ความคิดเห็นที่ 1 ปัมน้ำ six team จากคุณ : JIKA HOME - [ 12 เม.ย. 51 10:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 springer gear drive pop up จากคุณ : JIKA HOME - [ 12 เม.ย. 51 11:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 springer system จากคุณ : JIKA HOME - [ 12 เม.ย. 51 11:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มองผ่านๆ  สมบูรณ์แบบดีครับ แต่เราอยากให้แยกท่อ หลังออกจากปั๊ม ให้แยกทันทีคือ ไปในบ้านทางหนึ่ง มีบอลวาวล์ที่ท่อแยกหลังปั๊ม เผื่อที่น้ำอาจจะแรงไป จะได้หรี่ตรงบอลวาวล์นี้ได้(ห้ามใช้เกตวาวล์) น้ำที่เข้าบ้านจะได้เบาลงนิดนึง ที่บอกอย่างนี้ ไม่ใช่กลัวท่อแตก แต่กลัววาวล์และสุขภัณฑ์บางตัว เช่นวาวล์ในชักโครกจะปิดไม่อยู่ - เช่นเดียวกับหัวฉีดชำระ(การใส่ stop valve ก็ควรใส่ด้วย) ไปทางสนามอีกเส้นหนึ่ง ท่อทั้งไลน์ ควรใช้ท่อ ๑นิ้ว เกรด ๑๓.๕ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 12 เม.ย. 51 12:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แบบนี้พอใช้ได้มั้ยครับ แล้วถ้าเราใช้ท่อทั้งไลน์ ขนาด 1 1/4 นิ้ว เกรด ๑๓.๕ จะได้มั้ย ระบบจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหรือไม่? หรือ เกินพอดีไป 1" ก็พอแล้วครับ ขอบคุณมากมากครับ จากคุณ : JIKA HOME - [ 12 เม.ย. 51 13:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอโทษครับ ลืม BY PASS แต่ ไม่ทราบว่า จะวางตำแหน่งใดดีครับ 1 หรือ 2 จากคุณ : JIKA HOME - [ 12 เม.ย. 51 13:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามสเปคปั๊ม ท่อดูด ท่อส่ง กำหนดไว้ที่ ๑นิ้วเอง ก็ใช้ที่ ๑นิ้วก็พอ - ความยาวท่อทั้งหมด รวมข้อต่อก็ไม่มากนัก บายพาส เอาแค่ใช้ในบ้านก็พอครับ เพราะปกติแล้ว การที่ไฟฟ้าดับนั้น จะดับแค่ไม่เกิน ๑วัน หญ้ายังไม่ทันตายหรอก ความชื้นที่ยังเหลืออยู่ในดิน จะช่วยหญ้าได้อีกหลายวัน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 12 เม.ย. 51 14:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากมากครับ จากคุณ : jika (JIKA HOME) - [ 12 เม.ย. 51 21:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปั๊มสำหรับ Sprinkler ใหญ่ไปหน่อย ครับ เพราะ 4 หัว หัวละ 0.32 ลบ.ม.ต่อชม. ก็ 1.28 ลบ.ม.ต่อชม. ในขณะที่ Head Require ต้องการเพียง 28 ม. (2.8 Bars) เผื่อ Loss ในระบบประมาณ 20% ก็ต้องการ Lifting Head  เพียง 33.5 ม. รวม Suction กับ NPSH ฮีกประมาณ 6 ม. ดังนั้น Ht ก็ประมาณ 40 ม. เอง แต่ที่ 1.2 ลบ.ม.ต่อชม. Ht ตั้ง 54 ม. หรือที่ Ht 40 ม. Q ก็ 3.6 ลบ.ม.ต่อชม. ดังนั้นควรหาปั๊มใหม่ที่ให้ Ht กับ Q ใกล้กับ Spec Sprinkler ครับ (มันเปลืองไฟ ครับ) สำหรับบ้าน มันใหญ่มากๆ ครับ แล้วก็จะเจออาการน้ำใช้ไปๆ จะเบาลง แล้วอยู่ๆ ก็จะแรงพรวดขึ้นมาเลย ต่อให้ใช้ถังอัดขนาด 120 ลิตรก็ตามเพราะหากใช้แรงดันที่ 28 ม. (ซึ่งค่อนข้างแรง โดยที่แรงดันขนาดนี้ออกสายชำระโดนก้นละก็สะดุ้งละครับ) Q ก็ตั้ง 80 ลิตรต่อนาที ซึ่งที่ถังอัดความจุขนาดนี้ก็หลายพันแล้ว และหาก Buffer ปกติประมาณ 1 ใน 3 ของความจุ หลังจากปั๊มตัดซึ่งในถังจะมีแรงดันสูงสุด พอเปิดน้ำใช้แรงดันในถังจะค่อยๆ ลดลงๆ จาก 28 ม. จนถึงจุดที่ปั๊มทำงานใหม่ก็ประมาณ 20 ม. น้ำก็จะไหลออกประมาณ 40 ลิตร ซึ่งพอปั๊มทำงานแรงดันจะเพิ่มจาก 20 มา 28 ม. ในเวลาประมาณครึ่งนาที หากอาบน้ำอุ่นในหน้าหนาวอุณหภูมิน้ำอาจจะเปลี่ยนแปลงประมาณ 10 องศาครับ ซึ่งคงไม่สนุกเท่าไหร่ และหากใช้ร่วมกันจริงๆ Pressure Switch จะต้องถูกตั้งให้ปั๊มทำงานตลอดในช่วงที่ Sprinkler ทำงาน ไม่อย่างนั้นปั๊มจะทำงานติดๆ ดับๆ ถี่มาก ซึ่งนั่นก็หมายถึงแรงดันที่ใช้ในบ้านจะต้องถูกตั้งให้ทำงานสูงกว่าที่ผมสมมุตไว้ในย่อหน้า 2 ซึ่งผลที่ตามมาก็จะหนักกว่าที่สมมุตไว้ ครับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ วันเถลิงศก (15) 03:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาตาราง มาวาดกราฟซะก่อน จากคุณ : Professor - [ 17 เม.ย. 51 18:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำ simulation  โดยให้ head loss ทั้งหมด 10 เมตร สปริงเกอร์ 3 หัว  ตาม จขกท จะได้ว่า  ปั๊มทำงานที่จุดดังรูป head ของปั๊มคือ 52.17 เมตร อัตราการไหล 27.48 ลิตรต่อนาที หัวสปริงเกอร์แต่ละตัวทำงานที่ความดัน 42.7 เมตร หรือ 4.3 bar อัตราการไหลของสปริงเกอร์ 9.2 ลิตรต่อนาที ต่อหัว จากคุณ : Professor - [ 17 เม.ย. 51 18:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คำนวณผิดไป ลืมไปว่าสปริงเกอร์มี 4 หัว เอาใหม่คำนวณ ที่ 4 หัว จะได้ว่า  ปั๊มทำงานที่จุดดังรูป head ของปั๊มคือ 50.11 เมตร อัตราการไหล 34.22 ลิตรต่อนาที หัวสปริงเกอร์แต่ละตัวทำงานที่ความดัน 40.11 เมตร หรือ 4.0 bar อัตราการไหลของสปริงเกอร์ 8.555 ลิตรต่อนาที ต่อหัว จากคุณ : Professor - [ 17 เม.ย. 51 18:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความจริงสามารถทำ simulation ให้ดีกว่านี้ได้โดย คำนวณ head loss ในท่อหรือข้อต่อได้อีก แต่เรื่องคงยาวเกินไป เอาสั้นๆ แค่นี้ก่อน จะเห็นได้ว่า เราจะได้  น้ำฉีดออกสปริงเกอร์แรงมากๆ ที่ความดันสูงถึง 4 bar เต็ม spec ของมัน กลับมาดูตัวปั๊มน้ำกันก่อน เอากราฟของผู้ผลิตมาดูกันตรงจุดที่เราใช้งาน คือ ความดัน 50 เมตร ผลคือ ประสิทธิภาพ ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดี (ไม่ได้อยู่บนเนินที่วงไว้) ซึ่งจะทำให้ปั๊มน้ำได้ไม่ค่อยคุ้มค่าไฟฟ้า ส่วนการกินไฟฟ้าก็ดูจากกราฟ จะเห็นว่ากินไฟฟ้า  1.2 kW คิดเป็นค่าไฟฟ้า = 1.2 * 3.5 = 4.2 บาทต่อชั่วโมง ทางเลือกอื่นก็อาจจะต้องหา ปั๊มทีเล็กกว่านี้ อาจจะช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีขึ้น ถ้าพูดถึงความดันสูงสุด 5 bar ตอนหยุดใช้น้ำ อาจจะสูงเกินไปมากสำหรับใช้ในบ้าน อุปกรณ์หลายๆ อย่างทำงานที่ความดันขนาดนี้ไม่ได้ ทางเลือกอื่นๆ อีกก็คือใช้ inverter ปรับความเร็วรอบ หรือมีระบบควบคุมอื่นๆ เข้ามาช่วย ปรับความดัน จากคุณ : Professor - [ 17 เม.ย. 51 19:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอาใหม่ ลองเปลี่ยนปั๊มเป็นรุ่น 80 ปั๊มเดิม 34.22 ลิตรต่อนาที  กินไฟ 1.2 kW    สูบน้ำ 34.22/1.2  = 28.5 ลิตรต่อวัตต์ ปั๊มรุ่น 80   18.5 ลิตรต่อนาที   กินไฟ 0.8 kW  สูบน้ำ 18.5/0.8 =  23.1  ลิตรต่อวัตต์ ตัวเล็กกว่าดันไม่ดีกว่า สรุปคือ ควรเปลี่ยนปั๊มเป็น model อื่นที่ไม่ใช่ series นี้ ทางเลือกอาจจะมีสองทาง 1. แยกปั๊มรดน้ำกับปั๊มในบ้าน  มีข้อดีคือตั้งรถน้ำอัตโนมัติได้ง่าย สามารถเลือกปั๊มที่เหมาะสมได้ง่าย 2. ใช้ปั๊มที่จ่ายน้ำให้กับบ้านได้พอ ความดันไม่สูงเกินไป และพอใช้กับสปริงเกอร์ด้วย  รดน้ำตอนคนไม่ใช้น้ำ  ข้อดีคือประหยัดเงินเริ่มต้น ถ้าใช้สองปั๊มพร้อมกันก็ต้องระวังมันจะแย่งดูดน้ำกันเอง ก็คงต้องเลือกเอาว่าจะใช้ปั๊มแบบไหน สิ่งที่คนขายปั๊มทั่วไปยังขาดคือ  การแสดงการใช้พลังงานในการปั๊มน้ำ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาว ยังไงก็ต้องคำนวณจุดคุ้มค่าอีกที ยังไงควรจะมีข้อมูลของระบบน้ำจุดอื่นๆ ให้อีก เช่น spec ของ rain shower ว่าใช้ความดันเท่าไหร่ ใช้น้ำเท่าไหร่ เครื่องทำน้ำร้อนมีความดัน loss เท่าไหร่ แต่ถ้าความต้องการน้ำแรงโคตรๆ  ไม่สนใจประหยัด spec ปั๊มตัวนี้ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ปัญหาคือ อุปกรณ์ในบ้านจะทนแรงดันขนาด 6 bar ได้หรือไม่ อาจจะต้องลด spec ปั๊มลงบ้าง แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 51 01:03:16 จากคุณ : Professor - [ 18 เม.ย. 51 00:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบแบบภาพรวมนะครับ พท.สนามหญ้า ประมาณ 700 ตร.ม. ถ้า พท.ค่อนข้างโล่งควรใช้สปริงเกอร์แบบ gear drive รัศมี 10-12 เมตร working pressure ประมาณ 3-3.5 บาร์ รวม loss ต่างๆแล้ว head pump ประมาณ 4-5 บาร์ (40-50 เมตร) อุปกรณ์สุขภัณฑ์ในบ้าน ซีลยางข้อต่อ oring ต่างๆ ทนแรงดันขนาดนี้ไม่ได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นต้องลดแรงดันของปั๊มลงมาซึ่งจะไห้สปริงเกอร์ทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพ การกระจายน้ำจะได้ไม่เต็มที่ คิดว่าแยกระบบปั๊มจะดีกว่า ในระยะยาวครับ เพราะแรงดันใช้งานที่เหมาะสมของระบบน้ำในบ้านกับระบบสปริงเกอร์ไม่เท่ากัน จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 25 เม.ย. 51 20:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ว่ากันในเรื่องระบบสปริงเกอร์อย่างเดียวนะครับ pop up gear drive แรงดันที่หัวได้ซัก 3-3.5 บาร์ น้ำจะฉีดสวยกว่า จากตารางใน คห. 2 ค่าแคงดัน 3.4 บาร์ อัตราการไหล 0.43  ลบ.ม./ชม. หัวสปริงเกอร์ 4 หัว อัตราการไหลรวม = 1.72 ลบ.ม./ชม. ดูตารางใน คห.1 ก็โอเค ปั๊มใช้ได้ครับ precipitation Rate 8 mm/hr (ส่วนใหญ่จะทดสอบแบบครึ่งวง) ถ้าเปิดน้ำ 1 ชม.จะได้น้ำลึก 8 มม. อัตราการระเหยคิดประมาณ 5 มม./วัน ดังนั้นใน 1 วันเปิดน้ำเป็นระยะเลวา 5*60/8 = 37.5 นาที คิดไป 40 นาที/วัน สำหรับครึ่งวง และ 80 นาทีสำหรับเต็มวง เราก็มาซอยเวลารดน้ำเอาเองตามความเหมาะสม เปิดตามจริงอาจจะไม่ต้องนานขนาดนี้ก็ไดครับ พอหญ้าติดแล้วเปิดวันเว้นวันก็ยังไหว แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 51 21:35:14 จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 25 เม.ย. 51 21:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขนาดท่อเล็กสุด เมื่อความเร็วของน้ำในท่อประมาณ 1 เมตร/วินาที อัตราการไหลประมาณ 3-4 ลบ.ม./ชม. คือ 1 นิ้ว ควรเลือกใช้ท่อขนาดใหญ่กว่าเผื่อการเพิ่มเติมอื่นๆในอนาคต การกระจายน้ำของหัวสปริงเกอร์จะไม่ประจายเต็มพื้นที่วงกลมตามแบบนะครับ ใกล้ๆหัวน้ำจะไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ช่วงกลางๆถึงปลายรัศมีจึงจะโดนน้ำได้เต็มที่ การวางหัวสปริงเกอร์จึงวางแบบหัวชนหัว เพื่อให้น้ำกระจายได้เต็มทุกพื้นที่ ดูรูปประกอบนะครับ จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 25 เม.ย. 51 21:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เปรียบเทียบความลึกน้ำในกระป๋องได้อีกครับ แบบล่างสุดเป็นแบบ head to head จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 25 เม.ย. 51 21:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การวางหัวจ่ายน้ำตาม คห.ที่ 3 เป็นแบบประหยัด ตามพื้นที่ขอบๆทั้งบนและล่างของพื้นที่จะต้องมีการรดน้ำเสริมด้วยเพราะจะไม่ค่อยถูกน้ำ ถ้าจะเอาแบบดีหน่อยก็เพิ่มหัวที่ริมขอบบนและล่าง โดยแบ่งเป็นโซนแยกต่างหาก ระยะเวลาเปิดน้ำก็ประมาณครึ่งหนึ่งของหัวแบบเต็มวงเพราะหมุนแค่ครึ่งวงกลับไปมา คงพอเพิ่มไอเดียได้บ้าง สำหรับการติดตั้งลองดูในกระทู้น้ะดูนะครับ http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/09/R5859114/R5859114.html จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 25 เม.ย. 51 21:32:21 ]