ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมถอดล๊อกอินล่ะ มันก็น่าสงสัยทั้งสองทาง ทางนี้ก็ไม่มีหลักฐานอ้างอิงพิสูจน์ จนมองคล้ายว่ามาปล่อยข่าว ทางโน้นก็ไม่มีมอก. เพียงแต่ได้รับการรับรองว่าประหยัดค่าไฟและเย็นขึ้นเท่านั้น เอ๊า เจริญแอร์ ออกมาตอบหน่อย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 25 ส.ค. 50 19:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กาซ LPG สามารถเอามาทำเป็นสารทำความเย็นได้ด้วยเหรอ ไม่น่าใช่น่า ผู้รู้จริงเข้ามาอธิบายหน่อย อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : AWAGON - [ 25 ส.ค. 50 19:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฟันธงว่าไม่จริง จากคุณ : ลุงแก่ - [ 25 ส.ค. 50 19:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไรสาระ... พวกไม่มีงานทำ ชอบให้ชาวบ้านด่า..... จากคุณ : Nong (NongSc16) - [ 25 ส.ค. 50 20:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีแอบเอ๊ย กล้าๆ หน่อยเหอะ โตขนาดเล่นเน็ตได้ขนาดนี้ อย่าทำตัวไร้สาระหน่อยเลย 666666 จากคุณ : monjangja - [ 25 ส.ค. 50 22:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เขาบอกว่ามีส่วนผสมจากก๊าสธรรมชาติครับ อันนี้ข้อความ ก๊อปมาจาก pantown.... เรื่องการติดไฟของน้ำยาตัวนี้ อยู่ในระดับที่ปลอดภัยครับ เพราะตัวน้ำยาตัวนี้เป็นสารธรรมชาติ 100% และผลิตขึ้นเพื่อเป็นสารทำความเย็น ไม่ได้ถูกผลิตขึ้นให้เป็นเชื้อเพลิง และคุณสมบัติอีกอย่างที่ทำให้น้ำยาตัวนี้ปลอดภัยเวลารั่วซึมคือ มันเบากว่าอากาศครับเมื่อรั่วออกมามันจะลอยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว จะไม่ลอยอยู่เหนือพื้นเหมือนแกสหุงต้มที่เวลารั่วเราจะได้กลิ่นอยู่รอบๆตัวเรา ถ้าไม่ปลอดภัยจริงคงไม่มีใครกล้านำมาใช้แน่นอนครับ โอกาสที่แอร์คุณจะไฟฟ้าชอ๊ตยังมีมากกว่าอันตรายที่เกิดจากการติดไฟของน้ำยาตัวนี้เลยครับ ที่บ้านผมก็เปลี่ยนมาใช้น้ำยาประหยัดไฟตัวนี้ครับ  ...... อันนี้ก๊อปมาจากวิเศษแอร์ครับ ........การระวังการติดไฟ ซึ่งพ่น COLD ใส่บุหรี่แดงวาบที่คาบไว้กับปากนี่ไม่ติดไฟ พ่นแบบเฉียดๆไฟแช็คที่จุดไว้ก็ยังไม่ติดไฟ แต่ถ้าพ่นเข้าใส่ไฟตรงๆนี่ยังไงก็ติดครับ  ถ้าไม่ปลอดภัยจริง เขาคงไม่ผลิตกันมาหรอกครับ  สเปรย์กระป๋องยังติดไฟเลย จากคุณ : หนุ่มบางกรวย - [ 25 ส.ค. 50 22:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มเติมครับก๊อปมา..สารทำความเย็น..cold 22..เป็นสารทำความเย็นที่ผลิตขึ้นโดยมีส่วนผสมหลักจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นปัญหาในการทำลายชั้นบรรยากาศ และไม่เป็นปัญหาให้พื้นโลกร้อนขึ้น ..ได้มีการพัฒนาสารทำความเย็น cold ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในเขตร้อน เป็นเวลากว่า 12 ปีเพื่อให้เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป และสามารถช่วยในการ**ประหยัดพลังงานระหว่างคอมเพรสเซอร์ทำงาน(ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า10-30%) ..จากการพัฒนาการและคิดค้นโดยเทคโนโลยี่ จาก cold ยุโรป และเป็นการคิดค้นโดยใช้แก๊สธรรมชาติที่ปราศจากความชื้นเป็นส่วนผสมหลัก สารทำความเย็นที่ใช้ส่วนผสมที่ได้จากก๊าสะรรมชาติได้มีการเริ่มใช้มาแล้วมากกว่า 40 ปี โดยสามารถใช้ได้ในระบบเครื่องทำความเย็นต่างๆทั้งที่เคยใช้สาร cfc/hcfc/hfc ..สารทำความเย็น cold เป็นสารทำความเย็นที่ผลิตมาเพื่อใช้ทดแทนสารทำความเย็นสามรถทำลายสภาพแวดล้อม และให้ประโยชน์ในการช่วยรักษาสภาพแวดล้อมระยะยาว ..cold 22 เย็นเร็วกว่าสารทำความเย็น ประเภท ให้ความเย็นได้ (cfc , hcfc) ด้วยเหตุผลของค่าจุดเดือดของสารทำความเย็นทดแทด cold มีความต่ำกว่สารทำความเย็นที่กล่ามาข้างต้น **สามารถช่วยลดการใช้พลังงานในการหมุนคอมเพรสเซอร์ได้10-30% .. โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงระบบทำความเเย็น รวมทั้งสารหล่อลื่น ***สาทำความเย็น cold ไม่ทำการกัดกร่อนระบบ ***สารทำความเย็น cold มีคุณสมบัติในการดูดความร้อนได้ดีโดยใช้พลังงานในการหมุนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์น้อยกว่าจึงทำให้การสึกหรอของระบบน้อยลง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษา ***สารทำความเย็น cold ไม่มีความจำเป็นจะเปลี่ยนน้ำมันคอมเพรสเซอร์ ***cold ** เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ** เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน(ค่าไฟฟ้า) ** ยืดอายุการใช้งานของเครื่องทำความเย็น ..ในปัจจุบัน ได้มีการแบ่งบรรจุสารทำความเย็น cold เพื่อขายภายในประเทศและส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น,อินเดีย,สิงคโปร,มาเลเซีย,ฟิลิปปินส์,ซาอุดิอะราเบีย,สหรัฐอาหรับแอมมิเลส เป็นต้น จากคุณ : หนุ่มบางกรวย - [ 25 ส.ค. 50 22:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สามารถดูข้อมูลได้ว่า COLD22 คือ PROPANE หรือ LPG ได้ที่ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (http://msds.pcd.go.th/searchName.asp?vID=546) แล้วพิมพ์ชื่อ PROPANE ลงในช่องชื่อสารเคมี แล้วคลิ้กที่ค้นหา แล้วเลือกอันดับที่ 119 หรือ 120 ก็ได้คุณก็จะทราบรายละเอียดทั้งหมด และใน MSDS ของ COLD22 ซึ่งสามารถจะ download ได้จากเว็บไซด์ของ Coolman ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย COLD22 ก็ระบุว่าเป็น PROPANE ที่ข้างถังบรรจุก็ระบุว่าเป็น PROPANE 99% และก็ได้ถามเพื่อนเป็นวิศวกรที่ชำนาญด้านแอร์แล้วก็บอกว่า ก๊าซธรรมชาติอย่างเช่น Methane (NGV) หรือ PROPANE(LPG) สามาถจะนำไปใช้แทนสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศได้ เพราะมีจุดเดือด เช่น PROPANE (LPG) จุดเดือดจะเท่ากับ -42 องศาC ส่วน Methane (NGV) มีจุดเดือดเท่ากับ -151.2 องศาC แต่ข้อเสียของมันคือติดไฟได้ จึงทำให้ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ซึ่งจะเห็นได้ว่าสารทำความเย็นหรือที่เรียกกันว่าน้ำยาแอร์ที่ใช้กันอยู่จะเป็นสารที่ไม่ติดไฟ เช่น R12 หรือ R22 แต่เป็นสาร CFC ที่มีผลต่อสภาวะเรือนกระจก แต่ปัจจุบันก็มีที่เป็นสาร non CFC ออกมาใช้กันแล้วคือ R134A, R410A ครับ ดังนั้น COLD22 หรือ PROPANE หรือ LPG จึงเป็นสินค้าที่ผู้นำมาจำหน่ายนั้น หวังเพียงผลกำไรแต่ไม่มีจิตสำนึกถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเลย ทางส.ค.บ.น่าจะเข้าไปตรวจสอบหน่อยนะว่า นำไปจำหน่ายได้อย่างไร จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 25 ส.ค. 50 22:48:15 A:125.26.65.184 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การทำความเย็นใช้สารอะไรก็ได้ ที่สามารถเปลี่ยน phase จากสถานะ gas ไปเป็น ของเหลว ได้ จากคุณ : ควนโส - [ 26 ส.ค. 50 11:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 COLD22 ก็คือ R290 ก็คือ propane (C3H8) ใช้เป็นสารทำความเย็นได้ ตัวมันสามารถติดไฟได้ น้ำหนักเบากว่าอากาศ รั่วแล้วลอยตัวขึ้น แต่ LPG ไม่ใช่ propane ร้อยเปอร์เซนต์นะครับ มันผสมระหว่าง propane ซึ่งเบากว่าอากาศ กับ butane ซึ่งหนักกว่าอากาศ แล้วก็สารอื่นๆ อีก ทั้งสองตัวเป็นก๊าซติดไฟได้ ไม่อยากให้เข้าใจว่า LPG ก็คือ propane หรือ propane ก็คือ LPG ที่คุณหนุ่มบางกรวยยกมาว่า .... เรื่องการติดไฟของน้ำยาตัวนี้ อยู่ในระดับที่ปลอดภัยครับ เพราะตัวน้ำยาตัวนี้เป็นสารธรรมชาติ 100% และผลิตขึ้นเพื่อเป็นสารทำความเย็น ไม่ได้ถูกผลิตขึ้นให้เป็นเชื้อเพลิง... มันไม่เป็นเหตุเป็นผลต่อกันเลยนะครับ ว่าสารธรรมชาติ หรือสารทำความเย็น แล้วจะต้องไม่ติดไฟ ไม่เกี่ยวกันเลยครับ มันคือ propane แทบจะ 100% ยังไงก็ติดไฟครับ NGV (methane) ก็เป็นสารธรรมชาติ 100% แล้วก็ไวไฟสุดๆ เลยครับ ...ถ้าไม่ปลอดภัยจริงคงไม่มีใครกล้านำมาใช้แน่นอนครับ... นี่ก็ไม่เป็นเหตุเป็นผลที่ดีเหมือนกัน ในอดีตมีสารหลายๆ อย่างที่เอามาใช้กัน แล้วก็รู้ภายหลังว่าไม่ปลอดภัย อย่างดีดีที เป็นต้น ...โอกาสที่แอร์คุณจะไฟฟ้าชอ๊ตยังมีมากกว่าอันตรายที่เกิดจากการติดไฟของน้ำยาตัวนี้เลยครับ ที่บ้านผมก็เปลี่ยนมาใช้น้ำยาประหยัดไฟตัวนี้ครับ... อันนี้ก็มั่วสุดๆ ครับ ว่าโอกาสไฟชอร์ตจะมากกว่า รู้ได้ยังไง เคยมีงานวิจัยเรื่องนี้หรือครับ เรื่องประหยัดไฟฟ้าเมื่อใช้ R290 นั้นก็เป็นความจริงครับ ใครจะใช้เพราะเหตุผลเรื่องการประหยัดไฟก็เชิญ ส่วนใครจะไม่ใช้เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็เชิญอีกเช่นกัน จะใช้อะไรก็เลือกกันเอาเองครับ ที่พูดถึงน้ำยาทดแทนแต่อย่าให้ใครมาให้ข้อมูลมั่วๆ หรือข้อมูลด้านเดียว หรือข้อมูลที่มีอคติด้านใดด้านหนึ่งนะครับ จากคุณ : pa_ul - [ 26 ส.ค. 50 12:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ pa_ul ครับ คุณได้เข้าไปดู PROPANE หรือ LPG ได้ที่ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (http://msds.pcd.go.th/searchName.asp?vID=546) แล้วหรือยัง PROPANE สามารถเรียกในชื่ออื่นได้อีกเช่น Dimethyl methane ; Liquified petroleum gas ; Propyl hydride ; Lpg propane ถึงบอกว่า PROPANE ไม่ใช่ LPG มีน้ำหนักเบากว่าอากาศ PROPANE มีน้ำหนักมากกว่าอากาศเพราะมีมวลโมเลกุลเท่ากับ 44.1 และมีน้ำหนักกว่าอากาศเท่ากับ 1.6 เท่า ซึ่งในอากาศส่วนที่เราเอามาเปรียบเทียบคือ ก๊าซออ๊อกซิเจน มีมวลโมเลกุลเท่ากับ 32 เท่านั้น และก็บอกด้วยว่าใช้เป็นเชื้อเพลิงนะครับ แต่ไม่มีบอกว่านำไปใช้เป็นสารทำความเย็น สงสัยคุณ pa_ul จะเป็นพวกเดียวกันกับพวกที่จำหน่าย COLD22 COLD22 หรือ PROPANE หรือ LPG เมื่อใช้แทน R22 น้ำยาที่ใช้กันอยู่ในแอร์บ้าน จะทำให้คอมฯทำงานลดลงเนื่องจาก COLD22 จะมีน้ำหนักเบากว่า R22 2 เท่า จึงมีผลทำให้ค่ากระแสลดลงได้ จุดนี้เองที่ทำให้ผู้จำหน่ายเอามาเป็นจุดขาย แต่ก็รู้แก่ใจว่ามีอันตรายถ้าเกิดการรั่วเกิดขึ้น ผมมีเพื่อนที่เปลี่ยนมาใช้ COLD22 เหมือนกัน พอเค้าทราบข้อมูลก็รีบเปลี่ยนกลับไปใช้ R22 ตามเดิม เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยมากกว่าการประหยัดไฟซึ่งมันไม่คุ้มค่ากันเลย และผมก็ไม่ทราบว่าทางผู้ขายได้เคยส่งเรื่องที่จะขออนุญาติจำหน่าย COLD22 เพื่อใช้แทนสารทำความเย็น R22 ได้ กับหน่วยงานของรัฐที่ดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้ามีก็ควรที่จะแสดงเอกสารให้ดูด้วย จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 26 ส.ค. 50 17:42:38 A:125.26.66.227 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ""สงสัยคุณ pa_ul จะเป็นพวกเดียวกันกับพวกที่จำหน่าย COLD22"" อ้าว  อย่าแขวะกันสิ ไม่ดีไม่ดี  ยังไงก็เอาเหตุผลมาพูดกันน่ะดีแล้ว ไม่เห็นต้องไปแขวะเลย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 26 ส.ค. 50 19:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษครับคุณ ต้นโพธฺต้นไทร ก็ข้อมูลที่สามารถจะดูได้ก็ได้ให้ไปแล้ว ถ้าได้เข้าไปดูก็ไม่น่าจะมาพูดอย่างไม่มีข้อมูล เพราะข้อมูลที่ได้ให้เป็นความจริงทุกประการ ไม่ได้อคติกับผู้ที่จำหน่าย COLD22 แต่เป็นห่วงผู้ที่ได้เปลี่ยนไปใช้ COLD22 แต่ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นจริง ซึ่งถ้าบริษัทิที่ผลิตแอร์บ้านรู้ว่า COLD22 หรือ PROPANE ใช้ได้ดีกว่า R22 ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ เพราะราคา PROPANE ถูกมากเพียงกก.ละ 9-10 บาทเท่านั้น แต่ตัวที่จะมาแทน R22 คือ R410A ซึ่งจะเริ่มมีใช้กันบ้างแล้ว เช่น แอร์ PANASONIC ซึ่งก็เป็นสารที่ไม่ใช่สาร CFC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ราคาแพงกว่า R22 มาก จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 26 ส.ค. 50 19:30:15 A:125.26.66.227 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เหอะๆ... ใช้อะไรก็แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคนดีกว่า แต่ถ้าเกิดปัญหาหลังจากเปลี่ยนน้ำยาไปแล้ว อาจมีผลกับการรับประกันของทางบริษัทแอร์ก็เป็นได้ แล้วก็... ติดสติกเกอร์ หรือป้ายระบุ ว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนสารทำความเย็นเป็น COLD22 เผื่ออนาคต มีการซ่อมแอร์โดยช่างอีกชุดนึง อาจจะเกิดปัญหาก็เป็นได้ จากคุณ : jOnEz - [ 26 ส.ค. 50 19:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว่าจะมาอ่านกับศึกษาข้อมูลเท่านั้นนา เพราะว่าไม่ได้มาตรงทางนี้ แต่รู้ก็เพียงรู้ แต่ยังรู้ไม่มาก คุยด้วยก็ได้ เท่าที่ติดตามมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็ตามไปตามลิ้งที่ให้มา ผล ที่ให้ไปที่#๑๑๙,๑๒๐ ไม่เห็นมีส่วนไหนบอกว่าcold22กับโพรเพน คือตัวเดียวกัน เท่าที่เคยเรียนรู้มา LPGกับPropan เป็นคนละตัวกัน มีชื่อทางเคมี*ต่างกันนิดนึง เข้าต่อของcoolmanไม่ได้ ความคิดเห็นส่วนตัว อันที่จริง ในบ้านเราๆนั้น มีสิ่งที่เป็นอันตรายอยู่อีกมาก แกสที่อยู่ในครัว ก็มีปริมาณมากกว่าแกสในท่อน้ำยาแอร์หลายสิบเท่า ไฟฟ้าก็ฆ่าคนมาไม่รู้เท่าไหร่ หากรู้จักเอาข้อดีมาใช้ประโยชน์ได้ มีการป้องกันข้อเสียไว้ สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็จะนำประโยชน์มาให้ กับน้ำยาตัวนี้ หากมีการตรวจพิสูจน์อย่างเป็นทางการแล้ว ที่ไม่ใช่มาพูดในเวปไซด์ จะดีกว่านี้มาก กระทู้นี้ก็เริ่มต้นด้วยการโจมตี จึงเป็นธรรมดาของผู้ที่สัมผัสมาว่าผลการใช้งานไม่มีปัญหา  ต้องออกมาแสดงความเห็น แนะนำว่าควรจะไปร้องเรียนกับทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคตรงเลยครับ จะได้บุญกุศลต่อคนทั่วไปด้วย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 26 ส.ค. 50 22:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับผมถ้า cold22 ราคาถูกกว่านี้ก็จะเปลี่ยนครับ จากคุณ : monjangja - [ 26 ส.ค. 50 22:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแจมหน่อยครับ  บอกไว้ก่อนว่า  ผมไม่ได้ขาย cold 22 และไม่ได้เป็นช่างแอร์ นะ แต่ผมตัดสินใจจะใช้ COLD22 เลยหาข้อมูลมาเยอะ ผมได้เข้าร่วมทดสอบการเติมน้ำยา cold 22 มา โดยยืนเฝ้าคนเติมเลย   ที่สนใจตัวนี่เพราะสนใจที่มันช่วยประหยัดไฟแอร์ได้ และอยากรู้ว่ามันประหยัดจริงหรือเปล่า  เลยไป research net ได้ข้อมูลมาเพียบตาม link ข้างล่าง  ตามไปอ่านเองครับ  ผมแปลเป็นไทยแบบย่อๆให้ด้วย    ไม่ได้มาเชียร์ cold 22 แต่มาให้ข้อมูลตามจริง  เพื่อให้คนที่อ่านแล้วตัดสินใจเอง   มันเป็นน้ำยาทางเลือก เหมือนกับพลังงานทางเลือก ตามที่อ่านจาก web เมืองนอกมา การใช้ propane เป็นสารทำความเย็นมันจะช่วยประหยัดพลังงานแอร์ประมาณ 13-15%   แอร์ตัวที่ผมไปยืนดูเขาสาธิตนั้น เป็นแอร์ 13,000 BTU ก่อนเติม cold 22 กินกระแส 4.3 amp, หลังเติมน้ำยา cold 22 กินกระแส 3.6 amp   ประหยัดไฟไป = 0.7 amp คิดเป็น 0.7/4.3 x 100 = 16.27%  อันนี้เห็นชัดเลยว่ากินไฟน้อยลงทันที COLD22 มีส่วนผสมของ propane เป็นหลัก 99% เลยล่ะ ติดไฟแน่นอน  มันเป็น propane ตัวเดียวกับที่อยู่ในก๊าซหุงต้ม ตามบ้านนั่นแหละ  COLD22 หนักกว่าอากาศ ถ้ารั่วจะลอยตัวอยู่ต่ำๆ  และสามารถโดนลมพัดพาให้กระจายออกไปจนหมดได้ บทความตามคห 6 ที่พูดเรื่องการติดไฟของน้ำยา COLD 22นั้นผมก็เป็นคนเขียนเอง รายงานผลที่ได้ไปเห็นมากับตา  โดยเจ้าหน้าที่บริษัท coolman เขาลองดูดบุหรี่จนแดงวาบ คาบไว้ที่ปาก แล้วพ่นน้ำยาแบบเฉียดๆปลายบุหรี่ให้ดู ซึ่งมันก็ไม่ติดไฟ   ขนาดน้ำยาที่เป็นน้ำๆเอาบุหรี่จุ่มลงไปบุหรี่ยังดับเลย กับอีกแบบคือจุดไฟแช็คแล้วพ่นน้ำยาใส่ตรงๆ อย่างนี้ติดไฟแน่นอนครับ เพราะมีเปลวไฟ การที่ propane จะติดไฟนั้นที่สำคัญคือ ความเข้มข้นของมันในอากาศต้องอยู่ในระดับที่สูงพอ ซึ่งผมจำไม่ได้ว่ากี่ %  แล้วจะต้องมีประกายไฟด้วย   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันปลอดภัยอยู่ในระดับที่รับได้สำหรับการใช้งานตามเครื่องทำความเย็นในบ้านคือ มันใช้ปริมาณน้อยมาก แอร์ 12,000 btu ถ้าใช้ R22 จะใช้ประมาณ 1,200-1,300 กรัม  แต่จะใช้ COLD 22 แค่ 500-600 กรัมเท่านั้น    ต่อให้มันรั่วออกมาจริงปริมาณที่รั่วก็ต่ำ จนการติดไฟที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายได้น้อยมาก  ยิ่งถ้าพูดถึงแอร์บ้านแล้ว  อย่าลืมว่า fan coil หรือคอล์ยร้อนนั้นติดกันนอกบ้าน ในที่ๆอากาศถ่ายเทได้ดี แอร์จะได้ระบายความร้อนออกได้เร็ว    แล้วเวลาน้ำยามันรั่วน่ะ มันรั่วช้าๆแบบซึมออกทางตามด หรือทางข้อต่อที่ขันไม่แน่น  ความเข้มข้นของแกสที่ออกมาต่ำมาก โอกาสติดไฟเกือบเป็น 0 ที่สำคัญกว่านั้นคือตำแหน่งที่จะเกิดประกายไฟได้ในคอล์ยร้อน คือบริเวณหน้าคอนแทค ที่ตัดต่อไฟเข้า fan coil คอนแทคตัวนี้จะอยู่ค่อนข้างสูงคือประมาณ 18-20 นิ้วจากด้านล่างของ fan coil  แต่เวลา COLD22 มันรั่ว มันหนักกว่าอากาศ มันจะลอยลงต่ำติดด้านล่างของ fan coil มันจึงไม่มีทางโดนประกายไฟ  แถมโอกาสที่ cold 22 จะรั่วจนสะสมตัวจนสูงถึงระดับ 18 นิ้วก็ต่ำมากอีก  เพราะมันรั่วน้อยออกมาเท่าไรก็กระจายตัวออกไปโดยลมที่พัดอยู่รอบ fan coil แล้ว   อีกตำแหน่งที่อาจเกิดประกายไฟคือที่หัวคอมเพรสเซอร์ ที่ต่อสายไฟเข้า ซึ่งมันก็สูงจากด้านล่างของ fan coil ประมาณ 10-12 นิ้ว  ซึ่งโอกาสที่แกสจะรั่วสะสมถึงความสูง 10 นิ้วก็แทบจะเป็น 0 อีก แล้วโดยทั่วไปสายที่ต่อเข้าหัวคอมเพรสเซอร์นั้น จะเชื่อมต่ออย่างแน่นหนา ไม่มีประกายไฟเกิดขึ้น เรื่องที่คุณบอกว่าถ้าน้ำยารั่วตรง fan coil หรือคอล์ยร้อน แล้วมันจะติดไฟนั้นเป็นไปได้ แต่โอกาสน้อยมากๆๆๆๆ และเท่าที่ร้านแอร์ที่เขาโฆษณาอยู่ใน pantown นั้นเขาก็เติมให้ลูกค้าไปเยอะ ยังไม่มีใครบ่นสักราย เรื่องน้ำยาแอร์รั่วใน fan coil นั้นอาการรั่วส่วนใหญ่จะรั่วเป็นตามด  ซึมออกมาช้ามากๆๆ ปริมาณแกสที่ออกมาน้อย  กว่าจะรั่วหมดก็ใช้เวลาหลายวัน หรือเป็นอาทิตย์เลยกว่าจะถึงจุดที่น้ำยามันพร่องไปมากจนผู้ใช้บ่นว่าแอร์ไม่เย็น   แล้วแอร์ที่จะเป็นตามดน่ะมันต้องนานๆเกิน 8-9ปีขึ้นไป  ผมใช้มาตั้ง 12 ปีน้ำยายังไม่เคยเติมเลย แอร์ก็ยังเย็นดี  ดังนั้นตามดก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ  ถ้าน้ำยารั่วมาจากตามด มันจะออกมาน้อยมาก  ส่วนใหญ่จะโดนลมพัดออกไปหมด ความเข้มข้นของที่เหลือยากที่จะถึงจุดติดไฟ    แต่แน่นอนผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ติดไฟ แต่โอกาสมันน้อยมาก ส่วนราคาแพงนั้นแก๊สเติมรถน่ะมี propane แค่ 70% มั้ง   COLD22 น่ะมันมี propane 99%++ เชียว กระบวนการทำให้แก๊สบริสุทธิ์มันก็มีราคาของมัน แกส lpg ประเทศไทยทั้งประเทศใช้กันเดือนละกว่า 60 ล้านกิโล กว่าขนาดไหนก็ไม่รู้  คุณว่าประเทศไทยใช้  COLD22 เดือนละ 60 ล้านกิโลไหม   ของที่เขาขายน้อย กำไรต่อหน่วยมันควรจะสูงกว่าใช่ไหม แล้วราคา COLD22 ที่คุณว่าแพงน่ะ เขาขายเป็นถัง ราคารวมถังบรรจุมาด้วยอีก  ราคา LPG ที่เราว่ากันน่ะไม่รวมถังนะ   ถังบรรจุน้ำยาเปล่าๆ ร้านแอร์ขายกันที่ 300-700 บาทนะ อย่าลืมคิดค่าถัง คราวนี้มาเปรียบเทียบเรื่องที่ร้านเติมน้ำยาแอร์ cold 22 คิดเครื่องละ 2,000 บาทนั้น คุณคงรู้ดีว่าร้านแอร์ทั่วไปที่มาเติมน้ำยาแอร์ R22 โดยวิธีถ่ายของเก่าออกจนหมดแล้ว ทำสูญญากาศระบบอีก 25-30 นาที ก่อนจะปล่อยน้ำยาแอร์ R22 เข้าไปจนเต็มระบบน่ะ  ส่วนใหญ่เขาคิดราคากันที่ 1,000 - 1,500 บาท แล้วแต่ว่าจะเอากำไรมากน้อย  ทั้งๆที่น้ำยาแอร์ R22 น่ะ ขายปลีกกันที่กิโลละ 55-65 บาทเท่านั้น  เติมแอร์ 12,000 BTU ใช้ R22 ประมาณ 1.3 กิโล คิดเป็นตุ้นทุนค่าน้ำยา 1.3 x 65 = 84.5 บาท  เท่านั้น แต่ไปเก็บลูกค้า พันกว่าบาทน่ะ คุณว่ามันยุติธรรมกับผู้บริโภคแล้วหรือ   น้ำยาแอร์ R22 อย่างดีของ Dupont กิโลละ 150 บาทก็มี แต่จะมีช่างแอร์กี่คนที่ใช้ของแพงระดับนั้น   แต่มีช่างบางคนใช้จริงๆครับ เคยคุยด้วยมาแล้ว  เขาเน้นผลงาน ไม่แข่งราคา นี่ยังไม่นับช่างแอร์ขูดรีดบางรายที่คิดค่าเติมน้ำยาเป็น ปอนด์ (หน่วยวัดความดันน้ำยาแอร์ในระบบมีหน่วยเป็นปอรด์ต่อตารางนิ้ว) ,คิดราคา ปอน์ดละ 15-25 บาท เติม 20 ปอด์น ก็ 20 x 15 = 300 บาท ทั้งๆที่ใช้น้ำยาไปสัก 2 -3 ขีด คิดเป็นต้นทุนน้ำยา 0.3 x 65 = 19.5 บาท เท่านั้น   ผมเข้าใจว่าช่างแอร์เขาก็ต้องหาเลี้ยงชีพ แต่อย่าบวกราคาลูกค้าที่ไม่รู้เรื่องมากจนเกินไป   ร้านแอร์ที่ดีๆมีเยอะ แต่ดูเหมือนร้านแอร์ที่ฟันราคาก็เยอะเหมือนกัน   ที่ผมมาอธิบายโดยละเอียดนี้เพราะโดนช่างแอร์ฟันหัวแบะมาเยอะ ด้วยความคับแค้น และอยากหาความรู้  เลยหาข้อมูลมาเพียบ จนเดี๋ยวนี้ก็ซ่อมแอร์แบบง่ายๆได้เองแล้ว รู้หมดว่าต้นทุนช่างน่ะอยู่ที่เท่าไร เขากำไรเท่าไร  ทำงานก็ต้องมีกำไร แต่ต้องยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายครับ กลับมาเรื่องราคา ถ้าคิดว่าร้านแอร์ทำการถ่ายน้ำยาR22 ออก, ทำสูญญากาศ แล้วเติมน้ำยา R22 ใหม่ที่ราคา 1,000 บาท  แต่ร้านที่บริการ COLD 22 คิดที่ 2,000 บาท  ก็เท่ากับว่า ร้านที่ให้บริการ COLD22 คิดราคาแพงกว่ากัน แค่ 1,000 บาทเท่านั้น  แต่ด้วยการประหยัดไฟ 13-20% จะทำให้คุณคืนทุนส่วนเกิน 1,000 นี้ค่าน้ำยาในเวลาไม่เกิน 1ปี ยิ่งคุณใช้แอร์มาก ยิ่งคืนทุนเร็ว ในขณะที่ถ้าคุณเติม น้ำยา R22 ที่ไม่ติดไฟก็จ่ายค่าไฟราคาเต็มไป ของทุกๆอย่างมีข้อดี และข้อเสียครับ  ผู้บริโภคต้องรับรู้ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่ายแล้วประเมินความเสี่ยง  ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ  สำหรับตัวผม ซึ่งประเมินความเสี่ยงแล้วต่ำ  ผมจึงเลือกใช้ COLD22 ผมคำนวนแล้วว่าถ้าใช้ COLD 22 ผมจะคืนทุนจากค่าไฟที่ประหยัดไปได้ในเวลาประมาณ 6 เดือน ที่สำคัญผมไม่ต้องให้ช่างทำให้ ทำเองได้ ต้นทุนเลยถูกลง ตัวอย่างอื่นเช่น  จะใช้น้ำมัน หรือ LPG, NGV ดี  ก็มีคนจำนวนมากเลือก NGV,LPG ใช่ไหม  เพราะอะไร ก็เพราะมันถูกกว่าเกินครึ่ง  ความเสี่ยงก็ไม่ได้มากมายอย่างที่หลายคนกลัว   คนก็ไปติดกันเยอะ  คนที่คิดว่าเสี่ยงมากก็ไม่ติด  เพราะมันเป็นพลังงานทางเลือก  นั่นขนาดค่าติด NGV 50,000 , LPG อย่างถูกก็ 10,000 กว่าๆแล้ว จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 26 ส.ค. 50 23:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อะไรก็ได้ หาข้อมูลให้ถี่ถ้วนแล้ว อย่าอ่านแค่เพียง โฆษณาหรือเขาว่า จากคุณ : rawi - [ 27 ส.ค. 50 00:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณต้นโพธิ์ต้นไทร ในเว็บศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (http://msds.pcd.go.th/searchName.asp?vID=546) ไม่ได้บอกว่า COLD22 กับ PROPANE เป็นตัวเดียวกันแน่ครับ เพราะ COLD22 เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเองของทาง Coolman แต่ที่ผมให้ดูคือ PROPANE คือ LPG หรือ แก๊สหุงต้มที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี่เองครับ ถ้าต้องการรู้ว่า COLD22 คือ PROPANE คุณก็ต้องเข้าไปในเว็บไซด์ของ Coolman (www.coolmangroup.com)ครับ และไป download MSDS ซึ่งก็ได้ลองเข้าไปแล้วก็เข้าได้นี่ครับ แล้วที่เรียนรู้มาว่า LPG กับ PROPANE เป็นคนละตัวกัน มีแหล่งที่มามั้ยครับ ผมจะได้เข้าไปดูว่าต่างจากที่เว็บศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ให้มาหรือเปล่า ส่วนข้อดีของ COLD22 นั้นก็รู้กันอยู่ว่าช่วยประหนัดไฟตั้ง 20-30 % และก็ไม่มีสาร CFC ด้วย แต่จะมีวิธีการป้องกันอย่างไรการเกิดการรั่วเกิดขึ้นซึ่งก็มีความเป็นไปได้ เพราะที่บ้านผมก็เคยพบว่าน้ำยา R22 เกิดรั่วที่แผงของ Fan Coil ทั้งๆที่เป็นแอร์ที่มีชื่อใช้มาแค่ 1 ปีเท่านั้น แล้วถ้า COLD22 ที่ใช้อยู่เกิดรั่วในกรณีเดียวกันล่ะครับ คุณต้นโพธิ์ต้นไทรคิดว่าจะปลอดภัยมั้ยครับ เมื่อเปรียบเทียบกับ R22 ที่ไม่ติดไฟ เพราะอย่างแก๊สหุงต้มซึ่งมี PROPANE เป็นส่วนประกอบหลัก ในการจุดไฟให้ติดเราก็ใช้ปืนที่มีลักษณะของการจุดเหมือนการจุดไฟแช๊ค หรือมีเพียงประกายไฟเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้ติดไฟได้แล้ว ความเห็นส่วนตัว ถ้าต้องการที่ถูกกว่า COLD22 ผมว่าก็น่าจะใช้ก๊าซหุงต้มแทนได้นะครับ เพราะถึงแม้ใช้ COLD22 ทางร้านแอร์ที่มาเปลี่ยนให้ก็คงไม่รับผิดชอบอยู่ถ้าเกิดอะไรก็แล้วแต่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ต้องถือว่าผู้ใช้เต็มใจเปลี่ยนเองไม่ได้ถูกบังคับ จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 27 ส.ค. 50 00:49:50 A:125.26.64.123 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นแอร์ใหม่เปลี่ยนมาใช้ COLD22 ประกันจะขาดหรือเปล่า? จากคุณ : rawi - [ 27 ส.ค. 50 01:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แอร์ใหม่เปลี่ยนใช้ cold ประกันน่าจะขาดครับ  แต่ทางบริษัทที่ขายน้ำยา cold เขารับประกันแทน  ถามร้านที่ให้บริการให้มั่นใจก่อน  เป็นผม ผมก็กลัวประกันขาดเหมือนกัน คห 19 LPG กับ propane มันคนะตัวกันแน่ๆ   LPG มี propane ไม่ถึง 90% หรอก  แต่ถ้าใช้คำว่า propane มันควรจะมี %propane สูงกว่า  LPG ผมว่าในทางเคมี มันต้องเกิน 99% เลยดวยซ้ำ  ถ้าคุณเจ้าหน้าที่ต้องการย้ำว่า COLD เป็น propane และติดไฟล่ะก็ ไม่ต้องไป research ให้เมื่อย ผมยืนยันครับว่า COLD น่ะมันมี propane เป็นส่วนประกอปกว่า 99%เพราะดูมาจากถังบรรจุเลย ที่เว็บเขาก็มี และติดไฟแน่นอน คห 19 ผมอธิบายเรื่องการรั่วของ COLD และการติดไฟมาตั้งยาวแล้ว  ลองอ่านดูอีกทีครับ  แอร์อย่าว่าแต่ 1 ปีเลย แค่อายุ 1 วันถ้าช่างขันข้อต่อเกลียวไม่แน่น น้ำยามันก็ซึมออกแล้วและทำให้เราต้องเสียตังเติมน้ำยาใหม่  ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อแอร์ ดังนั้นต้องดูสาเหตุการรั่วด้วย ก่อนจะโทษว่าแอร์ไม่ดี  ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งแอร์ใหม่แล้วไม่เย็น หรือรั่ว เกิดจากช่างติดตั้งไม่ดี พอช่างแอร์จากผู้ผลิตมาดูก็พบข้อบกพร่องในการติดตั้งหลายอย่าง       คุณเจ้าหน้าที่บอกมาสิครับว่า ที่แอร์บ้านคุณรั่วน่ะ มันพ่นน้ำยาออกมาทั้งหมดใน 1 นาที หรือมันซึมออกมาหลายๆวันค่อยๆลดความเย็นลงอย่างช้าๆ จนกว่าที่คุณจะรู้ตัว แอร์ก็พ่นลมร้อนแล้ว ก๊าซหุงต้ม ไม่ควรใช้เป็นสารทำความเย็นเพราะ มันไม่บริสุทธิ์ มีสารพัดแก๊สปนอยู่  ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง  ยังมีความชื้นปนอยู่ด้วย แอร์เกลียดความชื้นที่สุด จะไปทำให้ระบบอุดตัน lpg เอามาจุดไฟได้  แต่ไม่เหมาะจะใช้เป็นสารทำความเย็น เพราะยังไม่ได้รับการทดสอบ และไม่มีใครกล้ารับประกันสักคน แอร์ที่เปลี่ยนมาใช้ COLD แล้ว ควรจะติดสติ๊กเกอร์ที่ตัวคอล์ยร้อน ว่าเป็นน้ำยาติดไฟ ช่างคนอื่นที่มาทำจะได้รู้ ผมเห็นร้านที่ขายน้ำยาเขาให้สติ๊กเกอร์มาด้วย  เหลือแต่ว่าช่างที่ทำเขาจะติดให้หรือเปล่า จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 27 ส.ค. 50 07:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แถสุดฤทธิ์ จากคุณ : monjangja - [ 27 ส.ค. 50 10:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไปหาข้อมูล LPG มาให้เพิ่มเติม จาก wikipedia น่าจะช่วยให้ข้อมูลสมบูรณ์ขึ้น  อ่านเต็มๆที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Liquified_petroleum_gas มันจะบอกส่วนประกอปของ LPG ในต่างประเทศให้ copy บางส่วนมาให้อ่านด้วย Liquefied petroleum gas (also called LPG, LP Gas, or autogas) is a mixture of hydrocarbon gases used as a fuel in heating appliances and vehicles, and increasingly replacing chlorofluorocarbons as an aerosol propellant and a refrigerant to reduce damage to the ozone layer. Varieties of LPG bought and sold include mixes that are primarily propane, mixes that are primarily butane, and the more common, mixes including both propane (60%) and butane (40%), depending on the season—in winter more propane, in summer more butane. Propylene and butylenes are usually also present in small concentration. A powerful odorant, ethanethiol, is added so that leaks can be detected easily Refrigeration and air conditioning --------------------------------------- In highly purified form, various blends of the LPG constituents propane and iso-butane are used to make hydrocarbon refrigerants, which are increasingly being used in refrigeration and air conditioning systems including domestic refrigerators, building air conditioners and vehicle air conditioning. This is partly because of concerns about the greenhouse effect of the widely used HFC 134a. Hydrocarbons are more energy efficient, run at the same or lower pressure and are generally cheaper than HFC 134a. ตามข้อมูลข้างต้น การนำ propane กับ iso butane มาทำเป็นสารทำความเย็นในแอร์ หรือตู้เย็น มันต้องอยู่ในสถานะที่ highly purified form หรือมีความบริสุทธิ์มาก  แก๊สหุงต้มยังไม่บริสุทธิ์ในระดับนั้น จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 27 ส.ค. 50 11:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาตาม(หาความรู้) เข้ามาเก็บ(เข้าคลังฯ) เข้ามาบุค(มาร์ค) แต่ไม่เซฟ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 27 ส.ค. 50 11:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แถม link ให้อีก อ่านให้เพลิน  ผมหาข้อมูลมาเยอะก่อนตัดสินใจครับ แอร์ตัวละหลายหมื่น ขืนใช้น้ำยา cold แล้วแอร์พัง หรือแอร์ติดไฟผมก็คงไม่เอา https://hq-web-s19.pttplc.com/cscind_internet/Information/Information.aspx?INFO=7   ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ( LPG ) หรือ “ก๊าซหุงต้ม” เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีองค์ประกอบของ ก๊าซโพรเพน ( Propane ) เป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศ โดยตัว LPG เองไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเช่นเดียวกับก๊าซธรรมชาติ แต่เนื่องจากเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศจึงมีการสะสมและลุกไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงมีข้อกำหนดให้เติมสารมีกลิ่น เพื่อเป็นการเตือนภัยหากเกิดการรั่วไหล LPG ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนและกิจการอุตสาหกรรม โดยบรรจุเป็นของเหลวใส่ถังที่ทนความดันเพื่อให้ขนถ่ายง่าย นอกจากนี้ยังนิยมใช้แทนน้ำมันเบนซินในรถยนต์ เนื่องจากราคาถูกกว่า และมีค่าออกเทนสูงถึง 105 RON LPG เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน หรือการแยกก๊าซธรรมชาติในโรงแยกก๊าซ มีสถานะเป็นของเหลว ต้องทำให้เป็นก๊าซก่อนนำไปใช้งาน ส่วน NGV มีสถานะเป็นก๊าซเพียงผ่านความดันก็นำไปใช้ได้เลย สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.eppo.go.th/ngv/ngv_lpg.html จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 27 ส.ค. 50 11:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอามาจาก link นี้ http://www.modernbug.com/forum/index.php?topic=7911.msg74644 แก๊สธรรมชาติ จะพบในชั้นหินที่มีรูพรุนใต้พื้นผิวโลก มักจะพบอยู่บนผิวหน้าของน้ำมันดิบ แก๊สหุงต้มหรือแก๊สปิโตรเลียมเหลว(Liqueified Petroleum Gas : LPG) เกิดขึ้นได้  2  วิธี 1.ผลิตจากกระบวนการกลั่นน้ำมันในโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ 2.ผลิตจากกระบวนการแยกแก๊สของแก๊สธรรมชาติ แก๊สหุงต้ม (LPG) ประกอบด้วยแก๊สโปรเพน(Propane) และแก๊สบิวเทน (Butane) เป็นส่วนประกอบหลัก และจะบรรจุในสภาพเป็นของเหลวโดยการอัดให้มีความดัน ประมาณ100 - 130 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แก๊สธรรมชาติ   ประกอบด้วย แก๊สมีเทน (Metane) เป็นส่วนใหญ่ และมีแก๊สโปรเพน  บิวเทน  และอีเทนผสมอยู่บ้างเล็กน้อย คุณสมบัติพื้นฐานของแก๊สที่ควรรู้ 1. ค่าความร้อน(Heating Value) หมายถึงปริมาณความร้อนที่เชื้อเพลิงที่มีมวลหนึ่งหน่วย และมีอุณหภูมิ 25 องศา เซลเซียส คายออกมาจากการทำปฏิกริยากับออกซิเจน และแก๊สไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ถูกทำให้กลับมามีอุณหภูมิ 25 องศา เซลเซียส ดังเดิม 2.ค่าความถ่วงจำเพาะ(Specific Gravity) แก๊สที่มีค่าความถ่วงจำเพาะมากกว่า 1.0 เป็นแก๊สที่มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ  ซึ่งเมื่อรั่วไหลออกสู่บรรยากาศในปริมาณมาก  จะไหลลงไปที่พื้นและจะลอยอยู่เรี่ยๆกับพื้น  และมันจะค่อยๆกระจัดกระจายออกไปสู่บรรยากาศ อย่างช้าๆ  แก๊สโปรเพนและแก๊สบิวเทน ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของแก๊สหุงต้ม  มีค่าความหนาแน่นสูงกว่าอากาศ ประมาณสองเท่า  ดังนั้นถ้าแก๊สหุงต้มรั่วออกสู่บรรยากาศในปริมาณมาก มันจะไหลลงสู่พื้นและจะค่อยๆกระจายออกสู่บรรยากาศ  ส่วนแก๊สธรรมชาติ มีค่าความถ่วงจำเพาะต่ำกว่าอากาศ  เมื่อรั่วออกมาจะลอยขึ้นสู่อากาศ  จึงมีการกระจัดกระจายได้เร็วกว่าแก๊สหุงต้ม 3.ความดันไอ(Vapour Pressure) คือ ความดัน ณ จุดที่ของเหลวได้รับความร้อนกลายเป็นไอจนกระทั่งเกิดการเดือด เช่น ความดันไอของน้ำที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส มีค่าเท่ากับความดันบรรยากาศ  หรือจุดเดือดของน้ำที่ความดันบรรยากาศ มีค่าเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส   แก๊สบิวเทนมีค่าความดันไอที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส เท่ากับ  55  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และแก๊สโปรเพนมีค่าความดันไอ เท่ากับ 177 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว   แก๊สมีเทนซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของแก๊สธรรมชาติ  จะมีค่าความดันไอที่สูงกว่าแก๊สโปรเพนในแก๊สหุงต้ม ประมาณ  40  เท่า  ดังนั้นการนำแก๊สธรรมชาติ มาใช้งานจึงไม่เหมาะที่จะบรรจุถังเป็นของเหลว  เว้นแต่จะทำให้แก๊สเย็นตัวลง จนถึงอุณหภูมิ ( -160 )องศาเซลเซียส  จึงจะได้แก๊สมีเทนในสภาพของเหลวที่ความดันบรรยากาศ  แต่เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำมาก ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ 4.ย่านที่สามารถติดไฟได้(Flammability)  เมื่อแก๊สใดๆ ผสมกับอากาศในปริมาณที่พอเหมาะ และได้รับพลังงานจากภายนอก เช่น ความร้อน  เปลวไฟ หรือการจุดระเบิด ก็จะทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้  ย่านที่ติดไฟได้จึงหมายความว่า ย่านที่มีปริมาณเชื้อเพลิงที่เหมาะสมที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้ได้รวดเร็ว  ถ้าเชื้อเพลิงมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าย่านนี้ก็จะไม่สามารถเกิดการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว    แก๊สทั้งสามชนิดที่เป็นส่วนผสมของแก๊สธรรมชาติและแก๊สหุงต้ม  มีย่านที่ติดไฟได้ค่อนข้างแคบมาก  ซึ่งหมายความว่า  ถ้าแก๊สธรรมชาติหรือแก๊สหุงต้มรั่วออกมา  จะมีโอกาสติดไฟได้น้อยมาก 5.จุดติดไฟอัตโนมัติ(Autoignition  Temperature) การที่เชื้อเพลิงจะเกิดการติดไฟหรือเผาไหม้ได้ จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ เชื้อเพลิง  อากาศและพลังงาน(ความร้อนหรือเปลวไฟ) แต่เมื่อเชื้อเพลิงผสมกับอากาศและมีอุณหภูมิสูงเพียงพอ ก็จะสามารถเผาไหม้ได้เองโดยไม่ต้องมีประกายไฟ  อุณหภูมินี้ เรียกว่า จุดติดไฟอัตโนมัติ    จุดติดไฟอัตโนมัติของแก๊สมีเทน คือ 537  แก๊ส โปรเพนคือ 470 แก๊สบิวเทนคือ 365 องศาเซลเซียส จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 27 ส.ค. 50 11:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอามาจาก link นี้ http://www.doeb.go.th/webboard/UserAnswer.asp?QuestionNo=43 ก๊าซหุงต้มหรือก๊าซ LPG ที่ได้จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ (โรงแยกก๊าซปตท.)จะมีอัตราส่วนของโพรเพน : บิวเทน ประมาณ 60:40 ส่วนก๊าซ LPG ที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ (โรงกลั่น) จะมีอัตราส่วนของโพรเพน : บิวเทน ประมาณ 20:80 รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้จาก http://pttinternet.pttplc.com/lpg/lpg_19sep/frame.htm ผู้เขียน : สำนักคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง   ที่ผมเขียนมาตั้งเยอะ หามาสารพัด link เพื่อจะบอกว่า LPG ไม่ใช่ propane แต่ lpg มี propane 60% และ butane 40% เป็นส่วนประกอป     ใช้เป็นเชื่อเพลิง ส่วน propane ที่ใช้เป็นสารทำความเย็นนั้นบริสุทธิ์ระดับ 99.x % และมี iso butane ปนอยู่นิดหน่อย  แต่ไม่มี butane ปน  ดังนั้นสารทำความเย็นตระกูล COLD จึงไม่ใช่ก๊าซ lpg ที่เราใช้กันตามบ้าน  ส่วนผสมต่างกัน ความบริสุทธิ์ต่างกัน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 27 ส.ค. 50 12:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กระจ่างแจ้งครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 27 ส.ค. 50 14:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าบังคับใช้ ก็จะใช้.. จากคุณ : เก่ง - [ 27 ส.ค. 50 21:20:25 A:125.25.85.171 X: TicketID:059889 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้า COLD22 คือ PROPANE ที่มีความบริสุทธ์ 99% จริง (ตามที่ข้างถังระบุ) แต่ที่จริงจะเท่าไรกันแน่ และการจะทำให้ได้ PROPANE ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99 % ทางผู้จำหน่ายจะต้องมีเครื่องมือที่จะต้องแยกตัวอื่นๆออกไปเพื่อให้เหลือเฉพาะ PROPANE อยากรู้จังครับว่าใช้เครื่องมืออะไรแยกหรือใช้วิธีการใดในการแยกครับ เพราะตั้งแต่ผมเรียนทางด้านเคมีมาและก็จบมาทางด้านเคมีอินทรีย์ ยังไม่เคยเห็นใครสามารถที่จะสามารถแยกก๊าซให้ได้ความบริสุทธิ์ถึง 99% แต่ใน MSDS ของ COLD22 ระบุว่ามี PROPANE 90% และ ETHANE 10% ตกลงว่าชัวร์หรือมั่วนิ่มครับ และอย่างไรก็ตาม PROPANE ก็เป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศ 1.6 เท่า และก็ติดไฟได้อย่างแน่นอน มันจะมีความปลอดภัยกว่า R22 ได้อย่างไร ส่วนเรื่องแอร์ที่รั่วนั้นบริเวณที่รั่วคือ Fan Coil ที่อยู่ในชุดคอล์ยเย็นนะครับ ที่อยู่ในห้องนอนไม่ใช่คอล์ยร้อน และก็รั่วหมดในวันเดียวผมจึงได้แจ้งให้บริษัทิแอร์มาดู เค้าก็เลยบอกว่านานๆจะพบสักตัว น่าจะมีความบกพร่องมาจากการประกอบจากโรงงาน ถ้าว่าถ้านำยาที่อยู่เป็น COLD22 ล่ะครับ PROPANE ที่รั่วก็จะลอยอยู่ที่พื้นห้อง แล้วที่เติมเข้าไป 0.5 กก.(ในสภาพที่เป็นของเหลว) ถ้าอยู่ในสภาพก๊าซจะมีปริมาตรสักเท่าไรคุณคนปากช่อง ในเมื่อ PROPANE มีค่า 177 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว คุณยังคิดว่าปลอดภัยอยู่มั้ยครับ ถ้ามีประกายไฟก็คงถูกย่างสดไปแล้ว แต่ R22 ไม่ติดไฟและก็มีมวลโมเลกุลมากกว่า PROPANE มากกว่า 3 เท่า ถึงแม้จะรั่วออกหมดก็ไม่มีอันตราย โชดดีที่ไม่ได้ใช้ COLD22 ถ้าใช้ก็อาจจะไม่ได้มาโพสแล้วก็ได้ จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 27 ส.ค. 50 23:30:36 A:125.26.65.148 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมมีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ PROPANE เหลวที่เติมลงในระบบแอร์ที่มีน้ำหนัก 0.5 กก.นั้น ที่อุณหภูมิ 15 องศาC จะมีปริมาตรเป็น 274 เท่าของที่เป็นของเหลวนะครับ ดังนั้นถ้าสมมุติให้ PROPANE เหลว 0.5 กก. มีปริมาตร 0.5 ลิตร ซึ่งจริงๆจะน่าจะมากกว่านี้ เมื่อที่อุณหภูมิ 15 องศา C ก็จะมีปริมาตรเท่ากับ 0.5x274 = 137 ลิตร แต่อุณหภูมิห้องที่ติดแอร์จะอยู่ที่ 23-25 องศา C ปริมาตรของก๊าซ PROPANE ก็จะยิ่งมากกว่า 137 ลิตร ดังนั้นอย่าเข้าใจว่า PROPANE ในระบบมีแค่ 0.5 กก. นั่นมันอยู่ในสภาวะที่เป็นของเหลวไม่ใช่ของจริงครับ เพราะของจริงที่จะออกเมื่อมีการรั่วคือก๊าซครับ เพื่อนๆสามารถดูรายละเอียดของ PROPANE ได้ตามลิ้งค์นี้ครับ http://www.doeb.go.th/knowledge/knowledge_article_Natural2.html ซ) อัตราส่วนปริมาตรของเหลว/ก๊าซ (Liquid/Vapor Volume Ratio) แอลพีจีเหลวเมื่อระเหยและเปลี่ยนสถานะไปเป็นก๊าซ ปริมาตรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส (60 oF) โปรเปนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 274 หน่วย ส่วนบิวเทนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 233 หน่วย จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 28 ส.ค. 50 01:12:40 A:125.26.65.148 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โฮ โฮ โฮ คุณเจ้าหน้าที่จบเคมีอินทรีย์ ดีครับ  เคมีผมอ่อนมาก จะได้ช่วยผมหาข้อมูลเพิ่ม     ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ขาย cold แต่ถามคนขายมาเยอะก่อนจะซื้อ จึงพอมีความรู้บ้าง  เรื่องส่วนประกอปของ COLD ว่ามี propane กี่ % ผมดูที่ข้างถังและเชื่อตามนั้น ไม่ค้นต่อ เสียเวลา เพราะผมเชื่อ 100% ว่ามันติดไฟ น้ำยาตัวนี้นำเข้าจากทางยุโรป(ถามคนขาย) เขาไม่ได้ผลิต propane หรือ isobutane แต่เขาเป็นคนกำหนดสูตรน้ำยาว่าจะผสมด้วยอัตราส่วนเท่าไร  ดังนั้นคนผลิตจริงๆอยู่เมืองนอก เขาใช้วิธีอะไรในการทำให้บริสุทธ์ผมไม่รู้   สารตั้งต้นก่อนผสมเป็น COLD มันจะบริสุทธิ์แค่ไหนผมไม่รู้ เพราะไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ ผมสนแต่ว่าเขา test มาแล้วกับแอร์ และมันใช้ได้กับแอร์ ได้รับการรับรองว่าใช้ได้แอร์ไม่พังแน่  จุดนี้ผมพอใจแล้วและไม่ค้นต่อ   หลายๆประเทศทั่วโลกก็ยอมรับและใช้งานโดยยอมรับว่ามันมีความปลอดภัยสำหรับระดับการใช้งานตามบ้าน เพราะปริมาณที่ใช้ถือว่าน้อยมาก จุดเด่นน้ำยาตระกูล cold ที่ทุก research ยอมรับคือมันช่วยประหยัดไฟประมาณ 13-17% นี่เป็นค่าจาก lab แต่จากคนที่ไปเปลี่ยนน้ำยามาเล่าให้ฟังว่าแอร์บางตัวเปลี่ยนน้ำยา cold แล้วกินกระแสไฟลดลงถึง 30% และทำให้เสียงคอมเพรสเซอร์เงียบลงเยอะ  เพราะน้ำยามันบีบอัดให้เป็นของเหลวง่าย ไม่กินแรงคอมแอร์ จุดเด่นอีกข้อคือมันมาจากธรรมชาติเป็น by product ของการผลิตน้ำมัน มันไม่ทำให้เกิด greenhouse effect จุดเสียข้อเดียวเท่านั้นที่หาเจอคือติดไฟ ซึ่งผมพูดมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ตอนแรกๆ และผมไม่เคยสักครั้งที่จะพูดว่า COLD ปลอดภัยกว่า R22 ตรงนี้ชัดแล้วนะครับ  clear กันไปทีละจุด  ผมไม่เข้าข้าง cold22 และ R22 ว่ากันไปตาม fact คราวนี้เรื่องแอร์รั่ว  ตกลงเป็นที่ตัวแอร์เอง รั่วหมดภายใน 1 วัน   ผมตีซะว่า 12 ชม ก็แล้วกัน รั่วที่คอล์ยเย็นในห้องนอน       เติมน้ำยา 0.5 กิโล   ขนาดห้องผมตีซะว่า 16 ตรม   ปริมาณ 1 คิวบิกเมตรคือ 1,000 ลิตร ผมใช้ข้อมูลของคุณเจ้าหน้าที่ว่า propane เหลว 0.5 กก มีปริมาตรประมาณ 0.5 ลิตร ที่ temp 15 องศา   คุณกะว่าที่รั่วออกมาที่ 15 องศาน่าจะประมาณ 137 ลิตร  ผมตีว่าที่ 30 องศาปริมาตรเป็น 137 x 2 = 274 ลิตร ตีเป็น 300 ลิตรเลย คิดง่ายๆ แกส 300 ลิตร ที่รั่วออกมาหนักกว่าอากาศ จะลงมากองอยู่กับพื้น แต่จะสูงจากพื้นกี่ ซม พื่นที่ 16 ตรม ความสูง 1 ซมจากพื้น หรือ 0.01 เมตร คิดเป็นปริมาตร 16 x 0.01 = 0.16 คิวบิกเมตร ถ้าแปลงเป็นลิตรจะได้ = 0.16 x 1,000 = 160 ลิตร     การคำนวนข้างต้นแสดงว่าถ้าแกสรั่ว 160 ลิตร จะลอยสูงจากพื้น 1 ซม แต่เราประมาณว่าแกสสรั่วออกมาประมาณ 300 ลิตร  จะลอยสูงจากพืนไม่เกิน 2 ซม ครับ แอร์โดยปกติติดตัวคอล์ยเย็นที่ความสูง 190 - 200 ซม จากพื้น แต่แก๊สอยู่แค่ 2 ซม จากพื้น   เราไม่จุดไฟกันที่ระดับ 2 ซม หรอกครับ ตำแหน่งที่ติดปลั๊กไฟยังสูงเกิน 2 ซม เลย  แกสสูงไม่ถึงระดับที่ติดปลั๊กไฟด้วยซ้ำ ถ้าผมเพิ่มปริมาณแกสที่รั่วให้มากกว่าเดิมอีก 5 เท่า(ซึ่งไม่มีทางมากขนาดนั้น) ระดับแกสจะสูงจากพื้นแค่ 10 ซม  ยังไกลจากแอร์นัก ต่อมาเรื่อง gas flow rate เราคำนวนได้ว่าแกสที่ออกมามีประมาณ 300 ลิตร รั่วหมดใน 12 ชมหรือ 12x60=720 นาที   คิดเป็น flow rate 300/720 = 0.416 ลิตร/นาที  แกสปริมาณนี้ที่รั่วจะค่อยๆจมสู่พื้นห้อง ช้าๆ และจะถูกเจอจางด้วยปริมาณอากาศทั้งห้อง ทำให้ความเข้มข้นของแกสที่รั่วออกมาลดลงไปอีก  พอจะมองเห็นประเด็นตรงนี้หรือยังครับว่า มันจะเจอจางลงจน โอกาสติดไฟต่ำลงไปอีก   นี่คิดว่าปิดห้องตลอดนะ   ถ้าห้องนั้น ปิดเปิด จากการเดินเข้า-ออก อากาศจะถ่ายเท ความเข้มข้นของแกสยิ่งต่ำลงไปอีก คราวนี้คุณเจ้าหน้าที่ น่าจะเรียนสายวิทย์ ลองประเมินความเสี่ยงออกมาสิครับ ว่าโอกาสที่มันจะติดไฟน่าจะต่ำขนาดไหน   นี่เป็นเหตุผลที่หลายๆประเทศทั้งในยุโรป อาหรับ เอเชีย ญี่ปุ่น จึงอนุญาตให้ใช้สารทำความเย็นแบบ propane ในที่พักอาศัยได้ เพราะแอร์ในบ้านพักตัวเล็ก ใช้น้ำยาไม่มาก  แกสรั่วออกมากก็นิดเดียว  แถมจะโดนอากาสที่ถ่ายเทจนแกสมันกระจายตัวออกไปหมด     ด้วยการคำนวนข้างต้น ผมเองจึงคิดว่าความเสี่ยงเรื่องสำหรับใช้น้ำยาแอร์แบบ propane ต่ำมากๆๆๆๆ  และผมเห็นด้วยกับหลายๆประเทศว่ามันปลอดภัยเพียงพอสำหรับใช้งานที่บ้านผมเอง   สำหรับคนอื่นก็ตัดสินใจเอง จากข้อมูลข้างต้น  เงินของคุณ คุณต้องตัดสินใจเอง ผมหาข้อมูลโดย search ด้วย keyword  propane refrigerant iso-butane efficiency cooling  ลองๆใช้หลายๆคำปนกัน คุณจะพบบทความมาเพียบ  ผมอ่านอยู่หลายวันเหมือนกัน  ได้ข้อมูลมาด้วยว่า greenpeace สนับสนุนให้ทุกประเทศใช้นำยาตระกูลนี้ เพราะมันไม่ทำให้เกิด green house effect ในขณะที่ R22 เป็นตัวการของ green house effect น้ำยาตระกูลนี้เป็นน้ำยาทางเลือก ผู้บริโภคต้องเลือกเอง โดยพิจารณาจากข้อดี ข้อเสีย ในทุกด้าน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 28 ส.ค. 50 08:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห.ที่30 ถ้าเติมน้ำยาแล้วรั่วหมดในวันเดียวก็ไม่ต้องใช้กันแล้วครับ เติมเข้าไปเปิดยังไม่ทันเย็นเลยน้ำยาเหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ปกติน้ำยาถ้าพร่องจากระบบสัก20%มันก็เริ่มที่จะไม่เย็นแล้ว อ่านมาตั้งนานเห็นข้อมูลเยอะดี แต่ไม่เข้าใจว่าคุณทนใช้แอร์เดรื่องนั้นได้อย่างไร น้ำยารั่วหมดในวันเดียว มันไม่มีโอกาสทำความเย็นด้วยซ้ำไป ประเด็นนี้มันทำให้ข้อมูลคุณไม่น่าเชื่อถือไปเลย จากคุณ : ไม่เข้าใจทนได้ไง (suradaje) - [ 28 ส.ค. 50 09:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลงชื่อว่ามาอ่านต่อ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 28 ส.ค. 50 10:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดีใจที่คุณต้นโพธิ์ต้นไทร เข้ามาอ่านครับ ผมตามอ่านเรื่องปั๊มน้ำมานานแล้ว แถมให้อีกอัน เป็นปริญญานิพนธ์ ที่นักศึกษา ป ตรี ทำไว้ และลงเผยแพร่ใน web ชุดทดสอบเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 ------------------------------------------------------------------------------ ชื่อ สุกิจ ศิริคะรินทร์, เจริญ พูนน้อย, ณัฐวุฒิ ตันฑ์ณรงค์, ชื่อเรื่อง ชุดทดสอบเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 จำนวนหน้า ณ, 124 แผ่น ภาควิชา เทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการทำความเย็นและการปรับอากาศ สถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ระดับการศึกษา ปริญญาตรี ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ ผู้ช่วยศาตราจารย์วิชาญ วิมานจันทร์ vvj@kmitnb.ac.th ปีการศึกษา 2549 ------------------------------------------------------------------------------ บทคัดย่อ ปัจจุบันสารทำความเย็นที่ใช้ในระบบปรับอากาศภายในบ้านเป็นชนิดที่มีความเป็นพิษต่อชั้นบรรยากาศ ดังนั้นเพื่อที่จะขจัดปัญหานี้จึงได้มีบริษัทที่คิดค้นสารทำความเย็นชนิดใหม่ขึ้นมาทดแทนสารทำความเย็นที่มีอยู่เดิม ซึ่งในการทดลองนี้จะใช้สารทำความเย็น COLD 22 ซึ่งจะเป็นสารทำความเย็นชนิดใหม่ดังนั้นเพื่อที่จะหาคุณสมบัติ ของสารชนิดใหม่นี้จึงได้มีการทดสอบกับเครื่องปรับอากาศที่ใช้ภายในครัวเรือนเพื่อหาประสิทธิภาพและความสามารถ ของสารทำความเย็นนี้ การทดสอบกระทำโดยใช้เครื่องปรับอากาศและเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการวัด โดยจะเปรียบเทียบสารทำความเย็น HCFC-22 กับสารทำความเย็น COLD 22 โดยจะเริ่มจากการชั่งน้ำหนัก สารทำความเย็นที่เติม การวัดอุณหภูมิ ความเร็วลมและความชื้นสัมพัทธ์ที่ทางลมส่งและลมเข้า ที่คอนเดนเซอร์ทำงานปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นจะเป็นการทดลอง กรณีสมมติว่าคอนเดนเซอร์สกปรกโดยจะปิดทางด้านลมเข้าของชุดคอนเดนเซอร์ ให้อากาศสามารถระบายความร้อนได้เพียง 80เปอร์เซ็นต์แล้วจะทำการวัดค่าต่างๆเหมือนกับการทดลองตอนแรก เพื่อหาความสามารถของการทำความเย็นและสมรรถนะของสารทำความเย็นในระบบปรับอากาศ จากการทดลอง สามารถสรุปได้ว่าสารทำความเย็น COLD 22 ที่การระบายความร้อนออกที่คอนเดนเซอร์ 100 เปอร์เซ็นต์ค่า COP จะสูงกว่าสารทำความเย็น HCFC-22 อยู่ร้อยละ1.059 ส่วน ค่า EER จะสูงกว่า ร้อยละ 1.42 ตามลำดับ ส่วนการระบายความร้อนออกที่คอนเดนเซอร์ 80 เปอร์เซ็นต์ค่า COP จะสูงกว่าสารทำความเย็น HCFC-22 อยู่ร้อยละ1.05 ส่วนค่า EER จะสูงกว่า ร้อยละ1.25 แสดงว่าสารทำความเย็น COLD 22 มีประสิทธิภาพดีกว่าในสภาวะเดียวกันและยังช่วยประหยัดในเติมสารทำความเย็นที่น้อยลงกว่า ร้อยละ51.2 และการใช้กำลังไฟฟ้าที่ลดลงกว่า ร้อยละ 20.3 ในสภาวะการทำงานที่ 100 เปอร์เซ็นต์ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 28 ส.ค. 50 15:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ว่าจะตามมาแก้ข้อกล่าวหาว่า "สงสัยคุณ pa_ul จะเป็นพวกเดียวกันกับพวกที่จำหน่าย COLD22" แต่ไม่รู้จะแก้ทำไมเหมือนกัน กลับมาอ่านที่ตัวเองโพสต์ไปก็ไม่เห็นว่าจะเป็นพวกเดียวกันได้ยังไง แล้วก็ยังยืนยันว่า LPG ไม่ใช่ propane ทั้งหมด แต่ยอมรับผิดที่บอกว่า propane เบากว่าอากาศครับ มันหนักกว่านิดนึงครับ ขอบคุณคุณคนปากช่องครับ ที่มาให้ข้อมูลอีกเพียบ ขอบคุณครับ จากคุณ : pa_ul - [ 28 ส.ค. 50 16:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอ้า งัดข้อมูลมาเถียงกันอีก สนุกดี เมื่อไหร่ cold22 จะลดราคาลงมาอีกหน่อยหว่า เผื่อจะลองกับแอร์เคลื่อนที่ตัวเล็กที่บ้านดูก่อน 2 ปี เติมน้ำยาทีนึง สำหรับผมก็ว่าเร็วแล้วน่า ส่วนแอร์ติดผนังห้องนึงนี่ 10 กว่าปีแล้วยังเย็นอยู่เลย แสดงว่าน้ำยาแอร์ไม่หาย นี่ขนาดแอร์ไม่มียี่ห้อ บีทียูละบาทนะเนี่ย ถ้าตัวเล็กเวิร์คจะได้เอามาเปลียนใส่ตัวนี้ด้วย  666666 จากคุณ : monjangja - [ 28 ส.ค. 50 22:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คงจบเรื่องแล้วนะ เหมือนโต้วาทีเลย ได้สาระทั้ง ๒ทาง สรุปแล้วก็ได้ความรู้ ช่วยแก้ข้อสงสัยที่มีมาก่อนหน้านี้ให้กระจ่าง ก็ขอขอบคุณ คุณเจ้าหน้าที่ ที่เสนอความคิดในแง่มุมหนึ่ง และขอบคุณ คนปากช่อง (super yellow bird) ที่มาทำความเห็นให้กระจ่าง รวมถึงกองเชียร์ทั้งหลายที่แวะเวียนมา อ้อ ต้องขอบคุณสังเวียนด้วย ขอบคุณพันทิป ดอทคอมด้วยจ๊ะ จะเก็บกระทู้นี้ไว้ในคอมพ์เลย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 29 ส.ค. 50 16:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ว้าว ดีใจครับที่คุณโพธิ์ต้นไทร จะเก็บกระทู้นี้   ที่ผมเสียเวลาพิมพ์คำตอบมาทั้งหมดหลายชั่วโมง ก็อยากให้คนอ่านได้ข้อมูลหลายๆด้านแล้วตัดสินใจครับ   ของทุกอย่างมีทั้งข้อดี ข้อเสีย มันอยู่ที่ว่าเราจะรับข้อเสียของมันได้แค่ไหน สารทำความเย็นตระกูล Propane นอกจากใช้กับแอร์บ้าน แล้วยังมีแบบที่ใช้กับรถยนตร์ด้วยนะครับ มันชื่อ COLD 134 ใช้แทน R134 และ COLD12 ใช้แทน R12 ซึ่งมันทำให้คอมแอร์กินแรงเครื่องยนตร์ลดลงประมาณ 10% และที่สำคัญคือมันเย็นกว่าเดิมด้วย   ที่รู้ดีเพราะลองอัดใช้กับรถตัวเองแล้วครับ ใช้แล้วไม่อยากกลับไปใช้น้ำยาแบบเดิมเลย ที่สำคัญคือราคาของมันเวลาไปอัดตามร้านที่ให้บริการ ราคาพอๆกับน้ำยาแบบเดิมเลย ผมได้ลองน้ำยาตระกูลนี้กับรถตัวเองก่อน เห็นว่าใช้ดีเลยลองกับแอร์บ้านก็ใช้ได้ดี ลดการใช้ไฟตามที่บอกไว้ข้างต้น เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเยอะพอสมควร จนมั่นใจกับความปลอดภัยของมัน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 29 ส.ค. 50 21:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อไปก็จะใช้ข้อมูลนี้  บอกต่อๆเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ยังข้องใจสงสัยต่อไปครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 29 ส.ค. 50 21:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมก็คงจะไม่โพสต่อแล้วครับ ยอมแพ้ดีกว่า แต่จะขอบอกอีกนิดนึงนะครับ PROPANE หนักกว่าอากาศ เวลารั่วในห้องที่เป็นระบบปิดก็จะนอนอยู่ที่พื้นอย่างที่คุณคนปากช่องว่า แต่แก๊สนะครับไม่ใช่น้ำจะได้รั่วปุ๊บแล้วจะนอนก้นปั๊บ และขณะที่รั่วลมออกพัดออกมาจากแรงของพัดลมของแอร์ก็จะพัดให้มันกระจายไปทั่วห้อง แล้วมันจึงจะค่อยๆนอนลงที่พื้น เพราะที่คุณพูดนั้นเหมือนกับว่าขณะที่รั่วนั้นไม่ได้เปิดแอร์ แต่ผมพูดถึงขณะที่เปิดแอร์ และถ้าทิศทางของลมที่พุ่งออกมาจากแอร์ที่กำลังมี COLD22 หรือ PROPANE ที่กำลังรั่ว คุณคิดว่า COLD22 หรือ PROPANE จะดิ่งลงไปนอนที่พื้นรึครับ แรงลมลมที่พัดก็จะสามารถที่จะทำให้ COLD22 หรือ PROPANE นั้นมีการฟุ้งกระจายไม่นอนอยู่ที่พื้นแน่นอนครับ เพราะมีลักษณะเป็นก๊าซที่สามารถจะไหลไปได้ตามแรงที่มากระทำคือแรงลมที่เกิดจากพัดลม แล้วถ้าในห้องนอนนั้นมีประกายไฟที่อาจจะเกิดจากการกระทำใดๆก็แล้วแต่ มันก็ยังเป็นไปได้ที่มันจะติดไฟได้ สุดท้ายนี้ ผมก็ขอให้ผู้ที่จะตัดสินใจจะใช้ COLD22 หรือ PROPANE นี้ คิดให้ดีๆก่อน อย่าคิดแต่การประหยัดไฟเป็นหลัก แต่ควรที่จะตระหนักถึงความปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า และสุดท้ายของสุดท้าย ผลการทดสอบของการเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 ของภาควิชา เทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการทำความเย็นและการปรับอากาศ สถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่ได้แสดงผลสรุปอยู่ในใบ Certificate ที่ทางผู้จำหน่ายได้ใช้เป็นข้อมูลอันหนึ่งในการโฆษณา COLD22 นั้น น่าจะให้ลงบทสรุปด้วยว่ามีความปลอดภัยสูงไม่เกิดอันตรายกับผู้คนที่จะนำไปใช้กับระบบแอร์บ้าน เมื่อเปรียบเทียบกับ R22 ซึ่งถ้าสามารถลงได้ ผมเองก็จะขอใช้ด้วยคนครับ ขอบคุณ และ สวัสดีครับ จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 30 ส.ค. 50 00:02:26 A:125.26.65.215 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โชคดี         สวัสดีครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 30 ส.ค. 50 05:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ว่าจะไม่ต่อแล้วเชียว ขออีกนิดตามคุณเจ้าหน้าที่ก็แล้วกัน ตาม คห41 ระบุว่าถ้าpropaneมันรั่วตอนที่แอร์กำลังทำงานจะเกิดอะไรขึ้น  เราต้องรู้ก่อนว่า 1.น้ำยาแอร์รั่วออกมาสัก 30% ของทั้งหมดแอร์ก็ไม่เหลือความเย็นแล้ว  พอแอร์พ่นลมเปล่าๆที่ไม่มีความเย็นออกมา คนโดยทั่วไปจะปิดแอร์ ครับ ไม่รู้จะเปิดทำไม เปลืองไฟ 2.ปริมาณลมแอร์พ่นออกมาตอนแอร์กำลังทำงานนั้น จะผสมกับไอของ propane ที่รั่วด้วยอัตรา 0.4 ลิตร/นาที  ทำให้ความเข้มข้นของแกสจางไปมาก  ผมเปิด spec ของแอร์ diakin inverter รุ่น 12,000 btu ที่ใช้อยู่ ระบุว่าพัดลมแอร์ที่ระดับ medium จะพ่นลมที่ปริมาตร 7.4 ลบ เมตร/นาที หรือ 7,400 ลิตร/นาที       เมื่อคิดอัตราส่วนของแกสที่รั่ว/ปริมาตรอากาศ จะเท่ากับ 0.4 / 7,400 = 0.000054  ไม่มีหน่วย เพราะหน่วยตัดกันไปหมด   ด้วยอัตราส่วน 0.000054 นี้ต่ำมาก  ต่ำกว่าความเข้มข้นขั้นต่ำที่ propane จะติดไฟเป็นร้อยๆเท่า  จนไม่สามารถติดไฟได้ ไม่ว่าคุณจะเอาไฟแช็คไปจุดที่หน้าแอร์ตรงที่ลมพ่นมาก็ตาม ยังไงไฟก็ไม่ติด มีแต่ไฟแชคจะดับเพราะโดนลมเป่า จากนั้นลมที่แอร์พ่นออกมาซึ่งมีแกสผสมเจอจางมากๆๆๆๆ จนทำยังไงก็ไม่ติดไฟ จะกระจายทั่วห้อง และแกสจะค่อยๆจมสู่พื้นห้อง ที่ระดับความสูงไม่เกิน 1 ซม (ผมไม่ได้พิมพ์ผิด การคำนวนก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า 2 ซม นั้นหมายถึงน้ำยารั่วหมด100% 0.5 กิโล  แต่ในทางปฏิบัติน้ำยาจะไม่รั่ว 100% หรอกครับ เหลือในระบบอยู่บ้าง ผมเลยตีซะรั่ว 50% แล้วกัน) คราวนี้ยังเหลือจุดไหนอีกครับ ที่คุณเจ้าหน้าที่คิดว่าไม่ปลอดภัยอีก  ผมจะไปหาข้อมูลมาให้ดู แต่ก่อนที่คุณเจ้าหน้าที่จะเอามาลงเพิ่ม  ขอความร่วมมือทำการบ้านหน่อยครับ  คือช่วยไป search หาข้อมูลสนับสนุนความเชื่อของคุณเจ้าหน้าที่สักนิด  แล้วใช้วิชาorg chem ช่วยอีกสักหน่อย  ว่าสิ่งที่กำลังจะโพสต์เข้ามา มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์แน่นอน   เพราะก่อนผมจะตอบเนี่ย ผมคิด 18 ตลบ แถมค้นข้อมูลประกอปอีก เสียเวลาผมครับ   เราคุยกันทางวิทยาศาสตร์ ประเด็นที่คุยคือ ความปลอดภัยของแกส propane ที่เอามาเป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศในบ้านพัก คุณเจ้าหน้าที่พยายามจะชี้ว่าไม่ปลอดภัย แต่พูดลอยๆ(ตามคห 41) ใช้ความรู้สึกทั่วๆไปว่าpropaneมันติดไฟได้ อันตรายแน่นอน เลยฟันธงว่าอย่าใช้ โดยไม่มีการคำนวนประกอปที่ชัดเจน หรือแสดงหลักฐานชัดเจนเพื่อยืนยันความคิดว่ามันอันตรายต่อการใช้ในบ้าน แต่ผมแย้งว่ามันปลอดภัยแน่นอนสำหรับการใช้งานในบ้าน เพราะปริมาณ propane ที่ใช้น้อยมาก  แล้วผมแสดงวิธีคิด คำนวนปริมาณแกสที่รั่ว  ความเข้มข้นของแกสที่รั่ว ว่าความเข้มข้นมันต่ำจนทำยังไงก็ไม่ติดไฟ ถ้าจะโพลต์ต่อไป รบกวนใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ แสดงการคำนวน หรือ research หรือ paper ยืนยันความคิดของคุณด้วยครับ ว่ามันไม่ปลอดภัย   ที่ผมกล้าท้า เพราะไอ้ research กับ paper ของเมืองนอกทั้งหมดที่ผมค้นมาน่ะ   มันระบุว่า ประเทศในยุโรปที่อนุญาตให้ใช้ COLD หรือ propane เป็นสารทำความเย็นเพราะยอมรับความปลอดภัยของมัน  แถมยังชอบคุณสมบัติของ propane ที่ไม่ทำลาย ozone ในบรรยากาศ จึงไม่เป็นสาเหตุของ green house effect ด้วย อย่าลืมครับ เราคุยกันด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ เอาข้อมูล ความจริงมาหักล้างกันครับ  นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนมา แม้จะไม่ได้เอกเคมีก็เถอะ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 30 ส.ค. 50 07:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอาข้อมูลจาก wikipedia มาให้ดูเรื่องความเข้มข้นของ propane ที่จะติดไฟในอากาศ ตาม link นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Explosive_limit ถ้ายังข้องใจคุณสมบัติของ propane แบบเต็มๆ ไปที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Propane มันบอกว่า propane จะติดไฟ ต้องมีส่วนผสมกับอากาศ อย่างต่ำ 2.1% แต่ความเข้มข้นของแกสที่คำนวนได้ตาม คห 43 อยู่ที่ 0.000054 หรือคิดเป็น % ได้ 0.000054 x 100 = 0.0054 % คราวนี้คิดว่า เจ้า .0054% มันต่ำกว่า  2.1%ที่ propane จะติดไฟอยู่เท่าไรโดย  2.1 / 0.0054 = 388    แสดงว่าแกสที่รั่วออกมามีความเข้มข้นต่ำกว่าขีดจำกัดขั้นต่ำสุดที่ propane จะติดไฟอยู่ 388 เท่า   ด้วยปริมาณที่เจือจางขนาดนี้ อย่าว่าแต่เอาไฟแชคไปจ่อหน้าแอร์เลย   เอาเครื่องพ่นไฟขนาดเล็กไปจ่อหน้าแอร์ หรือเดินไปรอบห้อง ก็ไม่มีทางติดไฟ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ ความเข้มข้นของแกสขั้นต่ำที่จะติดไฟได้ The explosive limit of a gas or a vapour, is the limiting concentration (in air) that is needed for the gas to ignite and explode. There are two explosive limits for any gas or vapor, the lower explosive limit (LEL) and the upper explosive limit (UEL). At concentrations in air below the LEL there is not enough fuel to continue an explosion; at concentrations above the UEL the fuel has displaced so much air that there is not enough oxygen to begin a reaction. Concentrations of explosive gases are often given in terms of percent of lower explosive limit (%LEL). The explosive limits of some gases and vapors are given below. Concentrations are given in percent by volume of air. Substance.............. LEL............. UEL Acetone 3% 13% Acetylene 2.5% 82% Benzene 1.2% 7.8% Butane 1.8% 8.4% Ethanol 3% 19% Ethylbenzene 1.0% 7.1% Ethylene 2.7% 36% Diethyl ether 1.9% 36% Diesel fuel 0.6% 7.5% Gasoline 1.4% 7.6% Hexane 1.1% 7.5% Heptane 1.05% 6.7% Hydrogen 4.1% 74.8% Hydrogen sulfide 4.3% 46% Kerosene 0.6% 4.9% Methane 5.0% 15% Octane 1% 7% Pentane 1.5% 7.8% Propane................ 2.1%......... 9.5% Propylene 2.0% 11.1% Styrene 1.1% 6.1% Toluene 1.2% 7.1% Xylene 1.0% 7.0% จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 30 ส.ค. 50 09:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตามลิงค์ที่คุณคนปากช่องให้มา เรื่องเกี่ยวกับ PROPANE ผมอ่านโดยละเอียดแล้วก็ได้คัดลอกมาให้ดูดังนี้ ผมคงไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้นอีกแล้ว แต่จะขอใช้ความรู้ภาษาอังกฤษ ลองแปลให้อ่านกันดู ถ้าผิดขอให้คุณคนปากช่องช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ ในสมัยแรกๆ เครื่องปรับอากาศ และ เครื่องทำความเย็น ได้มีการใช้สารที่เป็นพิษ หรือแก๊สที่ติดไฟได้ อย่างเช่น แอมโมเนีย เม็ทธิลคลอไรด์ และ โพรเพน (COLD22) ซึ่งอาจจะมีผลให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตได้เมื่อเกิดการรั่ว นาย Thomas Midgley, Jr. จึงได้คิดค้น แก๊สคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน หรือที่เรียกในชื่อของ ฟรีออน ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ส. 1928 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีความปลอดภัยมากกว่าแต่ต่อมาจึงพบว่ามีผลกระทบต่อบรรยากาศในชั้นที่เป็นโอโซน ฟรีออน ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าที่ทางบริษัท Dupont ใช้เรียกชื่อแทนสารทำความเย็น Chlorofluorocarbon (CFC), Hydrogenated CFC (HCFC), or Hydrofluorocarbon (HFC) ซึ่งแต่ละชื่อจะถูกเรียกเป็นชื่อที่มีตัวเลขกำกับเพื่อขนาดของโมเลกุล เช่น R-11, R-12, R-22, R-134 ส่วน R22 ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ R22 จะเริ่มไม่ให้ใช้กับเครื่องปรับอากาศในปี 2010 และ จะเลิกใช้ R22 อย่างเด็ดขาดภายในปี 2020 R11 และ R12 ก็ไม่มีการผลิตอีกต่อไปแล้วในอเมริกา ส่วนที่อย่างมีการใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้นคือใช้ทำความสะอาดระบบแอร์ สารทำความเย็นที่ไม่ทำลายชั้นโอโซนได้ถูกพัฒนาขึ้นมาหลายตัว ซึ่งก็รวมถึง R410A ที่ได้เป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ พูรอน (Puron) PROPANE (R290 หรือ COLD22) ที่มีความบริสุทธิ์สูง สามารถที่จะนำไปใช้แทนที่สารทำความเย็นอย่างเช่น R11, R22 หรือ R134A ซึ่งปัจจุบันนี้ทางบริษัท ยูนิลิเวอร์ ไอศกรีม และบริษัทอื่นๆก็ได้ใช้ PROPANE (R290 หรือ COLD22) เป็นสารทำความเย็นในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น และยังพบอีกว่าประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเข้ามา คือ PROPANE จะมีความสามารถในการทำความเย็นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 9-15 % ขอบคุณในข้อมูล และขอให้โชคดีกับธุรกิจ COLD22 ด้วยครับ ส่วนใครที่คิดว่า COLD22 (PROPANE 99%) มีความปลอดภัยที่จะใช้แทน R22 ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านแล้ว ด้วยความเคารพ http://en.wikipedia.org/wiki/Liquified_petroleum_gas The first air conditioners and refrigerators employed toxic or flammable gases like ammonia, methyl chloride, and propane which could result in fatal accidents when they leaked. Thomas Midgley, Jr. created the first chlorofluorocarbon gas, Freon, in 1928. The refrigerant was much safer for humans but was later found to be harmful to the atmosphere's ozone layer. "Freon" is a trade name of Dupont for any Chlorofluorocarbon (CFC), Hydrogenated CFC (HCFC), or Hydrofluorocarbon (HFC) refrigerant, the name of each including a number indicating molecular composition (R-11, R-12, R-22, R-134). The blend most used in direct-expansion comfort cooling is an HCFC known as R-22. It is to be phased out for use in new equipment by 2010 and completely discontinued by 2020. R-11 and R-12 are no longer manufactured in the US, the only source for purchase being the cleaned and purified gas recovered from other air conditioner systems. Several non-ozone depleting refrigerants have been developed as alternatives, including R-410A, known by the brand name "Puron". In highly purified form, propane (R-290) can serve as a direct replacement in mechanical refrigeration systems designed to use R-12, R-22 or R-134a chloro- or fluorocarbon based refrigerants. Today, the Unilever Ice Cream company and others are exploring the use of environmentally friendly propane as a refrigerant. As an added benefit, users are finding that refrigerators converted to use propane are 9-15% more energy efficient จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 31 ส.ค. 50 00:45:02 A:125.26.65.173 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห 45 คุณเจ้าหน้าที่นอนดึกแฮะ คำอธิบายตาม คห 45 อย่านี้หนักแน่นครับ มีแหล่งข้อมูลชัดเจน เสนอข้อมูลครบถ้วนตามจริง ไม่เข้าข้างใคร และยังเสนอน้ำยาทางเลือก R410A ไว้ให้พิจารณาอีก 1 ตัวด้วย   ข้อมูลแบบนี้แหละครับที่ผมมองหาอยู่ R410A เป็นน้ำยาตัวใหม่ที่ผมสนใจศึกษามาก ยังไม่ค่อยมีคนใช้ในเมืองไทย  กำลังหาข้อมูลให้ครบถ้วนในทุกแง่มุมก่อนจะนำออกเผยแพร่ครับ รอบหน้า Propane (R290) ปะทะ Puron (R410A) ตัวไหนดีกว่ากัน  มีข้อดีข้อเสียยังไง  มีความเสี่ยงมากไหม  ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน   ผมจะไปหามาให้ดูกัน   แต่รอหน่อยนะครับ ผมมาให้ข้อมูลเพราะอยากรู้คุณสมบัติของน้ำยาแอร์แต่ละตัว  ที่สำคัญผมยังไม่เคยเห็นใครมาให้ข้อมูลอย่างละเอียด หรือเปรียบเทียบน้ำยาแต่ละตัวให้ดูสักที  ไม่มีใครทำแต่อยากรู้เลยต้องทำเอง ลองเอง   น้ำยาที่เอามาลองก็ซื้อเอง  อุปกรณ์ที่เอามาทดลองก็แอร์ของตัวเอง   พังก็พังเอง  ใช้ดีก็เอามาบอกต่อ ไม่ได้เชียร์ใครทั้งสิ้น ต่อไปรับรองว่าถ้าเปรียบเทียบ Propane กับ Puron แล้วผลออกมาว่า Puron มันประหยัดไฟพอๆกัน  ไม่ติดไฟ   ไม่ทำลายชั้น Ozone ผมก็จะบอกว่า Puron มันดีกว่า  โดยไม่ดันทุรังเชียร์ Propane ครับ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์จากใคร   สิ่งที่อยากได้คือน้ำยาแอร์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ในราคาที่สมเหตุผล ปัญหาอย่างเดียวคือ ยังไม่รู้จะหา Puron จากไหนมาลอง  ได้ยินมาว่าไม่สามารถเติม Puron ลงในแอร์เดิมที่มีอยู่ได้  มันต้องซื้อแอร์ใหม่ เท่านั้น ซึ่งผมคงไม่ลงทุนขนาดนั้น   สงสัยทำได้เฉพาะภาคทฤษฎี จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 31 ส.ค. 50 07:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้ารั่ว มันก็มีการแรกเปลี่ยนกับอากาศข้างนอกอยู่ดี  ต่อให้ระบบปิดยังไง มันก็เจือจาง นึกถึงอากาศที่เราหายใจสิครับ  ถ้าไม่มีการแลกเปลี่ยนกับข้างนอกห้องคงเต็มไปด้วย CO2 เป็นพิษต่อร่างกายแน่ๆ LPG อันตรายติดไฟ  propane อะนตรายติดไฟ แต่เคยคิดไหมครับ  ว่าความเป็นจริงนั้น    มันอันตรายจริงหรือ รถ Taxi วิ่งตามถนน ถัง 40 กว่าโลขึ้นไป ไม่เห็นมีข่าวรถ Taxi ระเบิดสักที จากคุณ : ยัยปุย - [ 2 ก.ย. 50 09:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 48 R410a กับ R22 มี Working Pressure ต่างกันนะครับ R410a จะสูงกว่า R22 ประมาณ 1.5 เท่า... แหะๆ อีกอย่าง Compressor R22 เอามาใช้กับ R410a คงไม่ไหว จากคุณ : jOnEz - [ 2 ก.ย. 50 10:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอ่อ..   ว่าแต่ว่า เทคโนโลยีสมัยนี้ มันยังห่วยเท่าเมื่อ 80 ปีก่อนอยู่อีกเหรอ ? ถึงได้ต้องเทียบกับ สมัย 80 ปีก่อน เค้าเคยใช้และเลิกใช้ COLD 22 ป.ล. ตอนนี้ ผมก็ใช้ COLD 22 อยู่ และถ้าคิดว่ามันไม่ปลอดภัยจริงๆ ก็ไม่ลังเลที่จะเลิกใช้ แต่ตอนนี้ ยังหาเหตุผลเหมาะๆ ไม่ได้ ดังนั้น ใช้ต่อไป :D จากคุณ : sasrp - [ 4 ก.ย. 50 10:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อื่มม ไม่รู้จิงๆ  เกิดไม่ทันอ่ะ ถามว่าอยากจะรู้ไหม ไม่อยากรู้ด้วยอ่ะ รู้อย่างเดียวว่า เปิดแอร์แล้ว แอร์เย็น ประหยัดไฟ แค่นี้แหละที่ต้องการ ปลอดภัยหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้งานยังไง... จากคุณ : เกิดไม่ทันจิงๆ 555 (enforce) - [ 4 ก.ย. 50 11:01:21 ]