ความคิดเห็นที่ 2
ตอบปัญหาที่ถาม
เจ้าบ้านในทะเบียนบ้านถือว่าเป็นเจ้าของบ้านหรือเปล่าค่ะ - ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของบ้าน เพราะทะเบียนบ้านถือเป็นเอกสารสำคัญแสดงถึงภูมิลำเนาของบุคคล การที่มีชื่อ ก อยู่ในทะเบียนบ้าน เป็นแต่เพียงการแสดงทางหลักฐานเป็นหนังสือว่า ก มีภูมิลำเนา ณ บ้านหลังนี้เท่านั้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ บ้าน ที่ตั้งบนที่ดิน กฎหมายสันนิษฐานให้ว่าเป็นส่วนควบของบ้าน อันผู้เป็นเจ้าของที่ดินจะยกขึ้นอ้างสิทธิเหนือบ้านที่ตั้งบนที่ดินได้
แต่หากมีข้อตกลงระหว่างบุคคลเป็นพิเศษ ยกเว้นกฎหมายดังกล่าว บุคคลต้องแสดงหลักฐานยืนยันถึงข้อตกลงเป็นพิเศษนี้ เพื่อยันกับข้อสันนิษฐานทางกฎหมาย เพราะว่ากฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถือหลักความศักดิ์ของการแสดงเจตนาระหว่างบุคคล(เอกชน)เป็นสำคัญ อันจะยกเว้นกฎหมายได้
ฉะนั้น บิดาของนาย ก ผู้เป็นคู่สัญญากับเจ้าของที่ดินจึงสามารถยกเอาข้อตกลงระหว่างตนและเจ้าของที่ดินขึ้นแสดงว่าตนเป็นผู้มีสิทธิตามสัญญาเช่า อันมีข้อตกลงเป็นพิเศษนี้(ต้องพิจารณา สัญญาว่า เมื่อสิ้นสุดการเช่า ทรัพย์-บ้านที่บิดานาย ก สร้างขึ้นนี้จะทำอย่างไร เช่น ยกให้เจ้าของที่ดิน , บิดานาย ก ต้องรื้อถอนออกไป ฯ
นาย ข ที่อาศัยอยู่ในบ้านโดยมิใช่คู่สัญญา(คู่สัญญา คือ บิดานาย ก) โดยสาระสำคัญหลัก ก็คือ ไม่อาจมีสิทธิมากไปกว่าคู่สัญญาไปได้
แต่การอาศัยของนาย ข อาจถือเป็นละเมิด หรืออยู่ในฐานะบริวาร ก็ได้ [ต้องพิจารณาตามกรณี เพราะผลของการอยู่โดยละเมิด หรืออยู่โดยได้รับอนุญาตจากคุ่สัญญานั้นแตกต่างกัน- จขกท. มิได้กล่าวไว้ แต่อย่างไรเสียก็ไม่มีอำนาจมากไปกว่าคู่สัญญา คือ บิดานาย ก ไปได้เลย]
อีกทั้งการที่นาย ข ให้ ค และ ง อาศัยในบ้านและเก็บเงินค่าเช่า การเก็บเงินนี้ถือได้ว่าเป็นการเช่าช่วง โดยหากสัญญามิได้ระบุอนุญาตไว้เสียแล้วก็จะถือว่าเป็นการกระทำอันผิดกฎหมาย มีผลให้สัญญาเช่าระงับสิ้นไป [ข้อควรระวัง]
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ปัจจุบัน นาย ข พยายามตั้งตนเป็นเจ้าของบ้านและขับไล่นาย ก ให้ออกไปจากบ้านโดยกล่าวอ้างว่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าที่ดิน
การกระทำของนาย ข ที่พยายามตั้งตนเป็นเจ้าของบ้าน และขับไล่นาย ก ออกไปจากบ้านที่บิดาของนาย ก เป็นคู่สัญญาอยู่นั้น ต่างก็เป็นการยกขึ้นอ้างจากผู้ไม่มีสิทธิ เพราะทั้ง นาย ข และ นาย ก ต่างก็มิใช่คู่สัญญาเลย เนื่องจากคู่สัญญาคือ บิดานาย ก ต่างหากที่มีสิทธิในการอยู่ และใช้ทรัพย์
การที่ บิดานาย ก จะให้บุคคลใดเข้าอยู่อาศัย อันถือเป็นบริวารตามสัญญาได้นั้น ก็แล้วแต่ความเห็นชอบของบิดานาย ก แล้วหากไม่ประสงค์ให้บุคคลใดอยู่ในบ้านอีกต่อไป ก็จะให้บุคคลนั้นออกไปเสียก็ได้ ดังนั้น บิดานาย ก ต่างหากที่เป็นผู้มีสิทธิอันจะใช้สิทธิดังกล่าวได้
การกระทำของ นาย ข , นาย ก จึงเป็นการกระทำไปโดยไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ การที่นาย ข ยกขึ้นอ้างว่า ไม่ได้จ่ายค่าเช่านั้น
เป็นการกล่าวอ้างจากบุคคลผู้มิใช่คู่สัญญา เป็นบุคคลภายนอก แล้วการกระทำของนาย ข ที่เข้าชำระเงินค่าเช่ากับเจ้าของที่ดินที่แท้จริงนั้น ก็ไม่อาจทำให้ตนมีสิทธิดีไปกว่าคู่สัญญา คือ เจ้าของที่ดิน - บิดานาย ก ไปได้
นาย ข จึงไม่อาจยกการกระทำนี้ขึ้นว่าตนมีสิทธิเหนือบ้านทรัพย์นี้ แต่อาจเรียกเอาเงินคืนในฐานะลาภมิควรได้ โดยกล่าวว่าเงินนั้นเป็นของตน จึงขอให้คืนเงินดังกล่าว หรือ ถูกคู่สัญญาเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายฐานนำทรัพย์ออกเช่า ก็เป็นได้ [ขึ้นอยู่กับว่ากระทำโดยละเมิด,บริวาร]
+++++++++++++++++++++++++++++++++
นาย ก
ต่อสู้ได้ว่า นาย ข ตั้งตนเป็นเจ้าของไม่ได้ เพราะนาย ข มิใช่คู่สัญญา หรือได้รับมอบอำนาจดูแลจากบิดานาย ก
ต่อสู้ได้ว่า นาย ข ไล่นาย ก ออกไปไม่ได้ เพราะนาย ข ไม่มีสิทธิไล่
ต่อสู้ได้ว่า การกระทำของนาย ข ที่ให้ ค,ง เช่า แล้วตนเก็บเงินมานั้น เป็นการกระทำโดยไม่มีสิทธิ เพราะนาย ข ไม่ได้รับมอบอำนาจจากคู่สัญญาให้กระทำ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++ ป๋อหล๋อ. นาย ก เข้าต่อสู้ จะเจ็บตัวโดยใช่ที่ เนื่องจาก นาย ก เองก็ไม่มีอำนาจใดๆๆ เลย +++++++++++++++++++++++++++++++++
เข้าใจว่า..เป็นเรื่องของคนใกล้ชิด ก็ขอให้มีการพูดคุยกันโดยละมุนละม่อมก่อน หรือให้ บิดานาย ก ผู้มีสิทธิที่แท้จริง เป็นคนกลางดูแลทั้งสองฝ่ายอย่าให้พิพาทกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++
ป๋อหล๋อสุดท้าย คำแนะนำนี้อาจไม่ถูกต้องได้ เพราะว่า...เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงมากกว่านี้ แต่มิได้กล่าวมาในกระทู้ โดยหากข้อเท็จจริงเปลี่ยน ตัวบทกฎหมายที่ได้ปรับใช้ไว้นี้ก็อาจไม่ถูกต้องไปได้ ขอให้ใช้โดยใช้วิจารณญานพิจารณาด้วย
จากคุณ :
สาวกุมภ์
- [
27 ก.พ. 51 01:40:00
]
|
|
|