ความคิดเห็นที่ 1
อ่อ หาเจอแล้ว ชงเอง กินเอง เลยแล้วกันผม แปะทิ้งไว้ในนี้แล้วกันเผื่อบางคนยังไม่รู้
ไม่รู้ข่าวนี้จริงเท็จ Accurate ขนาดไหน แต่ถ้าตัดทางด่วนนี้จริงก็ฟาดหางโดนตึกโดนบ้านระเนระนาดกลางเมืองเลย อืม
-----------------------
การทางพิเศษแห่งประเทศ (กทพ.) ได้ว่าจ้าง บริษัท ทีมคอนซัลแตนจำกัด วงเงิน 25ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้ ของโครงการก่อสร้าง ทางพิเศษสุวรรณภูมิ หรือ M1 ระยะทางรวม 22.5 กิโลเมตร ขนาด 6 ช่องจราจร งบประมาณค่าก่อสร้างรวมค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีมูลค่า 26,900 ล้านบาท โดยใช้เวลาศึกษา 12 เดือน นับจากวันที่เซ็นสัญญา วันที่ 26 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เป็นการประมูลว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาใหม่ หลังจากได้ยกเลิกไปครั้งหนึ่ง เนื่องจาก ถูกมองว่าไม่โปร่งใส
เรื่องนี้ กทพ.ได้ ชี้แจงว่า เดิมที โครงการทางพิเศษสุวรรณภูมิ หรือ M 1 จะมีแผนก่อสร้าง ในปี 2551-2554 เพื่อรองรับสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเป็นศูนย์กลางทางการบิน ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สภาพัฒน์ ได้ เห็นชอบ แต่ปรากฏว่า ต้องชะลอออกไป เนื่องจากเป็นงบประมาณที่สูง ซึ่งทำให้ล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ และรอผลการศึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ การเงินก่อน
โดยการก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 2 ตอน ได้แก่
ตอน 1 M 1 -1 เริ่มจาก บริเวณทางพิเศษฉลองรัช- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 17 กิโลเมตร
ตอนM1-2 เริ่มจาก บริเวณ จุดตัดระหว่าง ถนนพระราม 4 และถนนรัชดาภิเษก- ทางพิเศษฉลองรัช หรือ บริเวณจุดเริ่มต้นโครงการ ตอน1 หรือ M1-1
ทั้งนี้แนวสายทาง จะเป็นทางยกระดับ เริ่มจาก
บริเวณจุดตัดระหว่างถนนพระราม 4 กับถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย จากนั้นแนวสายทางจะผ่านบริเวณซอยอารีย์ ผ่านคาร์ฟู ผ่านสี่แยกถนนสุนทรโกษา ผ่านซอยแสนสุข ผ่านบริเวณท้องฟ้าจำลอง และ สถานีขนส่งเอกมัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผ่านซอยสุขุมวิท 42 และ สุขุมวิท 63 โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย ตรงไป ผ่าน ซอยสุขุมวิท 71(ถนนปรีดีพนมยงค์) หน้าไปรษณีย์พระโขนง
บริเวณนี้จะมีห้างจัสโก้ และเชื่อมกับ ทางพิเศษ(ทางด่วน) สายฉลองรัช ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ ตอนที่ สอง หรือ M1-2 ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร
ตลอดแนวสายทาง M 1-2 แม้เป็นระยะทางสั้นๆ แต่บริเวณนี้ ถือว่าเป็นทำเลทองย่านธุรกิจการค้าใจกลางเมือง ที่ราคาที่ดินเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 300,000-400,000 บาท/ตารางวา
จากนั้น จะเป็นโครงการช่วงที่ 1 หรือ M 1-1 ระยะทาง 17กิโลเมตร
เริ่มตั้งแต่บริเวณทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งติดกับหมู่บ้านเกษมสำราญ 2ผ่านซอยสวนหลวงเข้า เขตสวนหลวง ใกล้กับหมู่บ้านฮอลลิวูด หมู่บ้านปัญญา ผ่านคลองพระโขนง วัดทองใน วัดต้นไทร วัดปากบ่อ ผ่านบริเวณสาธาณสุข 22 บริเวณนี้จะมีหมู่บ้าน มหาพล หมู่บ้านมิตรภาพ หมู่บ้านมิตรภาพ4 จากนั้นผ่านถนนอ่อนนุช ถนนศรีนครินทร์ ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ถนนสุขาภิบาล 1 ผ่านถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออกหรือถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ผ่านถนนกิ่งแก้ว และ ไปสิ้นสุดโครงการบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ
โครงการนี้มีการคาดหมายกันว่าจะเป็นทางพิเศษที่จะช่วยรองรับการเดินทางจากใจกลางเมืองที่มีปริมาณจราจรที่แออัดคับคั่ง บริเวณช่วงถนนพระราม 4 และถนนรัชดา ถนนสุขุมวิท สามารถใช้ทางด่วนสายนี้ เชื่อมกับทางพิเศษสาย รามอินทรา-อาจณรงค์ หรือทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร วิ่งตรง ไป ถึงตัวสนามบินสุวรรณภูมิ เพียงไม่กี่นาที อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาการจราจรบนทางด่วนสายสำคัญ ดังกล่าว ที่ ปัจจุบัน เริ่มมีปัญหาติดขัดเป็นเวลานานๆ ในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงฝนตกฟ้าคะนอง
รวมไปถึงถนนแนวราบและถึงแม้ว่า ขณะนี้จะมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ หลายโครงการสำคัญๆ แล้วก็ตาม อาทิ โครงการแอร์พอร์ตลิ้ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย( รฟท.) ที่ติดปัญหาล่าช้า โครงการขยายเส้นทางและต่อเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ ต่างๆ แต่หากมองถึงอนาคต ของการเป็นฮับทางการบินของสนามบินแห่งนี้ และ การขยายตัวของเมือง จะทำให้ โครงข่ายที่มีอยู่ ไม่เพียงพอเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสาร ที่เพิ่มขึ้น นับแสนนับล้านคนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดีเนื่องจากงบประมาณค่อนข้างสูง ดังนั้น ในทางปฎิบัติ กทพ.จะพิจารณา เลือกดำเนินการ โครงการทางพิเศษ สุวรรณภูมิ ช่วง ที่ 1 หรือ M1-1 ก่อน
คือ บริเวณจาก ทางด่วน ฉลองรัช-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 17 กิโลเมตร งบประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน ต่อจากนั้น จึงจะดำเนินการในช่วงที่ 2 หรือ M 1-2 ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร จะมีความสำคัญรองลงมา ซึ่งจะต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะจะมีผลกระทบต่อการเวนคืนค่อนข้างสูง เนื่องจาก เป็นย่านใจกลางเมือง ราคาที่ดินค่อนข้างแพง คาดว่าจะสามารถประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตอนที่ 1 ในปี 2556 และก่อสร้างในปี 2558 ในเวลา 30 เดือน ตอนที่ 2 เวนคืน ปี 2557 และก่อสร้างปี 2559ใช้เวลาก่อสร้าง 30 เดือน
เมื่อดูแผนแม่บทใหม่ ของกทพ.แล้ว เชื่อว่า ผู้ที่หนาวๆร้อนๆที่สุดในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น เจ้าของที่ดินที่อยู่ในแนวสายทาง แม้ว่าพระราฎกฤษฎีกาเวนคืนยังไม่ออกมา แต่แนวคร่าวๆที่ออกมาและเงื่อนเวลาที่ กำหนดเสมือนที่ดินถูกตีตราจองไปแล้ว ใครจะซื้อทีดิ่นบริเวณนั้นก็เสี่ยง จะขายก็ไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะ ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย กับทางพิเศษสายสุวรรณภูมิ (M 1) แห่งนี้
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
จากคุณ :
พิษประจิม
- [
11 ธ.ค. 50 12:38:35
]
|
|
|