ความคิดเห็นที่ 1 ว้า   เราโชคไม่ดีเลยฝ้าย     มาถึงอีสตันบูลฝนดันตก   หมดมู๊ดไปเลยเนอะ   เราให้ทาง รร จัดรถมารับที่สนามบิน    อืมมมม   สนามบินนานาชาติที่อีสตันบูลทันสมัย ใหญ่โตไม่เบาเลยหละ    ทาง รร บอกว่าจะให้คนมารับที่ทางออก  โดยเขาจะถือป้ายชื่อเราเอาไว้    พอเราเดินออกมานะ   หาไม่เจอเลย   เดินดูป้ายชื่อที่เขาถือกันเรียงแถวหน้ากระดาน   แหม อายจัง  เดินดูราวกับประกวดนางงาม ฮ่า ฮ่า ฮ่า   รอบแรกหาไม่เจอ   เอ  ทำยังไงดีหละ  ใจไม่ดีเลยฝ้าย   ถ้าฝ้ายมาเที่ยวด้วยกันนะก็คงใจชื้นมาบ้าง   มีอะไรจะได้ช่วยกัน  แบบว่า  คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายเนอะ   เราเลยลองเดินดูป้ายชื่ออีกรอบ   เย้  คราวนี้เจอคนมารับแล้ว    จากสนามบินไป รร ก็ราวๆครึ่ง ชม เห็นจะได้   ถนนเลียบทะเลมาร์มาร่า  แต่อากาศไม่ดี   ฟ้าปิด  ฝนตกปรอยๆ    รร ที่เราพักนั้นตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของอิสตันบูล  ชื่อว่าย่าน Sultanhamet (อ่านออกเสียงแบบภาษาอังกฤษว่าย่าน เซา - ทัน - นา - เมด)  ง่ายๆก็คือชื่อของ สุลต่านฮาเมด นั่นแหละจ้า   รร ที่จองเป็น รร ขนาดเล็กแค่ 20 ห้องนอนเอง    เป็นบูติกโฮเทลจ๊ะ    ห้องพักดีใช้ได้เลย  ตกแต่งสไตย์เรียบง่าย แต่แอบหรูนิดๆ     รร ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่า  เลยทำให้สามารถเดินไปเที่ยวสถานที่ต่างๆได้สะดวกมากๆเลย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฝ้ายรู้ไหมว่าที่ตุรกีนี้  เราสามารถเข้าไปชมภายในมัสยิดได้นะ   สมัยที่เราไปโมร็อคโคนั้น   เขาให้เฉพาะคนมุสลิมเข้าไปเท่านั้นเอง   เออ   มาตุรกีหรือประเทศอิสลามก็ต้องได้ยินเสียงอิหม่านประกาศออกลำโพง 5 ครั้งต่อวัน    เขาประกาศให้รู้ว่านี่ถึงเวลาสวดมนต์ต่อพระเจ้าแล้วนะอะไรประมาณนั้น     แต่ที่เราชอบมากๆเลยก็คือว่า   อิหม่านจะไม่ประกาศแบบเสียงตามสายแบบที่เราเคยได้ยินนะ    เขาประกาศแต่เหมือนกับขับร้องเป็นเพลง  มีท่วงทำนอง     บ้านเราก็คือเหมือนพระสวดมนต์เนอะ  มีจังหวะ  มีเสียงสูงๆ ต่ำๆ  ขึ้นๆลงๆ    เออนะ ฟังอิหม่านประกาศแล้วก็แปลกและประทับใจดี   ที่แรกที่ต้องไปก็คือเป็นมัสยิดสีน้ำเงินจ๊ะ  (Blue Mosque)  เราสามารถเข้าไปชมภายในได้นะ   แต่ต้องไม่ใช่เวลาที่ชาวมุสลิมสวดมนต์    ฝ้ายรู้ไหมว่าใครเป็นคนสร้างมัสยิดสีน้ำเงินที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้    คนที่สร้างก็คือสุลต่านฮาเมดที่ 1 ในปี คศ 1603 ถึงปี คศ 1617 จ้า     เหตุผลหลักๆที่สร้างให้ใหญ่โตมโหฬารนั้นก็คือเพื่อต้องการให้มัสยิดแห่งนี้ยิ่งใหญ่เหนือคู่แข่งกับมัสยิด Haghia Sofia  (ภาษากรีกอ่านว่ามัสยิด  ฮา - เกีย - โซ - เฟีย)   มัสยิดฮาเกียโซเฟียสร้างมาก่อนนานมากๆเลยนะ     ใหญ่โตมโหระทึกจริงๆ    เดี๋ยวจดหมายฉบับหน้าจะเอารูปมาให้ชมประชันกันกับมัสยิดสีน้ำเงิน จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนตุรกีก็เหมือนกับแขกขาวทั่วไปนะที่นิสัยดี   เป็นกันเอง  เฟรด์ลี่ย์มากๆเลย   หากฝ้ายมาเที่ยวคนเดียวนะ  ฝ้ายจะไม่เหงาเลย   เพราะเขาจะเข้ามาทักทาย   ถามว่า  เราชื่ออะไร   มาจากไหน  สบายดีไหม จะไปเที่ยวที่ไหน  ชอบที่นี่ไหม เป็นต้น   แรกๆนะ  เราก็รู้สึกไม่ชินกับคำถามเหล่านี้   เพราะเดินไปทุกๆ 5 เมตร  เขาก็จะถามทักทายเราทุกครั้ง  และเราก็จะต้องตอบทุกครั้งตามมารยาท     แต่ฝ้ายรู้ไหมว่า  เราไม่ชินเลยหละในตอนแรกๆ   เพราะคำถามที่เขาถามเราว่า   ชื่ออะไร   หรือ สบายดีไหม   คำถามพวกนี้คนไทยไม่ถามกันเนอะ     คนไทยทักฝรั่งนักท่องเที่ยวก็แค่ ฮัลโหล   เวย์ ยู คัม ฟรอม์     จากนั้นหากคุยกันไปนานๆ  อาจจะค่อยมาถามชื่อแซ่       แต่คนตุรกีจะถาม ฮาว์ อาร์ ยู  เลยในทันที    เออ   เราก็ไม่รู้จะตอบอะไร   ก็แค่  เยส  ไอ เอม ฟายด์    แต่อย่างว่าไง   ถามบ่อยๆ  ทีหลังเราเลยขี้เกียจตอบ     แบบว่าเมื่อยปากไง  ฮ่า ฮ่า ฮ่า   เลยได้แค่ยิ้มให้ก็พอ    อย่างน้อย  นี่ก็คือน้ำใจที่คนตุรกีมีให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ   ตอนที่เราไปถึงมัสยิดสีน้ำเงินนั้น   เขากำลังสวดมนต์พอดี  เลยต้องรอข้างนอกก่อน   ระหว่างนั้นก็เดินเล่นรอบสวนก็ได้   สวยดี    ถ่ายรูปมุมดีๆได้เยอะเลย แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 51 21:24:40 จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าว  ลืมภาพประกอบ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืมๆๆๆ จากคุณ : สีไม้น้ำ - [ 20 ม.ค. 51 21:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราอ่านเจอมานะว่า  ปกตินักท่องเที่ยวจะเดินเข้ามัสยิดสีน้ำเงินทางด้านสวน    แต่หนังสือไกด์แนะนำเรามาว่า  ให้เราเดินเข้าทางด้านข้างดีกว่า   เพราะคนน้อย   และที่สำคัญ  เวลาเราเดินเข้าทางด้านข้างนี้จะเห็นลานของมัสยิด   และจะเห็นตัวมัสยิดได้เต็มๆกว่าเลยจ้า     ถ้าฝ้ายมาเที่ยวด้วยกันนะ   จะต้องชอบและตะลึงในความยิ่งใหญ่แน่นอนเลย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตรงกลางลานนี้จะเป็นน้ำพุ   ที่จริงก็คือที่ล้างเนื้อตัว ล้างมือ ล้างเท้าสำหรับสุลต่านเท่านั้น   เพราะตามแบบอย่างมุสลิมแล้ว   การจะไปเข้าหาพระเจ้านั้น   จะต้องมีร่างกายที่สะอาดบริสุทธ์เสียก่อน จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รีบเจ๋อเข้ามาปาดก่อนอื่น ฝ้ายนี่ไม่ใช่ ฝ้ายแฟนน้าแสบนะค๊า.. เดี๋ยวจะหาว่าอับเทรี่ไม่เตือนนนนน จากคุณ : ไปอ่านต่อก่อน (เทรี่กัดปลายดินสอเขียน) - [ 20 ม.ค. 51 21:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ว้า   ฝ้ายได้สวดมนต์ขอพรให้เราไหม   ที่ว่าขอให้อากาศดีๆหนะ   วันนี้อากาศที่อิสตันบูลก็โอเคนะ   เอาเถอะนะ   จะยังไงก็ตาม  ขออย่าให้ฝนตกเป็นพอเนอะ    วันนี้ฝนไม่ตก  แต่ท้องฟ้าไม่เปิด  เลยถ่ายรูปออกมาไม่สดใสเลย       อ้าว  ตอนนี้เขาสวดมนต์กับเสร็จพอดีเลย    เราเตรียมตัวเข้าไปขมภายในมัสยิดสีน้ำเงินได้แล้วหละ    ที่นี่เขาจะมีถุงพลาสติกเอาไว้ให้ใส่รองเท้าถือเข้าไปข้างในนะ   อ้อ   ไม่เสียตังค์ค่าเข้าด้วยนะจ๊ะ       แว๊ปแรกเมื่อเข้าไปข้างในเลยเนี่ย    โอ้ว   ฝ้าย   มันใหญ่โตอลังการงานสร้างมากๆเลย    ดีนะที่เรามาแต่เช้า   คนเลยยังไม่เยอะ      เพดาน ฝาผนังตกแต่งด้วยโมเสกและกระเบื้องลวดลายวิจิตรงดงาม    ทุกอย่างล้วนเป็นสีน้ำเงิน    นี่ไงหละถึงเป็นที่มาของชื่อที่ว่า มัสยิดสีน้ำเงิน หรือ Blue Mosque ยังไงหละจ๊ะ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ระหว่างที่เราเดินๆชมนั้น  ก็มีชาวตุรกีเข้ามาทักทาย  (อีกแล้ว)   ก็เป็นลักษณะเฟรนด์ลี่ย์ของแขกขาวเลยหละ    เขาก็มาอธิบายเป็นไกด์ให้เราฟังโน่นฟังนี่    ฝ้ายรู้ไหมว่า  นอกจากที่กระเบื้องโมเสกจะเป็นสีน้ำเงินแล้ว   เขายังบอกว่าชื่อมัสยิดสีน้ำเงินยังมีที่มาอีกอย่างนะ     เขาบอกว่า สมัยที่สุลต่านฮาเมดที่ 1 สร้างมัสยิดแห่งนี้นั้น  พระองค์ทรงมีพระชายา 4 พระองค์  โดยที่พระชายาองค์ที่ 2 นั้นโปรดสีน้ำเงินเป็นการส่วนพระองค์มากๆ    ด้วยเหตุนี้สุลต่านจึงประดับประดาตกแต่งมัสยิดแห่งนี้เป็นสีน้ำเงินจ๊ะ    แหม  งานนี้ต้องขอบคุณไกด์ชาวตุรกีจริงๆเลยเนอะ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 51 22:51:28 จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฝ้ายเอ่ย   เราตาลายไปหมดแล้วหละ   แบบว่ามองไปทางไหนก็วิจิตรอลังการมากๆเลย     เราชอบมากๆเลยนะ    แต่ก่อนเที่ยวยุโรปก็เห็นความสวยในแบบของเขา   จะโกธิค  จะบาร็อค  จะนีโอคลาสสิค  หรือจะเรอแนสซ๊อง   ก็เห็นจนชินตาแล้ว    แต่วันนี้ได้มาเห็นศิลปะอิสลาม  ก็งดงามไปอีกแบบ  แปลกตาดี   นี่แหละนะเขาว่า  การเดินทางไปที่ต่างๆนั้นทำให้เรามีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น       เราจะได้รู้ว่าในโลกนี้ยังมีที่งดงาม   มีอารยธรรมอีกเยอะที่น่าค้นหา   ไม่ใช่มีแค่ตะวันตกที่เดียวเท่านั้น จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฝ้ายดูรูปนี้ให้ดีๆนะจ๊ะ    ฝ้ายเห็นเสาต้นใหญ่ๆนี้ไหม    เขาเรียกว่า เสาเท้าช้าง   คือมัสยิดสีน้ำเงินมีขนาดใหญ่โตมากๆๆๆๆ    และตุรกีนี้ก็เป็นพื้นที่ๆเสี่ยงต่อแผ่นเดินไหว   ดังนั้น   เสาแต่ละต้นจะต้องสร้างให้มีขนาดมหึมาเพื่อความแข็งแกร่ง จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปิดท้ายมัสยิดสีน้ำเงินด้วยรูปตอนกลางคืนบ้างนะจ๊ะ    เราก็ออกชมไฟตอนกลางคืนด้วย   โชคดีว่าวันนี้อากาศไม่หนาวมากเท่าไร   ราวๆ 10 องศา(อีสตันบูลในหน้าวหนาวนี่หนาวมากเลยนะ  ปกติเดือน มค ก็ราวๆ 7 องศาเอง)  และฝนก็หยุดตกแล้วด้วย    ก็ดีนะมี่ รร เราอยูในเขตเมืองเก่า   เดินชมบ้างชมเมืองสวยแปลกตาดี    บ้านเมืองที่นี่ตอนกลางคืนประดับประดาไฟสวยงามมากเลย  โดยเฉพาะตามมัสยิดต่างๆ   เปิดไฟแล้วงดงามอร่ามตาจริงๆ    หากฝ้ายมาเห็นต้องชอบแน่ๆเลยจ๊ะ   เอ่อ  ฝ้ายรู้ไหมว่าที่นี่เป็นเมืองที่ปลอดภัยสูงมากๆนะ  ไม่แพ้เมืองในยุโรปที่เรียกตนเองว่าศิวิไลซ์เลย    เราเดินเล่นคนเดียวตอนกลางคืนไม่เคยมีปัญหาเลยนะ    เพียงแค่ระวังตัวในระดับทั่วๆไปเท่านั้นเอง    ผู้คนเป็นกันเองมากๆเลยจ๊ะ     ปกติเนอะ   เราก็ฟังแต่สื่อตะวันตก    จนเราเองโดยครอบงำไปเลยว่าประเทศอิสลามนั้นต้องมีแต่ความวุ่นวาย     จริงๆแล้วไม่ใช่เลยจ้า    ผู้คนที่นี่ nice มากๆเลย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฝ้ายรู้ไหมว่าที่ตุรกีนี่เขามีขนมที่อร่อยมากกกกกกกกกกก   ขึ้นชื่อมากเลยจ๊ะ    เราอ่านหนังสือไกด์นะ   เขาแนะนำว่า  หากมาตุรกี  ต้องไปลองทานขนมที่ชื่อ Baklava  (อ่านว่า  บั๊ค - ลา  - วา)    เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำมาจากอะไร   แต่ก็ลองดูเนอะ  ไม่เสียหายอะไร    เราเลยเข้าไปที่ร้านขายขนมใกล้ๆกับ รร เราเองแหละ    ซื้อ Baklava มาทาน 5 ชิ้น   ราคาไม่แพงนะ   ชิ้นละ 1 Turkish Lira   ก็ราวๆชิ้นละ 40 บาทเท่านั้นเอง ฝ้ายมาทานนะ   จะต้องชอบมากเลยหละ   เพราะขนมจะไม่หวานจัดแบบทองหยิบ ทองหยอดบ้านเรา    จะหวานนิดๆ    อืมมมมมมมมมม   อร่อยจริงๆด้วย      พ่อค้าที่นี่ก็ nice มาก   เราบอกเขาว่าอยากลองชิม baklava  เพราะเขาบอกกันมาว่าอร่อย    แต่ก็อยากลองทางขนมชนิดอื่นบ้าง    เราก็เลยซื้อขนมอีกชนิดหนึ่งเพิ่ม 1 ชิ้น     คนขายก็เลยแถมให้เราฟรีๆ    โห  ประทับใจมากๆเลยจ๊ะ    เนี่ยฝ้ายเห็นไหมว่า   ที่จรีงๆแล้ว   คนที่นี่ไม่ได้ดูวุ่นวายแบบที่เราเห็นตามสื่อตะวันตกเลยนะจ๊ะ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 21:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฝ้ายก็รู้เนอะว่าเราไม่ดื่มชากาแฟ    แต่ที่นี่เราลองชาตุรกีดูนะ   อืมมมมมมมม   อร่อยไม่เบาเลยหละ   เราชอบรสหวานนิดๆของชาตุรกี   ที่จริงเราไม่ได้ออกเงินไปซื้อชาตุรกีมาดื่มเองหรอก    แต่ว่าเราเข้าไปทานอาหารตุรกีที่ร้านใกล้ๆ รร    ไปติดๆกัน 3 วัน   จนเจ้าของร้านคงจำเราได้   เสียดายบลืมถ่ายรูปอาหารตุรกีมาให้ดู     ฝ้ายรู้ไหมเอ่ยว่าอาหารประจำชาติตุรกีคืออะไร    บ้านเราคงนึกถึงผัดกะเพรา    ที่นี่ก็ต้อง เคบับ (Kebab) จ๊ะ   แต่เราเรียกเก๋ๆเองว่า แฮมเบอร์เกอร์แขก    เราว่ามันอร่อยกว่าทานแม็คโดนัลด์เป็นไหนๆเลย   แต่ที่ร้านเราไม่ได้สั่ง เคบับ หรอกนะ   เพราะทานบ่อยเหมือนกันที่ปารีส   เราสั่งเมนูหนึ่ง   จำชื่อไม่ได้ละ    ที่สั่งเพราะมันมีข้าวด้วย     แบบว่าหิวข้าวไทยมากๆเลย    แม้ที่ตุรกีจะไม่ใช่ข้าวหอมมะลิอย่างดีเหมือนบ้านเรา    แต่การได้ทานข้าวที่เมืองนอกนี้ประเสริฐที่สุดเลยจ้า    ทานข้าวแล้วมีแรงเดินเที่ยวมากๆเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า คือพอไปทานที่ร้านนี้บ่อย   ตบท้ายในแต่ละมื้อ  เจ้าของร้านจะนำชาตุรกีมาให้ฟรีๆ   เคยอ่านหนังสือไกด์ว่า   หากคนตุรกีเชื้อเชิญให้ดื่มน้ำชา   ครั้งแรกเราปฏิเสธตามมารยาท    แต่หากเขายังเชื้อเชิญอีก   เราไม่ควรปฏิเสธแล้ว    เพราะนี่คือมิตรภาพที่ชาวตุรกีมีมอบให้กับเรา    เราก็เลยลองดื่มชมนี่ดู      อร่อยไม่เบาเลย     ทานกับขนมหวานของที่นี่  โดยเฉพาะกับ Baklava นะ   ฝ้ายจะต้องชอบแน่ๆเลยจ๊ะ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อิ่มท้องแล้วเราไปเที่ยวที่มิวเซียมทางด้ายโบราณคดีต่อเลยเนอะ    ฝ้ายรู้ไหมว่าที่นี่จัดดีสเพลย์สิ่งของเก่าๆได้เยี่ยมมากๆเลย   ขนาดเราไม่ใช่   "ขาเที่ยวชมมิวเซียม"  นะ  เรายังประทับใจมากๆเลย   หากไปตุรกีแล้วต้องมาที่นี่เลยจ้า     เอาแค่ตึกก็สวยแล้วเนอะ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ค่าเข้าชมก็ไม่แพงเลยนะฝ้าย   แค่คนละ 3 Turkish Lira  หรือราวๆ 120 บาทเอง จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ภายในจัดแสดงได้ดีจริงๆ    ไม่เสียดายที่แวะมาชมเลย   คือว่าเขาจะจัดแสดงของทางโบราณคดีที่ขุดพบในตุรกีทั้งหมด     แบบว่าจะเอามารวบรวมไว้ ณ ที่แห่งนี้เลย     มีรูปปั้นหินอ่อนที่เด่นๆเยอะนะ   เช่น  รูปปั้นเทพีอะธีน่า    ฝ้ายรู้เคยได้ยินชื่อเทพีนี้ใช่ไหมจ๊ะ   นี่ไง  หน้าตาเป็นแบบนี้เองแหละ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หรือเทพซีอุส   ซึ่งเป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ  หน้าตาเป็นแบบนี้จ้า จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ฝ้ายสังเกตุดีๆสิจ๊ะ    จะเห็นความแตกต่างระหว่างงานปั้นแบบตะวันตก  กับงานปั้นแบบไทย    ของบ้านเราจะเน้นที่ความสวยงามเหนือธรรมชาติ  ไม่เหมือนจริง  เช่น  พระพุทธรูปต่างๆ    พระกร  พระศอ   อะไรต่างๆนั้นจะงดงามอ่อนช้อย   ไม่เหมือนมนุษย์แบบเราๆ    ทั้งนี้เพราะว่าสิ่งนี้สูงค่ายิ่งเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาๆจะเหมือนได้     แต่ในทางศิลปะตะวันตกนั้น    เขาจะเน้นความเหมือนจริง   ร่างกายรูปปั้นจะเหมือนคนจริง   มีเส้นเลือก  มีมัดกล้ามชัดเจน   ถึงขนาดที่มีคำกล่าวที่เราได้ยินเสมอๆเลยว่า   หล่อเหมือนเทพบุตรกรีก  แกะสลัดงดงามสมสัดส่วน อะไรประมาณนี้   ตัวอย่างแบบใกล้ๆของเทพซีอุสนะจ๊ะ   ในรูปนี้เป็นบริเวณหน้าท้องที่นายแบบทั้งหลายฝันอยากจะได้นักหนา จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นี่ก็เป็นรูปปั้นอีกรูปหนึ่งที่บ่งบอกให้เห็นถึงความสมจริงในแบบศิลปะตะวันตก จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แม้แต่ปลายเท้าก็เหมือนมากๆเลยเนอะฝ้าย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มิวเซียมที่นี่ใหญ่โตมากๆ   จัดดีสเพลย์เยี่ยมไม่แพ้ลูฟว์หรือบริติส มิวเซียมเลยหละ    เดินชมแบบเร็วๆจนเหนื่อย   แต่น่าเสียดายนะที่ไม่ค่อยมีคนมาชมมากเท่าไร    เดินมาเรื่อยๆจะพบรูปนี้จ้า   ฝ้ายเดาออกไหมว่าคืออะไร    ม้าไม้ไง    สงครามม้าไม้แห่งกรุงทรอย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เฮ้อออออออออออ  ขอนั่งพักก่อนนะฝ้าย   เดินจนเมื่อยขาไปหมดเลย    ก่อนออกจากที่นี่ก็ทิ้งภาพสวยๆเอาไว้ให้ฝ้ายดูละกันนะ    เราว่าแสงสีมันเหมาะมากๆเลยนะว่าไหม    ในรูปนี้หากเราจำไม่ผิดนะ   คือรูปเทพเจ้าแห่งทะเล       เล่านิดละกัน   ตอนเราถ่ายรูปนี้เสร็จนะ  สัญญานมันร้องดังลั่นเลย   อ้าว  ซวยหละสิฉัน    ฉันทำอะไรผิดเหรอเนี่ย    แต่ปรากฏว่ามันร้องผิดเอง   เฮ้อออออออออออ   รอดตัวไป  เล่นเอาเหงื่อตกเลยเรา จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปกติเวลาฝรั่งมาเที่ยวบ้านเรา  ก็ไปวัดพระแก้ว   แต่เมืองไทยก็มีวัดสวยๆมากมายให้ชมใช่ไหม    ที่ตุรกีนี่ก็เช่นกัน   อย่างที่อีสตันบูลนั้นก็ไม่ใช่มีแค่มัสยิดสีน้ำเงินที่น่าสนใจเท่านั้น     ในหนังสือไกด์ได้แนะนำมัสยิดที่ชื่อว่า Rustem Pasa  (อ่านว่ามัสยิด  รัด- สะ - เทม - ปา - ชา)    เป็นมัสยิดขนาดเล็กๆเองจ๊ะ    แต่ความงดงามทางศิลปะแล้วไม่แพ้ใครเลย    เสียดายที่นักท่องเที่ยวมักไม่สนใจ     ก็ดีไปอย่าง  คนน้อยดีเนอะ     แต่ว่านะฝ้าย    โอ๊ยยยยยยยยยย   หายากมากๆกว่าจะเจอมัสยิดนี้    เพราะหนังสือไกด์บอกว่ามัสยิดนี้ไม่ได้ตั้งริมถนน     ต้องเดินหาดีๆ  ลัดเลาะไปในตลาดขายของ     กว่าจะเจอ  ขาลากเลยจ้า     ในใจคิดนะว่า    หากมาแล้วไม่สวยจริงๆ    น่าดูเลยนะเจ้าหนังสือ Lonely Planet    แต่ในใจคิดว่าต้องสวยตามที่หนังสือบอกมาแหละ    เพราะจะว่าไปแล้ว   ยี่ห้อนี้เขาคือ  "ไบเบิ้ล"  สำหรับคนเที่ยวด้วยตนเองเลยเนอะ     และที่ผ่านๆมาก็ไม่เคยผิดหวังสักครั้ง เย้   ฝ้าย   ในที่สุดก็มาถึงจนได้    เล่นเอาเหนื่อยไปเลย    แว๊ปแรก  เออ  มัสยิดนี้มันเล็กจริงๆ     แถมอยู่ในตลาดขายของจริงๆ   หากไม่ถามคนแถวๆนั้น   รับรองว่าหาไม่เจอแน่เลยจ๊ะ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ฝ้ายรู้ไหม    ตอนที่เราเดินหามัสยิดนี้ไปตามตลาดนั้น    แม้จะหลงบ้าง  แม้จะเหนื่อยบ้าง   แต่เรากลับประทับใจนะ   เพราะระหว่างทางนั้น   เราได้เห็นคนตุรกีจริงๆที่ซื้อขายของกัน     เวลาถามทาง   แม้บางคนจะพูดอังกฤษไม่ได้   แต่ก็เต็มใจชี้ไม้ชี้มือบอกทางเรา    นี่แหละเนอะที่เขาว่า  ภาษากายมันก็สื่อสารได้      ระหว่างทางนั้น  เราก็เห็นวิถีชีวิตของผู้คนจริงๆว่าทำมาหากินกันยังไง    มันเป็นภาพที่น่าจดจำและทำให้เราได้เปิดโลกกว้างมากๆเลยจ้า จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มัสยิด Rustem Pasa นี่เรียกว่า เล็กพริกขี้หนู จริงๆนะฝ้าย    เพราะประดับประดางดงามมากๆ   ที่โดมก็สวยงามวิจิตรบรรจงไม่แพ้มัสยิดขนาดใหญ่    ลวดลายของกระเบื้องโมเสกก็งดงาม       ตอนเราเข้าไปนั้นเป็นช่วงที่ชาวมุสลิมสวดมนต์ตอนเที่ยงๆ     แต่ที่นี่เราเข้าไปได้  ไม่ต้องรอ   แต่เราก็ต้องสำรวม  ไม่ส่งเสียงดังรบกวน จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 การมาเที่ยวตุรกีในวันแรกนั้น  เราก็ประทับใจมากๆเลย   ทั้งในด้านความงดงามของศิลปะที่แปลกตา    และโดยเฉพาะความมีน้ำใจและความเป็นกันเองของชาวตุรกี  ซึ่งก็ไม่แตกต่างกันกับชาวโมร็อคโคที่เราไปมาเดือนที่แล้ว จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คนตุรกีนี่เหมือนกับแขกขาวผสมฝรั่งนะ   หน้าตาหล่อเหลาเอาการมากๆเลยหละจ๊ะ   ฝ้ายมาเห็นอาจจะตกหลุมรักก็ได้นะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  พวกนี้ตัวสูง  ผิวสีแทนออกขาว   จมูกโด่ง  ตาโต  นันย์ตาสีน้ำตาลอ่อน   คิ้วเข้ม ขนตางอนยาว   ว่าแล้วก็เลยเอารูปเด็กๆ  (ที่เริ่มจะเข้าช่วงวัยรุ่น) ที่เราไปเจอที่มัสยิดแห่งหนึ่งมาฝากฝ้ายนะจ๊ะ     พวกเด็กๆเหล่านี้จะเข้ามาทักทายเรา   จะพาไปดูที่นั่นที่นี่   เหมือนขันอาสาเป็นไกด์ให้เราโดยไม่คิดเงิน    ตรงนี้เองแหละจ๊ะที่ทำให้การเดินทางในประเทศตุรกีมีเสน่ห์      เราถึงอยากให้ฝ้ายมาเที่ยวด้วยกันไงหละ   ฝ้ายต้องชอบแน่ๆเลย       เอาหละ  ฉบับนี้เราเขียนมายาวแล้ว    แล้วเดี๋ยวฉบับหน้าจะเล่าอะไรใหม่ๆให้ฝ้ายอีกนะจ๊ะ     รักษาตัวเองนะ   แล้วเจอกันจ้า คิดถึงเพื่อนมากๆจ้า จาก พลอย  เขียนที่อิสตันบูล วันที่ 15 มค 2551 แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 51 23:05:38 จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 22:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ้าว  สวัสดีครับคุณจานและคุณเทรี่   แวะเข้ามาทักทายและชมรีวิวตุรกีกันก่อนใครเลยนะครับ    ยังไงแวะมาปาดแล้วก็ติดตามชมรีวิวนี้จนจบเลยนะครับ   ปล  คุณเทรี่ฝากผมก่อนไปว่า  ให้ถ่ายรูปหนุ่มตุรกีมาฝากสาวๆห้องนั่งเล่น   วันนี้เอาเด็กๆไปก่อนนะครับ   จดหมายฉบับหน้าจะเอารูปหนุ่มๆมาฝากทั้งแผงเลยครับ    จะเป็นอะไรยังไง   ติดตามกันตอนต่อไปนะครับ  คริ คริ คริ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 23:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จ๊ากกกกกกกก   กลับมาอ่าน คห ของคุณเทรี่แล้วพบว่า ชื่อตัวละคร ฝ้าย นั้นดันไปซ้ำกับแฟนของน้าแสบ     เอ่อ  ไม่ได้ตั้งใจเลยนะครับ  ยังไงขอโทษน้าแสบด้วยนะครับ     คือก่อนที่จะทำรีวิวนี้ขึ้นมา   ผมก็คิดว่า เอ  จะทำรีวิวออกมาในแนวไหนดีนะ   ที่จะไม่ให้ผู้อ่านเบื่อ    หากเป็นแบบปกติก็คือเขียนบรรยายว่าตรงนั้นตรงนี้สร้างตอนไหน  ใครสร้างเป็นต้น ผมก็เลยมาคิดว่า  เออ  เราน่าจะเล่าเรื่องโดยผ่านตัวละครสองตัวที่เราสมมุติขึ้นมา   โดยพลอยเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆให้กับฝ้ายทางจดหมาย    แบบนี้ผู้อ่านจะรู้สึกสนุกไปด้วยเพราะเหมือนได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกันจริงๆ    และการนำเสนอในรูปแบบของจดหมายก็น่าสนใจ   ยังไม่มีคนทำมาก่อนมากนัก      ก็หวังว่าจะสนุกกันนะครับ    กว่าจะเขียนกระทู้จบก็เหนื่อนมากๆเลย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 20 ม.ค. 51 23:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มารายงานตัว  เป็นน้องใหม่ชื่อรวมฝันนะคะ   พี่ซอร์บอนน์   แนะนำตัวไปแล้ว  ไม่กี่วันนี้เอง   เคยอ่าน Blog ของพี่อยู่บ่อยๆ  ที่ Bloggang .com  ได้เปิดโลกทัศน์มากมายหลายประเทศเลย   และต้องขอชมจากใจจริงว่าภาษาเขียนบรรยายนั้นช่างงดงาม  เข้าใจง่ายและน่าติดตาม  ไม่ทิ้งความเป็นไทยเลยแม้แต่น้อย  ถึงแม้จะรายล้อมด้วยกลิ่นไอต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา  ชื่นชมและขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 51 02:05:31 จากคุณ : รวมฝัน - [ 21 ม.ค. 51 01:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถึงคุณน้าอับบอน ตุรกีสวยมากจริงๆค่ะ โดยเฉพาะโซเฟียนี่ เห็นแล้วอลังการมาก ขนาดอับเทรี่ยังไม่เคยได้ไป ก็ยังชอบกินคีแบ็บรสไก่เลยค่ะ (เอ..มันเกี่ยวกันตรงไหนวุ้ย) เขียนแนวนี้ก็สนุกดีนะคะ แต่ง่าๆๆๆ แต่ว่าเทรี่ อยากจะชี้แจงประเด็นข้อผิดพลาด ให้เห็นออกมาเป็นข้อๆ ในฐานะที่อับเทรี่เป็นผู้หญิงนะคะ อับเทรี่จับได้ว่า พลอยเป็นผู้ชายปลอมตัวมาเขียน เพราะว่าเรื่องแบบนี้ค่ะ (แตกให้ดูเป็นข้อๆเลยนะคะ) 1 เวลาเข้ามัสยิดสีน้ำเงิน พลอยจะเดินเทิ่งๆเข้าไปแบบนั้นไม่ได้นะคะ พลอยต้อง คลุมผ้าชอว์ที่ไหล่ถึงข้อศอก เพื่อความเรียบร้อย และใส่ชุดคลุมเข่า .. blah blahๆๆ ไม่ใช่เดินเด๋อๆเข้าไปในมัสยิดแบบนี้นะค๊า เขาไม่ให้เข้าไม่รู้ด้วยนา แต่งตัวไม่เรียบร้อยเนี่ย 2 ที่เขียนว่า คนตุรกีก็เหมือนกับแขกขาวทั่วไปนะที่นิสัยดี   เป็นกันเอง  เฟรด์ลี่ย์มากๆเลย อันนี้ไม่สมจริงนะคะ เพราะถ้าพลอยเป็นผู้หญิงที่คุยกับเพื่อนสนิทผู้หญิงอย่างฝ้าย พลอยจะต้องเติมคอมเม้นท์เล็กๆน้อยๆว่า .. เป็นกันเอง เฟรนด์ลี่ย์มากๆ และหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่จ๊ะตัวเอง..(หรือขี้หลี หรืออะไรก็ว่าปายย) 3 อันนี้ก็เช่นกันค่ะ หากฝ้ายมาเที่ยวคนเดียวนะ  ฝ้ายจะไม่เหงาเลย   เพราะเขาจะเข้ามาทักทาย   ถามว่า  เราชื่ออะไร มาจากไหน สบายดีไหม จะไปเที่ยวที่ไหน  ชอบที่นี่ไหม เป็นต้น อันนี้ตกคำถามว่า .. มีแฟนแล้วหรือยังจ๊ะ .. ไปอันนึงนะคะ (เพราะหนุ่มตรุกีเจ้าชู้มากกกกกๆๆๆ) 4 เราเดินเล่นคนเดียวตอนกลางคืนไม่เคยมีปัญหาเลยนะ ฮ่าๆๆ.. อันนี้สวมหัวใจลูกผู้ชายเขียนนี่คะ เทรี่จับได้แล้ว .. ลูกผู้หญิงอย่างเราๆ (อย่างเทรี่เป็นต้น) ไม่ค่อยกล้าไปไหนกลางคืนคนเดียวค่ะ เพราะเรากลัวถูกฉุดค่ะ 5. ขนมบั๊คคาลาว่า.. พวกเราลูกผู้หญิงไม่ทานกันนะคะ เพราะมันหวาน แล้วไอ้ลูกบั๊คคาลาว่านี่มีแคลอรี่สูงถึงลูกละสองร้อยแคลอรี่ี่เชียวนะคะ ป๊าดดดโถ๊ .. แล้วดันซื้อกินซะตั้งห้าชิ้น   6 มัสยิดนี้มันเล็กจริงๆ แถมอยู่ในตลาดขายของจริงๆ หากไม่ถามคนแถวๆนั้น   รับรองว่าหาไม่เจอแน่เลยจ๊ะ ฮ่าๆๆ ช๊อปปิ้งในตลาดละคะ ลืมเขียนถึงไปได้ยังไงกัน ลูกผู้หญิงอย่างเราๆ ต่อให้มัสยิทอยู่ข้างหน้า ตลาดอยู่ข้างหลัง.. เราก็เดินถอยหลังก่อนเดินหน้านะคะ 7 รูปสุดท้ายนั่น.. ถ่ายมาทำไมค๊า กรรมๆๆๆ เด็กๆอายุต่ำกว่าสิบสองทั้งนั้นเลย เดี๋ยวได้โดนจับฐานล่อลวงเด็กอันเดอร์เอจอีก (ทีหลังจะถ่ายก็ขอหนุ่มๆหน่อย หนุ่มๆๆไม่มีเหยอออ.. ประเทศนี้) 8 คห.สี่ อ้าว  ลืมภาพประกอบ .. อันนี้ที่ถูกต้องต้องเป็น อุ้ย ลืมภาพประกอบ (หรือไม่ก็ว้าย.. อะไรทำนองนี้นะค๊า จะได้ดูเป็นเฟมินินหน่อย) ปล.และทั้งนี้ทั้งนั้น เทรี่ขอชื่นชมที่พลอยเขียนถึง รูปปั้นคห.ยี่สิบ ที่ถ่ายกล้ามหน้าท้องมาให้ฝ้้ายดู อันนี้ทำได้สมจริงมากค่ะ เพราะลูกผู้หญิงอย่างเราๆ (อย่างเทรี่) จะปลื้มกล้ามซิคแพ็คแบบนี้มากๆ Regards, อับเทรี่ จากคุณ : นักเขียนตัวจริงมาเอง (เทรี่กัดปลายดินสอเขียน) - [ 21 ม.ค. 51 05:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จ้า  นักเขียนตัวจริงมาเองเลย  คริ คริ คริ  ผมก็เล่นสนุกๆครับ  แบบว่า เออนะ  แทนที่เราจะเขียนๆๆๆ  ก็เอาประสบการณ์เล่าผ่านพลอยไปเลยดีกว่า    ตอนแรกผมก็คิดว่า  เอ๊ะ   เราจะให้เพื่อนผู้หญิงเขียนถึงกัน    หรือจะให้เพื่อนชายเขียนถีงเอง   หรือแฟนเขียนถึงคนรัก  อะไรต่างๆนานา   ผมก็มาคิดว่า  เออ  หากสมมุติว่าเพื่อนชายเขียนถึงกัน   คำที่ใช้กันแบบเพื่อนสนิทๆมันคงต้องเป็นภาษาพ่อขุน   เกรงจะไม่ผ่าน บก พันทิป  ฮ่า ฮ่า ฮ่า     หรือจะให้แฟนเขียนถึงแฟนที่ไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน   ก็กลัวจะเขียนได้ไม่หวาน   เพราะผู้แต่งเองยังบ่เคยมีแฟนเด้ออออออออ   ก็เลยมาสรุปที่ว่า  เออนะ  เอาแบบว่าเพื่อนผู้หญิงเขียนถึงกันนี่แหละ    เพราะว่าการเขียน จม หรือโปสการ์ดเนี่ย   ผู้หญิงดูมีอารมณ์เขียนบรรยายมากกว่าผู้ชายเนอะ    การใช้คำก็ดูน่ารัก หวานๆ   อ่านแล้วสนุก นุ่มนวลดีกว่า    เล่าเรื่องกุ๊กๆ กิ๊กๆระหว่างเพื่อนหญิง   มันอ่านแล้วจะดูสนุกกว่าหนะครับ   ปล   เรื่องหนุ่มน้อยรูปสุดท้ายนั้น   เอามายั่วเล่นก่อนคร้าบ    บอกแล้วไงว่า  หากคุณเทรี่ติดตาม จม ฉบับต่อๆไป   เดี๋ยวเจอหนุ่มเติร์กมาดแมนมาเป็นแผงหน้ากระดานเลยจ้า   คริ คริ คริ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 21 ม.ค. 51 06:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอ่อ  แก้นิดนะครับ   ที่ตุรกีนี่   ผู้หญิงต่างชาติเข้าไปมัสยิดสีน้ำเงินไม่จำเป็นต้องโผกผ้าที่หัวนะครับ    แต่งการสุภาพเข้าไปได้เลยครับ    มัสยิดที่อื่นๆที่ผมไปมา  ก็เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิงไม่ต้องโพกผ้าเช่นกันครับ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 21 ม.ค. 51 06:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ เวรกรรม.. หลอกคุณด๊อกเตอร์ซอร์ไม่ได้เลย (นอนรอดูรูปหนุ่มๆอยู่นะค๊า) จากคุณ : กลับไปกวาดหน้าอีกรอบ (เทรี่กัดปลายดินสอเขียน) - [ 21 ม.ค. 51 07:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 A A จานมาช่วยโกย อีกคน   ปล: มืออาชีพโกยหน้า จากคุณ : สีไม้น้ำ - [ 21 ม.ค. 51 07:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมอ่านตอนแรกกลับเข้าใจว่าเพื่อนชายเขียนถึงเพื่อนหญิง ยังงงอยู่เหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าคิดได้ไง แต่คุณเทรี่นี่สิ สุดยอดนักจับผิดจริงๆ(ผมคงไม่กล้าเขียนแบบนี้แน่ กลัวโดนไป108ข้อน่ะ) แต่เรื่องราวน่าอ่านและสนุกมากๆเลยครับ คุณซอร์บอนน์(สงสัยว่าสอบผ่านแล้วมันสบายใจมากๆแหงๆเลย) จากคุณ : Bugmao (บั๊กเม่า) - [ 21 ม.ค. 51 08:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามมาดูรูป.... จากคุณ : ด่วนที่สุด - [ 21 ม.ค. 51 09:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ... เรื่องราวอ่านได้เพลินๆ กะลังดี คราบบบ... ด๊อกเตอร์ บอนด์ ....อิอิ จากคุณ : น้าทู (Patunga) - [ 21 ม.ค. 51 09:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อืมมมมม    น่าเที่ยว..........  อับดุลรี่ ตัวจริง....         555555555 จากคุณ : jiiwii - [ 21 ม.ค. 51 09:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โรแมนติกดีคับด็อกเตอร์............... จากคุณ : จาก เสือฝ้าย..... (บังใบ) - [ 21 ม.ค. 51 09:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามอ่านค่ะน้าด็อกฯ สำนวนหวานซ้า...จนคิดว่าฝ้ายเนี่ยเป็นว่าที่น้าด็อกฯซะแร้วววว จากคุณ : ชลันธ์ - [ 21 ม.ค. 51 09:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สนุกดีออกค่ะ  ...... จากคุณ : ไอริส_Iris - [ 21 ม.ค. 51 10:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาตามคำเชิญค่ะ รีวิวได้เก๋มาก เพิ่งรู้ว่าคุณน้องมีชื่อเล่นว่าพลอย..คริคริ จากคุณ : Tiwanon48 - [ 21 ม.ค. 51 10:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น่าอิจฉาจัง ... คนเรียนจบ แล้วไปเที่ยวเนี่ย อิ อิ .. จากคุณ : Jele - [ 21 ม.ค. 51 11:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลงชื่อไว้ก่อน เด๋วมาอ่านนะค๊า...........ทั่นด็อกเตอร์บอนด์ จากคุณ : ไปถักนิตติ้งก่อน5555 (จะไปลาสา) - [ 21 ม.ค. 51 14:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ใช่แล้วครับ   เรียนจบแล้ว  ไปไหนมาไหนก็สบายใจครับ  ไม่คิดกังวลว่ารู้สึกผิดที่งานไม่เสร็จยังดันมาเที่ยวอีก   แต่ตอนไปภายหน้า  ชีวิตการทำงานก็จะเริ่มขึ้น   ปัญหาการทำงานก็จะมีตามมา   ไม่เป็นไรครับ  มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง   ตอนนี้หากว่างก็เดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆครับ   เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโลกกว้างครับ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 21 ม.ค. 51 15:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ อุ๊ย มีสติ๊กเกอร์ติดหลังรถ เอ๊ย หลังชื่อด้วย กรี๊ดดดด 5555 ตอนแรกแล่ดอ่านก็นึกว่าเพื่อนชายเขียนถึงเพื่อนหญิง มาเห็นตอนท้าย กลายเป็น น้องพลอยซะนี่ แม๋ ลูกครึ่งก็ไม่บอก คริ คริ โด่ เต้อกี แล่ดก็เคยไปเป็น 10 หน(เห็นแว้บๆอยู่ข้างล่างนิ) จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 21 ม.ค. 51 16:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณซอร์บอนน์เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีย์จริงๆค่ะ อ่านแล้วเพลินมาก จากคุณ : parachute - [ 21 ม.ค. 51 19:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดอกเตอร์บอร์นถ่ายรูปสวยจัง จากคุณ : momojang - [ 21 ม.ค. 51 20:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พี่แหม่มครับ  เห็นคนข้างบนที่ล็อคอินชื่อแปลกๆบอกว่าจะไปเที่ยวนิวซีแลนด์   แล้วจะแวะหาพี่แหม่มด้วยครับ   แต่แว่วมาว่าคุณนายไม่ชอบอากาศหนาว   คริ คริ คริ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 21 ม.ค. 51 23:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 2       อิหม่านจะไม่ประกาศแบบเสียงตามสายแบบที่เราเคยได้ยินนะ     เขาประกาศแต่เหมือนกับขับร้องเป็นเพลง   มีท่วงทำนอง     บ้านเราก็คือเหมือนพระสวดมนต์เนอะ   มีจังหวะ  มีเสียงสูงๆ ต่ำๆ  ขึ้นๆลงๆ     เออนะ ฟังอิหม่านประกาศแล้วก็แปลกและประทับใจดี   มาสามจังหวัดสิครับ ได้ยินบ่อย หรือแถว Office ผมก็ได้ยินประจำ อ้อ เค้าเรียก อิหม่าม มั๊งครับ จากคุณ : ขาJohn - [ 22 ม.ค. 51 14:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 54 24   ในรูปนี้หากเราจำไม่ผิดนะ   คือรูปเทพเจ้าแห่งทะเล       หากจำไม่ผิด มีชื่อว่า โพไซดอน อันเป็นที่ชื่นชอบของน้าเจ แล น้าบังครับ โพไซดอน เป็นน้องของเทพเจ้า ซุส หรือ บ้านเราอาจเรียกว่า ศิวะ จากคุณ : ขาJohn - [ 22 ม.ค. 51 14:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 25     ในใจคิดนะว่า    หากมาแล้วไม่สวยจริงๆ    น่าดูเลยนะ เจ้าหนังสือ Lonely Planet    แต่ในใจคิดว่า ต้องสวยตามที่หนังสือบอกมาแหละ     เพราะจะว่าไปแล้ว   ยี่ห้อนี้เขาคือ  "ไบเบิ้ล"   สำหรับคนเที่ยวด้วยตนเองเลยเนอะ     และที่ผ่านๆมาก็ไม่เคยผิดหวังสักครั้ง มีรุ่นน้องจะพาเพื่อนฝาหรั่งไปเฮือนสุนทรีย์ ฝรั่งบอกไม่น่าสนใจหรอก เพราะใน ไบเบิ้ล  ของเค้าไม่มี น้องก็เลยยืม ไบเบิ้ล ฝาหรั่งมาดู แลไปตามนั้น ปรากฎว่า ไบเบิ้ลแนะนำแต่ซ่องทั้งนั้นเลย จากคุณ : ขาJohn - [ 22 ม.ค. 51 14:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 35   เอ่อ  แก้นิดนะครับ   แก้อะไรครับ แก้นิดเดียวมันไม่เร้าใจ แก้เยอะหน่อยก็ได้ครับ จากคุณ : ขาJohn - [ 22 ม.ค. 51 15:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 รอภาค 2 อยู่ครับ จากคุณ : ขาJohn - [ 22 ม.ค. 51 15:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติมจากคุณขาจอนมากๆเลยนะครับ     ส่วนเรื่องฝรั่งนั้น  เออนะ   มาเมืองไทย  แทนที่จะมาเที่ยววัดวาอาราม  กลับชอบไปแต่ที่อโคจร   เพื่อนผมก็เช่นกัน   ไปเมืองไทยครั้งแรกก็อยากจะไปทำอย่างว่ากับหญิงไทย   ผมก็ด่ามันไปแล้ว    มันไปเมืองไทยครั้งแรกไม่ไปวัดพระแก้ว    เออ  น่าสมเพศสิ้นดี   ผมก็ด่ามันไปอีก    เหมือนมาฝรั่งเศสแล้วไม่ไปหอไอเฟลเนอะ   ครั้งนี้สองมันกลับไปเมืองไทยอีก   คราวนี้ไปอยู่หนึ่งเดือน   มันก็ไปหาผู้หญิงอย่างว่าอีก     แล้วมาปารีส  ผมก็ถามมันว่าไปเที่ยววัดพระแก้วยัง   มันบอกว่าไม่ได้ไป     ผมเลยด่ามันไปอีกรอบ    ฝรั่งแบบนี้ไม่อยากให้ไปเมืองไทยเลยจริงๆ จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 22 ม.ค. 51 16:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตามพี่ขาจรมาติดๆ ภาพถ่ายงาม ทำให้การคำบรรยายได้อรรถรส จากคุณ : สเปน - [ 22 ม.ค. 51 18:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เพิ่งว่างย้อนมาชมอะ ชอบๆ จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา - [ 23 ม.ค. 51 09:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วจ้า.......... จะบอกน้องพลอยว่า เป็นผู้หญิงยิงเรือ หัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เนี่ย ไม่สุภาพนะค๊า...... จากคุณ : รอดูชายหนุ่มรูปงามอยู่จ้า.. (จะไปลาสา) - [ 23 ม.ค. 51 12:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ^ ^ ^ แล้วหัวเราะ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ สุภาพมั๊ยจ๊ะ ฮี่ กั๊บ กั๊บ จากคุณ : อิ อิ (parachute) - [ 25 ม.ค. 51 08:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตามมาอ่าน..ไปอ่าน ฉบับที่ 3  มาแล้วเลยต้องมาตามอ่านต้นเรื่อง.. เพราะตอนที่อ่าน ฉ. 3 ก็งงๆๆ..เอ..ทำไมเป็นพลอยกะฝ้ายหว่า.. จากคุณ : ว่าน - [ 27 ม.ค. 51 10:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวยตระการตา จากคุณ : anthurium - [ 2 ก.พ. 51 19:18:28 ]