ความคิดเห็นที่ 1 เคยขอกู้เงินผ่อนบ้านกับทหารไทยก็ต้องมีประกันชีวิต หมือนกัน ครับ บังคับหรือเปล่าไม่รู้  ตอนกู้  กู้กับพนักงาน bank ที่รู้จัก โดยกู้ เป็นจำนวน สามแสน บาท เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าไม่ต้องทำประกันชีวิตก็ได้  เงินจำนวนมากๆ คงต้องบังคับ โดย bank มังครับ  ต้องรอผุ้รุ้มาตอบอีกทีนะครับ จากคุณ : Old Guy - [ 16 ธ.ค. 50 18:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของผมมีแค่บังคับ ทำประกันอัคคีภัย ครับ ไม่ทราบว่าที่อื่นเป็น อย่างไรบ้าง จากคุณ : [PeTeR] - [ 16 ธ.ค. 50 18:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็มีแต่ประกันอัคคีภัย ไม่บังคับประกันชีวิต หรือผมกู้นิดเดียวด้วยมั๊ง (ไม่ถึงห้าแสน เพราะจ่ายสดไปเยอะแ้ล้ว) ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ทำประกันชีวิตอะไรเลยด้วย ลองถามเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้นดูสิครับว่าไม่ทำได้หรือเปล่า จากคุณ : ร้อยแปด ร้อยเก้า - [ 16 ธ.ค. 50 19:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้วก็คือ เซลล์ต้องทำยอดค่ะ แต่เค้าก็เป็นการหวังดีด้วยนะ เพราะถ้าเราเป็นไร พ่อแม่พี่น้อง ก็ไม่ต้องมาจ่ายค่าเช่าบ้านแทนไงคะ แต่จริงๆแล้วมันบังคับกันไม่ได้ค่ะ ของแบบนี้ เค้ามีสิทธิ์เชิญชวนให้คุณทำ อยู่ที่คุณอยากจะทำหรือไม่นะค่ะ จากคุณ : FangAngel - [ 16 ธ.ค. 50 20:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำของที่อื่นก็ได้ค่ะ อาจจะเบี้ยถูกกว่า แต่ควรจะทำ เพราะเกิดเป็นไรไปจะได้ไม่ต้องทิ้งหนี้ให้คนข้างหลังจ้ะ จากคุณ : หมูกระสา - [ 16 ธ.ค. 50 20:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โดยปกติจะบังคับทำแต่ประกันอัคคีภัยครับ การทำประกันชีวิตจะเชิญชวนแต่ไม่บังคับ เพราะถ้าเราตายไป ธนาคายังยึดและเอาบ้านขายเอาเงินคืนได้ถ้าลูกหลานไม่ผ่อนต่อ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ลองคิดดูว่าสามารถเอาค่าประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ ตอนผมกู้ ธนาคารก็ให้ทำเหมือนกัน โดยกู้ 5 ล้าน ธนาคารให้ทำโดยจ่ายเบี้ย 3 แสนครั้งเดียว  ทั้งนี้ธนาคารจะทำวงเงินกู้เป็น 5.3 ล้านให้ทันที  ผมฟังปุ๊บ ปฏิเสธทันทีเพราะ 1. เบี้ย 3 แสน หักลดหย่อนปีนั้นได้ไม่เกิน 1 แสน ได้ภาษีคืน 2 หมื่น (ภาษี 20%) ถ้าแบ่งจ่าย 3 งวด ปีละแสน ผมได้คืนถึง 6 หมื่น  ทำเงินหายไปตั้ง 4 หมื่น 2. เบี้ย 3 แสนที่ธนาคารรวมเข้าไปในวงเงินกู้นั้น แสดงว่าผมต้องจ่ายดอกเบี้ยของเบี้ยประกันตลอดระยะเวลาสัญญาเช่าด้วย รวมเบี้ยประกัน+ดอกเบี้ยเป็นเกือบ 6 แสน  แถมลดหย่อนภาษีได้แสนเดียวอีก 3. ถ้าธนาคารบอกว่า บ้านจะได้มีให้ลูกหลาน ผมไปทำประกันชีวิตเองข้างนอกดีกว่า  ตายแล้วก็ได้เงินก้อนเหมือนกัน ส่วนเรื่องน้าเซ็นสัญญาไปแล้วนั้น ลองดูดีๆ อีกทีครับ ปกติจะเซ็นสัญญาเงินกู้กันวันโอนเลย ยกเว้นจะเซ็นไว้ก่อนแล้วมอบอำนาจให้คนอื่นไปทำ  หรือสัญญาเซ็นไปแล้วแต่ยังไม่ได้เบิกเงินจากบัญชีเงินกู้ (เพราะบ้านยังไม่โอน บัญชีเงินกู้ยังไม่มีรายการ) ดอกเบี้ยก็ยังไม่มีครับ  เรียกว่าเปิดบัญชีไว้เฉยๆ เท่านั้น อย่างนี้ต้องคุยกับธนาคารอย่างเดียวครับ  ถ้าธนาคารไม่ยอม ก็อย่าลืมเอาค่าประกันชีวิตปีละหมื่นสองไปลดหย่อนภาษีแล้วกัน ได้คืนมา 20% ก็ยังดี จากคุณ : tee (TBDLTee) - [ 16 ธ.ค. 50 21:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 +++ ประกันอัคคีภัย ต้องทำทุก ธ. แต่ที่คุณว่ามาน่าจะเป็นประกันชีวิตมากกว่า อันนั้นเค้าไม่บังคับ  ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้ายังไม่โอนที่ ธ.คาร ยกเลิกได้  อาจเสียแค่ ค่าประมิณ 2000 ได้ม้าง  แล้วก็ ติดต่อที่อื่นดู  ไม่มีปัญหาอย่างอื่นร๊อก เพียงแค่ต้องส่งเรื่องใหม่ จากคุณ : kanakum - [ 16 ธ.ค. 50 21:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ประกันตามกฏหมายที่บังคับมีอย่างเดียวคือัคคีภัยค่ะ ประกันชีวิตหน่ะ เซลหาค่าคอมมิชชั่นเองไม่มีสิทธิมาบังคับเรา ถ้าบังคับให้ร้องเรียนสำนักงานใหญ่หรือไม่ก็เปลี่ยนแบงค์ไปเลย แต่.........น้าคุณเซ็นต์สัญญาไปแล้วนี่สิ ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน ก็ถือเสียว่าซื้อความเสี่ยงแล้วกัน จากคุณ : varada - [ 16 ธ.ค. 50 21:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาเยี่ยมกระทู้เฉยๆ เรื่องที่ถาม  ไม่รู้หร๊อก จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 16 ธ.ค. 50 23:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นคะ ตอนดิฉันจะซื้อบ้าน ก็มาขอข้อมูลที่นี่ได้ความรู้มากมาย และเจ้าของบ้านเดิมก็ช่วยติดต่อแบงค์ให้ด้วย ทำให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ตอนน้าชาย เขาไมได้มาปรึกษา ไม่อย่างนั้นคงหาข้อมูลไปบอกเขาก่อนจะเสียที ทางแบงค์น่ะค่ะ ตอนนี้ทำสัญญากับแบงค์ไปแล้ว  วันทำสัญญากับวันโอนคนละวันค่ะ  กำหนดนัดโอนวันที่ 20 เดือนนี้ น่ะค่ะ  เขารีบมากเลยไมได้ไตร่ตรองให้ดี เพราะคิดว่า ควรรีบโอนให้เสร็จภายในสิ้นปี เผื่อปีหน้าดอกขึ้น ค่าทำเนียมขึ้นอีก จะแย่น่ะ นี่ก็มานั่งกลุ่มใจอีก  ยื่นกู้ไป 1.9 ล้านคะ ได้ 85% ก็ประมาณ 1.52 ล้านคะ เท่าราคาบ้านพอดี  (บ้านมือสอง) เขาไม่มีความรู้เรื่องกู้ เรื่องทำสัญญาและไม่ได้อ่านให้ละเอียด ฟังเซลอย่างเดียวว่าถ้าไม่ทำก็กู้ไม่ได้ เลยจำใจเซ็นต์สัญญาไปแล้วด้วย อยากจะช่วยเขา เพราะว่าแค่ค่าธรรมเนียมทุกอย่าง  ทางเจ้าของเดิมซึ่งเป็นญาติก็ให้เขาออกหมดทุกอย่าง  รายจ่ายมันเยอะอยู่แล้ว ก็เลยอยากจะช่วยเขา เผื่อจะมีทางแก้ไขได้ทันก่อนไปโอนที่กรมที่ดินน่ะค่ะ ขอถามคุณ  kanakum  คคห.7 ว่า  ทำสัญญาเงินกู้แล้ว ยกเลิกได้ด้วยหรือคะ มีเอกสารสัญญาแล้วนะคะ  จะยกเลิกแต่ประกันได้มั๊ยคะ ขอความรู้ด้วยค่ะ จากคุณ : แหม่ม (mam28) - [ 17 ธ.ค. 50 00:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประกันชิวิตตัวนี้ในต่างประเทศเป็นที่ยอมรับกันมากค่ะ  เหมาะสำหรับคู่สามี-ภรรยาที่มีลูกๆหลายคน แต่มีหลักหัวหน้าครอบครัวหาเงินคนเดียว เราว่าดีค่ะประกันตัวนี้  เพราะทางแบงค์เขาก็ปล่อยเพิ่มมาให้เราอยู่แล้ว  (เราคิดว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นยังไม่ทราบ ถ้ายิ่งบ้านราคาแพง กู้มาเยอะยิ่งน่าทำค่ะ  ถ้าผู้เป็นสามีหลักของครอบครัวเสียไป  ผู้เป็นภรรยาจะได้ไม่ลำบากส่งต่อ เพราะมีลูกๆต้องคอยดูแลต่อ) จากคุณ : shiiba....(^_,^) - [ 17 ธ.ค. 50 07:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เซ็นตืสัญญาแล้ว ก็คงจะยากนะค่ะ  เพราะถ้ายกเลิกไม่แน่ใจว่าจะมี cancellation fee หรือเปล่า ต้องอ่านในสัญญาให้ละเอียดค่ะ.. อาจจะคิดได้ 1 - 2% ของวงเงินที่ยกเลิกสัญญาค่ะ  (ไม่ทราบอัตราของ KBANK ค่ะ) จากคุณ : kob_obb_obb - [ 17 ธ.ค. 50 07:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จำได้ว่าเคยอ่านกระทู้ใครสักคน ทำเรื่องกู้+ประกันชีวิตไป (แบบ ธ.มาบังคับ) แล้วเปลี่ยนใจไม่เอา  เลยไปบอกเซลว่ายกเลิกแค่ตัวประกัน แต่เซลไม่ยอม คนนั้นเลยโมโหยกเลิกเงินปะกันทั้งหมดเลย  เสียค่าธรรมการขอกู้ รึ ยกเลิก ไม่แน่ใจเท่านั้น  เพราะยังไม่ได้ใช้เงินนี่นา ยังดีกว่าต้องไปเสียดอกเบี้ยประกันใน เรทเงินกู้ นะค่ะ  ถ้าอยากทำ ไปทำกับ บ.ประกันโดยตรง ไม่เสียดอกเบี้ย แถมแบ่งจ่ายได้ด้วย อ้อ  ลองไปคุยกับหัวหน้าสินเชื่อเลย โทรไปก็ได้ น่าจะได้คำตอบที่ดีกว่าคุยกับเซลนะ เพราะเค้าคงไม่อยากยกเลิกหรอก รายได้เค้านี่ ธ.ก็ย่อมอยากได้ลูกค้าไว้ค่ะ  แต่คุณจะต้องทำเรื่องกู้ใหม่ เป็นยอด ที่ไม่รวมการประกันค่ะ จากคุณ : โมโมจิ จัง - [ 17 ธ.ค. 50 12:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากคะคุณโมโมจิ จัง สำหรับข้อมูลคะ  ทราบข้อมูลเพิ่มจากน้ามาว่า  จ่ายค่าประกันเดือนละพัน เป็นระยะเวลา 20 ปี เลยค่ะ เงินเอาประกัน เท่าราคาบ้านมั๊งคะ 1.5  ล้าน  ตอนดิฉันกู้กับ ธอส. เขาก็ชวนทำแต่ดิฉันแจ้งความประสงค์ว่าไม่ทำเขาก็ไม่บังคับคะ แต่ที่ กสิกรนี่ เจอมาสองรายแล้ว คนใกล้ตัว  ถ้าน้ามาปรึกษาดิฉันสักนิดคงไม่เสียที ทำไปคะ ก็คงแนะนำตามข้อมูลที่ได้ปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆในนี้น่ะค่ะ ค่าประกันที่ต้องจ่ายรายเดือน ดูมันอาจจะเหมือนไม่แพง คุ้มประกันความเสี่ยงก็จริง แต่แค่ค่าต่างๆที่น้าต้องจ่ายก็เยอะแล้ว สงสารเค้า  เหลือเวลาอีกวันสองวันที่จะถึงวันโอน โทรไปบอกน้าแล้ว ว่าให้ลอง ไปคุยกับแบงค์ หรือบริษัทประกัน  ขู่ไปเลยว่า จะฟ้อง เพราะว่าเซลให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่เต็มใจทำแต่เซล บังคับ ขู่ว่าถ้าไม่ทำก็กู้ไม่ได้ และเป็นกฏของแบงค์ว่าต้องทำ ถึงหลวมตัวทำไป ก็ต้องรอดูน้าก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ  แล้วจะมาเล่าความคืบหน้าให้ฟังอีกครั้งค่ะ จากคุณ : แหม่ม (mam28) - [ 17 ธ.ค. 50 23:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่เราก็ทำนะ แฟนกุ้สามล้านกว่าๆ ก็ทำตัวนี้ด้วย มันก็ดีนะ เพราะแฟนเราหาเงินคนเดียว ถ้าเป็นอะไรไปเราก็แย่ เลยทำไว้ก็ดี ก็ประมาณแสนเดียวอ่ะ จากคุณ : หยาดรุ้ง - [ 18 ธ.ค. 50 13:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 +++ โทษทีมาช้า  ถ้าเซ็นต์สัญญาไปแล้ว ก็คงคุยยากหน่อย  ไงก็ไปถามเจ้าหน้าที่เองเลยดีกว่า หรือโทรไปสำนักงานใหญ่ ถามเค้าดู ยกเลิก ต้องทำไง เสียค่าไรมั่ง  แล้วเค้าบังคับทำประกันจริงหรือ  ถามจาก สำนักงานใหญ่เลย   ถ้าเค้าบอกบังคับ เราก็ขู่ไปเลยจะไปร้องเรียนสื่อ  เพราะ ส่วนมากที่รู้มาเค้าไม่มี นโยบายบังคับ ทำประกันชีวิตแน่นอน  ลองดูๆ จากคุณ : kanakum (kanakum) - [ 18 ธ.ค. 50 21:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การกู้เงินสินเชื่อบ้านของธนาคาร ปกติจะต้องทำประกันอัคคีภัย (ไฟไหม้) กรณีบ้านถูกไฟไหม้ ผู้กู้จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของผู้กู้ ในส่วนนี้ทุกธนาคารมีระเบียบให้ต้องทำประกันอยู่แล้วครับ ในส่วนของการทำประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองเงินกู้ที่กู้ไว้กับธนาคารนั้น จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อ คุณน้าของคุณมีลูก หลาน หรือ บิดา มารดา หรือญาติอันเป็นที่รัก  กรณีที่ผู้กู้ถึงแก่กรรมก่อนที่จะผ่อนชำระหนี้สินเชื่อบ้านของธนาคารหมด ทางบริษัทประกันจะจ่ายหนี้สินเชื่อบ้านแทนท่าน และโอนกรรมสิทธิไปยังลูก หลาน หรือ บิดา มารดา หรือญาติอันเป็นที่รักของท่าน ทำให้เกิดความมั่นคงในการกู้สินเชื่อบ้านซึ่งใช้เวลาผ่อนชำระค่อนข้างนาน ตั้งแต่ 10-30 ปี ผมก็ขอกู้กับธนาคารเหมือนกัน แต่เป็นการกู้ซื้อคอนโดมิเนียม และก็เลือกที่จะทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองการกู้เหมือนกัน โดยขอกู้กับธนาคาร แต่ยอดผ่อนชำระไม่เพิ่มจากปกติ (ผ่อนชำระเท่าเดิม เพราะจะทำให้ไม่ต้องแบกภาระต่อเดือนมากขึ้น) แต่ได้รับความคุ้มครอง กรณีเราเสียชีวิตก่อน ซึ่งอนาคตใครจะไปคาดเดาได้ ผมคิดว่าทาง sale ขายคงจะมือใหม่ ไม่อธิบายถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้คุณน้าคุณเข้าใจ ถ้าเข้าใจ ผมคิดว่าคงจะตัดสินใจทำประกันไว้เหมือนกับผม แต่ถ้าหากไม่อยากจะเสียค่าประกันชีวิต คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาในอนาคต ก็ไม่ต้องทำประกันชีวิตดังกล่าวก็ได้ครับ เพราะธนาคารไม่สามารถบังคับให้ทำได้อยู่แล้ว คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ จากคุณ : surasakbangna (surasakbangna) - [ 26 ธ.ค. 50 09:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การกู้เงินสินเชื่อบ้านของธนาคาร ปกติจะต้องทำประกันอัคคีภัย (ไฟไหม้) กรณีบ้านถูกไฟไหม้ ผู้กู้จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของผู้กู้ ในส่วนนี้ทุกธนาคารมีระเบียบให้ต้องทำประกันอยู่แล้วครับ ในส่วนของการทำประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองเงินกู้ที่กู้ไว้กับธนาคารนั้น จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อ คุณน้าของคุณมีลูก หลาน หรือ บิดา มารดา หรือญาติอันเป็นที่รัก  กรณีที่ผู้กู้ถึงแก่กรรมก่อนที่จะผ่อนชำระหนี้สินเชื่อบ้านของธนาคารหมด ทางบริษัทประกันจะจ่ายหนี้สินเชื่อบ้านแทนท่าน และโอนกรรมสิทธิไปยังลูก หลาน หรือ บิดา มารดา หรือญาติอันเป็นที่รักของท่าน ทำให้เกิดความมั่นคงในการกู้สินเชื่อบ้านซึ่งใช้เวลาผ่อนชำระค่อนข้างนาน ตั้งแต่ 10-30 ปี ผมก็ขอกู้กับธนาคารเหมือนกัน แต่เป็นการกู้ซื้อคอนโดมิเนียม และก็เลือกที่จะทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองการกู้เหมือนกัน โดยขอกู้กับธนาคาร แต่ยอดผ่อนชำระไม่เพิ่มจากปกติ (ผ่อนชำระเท่าเดิม เพราะจะทำให้ไม่ต้องแบกภาระต่อเดือนมากขึ้น) แต่ได้รับความคุ้มครอง กรณีเราเสียชีวิตก่อน ซึ่งอนาคตใครจะไปคาดเดาได้ ผมคิดว่าทาง sale ขายคงจะมือใหม่ ไม่อธิบายถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้คุณน้าคุณเข้าใจ ถ้าเข้าใจ ผมคิดว่าคงจะตัดสินใจทำประกันไว้เหมือนกับผม แต่ถ้าหากไม่อยากจะเสียค่าประกันชีวิต คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาในอนาคต ก็ไม่ต้องทำประกันชีวิตดังกล่าวก็ได้ครับ เพราะธนาคารไม่สามารถบังคับให้ทำได้อยู่แล้ว คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ จากคุณ : surasakbangna - [ 26 ธ.ค. 50 09:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากคะสำหรับทุกความคิดเห็นคะ มารายงานความคืบหน้าค่ะ ว่าน้า ตัดสินใจโอนบ้านไปแล้ว พร้อมกับประกันชีวิตที่ถูกบังคับให้ทำไปแล้วค่ะ เพราะเขาไม่อยากยืดเยื้อ และถามกับพนักงานแบงค์ที่มาทำเรื่องที่กรมที่ดิน เขาก็ยังยืนยันว่าบังคับต้องทำ(ก็พวกเดียวกัน บอกไม่บังคับได้ยังไง จิงมั๊ย) เห็นน้าบอกว่า ในสัญญาที่กู้กับธนาคารนอกจาก  ค่างวดรายเดือนแล้วยังมีค่างวดประกันชีวิต ด้วยค่ะ ว่าจ่ายเดือนละ 1 พันบาท รู้สึกว่าจะจ่ายเท่าอายุสัญญาเงินกู้เลยนะคะ ไม่รู้ว่าประกันกี่บาท ไม่ได้ถามรายละเอียดคะ ที่ไม่อยากทำประกันอันนี้ ถ้าเลือกได้ก็คือไม่อยากทำน่ะค่ะ เรื่องประกัน น้าชายมีประกันหลักอยู่ 2 สถาบันการเงินแล้วคะ รายจ่ายเขาเยอะ อยู่แล้วน่ะค่ะ ถ้าเขามาปรึกษาก่อน เราก็คงแจ้งข้อมูลที่ทราบมาจากเพื่อนๆ พี่ๆหลายคนที่นี่และคนรอบข้างแนะนำได้คะ แต่มาบอกเอาตอนทำสัญญาแล้ว มันก็เลย ต้องเลยตามเลยคะ  ยังไงก็ขอบคุณความรู้และคำแนะนำต่างๆนะคะ จะเก็บไว้เป็นความรู้ไว้เผยแพร่ต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งคะ จากคุณ : แหม่ม (mam28) - [ 8 ม.ค. 51 17:31:35 ]