Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เก็บมาเล่า เรื่องน้ำ RO กับ สุขภาพ จาก WHO

    กำลังจะซื้อเครื่องกรองน้ำ ก็เลยไล่อ่านกระทู้ที่เคยมีมาเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำ RO หรือ ไม่ RO อ่านไปอ่านมาก็หาข้อสรุปไม่ได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า น้ำจากเครื่องกรองน้ำ RO เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่

    เลยไปหาข้อมูลมาค่ะ บางท่านอาจจะเคยผ่านตามาบ้างแล้ว ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังแล้วกันค่ะ (ป.ล. ไม่ได้ขาย AMWAY และไม่มีอคติใดกับเครื่องกรองน้ำชนิดใดทั้งสิ้น ความจริงดื่มน้ำ RO มาสัก 10 ปีมาแล้วเห็นจะได้ ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ)

    สรุปเป็นข้อสั้นๆดังนี้นะคะ

    1. RO ถือเป็นการบำบัดน้ำวิธีหนึ่งซึ่งใช้กันมากในกรณีที่น้ำมีส่วนผสมของโลหะหนักสูงๆ หรือ ที่มีสิ่งเจือปนมากๆ มักทำในประเทศที่มีน้ำที่เขาเรียกกันว่า hard water (ซึ่งน้ำลักษณะนี้มักจะทำให้ผงซักฟอกหรือสบู่ไม่ค่อยมีฟอง ประเทศทางตะวันตกเป็นกันเยอะค่ะ) และใช้ในประเทศที่ต้องกลั่นน้ำทะเล หรือในแอฟริกาที่น้ำสกปรกมาก

    2. ก่อนทำเขาจะต้องเอาน้ำสกปรกนั่นมา ฆ่าเชื้อโรค วิธีหนึ่งคือ ใช้ UV (อันนี้คนใช้ Amway คงชอบ) หลังจากนั้น หากจะใช้วิธี RO เพื่อบำบัดน้ำ (ซึ่งจริงๆแล้วมีอีกหลายวิธี) ก็จะเริ่มในขั้นนี้

    3. หลังจากนั้น นำน้ำที่ผ่าน RO มาทำ post-treatment เอาสารยืนยันว่า น้ำที่ผ่านวิธีการบำบัดแบบ RO ต้องนำมา stabilise ก่อนโดยการปรับค่า Ph และ/หรือ การเติมสารบางอย่าง (แล้วแต่เหมาะสม เช่น fluoride) และ/หรือ การนำมาผสมกับแหล่งน้ำดั้งเดิม (ก่อนที่จะนำมาบำบัด)

    ---------------------------------------
    ที่นี้มาถึงเรื่องสำคัญ คือ น้ำ RO มีผลอย่างไรต่อสุขภาพบ้าง

    4. ก่อนอื่น ต้องยอมรับกันก่อนว่า อาหาร เป็นแหล่งแร่ธาตุและวิตามินหลัก น้ำจะเป็นประโยชน์เพราะมีแร่ธาตุสำคัญอยู่ในนั้น เท่าๆกับที่เป็นอันตรายกับร่างกายหากมีการเจือปน (ประการหลังคงไม่เกิดกับบ้านเรา เพราะการประปารับรองว่าน้ำสะอาด)

    5. แร่ธาตุที่สำคัญที่อยู่ในน้ำ (ที่ยังไม่ผ่านการทำ RO) ได้แก่ calcium, maganesium, sodium, chloride, lead, selenium, patassium, bromide, iodide, fluoride, chromium และ maganese น้ำที่ ผ่านการทำ RO จะกรอง ions ออกทั้งหมด ดังนั้น คนที่ดื่มน้ำกลั่น (distilled water) จะได้รับแร่ธาตุหรือสารอาหาร "น้อย" กว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำที่ผ่านระบบ RO

    6. แต่ดังที่เกริ่นใน ข้อ 3 น้ำที่ผ่านระบบ RO จะต้องได้รับการ stabilise และทางหนึ่งคือ การผสมกับน้ำจากแหล่งเริ่มต้น ก่อนทำการ RO ดังนั้น จึงอนุมานเอาเองว่า หากเอาน้ำที่ผ่านระบบ RO มาผสมกับน้ำธรรมดา น่าจะเป็นการเพิ่มแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นได้บ้าง *** ผู้รู้กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มด้วยค่ะ ผู้อ่านกรุณาอ่านโดยใช้วิจารณญาณ ***

    7. อย่างไรก็ดี แม้น้ำดื่มจะเป็นแหล่งของแร่ธาตุและสารอาหาร แต่ดังที่กล่าวใน ข้อ 6 ไม่ถือเป็นแหล่งหลัก หากเราเลือกดื่มน้ำที่ผ่านระบบ RO แต่ทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น นม (แหล่งวิตามิน D) ผลไม้ (แหล่งวิตามิน C) หรือ ขนมปัง (แหล่งธาตุเหล็ก วิตามิต B, และกรด folic) ก็จะช่วยทดแทนแร่ธาตุที่น้อยลงในน้ำที่ผ่าน RO ได้มาก

    8. ประเด็นที่เกี่ยวกับ Sodium (ที่เห็นเถียงกันหน้าแดงในบางกระทู้) อาจจะ หรือ อาจจะไม่เหลืออยู่ในน้ำที่ผ่าน RO ก็ได้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่อง RO ของท่าน และขึ้นอยู่กับขั้นตอนหลังการบำบัด (post-treatment หรือ stabilisation process) อนุมานเอาเองอีกว่า หากเติมน้ำที่ยังไม่ได้กรองเข้าไปบ้าง ก็คงมี Sodium และ อื่นๆ เหลืออยู่บ้าง  *** ผู้รู้กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มด้วยค่ะ ผู้อ่านกรุณาอ่านโดยใช้วิจารณญาณ ***

    9. ร่างกายคนเราแต่ละวันรับ/และต้องการปริมาณ Sodium ต่างกันออกไป ตั้งแต่ 2000-10000 mg. น้ำดื่ม ไม่ใช่แหล่ง Sodium ที่สำคัญที่สุด เพราะน้ำ 1 ลิตรมีปริมาณ Sodium แค่ 20 mg. คนปกติดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ก็จะได้ Sodium จากน้ำ (ที่ไม่ผ่านระบบ RO) แค่ 40 mg. ซึ่งกระจอกมาก คิดเป็นแค่ ร้อยละ 10 ของปริมาณการบริโภค Sodium ปกติของเรา

    10. (สุดท้ายแล้วค่ะ เหนื่อยแล้ว) กรณีน้ำที่ผ่านระบบ RO กับโรคหัวใจกับหลอดเลือด (cardiovascular disease) ในประเทศที่มีน้ำ แบบที่เป็น hard water (คือที่มี Calcium กับ Magnesium แยะๆ) เนี่ย จะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดน้อย แต่อันนี้ ก็ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่นะคะ ยังไม่มีข้อยุติ ว่าดื่มน้ำแบบไม่กรอง หรือ กรองแบบไม่ผ่านระบบ RO จะมีผลโดยตรงต่อหัวใจและหลอดเลือดอย่างไร

    ส่วนเรื่องที่ว่า น้ำที่ผ่านระบบ RO จะมาดูดแร่ธาตุจากตัวเราออกไปอีกหรือไม่ อันนี้ยังอ่านไม่เจอ ใครเจอแน่ๆ ช่วยมาเพิ่มเติมข้อมูลก็จะดีมากเลยค่ะ (กรุณา cite your source อ้างอิงๆ ด้วยนะคะ :D)

    ---------------------
    สรุป (เอง)

    1. ดื่มน้ำ RO ก็ได้ค่ะ แต่ต้องทานอาหารให้ครบ และต้องคิดด้วยว่าจะเติม fluoride ด้วยวิธีไหน (แต่ยาสีฟันก็มีอยู่แล้วหรือเปล่าคะ) อ้อ อย่าลืมดูสุขภาพตัวเองว่าต้องการแร่ธาตุใดมากเป็นพิเศษด้วยนะคะ

    2. ดื่มน้ำจากเครื่องกรองที่ไม่ใช่ RO ก็ได้

    3. ดื่มน้ำไม่กรองก็ได้ (เพราะการประปายืนยันว่าสะอาด เราต้องดื่มน้ำสะอาด ไม่จำเป็นต้องบริสุทธ์ก็ได้)

    4. ประเทศเราน่ะโชคดีกว่าประเทศอื่นๆอีกกว่าค่อนโลก เขาต้องใช้ระบบ RO เพราะคุณภาพน้ำเขาแย่กว่าเรามาก ทั้งปนเปื้อน (มากจริงๆ ในประเทศแถบแอฟริกา คือ ดื่มไม่ได้เลย)

    ทำ link ไว้ให้ไปอ่านเพิ่มและอ้างอิงค่ะ

    บทความนี้นะคะ

    http://whqlibdoc.who.int/publications/2005/9241593989_chap2_eng.pdf

    http://www.who.int/water_sanitation_health/dwq/guidelines/en/index.html

    โครงการเกี่ยวกับเรื่องน้ำดื่มสะอาดในโลกนี้

    http://www.drinking-water.org/html/en/Overview/index.html

    จากคุณ : Huw - [ 13 ก.ย. 50 18:53:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom