให้เกิดจิตวิทยาอย่างหนึ่ง  คือ “ อาคารที่เคลื่อนไหว “ ..  การเคลื่อนไหวที่ว่า  ไม่ได้หมายความว่า   ออกแบบให้อาคารวางอยู่บนรางรถไฟนะครับ  การเคลื่อนไหวที่ว่า  เพื่อสร้างความอ่อนโยนให้อาคาร  ยามเช้าเกิดเงาด้านนี้  ยามบ่ายแบบนั้น  ตกกลางคืนเป็นอีกแบบ  ทั้งๆ ที่เป็นอาคารๆ เดียวกัน  แล้วถ้าอาคารนั้นไม่มีส่วนเว้าแหว่ง  ตื้นบ้างลึกบ้าง  งอกบ้างยื่นบ้าง   แสงเงาการเคลื่อนไหวที่ว่าจะมาจากไหน ????  นั่นคือแค่ทางเดียวของการคิดที่ทำให้อาคาร  แปลนไม่เป็นสี่เหลี่ยมป๊อก  ไหนจะเรื่องความสำคัญของห้องหับภายในอีก  ซึ่งแตกต่างกันออกไป  เช่น  บางอาคารต้องการห้องรับแขกพักผ่อนยื่นออกไปจากตัวอาคาร  ประมาณว่าให้เหมือนห้องรับแขกลอยอยู่บนอากาศ   คำว่ายื่นในอีกความหมายหนึ่งก็คืองอกออกไป  แม่นบ่ คราวนี้มาดูแปลนบ้านรูปตัว U จะอยู่ไม่สงบ ???  ตามวิถีความเชื่อทางหนึ่ง  ในวิถีและแนวคิดทางวิชาสถาปัตยกรรม  สมมุติขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง  ต้องการให้บ้านมีสระว่ายน้ำ  ที่เป็นส่วนตัวมากๆ  และห้องนอนทุกห้องจะต้องมองเห็นสระว่ายน้ำทุกห้อง  บริเวณสระว่ายน้ำจะต้องมีสวนน้ำ  และผนังน้ำตกอยู่ในบริเวณเดียวกัน  ให้เหมือนจุดๆ นี้  เป็น “ ส่วนเชื่อมความสัมพันธ์ของครอบครัว “  นักออกแบบคนหนึ่ง  นำเสนอให้สระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางบ้าน  พร้อมเป็นลานพักผ่อนกลางบ้านไปในตัว  สระว่ายน้ำในบ้านควรจะเป็นสระว่ายน้ำ  ที่ส่วนตัวที่สุด ???  ทำไมจะต้องเอาสระว่ายน้ำไปไว้หน้าบ้าน  คิดถึงเวลาแขกไปใครมา  หากบ้านนี้มีลูกสาวสวย  วัยกำลังแตกสาวสะพรั่ง  หรือไม่ก็แม่บ้านของพ่อบ้านกำลังว่ายน้ำอยู่   มันจะกระอักกระอ่วนไปไหม  เรามีสระว่ายน้ำให้ลูกสาวเราเมียเรา  มาว่ายน้ำโชว์เรือนร่างหรือ ???  ในส่วนของการวางตำแหน่งห้องนอน  นักออกแบบคนนี้  วางให้ห้องนอนของพ่อแม่อยู่ด้านหนึ่งของสระน้ำ  ด้านตรงข้ามเป็นห้องนอนลูกสาวลูกชาย  ส่วนชั้นล่างใต้ห้องนอนพ่อแม่  ก็เป็นห้องรับแขก  ที่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้  ไปๆ มาๆ แปลนบ้านหลังนี้  ออกมาเป็นรูปตัว U ..???   สระว่ายน้ำที่ว่า  อยู่ในท้องตัวยูพดดี  ตรงนี้ผิดหลักความเชื่อข้อไหนผมไม่ทราบ  เพราะมันอยู่เอากลางบ้านเลย  ลองนึกภาพตามนะครับ  ชั้นบนที่มีห้องนอนทั้ง 3 ห้อง  ทุกห้องมีระเบียงมองลงมายังสระน้ำ  มองลงสวนน้ำ  น้ำพุได้ทุกห้อง  ในยามค่ำคืนสระน้ำนี้ติดตั้งไฟส่องสว่าง  ปลายอีกด้านของสระน้ำเป็นผนังน้ำตกไหลริน  สองด้านของผนังของน้ำตก  เป็นสวนทั้งสองด้าน   ต่อไปขอยกตัวอย่างที่ไกลออกไปจากบ้านเรานิดนึง  ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไร   . ..มาเลเซีย ???  ตัวอย่างนี้หมายถึงว่ามีกี่กำหนดโจทย์มาก่อนการออกแบบ  ทำให้การออกแบบมีการแก้ไขที่เป็นลำดับ  เท่าที่มันควรจะเป็น  อาคารที่ว่าคือ . “ ตึกเปโตรนาส “   ริเริ่มเดิมทีทางมหาเธย์ ผู้ริเริ่มโครงการ  ให้โจทย์ทางผู้ออกแบบไปว่า  ต้องการอาคารที่สามารถเป็นสัญลักษณ์  และบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของมาเลเซียได้   และที่สำคัญต้องแสดงถึงความสำคัญของศาสนา / เชื้อชาติของมาเลเซียด้วย ???   ทราบไหมว่าตึกเปโตรนาสที่เด่นตระหง่านอยู่ขณะนี้  เรามองดูรูปด้านคงมองไม่ออก  ว่าตึกนี้มันแสดงออกถึงศาสนา / เชื้อชาติตรงไหน  แบบร่างครั้งสุดท้ายที่ผ่านการอนุมัติ  จากการนำเสนอ  คือ ” รูปทรงแปลนของอาคารเปโตรนาส  มาจากตัวอักษร / สัญญลักษณ์ทางศานาของมาเลเซีย  จากอักษรตัวหนึ่ง ??? “ .  แปลนนั้นจึงส่งผลให้ตึกเปโตรนาสไม่เป็นสี่เหลี่ยม   นี่เป็นตัวอย่างให้มองถึงว่า  ที่มาที่ไปของบ้านหรืออาคาร  มันจะเป็นสี่เหลี่ยม  หรือเว้าแหว่งนั้น  มีต่างเหตุต่างผลมากนัก ......... ..... ....... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ....... ........ ..... ......... ..... ...... *********************************************** QQQ ...ห้องน้ำ   ชักโครกควรตั้งขวางกับหน้าบ้าน ??? .. .QQQ *********************************************************** วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม การจัดวางตำแหน่งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ  ในวิชาชีพสถาปัตยกรรมโดยพื้นฐาน  จะแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง  โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นหลัก  ส่วนที่ใช้งานบ่อย  และไม่จำเป็นที่จะต้องมีน้ำไหลลงสู่พื้นห้องน้ำ  ก็มักจะเป็นอ่างล้างหน้า  และชักโครก  บางบ้านการใช้ชักโครกนิยมหรือถนัดใช้กระดาษชำระ  ในการทำความสะอาดอวัยวะขับถ่าย  ตรงนี้การจัดวางตำแหน่งชักโครกจะสะดวกขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง  แต่หากบ้านไหนถนัดการชำระล้างอวัยวะขับถ่าย  ด้วยสายฉีดชำระด้วยน้ำ  อาจมีน้ำกระเซ็นหรือไหลลงสู่พื้นห้องน้ำบ้าง  ตรงนี้ก็จะต้องจัดวางตำแหน่งของท่อระบายน้ำที่พื้น  ใกล้ตำแน่งชักโครกให้ใกล้ที่สุด  เพื่อลดอันตรายในการที่น้ำจะทำให้พื้นลื่น  ส่วนที่ลึกที่สุดของห้องน้ำ  ก็จะเป็นส่วนเปียก  ซึ่งก็คือบริเวณที่ใช้อาบน้ำนั่นเอง  การจัดวางตำแหน่งภายในห้องน้ำ  จะต้องคำนึงถึงอีกอย่าง  ที่มีความสำคัญมากเช่นกัน  คือระบบเดินท่อต่างๆ ท่อระบบโสโครกต่างๆ  มีระยะ  หรือความยาวจากตำแหน่งสุขภัณฑ์  ไปยังตำแหน่งช่องท่อรวม  ไปยังบ่อเกรอะบ่อซึม  ระยะเหล่านี้ยิ่งสั้นยิ่งลดความเสี่ยงการอุดตัน   ส่วนในเรื่องการจัดวางหัวนอนไม่ให้ติดผนังห้องน้ำนั้น  เป็นพื้นฐานการคิดของวิชาชีพสถาปัตยกรรมอยู่แล้ว  เพราะเสียงของระบบชำระล้างต่างๆ  มันเสียงดังเวลาใช้  และตำแหน่งของห้องน้ำในแปลนรวมของบ้านนั้น   ทุกวันนี้เราๆ ท่านๆ มักต้องการห้องน้ำ  ที่อยู่ในห้องนอน  ห้องใครห้องมันว่างั้นเถอะ  ตรงนี้พูดถึงในกรณีถ้ามีงบประมาณพอนะครับ  การจัดวางแบบแปลน  จะต้องดูหลายๆ อย่าง  อันเป็น..” วิทยาศาสตร์ “..  เช่น  การสัญจรในชีวิตจริงในแต่ละห้องเป็นอย่างไร   เดินออกจากห้องน้ำจะต้องเดินไปส่วนแต่งตัวให้ใกล้ที่สุด  ไม่ใช่อาบน้ำเสร็จ  ต้องเดินเขย่งนิ้วเท้าเหมือนนกกระยางย่องๆ  เพื่อไปหาเสื้อผ้าใส่ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งห่าง 4 เมตร ???  ชักโครกขวางหรือหันไปตามตำแหน่งแปลน  ถ้ามันหันตามหน้าบ้าน  มันเกี่ยวอะไรกับการใช้ชักโครก ???   หรือ  ในท่อโสโครกมีมนต์ดำ  จะอุดตันถ้าเราหันตามหน้าบ้าน ???   หรือไร ........ ...... ............. ...... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ....... ..... ........ ........ ...... *********************************************** QQQ ...ประตูหลักเข้าหน้าบ้าน  ต้องเปิดเข้าด้านในบ้าน  รับโชค ??? .. .QQQ *********************************************************** วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม อันนี้เท่าที่พยายามคิดหาเหตุ  ที่จะต้องเปิดเข้าด้านในอาคาร ???  ว่าดีตรงไหน  แต่เราลองมาดูเหตุอันอาจจะเกิด  หรือมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง  ในกรณีที่เปิดประตูหลักหน้าบ้านเข้าด้านใน  ตรงนี้สมมุติให้บานประตูเป็นประตูบานไม้ทึบ  ความกว้างบานละ 90 ซม.  มีสองบานแล้วต้องเปิดเข้าในอาคารเวลาจะเข้าบ้าน ??? /////// . ในแง่ของการสัญจร  บ้านนั้นการสัญจรหลักคือการสัญจรภายในบ้าน  หมายถึงการเดินเหินอยู่ภายในบ้านนั่นเอง  บ้านหลังหนึ่งมีลูกเล็กอายุประมาณซักขวบกว่าๆ  ทางบ้านจ้างลูกจ้างมาเลี้ยงดูลูก  วันหนึ่งลูกจ้างเลี้ยงน้องอยู่ในห้องรับแขก  ซึ่งการออกแบบพื้นฐานมักจะเป็นห้องแรกที่ก้าวเข้ามาในบานแล้วเจอ  น้องกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านอยู่หลังประตูบานนั้นพอดี  นึกภาพหากตอนนั้นถ้ามีใครซักคน   เปิดประตูบานนั้นเข้าไปพอดี  อะไรจะเกิดขึ้น   /////// .  ในแง่สายฝน  หากฝนตกซึ่งมักจะมาคู่กับลม  แม้หน้าบ้านบริเวณประตูนั้นจะมีกันสาด  หรือซุ้มหลังคากันฝนบ้างก็ตาม  แต่มักจะป้องกันไม่ได้ทั้งหมด  หรือบางบ้านไม่มีกันสาดเลย  ครั้นพอบานประตูเปียกน้ำฝน  เราเปิดประตูเข้าไปในบ้าน  น้ำที่เกาะอยู่บนบานประตู  ก็จะหยดลงบนพื้นบ้าน  สกปรกไหม ???  เหนื่อยไหมที่ต้องมาเช็ดมาถู ??? /////// . ในแง่ของการตกแต่งภายใน  การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องที่ติดกับบานประตูคู่นี้  ไม่ว่าจะเป็นห้องอะไรก็แล้วแต่  เราจะเสียพื้นที่ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์  ทั้งพื้นที่การวาง  พื้นที่การสัญจรเพื่อใช้งาน  พื้นที่สัญจร – ยืน เพื่อเปิดหรือปิดประตูชุดนี้    ไปร่วม 2.25 – 3 ตารางเมตร ........ .... .............. ...... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ........ ..... ........ ......... ..... ...... *********************************************** QQQ ...ห้องครัวควรลดระดับกว่าพื้นปกติ และห้องน้ำการลดระดับควรลดที่  5 เซนติเมตร  ??? .. .QQQ *********************************************************** วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม ข้อแรก ” การพิจารณาหรือออกแบบ ว่าตำแหน่งใดควรลดระดับหรือไม่อย่างไร “  นั้น  จะต้องพิจารณาถึงหลายๆ เหตุผลของเจ้าของบ้าน  ที่แตกต่างกันไปแต่ละคน  เช่น  ครอบครัวสมัยใหม่หรือในปัจจุบัน  การประกอบหุงอาหารแบบหนักลดน้อยลงไป  คำว่าหนักนี่หมายถึง  โขก, สับ, ปิ้ง, ย่าง, นึ่ง, ทอด  แบบไทยๆ ที่ควันหรือกลิ่นโขมงโฉงเฉง   ครัวแบบนี้พื้นอาจเลอะเทอะได้บ่อย  ทำให้เจ้าของบ้านอาจจะต้องถึงขั้นล้างขัดพื้นห้องครัวบ่อยๆ  แบบนี้การลดระดับพื้นห้องครัวอาจต้องพิจารณา  แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดระดับ  ระหว่างห้องครัวกับระดับพื้นส่วนใหญ่ของบ้านเลย  และการสัญจรภายในบ้านจะสะดวกกว่ามาก ในส่วนของเรื่องความสูงของการลดระดับในแต่ละจุด  ว่าควรลดหรือมีระดับต่างกันอยู่ที่เท่าไร  กี่เซนติเมตรนั้น  ตรงนี้ในทางวิชาชีพสถาปัตยกรรม  ก็ต้องดูจากหลายๆ เหตุผลด้วยกัน  แล้วทำไมต้อง 5 เซนติเมตร ???  ตัวเลข 5 เซนติเตรในทางสถาปัตยกรรมนั้น  เป็นความต่างของระดับที่ .” กั๊ก “  กั๊กคือ  จะมองว่าเป็นการลดก็ไม่เชิง  จะเป็นพื้นเสมอก็ไม่ใช่  ในทางการสัญจรและจิตวิทยาการใช้งานแล้ว  ระดับที่ต่างกันเพียง 5 เซนติเมตร  อันตรายในการใช้งาน  และมักจะเกิดการสะดุด ???  แม้จะเป็นบ้านเราเองที่คุ้นเคย  แต่อย่างที่ยกตัวอย่างให้ฟังคือ  เวลาใช้งานจริง  เราจะก้าวข้าม  หรือยกระดับฝ่าเท้า  เพื่อปรับระดับการเดินสัญจรไม่ต่างจากการเดินเหินปกติ  สมองหรือการสัญจรที่คุ้นเคย  เราจะยกเท้าขึ้นไม่สูง  มันก็เพิ่มโอกาสในการสะดุดมากขึ้นนั่นเอง  ตรงนี้นึกภาพตามเวลาเราขึ้นบันไดบ้านเราเอง  เมื่อสายตาเรามองความสูงของขั้นบันไดปั๊บ  จะส่งสัญญาณไปยังสมอง  สมองจะสั่งงานไปยังประสาทให้เรายกเท้าขึ้น  ว่าควรยกเท่าไรจึงจะสามารถก้าวขึ้นไปได้  โดยไม่เตะหรือสะดุด  ทำไมเราสะดุดบันไดน้อย ???  หนึ่งเหตุก็เพราะมันต่างระดับกันเยอะกว่าพื้นปกตินั่นเอง  การลดระดับของพื้นในทางสถาปัตยกรรมนั้น  ความสูงที่สอดคล้องกับสิ่งต่างๆ   ควรไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตร   ........ ....... ........ จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 76 .. ..... ................ .. .... ( เจตนาที่จะลงไฟล์ใหญ่  ให้คลิกเพิ่ม  เพื่อความชัดเจน ) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ...... ....... .. ......... ..... ( รูปนี้เป้นขนาดที่ดูได้เลย  ) ... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ........ ..... ........... ........ ..... *********************************************** QQQ ...ทิศทางการวางแปลนบ้านซื้อบ้าน  จะต้องละเอียดเป็นองศาเลยหรือ  ??? .. .QQQ *********************************************************** เพื่อความแจ่มชัดในการอธิบาย  วิถีและแนวคิดของวิชาสถาปัตยกรรม  ขอยกตัวอย่างเป็นพื้นที่จริงตามรูปด้านบน  ซึ่งเป็นผังบริเวณของกลุ่มที่พักอาศัย  ณ  ที่แห่งหนึ่ง  ซึ่งไม่ใช่ในประเทศไทย  เพื่อลดความสุ่มเสี่ยงที่อาจไปเจอบ้านใคร  หรือโครงการใด  อันอาจให้เกิดปัญหาตามมาได้ ( เพราะบังอาจไปวิจารณ์ทิศทาง  หรือองศาบ้านเขา )  และ  ณ  ที่นี้  ไม่ได้บ้าหรือยกย่องนับถือต่างชาติแต่อย่างใด  อีกประการนึงที่สำคัญ  ตัวผมเองไม่ได้ “ เหยียบเมฆ “  จนสามารถไปเดาที่มาที่ไปของการออกแบบผังบริเวณตามภาพข้างบนแต่อย่างใด  เพียงขอยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น  หากแต่วิชาสถาปัตยกรรมนั้น  มีหลักและเหตุผลตลอดจนที่มาที่ไปคล้ายกัน  ที่เป็น .. “ วิทยาศาสตร์กับแนวความคิด “ . ที่สามารถอรรถาธิบายได้  และขออนุญาตและขอขอบคุณ ” Google “ มา  ณ  ที่นี้ด้วย การออกแบบผังบริเวณทางวิชาชีพสถาปัตยกรรมนั้น  มีที่มาที่ไปมากมาย  ทั้งในแง่ของสภาพพื้นที่ที่ดิน  รูปร่างที่ดินที่ตั้ง  การเข้าออกของทางสัญจร  ทิศทางลมและสภาพภูมิอากาศนั้นๆ  ไปจนถึงแนวคิดส่วนตัวของนักออกแบบนั้นๆ  ที่อาจนำเสนอ..” แนวทางที่แตกต่าง “..  ไปจากแนวทางเดิมๆ ที่คุ้นๆ ตากัน  ซึ่งกรณีหลังนี้โอกาสที่นักออกแบบจะได้มีโอกาสนำเสนอน้อยมาก   และหากเป็นโครงการทางธุรกิจ  มีอีกเหตุหนึ่งที่สำคัญมากๆ อีกข้อนึง  นั่นคือ “ ต้องตอบปัญหาการลงทุนให้ได้กำไรมากที่สุด “ .  เหตุต่างๆ เหล่านี้เอง  ที่นักออกแบบจะต้องนำมาประมวลทั้งหมด  แล้วตีโจทย์เหล่านั้นออกมาเป็นแบบ  หรือผังบริเวณ  ตลอดจนถึงแบบ้านอาคารต่างๆ  ซึ่งตรงนี้ขอพูดเฉพาะเรื่องผังบริเวณ  ตามรูปตัวอย่างด้านบนอย่างเดียวก่อน   เรามาตั้งสมมุติ ( อีกแล้ว )  กันก่อนว่า  ผังบริเวณด้านบนที่เห็น  เป็นโครงการบ้านจัดสรร  ณ  ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง  ที่นักออกแบบวางผังบริเวณออกมาเป็นรูป..” รัศมีดวงอาทิตย์ “..  อันอาจมาจากได้หลายเหตุผลที่ออกแบบเช่นนี้ /////// .เหตุผลที่ทำไมต้องตัดถนนโค้ง ???   ทางหนึ่งในทางวิชาชีพทางสถาปัตยกรรม ถนนที่โค้งการใช้ความเร็วหรือสัญจรไปมา  ของคนขับรถจะใช้ความเร็วที่ต่ำกว่าถนนทางตรง  แต่ในแง่การลงทุนและการก่อสร้างทางธุรกิจ  จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าระบบทางสัญจร .” แบบสแควร์ “  คือ ถนนตัดฉากนั่นเอง ทางหนึ่งในทางวิชาชีพทางสถาปัตยกรรม .อาจเนื่องมาจากต้องการให้เกิดแนวคิดที่แปลกออกไปจากโครงการทั่วไป  หรือสร้างจุดขายที่แตกต่าง ทางหนึ่งในทางวิชาชีพทางสถาปัตยกรรม ..อาจเนื่องมาจากเพื่อสนองตอบสภาพพื้นที่ของที่ดิน  ซึ่งด้านหลังเป็นแนวโค้งกึ่งคันธนู  เพื่อให้เกิดการใช้สอยพื้นที่ให้คุ้มที่สุดในการจัดวางตำแหน่งบ้านลงไปในผังบริเวณ  หากจัดระบบการสัญจร  เป็นแบบถนนตัดตรงธรรมดา  อาจมีที่ดินบางแปลงเกิดเป็น..” หัวซอย – ท้ายซอย “ ได้  ตามรูปด้านบนถ้ามองในแง่ถนน – ทางสัญจรไปมา  อาจมองลำบากว่าด้านไหนเป็นหัวหรือท้ายซอย เรื่องต่อมามาพูดถึงเรื่ององศาการวางตำแหน่งบ้านหรืออาคาร  หากว่าภาพด้านบนเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่ใดที่หนึ่ง  เนื่องจากผังบริเวณได้จัดรูปแบบของการสัญจร  เป็นรูปร่างทรงครึ่งวงกลม  การวางแปลงที่ดินแต่ละแปลง  ไปจนถึงการจัดวางตำแหน่งบ้าน  ก็จำเป็นจะต้องสอดคล้องตาม  มันเป็นหลักเรขาคณิตพื้นฐานธรรมดาๆ  ถ้าดูจากรูป  จุดเริ่มรัศมีจะเกิดจากจุดๆ เดียวเท่านั้น  เหมือนเราเอาวงเวียน  หมุนไปรอบเป็นครึ่งวงกลม   เมื่อเส้นแนวที่ว่าไปตัดกับแนวถนน – ทางสัญจร  ที่ได้วางไว้แล้ว  ก็จะทำให้ที่ดินเกิด 2 รูปแบบ  คือ   รูปแบบที่หนึ่ง   . ด้านหน้าที่ดินกว้าง  ด้านหลังแคบ ??? รูปแบบที่สอง .. ด้านหน้าที่ดินแคบ  ด้านหลังกว้าง ??? นี่คือความเป็นมาเป็นไปตัวอย่างหนึ่ง  ที่อาจทำให้รูปแบบที่ดิน  ไม่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมตามหลักความเชื่อถือบางอย่าง  ซึ่งในทางตรงกันข้าม  มันมีที่มาจากการออกแบบ . “ ทางวิทยาศาสตร์ “ ” เรขาคณิต “  ส่วนใครจะมองว่าหน้าที่ดินกว้างเสียตังค์เสียทรัพย์  หรือหน้าที่ดินแคบท้ายที่ดินกว้าง  เก็บทรัพย์เก็บเงิน  อันนั้นไม่ใช่เหตุทางการออกแบบ  หรือวิทยาศาสตร์แล้ว เรื่องต่อมามาดูถึงเรื่ององศาการจัดวางอาคาร  จากลักษณะที่ดินด้านบน  การวางตำแน่งบ้านจะต้องยึดเอาตำแหน่ง ” กลางบ้าน “..  เพื่อวางอาคาร ( ในที่นี้ให้บ้านทุกหลังเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั้งหมด )  เพื่อความสวยงามเป็นแนวเดียวกันทั้งหมด  ดังนั้นการจัดวางแบบนี้ผนังบ้านทุกหลัง  จะไม่มีหลังไหนขนานกันเลย  แม่นบ่ ???  ดังนั้นองศาของการจัดวาง  อันเนื่องมาจากกรออกแบบทางสถาปัตยกรรม  จึงมีที่มาฉะนี้ ??? หากองศาการวางแปลนทางความเชื่อถือก่อให้เกิดบางสิ่งบางอย่างกับตัวบ้าน  ลืมตานึกภาพดูว่า  หากโครงการนี้แบบบ้านเหมือนกันหมด  การจัดวางห้องนอนห้องน้ำ  เหมือนกันหมด   บ้านทั้งโครงการนี้จะมีบ้านที่ดวงดีที่สุด  จากนั้นจะค่อยๆ แย่ลงๆ   จนไปถึงบ้านที่ . “ ซวยที่สุด “ . งั้นหรือ   แถมหลายหลังในที่นี้  จะมีองศาที่ตั้งเป็นลิปดา  ฟลิปดา อีกต่างหาก ????........................เอวัง ......... ...... .............. ....... ......... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 9 ส.ค. 50 15:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณคีรีบูนปีกบาง และทุกๆท่านด้วยครับ จากคุณ : จขกท (ไก่ทอดร้อน ๆ) - [ 9 ส.ค. 50 15:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ก็น่าจะกระจ่างกันแหละนะครับท่านคีรีบูน จากคุณ : experimental - [ 9 ส.ค. 50 20:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องบางเรื่องเป็นวิทยาศาสตร์ค่ะ  ควรปรับใช้ให้เหมาะสมกับยุคสมัยเจ้า เรื่องขื่อบ้านสมัยก่อนไม่ใช่แบบนี้ค่ะ  มันจะมีช่องว่างระหว่างขื่อกับหลังคาบ้านด้วยทำให้ฝุ่นไปอยู่ตรงนั้นเจ้า  ถ้าไปนอนตรงนั้นลมพัดฝุ่นตกลงมาจะไม่ดีกับสุขภาพค่ะ เรื่องปัดกวาดบ้านกลางคืนแล้วเงินไหลออกนอกบ้าน  เพราะสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าแบบสมัยนี้อย่างดีสุดก็ตะเกียงเจ้าพายุ  ถ้ากวาดบ้านกลางคืนของตกหล่นในบ้านก็จะโดนกวาดออกไปโดยไม่เห็นได้  แต่สมัยนี้ไฟฟ้าสว่างโร่ไม่ต้องกลัวแล้วค่ะจะกวาดเวลาไหนก็ตามสบาย เรื่องบางเรื่องมีเหตุมีผลไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่นนะคะ  ควรพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปดีกว่า  แก้ได้ก็แก้  แก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปทำอะไรค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 9 ส.ค. 50 21:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อิชั้นก็ไม่ค่อย ดูเรื่อง ซินแสนะคะ  เพราะซื้อบ้านมือสอง  เอาความชอบส่วนตัวเข้าว่า   เอาทำเลเป็นที่ตัดสิน        ไอ้เรื่องลำบากจากการทำธุรกิจมันก็มีบ้างประปราย  แต่ไม่เคยโทษทำเล โทษอะไร............โทษแต่ตัวเอง .... แต่ก็ไม่ลบหลู่นะคะ .....ไอ้เรื่องที่รุ้ก็จะไม่ทำ.......ไอ้เรื่องที่ทำ ถึงจะรู้ แต่กูก็ทำ...ก็มีบ้าง ..............ตอบยากนะคะ จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 10 ส.ค. 50 11:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เรื่องทิศทางบางครั้งเชื่อของจีนมากไม่ได้นะ เพราะบ้านเรากับจีนมันภูมิอากาศคนละแบบ คนจีนจะมีลมหนาวและฝุ่นพัดมาจากทางเหนือ ทำให้ทิศใต้เป็นทิศมงคล แต่บ้านเรามันไม่เหมือนกัน จริงๆแล้ว สร้างบ้านให้เหมาะกับภูมิอากาศบ้านเราดีกว่า อันไหนฮวงจุ้ยดูแล้วมีเหตุผลก็ยอมทำตามบ้าง อยู่อย่างประนีประนอม แล้วบ้านจะอบอุ่นครับ จากคุณ : Yippie - [ 10 ส.ค. 50 11:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ดีจังได้ความรู้เรื่องบ้านตั้งเยอะ ไว้จะกลับไปบอกคุณแม่เรื่องนอนใต้ขื่อบ้านนะคะ ทะเลาะกันเรื่องนี้ประจำเลย เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ >_< จากคุณ : ginjung - [ 10 ส.ค. 50 14:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าเชื่อฮวงจุ้ย เคยคุยกับคนดูฮวงจุ้ยนะ ทุกอย่างแก้ได้ครับ ไม่ต้องรื้อใหม่หรอก แต่ทางที่ดี อย่าไปเชื่อแบบงมงายเลย จากคุณ : อภิอัครมหายาน - [ 10 ส.ค. 50 14:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตอบบ้างๆ ความคิดเห็นที่ 61   ถามค่ะ ถ้าประตูบ้าน ทั้งประตูหน้าบ้านปิดเปิดรถเข้าออก และประตูที่เข้ามาในตัวบ้านตรงกันกับห้องน้ำ จะเป็นไรไหมคะ? จากคุณ : benjy_p ++++++++ ถ้าเปิดประตูบานเดียว แล้วเห็นทะลุไปถึงหลังบ้าน เห็นห้อนงห้องน้ำยู่ไหน ตอแบบไม่ใช้หลัก ฯก็คิดว่าไม่ดีนะ ก็แหม มันออกจะส่วนตัวนะ เวลาเข้าห้องน้ำเนี่ย จะให้ใครผ่านามองเข้าไปเห็นเลยเหรอ วjามีใครกำลังเข้าห้องน้ำ จากคุณ : มินเอง - [ 10 ส.ค. 50 14:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เวลาสร้างบ้านแล้วเจอซินแสทักนี่เป็นเรื่องน่าเบื่อมาก บางทีอะไรที่มันมาก เกินไปก็จะค้านเหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะเจอเคสคล้ายๆคุณ คีรีบูน ระยะ เสา ความสูงพื้นถึงเพดาน บันได จะขอทศนิยมลงท้ายที่ตัวเองต้องการ ที่ บ่อยสุดก็จะให้ลงเลข 5,9 แบบนี้รู้สึกมันไร้สาระก็จะโกหกซินแสไปด้วย พรบ.อาคาร ว่าทำแบบนั้นไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ส่วนมากซินแสจะไม่ค่อย รู้เรื่อง พรบ.อาคารต่างๆเท่าไหร่ ก็เอากฎหมายนี่แหละอัดกลับไปสุดท้ายก็ ยอมมาสร้างตามแบบเดิม คนออกแบบบ้านส่วนหนึ่งมักไม่ค่อยคุยเรื่องหลักการออกแบบของตนเอง คอนเซปแนวความคิดที่ใช้และกฎหมายอาคารที่เกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าของบ้าน ไม่มีข้อมูลอะไรเลย พอเจอซินแสพูดโน่นพูดนี่ก็เลยเชื่อซินแสไปหมด ถ้า สามารถอธิบายและให้ความรู้แก่เจ้าของบ้านซะตั้งแต่ตอนออกแบบ น่าจะ ช่วยลดปัญหาเรื่องฟังแต่ซินแสไปได้ระดับหนึ่ง ยังไงความรู้ทางสถาปัตย์ก็ จับต้องและสัมผัสได้มากกว่าความเชื่อทางฮวงจุ้ย จากคุณ : DEDETE - [ 10 ส.ค. 50 15:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ^ ^ เรื่องประตูต่างๆตรงกันพอดี มักไม่ค่อยมีใครออกแบบอย่างนั้น ไม่ว่าจะห้อง น้ำหรือห้องส่วนตัว ห้องต่างๆเวลาเราเข้าไปอยู่เรามักต้องการความเป็นส่วน ตัวและคงไม่ดีแน่ถ้าระหว่างเราทำกิจกรรมต่างๆแล้วรู้สึกว่ามีคนจ้องมองเรา อยู่ บางห้องถ้าประตูตรงกันหมดเวลาลมพัดเข้ามามันก็จะพัดออกไปอีกทาง เลย ไม่มีการหมุนเวียนอากาศในห้องนั้น และถ้าประตูตรงกันหมดโจรหรือ ขโมยสามารถสอดส่องทะลุไปได้ทั่ว ว่ามีของมีค่าอะไรให้ยกเค้าบ้างกลับไป วางแผนปล้นบ้านสบายเลย แต่ก็มีวิธีแก้ง่ายๆแค่หาเฟอร์นิเจอร์อะไรมาบังหรืออาจจะติดมู่ลี่ ที่บังตา ก็จบ คห.58 สถาปนิกที่ผมรู้จักเขาเล่นโต๊ะแดดมาคำนวณหาวันที่แสงแดดจะ ส่องเข้าบ้านที่ลึกที่สุดเลยครับ ทุ่มเทมาก แถมทำกำแพง+ผนังไล่ลมเข้า บ้านอีกต่างหาก เอาจริงเอาจังเรื่องความร้อนมากๆ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 50 15:42:38 จากคุณ : DEDETE - [ 10 ส.ค. 50 15:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่คนที่เป็นซินแซจะต้องเข้าใจถึงแก่นของฮวงจุ้ยด้วยครับว่าหมายถึงอะไร อย่าเชื่อทุกอย่างที่เขียนโดยไม่ตีความหมายหรือเข้าใจที่มาของความหมายนั้น แต่ถ้าเข้าใจความหมายแล้วก็สามารถประยุกต์กับสิ่งที่สร้างเสร็จไปแล้วได้โดยไม่ต้องทำลายได้ครับ ฮวงจุ้ยก็คล้ายๆ พุทธศาสนา ถ้าเจอคนที่เรียกตัวเองว่า ซินแส แบบไม่รู้จริงแล้วไปเชื่อตามทุกอย่าง ก็เหมือนกับที่ไปนับถือ คนที่ห่มผ้าเหลือง แล้วหลอกให้บูชา ...... ทั้งหลาย โดยที่ไม่ได้ศึกษาเลยว่าพระธรรมที่ควรรู้และควรสอนคนอื่นให้รู้ด้วยนั้นหมายถึงอะไรครับ จากคุณ : monjangja - [ 10 ส.ค. 50 22:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่รู้อย่างมงาย อะไรที่เราอยู่แล้วสบายใจ ก็ทำไปเถอะ เงินก็เงินของเรา ให้คนในบ้านอยู่แล้วสบายใจ  ทุกอย่างก็จะดีเอง  .... เชื่อเถอะ จากคุณ : nelumbo - [ 11 ส.ค. 50 11:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ฟังหูไว้หูครับแต่ไม่เห็นด้วยที่ให้คำพูดของซินแสมามีอิทธิพลต่อเราสำคัญที่ครอบครัวของเราผู้ที่ต้องอยู่บ้านนี้เค้าคิดอย่างไรถ้าเค้าเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างก็ไม่น่าทำความจริงเรื่องของซินแสพูดก็คือฮวงจุ้ยและฮ้วงจุ้ยจะอิงกับวิทยาศาสตร์เสมอนั่นหมายถึงจะเปลี่ยนอะไรต้องมีเหตุผลมารองรับที่ฟังแล้วเป็นเหตุผลจริงๆเห็นได้เป็นรูปธรรมของผลเสียที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่ถ้าตอบคำถามไม่ได้ว่าเป็นรูปธรรมอย่างไรก็ไม่น่าแก้ไขในสิ่งนั้นๆ จากคุณ : V.ku (v.ku) - [ 11 ส.ค. 50 12:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ไม่อ้อมค้อมนะครับ ส่วนตัวผมเกลียดหมอดูและคนที่ทำอาชีพประเภทนี้ที่สุด แต่ไม่เชื่อก็ลบหลู่ในใจนะครับเพราะเดี๋ยวคนที่เชื่อมันเตะเอา 55 จากคุณ : numtien - [ 11 ส.ค. 50 12:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เก็บเข้าคลังกระทู้เลย โหวตครับ จากคุณ : supercc - [ 11 ส.ค. 50 13:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมมีสามสิ่งในชีวิตที่  "เกลียด" เข้ากระดูก หนึ่ง  ประกันชีวิต สอง  แอมเวย์ สาม  ซินแส กับหมอดู แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 50 14:28:13 จากคุณ : Ring of Fire - [ 11 ส.ค. 50 14:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สนุก ๆๆๆ เก็บเข้าคลังด้วย โหวตด้วยเลย จากคุณ : biebie999 - [ 11 ส.ค. 50 15:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้าปัจจุบันอยุ่แล้วดี ก็ไม่ต้องไปทำไรแล้วละครับ  ถ้าอยู่แล้วมีปัญหาจุกจิกกวนใจก็ลองปรับเปลี่ยนดูเพื่อความสบายใจ จากคุณ : unfair (Unfair) - [ 11 ส.ค. 50 23:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 97 โดยส่วนตัวคิดว่า ฮวงจุ้ย หรือศาสตร์ของลมและน้ำ เก็บมาจากสถิติของคนจีนครับ ดังนั้นคงใช้ได้ยากกับคนไทย เหมือนกับเอาเรื่องโหงวเฮ้งไปดูฝรั่งคงดูไม่ได้ เพราะฝรั่งมันจมูกโด่งกันทุกคน (ฮา) เมืองจีนมีพายุทรายที่พัดมาจากทิศเหนือ จากมองโกเลีย ดังนั้นฮวงจุ้ยมังกรคือหันหลังบ้านไปทางใต้ ฝุ่นทรายจะได้ไม่เข้า มีภูเขากันลมหลังบ้านอีกชั้น หน้าบ้านเป็นบ่อน้ำให้ความชุ่มชื้น เหล่านี้เป็นสิ่งดีครับ ผมไม่เถียง แต่คงดีแค่ในประเทศจีน ใช้กับบ้านไทยต้องประยุกต์ บ้านเราอากาศร้อน พระอาทิตย์อ้อมมาทางใต้ ขืนหันใต้ก็ร้อนตายพอดี นอกจากนี้ บางความเชื่อที่ไม่ได้เกี่ยวกับลมน้ำเลย เช่น ถ้าบ้านเป็นรูปปังตอ เจ้าบ้านต้องอยู่ส่วนด้ามของปังตอ จะได้เป็นใหญ่ บ้ารึเปล่า... เกิดเป็นประเทศที่ไม่มีปังตอ จะรู้จักไหมนั่น อย่างดีก็เป็นการชักจูงจิต ของเจ้าของบ้านให้รู้สึกว่า ถ้าตูอยู่ตรงนี้ ตูใหญ่คับบ้านแน่ๆ เลยเสริมความมั่นใจให้เจ้าของบ้าน ดูเป็นเจ้าของแท้จริง ไม่เถียงครับว่าศาสตร์โบราณบางอย่างก็ใช้ได้ หรือมีพลังบางอย่าที่มองไม่เห็น แต่บางที ไอ้คนหรือซินแสรุ่นหลังที่ไม่รู้จริงนี่แหละ ที่ไปต่อเติมอะไรบางอย่างจนไม่ใช่หลักของลมและน้ำจริงๆ จากคุณ : แกะย่างที่เดินผ่านมา - [ วันแม่แห่งชาติ 00:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 98 จริงเลยครับท่านDEDETE ความคิดเห็นที่ 88 สถาปนิกคนนึงที่ผมชอบงานของเขามากๆก็คือ Steven Holl แกจะชอบ เล่นเรื่องของ แสงมากๆ เพราะแสงจะมีผลกับตัวอาคารในแต่ละช่วงวัน ไม่เหมือนกัน และ แกก็ยังนำเรื่องหลักฮวงจุ้ย มาวิเคราะห์ และนำมาใช้ ในการออกแบบด้วย แล้วก็จะมีเรื่องของ space ด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้บอกว่า ผมไม่เชื่อ ผมเชื่อในส่วนที่สามารถพิสูจน์ได้ อย่างเช่นเรื่องสีแดง เป็นสีนำโชค ผ้าม่านต้องสีน้ำเงิน เพราะเก็บเงินได้ดี อย่างพวกนี้ผมพูดตรงๆ ผมไม่เชื่อครับ จากคุณ : experimental - [ วันแม่แห่งชาติ 01:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอเข้ามาขำได้มะ ขำ จขกท สร้างบ้านแบบวัดจีน ฮ่าๆๆๆๆๆฮี่ๆๆๆๆๆ จี๊อ่ะ ช่วงนี้เส้นตื้น จากคุณ : พีพีค่ะ - [ 13 ส.ค. 50 02:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ถ้าเชื่อเรื่องแบบนี้ก็เลิกกินข้าวเถอะครับ จากคุณ : operation 24 - [ 13 ส.ค. 50 09:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ไม่เชื่ออะไรเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผมเกิดจากการกระทำของตัวผมเองไม่ชาตินี้ก็ชาติที่แล้ว ซื้อบ้านอยู่มาสี่ปีแล้วยังไม่ขึ้นบ้านใหม่เลย ตอนย้ายบ้านก็ไม่มีฤกษ์ยามอะไร สะดวกวันใหนก็ย้ายวันนั้น เป็นอย่างนี้ตั้งแต่รุ่นแม่แล้ว ไม่เคยมีศาลพระภูมิหรืออะไรแบบนั้น นับถือแต่คำสอนของพระพุทธเจ้า เคยช่วยงานแต่งเพื่อนบ่อย บางรายก็ฤกษ์เช้ามืด เมาก็เมาต้องไปช่วยมันแบกอ้อย อยู่กันก้นกระทะยังไม่ทันดำก็เลิกกันแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเหตุผลทางด้านจิตวิทยาถ้าเชื่อแล้วสบายใจ มีความมั่นใจก็เอาเลย แต่ถ้าทำแล้วมีปัญหาก็ไม่มีความจำเป็นอะไร จากคุณ : -- - [ 13 ส.ค. 50 10:20:41 A:124.121.124.14 X: TicketID:124519 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เรื่องความเชื่อจะไปห้ามหรือไปล้มล้างคงจะไม่ได้ จขกท.หายไปแล้วไม่ทราบไปทุบบ้านทิ้งหรือไปแตกหักกับผู้ใหญ่ที่บ้านแล้วหรือยัง วันนี้หยิบเอาหนังสือของ Lillian Too (ชื่อเธอเขียนอย่างนี้) หนังสือเล่มนี้ชื่อ "The Complete Illustrated Guide to Feng Shui, How to Apply the Secrets of Chinese Wisdom for Health, Wealth and Happiness" มาเปิดๆ ดู จริงๆ เสาหน้าบ้านคุณจขกท.ยังไม่ใช่เสาโรมันแท้นะคะ เพราะเสาโรมันแท้ต้องเป็นเสากลมและมีความสูงมากๆ กว่านี้ (และ Lillian Too ไม่ได้บอกสักนิดว่าเสาโรมันที่ตั้งอยู่หน้าธนาคารในอิตาลีไม่ดี) แต่ก็ไม่เป็นไร หนังสือเล่มนี้พูดถึงเสาในแง่ที่เป็น poisonous arrow ซึ่งวิธีการลบพลังร้ายอันนี้ก็อาจใช้วิธีที่ไม่จำป็นต้องทำแล้วออกมาเหมือนวัดจีนก็ได้ด้วยการหากระถางต้นไม้มาตั้งบังไว้รอบๆ เสา ซุ้มโค้งหน้าประตูนั่นดีอยู่แล้ว ควรตกแต่งโค้งให้ดูสวยเด่นขึ้นมาเป็นการเรียกพลังดีเข้าบ้าน ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นแนวประยุกต์ที่นำวิธีการของฮวงจุ้ยมาใช้ในการตกแต่งบ้านแนวสมัยใหม่หรือแนวตะวันตก ทำให้ไม่ต้องออกมาเหมือนวัดจีน ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการให้ชีวิตคู่มีความยั่งยืนรักกันไม่เสื่อมคลาย หลักฮวงจุ้ยจะบอกว่าให้ใส่สิ่งของที่แสดงถึงความรักไว้ในห้อง เช่นการมีนกคู่หรือแขวนภาพดอก peony (คือโบตั๋นหรือเปล่าไม่ทราบ) ไว้ในห้องนอน แต่ Lillian Too บอกว่าในการแต่งบ้านแนวตะวันตก ถ้าไม่อยากใช้สิ่งของที่ดูเป็นจีนเกินไป คุณจะใช้ภาพวาดที่แสดงความรักแนวตะวันตก ภาพดอกกุหลาบ หรือพอร์ซเลนฝรั่งมาไว้ในห้องก็ได้ ไม่มีประสบการณ์กับซินแสในไทย แต่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันคือเรื่องของความเชื่อที่ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบแผนดั้งเดิมเป๊ะๆ พวกดอกโบตั๋นหรือตัวอักษรภาษาจีนสามารถแทนด้วยสิ่งอื่นที่ให้ความหมายใกล้เคียงกันได้ มันจะทำให้เป็นศาสตร์ที่เปิดกว้างได้มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันสถาปนิกทางตะวันตกก็มาศาสตร์ของฮวงจุ้ยไปประยุกต์ใช้อย่างที่คุณ experimental เล่ามา ส่วนตัวดิฉันเชื่อว่าพื้นฐานชีวิตของตัวเองดีอยู่แล้ว การนำหลักฮวงจุ้ยมาแต่งบ้านอาจจะช่วยเสริมชีวิตให้ดีขึ้นหรือไม่ไม่ทราบ รู้แต่ว่าแต่งแล้วสนุกมีความสุข ทำให้บ้านดูอบอุ่นมีชีวิตชีวา แต่ก็ไม่ยึดติดกับมัน วันไหนอยากเปลี่ยนก็คงเปลี่ยนอย่างที่บอก The easiest Feng Shui tool to use in decorating and enhancing your home is light...Light, as Yang, also helps to achieve balance and harmony in the home and attracts good Chi flows...The sparking light given off by crystal chandeliers has excellent qualities for enhancing and activating beneficial Chi......สนุกออกเห็นไหมคะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 50 11:17:49 จากคุณ : Tiwanon48 - [ 13 ส.ค. 50 11:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เรื่องพวกนี้ ไร้สาระทั้งเพ คนฮ่องกง,สิงคโปร์ เค้าเชื่อแล้วเค้ารวยเอาๆ แล้วพวกยุโรป เมกา นี่เค้าเชื่อเรื่องพวกนี้หรือเปล่า ฮ่องกง,สิงคโปร์ัยังไม่รวยเท่าเค้าเลย ไม่ต้องไปสนใจเลยเรื่องพวกนี้ มันหากินกับความเชื่อของคนเราน่ะแหละ อย่าไปเชื่อมันมันจะได้หากินไม่ได้ เกลียดนักพวกนี้ จากคุณ : ^oio^ - [ 13 ส.ค. 50 16:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ซินแสที่ดีจะไม่ทุบ ยุบ ย้ายสิ่งที่สร้างไปแล้วค่ะ เน้นการประยุกต์และสร้างเสริมมากกว่า.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 13 ส.ค. 50 17:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อย่าดูตั้งแต่แรก ดีที่สุด จากคุณ : แมวเกเร - [ 14 ส.ค. 50 11:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เคยมีซินแสท่านนึงสอนว่า .. การแก้ปัญหาฮวงจุ้ยด้วยการทุบๆๆๆ .. ก็เหมือนกับการถอนฟัน .. ฟันหายผุ (ก็ถอนทิ้งไปแล้วนี่หว่า) แต่ก็กระเทือนไปทั้งปาก เหงือกบวมกินข้าวปลาไม่ได้ไปหลายวัน ไม่จำเป็นจริงๆ ห้ามทำเด็ดขาด จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 14 ส.ค. 50 18:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 107 แนะนำให้ทุบบ้านซินแสแทนครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) - [ 14 ส.ค. 50 19:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ......... ..... ............. ......... ........... *********************************************** QQQ ..การจัดวางตำแหน่งต่างๆ ของอุปกรณ์ภายในครัว เช่น เตาไฟ ( แกส ) อย่าเผาเรือน  เผาเจ้าของบ้าน   ??? .. .QQQ ************************************************ วิถีและแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรม เมื่อพูดถึงชีวิตจริงในทุกวันนี้ของบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่  การทำครัวแตกต่างจากรุ่นเก่าก่อน  รุ่นพ่อรุ่นแม่เรามากนัก   จะเนื่องด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป  สังคมเมืองใหญ่ขยายครอบคลุมไปกว้างขึ้น ๆ ทุกวัน  การหุงหาอาหารชนิดควันโขมงโฉงเฉง  กลิ่นพริกแกงแนงโหระพา  น้อยนักที่จะมีโอกาสได้หุงหาทำกัน  ห้องครัวหรือส่วนหุงหาอาหารจึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามการใช้ชีวิตจริง  เราจึงได้เห็นห้องครัวที่เรียกว่า .” ครัวฝรั่ง “ หรือ ” ครัวสมัยใหม่ “ กันมากขึ้น   ครัวฝรั่งหรือครัวสมัยใหม่ที่พูดถึง  ในความหมายของผมหมายถึง  ..” ลักษณะและรูปแบบการจัดวาง “..ของอุปกรณ์ต่างๆ  ภายในห้อง  จากครัวไทยที่มีโต๊ะโขก, สับ  มีตู้เก็บกับข้าวใส่กับข้าวที่เหลือจากการกินในแต่ละมื้อ  เพื่อกินในมื้อต่อๆ ไป  มีตู้ใส่ถ้วยโถโอชามจานช้อน  ภาชนะต่างๆ    วันนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็น  ที่เรามักเรียกกันว่า .” เคาน์เตอร์ “ ” ตู้ลอย “ แทน  ส่วนรายละเอียดของวัสดุนั้นก็แตกต่างกันไป  บางบ้านเป็นเคาน์เตอร์ปูน  บางบ้านเป็นไม้  บางบ้านเป็นแบบลูกผสม   คราวนี้มาเข้าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในกระทู้นี้กัน  การจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ  ภายในครัว  ในวิถีและแนวคิดวิชาสถาปัตยกรรมนั้น  จะขอยกตัวอย่างเพียงแนวคิดหนึ่งคือ  การจัดลำดับการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ   .” ตามลักษณะและพฤติกรรมการใช้งานจริงของ คน “   เริ่มจากการวัตถุดิบในการประกอบอาหาร  ซึ่งจะเก็บไว้ในตู้เย็นกันแทบทั้งนั้น  ถึงเวลาจะเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหาร  จะเริ่มจากการเปิดตู้เย็นออก  แล้วหยิบของในตู้เย็นออกมา  และจะต้องมีที่ที่จะวางวัตถุดิบนั้น   จากตำแหน่งนั้นก็จะต้องนำวัตถุดิบนั้นทำความสะอาดหรือล้าง  ก็จะเป็นหน้าที่ของ ” อ่างล้าง “  ..ในส่วนนี้มักจะเป็นทั้งอ่างล้างผักล้างปลา  ควบไปกับอ่างล้างจานไปในตัว  เมื่อทำความสะอาดเด็ดผักล้างปลาเสร็จ  ก็จะต้องเป็นส่วนที่นำวัตถุดิบนั้น   นำมาวางเพื่อสับ, โขก, แล่, ขยำ   ก็ว่ากันไปตามประเภทของอาหาร  จากนั้นก็เป็นส่วนที่สำคัญที่เป็นปัญหาในการจัดวางตามความเชื่อทางหนึ่ง  นั่นก็คือ ” เตาไฟ  หรือ  เตาแกส “ ..  เพื่อทำให้วัตถุดิบเหล่านั้น  ออกมาในรูปแบบของอาหาร  ผัดเสร็จต้มสุก  ก็ต้องมีที่วางหรือเทลงจานลงภาชนะ  เพื่อยกไปวางบนโต๊ะรับประทานอาหารอีกที  นี่คือ ” ลำดับการประกอบอาหารในชีวิตคนจริงๆ “   นอกเหนือจากนี้บางบ้านอาจมีส่วนของตู้กับข้าว  เพื่อเก็บกับข้าวเหลือ  เพื่อใช้กินในมื้อต่อไปอยู่ด้วย  ไหนจะบางบ้านอาจมีลักษณะของ ” เคาน์เตอร์บาร์ “.. เพื่อวางพักกับข้าวก่อนยกไปโต๊ะอาหารอีกต่างหาก   นั่นคือที่มาที่ไปของการจัดลำดับการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องครัว  ในวิถีและแนวคิดวิชาสถาปัตยกรรม  ไหนจะต้องดูทิศทางลมที่อาจจะพัดเข้าหาอุปกรณ์ต่างๆ ไปด้วย  หรือข้อมูลในด้านเทคนิคต่างๆ  เช่น  เตาแกสตั้งติดหน้าต่างอาจโดนลมพัด  จนแรงแกสอ่อนและสิ้นเปลืองได้  แถมอาจติดตั้งที่ดูดกลิ่นดูดควันลำบากอีก  อ่างล้างจานก็จะต้องคิดว่า  ระบบการเดินท่อจะเดินมาจากตำแหน่งไหนของจุดเดินท่อนอกบ้านนอกอาคาร  มันจะไขว้ไปไขว้มาสลับโลกไปหรือเปล่า  ไหนจะต้องคิดเรื่องตู้เย็นเปิดด้านไหน  ( แม้ในปัจจุบันจะมีตู้เย็นชนิดเปิดด้านใดก็ได้ในท้องตลาด  แต่มีไม่กี่บ้านหรอกที่ซื้อแบบนี้ใช้ )  ไม่ใช่วางตำแหน่งแล้ว เปิดตู้เย็นที  กว่าจะเอาออกไปวางเตรียมล้างทำความสะอาด  ต้องเอาเท้าอีกเท้านึงเกี่ยวประตูตู้เย็นให้แง้มไว้ก่อน  เพราะไปวางทิศทางการเปิดบานประตูตู้เย็นผิดด้านนั่นเอง  ในส่วนของหลุมล้างจานในชุดซิงค์อ่างล้างจานก็มีผลในกรจัดวางเช่นกัน  ให้สังเกตว่าจะมีอ่างล้างจานชนิดหลุมล้างอยู่ซ้ายหรืออยู่ขวาให้เลือก  มันมาเพราะเหตุนี้นี่แล  ฉะนั้นเวลาซื้อๆ ให้เข้ากับการจัดวางการใช้งานจริงของตัวเรา   .ยังมีด้านเทคนิคอื่นๆ  ซึ่งถ้าเขียนหมดคงยาว   เอาแค่นี้ก่อน จากข้อมูลการใช้งานจริงที่บอกมา  มันจะจัดลำดับไปตามนั้นทีละอย่างๆ  ส่วนจะเวียนไปทางซ้ายหรือขวา  ยังมีสิ่งที่ต้องนำมาเป็นข้อมูลประกอบการออกแบบอีกมากนัก  เช่น  ประตูทางเข้าห้องครัวมีไหม???  หรือเป็นครัวเปิดโล่งเชื่อมส่วนรับประทานอาหาร ???  อื่นๆ  และนี่เองที่จะบอกว่า .. “ ตำแหน่งของเตาแกสเตาไฟ “.. มันจะไปตกตำแหน่งตรงไหนของห้อง  ทิศไหนของห้องนั้น  มันมาจากแนวคิดเช่นนี้แล ....”   .... .... ......... ... ... จากคุณ : คีรีบูนปีกบาง - [ 14 ส.ค. 50 21:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อีกหน่อย คงให้สร้างวัด ไว้ในบ้าน......  = =' จากคุณ : ด่วนที่สุด - [ 15 ส.ค. 50 07:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ก่อนสร้างบ้านเคยปรึกษาชินแสครับ เพราะคิดว่าบ้านแพงต้องทำออกให้ดีที่สุด ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย คิดอีกที ชินแสมันไม่ได้ช่วยผมผ่อนบ้านนิหว่า เลยบอกยกเลิกชินแสไป หันไปคุยกับแฟนแทนชินแสว่า ห้องนั้นจะทำอย่างไร ประโยชน์ใช้สอยอยุ่ตรงไหน ลูกจะนอนห้องไหน ห้องครัว ห้องน้ำ ฯลฯ ทุกวันนี้ก็กินดีอยู่ดีนะครับ ไม่เห็นมันจะดวงตกหรือมีอะไรไม่ดีนะ จากคุณ : . (ccna) - [ 15 ส.ค. 50 12:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 111 คุณTiwanon48  ครับ ผมยังไม่ได้ทุบบ้าน หรือทำอะไรทั้งสิ้นเลย ผมกำลัง ใช้ความสงบ สยบซินแสอยู่ เกือบอาทิตย์แล้วที่ยังไม่ได้เข้าไปดูเลย ไม่รู้ว่าที่บ้านสั่งให้ช่างทำอะไรบ้าง ช่วงนี้กำลังอกหัก ต้องทำใจเรื่องบ้าน กันหน่อย ว่าจะไปหาเพลงของ อ๊อฟ ปองศักดิ์มาฟัง (ขำขำนะครับ) จากคุณ : จขกท (ไก่ทอดร้อน ๆ) - [ 15 ส.ค. 50 14:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ไม่ทุบบ้านไม่แตกหักกับผู้ใหญ่ก็ดีแล้ว ฟังเพลงไปพลางๆ ก่อนค่ะ ไม่ทราบบ้านใครออกตังคะ ถ้ายังไงก็ปล่อยผู้ใหญ่ท่านจัดการไปก่อน ถ้าเป็นบ้านของคุณเอง วันหนึ่งคุณคงได้แก้ไขตามใจอยาก ตอนนี้ประนีประนอมดีกว่าค่ะ จริงๆ ถึงไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยแต่จะแต่งบ้านแบบฮวงจุ้ยก็ย่อมได้นะคะ ถ้าไม่ชอบเหมือนวัดจีนก็อย่างที่บอก ประยุกต์ให้เข้ากับการแต่งบ้านสมัยใหม่หรือแบบตะวันตกได้ค่ะ ตรงเสาคู่นั่นอยากจะแนะนำว่าทำเป็นเถาไม้เลื้อยหอมๆ เลื้อยพันเสาก็ดูดีเหมือนกันนะคะ ใช้การแต่งสวนสวยๆ หน้าประตูบ้านไปเลย จากคุณ : Tiwanon48 - [ 15 ส.ค. 50 17:40:48 ]