ความคิดเห็นที่ 1 ลองอ่านข้อ 2.1 ดูนะครับ http://www.ku.ac.th/e-magazine/june44/agri/plant2.html ***************************************************************** วิธีการปลูกผักสวนครัว    1. การปลูกผักในแปลงปลูก มีขั้นตอน คือ    1.1 การพรวนดิน ใช้จอบขุดดินลึกประมาณ 6 นิ้ว เพื่อพรวนดินให้มีโครงสร้างดีขึ้น กำจัดวัชพืชในดินกำจัดไข่แมลงหรือโรคพืชที่อยู่ในดิน โดยการพรวนดินและตากทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน    1.2 การยกแปลง ใช้จอบพรวนยกแปลงสูงประมาณ 4-5 นิ้ว จากผิวดิน โดยมีความกว้างประมาณ 1-1.20 เมตร ส่วนความยาวควรเป็นตามลักษณะของพื้นที่หรืออาจแบ่งเป็นแปลงย่อยๆ ตามความเหมาะสม ความยาวของแปลงนั้นควรอยู่ในแนวทิศเหนือ - ใต้ ทั้งนี้เพื่อให้ผักได้รับแสงแดดทั่วทั้งแปลง    1.3การปรับปรุงเนื้อดินเนื้อดินที่ปลูกผักควรเป็นดินร่วนแต่สภาพ ดินเดิมนั้นอาจจะเป็นดิน ทรายหรือดินเหนียว จำเป็นต้องปรับปรุงให้เนื้อดินดีขึ้นโดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตราประมาณ 2-3 กิโลกรัม ต่อเนื้อที่ 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน    1.4การกำหนดหลุมปลูกจะกำหนดภายหลังจากเลือกชนิด ผักต่างๆ แล้วเพราะว่าผักแต่ละชนิดจะใช้ระยะปลูกที่ต่างกัน เช่น พริก ควรใช้ระยะ 75*100 เซนติเมตร ผักบุ้งจะเป็น 5*5 เซนติเมตร เป็นต้น    2.การปลูกผักในภาชนะการปลูกผักในภาชนะควรจะ พิจารณาถึงการหยั่งรากของพืชผักชนิดนั้นๆ พืชผักที่หยั่งรากตื้นสามารถปลูกได้ดีในภาชนะปลูกชนิดต่างๆ และภาชนะชนิดห้อยแขวนที่มีความลึก ไม่เกิน 10 เซนติเมตร คือ    ผักบุ้งจีน คะน้าจีน ผักกาดกวางตุ้ง (เขียวและขาว) ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดหอม ผักกาดขาวชนิดไม่ห่อ (ขาวเล็ก ขาวใหญ่) ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง หอมแบ่ง (ต้นหอม) ผักชี ขึ้นฉ่าย ผักโขมจีน กระเทียมใบ (Leek) กุยช่าย กระเทียมหัว ผักชีฝรั่ง บัวบก สะระแหน่ แมงลัก โหระพา (เพาะเมล็ด) กะเพรา (เพาะเมล็ด) พริกขี้หนู ตะไคร้ ชะพลู หอมแดง หอมหัวใหญ่ หัวผักกาดแดง (แรดิช)    วัสดุที่สามารถนำมาทำเป็นภาชนะปลูกอาจดัดแปลงจากสิ่งที่ใช้แล้ว เช่น ยางรถยนต์เก่า กะละมัง ปลอกซีเมนต์ เป็นต้น สำหรับภาชนะแขวนอาจใช้ กาบมะพร้าว กระถาง หรือเปลือกไม้    วิธีการปลูกผักในภาชนะแย่งออกได้เป็น 2 วิธี    2.1 เพาะเมล็ดด้วยการหว่านแล้วถอนแยกหรือหยอดเป็นแถวแล้วถอนแยก ซึ่งพืชที่ควรปลูกด้วยวิธีนี้ ได้แก่    - ผักบุ้งจีน - คะน้าจีน - ผักกาดขาวกวางตุ้ง    - ผักกาดเขียวกวางตุ้ง - ผักฮ่องเต้(กวางตุ้งไต้หวัน)    - ตั้งโอ๋ - ปวยเล้ง - ผักกาดหอม    - ผักโขมจีน - ผักชี - ขึ้นฉ่าย    - โหระพา - กระเทียมใบ - กุยฉ่าย    - หัวผักกาดแดง - กระเพรา - แมงลัก    - ผักชีฝรั่ง - หอมหัวใหญ่    2.2 ปักชำด้วยต้น และหัว ได้แก่    - หอมแบ่ง (หัว) - ผักชีฝรั่ง - กระเทียมหัว (ใช้หัวปลูก)    - หอมแดง (หัว) - บัวบก (ไหล) - ตะไคร้ (ต้น)    - สะระแหน่ (ยอด) - ชะพลู (ต้น) - โหระพา กิ่งอ่อน)    - แมงลัก (กิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน)    หมายเหตุ มีบางพืชที่ปลูกด้วยหัว หรือส่วนของต้นก็ได้ปลูกด้วยเมล็ดก็ได้ ดังนั้นจึงมีชื่อผักที่ซ้ำกันทั้งข้อ1และ 2    การปฏิบัติดูแลรักษา    การดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่ จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์จนถึงระยะเก็บเกี่ยว การดูแลรักษาดังกล่าว ได้แก่    1. การให้น้ำ การปลูกผักจำเป็นต้องให้น้ำเพียงพอ การให้น้ำผักควรรดน้ำในช่วง เช้า- เย็น ไม่ควรรดตอนแดดจัด และรดน้ำแต่พอชุ่มอย่าให้โชก    2. การให้ปุ๋ย มี 2 ระยะคือ    2.1 ใส่รองพื้นคือการใส่เมื่อเวลาเตรียมดิน หรือรองก้นหลุมก่อนปลูก ปุ๋ยที่ใส่ควรเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก คลุกในดินให้ทั่วก่อนปลูกเพื่อปรับโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุย นอกจากนั้นยังช่วยในการอุ้มน้ำและรักษาความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชด้วย    2.2 การใส่ปุ๋ยบำรุง ควรใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อย้ายกล้าไปปลูกจนกล้าตั้งตัวได้แล้ว และใส่ครั้งที่ 2 หลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 2-3 สัปดาห์ การใส่ให้โรยบางๆ ระหว่างแถว ระวังอย่าให้ปุ๋ยอยู่ชิดต้น เพราะจะทำให้ผักตายได้ เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินและรดน้ำทันที สูตรปุ๋ยที่ใช้กับพืชผัก ได้แก่ ยูเรีย หรือ แอมโมเนียซัลเฟต สำหรับบำรุงต้นและใบ และปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ 12-24-12 สำหรับเร่งการออกดอกและผล    3. การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ควรบำรุงรักษาต้นพืชให้แข็งแรงโดยการกำจัดวัชพืช ให้น้ำอย่างเพียงพอและใส่ปุ๋ยตามจำนวนที่กำหนดเพื่อให้ผักเจริญเติบโต แข็งแรง ทนต่อโรคและแมลง หากมีโรคและแมลงระบาดมากควรใช้สารธรรมชาติ หรือใช้วิธีกลต่างๆ ในการป้องกันกำจัด เช่น หนอนต่างๆ ใช้มือจับออก ใช้พริกไทยป่นผสมน้ำฉีดพ่น ใช้น้ำคั้นจากใบหรือเมล็ดสะเดา ถ้าเป็นพวกเพลี้ย เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย และเพลี้ยจั๊กจั่น ให้ใช้น้ำยาล้างจาน 15 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นใต้ใบเวลาเย็น ถ้าเป็นพวกมด หอย และทาก ให้ใช้ปูนขาวโรยบางๆ ลงบริเวณพื้นดิน ***************************************************************** ผักชี ชื่ออื่นๆเรียก ผักหอมน้อย ผักหอมป้อม ผักหอมผอม ผักหอม ผักชีลา พังไฉ่(จีน-แต้จิ๋ว) ชื่อสามัญเรียก Coriander เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นตั้งตรงภายในกลวง และมีกิ่งก้านที่เล็กมีรากแก้วสั้นแต่รากฝอยมีมาก ลำต้นสูง 20 - 40 นิ้ว ลำต้นสีเขียวแต่ถ้าแก่จัดจะออกสีเขียวอมน้ำตาล การออกใบจะเรียงใบคล้ายขนนก แต่อยู่ในรูปทรงพัดใบที่โคนต้นมีขนาดใหญ่กว่าที่ปลายต้น ผักชีมีดอกด้วยนะ ดอกจะออกเป็นช่อตรงส่วนยอดของต้น ดอกนั้นมีขนาดเล็กมีอยู่ 5 กลีบ สีขาวหรือสีชมพูอ่อน ติดผลในฤดูหนาว ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม 3 - 5 มม. สีน้ำตาลตรงปลายผลแยกออกเป็น 2 แฉก ตามผิวจะมีเส้นคลื่นอยู่ 10 เส้น ส่วนที่ใช้บริโภค ใบ - ลำต้น ผลแก่ การปรุงอาหาร ใบ ลำต้น รับประทานเป็นผักสดใส่แกงต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ราก ใชัใส่น้ำต้มซุป เมล็ดแก่เป็นเครื่องเทศ อย่าทานมากจนเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นตัวแรง และตาลายลืมง่าย http://www.homedd.com/HomeddWeb/servlet/homedd.A_garden.frontweb.FwVegetMain?hMode=Detail&hIDList=100,101,102,103,104,105,106,107,108,109,110,111,112,113,114,115,116,117,118,119,120,121,122,123,124,125,126,127,128,129,130,131,132,133,134,135,136,137,138,139,140,141,142,263&hIDCount=44&hID=122 จากคุณ : Learn and Live - [ 11 ธ.ค. 50 18:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องโรยลงหน้าดินที่แปลงเพาะก่อน(แต่ก่อนเราโรยเมล็ดแล้วโรยดินกลบบางๆ ดูเหมือนเปอร์เซนต์งอกจะสู้โรยเฉยๆไม่ได้) ควรเพาะในตะกร้าเตี้ยๆ เพื่อ... พองอกมาสูงพอประมาณ ก็ขุดหรือควักหรือจับตะกร้าแช่น้ำ เพื่อให้ดินนิ่ม จะได้ถอนต้นกล้าจากแปลงเพาะโดยที่ไม่ทำให้รากเสียหาย เสร็จแล้วก็เอาปลูกในแปลงปลูกจริงต่อไป จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 11 ธ.ค. 50 19:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าวิชาการเป๊ะ ก็ข้อมูลที่คุณLearn and Live ยกมา ผมเอาแบบชาวบ้านละกันนะครับ จะเหมือนกับคุณต้นโพธิ์ฯ เมื่อจะปลูกพืชผักไม้ดอกไม้ประดับ จากเมล็ดพันธุ์แบบฉีกซอง เราก็ต้องทำแปลงเพาะกันหน่อย วิธีการก็ง่ายๆครับ หาภาชนะที่พอจะทำให้มันเป็นกระบะได้ จะถาดขนม กล่องพลาสติก หรืออะไรก็ได้ที่พอจะทำให้มันออกแนวกระบะเพาะเมล็ดให้ได้ จากนั้นเตรียมดินเพาะซะหน่อย ส่วนผสมก็ทราย,ขุยมะพร้าว/ขี้เถ้าแกลบ,ดิน โดยส่วนผสมถ้าจะให้ดี ก็ร่อนด้วยกระชอนซะหน่อยนะครับ ให้มันละเอียดหน่อย จากนั้นคลุกเคล้ากัน เอาที่น้ำเปล่าใส่ที่ฉีดรีดผ้า ฉีดๆระหว่างคลุกก็จะดูเก๋ครับ ได้ที่ก็เทลงกระบะที่หามาได้ จากนั้นก็ปาดให้เรียบแล้วฉีดๆอีกนิด หาไม้เสียบลูกชิ้นมา จะลูกชิ้นCPหรือศรีไทยหรือลูกชิ้นลุงหวัง ได้หมดครับ เอาไม้เสียบลูกชิ้นมาขีดๆให้เป็นแนวๆ ทีนี้เราก็จะได้แนวร่องที่จะเพราะเมล็ดแล้วล่ะครับ ก็จัดการค่อยๆหยอดเมล็ดที่ฉีกจากซองลงไป ถ้าเมล็ดเล็กมากก็เอาปลายไม้ลูกชิ้นที่ใช้เมื่อตะกี้นั่นแหละครับ เขี่ยๆลงไป แล้วก็ปาดดินที่มันกองอยู่ข้างๆจากการใช้ไม้ลูกชิ้นขีดๆนั่นแหละกลบ กลบแล้วก็ฉีดๆน้ำให้พอเปียกแต่อย่าแฉะ เสร็จแล้วหาถุงพลาสติกมา ห่อกระบะเพาะของเราเอาใว้ซะ แนะนำถุงหูหิ้วใบใหญ่หน่อยใสๆ ผูกให้เป็นพองๆแบบว่ามีอากาศอยู่ด้านในพอสมควร จากนั้นก็รอ ถ้าเป็นพืชผักที่ระยะเวลางอกไม่นาน ก็ไม่ต้องแกะออกมารดน้ำ ถ้าเป็นไม่ดอกไม้ประดับหรือผักที่ใช้เวลางอกนานเป็นสัปดาห็ ก็เปิดปากถุงแล้วฉีดน้ำละอองฝอยๆลงไปซะหน่อยตอนเช้าๆ พอเห็นต้นอ่อนงอกขึ้นมาแล้วก็ แกะถุงพลาสติกออก เลี้ยงต่อให้ต้นแข็งแรงสักนิด โดยสังเกตุว่าใบเลี้ยงมีครบ และเริ่มแตกใบจริง ก็ย้ายลงแปลงปลูกได้ครับ วิธีเตรียมแปลงปลูก ก็แบบที่เราเรียนปลูกผักตอน ป.2นั่นแหละครับ ตอนย้ายก็ระวังนิด ค่อยๆเอาไม้ลูกชิ้นอันเดิมนั่นแหละจิ้มลงไปแล้วแซะมันขึ้มา เพาะแบบที่ผมว่าเนี่ย อัตราการงอก ก็จะได้ไกล้เคียงกับที่ระบุอยู่ในฉลากบนซองนั่นแหละครับ แต่เวลาย้ายลงแปลงอาจรอดน้อยหน่อย ก็คอยดูแลให้ดีในช่วงแรก พอตั้งตัวได้ก็รับรองได้กินแน่ๆครับ จากคุณ : ถึงจนทนสู้กัดก้อน กินเกลือ - [ 12 ธ.ค. 50 14:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 +++ ขอบคุณทุกความเป็นมากเลยค่ะ จากคุณ : a - [ 12 ธ.ค. 50 21:27:04 A:58.64.55.122 X: TicketID:073234 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณแล้วเหรอ บอกต่อนิดนึงว่า เวลาซื้อ ให้ดูวันที่ผลิตด้วย เพราะเมล็ดพันธุ์นั้น ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ เปอร์เซนต์งอกของเค้าจะลดลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 13 ธ.ค. 50 09:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำแบบ คห 2 ค่ะ เมล็ดพันธุ์พวกนี้หมดอายุเร็ว เพาะยากไม่ค่อยขึ้น ถ้าลงดิน ฝังกลบ ไม่งอกค่ะ ต้องนำมาเพาะกล้าในกระบะเล็กๆก่อน ให้ความชื้นเยอะ หรือเพาะในกระดาษทิชชู่ชื้นๆก็ได้ ถ้าจะให้ดี ไปซื้อแบบที่เค๊าชำขายข้างทางมาเลยดีกว่า แล้วมาแยกหน่อเอา ขึ้นแน่นอน สมัยเด็กๆทิ้งขว้างเม็ดขึ้นง่ายเชียว เดี๋ยวนี้ประคบประหงมแทบแย่ยังไม่ยอมจะงอก จากคุณ : มิสพี - [ 16 ธ.ค. 50 19:22:46 A:58.64.56.124 X: TicketID:163182 ]