PANTIP.COM : R6701813 น้องเค้าเดือดร้อน ช่วยกันหน่อยนะครับ [ที่พักอาศัย]

ความคิดเห็นที่ 9

ธนาคารกรุงไทยยึดบ้านพ่อแม่ ขายทอดตลาด แล้วกรุงไทยก็ซื้อเอาไว้เอง แต่ก็ใจดีครับให้อยู่อาศัยได้ แต่ก็แอบใจร้ายฟ้องล้มละลายพ่อแม่ ของน้องเค้า ต่อมามีหมายศาลให้ย้ายของออกจากทรัพย์สินของแบงค์ ภายใน 30 วัน

>>>>> ขั้นตอนเป็นไปตามกระบวนของกฎหมายทุกประการ ธนาคารทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วค่ะ ดังนั้นถ้าคุณพ่อแม่ของน้องเขาไม่ออกจากบ้าน ต่อไปก็จะเข้าสู่กระบวนการที่ธนาคารร้องขอหมายจับจากศาลต่อไป

>>>>> ป.วิ.พ. มาตรา 309 ตรี บัญญัติว่า “เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อ หากทรัพย์สินที่โอนนั้นมีลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารอยู่อาศัย และลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ยอมออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ซื้อชอบที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาลให้ออกคำบังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้นภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด แต่ไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ให้บังคับตามมาตรา 296 ทวิ มาตรา 296 ตรี มาตรา 296 จัตวา มาตรา 296 ฉ มาตรา 296 สัตต มาตรา 299 มาตรา 300 มาตรา 301 และมาตรา 302 โดยอนุโลม

น้องเค้าเลยไปคุยกับกรุงไทยขอซื้อบ้านนี้ต่อจากแบงค์
กรุงไทยก็ happy ครับ บอกให้น้องเขายื่นกู้กับกรุงไทยเลย ซื้อทรัพย์ธนาคาร ปล่อย90% take care อย่างดี(น้องเค้าเปิด มินิมาร์ท เครดิตดี บัญชีสวยที่สำคัญน้องเค้าก็สวย และโสดสนิด ) กรุงไทยให้น้องเค้ามัดจำทรัพย์ แสนห้า ไม่กี่วัน กรุงไทย โทรมาบอกว่า ไม่อนุมัติ เพราะว่า ผู้ซื้อ นามสกุลเดียวกับ ลูกหนี้NPL ของธนาคาร(พ่อแม่)
>>>>>>>คุณพ่อแม่ถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย โดยปกติไม่มีผลกระทบต่อลูก หรือญาติพี่น้องแต่อย่างใด การล้มละลายเป็นเรื่องเฉพาะตัว อีกทั้งไม่สามารถยึดอายัดทรัพย์ของลูกหรือญาติพี่น้องเลย

>>>>>>>ดังนั้น การไม่ปล่อยกู้เนื่องจากนามสกุลเดียวกับบุคคลล้มละลาย ไม่ได้เป็นการอันเนื่องมาจากกฎหมาย

>>>>>>>แต่อาจเนื่องจากระเบียบของธนาคาร(สาวกุมภ์ไม่ทราบเรื่องระเบียบ และข้อพิจารณาการปล่อยกู้ของธนาคาร ต้องขอให้ คห.อื่น มาชี้แจงเพิ่มเติมนะค่ะ )
ดังนั้น คงต้องสอบถามกลับไปยังธนาคารอีกครั้งเพื่อขอคำชี้แจงว่าการไม่ปล่อยกู้เนื่องจากนามสกุลเดียวกับผู้ล้มละลายนี้มาจากระเบียบข้อใดของธนาคาร

น้องเค้าบอกไม่เป็นไรคะ งันหนูจะไปยื่นแบงค์อื่น ขอเงินมัดจำหนูคืนแล้วกัน พนักงานกรุงไทยขอตัวไปหารือกับ ผจก. แล้วออกมาบอกว่า คืนไม่ได้คะ ต้องเปลี่ยนทรัพย์ที่จะซื้อในราคาเทียมๆกัน (ประมาณล้านเจ็ด) .......คือยังงัยก็ไม่คืนเงิน จะซื้อส้ม ส้มไม่มี ก็ให้ซื้อมะเขือแทน เออ!!! เอากับเขาซิ
>>>>>>>เขายื่นมะเขือมาแทน ก็บอกไม่เอาได้ค่ะ
แต่เรื่องขอเงินมัดจำคืน คงต้องรอ คห.อื่น มาตอบเรื่องการยื่นกู้ แล้วยึดเงินมัดจำ เพราะสาวกุมภ์เคยแต่ยื่นกู้ แล้วจ่ายเพียงค่าประเมิณ ไม่ได้วางเงินมัดจำ จึงไม่ทราบ

>>>>>>มาตรา 378 ซึ่งมีหลักกฎหมายดังนี้ "มัดจำนั้น ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้เป็นไปดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(1) ให้ส่งคืน หรือจัดเอาเป็นการใช้เงินบางส่วนในเมื่อชำระหนี้
(2) ให้ริบ ถ้าฝ่ายที่วางมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบ หรือถ้ามีการเลิกสัญญาเพราะความผิดของฝ่ายนั้น
(3)ให้ส่งคืน ถ้าฝ่ายที่รับมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนี้ต้องรับผิดชอบ"

>>>>>ดังนั้น ตามกฎหมายแล้ว ธนาคารต้องคืนมัดจำให้น้องเค้านะค่ะ
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 01:05:15

จากคุณ : สาวกุมภ์ - [ 13 มิ.ย. 51 21:17:27 ]