PANTIP.COM : R6331045 ผ้าม่านตามอินเด็กซ์ ตามโฮมโปรกับพาหุรัด ยี่ห้อเดียวกันตั้งราคาต่างกันเหมือนกันนะ+ขอให้ความเกร็ดเกี่ยวกับผ้าม่านเล็กน้อย [เฟอร์นิเจอร์-ตกแต่ง]

ผ้าม่านตามอินเด็กซ์ ตามโฮมโปรกับพาหุรัด ยี่ห้อเดียวกันตั้งราคาต่างกันเหมือนกันนะ+ขอให้ความเกร็ดเกี่ยวกับผ้าม่านเล็กน้อย

ผ้าม่านตามอินเด็กซ์ ตามโฮมโปร กับพาหุรัด ยี่ห้อเดียวกันตั้งราคาต่างกันเหมือนกันนะ

คือผมเองสังเกตุว่าในห้องชายคามีเพื่อนๆ หลายท่าน ถามเกี่ยวกับผ้าม่านเยอะเหมือนกัน บ้าง(บ่อยครั้ง) ก็เห็นมีการแนะนำให้ลองดูตามยี่ห้อดังๆ อย่าง Pasaya หรือว่าตามโฮมมาร์ทต่างๆ เช่น Index Living Mall หรือ HomePro

ซึ่งผมฐานะผู้บริโภค (ผมเป็นคนในวงการผ้านะครับ) นั้นอยากจะขอแนะนำเพื่อนๆ นิดหน่อย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของท่านนะครับ ว่าหลังจากที่ผมได้ไปสำรวจดูมานานแล้วว่า ร้านผ้าม่านหลายที่ไปวางตัวอย่างหรือวางขายตามห้างต่างๆ ด้านต้น กับร้านแถวพาหุรัด สำเพ็ง รวมไปถึงร้านผ้าม่านที่รับตัดเย็บติดตั้งด้านนอกห้างทั้งหลายนั้นเป็นเป็นยี่ห้อหรือมาจากร้านขายส่งเดียวกัน

ที่ทราบตรงจุดนี้นั้นมาจากการรู้จักคนในวงการเอง การสอบถามพนักงานขายในห้างดังต่างด้านต้น รวมถึงชื่อร้านบนแฟ้มตัวอย่างผ้าที่วางไว้ที่ห้างและที่พาหุรัดและร้านด้านนอกนั้น ทั้งรูปเล่มและภาพนั้นคืออันเดียวกัน (แถวพาหุรัดหรือร้านผ้าด้านนอกชอบเอาสติกเกอร์ร้านตัวเองติดทับบนตัวอย่างของร้านขายส่งผ้าม่านไว้ แต่เขาปิดรูปบนหน้าปกไม่ได้อยู่แล้วเพราะว่าหลายเล่มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ อีกอย่างแฟ้มพวกเนี่ยถ้าเป็นเล่มใหญ่ๆ จะต้องลงทุนสูงมาก เล่มนึงไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าพันขึ้นอยู่กับจำนวนที่ทำและราคาผ้าที่ต้องตัดใส่ ไม่รวมค่าแรงงาน ค่าพิมพ์ปก เพราะฉะนั้นจะไม่มีการก็อปปกกันแน่นอน)

ผมเลยคิดว่า น่าจะเป็นความเข้าใจที่ไม่ใคร่ดีนักที่ ถ้าเพื่อนๆ จะไปซื้อผ้าตามห้างใหญ่ๆ หากเทียบกับจำนวนเงินที่ต่างกันบางทีเป็นร้อยบาทต่อหลาหรือต่อเมตรทีเดียว

เหตุผลต่างๆ ที่ผมคิดและทราบมาว่าราคาที่ต่างกันนั้นเป็นเพราะห้างใหญ่ๆ นั้น ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง เหตุผลอีกข้อคือเหตุผมทางการตลาดของตัวห้างเองที่ไม่สามารถตั้งของราคาถูกเท่าร้านด้านนอกได้ รวมถึงเขาต้องการให้มีสินค้าตกแต่งบ้านครบวงจร ในทางกลับกันร้านค้าส่งแถวสำเพ็ง หรือร้านแถวสุขมวิท และบริเวณอื่นๆ ในกรุงเทพ (ที่ค้าส่งเหมือนกัน แต่ต้องเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ร้านค้าส่งผ้าม่านไม่ว่าจะเป็นที่สุขุมวิทหรือสำเพ็งก็ค้าปลีกด้วย -แถวพาหุรัดจะเป็นค้าปลีกนะครับ) แค่ต้องการหาพื้นที่โชว์สินค้าตัวเองมากขึ้น (สินค้าพวกนี้ที่วางตามห้างดังๆ จะเป็นการฝากขายมากกว่า ซื้อขาด เพราะอย่างที่รู้กัน ห้างพวกเนี่ยจะไม่ชอบการสต็อก)

ทั้งนี้ก็ไม่ผิดหากนะครับ สำหรับคนที่ไม่สนใจความแตกต่างของราคานะครับ หรือจะผ้าม่านตามห้างเพราะสะดวกกว่า แต่ก็อย่างที่แนะนำด้านต้นนะครับเพราะผ้าหลายตัวผมลองเช็คดูนั้นมีต่างกันเป็นร้อยบาทต่อหลาทีเดียว ถ้าใช้ผ้าหลายหลา หรือทำหลายห้อง น่าจะลองพิจารณาข้อเท็จจริงจุดนี้ด้วยก็ดีนะครับ (ไม่ว่าคุณจะซื้อตรงไหนตามพาหุรัด สำเพ็ง ร้านด้านนอกหรือตามห้าง ร้านเขาก็ไม่ขาดทุนไม่ได้อยู่ดี เพียงแต่คุณจะยอมจ่ายหนักกว่าหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ)

เกร็ดความรู้เรื่องผ้าและผ้าม่าน
1. จริงอยู่ผ้าม่านจากยี่ปั้วบางเจ้า (น้อยมากๆๆๆ) บางยี่ห้อเช่น Passaya จะเน้นลูกค้ากลุ่มในห้างเป็นหลัก แต่ผมในฐานะคนในวงการ บอกได้ว่าร้อยละเก้าสิบห้าเขาขายผ่านร้านค้านอกห้าง เนื่องด้วยเหตุผลด้านต้นที่บอก ตามห้างค่าใช้จ่ายเยอะ เขาทำเพื่อขยายชื่อเสียงของร้านตัวเอง

2. ทุกวันนี้ผ้าม่านในเมืองไทยเจ็ดสิบเปอร์เซนต์เป็นของทำในนี้ และหลายยี่ปั้วนั้นก็ใช้โรงงานเดียวกับที่ทำ ผ้ายี่ห้อPasaya เพียงแต่เขาทำสินค้าแบบราคากลางๆ และคุณภาพกลางๆ ประมาณร้อยกว่าๆ (แต่ถ้าคุณไปถามร้านค้าเขาไม่บอกแน่นอนครับว่าทำที่ไหน ถ้ามาจากเมืองจีนจะบอกว่ามาจากนอก ถ้าประเทศอื่นๆ จะพูดได้เต็มปากหน่อย ว่ามาจากเบลเยี่ยม เยอรมัน อเมริกา เกาหลี สเปน ฝรั่งเศส)

**ผ้าทุกชนิดนั้นจะแพงหรือถูกนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นด้ายที่ใช้ โครงสร้างของตัวผ้า เทคนิคการทำ และเครื่องจักร รวมถึงแหล่งผลิต –ทำประเทศที่ค่าครองชีพแพงอย่างอังกฤษ อเมริกา สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศสก็จะแพงเป็นพิเศษ) Pasaya เป็นแบรนด์ที่จับตลาดบนๆ ที่โรงงานทำเอง ส่วนอีกสามสิบเปอร์เซนต์ที่เหลือหรือน้อยกว่านั้น ส่วนมากจะเป็นผ้าจากเมืองจีน ซึ่งมีทั้งคุณภาพแย่มากๆ จนถึงดีระดับนึง (ที่ดีมากๆ เขาขายไปญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ซึ่งถ้านำมาขายเมืองไทยก็แพงมาก หรือใกล้เคียงกับสินค้าเกรดเดียวกันที่ผลิตในนี้ บางครั้งคุณภาพผ้าของไทยดีกว่าด้วยซ้ำไป )และส่วนน้อยก็จะนำเข้าจากยุโรป อเมริกา เกาหลี ซึ่งมีคุณภาพแตกต่างกันไป

3. ด้านต้นอย่างที่บอกนะครับว่าเดี๋ยวนี้ยี่ปั้วทั่วกรุงเทพเขาตัดขายปลีกด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ว่า ถ้าไปแถวสำเพ็งหรือร้านค้าส่งผ้าม่าน เขาจะไม่สามารถเซอร์วิสได้เต็มที่เพราะเขาถนัดขายส่งไปร้านค้าปลีก อย่างร้านม่าน ร้านตัดผ้าค้าปลีกแถวพาหุรัด หรือส่งไปตามห้างใหญ่ๆ หรือส่งไปตามร้านรับตกแต่งผ้าม่าน มากกว่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาบางทีก็จะถูกกว่าร้านค้าปลีก เพราะเขามีต้นทุนที่ถูกกว่านั้น (ก็ส่งให้ต้องบวกกำไรนิหน่า) เอง แต่บางทีก็จะไม่ถูกกว่า เพราะเขาไม่อยากไปตัดราคาร้านค้าปลีก ลูกค้าเขาเอง อันนี้ต้องแล้วแต่คุณต่อแล้วล่ะ แต่ถ้าซื้อเยอะ เขาก็คงลดให้ได้มากนะครับ

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับทุกท่านนะครับ
ผมเองค่อนข้างพอใจกับผ้าในไทยของเรามากกว่า เหมือนกับให้ไปซื้อรถทำจากเกาหลี อินโดนีเซียบางรุ่น แม้เป็นยี่ห้อดัง แต่ผมมั่นใจฝีมือของคนไทยมากกว่า สำหรับรถและผ้าที่ผลิตในเมืองไทยผ้าของ พาสาย่า จิมทอมสัน โขมพัตร์ ก็ผลิตในเมืองไทยเหมือนกันอย่าลืม

แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 00:08:32

จากคุณ : An Inimitable Man - [ 14 ก.พ. 51 01:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17

วิธีดูผ้าจีนอีกอย่างนะครับ

อันนี้ต้องแยกแยะนิดนึงว่า บางเจ้านำเข้ามาเยอะ และเขาคัดสรรสีและลวดลาย ที่สวยงามเนื้อผ้าดีนิดนึง (บางลายเหมือนกับของแพงๆ ที่ทำในนี้ แต่ดูดีๆ จะรู้ว่าเจ๋งสู้ไม่ได้ ทั้งราคาและคุณภาพ ฮ่าๆ) แต่ก็ขายแพงเหมือนกัน เรียกว่าเอากำไรเยอะ หลาละหลายๆ ร้อย ยังไงก็ตาม ถ้าคุณต้องการความสวย และพอใจที่จะจ่าย

** แต่จะมีพวกร้านค้าปลีกหรือร้านที่คนจีนมาจากเมืองจีนมาขายเอง พวกเนี่ย บางทีลายผ้าก็ก็อปปี้ของเมืองไทย ถ้าเทียบกับผ้าที่ทำในเมืองไทย ลายเดียวกัน เนื้อผ้าของเราจะดีกว่า ในด้านสีสันต่างๆ ของไทย จะสวย และดูน่าถูกใจคนไทยมากกว่า ตรงนี้ย้ำเลยว่าสีสรรที่ใจคุณชอบนะครับ ผ้าจีน ผ้าญี่ปุ่น ผ้าฝรั่ง มีรสนิยมต่างจากคนไทยมากพอสมควร ฝรั่งเหมือนจะนิยมสีแดงแป๋ดๆ เหลือเกิน ของจีนมักจะดูหมองๆ แห้ง หน่อยนะครับ แต่ของไทยจะดูสดใสกว่า คนต่างจังหวัดในเมืองไทยรวมถึงคนกรุงบางส่วนจะชอบเงาๆ แบบพวกผ้าซาติน หรืออิตาลี
ยังไงก็ตามเรื่องความหมองนั้นต้องแยกสีและเทียบลายต่อลาย เนื้อผ้า ที่เขาก็อปเราด้วยนะครับ สำหรับผ้าทำในไทยถ้าเป็น สี earthtone ก็สามารถดูหมองๆ ธรรมชาติๆ เหมือนกัน ตรงนี้ต้องใช้ประสบการณ์แยกแยะ

บางร้านก็ยอมบอกว่ามาจากจีนจริง บ้างจะไม่พูด บ้างจะบอกว่าของนอก (ประโยคประจำ) บางทีก็บอกว่ามาจากประเทศตะวันตก ซึ่ง ผมบอกได้เลยว่า ถ้ามาจากประเทศตะวันตกจริงๆ ราคาหลาละห้าร้อยบาท นะเป็นไปได้ยากครับ ต้องเป็นพันขึ้นไปทั้งนั้น บางทีต้องเข้าใจว่า เขาอาจซื้อผ่านบริษัทที่ตั้งในประเทศในตะวันตกมา แต่ผลิตในเมืองจีนอีกทีนึง ซึ่งถ้าใครเดินทางไปประเทศมีอันจะกินบ่อยๆ จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอ บ้านเขาน่าจะเกือบตายหรือเหลือเฉพาะส่วนไปแล้ว เพราะพลิกป้ายเสื้อ ทั้งในอเมริกา ออสเตเรีย ญี่ปุ่น และหลายๆ ประเทศในยุโรป เขาพิมพ์ Made in China แทบทุกตัว ในเมื่อผลิตในประเทศมีอันจะกินยังอยู่ไม่ได้เลย ต้นทุนสูงนำเข้ามาขายประเทศอย่างเราก็ลำบาก ขายยาก หรือตั้งราคาเป็นพันๆ ทั้งนั้น พวกอุตสาหกรรมของประเทศเหล่านี้บางทีก็ต้องโยกตัวเองไปลงทุนในจีนแทนนะครับ ถ้าในญี่ปุ่นได้ยินว่าก็มีพวกผ้าญี่ปุ่นหรือกิมโมโน เทือกนี้ ที่ยังทำในประเทศอยู่ ส่วนผ้าอื่นๆ จำนวนมากส่วนใหญ่ย้ายฐานไปทำในเมืองจีน และก็ตามไปคุมคุณภาพเพื่อส่งเข้าญี่ปุ่นที่เมืองจีนเลย

แม้แต่ผ้าอิตาลี ซาตินที่วางขายในตลาดเองยังมีหลายเกรดเลยครับ มีตั้งแต่หลาละยี่สิบกว่าบาท ซึ่งผมเองก็งงเหมือนกันว่าขายไปได้ไง จนได้ไปจับของจริงดู จึงรู้ว่าผ้าพวกเนี้ยเรียกว่าบางสะใจแดดแทบจะขอบคุณเจ้าบ้านเลยทีเดียว ส่วนมากจะพบของถูกสุดๆ และคุณภาพตามนั้นได้ตามร้านแถวหลานหลวง

ถ้าเป็นแถวสำเพ็งนั้นเกรดจะดีกว่า แต่ก็จะมีตั้งแต่โอเคจนถึงดี ในระดับห้าสิบกว่าบาทขึ้นไปจนถึงเจ็ดแปดสิบ บางโรงงาน บางยี่ปั่วจะขายเนื้อหนาพอสมควร เพราะเขารับไม่ได้ที่จะทำให้บางขนาดแดดขอบคุณ ผ้าพวกเนี้ย ผมเข้าใจว่าเป็นผ้าธรรมดา ของคนไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้นิยมสมัยนัก ก็เป็นอีกทางเลือกนึง นะครับ วิธีดูง่ายๆ เนื้อผ้าถ้าผ้าดีกับผ้าถูกจับดูจะรู้ทันทีเลย (คงต้องจับดูหลายๆ ร้านหลายๆ รอบ) สองสีสัน เจ้าขายผ้าซาติน อิตาลีที่ดีหน่อยมักจะมีสีให้เลือกเป็นสิบๆ สี และสีจะสวยเนียน อย่างน้อยก็เนียนกว่าพวกหลาละยี่สิบบาทสามสิบบาทนะครับ มองด้วยตาก็รู้ทีเดียวว่า คุณภาพดีใช้ได้ กับห่วยเลยเป็นไง ซึ่งอันนี้อาจต้องใช้ประสบการณ์พอสมควร

จากคุณ : An Inimitable Man - [ 18 ก.พ. 51 00:47:31 ]