ความคิดเห็นที่ 1 รูปที่ 2 ฉีดน้ำใส่แผงระบายความร้อนให้ทั่ว วัดอีกทีได้ 1.17 amp ลดกระแสไฟไป = 1.37 - 1.17 = 0.2 amp ใช้กระแสไฟลดลงไป  0.2 / 1.37 * 100       = 14.59% นอกจากกินไฟน้อยลงแล้ว แอร์จะเย็นขึ้นกว่าเดิม เย็นเร้วกว่าเดิมด้วย นี่เป็นการทดสอบแนวคิดก่อนจะเริ่มลงมือเอาน้ำทิ้งมาหยดใส่แผงระบายความร้อน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 14:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปล่อยให้แผงระบายความร้อนแห้งสนิท วัดกระแสอีกครั้งได้ 1.48 amp จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 14:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฉีดน้ำให้ทั่วอีกครั้ง วัดใหม่ได้ 1.22 amp ลดกระแสไฟไป  1.48 - 1.22 = 0.26 amp คิดเป็น% กระแสที่ลดไป =  0.26 / 1.48 * 100 = 17.57% จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 14:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้นก็ตัดท่อน้ำทิ้ง หาทางให้มันหยดน้ำใส่แผงระบายความร้อนให้ทั่วๆ ซึ่งพอทำจริงแล้ว มันกระจายน้ำทีละหยดให้ทั่วแผงยาก น้ำมันน้อยเกินกว่าจะกระจายได้ง่ายๆ เลยใช้วิธีขี้โกงแบบที่เคยทำกับแอร์ตัวเก่า ดูวิธีตามรูปเลย เอากะละมังเล็กใส่น้ำให้เต็ม เอาผ้าแถบกว้าง 3 นิ้วจุ่มน้ำให้ชุ่ม ปลายข้างหนึ่งอยู่ในกะละมัง อีกปลายเอาหย่อนมาติดกับด้านบนของแผงระบายความร้อน  แถบผ้าจะดูดน้ำจากกะละมัง มาหยดใส่แผงระบายความร้อนทีละหยด   ต้องใส่ผ้าหลายๆชิ้น กระจายน้ำหยดให้ทั่วแผงระบายความร้อน ตามรูป ส่วนน้ำทิ้งจากแอร์ ให้หยดใส่กาละมังแทน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาไปอีกรูป จะเห็นว่าเอาผ้ายัดเข้าไปกับแผงระบายความร้อนอย่างไร  งานไม่เรียบร้อย เอาแบบทำง่ายๆ ใช้ได้เลย พอเป็นแนวทางให้ใครที่อยากทำให้สวยๆไปต่อยอดเอา จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กล้าดีเหมือนกันนะครับ แอร์ยังใหม่ๆอยู่เลย ใช้น้ำยา Cold22 ซะแล้ว  ประกันก็หมดไปแล้วละสิครับ :) จากคุณ : Kasteo - [ 11 พ.ค. 51 15:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผ้ามีหลายชิ้น มันดูดน้ำออกจากกาละมังมากกว่าน้าที่หยดเข้า ระดับน้ำจะพร่องช้าๆ 2 ชั่วโมงน้ำยังลดไม่ถึงครึ่งกาละมังเลย ถ้าอยากให้น้ำหยดเร็วขึ้น ให้หนุนกาละมังให้สูงกว่าเดิมอีก 6 นิ้ว น้ำไหลดีเลย กระจายผ้าให้หยดน้ำให้ทั่วแผง เพื่อระบายความร้อนได้เร็ว ผลที่ได้ ช่วงแรกน้ำเต็มกะละมัง น้ำหยดเร็ว ผมดูอุณหภูมิลมแอร์จะลดลงเร็วกว่าเดิม  กระแสไฟที่ใช้คงลดลงกว่าเดิมเล็กน้อยไม่เกิน 17% ตามที่ลองฉีดน้ำให้ชุ่มครั้งแรก  อันนี้จะเหมาะกับช่วงแรกห้องร้อนมาก น้ำหยดเร็วจะดึงความร้อนออกจากห้องได้เร็ว  พอระดับน้ำลดลง น้ำหยดช้าลง ห้ิองก็เริ่มเย็นแล้ว ผมเอากะละมังไปรองใต้แอร์ เพื่อเอาน้ำส่วนเกินที่ระเหยไม่หมดกลับมาใส่กะละมังข้างบนใหม่ น้ำจึงไม่ค่อยเปลือง สัก 3-4 ชั่วโมงก็ไปเอาน้ำจากข้างใต้มาใส่กะละมัง ถ้าน้ำข้างบนมากพอ อยู่ได้ทั้งคืนเลย เหมาะสำหรับห้องนอน ลองดูครับทำได้ง่ายๆ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แอร์ตัวในรูปอายุ 2 ปีแล้ว หมดประกัน อยากทำอะไรก็ทำได้สบาย หัดเติมน้ำยา ถ่ายน้ำยา ก็กับตัวนี้แหละ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 link ไปกระทู้อันเก่า http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6579396/R6579396.html จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปนี้ให้ดูว่าเวลาแอร์ inverter เดินหรี่สุดเพื่อรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ ลมที่ออกมาจะเย็นประมาณนี้ 15.8 องศา ถ้าตั้งให้ลมแอร์จ่อใส่ตรงๆก็หนาวล่ะ ส่วนอุณหภูมิตัวล่าง 27.1 องศาคืออุณหภูมิที่จุดใต้แอร์ ไม่โดนลมแอร์  ถ้าจุดที่โดนลมแอร์ จะอยู่แถวๆ 26 องศาตามที่ตั้งแอร์ไว้ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนแอร์เดินหรี่ๆ กินกระแสไฟแค่ 0.93 amp สำหรับน้ำยา cold22   ถ้าแอร์อีกตัวที่ใช้ R22 เดินหรี่สุดวัดได้ 1.25 - 1.35 amp คิดเป็นกระแสไฟลดไป 1.30 - 0.93 = 0.37 amp ลดกระแสไฟไป = 0.37 / 1.30 * 100 = 28.46% แอร์ตัวนี้เดินในโหมดหรี่แบบนี้คืนหนึ่ง 8 ชม กินไฟแถวๆ 4-5 บาท แล้วแต่ว่าอากาศร้อนขนาดไหน ค่าไฟหน่วยละ 3.20 บาท จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทำอย่างนี้มันจะทำให้ผุเร็วหรือเปล่าครับ น่าจะลองเลียนแบบ ซัยโจดูนะ เอาวัสดุเปียกน้ำ ที่ลมผ่านได้ดี บังหน้าพัดลมดูดระบายความร้อน จากคุณ : vespa744 - [ 11 พ.ค. 51 15:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คราวนี้คงรู้แล้วนะครับว่าทำไมเปิดแอร์ทุกวัน วันละ 3 ตัว กลางวัน 1 ตัว กลางคืน 2 ตัว  แต่ค่าไฟประมาณ 1100-1300  ยกเว้นมีนา เมษ ปีนี้เล่นไปซะ 1500 จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 15:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าน้ำแค่วันละ 1 กาละมัง เพื่อช่วยตอนเปิดแอร์ใหม่ๆห้องร้อน จะทำให้ห้องเย็นเร้วขึ้นหน่อย น้ำ 1 กาละมังเหล็กมันคงไม่ผุง่ายๆหรอกครับ อยู่ได้เกิน 10 ปีแน่ๆ แบบของไซโจนั่น ยังหาวัสดุแผงกระดาษให้น้ำหยดผ่านไม่ได้ ไว้หาได้อาจลองเล่นดู จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 16:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จุดระบายความร้อนที่คุณ คนปากช่อง เอาผ้าไปวางเผื่อให้น้ำหยด ทั้งทางด้านขวาและด้านหลังของ คอมเพรสฯ ถ้าหากผมจะล้างทำความสะอาด (เหมือนมีตัวแมลงปุยๆ ขาวๆ ไปเกาะติดอยู่)  ผมสามารถเอาน้ำฉีดเข้าไปได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ (แอบถามในกระทู้นี้ซะเลยครับ) จากคุณ : TumOhyes - [ 11 พ.ค. 51 16:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กรุณาทำให้ดูชัดๆได้ไหมครับว่าเอาผ้าสีเขียวอัดเข้าไปสัมผัสตรงไหน ไม่มีความรู้เรื่องแผงระบายความร้อน ของผมมันแอร์ Mr.Slim นะครับ จากคุณ : สนใจ - [ 11 พ.ค. 51 16:52:34 A:61.19.185.1 X: TicketID:150751 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาวันหยุด คนไม่ค่อยเจอ เสนอโหวตไว้ให้คนอื่นมาเห็นในวันอื่นๆด้วย โหวตหน่อยครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 11 พ.ค. 51 17:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เล่นง่ายๆแบบนี้เลยหรอครับ เทพๆ จากคุณ : จินny (จินny) - [ 11 พ.ค. 51 17:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมมม น่ากลัวเป็นสนิม จากคุณ : smiletommy - [ 11 พ.ค. 51 18:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 51 19:19:11 จากคุณ : pinhead2000 - [ 11 พ.ค. 51 19:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ กระเเสไฟฟ้าน้อยลงไม่ได้หมายถึงว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น จะประหยัดไฟได้มากขึ้นนะครับ หากจะวัดว่าการใช้ระบบน้ำหยดให้เเอร์ของคุณ นั้นช่วยประหยัดไฟหรือไม่เเนะนําให้ใช้ WATTHOUR METER วัดการใช้ไฟฟ้าจริงๆจะเหมาะสมกว่านะครับ ( จริงๆพวกระบบ ไฮบริด ผมไม่นิยมใช้ครับ ) ในรุป เป็นWATTHOUR METER ของ FORTH ไทยทําไทยใช้ไทยเจริญครับ( มีการใช้ในการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเเล้วครับ ) ป.ล. เเคมป์มิเตอร์ ที่คุณใช้ ยี่ห้อ UNI-T รุ่นนี้ใช้งานได้ดีมากๆครับ ผมก็มีใช้เป็นส่วนตัวอยู่ 1 ชุดครับ ( ที่ชอบมากๆคือ มีฟังค์ชั่นประหยัดเเบตฯเครื่องวัด เวลาเราลืมปิดเครื่อง หรือ ไม่ได้ใช้งานวัดนานๆ ) จากคุณ : pinhead2000 - [ 11 พ.ค. 51 19:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบ คห 21 กระแสไฟลดลง มันประหยัดพลังงานลงแน่ๆ แต่จะให้แน่ว่าประหยัดเท่าไรต้องใช้มิเตอร์ไฟอย่างที่คุณว่าครับ  แต่สำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป คงไม่มีใครซื้อมิเตอร์มาต่อต่างหากที่แอร์ เพื่อวัดว่าประหยัดไปจริงๆเท่าไร   เอาเป็นว่าประหยัดไฟแน่ๆ  ถ้าสามารถกระจายน้ำให้ลงทั่วแผงระบายความร้อนแบบไม่ต้องชุ่มโชก ยังไงต้องมีประหยัด 5-15% ล่ะ   เรื่องตัวถังผุผมไม่ห่วง เพราะน้ำแค่กะละมังเดียว ไม่เกิน 4 ลิตร แถมพอ 5 ชม ผ่านไปน้ำก็ยังเหลือสักครึ่งกาละมังได้ เพราะระดับกาละมังมันต่ำ แรงดูดน้ำออกเลยไม่แรง ถ้ากลัวสนิมจริงๆ ไม่ต้องใช้ทุกวันก็ได้ เอาเฉพาะวันที่อากาศร้อนจัดๆ อยากให้แิอร์เย็นเร็วๆก็ได้ ถ้าอยากให้น้ำหยดมากขึ้น ให้ยกกาละมังให้สูงขึ้นอีก 6 นิ้ว น้ำไหลเร็วแน่   ถ้าจะให้กระจายน้ำทั่วแผงระบายความร้อนจริง ต้องสัก 2 กาละมังแยกกัน จะได้ใส่ผ้าได้เยอะ ทำได้ง่ายๆ ใครๆก็ทำได้ ใครทำสวยกว่าผมช่วยถ่ายรูปมาให้ดูด้วย เรื่องแอร์เย็นเร็วขึ้นนี่ก็เย็นเร็วขึ้นเห็นๆโดยไม่ต้องใช้เครื่องวัด ไอ้ clamp ตัวนี้มันถูกดีครับ ไม่ถึง 500 เอาไว้ทำอะไรเล่นได้เยอะ ไม่ต้อง ปิดสวิสต์ 10 นาทีมันจะปิดเอง ไม่เปลืองถ่านด้วย แถมให้อีกรูป จะได้เห็นว่าผ้าแปะกับแผงระบายความร้อนยังไง  ก็จับผ้ายัดๆเข้าไปให้มันติดกับครีบระบายความร้อน น้ำจะได้ไหลลงไปตามครีบ ยัดผ้าตามสะดวกเลย จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 20:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คห 15 เอาน้ำฉีดไล่เจ้าปุยขาวๆได้เลย แต่อย่าฉีดตรงๆนะ ต้องฉีดเฉียงๆจากบนลงล่างเกือบจะเป็นแนวขนานกับครีบระบายความร้อนเลย เพื่อไล่ขี้ผงลงล่าง   ถ้าฉีดตรงๆมันจะติดลึกเข้าไปอีก   ผมฉีดทุกอาทิตย์เลย   ตอนฉีดน้ำ ระวังให้น้ำโดนเฉพาะแผงระบายความร้อน อย่าฉีดใส่มอเตอร์พัดลม  ถ้าเป็นแอร์ inverter ให้ระวังแผงควบคุมการทำงานให้ดี อย่าให้โดนน้ำเด็ดขาด คอล์ยร้อนทุกตัวผมติดในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย จะได้ล้างแอร์ ตรวจเช็คเติมน้ำยาได้เอง  ไม่ต้องปีนที่สูงเสี่ยงตายเพื่อล้างแอร์ คุณ professor เคยทักว่าวิธีนี้ถ้าทำไปนานๆเป็นปีๆอาจมีตะกรันหินปูนเกาะครีบระบายความร้อน  วันนี้ฝนตก เลยรองเอาไว้ถังใหญ่ๆ น้ำฝนเป็นน้ำกลั่นโดยธรรมชาติ หินปูนไม่มีแน่  เอาไว้เติมกาละมัง แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 51 21:03:42 จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 11 พ.ค. 51 20:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ เสาร์ อาทิตย์หน้า จะได้เอาน้ำฉีดเจ้าปุยขาวๆ  สักทีครับ จากคุณ : TumOhyes - [ 11 พ.ค. 51 21:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แคลมป์ UT202 ราคาไม่ถึง 500 นี่ซื้อที่ไหนครับเนี่ย จากคุณ : Professor - [ 12 พ.ค. 51 01:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คนไม่ค่อยรู้เรื่องอย่างผม(Mr.Slim) ยังงงครับว่า 1.เอาผ้าสีเขียวยัดเข้าไปข้างในเหนือสีดำๆนั่น แล้วข้างในมันจะไปโดนอะไรหรือเปล่าครับ ปลายผ้ามันจะเข้าไปอยู่ตรงไหนครับ ไม่ไปพัน/หรือเป็นอันตรายกับจักรกลข้างในนะครับ 2.ยัดเข้าไปซักกี่ฟุต/กี่นิ้ว จึงจะไม่อันตรายครับ จากคุณ : สนใจจ้า - [ 12 พ.ค. 51 06:20:35 A:61.19.185.123 X: TicketID:150751 ]

ความคิดเห็นที่ 27 clamp UT202 อาจจะ 450 หรือ 750 ครับ  พอดีซื้อมา 2 ตัว 2 รุ่นเลยจำไม่ได้ว่าตัวไหน ราคาเท่าไร ซื้อที่ร้านอมร สาขาไหนก็ได้ คห 26   จากรูปใน คห 22 ผ้าสีเขียวแค่ม้วนเป็นก้อนเล็กๆให้มันสอดเข้าไปแล้วคาติดอยู่กับแผงระบายความร้อน กับตัวถังแอร์  กว้าง 3 นิ้ว  ยัดเข้าไปสัก 1 นิ้วก็พอ ตรงนั้นมีแต่แผงระบายความร้อน ยัดตามสบายไม่มีอันตรายต่อวงจรไฟฟ้า เช้านี้มาดูที่กาละมังอีกที น้ำแห้งหมดเลย ผ้ามันค่อยๆดูดน้ำออกไปลงแผงระบายความร้อนหมด จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 12 พ.ค. 51 07:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 UT202  น่าจะราคา 750 เพราะว่า ราคา U201 ก็ 670 บาทแล้ว เอาข้อมูลมาให้ดูเล่นๆ   ค่าไฟฟ้า 3.5 บาทต่อยูนิต น้ำทิ้งจากแอร์  1 ลิตร  กินไฟฟ้าประมาณ   0.70  บาท ราคาแพงพอๆ กับน้ำ RO เลย จากคุณ : Professor - [ 12 พ.ค. 51 08:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขออนุญาตท่าน จขกท. เข้ามาให้ข้อมูลเรื่องสาร Cold22 เป็นสารติดไฟได้ง่ายครับ หลายท่านทราบแล้ว แต่หลายท่านยังไม่ทราบ จึงขอเพิ่มเป็นข้อมูลไว้ เรื่องสาร  Cold22 เป็นสารติดไฟได้ง่าย (มีคุณลักษณะคล้ายก๊าซหุ้งต้ม หรือ LPG มาก) การซ่อมบำรุง ต้องดำเนินการโดยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ ผ่านการอบรมมาแล้ว วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ออกคำเตือนช่างและวิศวกรที่จะเข้าซ่อมบำรุงเครื่องที่ใช้สารทำความเย็นชนิดไฮโดรคาร์บอน ดูได้ที่นี่ http://www.eit.or.th/portal/index.php?option=com_content&task=view&id=261&Itemid=64 ข้อมูลกรณีเคยเกิดการลุกติดไฟระหว่างการซ่อมบำรุง จากเว็บบอร์ดสภาวิศวกร http://www.coe.or.th/eservice/coe_webboard/coe_public/coe_show.php?wtype=6&wNo=35917 *************************** น้ำยาแอร์ Cold22 อันตรายอย่างมากตอนซ่อมคับ ผมโดนมาแล้วสดๆร้อนๆหลังปีใหม่ 2551ไม่กี่วัน ช่างปล่อยน้ำยาแอร์ Cold22 ของเดิมออกจากคอมเพรสเซ่อร์ที่ระเบียงนอกบ้าน แล้วทำการตัดต่อท่อทองแดงเพื่อย้ายตำแหน่งของแอร์ หลังจากปล่อยน้ำยาแอร์ Cold22 ทิ้งประมาณ 15 นาที จะอัดน้ำยาใหม่ (เป็น R22) ท่อดันรั่ว เลยลากถังแก๊สมาเชื่อมท่อทองแดงใหม่ พอจุดหัวแก๊สก้อไฟลุกพรึบท่วมห้องเลย ช่าง 3 คนและผมเจ้าของบ้านเจ็บกันระนาว น้ำยาแอร์ Cold22 ตัวนี้อันตรายมากครับถ้ามันรั่ว ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีควัน โชคดีที่ประตูหน้าห้องและประตูระเบียงหลังเปิดไว้ขณะซ่อม ทำให้แก๊สของน้ำยาแอร์ Cold22 มันเจือจาง ไฟเลยไม่ใหม้บ้าน แต่โชคร้ายคือไฟมันไหม้ขาผมและช่างซ่อม ลักษณะของการเผาไหม้เพียงไม่เกิน 7 วินาที แต่ความร้อนสูงมาก ระดับของการเผาไหม้อยู่ที่พื้นใต้เท้าถึงข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ไหม้หมด ถ้าเห้นรูปที่ถ่ายขาผมไว้จะสยองมาก อิ อิ อิ อันนี้มันสอดคล้องกับข้อมูลที่ค้นเจอว่าแก๊สน้ำยาแอร์ Cold22 ที่รั่วมันจะลอยอยู่ระดับ 1 ซม.จากพื้น (ของผมแอร์ 13000 Btu) ผมต้องนอนโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ หมดค่ายาไปหลายหมื่น เดินไม่ได้อยู่ครึ่งเดือน ต้องหยุดงาน 25 วันเต็มๆ ใครที่คิดจะใช้น้ำยาแอร์ Cold22 ก้อลองคิดดูเอาแล้วกันว่าคุ้มกับความเสี่ยงมั้ย สำหรับผมเองไม่คิดจะกลับไปใช้อย่างเด้ดขาดคับ หมายเหตุ - ผมบอกและเตือนช่างแอร์ว่ามันคือน้ำยาแอร์ Cold22 ที่ติดไฟได้นะ ให้ปล่อยน้ำยาเก่าทิ้งให้หมดและใช้ความระวังในการซ่อม แต่ยังไม่วายเจ็บตัวเลย เพราะช่างคิดว่าน้ำยาแอร์ Cold22 ที่ปล่อยทิ้งมันได้ระเหยไปหมดแล้ว *************************** จากคุณ : แล้วจะรู้ว่า - [ 17 พ.ค. 51 18:18:34 ]