ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากนั้น ก็เปิดเครื่องให้ทำงานตามปกติ ซัก 5 นาที ก็เลยสงสัยถามช่างว่าทำไม ไม่ลงมือเลย ช่างบอกว่าขอฟังเสียงเครื่องก่อนว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย พวกเสียงระบบสูบฉีดน้ำยา พัดลม อะไรยังงี้ มีปัญหาอะไรก็ได้แก้ทีเดียวครับ (แต่สงสัยว่าช่างอาจจะบอกกับเราว่า มันเป็นยังงี้มาแต่ก่อนผมทำแล้วนะ) ก็เลยบอกช่างไปว่า เท่าที่ใช้มาเงียบๆดีครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอซักพัก ไม่มีอะไรเสียง หรือ ไฟกระพริบแปลกๆบนหน้าปัทม์ ก็ได้ฤกษ์ลงมือกันแล้วครับ ปล. ขวดน้ำยาที่ห้อยที่กระไดนั้นใช้ทำความสะอาดพลาสติกอย่างเดียวนะครับ ไม่ได้ใช้ทำความสะอาด fin หรือ ครีบระบายอากาศ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตัดเบรกเกอร์แอร์แล้ว ก็เริ่มเลยครับ ตัวคอยล์ร้อนด้านนอก ไม่ได้ใช้น้ำยาหรือกรดล้าง บอกแค่ว่าใช้น้ำเปล่าฉีดด้วยเครื่องฉีดแรงดันสูงก็พอ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขณะที่ช่างอีกคนเริ่มถอดหน้ากากแอร์ตัวใน (คอยล์เย็น) เครื่องมือล้างก็เป็นถาดสเตนเลสไว้รองน้ำล้างใต้แอร์ สายต่อน้ำทิ้งถังรอง และแน่นอน ผ้าพลาสติกปูกันรอยสกปรกที่กระเด็นออกมาได้ครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้เครื่องเป่าลมเป่าไล่น้ำในท่อระบายน้ำแอร์ (น้ำทิ้งแอร์) ครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขณะที่ผู้ช่วยก็ล้างพัดลมกรงกระรอก, แผ่นกรองอากาศ และ หน้ากากแอร์อยู่ด้านนอกครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินกลับเข้าดูข้างใน ช่างล้างใช้น้ำฉีดสร็จแล้วครับ ตอนนี้กำลังใช้ "หวีไม้" สางตามแนวแผงครีบระบายความเย็น เพื่อให้แผ่นครีบตั้งตรงจัดแถวเป็นระเบียบ ได้ระยะช่องอากาศผ่านพอดี เพราะตอนที่ใช้น้ำฉีดอาจจะมีตัว fin หรือ ครีบล้มเพราะแรงน้ำ หรือติดตั้งไม่ดีที่ทำให้ครีบล้มขวางทางเดินอากาศครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เสร็จแล้วก็ประกอบกลับเข้าที่เดิม สับเบรกเกอร์ แล้วเปิดเครื่องให้ทำงานตามปกติดูซักอาการพักครับ หากไม่มีอะไรผิดปกติจากเดิม ก็เก็บกวาดหน้างานทำความสะอาดครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 13:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ทราบว่าช่างที่ไหนครับดูเป็นมืออาชีพดีจังเลย ถ้าไม่รบกวนช่วยหลังไมค์แจ้งได้มั้ยครับว่าอยู่แถวไหน ถ้าใกล้บ้านจะได้เรียกใช้บริการบ้าง ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : laserm500 - [ 6 ก.พ. 51 13:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เสร็จแล้วครับ ทั้งหมดใช้เวลาราวๆ 1/2 ชม. ต่อแอร์ 1 เครื่อง น้ำ+ฝุ่นกระเด็นค่อนข้างเยอะเหมือนกันครับ อย่าลืม หาผ้าคลุม เฟอร์นิเจอร์ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยนะครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 14:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังไมด์ด้วยคะดูเป็นมืออาชีพดีจังอยากใช้บริการคะ จากคุณ : DOGNAK - [ 6 ก.พ. 51 16:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่งหลังไมค์ไปแล้วนะครับ ปล. เล่าตกไปนิดนึง ตอนนที่ช่างเริ่มล้าง เค้าจะเริ่มเป่าไล่ท่อน้ำทิ้งของแอร์ก่อนครับ เพราะหากท่อน้ำทิ้งไหลสะดวก ล้างคอยล์เย็นต่อไปก็ง่ายแล้วเพราะน้ำล้างไหลทิ้งสะดวก และไม่ล้นกระเด็นไหลเลอะมากนัก แล้วเป่าไล่อีกครั้งช่วยป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นอับในระยะยาวด้วยครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 17:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับที่อุตส่าห์ถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆได้ชม ส่วนใหญ่ผมก็ล้างเองครับ ใช้วิธีคล้ายๆกัน แต่อาจทำได้ละเอียดกว่าช่าง (เพราะเป็นของๆเราเอง) ตอนที่ล้างท่อน้ำทิ้ง ผมจะใช้น้ำกรอกลงไปแล้วดูว่ามันไหลออกที่ปลายท่อรึเปล่า ยิ่งกรอกมากก็ยิ่งล้างสิ่งสกปรกได้มาก ล่าสุดผมจ้างช่างเพราะหวังว่าเขาจะเช็คน้ำยาแอร์ให้ด้วย เพราะใช้มา 5 ปีไม่เคยเติมเพิ่มเลย ปรากฏว่ามันก็ยังอยู่ในระดับปกติ แต่ที่แย่ก็คือช่างไม่ยอมเป่าลมที่คอยล์เย็นหลังจากฉีดน้ำเสร็จ น้ำเลยกระจกอยู่ตามครีบ พอตกกลางคืนเก็เปิดใช้งาน ก็เลยมีเสียงน้ำกระเซ็นในคอยล์เย็น 4- 5 ชั่วโมง ก็เสียงจะหายก็เกือบถึงตอนเช้า พอล้างแอร์เสร็จ ช่างก็เช้ดลวกๆแล้วกลับ ห้องผมเลยเละเทะมาก ตวแอร์ในห้องก็ดำจากรอยมือของช่าง เสียอารมณ์มากเพราะจ่ายไป 400 บาทแล้วยังต้องเสียเวลาเก็บงานด้วยตัวเอง จากคุณ : MirrorLake - [ 6 ก.พ. 51 17:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ครับ เคยมีประสบการณ์จ้างช่างมาล้างแอร์แล้วเลอะเทอะมากครับ เลยกวดขันบอกเน้นกันตั้งแต่นัดหมาย แล้วบอกกันก่อนเปิดเริ่มงานเลย ถ้าไม่สะอาดไม่ยอมเซ็นรับงาน เสร็จแล้วต้องเช็ดพื้น ให้สะอาดเหมือนก่อนหน้าที่เค้าลงมือทำงานครับ ปล. เสร็จงานทิปไป 100 บาท สำหรับ 2 คน และเครื่องดื่มคนละกระป๋องครับ จากคุณ : Joel** - [ 6 ก.พ. 51 18:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราให้บริษัทที่ติดตั้งมาล้าง สองครั้งแล้ว แต่มา สามคน แฟนให้ไปสี่ร้อย   ก่อนมาเราจะเก็บบริเวณที่จะทำให้กว้างพอให้เขาทำได้สะดวก เพราะกลัวไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่  อีกอย่างบ้านเรามีเหล็กดัดมันค่อนข้างลำบากในการเปิดหน้าต่าง แล้วเรื่องม่านอีก  โหกลัวมากต้องคอยบอก แต่ก็เรื่องเลอะเลอะแน่นอนแล้วเขาไม่เช็ดทำให้เหมือนก่อนหรอก เราจะบอกแต่แฟนชอบเกรงใจไม่อยากให้พูดมาก แฟนจะแบบหยวนๆตลอด  แต่เราดิเป็นคนทำหลังจากช่างกลับคนเดียว บางทีก็ขี้เกียจให้ล้าง อ้อช่างที่มาล้างให้เราไม่เห็นเป่าเลยคอลย์เย็นอ่ะ ล้างอย่างเดียว  แต่เขาจะเอาพาสติกมาคลุมรอบตัวแอร์ก่อนเลยนะ ไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลย  แบบคลุมตัวแอร์แล้วเอาถังไปรองไว้เลย เขาทำดีนะไม่ค่อยเลอะมากเท่าไร แต่ก็ต้องคอยดู ที่บ้านมีแอร์สี่ตัว แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 19:44:47 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 19:44:10 จากคุณ : หยาดรุ้ง - [ 6 ก.พ. 51 19:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รบกวนขอหลังไมค์ ร้านด้วยครับ จากคุณ : กันติศร - [ 7 ก.พ. 51 09:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอด้วยจ๊ะ จากคุณ : mmg - [ 7 ก.พ. 51 16:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอชื่อร้านหลังไมค์ด้วยจ้าาา เค้าคิดค่าล้างเท่าไหร่หรอ จากคุณ : งุงิมหาภัย - [ 8 ก.พ. 51 01:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดูแล้วก็เป็นขั้นตอนมาตรฐานที่ควรทำสำหรับการล้างใหญ่เครื่องปรับอากาศอยู่แล้วครับ จขกท. ถ่ายรูปมาให้ดูเกือบครบทุกขั้นตอน (ขาดขั้นตอนการฉีดน้ำล้างคอยล์เย็น) ดีสำหรับคนที่ไม่เคยเรียกช่างมาล้างแอร์ จะได้รู้ครับ ว่าช่างที่ตนเรียกมาได้ล้างแอร์ครบทุกขั้นตอนหรือเปล่า เพราะช่างที่มั่วบางคน แค่เอาแผ่นกรองฝุ่นไปล้าง เช็ดพลาสติกนอกตัวเครื่องภายใน และฉีดน้ำล้างคอยล์ร้อน ก็บอกว่าล้างเสร็จแล้ว เก็บเงินเท่าการล้างใหญ่ จากคุณ : Tum : nnoppon@hotmail.com - [ 8 ก.พ. 51 16:23:17 ]