ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าหน้าที่เครดิตการ์ดแจงว่าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว  อาจเกิดจากไฟฟ้าขัดข้องขณะทำการรูดเลยรูดซ้ำแล้วผ่านทั้งสองครั้ง ให้ดำเนินการดังนี้ คือแจ้งกลับไปที่ร้านค้าที่คุณไปรูดว่ามียอดซ้ำ จานั้นทางร้านค้าจะประสานยกเลิกยอดนั้นกับทางศูนย์บัตรเครดิตเองต่อไปเอง ดิชั้นก็โทรไปเบื้องต้นก่อนแจ้งรายละเอียดทั้งหมดแก่ เจ้าหน้าที่ชื่อเยาวเรศที่เป็นคนรูด   จากนั้นเธอหายไปนานๆมาก แต่เธอไม่ได้กดปุ่มhold เลยพอจะได้ยินแหว่วๆๆว่าลูกค้าบอกว่ารูดการ์ดซ้ำแล้วจะเอาเรื่องทำไงดี  ซักพักเธอก็กลับมาบอกว่าได้ตรวจสอบแล้วค่ะว่าเรารูดของลูกค้าไปแค่ครั้งเดียวนะค่ะ ไม่ทราบได้ไปซื้อของที่ไหนมาอีกหรือเปล่า    ...อึ้ง  เอาแล้วไงดิชั้นคิด  “เธอใช้สมอง(น้อยๆ)ส่วนไหนคิด  จะใช้ยังไง(ว่ะ)เนี่ย   อะไรมันจะพอดีเป๊ะกันขนาดนี้” พอเห็นดิชั้นจะเอาเรื่องหนักเข้า เธอก็ขอร้องให้เข้าไปหาด้วยตัวเองพร้อมเอกสารการจ่ายเงินทั้งหมดที่มี    แต่แฟนไม่อยากเข้าไปเพราะเรื่องนี้มันเกิดที่โฮมโปร บัตรทำที่โฮมโปร และก็ซื้อของก็ที่โฮมโปร(สาขาประชาชื่น) ทำไมมันจะจัดการให้ไม่ได้(ว่ะ)    แฟนจึงโทรกับไปหาหัวหน้าแผนกสั่งซื้อสินค้าพิเศษชื่อ   คุณ สุกัญญา จุxเมืxx ก็ได้รับคำตอบในแนวเดียวกันแต่สไตล์การตอบจะดูฉลาดกว่า(เล็กน้อยถึงน้อยมาก)เธอให้คำตอบได้ว่าเรารูดไปแค่ครั้งเดียวจริงๆ และเราขอยืนยันว่าไม่ได้มาจากเครื่องของเราแน่นอน ยังไงสะดวกเข้ามาหน่อยไหมค่ะ แล้วเอาเอกสารมาด้วย   ขอโทษเพื่อนพันทิพนะค่ะที่เล่ายาววินาทีนี้โง่วิชาย่อความไปเลยค่ะเจออย่างนี้  เดียวส่งก่อน แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 12:02:12 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 10:44:21 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 10:43:43 จากคุณ : Trigger Fish (Trigger Fish) - [ 16 พ.ย. 50 10:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก็ว่ายังงั้นละครับ ทำไมเขาเช็คยอดเงินไม่ได้หรือครับ ซึ่งยอดมันต้องตรงกัน มีความคืบหน้ายังไงมาโพสต์บอกด้วยนะครับ คุณTRIGGER จากคุณ : อนิจจัง (เมเจอร์ทอม) - [ 16 พ.ย. 50 10:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มารออ่านค่ะ แนะนำว่าให้ลบนามสกุลออกค่ะ เผื่อมีผลตามมา ( ฟ้องร้อง )นะค่ะ จากคุณ : กัญจน์ญภา - [ 16 พ.ย. 50 11:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ายอดซ้ำกัน  ทางร้านก็น่าจะดูเอกสารได้นิว่าถ้ารูด 2 ครั้ง ก็ต้องมีลายเซนตืคุณ 2 ใบ   อิชั้นเคยเจอเหตุการณ์รูด 2 ครั้ง  ก็ติดต่อ call center ของแบ๊ง...แบ๊งเค้าไปประสานกับร้านค้าให้เองนะคะ .......  ( แต่ไม่ใช่กรุงศรีน่ะคะ) จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 16 พ.ย. 50 11:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงตอนนี้เรากับแฟนถอดใจแล้วกับเงินก้อนนี้ด้วยเหตุผลดังนี้ 1.โทรตรวจสอบยอดทั้งหมดประมาณเจ็ดครั้งซ้ำพนักงานแค่หนึ่งคน(เราพยายามจดชื่อให้ได้หมดเผื่อมีอะไรคร่าวหน้าจะได้ไม่ต้องเล่าใหม่และขอสายคนเดิม)พนักงานทุกคนยืนยันจนเกือบจะทำเสียงรำคาญในการถามซ้ำวากของดิชั้นว่า.ยอดค้างชำระของคุณที่ต้องชำระงวดเดือนหน้าคือ 11,095.xxบาทค่ะ(นั่นคือรวมที่เบิ้ลมาแล้ว) 2. คุณสุกัญญาเนี่ยshe เป็นถึงขนาดหัวหน้าแผนกสั่งซื้อสินค้าพิเศษเชียวนะแล้ว she ยืนยันหนักแน่นอย่างนั้น  ..จากสมองที่อาจจะใหญ่กว่าsheสัก2-3มิลลิเมตรคงสรุปได้ว่า “sheกันโฮมโปรประชาชื่นออกจากความรับผิดชอบในเงินที่ถูกรูดเกินนี้ของเราโดยสิ้นเชิงแต่มีติ่งห้อยของเยื่อใยไว้หน่อยว่าลองเข้าไปหาSHEหน่อยเผื่อจะหาทางช่วยเหลือให้ได้บ้าง(เหมือนชั้นไม่ได้ทำแต่อาจจะรู้วิธีช่วยไรเงี่ย) มึนตึบเลยเรา   เอาไงต่อดี  แล้วถ้าโดนก้อปบัตรละ  หรือมิจฉาชีพแบบอื่น แล้วจะโดนเพิ่มอีกไหม ถ้าเกิดตอนนี้มันไปเอาเงินเราไปใช้อีกแล้วละ   โอ้ย! ต่อมความเครียดและตื่นเต้นทำงานหนักมาก    ปิ้ง!ใช่แล้วแจ้งความ  ไปแจ้งความไว้ก่อน  จากนั้นเราวางแผนการเดินทางว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วโรงพักเปิดตลอดคืน  เราควรแวะไปโฮมโปรก่อน She อาจจะช่วยอะไรเราได้แล้วค่อยไปโรงพัก แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 11:28:39 จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 11:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้เริ่มมีเฉลยนะค่ะ (เรื่องทั้งหมดนี้ยังอยู่ในวันที่ 13นะค่ะ เป็นวันหฤโหดมากสำหรับเรา)ถึงมุลค่าอาจไม่มากแต่ความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของเงินสูง เล่าต่อนะคะ ก็ได้เข้าไปพบShe มา She ต้องการแค่ดูสลิปของเราเท่านั้น ว่ามันเป็นเวลาเดียวกับที่มีอยู่ในเครื่องจริง identify ตัวตนของเราว่าจริง แค่นั้นจริงๆที่เธอมีให้  แต่สำหรับเราได้อะไรมากกว่านั้น..  เราลองให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์คุยกับเธอถึงเรื่องหนี้ของเราผ่านทางมือถือของเราคุยที่บริเวณเคาวนเตอร์ที่ลูกค้าอื่นๆหน้าเป็นแถวๆนั้นเลยให้รู้กันไป  จับใจความส่วนที่เราไม่รู้มาก่อนได้ว่า โฮมโปรจะสรุปยอดการรูดบัตรทุกวันประมาณสี่ทุ่ม  คุ้นๆไหมค่ะดิชั้นถูกรูดซ้ำตอนสี่ทุ่มไงค่ะ  ถามซ้ำกลับไปกับศูนย์บัตรว่ายังยืนยันยอดหนี้ไหมค่ะ มางศูนย์ยืนยันยอดเดิม  หันมาถามทางShe ๆก็ยืนยันว่าไม่ได้มาจากเครื่อง(นี้) ของShe แน่นอน เราถามกลับไปว่า  ยืนยันไหมค่ะว่าองค์กรที่เรียกชื่อว่า โฮมโปรประชาชื่นทั้งหมดเนี่ยคุณจะสามารถยืนยันได้ไหมคะว่าไม่ได้มาจากคุณ ตอนนี้เริ่มอึกอักนิดหน่อยแต่ฟอร์มยังจัดอยู่ตอบไม่ตรงคำถามตอบแต่ย้อนคำถาม ว่าเรายืนยันว่าไม่ได้มาจากเครื่องที่คุณชำระ (อึกอัก)และคิดว่าไม่ได้มาจากเครื่องในโฮมโปร  ประโยคสุดท้ายจะแผ่วๆแต่พอได้ยิน ...ได้ยินอย่างนี้เราก็เก็บของเดินออกไปแบบคอตก หมดฟอร์มแล้วไง  แต่ที่มันปรี้ดจี้ดขึ้นมา คือหลังจากกเราผลักจากเธออย่าซึมกะทือ ได้ยินเสียงSheเปล่งตามมาว่า”ยินดีรับใช้ค่ะ คร่าวหน้ามาใช้บริการอีกนะคะ” เราก็หันหน้ากับไปยิ้มแล้วพูดกึ้งประชดว่า”คงไม่แล้วละค่ะ เข็ด” เราคุยกับแฟนตอนออกมาว่ามีโอกาสไหมที่เค้าจะทำการส่งยอดสรุปเป็นการส่งเรียกเก็บซ้ำ(ประมาณว่าปุ่มใกล้กัน ก็ได้แต่เก็บไว้เป็นข้อมูลใหม่ เราแอบคิดเองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ยังมีต่อนะคะ ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอุดหนุน เอ้ย! ไม่ใช่แค่ผ่านมาอ่านก็ชื่นใจแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 12:05:51 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 11:44:01 จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 11:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีอย่างนี้ด้วยหรือคะ เริ่มไม่สบายใจแล้วล่ะค่ะ เพราะนิยมใช้บัตรเครดิตซื้อของมาตลอด และถ้าเป็นห้าง จะไม่ได้ตามเขาไปดูที่รูดการ์ดซะด้วยซี และข้อสำคัญไม่ค่อยได้เช็คยอดเงินในสเตทเมนท์ที่แบงค์ส่งมา ต่อไปคงต้องเช็คแล้วล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าโดนไปบ้างหรือเปล่า ช่วงทำบ้าน ซื้อของที่โฮมโปรบ่อยเสียด้วยซี แนะนำว่า โทรเช็คแบงค์ว่ายอดที่เกิดเพิ่มขึ้นเป็นการรูดซื้อสินค้าจากที่ไหน ปกติแบงค์จะเช็คได้ ถ้าเขายืนยันว่าที่โฮมโปร ประชาชื่น คุณก็เอายอดนี้ยืนยันไปที่โฮมโปรประชาชื่นได้เลย จะตอบไม่รับรู้ไม่ได้ จากคุณ : lazylady - [ 16 พ.ย. 50 11:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆเช็คได้นะครับ ถ้าเราไม่ได้ใช้จริง และก็เทียบลายเซ็นต์ดูจากสลิปของทางร้านก็ได้ ถ้าไม่ใช้จริงอย่ายอมจ่ายเชียว ไม่งั้นเขาจะได้ใจทำกับคนอื่นอีก เงินทองกว่าจะได้มายากเย็นนัก จากคุณ : heang - [ 16 พ.ย. 50 12:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ออกจากโฮมโปรมาก็มาโรงพัก ไปสถานีที่ใกล้ที่สุดแต่ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนสถานี เฮ้อ เบื่อจิงๆเพราะอยู่คนละท้องที่ทั้งๆที่ใกล้HPสาขานี้มากๆ  กว่าจะแจ้งความเสร็จปาเข้าไปเกือบสามทุ่ม  อ้อ! เกือบลืม โทรไปอายัดและแจ้งความจำนงโดยคุยกับศูนย์ว่าเคลียร์หนี้ปิดให้ตอนนี้ยังไม่ได้เพราะยังมีกรณีพิพากกันอยู่ขออายัดเอาแบบถาวรเลย แล้วใบแจ้งหนี้ออกมาปลายเดือนเราจะติดต่อศูนย์อีกทีเพื่อชำระเงินและทำกระบวนการต่อไป  ทางศูนย์ก็อายัดให้ จากนั้นต้องหมั่นโทรไปเช็คเพราะเราไม่มีหลักฐานการอายัดเป็นลายหลักอักษร จนแน่ใจว่าคอมได้ลงบันทึกการอายัดจริง  ก็แจ้งความ (แจ้งทุกเรื่องที่เกิดขึ้นจริง สถานที่จริงชื่อบุคคลจริง เวลาจริง หลักฐานการจ่ายเงินจริง พอแจ้งความเสร็จ    แล้ว อ้อนคุณตำรวจว่า” คุณตำรวจค่ะ หนูขออนุญาตหักบัตรตรงนี้เลยนะค่ะ   (หนู) กลัวโดนเรียกเก็บเพิ่มมากกว่านี้ ถ้ามันมียอดมากกว่านี้หนูไม่จ่ายนะคะ.” คุณตำรวจทำหน้าขึงขังไม่รับมุก ตอบว่า ”มันเป็นสิทธิ์ของคุณจะหักก็ ตามใจคุณ. “แป๋ว!!  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานีตำรวจท่าน้ำนนท์ให้บริการดีนะคะทั้งๆที่มันเป็นเวลาขนาดนั้น  ตำรวจไทยดีๆยังมีอยู่ค่ะ เพียงแต่เข้าใจหัวอกกันและกันสักนิด ผู้รับบริการมากกว่าผู้ให้บริการอะไรๆมันก็อาจไม่ได้อย่างใจเราทุกอย่าง   มีอีกเรื่องเล่าข้ามไปก่อนจะไปวันใหม่นะคะ คือตอนเรากำลังรอคิวแจ้งความ คุณสุกัญญโทรมาโดยใช้PCT โชว์หมายเลขเครื่องไม่โชว์เบอร์ มาพูดดีกว่าตอนแรกมาก (พึ่งออกจากเค้ามาเมื่อกี้ ตอนก่อนไปโรงพักไงค่ะ) โทรมาเพื่อขอชื่อพนักงานศูนย์เครดิตทุกคนที่เราคุย เราก็เอะ ทำไม พอรูว่าเราจะมาแจ้งความจะโทรไปขู่พยานเรารึไง(ประมาณดูCSIมากไปนิด) ก็เลยให้แฟนคุย   สรุปSheบอกว่าถ้ารู้ชื่อพนักงานจะสามารถร่นระยะเวลาตรวจสอบจาก3-7วันเป็น1-2วันได้ แฟนเราเลยบอกว่าจิงๆพวกคุณน่าจะติดต่อเรื่องพวกนี้เองได้ไม่ยากหรือถ้าไม่รู้จิงๆคุณก็บอกเวลาไปก็ได้พนักงานที่จะรับโทรศัพท์ช่วงเวลานั้นๆก็น่าจะมีไม่น่ากี่คนก็เรียกมาถามซิ ก็ไม่ให้ไป วางหูไปเรากับแฟนงงว่ามาไม้ไหนวะ  ถ้าเมื่อกี้ ก่อนออกมา สนทนาเปิดสายสัมพันธ์ไว้บ้างเราคงหลงกลบอกแล้ว  แต่ปิดการสนทนาซะขนาดนั้น ไม่รู้ๆๆๆไม่เกี่ยวกับเราๆๆๆอย่างเดียว  แต่พอเรามาถึงโรงพักก็โทรมายื่นความช่วยเลือให้เรื่องมันง่ายขึ้นโดยต้องบอกข้อมูลที่มีทั้งหมดมาให้เรา งี้เหรอแปลกๆ ไม่เนียนเลย  เป็นคุณๆจะให้ไหม แล้ววันนั้นก็จบลง ด้วยบทสรุปของตัวเองว่า ให้เราทำใจว่าเราเสียเงินก้อนนี้ไปแล้วกัน เราก็ดำเนินการป้องกันการเสียเงินปริมาณมากกว่านี้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ดีกว่าเสียเต็มวงเงินโดยที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ (เจ้าหน้าที่ศูนย์บัตรบอกว่าเราสามารถทำเรื่องปฏิเสธการจ่ายเงินได้ภายหลังแต่ต้องเกิดขึ้นหลังจากใบแจ้งหนี้ออกแล้ว  เพราะการตรวจสอบยอดระหว่างงวดทางโทรศัพท์ไม่สามารถดำเนินการใดให้ได้ คล้ายๆว่าปลายงวดก่อนเรียกเก็บเนี้ยเค้าจะ recheck ความสับเพลา เอ้ย! ความถูกต้องกันอีกครั้งนึง อะรัยยังเงี้ย) แต่ ใครจะรอจนใบแจ้งหนี้ออกมาทั้งๆที่รู้ก่อนแล้ว แล้วนิ่งอยู่เฉยๆใช่ไหมค่ะ ยังมีอีกนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 13:11:39 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 12:54:12 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 12:33:18 จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 12:31:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับ คห.8 จากคุณ : bejita - [ 16 พ.ย. 50 12:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าสถานที่ซื้อรายการที่ 3 เป็นโฮมโปรสาขานั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ รอใบแจ้งหนี้มา แล้วทำเรื่องไม่ไดซื้อรายการนั้น รอบัตรเครดิตตรวจสอบลายเซ็นบนสลิปรายการนั้นกับทางโฮมโปรถ้าไม่ตรงกับของคุณ ก็จบครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 12:56:46 จากคุณ : INK-JET - [ 16 พ.ย. 50 12:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รอดู กด F5 ถี่ จากคุณ : njbl - [ 16 พ.ย. 50 13:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รออ่านต่อครับ ว่าแต่ว่า ทำไมมีคนเสนอลบเรื่องนี้ด้วยเหรอ? ผิดตรงไหนอ่ะครับ? จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 16 พ.ย. 50 13:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราไม่ค่อยได้เข้ามาโพสหรอก อาจไม่รู้ว่ายังงัยควรหรือไม่ควร เขียนเปิดสมาชิกเอาไว้เพื่อปรึกษาผู้รู้เรื่องการปลูกบ้าน ตอนนี้เกือบเสร็จแล้วค่ะ  แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนพันทิพที่ช่วยเตือนอันที่ไม่ดี  งานนนี้อาจโดนยึดอมยิ้ม  แต่ต้องการเตือนและเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาจิงๆ  แต่สรุปตอนสุดท้ายอีกทียังไม่ถึงค่ะ  เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 13:22:20 จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 13:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จะรออ่านและให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : น้องพริก (น้องพริก) - [ 16 พ.ย. 50 13:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยโดนเหมือนกันนะ จริงๆแล้วของผมมาเจอตอนได้รับใบแจ้งหนี้จากบัตรเครดิต เป็นการซื้อของที่duty freeสนามบิน เลยโทรเข้า call center ของบัตรเครดิตบอกว่าเราซื้อของราคานี้จริง แต่เป็นการซื้อแค่ยอดเดียว ทางบัตรเครดิตก็บอกว่าจะตรวจสอบให้ เค้าก็บอกว่าให้จ่ายเฉพาะยอดที่เราคิดว่าถูก แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าเราจำผิด เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจสอบรายการประมาณสองร้อยกว่าบาท และยอดที่เราไม่ได้จ่ายไปนั้นก็จะมีดอกเบี้ยด้วย เรามั่นใจมากว่าไม่ผิดแน่ๆก็เลยจ่ายแค่ยอดที่ถูก พอใบแจ้งหนี้งวดถัดไปมาถึง รายการที่ผิดก็ล้างบัญชีออกไปแล้ว ผมว่าเจ้าของกระทู้อาจจะใจร้อนไปนิดนึงตรงที่รอให้ใบแจ้งหนี้มาก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งศูนย์บัตรเครดิต บอกให้ตรวจสอบรายการที่เบิ้ล แล้วมันน่าจะคล้ายๆกับกรณีของผมนะ ยังไงก็มารายงานผลด้วยละกันนะครับ จากคุณ : ร้อยแปด ร้อยเก้า - [ 16 พ.ย. 50 13:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่ากระทู้นี้น่าเป็นห่วงนะ จะว่าเป็นประโยชน์ ก็ได้จะว่าไร้สาระก็พอทน โดยความคิดของผมนะ คุณไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งหมด คุณเป็นคนรู้มากถึงมากเกินไป คุณเป็นฝ่ายนำเสนอในมุมของคุณข้างเดียว คุณเป็นคนนำเสนอที่ดูให้คุณดูน่าเป็นห่วงมาก และผมเดาว่าคุณก็จะเป็นคนลบกระทู้นี้เอง  แต่ยังไงผมก็รู้สึกว่าคุณเป็นคนฉลาดนะ ฉลาดที่โทรเช็คยอดการใช้ตลลอดเวลา และ เป็นคนที่มีเวลาว่างมากๆ ที่มีเวลาโทรเช็คยอด โทรตามเรื่องต่างๆ ไปแจ้งความและรวมทั้งมีเวลามานั่งโพสซะยาวเลย  สรุปผมว่าคุณควรจะ โทรอายัดบัตร โทรแจ้งเจ้าของบัตรขอรับกราบันทึกเสียงและขอชื่อเจ้าหน้าที่ที่คุย  รอจนยอดมาถ้าไม่มียอดซ้ำจบ ถ้ามีขอดูรายการสลิบ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ใช้จริงมันก็จะไม่มีสริปที่มีรายเซ็นต์คุณ หรือถ้ามีจริง รายการซ้ำ ทางแบงค์เค้าจะรู้  แต่ถ้าคุณ Proactive มากเกินไปทุกอย่างยังไม่ได้โดนตรวจสอบ แล้วคุณก็จี้ๆ ไปทุกอย่าง ผมว่าคุณก็เกินไปนะ ง่ายๆ เงินคุณถ้าคุณไม่ได้ใช้ก็อย่าไปจ่ายนะ ให้เค้าหาหลักฐานมายัน นี้ละข้อดีของบัตรที่เรียกว่าเครดิต คิดแบบง่ายๆ เข้าไว้ เอาสมองกะเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ จากคุณ : ตรงไปตรงมา (pjaNNy69) - [ 16 พ.ย. 50 14:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาแล้วค่ะ พอคุณสุกัญญx วางหูไป  ก็เป็นคุณปัญญxเค้าว่าเป็นผู้จัดการอะไรซักอย่างที่ใหญ่กว่าสุกัญย  พอดีเรากำลังคุยกับตำรวจเลยให้แฟนคุย แฟนเล่าว่า ฝากบอกเราว่าให้รอก่อนถ้ามันเรียกเก็บมาจิงๆเค้าจะรับผิดชอบให้ เราคุยกับตำรวจเสร็จ  ก็โทรกลับหาเค้าแต่มันเป็น call center ต่อไปที่โต๊ะเค้าก็ไม่อยู่แล้ว ความดีใจที่จะได้เงินคืนเมื่อตะกี้ก็หายไป เพราะติดต่อเค้าไม่ได้  แต่รู้ว่าเริ่มมีความปั่นปวนบางอย่างคืบคลานในองค์กรนี้แล้ว วันที่14 เงียบเชียบทั้งวัน    โทรถามสถานะบัตร-อายัดแล้วและยอดหนี้ยังคงเท่าเดิม    ใจเริ่มแทงบัญชี มีต่อค่ะ จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 14:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรียนคุณตรงไปตรงมา (pjaNNy69)ด้วยความเคารพ   (อ่านของคุณก่อนแล้วอ่านต่อนะคะ )....แต่ก็ให้ใครทำอะไรก็ได้ในบัญชีของเราระหว่างเดือนไปเรื่อยๆ สนุกดีที่ได้ขึ้นโรงพัก อายัดบัตร สั่งซื้อของก็ยังไม่ได้อย่างนี้เงินก็เสียไปสองเด้งเงี้ยเหรอค่ะ ฮืม น่าคิดนะค่ะ จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 14:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จะจบแล้วค่ะเริ่มมีคนรำคาญ อาจเป็นเพราะเราเองที่เล่าเหยินเย่อ พอคุณสุกัญญx วางหูไป  ก็เป็นคุณปัญญxเค้าว่าเป็นผู้จัดการอะไรซักอย่างที่ใหญ่กว่าสุกัญย  พอดีเรากำลังคุยกับตำรวจเลยให้แฟนคุย แฟนเล่าว่า ฝากบอกเราว่าให้รอก่อนถ้ามันเรียกเก็บมาจิงๆเค้าจะรับผิดชอบให้ เราคุยกับตำรวจเสร็จ  ก็โทรกลับหาเค้าแต่มันเป็น call center ต่อไปที่โต๊ะเค้าก็ไม่อยู่แล้ว ความดีใจที่จะได้เงินคืนเมื่อตะกี้ก็หายไป เพราะติดต่อเค้าไม่ได้  แต่รู้ว่าเริ่มมีความปั่นปวนบางอย่างคืบคลานในองค์กรนี้แล้ว วันที่14 เงียบเชียบทั้งวัน    โทรถามสถานะบัตร-อายัดแล้วและยอดหนี้ยังคงเท่าเดิม    ใจเริ่มแทงบัญชีศูนย์ วันที่ 15             เที่ยง15นาที   โทรถามสถานะบัตร-อายัดแล้วและยอดหนี้ยังคงเท่าเดิม  เจ้าหน้าที่บัตรคุยดีรับฟังและปลอบว่าไม่ต้องกลัว  แต่รอสิ้นเดือนก่อน(อีกแล้วคับท่าน)  แล้วค่อยส่งใบปฏิเสธการจ่ายมา  ทำนองว่าเรื่องแก้ได้พี่อะไรอย่างนี้ บอกชื่อด้วยว่าสงสัยอะไรโทรหาได้  อุ่นใจขึ้นมานิด            ประมาณสามโมง  เจ้าหน้าที่HPอ้างว่าทำหน้าที่ประสานงานและชี้แจงกรณีนี้ว่า(ลืมถามชื่อแต่ไม่น่าใช่คนเดิม)           ”ในวันที่12ที่น้องได้มารูดบัตร..”           “ขอโทษนะคะดิชั้นไม่เคยมีพี่สาวทำงานอยู่ที่นี่”  ถึงกับอึ้ง ขอโทษนะคะท่านผู้อ่านที่ไม่สุภาพก่อนก็มันโกรธนี่ค่ะ   เธอตอบเสียงแข็งกลับว่า.          ”ดิชั้นหมายถึงน้องคนที่เป็นคนรูดให้ลูกค้าคะไม่ใช่ลูกค้าคะ”ไถลไปได้ แล้วแจงต่อ          ”วันนั้นทางห้างเราได้มีระบบไฟฟ้าขัดข้อง ..” เห็นไหมละ  ว่าแล้วเชียว เร็วเท่าความคิดสวนกลับไปว่า         “ ก็คือจะโทรมาบอกว่าผิดพลาดที่ทางโฮมโปรแต่ไม่ยอมรับตั้งแต่แรก”ดิชั้นพูด         “คือดิชั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ทราบว่าใครพูดอะไรบ้าง แค่มีหน้าที่มาชี้แจง”         “ถ้าคุณไม่รู้เรื่องแล้วคุณจะชี้แจงถูกได้อย่างไรค่ะไปตามคนที่รู้เรื่อง อยู่ในเหตุการณ์มาพูดดีกว่าคะ”          “ดิชั้นเนี่ยแหละค่ะถูกมอบหมายให้มาพูดเรื่องนี้กับลูกค้า”          “อ้าวก็บอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์”          “อย่างนี้คุณก็ควรจะเป็นคนรับสารคำร้องเรียนจากชั้นกลับไปด้วยเรื่องความผิดพลาดในการทำงานจนทำให้ชั้นต้องเสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาล อายัดบัตร ถูกต้องไหมค่ะ  ไม่ใช่พูด วิจารณ์(หรือด่าอะไรกลับ)ก็มีอาการปัดป้องบอกว่าไม่อยู่ในเหตุการณ์”                 เงียบ       “ให้คุณรอใบแจงหนี้ปลายเดือน เราได้ประสานลบออกให้แล้ว มันจะไม่มีในใบแจ้งหนี้ของคุณ”        เท่าที่ฟังจับใจความได้เท่านี้จิงๆเพราะโกรธจนหูตาลายวางหูไป         วางหู  ตั้งสติ  รีบโทรไปเช็คยอดอีกครั้งตอนสามโมงกว่าเกือบสี่โมง โทรถามสถานะบัตร-อายัดแล้วและยอดหนี้ยังคงเท่าเดิม  ทำไมๆๆๆ  ทำไมละ   จะหลอกกันไปถึงหนายยย  เมื่อไหร่จะลบให้(ที่เขียนเล่าได้อย่างนี้เพราะลึกๆท่องเอาไว้ว่าเสียสองพันดีกว่าเสียห้าหมื่น  อย่างน้อยก็แค่สองพันเองๆๆๆจำไว้) วันที่16 วันนี้          สรุปว่ายังไม่รู้ลูกผีลูกคน  วันนี้ยังไม่ได้เช็คคะ จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 14:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ด้วยความเคารพเช่นกัน "แต่ก็ให้ใครทำอะไรก็ได้ในบัญชีของเราระหว่างเดือนไปเรื่อยๆ " ก็คุณอายัดแล้วก็ร้องขอการบันทึกเสียงแล้ว ใครจะไปใช้บัตรคุณได้ละครับ ถึงใช้ได้ก็มีหลักฐานการบันทึกเสียงแล้วครับ%%%%คิดๆๆๆ@@@@@ "สนุกดีที่ได้ขึ้นโรงพัก" อันนี้ไม่สนุกถึงได้บอกไง แต่ถ้าทางคุณจะสนุกนะผมว่า "อายัดบัตร สั่งซื้อของก็ยังไม่ได้อย่างนี้เงินก็เสียไปสองเด้งเงี้ยเหรอค่ะ ฮืม น่าคิดนะค่ะ " ผมว่าที่น่าคิดนะความคิดคุณนั้นละครับ  อายัดบัตรไม่ได้เกี่ยวกะของที่คุณสั่งเพราะยอดตัดไปแล้วยังไงของก็ต้องส่งครับ ใครเป็นคนส่งของ  ใครเป็นคนดำเนินการธุรกรรม @@@@คิดๆๆๆๆ@@@@ เงินจะเสียสองเด้งได้ไงก็คุณจ่ายไปซักแดงหรือยัง(กลับไปอ่านข้างบนด้วย) ผมว่าคุณจะดูเหมือนรอบคอบและฉลาดนะ แต่คิดไปคิดมาผมว่าคุณอย่าคิดซับซ้อนมากเลย เพราะการใช้บัตรเครดิตมันมีประโยชน์บางอย่างที่คุณน่าจะเอามาใช้ได้นะ @@@@คิดๆๆๆๆๆ@@@@ จากคุณ : ตรงไปตรงมา (pjaNNy69) - [ 16 พ.ย. 50 14:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่เกี่ยวกับเรื่อง จขกท ก็เพิ่งได้จดหมายของ citibank มาบอกให้ติดต่อกลับ เพราะข้อมูลเราเคยไปรูดจากแหล่งที่เสี่ยงต่อการปลอมบัตร ก็เลยโทรคุยกัน แล้วเค้าก็ยกเลิกบัตรให้เลย แล้วจะออกบัตรใหม่ให้อีก 1 อาทิตย์ เรื่องบัตรนี้ มันไม่เข้าใครออกใคร จะไปรูดที่ไหน ก็ระวังไว้ด้วย โดยเฉพาะ ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร นิ จากคุณ : น้องปลาดาว - [ 16 พ.ย. 50 14:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ ตรงไปตรงมา (pjaNNy69) อย่าว่าผมคิดมากเลยนะครับ ทำไมคุณถึงร้อนตัว ในเรื่องที่คุณ จขกท มา post เล่าเรื่องให้คนอื่นๆ รับรู้ด้วยละครับ หรือว่าคุณ...................... แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 14:54:20 จากคุณ : ^vOlvO^ - [ 16 พ.ย. 50 14:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ท่าทางไม่เบานะเนี้ย ดูแล้วเรื่องน่าจะจบพร้อมด้วยความสะใจของคุณนะผมว่า  บวกกับอะดินนาลีนที่พุ่งพรวดในร่างกายคุณ ขี้เกียจสีซอ แล้ว ไปละ จากคุณ : ตรงไปตรงมา (pjaNNy69) - [ 16 พ.ย. 50 14:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ จขกท คะ  เราและสามีเคยโดนอย่างนี้เหมือนกันค่ะ  หลายครั้งด้วย ทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน ร้านค้า มารู้อีกทีตอน statement มาเรียกเก็บเงินด้วยซ้ำ บางครั้งยอดเบิ้ลเวลาที่รูดติดกันเลยซึ่งยากกว่าการตรวจสอบมากกว่ากรณีของคุณซะอีก กรณีของคุณ เราเห็นด้วยกับคุณตรงไปตรงมาค่ะ ว่าคุณตรวจสอบเร็วเกินไป  พอตรวจสอบได้ก็ใจร้อนเกินไป (ที่จะให้ยอดจ่ายเงินกลับมาเท่าที่ใช้)  เชื่อเถอะค่ะ ท้ายที่สุดยอดที่คุณไม่ได้ใช้ระบบมันจะลบออกไปเอง  เค้าต้องตรวจสอบเจอค่ะ  ถ้าคุณรูดที่โฮมโปรเค้าก็ต้องมีสลิปพร้อมลายเซ็นต์ไปเรียกเก็บที่บริษัทบัตรเครดิตหรือธนาคารต้นสังกัด  ซึ่งสลิปที่รูดเบิ้ลนี้ทางโฮมโปรไม่มีแน่นอน (ยกเว้นคุณจะกลับมาให้เค้ารูดอีกครั้งตอน 4 ทุ่มจริงๆ หรือบัตรโดนก๊อปปี้ข้อมูลซึ่งคนทำก็ไม่น่าจะรูดซ้ำด้วยยอดเท่าเดิม)  เราเข้าใจว่าคุณกังวล แต่เชื่อเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณจะต้องคิดว่าไม่น่าคิดมาก ตีตนไปก่อนไข้เลย เสียเวลาทำการทำงานเปล่าๆแถมทำให้กระวนกระวายใจไปซะตั้งหลายวัน  แนะนำจากประสบการณ์ตัวเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 15:07:53 จากคุณ : chompoo75 - [ 16 พ.ย. 50 15:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรียนทุกท่านที่ติดตาม          อย่างที่ได้ออกตัวมาก่อนหน้านี้แล้วและจะสรุปดังนี้ 1. จากการที่มีข่าวเรื่องอาชญากรรมทางอิเลคทอนิค  เราควรเพิ่มความระมัดระมัดระวังในการใช้บัตรเครดิตมากขึ้น มันไม่ใช่เรื่องวิตกจริตจนเกินเหตุอีกแล้วนะคะกับการที่ไม่ตามไปดูเครื่องรูดตอนชำระสินค้า บัตรก็ถูกก้อปไปรูดจนหมดวงเงินก็มีมาให้เห็นนักต่อนักแล้ว แม้กระทั่งเราดูตอนรูดบางทีก็ช่วยไม่ได้เพราะเค้าจะมีเครื่องขนาดใหญ่กว่ามือถือเล็กน้อยอยู่หลังร้าน ค่อยดูดข้อมูลเราอยู่ ฟังมาจากรายการตาสว่าง ที่คุณดู๋ออกกับตำรวจที่สอบสวนเกี่ยวกับคดีบัตรเครดิต และอาชญากรทางอินเตอร์เนต 2. กรณีถูกเรียกเก็บสองรอบทั้งที่มีบัตรหรือไม่มีบัตรให้เค้ารูดก็ได้  กรณีแม่ดิชั้นใช้บัตรรูดค่ารักษาพยาบาลที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งหลายปีมาแล้ว แต่แม่ไม่ทราบเรื่องโดนเบิ้ล ทางโรงพยาบาลทราบก่อนเอาเงินสดมาคืนให้ถึงมือพร้อมกับขอโทษจนแทบกราบ  ที่บอกว่าไม่มีบัตรก็ทำได้ก็เช่นกรณีของดิชั้นไงยอดขึ้นที่ศูนย์บัตรหลังจากซื้อสามถึงสี่ชั่วโมงกับบ้านไปนอนตีพุงนานแล้ว ,กรณีซื้อของทางอินเตอร์เนตจำพวกประมูลของใช้แค่หมายเลขบัตรและก็ชื่อเจ้าของบัตรเท่านั้น 3.การตรวจสอบยอดที่ใช้ไปแต่ละเดือนทำได้ง่ายมากๆทั้งทางอัติโนมัติโดยใช้รหัสผ่านหรือผ่านทางcall centerที่จะต้องบอกข้อมูลส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ จะสามารถถามได้ทันทีหลังซื้อได้เลยแต่อาจจะบอกรายละเอียดเช่น สถานที่ซื้อ ชนิดสินค้า เวลาที่ซื้อไม่ได้ทันที แต่ทราบยอดหนี้ที่แน่นอนได้เลย(ถ้าไม่เจอกรณีโดนเบิ้ลเหมือนของดิชั้น) 4.แนวทางการป้องกันการเคลื่อนออกของเงินในบัญชีโดยไม่รู้ตัวผ่านทางบัตรเครดิตเท่าที่คิดได้ น่าจะทำดังนี้ 4.1.หมั่นตรวจสอบเสมอถึงยอดที่เราใช้ไปแล้ว หรือแม้กระทั่งเราถือไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ตามว่ามันมีการเคลื่อนไหวไหม 4.2 เลือกใช้บัตรที่มี chip อยู่ลองขอของเพื่อนที่ทำรุ่นใหม่กับธนาคารดังๆดูมันจะเป็น แผ่นเล็กๆทองๆฝังอยู่ มันจะเป็นตัวยืนยันความปลอดภัยให้เราได้มากกว่าเครดิตปกติอีกชั้นหนึ่ง แต่ช่วยยังงัยในเชิงเทคนิคอันนี้ไม่ทราบจิงๆลองฟังคนอื่นแล้วกัน 4.3 พวกvisaหรือ master card เค้าจะมีหน่วยงานตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยให้เราอยู่แต่ต้องทำตามกระบวนการของเค้า ยังไม่ได้เข้าเจาะลึกเรื่องนี้เพราะยังไม่ถึงเวลา ถ้าทราบจะเอามาเล่าให้ฟัง เช่นพวกการ ทำบันทึกปฏิเสการชำระ ยืนยันพร้อมหลักฐานที่มี แล้วรอไปผ่านกระบวนการตรวจสอบของเค้า ประมาณนี้ นึกได้แค่นี้ค่ะ 4.4 เวลามีปัญหาใดๆลองคุยกับทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่บัตรหรือร้านค้าดีๆ ก่อนบางทีเรื่องมันพออลุ้มอลวยหรือแก้ไขกันได้โดยที่เราไม่รู้  แต่ถ้าผิดพลาดเกินลิมิตก็คงต้องมีเรื่อง ขอโทษที่รบกวนผู้มาอ่านแล้วหงุดหงิดหัวใจ หวังว่าคงเป็นประโยชน์บางไม่มากก็น้อย จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 15:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ 23 ครับ ผมก็แค่คิดว่า  ว่าจขกท เค้าเกินไป และก็ กำลังทำให้หลายๆคน รวมทั้ง บางบริษัท เสียหายนะ ผมว่าไม่แฟร์ ก็แค่นั้น   ไม่ได้เข้าข้างใคร จากคุณ : ตรงไปตรงมา (pjaNNy69) - [ 16 พ.ย. 50 15:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จริงๆ แล้วคุณ จขกท. ใจร้อนไปหน่อยนะครับ แค่ใบแจ้งหนี้มา แล้วก็โทรแจ้งให้ตรวจสอบ ปฏิเสธการใช้ เรื่องก็น่าจะจบ ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน และกระบวนการในการตรวจสอบครับ อ้อ ขั้นตอนพวกนี้ ต้องใช้เวลาครับ จะให้มันทันใจภายในวัน 2 วัน คงจะไม่ได้หรอกครับ ลูกค้าเค้าไม่ได้มีแค่คุณคนเดียวนะครับ ปล. สงสารเจ้าหน้าที่ HP ที่โทรมาวันที่ 15 จัง เหมือนคุณไม่เปิดโอกาสให้เค้าพูดเลย นึกถึงใจเค้าใจเรานะครับ ใจเย็นๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : RSM - [ 16 พ.ย. 50 15:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้วก็เห็นใจเจ้าของกระทู้นะค่ะที่เห็นยอดเห็นเกินจริง แต่ทุกอย่างไฮเทคมันสามารถขัดข้องกันได้ด้วยเฉพาะเครื่องรูดบัตรและการสื่อสารบางครั้งรูดครั้งแรกเซลสลิปไม่ขึ้นก็ต้องรูดอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าซ้ำหรือเปล่าเพราะสลิปไม่ขึ้น แต่ถ้าซ้ำไม่ต้องกลัวค่ะเรามีหลักฐานการเซ็นรับอยู่แล้วเมื่อยอดไม่ต้องก็ปฏิเสธการจ่าย แบงก์เจ้าของบัตรก็เดือดร้อนเองแล้วจะทำการเช็คกับร้านค้าให้เองโดยเราไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ถ่ายสำเนาลายเซ็นต้องจริงที่ใช้ยืนยันกับเค้าทำนั้นเอง เพราะรูดเสร็จปิดยอดประจำวันยอดเงินก็จะโอนไปเข้าร้านค้าในวันรุ่งขึ้นเลย ทางบัญชีร้านค้าจะรู้ว่ายอดซ้ำหรือไม่ เพราะมีสลิปให้ตรวจเช็คอยู่แล้ว       อย่าตกใจเกินกว่าเหตุไม่ตรงก็ไม่จ่ายแค่นั้นเองเจอบ่อยการรูดซ้ำที่เกิดจากเครื่องขัดข้องก็คืนเงินให้ลูกค้าไปทุกอย่างตรวจสอบได้ไม่ต้องกลัว จากคุณ : thichanop@hotmail.com (กล่อมพิรุณ) - [ 16 พ.ย. 50 15:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เพื่อนเราบัตรถูกไปใช้ที่อเมริกาโน้น  แต่ว่าทางเจ้าของบัตรเค้าโทรมาบอก แล้วบอกให้เพื่อนเราปฏิเสธการจ่ายเงินไป  ไม่มีไรหรอกค่ะ ใจเย็น ๆ นะคะ จากคุณ : เจ้อ้วนเองจ้า - [ 16 พ.ย. 50 15:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วันสุดท้ายเจ้าของกระทู้ พูดได้แย่มาก เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเค้าอุตส่าห์ตั้งใจจะอธิบายคุณ แค่พูดคำว่า "น้อง" คุณก็ไม่พอใจ ถ้าใช้คำว่า "คุณ" คุณก็คงจะรู้สึกมากกว่านี้ คนไทยเรานับถือกันเป็นพี่เป็นน้องน่าจะรู้สึกดีกว่านะ เวลาเราโทรไปติดต่อที่ไหน หรือถามยอดแบงค์เราก็เรียกเค้าว่า "น้อง และแทนตัวเองว่า พี่" นะ เพราะรู้สึกได้จากน้ำเสียงว่าเค้าเด็กกว่าเรา มันรู้สึกดีกว่าที่จะเรียกว่า คุณๆๆๆๆ แล้วก็ที่บรรยายมาทั้งหมดเนี่ยนึกภาพออกเลยว่าตอนเล่าให้ใคร ๆ ฟังคงใส่อารมณ์น่าดู สำบัดสำนวนน่าชมนัก.. จากคุณ : เอื้ออารี - [ 16 พ.ย. 50 16:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมก็ว่า จขกท. เกินไป ทำไม่รอให้สลิปออกมาก่อน ผมว่าเรื่องที่เกิด ปกติ แต่การเช็คระหว่างเดือนผมว่า เช็คได้แต่ใช้เวลามากๆ บางิย่างมันมีขั้นตอนและรอบของมันอยู่ เป็นผมผมจะแจ้งทางร้านที่ผมไปใช้บริการ และรอจนได้รับใบแจ้งหนี้ แล้วค่อยตามต่ออีกที จากคุณ : SAR-TEE - [ 16 พ.ย. 50 16:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ประเด็นมีนิดนึงนะคะ 1.ยอดเพิ่ม ไม่ใช่จ่ายหรือไม่จ่าย กับ 2.การสื่อสารกับลูกค้า      ยอมรับที่อาจจะหาเรื่องใส่ตัว(ไปรู้เรื่องก่อน)และควบคุมอารมณ์ไม่ดีพอแต่ อือ... จะบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ละคะ คิดว่าไง "เราต้องขอโทษนะคะที่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ตอนนี้ทางเราเองยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จากการตรวจสอบเบื้องต้นในเครื่องที่ลูกค้ามารูดได้มีการรูดแค่ครั้งเดียวแต่เราจะพยายามตรวจสอบต่อไปนะคะ " วันต่อมา "ตรวจสอบให้แล้วนะคะ อาจจะมีความผิดพลาดด้านอื่น..........ที่ไม่ใช่ทางเราแต่เราจะช่วยประสานให้นะคะ" หรือ "ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เราได้ตรวจสอบแล้วทราบว่ามีการขัดข้องของระบบไฟฟ้าขณะนั้นแล้วพนักงานได้ทำการเรียกเก็บซ้ำ แต่เราจะทำการยกเลิกให้โดยด่วนคะ ต้องขอโทษนะคะที่ทำให้เสียเวลา." แล้วระหว่างนั้นลูกค้าก็รอโทรศัพท์กลับอย่างเดียว ไม่เป็นอย่างนี้   ดูดีกว่าไหมค่ะ ในด้านจิตวิทยาผู้ให้บริการไม่ควรตั้งตนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้รับบริการ ไม่ใช่หรือค่ะ ขอน้อมรับทุกcommentค่ะ จากคุณ : Trigger Fish - [ 16 พ.ย. 50 16:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถึงคุณเจ้าของกระทู้ เราเคยทำงานที่มันต้องเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันคะ อยากให้ จขกท ใจเย็นๆนะคะ 1. แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางบัตรเครดิตให้เขาบันทึกเรื่องเอาไว้ แล้วคุณก้อเก็บใบเสร็จ เซลล์สลิปบัตรเครดิตให้ดีคะ ส่วนที่เป็นของลูกค้าอะคะ 2. ถ้าทาง HP บอกว่าแจ้งไปทางบัตรเครดิตแล้ว ทีนี้กอ้ได้แต่รอคะ เพราะว่า มันต้องใช้เวลาในการดึงยอดออก ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่า ใช้เวลากี่วัน แต่ถ้าวันที่คุณรูดบัตร นานกว่าวันสรุปยอดบัตรซัก 7- 10 วัน ยอดที่เกิดไม่น่าจะมี แต่ถ้าน้อยกว่านั้น ก้ออาจจะมียอดใช้จ่ายเกิดขึ้นในใบแจ้งหนี้ 3. ถ้าเกิดรายการในใบแจ้งหนี้ขึ้น ใจเย็นๆนะคะ โทรไปที่บัตรเครดิตอีกรอบ ถามเขาว่ายอดนั้น ทาง HP แจ้งยกเลิกให้รึยัง เขาสามารถตรวจสอบได้จากบันทึกข้อมูลคะ แล้วก้อแนะนำคุณ จขกท ทำจดหมายปฎิเสธยอดนั้นไป เล่าให้ระเอียดนะคะในจดหมาย เลขที่บัตร วันที่เกิดเหตู สถานที่ ทีนี้ทางบัตรเครดิตเขาจะเช็คกับ HP เอง ซึ่งเขาจะดูจากเซลล์สลิปของร้านค้า ที่คุณได้เซ็นชื่อไว้คะ ถ้าคุณยืนยันว่ารูดไปยอดเดียว มันก้อต้องมีสลิปใบเดียวทีมีลายเซนต์คุณคะ 4. ทำจดหมายร้องเรียนไปทาง HP ถึงกรณีที่เกิดขึ้น มันอาจจะเกิดเพราะอุบัติเหตูก้อได้นะคะ เช่น ไฟช็อต หรือถ้าพนักงานทำผิดเอง แต่ไม่รับผิด ก้ออย่าไปยอมคะ ยืนยันคะไม่ต้องจ่าย ไม่ต้องเป็นห่วง เก็บสลิปที่คุณมี ใจเย็นๆ รอใบแจ้งหนี้มาค่อยเช็คอีกมีดีกว่า เด๋วจะอารามณ์เสียไปมากกว่านี้นะคะ จากคุณ : Maple Syrup - [ 16 พ.ย. 50 16:14:39 A:58.9.105.97 X: TicketID:159643 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ แต่ . . . พอเจ้าหน้าที่เค้าโทรมาบอก คุณไปว่าเค้าทำไมครับ เค้าก็ทำตามหน้าที่ ฝ่ายที่ติดต่อลูกค้ามันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเค้า จะให้เอาพนักงานคิดเงินมาโทรหาลูกค้ารึไง คิดสิคิด ”ในวันที่12ที่น้องได้มารูดบัตร..” >> เค้าหมายถึงคุณได้ไปรูด/ใช้บัตร ไม่ได้หมายถึงรูดเองกับมือ “ขอโทษนะคะดิชั้นไม่เคยมีพี่สาวทำงานอยู่ที่นี่”  ถึงกับอึ้ง >> คิดได้ไงครับ ขอโทษนะคะท่านผู้อ่านที่ไม่สุภาพก่อนก็มันโกรธนี่ค่ะ   เธอตอบเสียงแข็งกลับว่า. ”ดิชั้นหมายถึงน้องคนที่เป็นคนรูดให้ลูกค้าคะไม่ใช่ลูกค้าคะ”ไถลไปได้ แล้วแจงต่อ >> มันไถตรงไหน อ่านกี่ทีก็ไม่เห็นมันแปลกตรงไหน เค้าแค่อธิบายคำพูดแรก อ่านไปอ่านมาผมว่าถ้าคุณหัดรับฟังและใช้ความคิดก่อนที่จะพูดจะทำอะไร หลายๆอย่างมันจะง่ายขึ้นกว่านี้ครับ และที่สำคัญ หัดรับฟังและเปิดใจในด้านบวกกับคนอื่นบ้างนะครับ บางคนเค้าอาจจะกำลังตั้งใจช่วยกันอยู่ แต่คุณเปิดใจเป็นลบใส่เค้าไปแล้ว จากคุณ : i-DSI - [ 16 พ.ย. 50 16:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห.26 ข้อ 4.3 พวกvisaหรือ master card เค้าจะมีหน่วยงานตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยให้เราอยู่แต่ต้องทำตามกระบวนการของเค้า ....บลาๆๆๆ 4.4 เวลามีปัญหาใดๆลองคุยกับทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่บัตรหรือร้านค้าดีๆ ก่อนบางทีเรื่องมันพออลุ้มอลวยหรือแก้ไขกันได้โดยที่เราไม่รู้  แต่ถ้าผิดพลาดเกินลิมิตก็คงต้องมีเรื่อง ^ | | คือไม่ได้หาเรื่องนะครับ แต่เหมือนที่จขกท.พิมพ์สองข้อนี้ อ่านแล้วขัดแย้งกับการกระทำกับคุณนิดหน่อย เพราะถ้าทำประมาณ 2 ข้อบนแล้วก็ใจเย็นทำตามที่น้อง call center บอก (ตามที่เขียนไว้ใน คห.20 วันที่ 15 ย่อหน้าแรก) รับรองว่าคุณไม่ต้องเหนื่อยขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์คอยเช็คสถานะ ไม่ต้องเสียสุขภาพจิต แต่ก็ดีนะครับ จะได้มาแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นได้รู้กันด้วย แต่เอาตรงๆนะครับ ถ้าผมเป็น HP หรือเป็นธนาคารบัตรเครดิตก็น่าจะมีจี๊ดบ้างถ้าเจอลูกค้าแบบคุณ (ปล.ไม่ได้มาหาเรื่องจริงๆนะ แค่อยากให้มองเหรียญสองด้านนะครับ) จากคุณ : ร้อยแปด ร้อยเก้า - [ 16 พ.ย. 50 16:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาเล่าประสบการณ์เพิ่มเติมนะคะ สามีเคยโดนก๊อปบัตร KTC รูดไปแสนกว่าค่ะ  รายการที่ทำส่วนใหญ่อยู่ที่เชียงใหม่  สามีเราไม่รู้เรื่องเลยจนกระทั่งเจ้าหน้าที่บัตรโทรมาแจ้งเองเลยค่ะ  เค้าแฟกซ์เอกสารให้สามีเรากรอกยืนยันว่าไม่ได้ทำรายการดังกล่าวจริง รวมทั้งส่งบัตรใบใหม่มาให้  แค่นี้เองค่ะ สามีเราไม่ได้ทำอะไรเลยซึ่งยอดเงินไม่ใช่น้อยๆเลยนะคะ  จขกท.ไม่ต้องกังวลนะคะ ถึงแม้ว่ามิจฉาชีพสมัยนี้จะเก่ง แต่ระบบตรวจสอบของธนาคารก็ก้าวหน้าไม่แพ้กันค่ะ จากคุณ : chompoo75 - [ 16 พ.ย. 50 16:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่าเช็คยอดบ่อยๆ ก็ดีนะ.....มีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง เรื่องนี้คนรุ้จักของผมเล่าให้ผมฟังอีกทีครับเพราะเกิดขึ้นกับตัวเขา...มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ พวกบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต.... เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณ 2 เดือนก่อน คนรู้จักผมไปจังหวัดระยอง...ขากลับ แวะทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง.....ซึ่งเป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่ ดูแล้วน่าเชื่อถือมาก.... หลังจากทานอาหารเรียบร้อย ก็เรียกพนักงานมาคิดเงิน... แล้วคนรู้จักของผมจ่ายด้วยบัตรเดบิต.....จำนวนเงินประมาณ 2000 บาท(ประมาณครับ จำตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้) พอจ่ายเงินเสร็จแล้ว...ก็กลับกันไม่ได้คิดอะไร.... แต่เพื่อความปลอดภัย ...ในคืนนั้น คนรู้จักของผม ก็โทรไปหาน้องชายที่ต่างจังหวัด....เพื่อให้เขานำสมุดไป เช็คยอดในวันรุ่งขึ้น.... ผลปรากฎว่า..... มีการตัดเงิน 2 ครั้ง... คือ ตัด 2000 บาท ถึง2 ครั้ง ..... ทางคนรู้จักของผมก็งง ว่าเป็นไปได้อย่างไร....อีกวันหนึ่งจึงเช็คยอด (ยอดก็ยังเท่าเดิม ที่โดนตัดเกินไป 2000) จึงโทรกลับไปยังธนาคารที่ให้บริการ....ธนาคารก็ขอตรวจสอบรายละเอียด....พักใหญ่ๆ และโทรกลับมาแจ้งกับทางคนรู้จักว่า..... คงจะเกิดจากความผิดพลาดในตอนที่ตัดเงินในบัญชี ความผิดพลาดมาจากคอมพิวเตอร์.... และทางธนาคารก็คืนจำนวนเงินที่ตัดเกินไป(2000บาท) กลับคืนมา.... ถ้าคนรู้จักผมไม่ได้ตรวจเช็คยอดเงิน ก็ไม่ได้คืนแล้วครับ.... เรื่องที่เขาเล่ามานี้ สามารถตั้งข้อสันนิฐานได้หลายทาง....คือ.. ทางที่ 1. เกิดจากพนักงานคิดเงินของร้านอาหารที่จังหวัดระยอง รูด 2 ครั้ง อาจจะมาจาก.... ......1.1 รูดบัตรพลาด คือ ครั้งแรกรูดไม่ติด จึงรูดใหม่.... ......1.2 พนักงานจงใจรูด 2 ครั้ง.... เพื่อทำให้ยอดรายรับ..ตอนปิดร้าน เกินมา 2000 บาท แล้วเอาเงินสดออกมา เพื่อให้เงินลงตัว.....(อันนี้ ถ้าระบบคิดเงินที่ร้านอาหารนี้ไม่ดีพนักงานขี้โกงสามารถทำได้ครับ) ......1.3 เป็นเพราะร้านอาหาร หรือ ผู้จัดการร้าน (ผู้มีอำนาจ และ ผู้ที่สามารถแก้ต่างให้พนักงานได้)...เป็นผู้สั่งเพื่อนหวังยอดเงินเข้าร้าน...ให้เอาไปกินกันเอง....ในกรณีนี้...ถ้าเป็นจำนวนเงินน้อยๆ ไม่กี่ร้อย ไม่กี่พัน เจ้าของบัตรบางคนไม่สนใจ ที่จะตรวจสอบด้วยซ้ำ.... ทางที่ 2..... ความผิดพลาดเกิดจาก คอมพิวเตอร์ จริงๆ.... ซึ่งมันเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะคอมพิวเตอร์ของธนาคารนั้นจะห่วยขนาดนั้นเชียวหรือ..แล้วแบบนี้ คนจะกล้าฝากเงินด้วยหรือครับ... ทางที่ 3 ..... เกิดจากพนักงานธนาคาร... (โจรในคราบพนักงาน) ทำการตัดยอดเอง เพื่อที่จะโกง... จึงตัดยอดแค่นิดๆหน่อยๆ แบบว่าเผื่อฟรุค ว่าเจ้าของบัตรไม่ได้สนใจ.....หากถูกจับได้ ก็อ้างว่าคอมมีปัญหาแล้วเอาเงินใส่คืนทำให้ยอด Blance เป็นปกติ...แค่นี้ก็จบ เคยได้ยินข่าวไหมครับว่า มีอยู่ธนาคารหนึ่ง... ผู้จัดการธนาคาร ขโมยเงินลูกค้าเป็น 10ล้าน 100 ล้าน แล้วหนีหายไปเลย.....ตอนนี้ยังตามจับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ..... ผมว่าตรวจเช็กยอดทุกครั้ง หลังจากรูดบัตร ทั้ง เดบิต และ เครดิต ก็ดีนะครับป้องกันไว้ดีกว่า ตามมาแก้ไขทีหลัง.... แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 16:53:39 จากคุณ : Than_Tree - [ 16 พ.ย. 50 16:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท.ใจเย็นๆครับ ต้องรอสิ้นเดือนตอนใบเช็คยอดออกมาครับ..ถึงตอนนั้นเราจึงจะสามารถดำเนินการใดๆต่อไปได้ (อย่างน้อยสุดคุณก็แจ้งความไปแล้ว ซึ่งมีผลแน่นอนครับ  ทางบริษัทต้องมาพิสูจน์ใบเสร็จรวมทั้งลายมือเซ็นจ่ายเงินของคุณในส่วนที่เกินว่าอย่างไรต่อไป)   ทำใจสบายๆครับ  ผมว่าคุณจะหงุดหงิดเรื่องพนักงานที่บริการและตอบคำถามคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักมากกว่า  เรื่องเงินผมว่าเป็นอีกประเด็นไปแล้วละครับ.... ตอนนี้มีปัญหาในกระทู้นี้ 2 อย่าง 1. เรื่องเงินที่เกินมาจากรายการจ่าย 2. เรื่องมารยาทและการพูดการจา  รวมทั้งการแก้ไขปัญหาของ HP  ค่อยๆแก้ทีละอย่างครับ... ส่วนบาง คห.ถ้าจะมาพูดจาเหน็บแนมหรือปากดีแถวนี้  เลิกเล่นพันทิบไปเลยดีกว่าครับ   คนมีวุฒิภาวะทางปัญญา  การศึกษา และอารมณ์ เค้าไม่พูดจากว่าเหน็บคนอื่นเค้าไปเรื่อยแบบนี้หรอกครับ...  หากคนเค้าเดือดร้อนจริงคุณก็ไม่ได้รับผิดชอบความเดือดร้อนเค้าอยู่แล้ว  ก็ให้เกียรติในคำพูดคำจากันบ้างครับ ส่วนตัวผมไม่ได้รู้จักใครอะไรในกระทู้นี้ทั้งนั้น  ไม่เคยมีปัญหาหรือมีขอ้พิพาทกับใครในนี้  ตรวจสอบได้เลยครับ แต่เบื่อกับการใช้คำพูดไม่รักษาน้ำใจกันครับ  ไม่รู้ว่ามีความสุขกันรึไงที่ได้ว่าเหน็บคนอื่นเนี่ย... ขออภัยที่นอกเรื่องครับ...แค่ขออนุญาตบ่นเล็กๆครับ... จากคุณ : _snowy - [ 16 พ.ย. 50 17:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้รับรู้.... เราว่าคุณทำได้ดีแล้ว... ใครเจอกับตัวก็ต้องหาวิธีป้องกันตัวเองทั้งนั่นแหล่ะ... ยิ่งเจอคนที่รู้ว่าเกิดความผิดพลาด...แต่ยังแก้ตัวไม่เลิก... ก็ต้องอารมณ์เสียเป็นธรรมดา... คุณคงต้องรออย่างที่ข้อความข้างบนแนะนำ... ใจเย็นแล้ว...ก็ติดต่อไปหาพนักงานที่คุณระเบิดใส่.... เพื่อขอโทษ...(คำ ๆ นี้อาจยากแต่...รู้สึกดี...ไม่มีคาใจอีก...) อย่าตัดโอกาสตัวเอง...เพราะเหตุการณ์หนึ่งเท่านั่น... เพราะยังไงมันก็สอนให้คุณควบคุมสติให้มากขึ้น... อย่าตกใจ..ร้อนรนกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีก... หรือเราเข้าใจไปคนเดียวหว่า...เหอ ๆ... จากคุณ : เม่นแคระ - [ 16 พ.ย. 50 19:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เออนะ แต่ละคนก็วิจารณ์กันไป HP เป็นงั้นเป็นงี้ จขกท. ไม่น่าทำงั้นทำงี้ เอ่อ คือ จะบอกว่า ถ้าไม่ใช่ตัวเรา เราไม่มีทางรู้หรอกว่า อารมณ์นั้นเป็นยังไง บางที อารมณ์มันไวกว่าความคิด ปากมันก็เลยไปก่อน..... แล้วถ้าเป็นคุณๆ ทั้งหลาย โดนแบบนี้ จะมีอารมณ์มั๊ย.... สำหรับผม....แค่ โดน พนักงานห่วยๆ ปฏิเสธความรับผิดชอบ ( ที่เกิดจากความผิดพลาดของตนหรือองค์กร ) แค่วันแรก อาจมีเรื่องมากกว่านี้ก็ได้..... แต่ ถ้าพนักงาน แสดงความรับผิดชอบออกมาอย่างจริงใจ ( เน้น จริงใจ ) สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไป.... ดังนั้น อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ เป็นดี... จากคุณ : Sifer2002 - [ 16 พ.ย. 50 19:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาอ่านเจอ เห็นใจ จขกท. เสียเงินใครก็อยากได้คืน หากใจเย็นไม่ใช้อารมณ์ เอาหลักฐานยืนยัน ยังไงก็เช็คได้อยู่แล้ว เพียงแต่ ทำความเข้าใจ ในเรื่อง เทคโนโลยี กันบ้างก็จะดีไม่หน่อย ทั้ง 2 ฝ่ายนั้นแหละ *ใครอ่านแล้วไม่พอใจ ข้ามไปได้เลยครับ... จากคุณ : ttt (truestep) - [ 16 พ.ย. 50 20:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามสัญญาการใช้บัตรเครดิต ผู้ใช้จะรับผิดชอบเฉพาะยอดหนี้ที่ตัวเอง ได้ก่อไว้เท่านั้น ที่เหลือธนาคารผู้ออกบัตรต้องเป็นผู้รับผิดชอบไปติดตามเอาเองครับ ลองอ่านดูในสัญญาการใช้บัตร เราสามารถปฏิเสธรายการที่เราไม่ได้ใช้ได้ จากคุณ : Master (myrmts) - [ 16 พ.ย. 50 22:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ใช้บริการ KS GE มาเกือบ 10 ปีแล้ว (จากเงินเป็นทองจนตอนนี้ทองคำขาว) ไม่มีปัญหาให้จุกจิกกวนใจ เช็คยอดจากใบสรุปทุกเดือน (เก็บ Slip ไว้ทุกใบ) เคยมียอดเบิ้ลแค่ครั้งเดียว (หลายปีแล้ว ประมาณว่า เติมน้ำมัน ~9xx บาท Slip หมด เด็กไม่รู้ก็เลยไปรูดอีกเครื่อง) โทรไปหา Call Center เค้าบอกให้จ่ายแค่ที่ใช้จริง ส่วนเกินเดี๋ยวจะเช็คแล้วตัดยอดให้ (ก็ใครมันจะไปเติมน้ำมันเวลาใกล้กัน ราคาเท่ากัน มีเศษอีกต่างหาก) หลังจากนั้นก็ตัดให้ โอเคอยู่ ใจเย็นๆครับ เราไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องไปจ่าย.....อยากได้ไปฟ้องเอา จากคุณ : Jette - [ 16 พ.ย. 50 22:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คือ.. คิดว่าทุกคนคงเคยใช้บัตรเครดิตไปซื้อของตามซุปเปอร์สโตร์กันบ้าง  ลองสังเกตุดูง่ายๆ..  เวลารูดบัตรเนี่ย ตอนคนเยอะๆกว่าจะรูดติดนี่ใช้เวลานานมาก  คิดว่าคงเป็นเพราะสายโทรศัพท์เป็นสายพ่วง  ทุกที่เค้าคงไม่ใช้โทรศัพท์แยกเป็นเบอร์ตรงสำหรับทุำกเคาน์เตอร์จ่ายเงินหรอกนะ..  เพราะฉะนั้น..มันก็อาจจะเป็นสาเหตุของการผิดพลาดบ้าง  แต่ก็นั่นแหละ..  ปรกติเราก็ไม่เคยเช็คยอดใช้จ่ายทุกวันเหมือนกัน  ถ้ามีเดือนไหนที่มีรายการที่เราไม่ได้ใช้  เราก็ยืนยันไปว่าเราไม่จ่าย  ไม่เห็นจะน่ามีปัญหาเลย เวลาจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต  บางครั้งนานมากกก  โดยเฉพาะซุปเปอร์สโตร์บางแห่ง  หลังๆถ้าคิวยาวมากเราก็จ่ายเงินสดเหมือนกัน  เพราะมันนานมากกก  น้องเค้าก็รูดแล้วรูดอีก  เห็นจนเป็นเรื่องธรรมดาแล้วล่ะ.. จากคุณ : nai_aoum - [ 16 พ.ย. 50 23:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านมาตั้งนาน นึกว่ามีเรื่องอะไรซับซ้อน ที่แท้ก้อแค่ เจ้าของกะทู้ เป็นกระต่ายตื่นตูม ใจร้อน ตกใจง่าย นี่เอง อิ อิ แซวเล่นๆนะครับ แต่แซวจิงๆ บัตรเครดิตผมมี 6 ใบ รูดเยอะทุกใบ เพราะรูดซื้อของเข้าร้านด้วย เดือนๆนึงผมรูดรวมๆ 6 ใบทุกอย่างเลย 3 แสนบาททุกเดือน มีตั้งแต่ยอด 200 บาทกินข้าว ยัน 3-40,000 ซื้อของเข้าร้าน สเตจแมนต์มาทียาวเปนหางว่าว ผมเช็คทีเดียวตอนมันมา ไม่มีผิดพลาดอะไรเลยตลอด 3-4 ปีที่ผ่าน บางครั้งปั้มรูด 2 ครั้งยอดเดิมก้อมี ผมโทรไป call center ครั้งเดียว แล้วก้อรอสิ้นเดือน ดูสรุปยอดทีเดียว ไม่เห็นต้องมาโทรไล่จิกไปหมดทุกคน เคยไป hk พัก รร จองห้องสูทไว้ จ่ายเงินที่ไทยไปแล้ว   พอไปถึง  รร เค้าจะให้รูดบัตรเอาเงืนประกันวางค้ำไว้ 15,000 HK$ เพราะผมอยู่ 4-5 คืน ก้อเกือบ 7 หมื่นบาท รูดไปก้อผ่านไม่มีอะไร ตอน checkout มีค่าใช้จ่ายใน รร ส่วนที่เพิ่มมา 2-3000 HK$ ผมก้อรูดบัตร เอาอีกใบรูด ทาง รร เค้าก้อบอกว่า 15,000 HK$ เดี่ยวเค้าจะไปทำเรื่อง cancel ตอนปิดยอดคืนนี้เอง ไม่ได้ฉีกสลิปด้วย กลับมาไป ผมโทรถาม call center เค้าก้อบอกว่ามีรูด 15,000 HK มา อีก 3-4 วันลองโทรเข้ามาเช็คใหม่ เพราะยอดจะอยู่ในระบบคอม อย่างน้อย 3-4 วันเลย ไม่หายไปทันที จากนั้นผมก้อลืมไม่ได้โทรเช็ค สิ้นเดือนบิลมา ยอดนั้นหายไปแล้วครับ ไม่เห็นต้องไปไล่จี้อะไรมากมายเลย อีกอย่างถ้าเค้าจะ copy บัตรคุณไปรูดมั่วนะ เค้าทำไปแล้วคืนนั้น ยอดมาเป็นแสนวันเดียว ไม่รอให้คุณนั่งโทรไป call center เช็คยอดทุกวันหรอกครับ แต่คุณหักบัตรไปแล้วก้อดีครับ เพราะใช้ต่อไป [ตัวคุณเอง] ปวดหัวแน่นอน จากคุณ : WWF 3.16 - [ 17 พ.ย. 50 05:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ครับ เห็นด้วยกับคุณ chompoo75 ความเห็น 25 จากคุณ : LungTim - [ 17 พ.ย. 50 08:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาแล้วค่ะ สรุปเย็นวันที่16 นะคะ(ประมาณสี่โมง) ---->GMสาขา เอาผลไม้กระเช้าใหญ่มากมาขอโทษ มาฝากไว้ที่แม่  พร้อมกับของที่สั่งที่ตอนแรกให้ไปเอาเองติดมาให้ด้วย     และเหตุผลจากปากท่านGMว่า ตรวจสอบแล้วจำนนด้วยหลักฐานเกิดจากจวามผิดพลาดของเราเอง  "ในส่วนตอนสรุปยอดช่วงสามทุ่มครึ่ง ไม่ทราบเกิดผิดพลาดทางเทคนิคอะไร จึงกลายเป็นเรียกเก็บซ้ำ."     โดนแม่ว่าไปหลายดอก ว่าถ้าพูดดีๆไม่ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นตั้งแต่แรกดิชั้น ก็ไม่โกรธ  และฝากไปตักเตือนคนของเค้าด้วยแทนดิชั้นเลย     อยากให้มองกลับนิดนึงนะคะ ดิชั้นไม่เขียนเล่าให้อ่านก็ได้นะคะเรื่องที่ดิชั้นปากเสียเกี่ยวกับคำว่า"น้อง"แบบว่าตัดตอนไปเลย---แต่มันก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและไม่อยากโจมตีเค้าข้างเดียวไงค่ะ มองกันแง่ดีบ้างนะค้า(ชี้แจงคะมิได้ตอบโต้ผู้ใด)     ก็จะเลิกใช้แล้วจริงๆน่ะคะทุกใบ จะได้ไม่ปวดหัว มือไม่เติบด้วย ฮิ ฮิ      ประเด็นที่เขียนคือ สุดท้ายไม่ใช่ผิดที่ไฟฟ้าขัดข้องนะคะ ผิดที่ตอนสามทุ่มมีการเรียกเก็บซ้ำ แสดงว่าการเรียกเก็บไม่ต้องใช้ตัวการ์ดจริงได้ชัวร์(ประเด็นคือผิดตรงไหน ไม่ใช่ ให้รอกระบวนการแก้ไขของเขาเรื่องไม่จ่ายแล้วเรื่องจะจบเองค่ะ)        พนักงานบอกเหตุผลไม่ตรงกับGM         ส่วนเรื่องการพูดของพนักงานก็คงจบเพราะระดับนี้มาเองก็คงให้อภัยได้ เค้าเป็นองค์กรเดียวกัน     จบแล้วมั้งเนอะ คนคงเบื่อแล้ว เรื่องก็น่าจะจบแล้ว อ้อ โทรไปเช็คยอดแล้วเหลือ8,4xxแล้วค่ะ สาบายใจจังง       ขอบคุณ 25-26 ความเห็นที่เห็นด้วย  ช่วยมองต่างมุม และวิจารณ์อย่างยุติธรรมด้วยความสุภาพ ขอบคุณจริงๆค่ะ (ความเห็นนอกนั้นไม่อ่านค่ะ ฮา) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 50 09:04:29 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 50 09:00:40 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 50 08:54:18 จากคุณ : Trigger Fish (Trigger Fish) - [ 17 พ.ย. 50 08:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถึงยังไงผมว่าลูกค้าอย่างเราๆ ก็เสียเปรียบแหละครับ เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียค่ารถ ฯลฯ --> ค่าใช้จ่ายตรงนี้ใครจะรับผิดชอบให้เรา ส่วนทางโฮมโปรก็เท่ากับว่าเท่าทุน ไมได้อะไรก็จริงแต่ก็ไม่ได้เสียอะไร ยังไงๆ ก็ขอประมาณร้านค้าแบบนี้ด้วยคนครับ จากคุณ : wong - [ 17 พ.ย. 50 13:30:44 A:203.144.212.77 X: TicketID:134645 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านจบแล้วก็ได้ในอีกแง่มุมนึง  ของบัตรเครดิต เมื่อก่อนก็เป็นมนุษย์บัตรเครดิต แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมนุษย์เงินสดแล้ว สบายใจจัง   การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ...... ฮา ... ขอนอกเรื่องนิดนุง จากคุณ : kangjungku - [ 17 พ.ย. 50 15:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านทั้งหมดแล้วก็พอสรุปได้อย่างว่า แต่ละคนก็มองจากมุมชองตนเอง ลองสลับไปมองจากมุมตรงข้ามบ้าง เรื่องต่างๆอาจง่ายขึ้นอีกเยอะครับ จากคุณ : Joey999 - [ 17 พ.ย. 50 16:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อือผมเห็นด้วยกับคุณ ตรงไปตรงมา, WWF 3.16 นะ ใจเย็นๆ มันไม่ซับซ้อนอะไรเลย รวมถึงวิธีแก้ด้วย เก็บใบเสร็จไว้ และแจ้งเรื่อง อย่าพึ่งจ่าย อะไรทั้งสิ้น จากคุณ : subzero - [ 17 พ.ย. 50 20:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ก็ดีแล้วครับที่จบด้วยดี ทั้งคุณจขกท.และผู้อ่านอื่น กระทู้ได้ประโยชน์หลายๆอย่างเลย เรื่องตัวบัตรเครดิตก็ดี เรื่องการสื่อสารก็ดี หรือเรื่องที่ว่าเราไม่ควรใจร้อนเกินไปกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพื่อตัวเราเอง เข้าใจคุณจขกท.นะครับ แต่บางเรื่องเช่นจะให้ยอดลดใน1-2วันเลยก็คงยากหน่อย อ่านจบแล้วผมก็ยังคงใช้บัตรเครดิตต่อไปครับ เพราะคิดว่ามันไม่ได้เป็นการก่อหนี้อะไร เพราะไม่เคยรูดบัตรแบบผ่อน ใช้รูดก็ต่อเมื่อเรามีเงินตัด1ครั้งได้เลยเท่านั้น สะดวกดีแต่ต้องระวังหน่อยเท่านั้นแหละ จากคุณ : RoppongiHills - [ 17 พ.ย. 50 21:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังค่ะ ตอนนี้ใช้บัตรเครดิตก็ระแวงเหมือนกัน จากข่าวคราวที่ได้รับฟังมา ส่วนเรื่องพนักงาน เคยเจอเหมือนกันที่พูดจาไม่รับผิดชอบ (ไม่คิด) ก็เลยพูดแบบไม่คิดกลับไปเหมือนกัน ก็มันโมโหแล้วนี่นา ขันแตกซะแล้ว นี่!หล่อนจะเอายังไงกับชั้นยะ ส่วนเรื่องการตัดยอด นี่ยังดีเป็นแค่เครดิต ของเราเป็นเงินสด กว่าจะได้คืนเป็นเดือนเลย เซ็งมาก สรุป ยินดีด้วยที่หมดปัญหานะคะ ขอให้ไม่เจออะไรแบบนี้อีก โอมเพี้ยง จากคุณ : helloae - [ 19 พ.ย. 50 11:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 บัตรเดบิท นี่ไม่แนะนำให้รูดเลยคะ เพราะมีปัญหาเยอะ รูดไม่ผ่าน แต่ยอดตัดไปแล้ว - -" จากคุณ : akikosang - [ 19 พ.ย. 50 13:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ที่คุณเจ้าของกระทู้ร้อนใจ เพราะ ได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของ HP แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ปฎิเสธ ว่าไม่ได้เรียกเก็บซ้ำ  แสดงว่ารายการที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากการทุจริต  ซึ่งไม่รู้ว่าใคร จะไม่ให้กังวลได้ยังไงค่ะ ถ้า เจ้าหน้าที่ ยอมรับว่าทำรายการซ้ำ ให้รอการแก้ไข เจ้าของกระทู้ คงไม่กังวลกับยอดที่เกินมา และโมโหมากขนาดนี้หรอกค่ะ จากคุณ : แนน (TEDDY&NANCY&WINNIE) - [ 20 พ.ย. 50 23:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 57 + เอาเวป  ปัญหาที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิต..จนเพลิน มาฝาก  อ่านๆกันแล้ว  จะได้ระมัดระวังกับเงินในอนาคตของเรานะคะ ด้วยความปราถนาดี.. http://www.consumerthai.org/compliant_board1/index.php จากคุณ : ...*_* ไปไป_มามา_สนทนาทุกห้อง - [ 21 พ.ย. 50 19:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณคุณแนนและคุณไปไปมามา สำหรับข้อมูลดีๆและกำลังใจอันอบอุ่นมากค่ะ จาก...จขกท จากคุณ : จขกท (Trigger Fish) - [ 26 พ.ย. 50 14:47:22 ]