ความคิดเห็นที่ 1 ปูเองได้ครับ ไม่ยากอะไร แต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลา เช่นว่างอาทิตย์ละวัน ก็ควรแบ่งงานออกเป็นส่วน ๆ อย่าเพิ่งทำทีเดียวทั้งหมดครับ แรกสุดก็เตรียมพื้นที่ เครื่องมือก็คือจอบครับ ปรับแต่งพื้นที่ให้เรียบ หรือจะแต่งเป็นเนินก็แล้วแต่สะดวำ ระหว่างปรับแต่งพื้นที่หากขุดไปเจอเศษปูนเศษอิฐหรือเศษไม้จากการก่อสร้าง ก็เก็บออก พอเตรียมพื้นที่เสร็จ ถ้าไม่อยากให้มีหญ้าที่ไม่ได้ปลูกงอกงามขึ้นมาแทรกแซงสนามหญ้าของเรา ก็ต้องซื้อยาฆ่าหญ้าเอามาผสมน้ำราดให้ทั่วครับ ระวังหน่อย ยาฆ่าหญ้านี่อันตรายมาก ต้องสวมถุงมือ สวมรองเท้ายาง ถ้าจะให้ดีมีหน้ากากกันด้วย พอราดยาฆ่าหญ้าเสร็จ อาจต้องทิ้งสนามดินนั้นไว้ประมาณ 1 เดือน (ลองอ่านในฉลากยาดู) ไม่งั้นขืนรีบปลูกหญ้าเลย หญ้าที่ปลูกตายหมดแน่ เอ... ชักไม่หมูแล้วสิ แต่ลองดูต่อไปนะครับ ถ้าหากว่าไม่สนใจเรื่องหญ้าที่จะขึ้นเอง ก็ไม่ต้องใช้ยาฆ่าหญ้าก็ได้ ต่อไปก็วัดพื้นที่ในสนามว่ากี่ตารางเมตร แล้วก็ไปซื้อหญ้ามาตามปริมาณนั้น แนะนำให้ซื้อเผื่อไว้สักสามสี่ตารางเมตรนะครับ แล้วอีกอย่าง ถ้าจะปูหญ้าบริเวณที่ร่มไม่มีแดดส่องถึง ต้องซื้อเป็นหญ้ามาเลเซีย เพราะถ้าเอาหญ้านวลน้อยลงในที่ร่มจะตายหมด พอถึงวันสำคัญอันได้แก่วันที่จะปูหญ้า ต้องสำรวจเครื่องมือและอุปกรณ์ให้ครบครับ 1. จอบไว้สับดิน และคลุกดินกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเทศบาล 2. ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเทศบาลแล้วแต่ชอบ 3. สายยางรดน้ำ 4. มีดคม ๆ ไว้ตัดหญ้า 5. ไม้หน้าสาม ใช้แทนลูกกลิ้ง เอาไว้ตบหญ้าให้แนบสนิทกับพื้น 6. เครื่องดื่มดับกระหาย หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลังแล้วแต่ชอบ 7. ผ้าขาวม้า หรือผ้าขนหนูไว้ซับเหงื่อ พอได้ฤกษ์ ก็จัดแจงเอาปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเทศบาล (ซื้อเผื่อ ๆ ไว้ ถึงใช้ไม่หมดก็เก็บไว้ใส่ต้นไม้ในบ้านได้) หว่าน ให้หนาสักครึ่งเซ็นก็พอ แล้วใช้จอบสับเคล้าดินกับปุ๋ยให้เข้ากัน ทำอย่างนี้ไปได้พื้นที่สักสองสามตารางเมตร ก็จัดแจงเอาหญ้าลงปู ปูให้ต่อกันอย่าให้มีช่องว่าง ถ้าบริเวณนั้นเป็นเนินลาดชัน ควรมีเศษไม้เหลาเป็นรูปลิ่มเล็ก ๆ ใช้เป็นหมุดยึดแผ่นหญ้าบริเวณที่ลาดเอียงด้วย พอปูเสร็จก็ใช้สายยางฉีดน้ำให้ชุ่ม แล้วใช้ไม้หน้าสามตบให้หญ้าแนบกับดินให้สนิท ที่จริงถ้าปูบริเวณกว้างมาก ๆ ควรใช้ลูกกลิ้ง ถ้าไม่มีไม้หน้าสามก็ใช้จอบตบก็ได้ครับ ปูหญ้าบริเวณกว้าง ๆ ที่ใช้หญ้าเต็มแผ่นให้หมดก่อน แล้วค่อยมาปูเศษหญ้าตามขอบสนามหรือตามมุมต่าง ๆ โดยใช้มีดตัดหญ้าให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ ทุกครั้งที่ปูเสร็จต้องรดน้ำให้ชุ่ม ๆ อย่าได้เสียดายน้ำ แล้วตบด้วยไม้หน้าสาม พอเสร็จงาน ก็นั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่เตรียมไว้ เอาผ้าขาวม้าเช็ดหน้าเช็ดตา มองดูผลงานที่เกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานของเรา เป็นความภูมิใจที่หาซื้อไม่ได้ จ้างเขามาปูอาจสวยกว่า แต่ไม่มีทางภูมิใจเท่าฝีมือเราเองหรอกครับ พักหายเหนื่อยแล้ว อาจรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัว แนะนำให้รีบแต่งเนื้อแต่งตัว ขับรถไปให้น้องหนูตามสถานที่เฉพาะนวดให้คลายตึงเส้น คิดว่าประหยัดค่าจ้างปูหญ้าที่สนามในบ้าน มาซื้อหญ้าสนามน้อย ๆ ก็ยังไหว (ฮา) รุ่งเช้าทุกเช้า ก็อย่าลืมฉีดน้ำรดสนามหญ้าให้ชุ่มฉ่ำ สักอาทิตย์หนึ่งหญ้าก็จะติด แต่หากมีบริเวณไหนมีหญ้าเว้าแหว่ง ก็ตัดเศษหญ้าที่บอกให้ซื้อเผื่อเอาไว้มาปะซ่อมแซม พอสักสอง-สามอาทิตย์หญ้าเริ่มยาว ก็ได้เวลาออกแรงตัดหญ้าอีกแล้วละครับ ถ้าสนามไม่ใหญ่ ก็ใช้กรรไกรแง๊บ ๆ ถ้าสนามใหญ่หน่อยก็อาจต้องลงทุนซื้อเครื่องตัดหญ้า ดูเหมือนจะมีเท่านี้นะครับ อ่านแล้ว จขกท.อาจเลิกล้มความตั้งใจที่จะปูหญ้าเองแล้วไปจ้างเขาปูแทนก็ได้ ที่หนักกว่านั้น อาจเลิกคิดทำสนามหญ้า เทปูน หรือทำอิฐตัวหนอนแทนไปโน่นเลย อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ... จากคุณ : ลุงแว่น - [ 16 เม.ย. 51 18:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถามด้วยคน สงสับครับว่า หญ้าที่ซื้อเผื่อ เก็บไว้ที่ไหนครับ มันไม่ตายก่อนหญ้าที่ปลูกจริง หรือครับ...... จากคุณ : ตงเจริญ - [ 16 เม.ย. 51 19:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่มเติมนะครับ - บ้านผมเป็นทาวน์เฮ้านะครับ แต่อยู่หัวมุม  หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก  เพราะฉนั้นแดดจะส่องข้างบ้าน (ที่ต้องการปูหญ้า) เฉพาะช่วงเช้าถึงเที่ยงครับ  หลังจากนั้น ก็ไม่โดนแดดแล้วครับ  ไม่ทราบว่าผมต้องเลือกหญ้าชนิดไหนดีครับ (ผมชอบหญ้า ที่ใบมันหยาบๆ ใหญ่ๆนิดหนึงอ่ะครับ พันธุ์อะไรครับ)   - ตอนปรับหน้าดิน นั้นไม่ทราบว่าต้องปรับด้วยดินอะไรครับ  เพราะตอนนี้ผมลงทรายเอาไว้นะครับ จำเป็นต้องเอาดินมาลงก่อนปูหญ้าไหมครับ  / หรือวางที่ทรายที่ลงไว้แล้วได้เลยครับ ปล.ในรูปเป็นภายเก่าก่อนปรับหน้าดินด้วยทรายครับ จากคุณ : Pikmei - [ 16 เม.ย. 51 19:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณมากนะครับ จากคุณ : kittipo - [ 16 เม.ย. 51 22:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบเป็นข้อ ๆ นะครับ - หญ้าที่ซื้อเผื่อมาแล้วยังไม่ได้ใช้ อาจเก็บไว้ได้โดยวางไว้บนพื้นปูนที่อยู่ในร่ม แล้วคลุมด้วยมุ้งดำกันแดด แล้วหมั่นรดน้ำทุกเช้า อาจเก็บได้เป็นอาทิตย์ครับ - พื้นที่สนามโดนแดดครึ่งวันปูหญ้านวลน้อยได้เลยครับ ถ้าอยากได้หญ้าใบใหญ่ ๆ ก็ต้องหญ้ามาเลเซีย แต่ราคาก็แพงกว่าค่อนข้างเยอะเหมือนกัน - ปรับหน้าดินด้วยทรายก็ได้ แต่เวลาปูหญ้า ก็ต้องเคล้าด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเทศบาลเหมือนกัน เรื่องปุ๋ยสำหรับปลูกหญ้า ผมอยากแนะนำว่าใช้เป็นปุ๋ยเทศบาลจะดีกว่า ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้หาซื้อยากหรือเปล่า ไม่ได้ไปจตุจักรนานแล้ว เหตุที่ว่าดีกว่าปุ๋ยคอก เพราะในปุ๋ยเทศบาลจะไม่มีเมล็ดวัชพืชปะปนมาเหมือนในปุ๋ยคอกครับ ใช้ปุ๋ยคอกกับสนามหญ้า อาจเจอหญ้าเลี้ยงวัวงอกขึ้นมาในสนามได้เหมือนกัน อยากฝากข้อคิดสำหรับคนที่กำลังจะทำสนามหญ้าอีกหน่อยนะครับ การปลูกหญ้า มีสองด้านเหมือนกัน คือมีทั้งด้านดี และด้านเสีย ด้านดีคงไม่ต้องพูดถึง เพราะรู้ ๆ กันอยู่ สบายตา สบายใจ แต่ด้านเสียที่คนมักมองข้าม เท่าที่คิดออกตอนนี้ คือ... 1. มีค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายประจำ กลายเป็นรายจ่ายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนี้ - ค่าน้ำประปารดหญ้า โดยเฉพาะช่วงที่ฝนไม่ตก ปกติก็รดทุกวันวันละครั้ง - ค่าปุ๋ยและทรายหว่านสนาม โดยมักจะใช้ปุ๋ยเทศบาล ผสมกับทราย หว่านปีละ 1-2 ครั้ง และใช้ในการซ่อมแซมสนามส่วนที่อาจเป็นหลุมเป็นบ่อด้วย - ค่าจ้างตัดหญ้า ถ้าไม่อยากตัดเอง อันนี้แล้วแต่จะตกลงครับ 2. ต้องลงแรงครับ ในกรณ๊ไม่ได้จ้างคนตัด สมัยนี้จะมีสักกี่คนมีเวลาใช้กรรไกรนั่งเล็มหญ้าแง๊บ ๆ สะดวกที่สุดคือรถตัดหญ้า ถ้าสนามไม่ใหญ่นัก พื้นที่ประมาณทาวน์เฮ้าส์ขนาดความเห็นข้างบน ผมว่าใช้รถตัดหญ้าแบบใช้ไฟฟ้าก็พอ คันหนึ่ง 3พันกว่าบาท(มั้ง) แต่ถ้าสนามใหญ่ เนื้อที่มากเป็นงาน ๆ คงต้องพึ่งรถตัดหญ้าแบบน้ำมันแล้วละครับ นอกจากรถตัดหญ้าแบบเดินตามแล้ว ยังอาจต้องซื้อเครื่องเล็มหญ้าตามขอบสนาม และในซอกซอยที่รถเข้าไม่ถึงด้วย แบบที่ใช้เส้นเอ็นฟาดหญ้า แบบใช้ไฟฟ้า เห็นมีขายเครื่องละพันกว่าบาท แต่ก่อนซื้ออย่าลืมถามราคาเอ็นที่จะต้องซื้อเติมด้วยล่ะ เพราะบางยี่ห้อเอ็นที่ใช้แพงยังกะทองแน่ะ ถ้าต้องลงแรงตัดเอง ก็เลิกคิดถึงเวลาพักผ่อนนอนทอดหุ่ยบ่ายวันอาทิตย์ไปได้เลย ตัดหญ้าในสนามบ้านขนาดหนึ่งงาน ครึ่งวันเต็ม ๆ ครับ (รวมตัดแต่งกิ่ง พรวนดินต้นไม้ ฯลฯ) คิดในแง่ดีก็คือได้ออกกำลังกาย ได้ชื่นชมผลงานสนามหญ้าสวย ๆ ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบออกแรงละก็ คิดดูใหม่อีกทีนะครับ เพราะหญ้ามันมีชีวิต ยาวไปก็ไม่สวย ไม่ตัดก็ไม่ได้ ช่วงไหนขี้เกียจ ปล่อยให้หญ้ายาวเกินไป มาตัดอีกที สนามหญ้าจะด่างเป็นหย่อม ๆ ไม่เขียวขจี การใช้แรงงานตัดหญ้านี่ จะหนักหนายิ่งขึ้นในหน้าฝน เพราะเว้นอาทิตย์ไม่ได้เลยครับ เว้นไปผลที่ตามมานอกจากสนามจะด่างไม่สวยแล้ว ยังเปลืองแรงคนและแรงเครื่องตัดหญ้าเอามาก ๆ บางครั้งหญ้ายาวมากต้องตัดถึงสองรอบ รอบแรกตั้งเครื่องให้ตัดสูง ๆ  ไม่งั้นตัดทีเดียวเครื่องไม่มีแรงพอ ตัดรอบแรกไปแล้วยังต้องตัดรอบสองอีก เรียกว่าตื่นเช้ามาในวันจันทร์ อย่างเบาะ ๆ ต้องพึ่งน้ำมันหม่องเลยละ การตัดหญ้าหน้าฝนนี่ เป็นฝันร้ายของเจ้าของบ้านโดยแท้ เพราะหญ้ามันจะยาวเร็ว ยาวได้ยาวดี จนบางครั้งอยากจุดธูปบนบานเทวดาว่าช่วยเว้นช่วงฝนทีเถอะเจ้าประคู้น ลูกช้างตัดหญ้าไม่ไหวแล้ว และจะยิ่งฝันร้ายเข้าไปอีกถ้าใช้เครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้าเพราะตอนซื้อเห็นว่าราคาถูกกว่าเครื่องน้ำมัน เพราะเครื่องไฟฟ้าแรงไม่มากนัก เจอหญ้าหน้าฝนของเมืองไทยเข้าไปหน่อยเดียวมีอาการกระตุก ๆ แล้วก็หมดแรงไปดื้อ ๆ ต้องตัดแบบลากถอยหลัง (ที่จริงการลากถอยหลังมันไม่ได้ช่วยตัดหญ้านะครับ มันแค่ฟาดให้หญ้าล้มเท่านั้น) ข้อคิดของคนที่จะซื้อเครื่องตัดหญ้าแบบนี้ คือ จะต้องขยันตัดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก ปัญหาคือ เวลาฝนตกจริง ๆ ใช้เครื่องพรรค์นี้ตัดไม่ได้เสียด้วยสิ ขืนเดินเทิง ๆ ตัดหญ้ากลางสายฝนเป็นได้โดนไฟชอร์ตตายเสียก่อน ครั้นจะซื้อเครื่องน้ำมันก็แพงประมาณซื้อทีวี 29นิ้วจอธรรมดาได้เครื่องหนึ่งเลย แม้จะรู้ว่าใช้ในระยะยาวจะคุ้มกว่าเครื่องไฟฟ้า แต่ผู้คนก็มักจะเกิดอาการอุจจาระเหนียวในยามที่จะต้องควักกระเป๋าออกมาซื้อเครื่องใช้ชนิดนี้ เพราะซื้อแล้วเอามาตั้งโชว์ในห้องรับแขกไม่ได้ แถมมันยังทำงานเองไม่ได้ ยังงั้ยยังไงคนซื้อก็ต้องไปเดินตามมันให้เหงื่อไหลไคลย้อยทุกอาทิตย์อยู่ดี หลายคนเจอปัญหาเรื่องตัดหญ้าเข้าไป ถึงกับก่นด่าตัวเองว่า รู้งี้เทปูนหรือปูอิฐตัวหนอนเสียให้รอบบ้านก็ดีหรอก จึงเอามาฝากไว้ให้คิดใด้ถี่ถ้วนในทุกมุมขอรับ จากคุณ : ลุงแว่น - [ 17 เม.ย. 51 06:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้อย่างแรง............ขอบคุณมาก ๆ ครับ จากคุณ : I_am_terman - [ 17 เม.ย. 51 09:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อมูลสุดยอดครับ อ่านแล้วมองเห็นภาพเลย ความฝันพังทลายเลย อยากปลูกหญ้าหน้าบ้านสักไร่นึง ไม่ปลูกแหล่ะขุดเป็นบ่อปลาดีกว่า จากคุณ : ทิดเขียว - [ 20 เม.ย. 51 15:03:39 ]