ความคิดเห็นที่ 1 บ้านแห่งอารมณ์และความหลงไหล เจ้าของ-ตกแต่ง คุณจามจุรี จูรี่ เคสเซอร์ เรื่อง มนตรา ศิริขันธ์ ภาพ จิระศักดิ์ ทองหยวก, นันทิยา บุษบงก์ ภาพประกอบจากหน้า 87 โปรดสังเกตที่โต๊ะปลายเตียง จากคุณ : หมาเนย - [ 20 มิ.ย. 51 07:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขยายให้ดูชัดๆ ทั้งเจ้าของบ้านที่ในหนังสือบอกว่าเป็นดีเจ ดีเจคลื่นไหนไม่รู้ นามสกุลฝรั่งแต่ชื่อก็ยังเป็นไทย อยู่เมืองไทย ทีมงาน ช่างภาพ จนถึงบรรณาธิการ ไม่มีใครมองเห็นกันเลยเหรอ ตั้งเด่นเป็นสง่าขนาดนั้น แต่ยังปล่อยออกมา หรือเห็นแล้วแต่ไม่สนใจ ยังเอามาลงประกอบในหนังสือ จากคุณ : หมาเนย - [ 20 มิ.ย. 51 07:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 very very horrible. Vote!!!! ka จากคุณ : Mrs MC - [ 20 มิ.ย. 51 07:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แย่มากครับขอประนามด้วยคน จากคุณ : นายBIG - [ 20 มิ.ย. 51 07:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น่าเกลียด จากคุณ : เด็กอยากสวย - [ 20 มิ.ย. 51 07:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อุบา..............ที่สุด ทั้งนิตยสารและเจ้าของห้อง ต้องรับผิดชอบ จากคุณ : hi-tong - [ 20 มิ.ย. 51 07:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ห้ามการประนามหนังสือนี้เด็ดขาด             คืองี้เจ้าของกระทู้คงไม่ทราบว่า   พระพุทธศาสนาในโลกนี้มีหลายสาย   หลายนิกาย   ปางที่เห็นว่าเสพกับสตรีอยู่นั้น  มันเป็นปางปางหนึ่งในนิกายวัชระยานหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ   จะเป็นนิกายทางอินเดีย   เนปาล   พระพุทธรูปปางแปลก ๆ ในโลกนี้   มันมีเยอะ   เพียงแต่สังคมไทยไม่คุ้นเคยกับพระพุทธรูปปางแปลก ๆ ของต่างนิกายแค่นั้นเอง   และไม่ จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 20 มิ.ย. 51 07:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ไหวจะเคลียร์ครับ โหวต จากคุณ : rider XXX - [ 20 มิ.ย. 51 08:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 ที่ว่าต่างนิกาย หมายความว่ามิใช่พุทธ ใช่หรือเปล่า จากคุณ : prachan.p - [ 20 มิ.ย. 51 08:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เฮ้ยยย ตกใจมากกับรูปในคห.2 โดยส่วนตัว รู้จักกับดีเจ "เจเจ" บ้าง ตอนที่เธอเริ่มจัดรายการใหม่ๆ และทักทายกันบ้างตอนเจอกันใน Event ต่างๆ แต่พอเธอย้ายคลื่น ก็ไม่ทราบข่าวคราวอีกเลย ปกติเธอจะค่อนข้างเปิดเผยมากๆคนนึงในทุกๆเรื่อง (ขอย้ำว่าทุกเรื่องจริงๆ) (เธอเคยจัดรายการตอนดึกๆ เรามักจะเรียกช่วงเวลานี้มา "ช่วงเวลาของผู้ใหญ่") แต่คราวนี้ เธอต้องคิด และรอบคอบเรื่องทัศนคติสาธารณะ ให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้วล่ะ จากคุณ : nickyblood - [ 20 มิ.ย. 51 08:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 7 .................................... ความหลากหลายทางนิกาย??? แต่ ปางเสพสมกับสตรีเนี่ยนะ คนไทยรับไม่ได้น่นอน --------------vote--------------------------- จากคุณ : hi-tong - [ 20 มิ.ย. 51 08:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห. 9  ต่างนิกายก็คือพุทธทั้งหมด   พุทธในไทย  กับพุทธในจีน  พุทธในอินเดียร์   ก็ต่างกันแล้ว  ศาสนาพุทธมันแตกหลายสายไปทั่วโลกนะครับ  เอาแค่พุทธในไทย  แตกเป็น 3 ฝ่าย 1. สายวัดป่า  ฉันอาหารเช้า 1 มื้อ 2.  สายวัดบ้าน  ฉันอาหารเช้าและอาหารเพล  อันนีพูดง่ายๆ นะ 3.  สายวัดพระธรรมกาย  อันนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีไม่นาน จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 20 มิ.ย. 51 08:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คิดไม่ได้รึยังไง...ว่าภาพใดมุมไหนที่น่าจะนำลงพิมพ์ จากคุณ : เด็กชายกวางตุ้ง - [ 20 มิ.ย. 51 08:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขนลุกจังเลย เดี๋ยวต้องรอไปเช็คกับผู้รู้ว่ามีปางนี้หรือเปล่า พอดีเหมือนเคยได้ยินว่า มันมีปางมารผจญนะค่ะ แต่ว่าไม่เหมาะสมสำหรับเมืองพุทธอยู่ดี จากคุณ : นุ้งบูซู่ซ่า - [ 20 มิ.ย. 51 08:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นพระพุทธรูปในนิกายวัชรยานที่มีมากว่าพันปีแล้วค่ะ วัชรยานเชื่อว่าพระพุทธเจ้าทรงมีศักติ หรือพระชายา คือ นางตารา คอยช่วยมนุษย์ให้พ้นวัฏสงสาร เป็นความเชื่อแฝงปรัชญาบางอย่างน่ะค่ะ ดังนั้นปางนี้จึงไม่ใช่ปางที่ผิดหรือลามกอุจาดแต่อย่างใด ถ้าจะตำหนิเจ้าของห้อง ก็มีเรื่องเดียวคือจัดวางพระพุทธรูปไว้ปลายเตียง และวางไว้เหมือนของแต่งบ้านมากกว่าการแสดงความเคารพบูชา จากคุณ : นราเกตต์ - [ 20 มิ.ย. 51 08:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มีคนหาข้อมูลมาให้ ตามด้านล่างค่ะ จากคุณ : นุ้งบูซู่ซ่า - [ 20 มิ.ย. 51 08:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงจะเป็นนิกายอะไรก็แล้วแต่ แต่หนังสือเล่มนี้ออกที่เมืองไทย คนอ่านส่วนใหญ่ก็คนไทยพุทธ ขอร่วมประนามด้วยคนค่ะ โหวตแล้วด้วย จากคุณ : รับไม่ได้อย่างที่สุด (rodaleens) - [ 20 มิ.ย. 51 08:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วย กับ คห.7       15    และ 24  ครับ อย่ามอง แค่ เปลือก แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 51 09:23:22 จากคุณ : otto - [ 20 มิ.ย. 51 08:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/06/22/03.php จากคุณ : ทำลิงค์ให้ (nickyblood) - [ 20 มิ.ย. 51 08:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยครับ มันจะปางอะไรก็ช่างหัวมัน แต่ให้คนไทยอ่าน อย่างงี้มันไม่เหมาะสม โหวตให้หนึ่งจึ๊ก จากคุณ : zolam - [ 20 มิ.ย. 51 08:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นรูปแล้ว กลัว + ขยะแขยง ยังไงไม่รู้ ( ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ) จากคุณ : ไม่น่าเข้าใจยาก - [ 20 มิ.ย. 51 09:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชุ่ยมากๆ ครับ ปล่อยออกมาได้ยังไง จากคุณ : Dr.GTO - [ 20 มิ.ย. 51 09:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้ แม่เจ้า เข้ามาโหวต ค่ะ......... จากคุณ : 1978 (b39kew) - [ 20 มิ.ย. 51 09:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมกลับมองว่า ถ้าคุณ หมาเนย ท่านเจ้าของกระทู้ไม่สเเกนภาพ เเละ ซูมขยายส่วนตรงพระพุทธรูปเข้าไป มันก็ไม่น่ามีปัญหาที่จะมาประนามหนังสือ ROOM เค้านะครับ มันไม่ได้อยู่ในส่วนหน้าปก เเละ อยู่ในหน้าในหนังสือ เเถมเป็นส่วนเล็กๆในภาพที่เข้าไปถ่ายบ้านท่านเจ้าของบ้านหลังนี้ ต้องนํามาสเเกน-ซุมขยายมาเป็นประเด็นฯ( คุณชั่งขยันดิ้นรนในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง อันนี้ผมจอคอมเมนท์คุณ หมาเนย เลยนะครับถ้าคุณเป็นชาวพุทธเเท้ๆคงไม่มาโพสเพื่อให้เรื่องมันดังเข้าไปอีกอย่างนี้หรอกครับ มันมีวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้นะครับ เรื่องบางเรื่องควรทําให้เรื่องมันเงียบอยู่ในวงเล็กๆเเละเเก้ไขกันไป เเต่คุณ....กลับทําให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต รวมๆผมมองว่ามันมีผลเสียมากกว่าผลดีนะครับ ) ผมก็เป็นชาวพุทธ เพียงเเต่ไม่บ้าจี้ตามเจตนาของคุณหมาเนย ก็เท่านนั้น ถ้าจะเอาเรื่องควรไปถามเจ้าของบ้านหลังนี้ว่า คุณไปซื้อพระพุทธรูปปางนี้ที่ไหน เพื่อที่จะซื้อหาเเหล่งผลิตอยู่ในประเทศถ้าผิดกฎหมายก็ฟ้องศาลท่านว่ากันไปครับ ส่วนเจ้าของบ้านผมคงจะเฉยๆนะกับคนๆนี้เพราะเค้าตงไม่ใช่ชาวพุทธในบ้านเรา เลยไม่ได้ให้ความเคราพในเรื่องเหล่านี้ ส่วนหนังสือ ROOM ผมคงเเค่ขอเเค่ว่า ทางบริษัทฯผู้ทําหนังสือควรจะระมัดระวังในเรื่องรายละเอียดให้มากกว่านี้ครับ( ละเอียดมากๆ ) เพราะมีคนซื้ออ่านที่เค้าละเอียดมากกว่าพนักงานของคุณ เป็นไปได้ก็จ้างมาทํางานด้วยไปเลยจะดีมากๆครับ เรื่องเหล่านี้ ผมไม่E_เดียดมากกว่าครับ ที่บ้านเราเอาชื่อเทพเจ้าของกรีชอย่าง เทพโพไซดอน ผู้ประกอบการบ้านเรามาเป็นชื่อสถานอาบอบนวดพร้อมเทวรูปหน้าตึก ผมก็ไม่เห็นทางสถานฑูต ประเทศ กรีช จะโวยวายประนามอะไร หรืออย่างสถานอาบอบนวด ซีซาร์ , คลีโอพัตรา ผมก็ไม่เห็นทาง อิตาลี,อียิปห์ โวยวายอะไร ที่เราเอาตัวสฟิงค์  สัตว์ในเทพตํานานที่เขานับถือ มาอยู่บนยอดตึกสถานค้ากาม เอาชื่อสถานที่อย่าง ซองต์เอลิเซ่ มาเป็นสถานที่ขายบริการหญิงไซด์ไลน์ ที่เเยก อ.ส.ม.ท. ( อดีตเป็นที่ผมไปประจําๆ อิ อิ อิ ) แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 51 09:20:21 จากคุณ : pinhead2000 - [ 20 มิ.ย. 51 09:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พออ่านว่าเมืองไทยเมืองพุทธรู้สึกเศร้าใจ เพราะเวลาไปทิเบตเขาก็บอกว่าเขาเมืองพุทธ และยังดีใจด้วยที่รู้ว่าคนไทยนับถือพุทธเหมือนกัน ถึงต่างนิกาย แต่อย่างไรก็เป็นศาสนาเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกันคือมุ่งสู่นิพพาน เหมือนกับการขึ้นไปบนยอดเขา บางคนเดินขึ้น บางคนขี่ลา แต่สุดท้ายก็คือไปให้ถึงจุดเดียวกัน ถ้าเราเดินขึ้น เราจะไปประณามคนที่ขี่ลาว่าใช้แรงงานสัตว์ก็คงไม่ถูกนัก เรามองว่าเขาทารุณ ลาตัวนิดเดียวให้คนตัวใหญ่แถมสัมภาระก็หนัก แต่ใครจะรู้ว่าเขาอาจยอมอดข้าวทั้งวันเพื่อเอาเงินน้อยนิดไปซื้ออาหารเลี้ยงลาหมดเลยก็ได้ ฉันใดฉันนั้นค่ะ เราคงสรุปอะไรๆ เพียงแค่เห็นแง่เดียวไม่ได้ ส่วนตัวมีโอกาสได้เห็นพระพุทธรูปปางแปลกๆ ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทยแต่เป็นทั่วโลก การไม่พิมพ์ไม่เผยแพร่ คนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจก็จะติเตียนไม่จบสิ้น สู้ให้ความรู้ไปเลยดีกว่าว่านิกายอื่นเขามีแนวคิดอย่างไร ทำไมคนในหลายประเทศถึงให้ความนับถืออย่างแพร่หลายตั้งพันกว่าปีแบบนี้จะดีกว่าค่ะ จากคุณ : นราเกตต์ - [ 20 มิ.ย. 51 09:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราเคารพ พระพุทธ หรือ เคารพ รูปปั้นกันแน่ ความหลากหลาย ในโลกนี้ ยังมีอีกมากมาย มันไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวเลยสำหรับความเชื่อ เรื่องนี้ น่าจะเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลน่ะ บางคน มีไว้กราบไหว้บูชา บางคนมีไว้เป็นแค่เครื่องประดับตกแต่ง จากคุณ : ก้นกบ - [ 20 มิ.ย. 51 09:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความรู้ใหม่ สอนให้รู้ว่าอย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้ง สิ่งที่เราคิดว่าผิดบางทีอาจจะไม่ผิดก็เป็นได้ จากคุณ : falsi - [ 20 มิ.ย. 51 09:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เพราะ คนไทยบางส่วนเป็นพุทธตามบัตรประชาชน เมื่อเป็นพุทธตามนั้นก็จะยึดมันถือมั่น ว่าเป็นของตัว พอเห็นใครมาลบหลู่ตามความเข้าใจของตนก็โกรธแค้น ก็เหมือนเวลาช่างกลตีกันนั่นแหละ หลงกับเรื่องไม่น่าหลง ติดกับสิ่งที่ไม่น่าติด จากคุณ : <--APART - [ 20 มิ.ย. 51 09:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สรุปว่ายังไงดีละเนี่ย จะประนามหรือว่าปล่อยผ่านไปเฉยๆ ดี จากคุณ : Ekanat - [ 20 มิ.ย. 51 09:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พระ ดร. มโน กล่าว "พระพุทธศาสนาหลังพุทธปรินิพพานแล้ว ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด พระธรรมจักรของ พระองค์นั้นมิได้หยุดนิ่งเลยกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว และปัจจุบันก็ยังหมุนอยู่ รูปแบบของศาสนานั้นมี การเปลี่ยนแปลงมาตลอด เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย คือ แรงศรัทธาของประชาชน การรู้จักศาสนาโดยเฉพาะความเชื่อของเราแต่เพียงอย่างเดียวนั้น อันตรายเสมอ ในขณะที่เราเชื่อว่าศาสนาของเราถูกต้องบริสุทธิ์ ชาวพุทธวัชรยาน เขาก็เชื่อเช่นเดียวกัน ใครเล่าจะเป็นผู้ตัดสินได้ว่าใครถูกใครผิด" จากคุณ : HINTCY - [ 20 มิ.ย. 51 09:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยกับ 24 ค่ะ และอีกหลายๆท่านค่ะ บางทีบ้านเราเมืองเราก็แปลกนะ ไอ้เรื่องว่า เมืองพุทธ แล้วทำนั่น นี่ นู่น ไม่ได้ แต่ศีลห้า ยังถือไม่ครบล่ะบ่นกันจัง ยอมรับความแตกต่างแบบไม่แตกแยกดีกว่าไหมคะ จากคุณ : ...amy... - [ 20 มิ.ย. 51 09:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 24 - 25 - 26 - 27 - 28 - 30 ครับ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 51 09:55:51 จากคุณ : kittybear - [ 20 มิ.ย. 51 09:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ... เห็นด้วยกับ #25 อะไรที่ไม่เคยรู้   ควรเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ-อย่างเป็นกลาง ให้ครบถ้วนทุกด้านก่อน  แล้วค่อยตัดสิน แต่ส่วนมาก.. อิฉันว่า ไม่ศึกษา  ถึงมีคนบอกว่ามี  ฉันก็ไม่รับรู้ ขอแต่ได้ด่า  ด่าแล้วสบายใจ  ไปทำมาหากินของตัวเองต่อ   ... เค้าจะแก้ไข ไม่แก้ไข ต่อไปยังไงไม่รับรู้แล้ว... ถ้าศึกษาแล้วมั่นใจว่าไม่ดีจริง  กัดอย่าปล่อยสิ ... ต้องให้แก้เป็นรูปธรรมให้ได้  ไม่ใช่ด่าแล้วเผ่น.. แบบนี้  ... จะไปเถียงใครเค้าได้ยังไง ว่า เฉลิมไทยไม่ได้ตามน้ำ ? จากคุณ : จิตรางคทา - [ 20 มิ.ย. 51 09:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โห.... อุตส่า(เขียนไม่ถูกอ่ะ)ซูมให้ดูด้วยตอนแกผมก็มองไม่เห็นหรอกครับ ผมจำได้ว่าที่เคยเรียนมาในโรงเรียนของรัฐเขาบอกว่าพระพุธเจ้าเขาไม่ได้ให้นับถือ ไอ้พวกรูปปั้นตัวแทนพวกนี้นี่ครับ ให้นับถือคำสอนเอา แต่ในทางปฏิบัติมันก็ไม่ใช่แบบนั้นนี่เนอะ ผมว่าขึ้นอยู่กับว่าใครจะซีเรียสกับเรื่องรูปปั้นมากไหมแค่นั้นเองครับ ส่วนเรื่องนิกายอื่นๆ ผมว่าก็เคยเห็นนะครับต่างประเทศนี่มีแบบเป็นวิหารเลยมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ แค่เราอาจจะไม่เคยเห็นในโลกกว้างๆ ว่าแท้จริงแล้ว ที่อื่นอาจจะเป็นพุธแต่ไม่ใช่เป็นพุธที่เรารู้จักก็ได้ จากคุณ : juhide - [ 20 มิ.ย. 51 10:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คห 29 ถ้าคุณเข้าไปอ่าน link ของ คมชัดลึก แล้วคุณก็จะตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องรอใครมาตัดสินใจให้หรอกครับ จากคุณ : เชาว์เชาว์ - [ 20 มิ.ย. 51 10:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับผมมองว่า รูปปั้นแบบนั้น หากคุณเข้าไปถ่ายรูปเพื่อลงหนังสือ  คุณต้องเห็นตำตาอยู่แล้ว แล้วทีนี้คุณยังไม่คิดที่จะยกออกก่อนหรือ    เพราะอะไร.... คุณคิดว่าพระพุทธรูปองค์นี้ช่างสวยงาม  หรือว่าน่านับถือ   น่ากราบไหว้บูชา   ตรงตามนิกายที่คุณนับถือ หรือว่าอะไรกันครับ หรือคุณคิดว่าก็เป็นเครื่องประดับเชิงเสียดสี   ดูแล้วแสบทรวงดี   หรือมันช่างเท่ห์จริงๆ!!!! ถ้าคนที่ถ่าย หรือที่เอามาลง  (รวมทั้งคนที่ตั้งไว้ปลายตีนนั่นด้วย)  เข้าถึงแก่นแท้ของพุทธศาสนานิกายที่ว่านั้น และมีความเคารพมีความเชื่อตามนิกายดังกล่าว  และเคารพรูปนั้นตามเจตนารมณ์ของการออกแบบ ผมว่าก็ไม่ผิดหรอก แต่ที่ผมคิดนะ  ทั้งคนซื้อมาวางในรูป  และคนถ่ายมาลงหนังสือ       คงไม่ได้คิดงั้นหรอกมั๊งครับ..... จากคุณ : Major Chip Hazard - [ 20 มิ.ย. 51 10:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถึง คุณชญาณัตถภัทร์ คห.7  ผมอยากจะบอกว่าบาปที่ทำกรรมมากที่สุดคือ ทำร้ายพ่อแม่ ทำให้สงฆ์แตกแยก และลบหลุ่องค์พระศาสดา ผมไม่ได้จะแบนหนังสือเล่มนี้แต่รูปที่ทางหนังสือนำมาลงไม่ควรอย่างยิ่งโดยเฉพาะที่ทำให้เสื่อมเสียต่อศาสนาเยี่ยงนี้ คุณชญาณัตถภัทร์ บอกว่า "  ปางที่เห็นว่าเสพกับสตรีอยู่นั้น  มันเป็นปางปางหนึ่งในนิกายวัชระยานหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ   จะเป็นนิกายทางอินเดีย   เนปาล   พระพุทธรูปปางแปลก ๆ ในโลกนี้   มันมีเยอะ   เพียงแต่สังคมไทยไม่คุ้นเคยกับพระพุทธรูปปางแปลก ๆ ของต่างนิกายแค่นั้นเอง" ผมอยากจะถามคุณว่า สิ่งที่คุณพูดคือเรื่องธรรมดาที่สังคมไทยไม่เคยเห็นใช่ไหม ? คุณเคยบวชเรียนไหม?เคยศึกษาเรื่องธรรมะบ้างไหม? เรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธน่ะครับ ผมว่าทางหนังสือควรออกมาทำอะไรบ้างน่ะครับ จากคุณ : jray - [ 20 มิ.ย. 51 10:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG - [ 20 มิ.ย. 51 10:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไปเที่ยวกับ ขสมก ตามวัดใกล้ๆ กรุงเทพ เดินผ่านแผงขายพระที่ตลาดนัดในลานวัด ก็เห็นมีพระเครื่องทำนองนี้วางขาย คนขายบอกว่าขายดีมาก ลูกค้าวัยรุ่นชอบซื้อไปแขวน เชื่อว่าจะทำให้มีผู้หญิงหลงรัก ถ้าจะบ่นเรื่องทำนองนี้ เสียเวลาเปล่า พระเองยังมีหลายรูปที่ทำเรื่องแปลกๆ เช้าเย็นสวดว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง... สวดเสร็จก็ไปปลุกเสกรูปเทพ รูปเทวดา ของศาสนาอื่นขายเฉยเลย ท่านเอง ก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สวด สำคัญที่ตัวเราเอง อย่าถือศีลแต่ปาก ก็พอแล้ว จากคุณ : KittySP - [ 20 มิ.ย. 51 10:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พวกที่โหวต ๆ กันเนี่ยเข้าใจแก่นแท้ของศาสนาพุทธหรือว่าเข้าใจปรัชญาของศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้หรือเปล่า  หรือว่ากราบไหว้แค่พระพุทธรูปเท่านั้น ก็เป็นชาวพุทธแล้วหรือ? จากคุณ : auma - [ 20 มิ.ย. 51 10:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ได้เข้าไปดู linked ต่อนะครับ แต่ถ้ามีปางนี้อยู่จริง (ถึงแม้เจ้าของบ้านจะเห็นเป็นแค่ของแต่งบ้านก็ตาม) เราก็ควรยอมรับความเชื่อของนิกายนั้น (แม้เจ้าของบ้านจะไม่ได้เชื่อ) ถ้านิกายนั้นเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่ผิด เขาก็ย่อมมีสิทธิ์เชื่อครับ อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธครับ ศาสนาพุทธไม่ใช่ของชาวไทยเท่านั้น จากคุณ : ปะป๋าน้องมุก - [ 20 มิ.ย. 51 10:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับ คห. 41 จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 20 มิ.ย. 51 10:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เขาเรียกว่า ความเหมาะสม และกาละเทสะ ผมมองว่า สื่อสาธารณะควรจะต้องมีสิ่งเหล่านี้ จากคุณ : QDora - [ 20 มิ.ย. 51 11:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คงต้องระวังหน่อย เพราะภาพของตกแต่งมีหลุดกันแบบนี้เสมอๆ คนไทยค่อนข้างจะ ความรู้สึกไว กับเรื่องแบบนี้ แต่ว่ากินเหล้าได้ เที่ยวหญิงได้ โกหกคำโตได้ ฯลฯ โฮ่ๆ ประมาณพุทโธ่ พุทถัง มองต่างมุม ถ้ามองว่าเป็น มารจำแลงมาทดสอบพระพุทธเจ้า ก็คงจะคิดได้ แล้วก็ไม่ต้องไปคิดอกุศลอะไร เพราะใครที่เห็นแล้วคิดอะไร คงอุบาทว์สุดๆ ส่วนที่ว่าจะมีปางนั้น ปางนี้หรือไม่ ผมว่าเป็นแค่เปลือกนอกนะ ความเหมาะสมอยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่กรอบที่วางไว้ แต่กรอบสังคมไทยมันออกจะเป็นอย่างที่เรารู้ ก็ไม่ว่ากัน ต่างคนต่างคิดนะครับ จากคุณ : Double07 - [ 20 มิ.ย. 51 11:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ ก็ขอให้เข้าไปอ่านใน link ค.ห.19 นะครับ เป็นความรู้ที่ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญ ผมมองการนับถือพุทธ แบบไทย เป็นเหตุและผล นับถือในหลักธรรมคำสอนอันนำไปสู่ทางพ้นทุกข์ ไม่ใช่เพียงความเชื่อ ในรูปสักการะ แต่ก็อย่างว่าครับ ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีผลกระทบโดยตรงกับความรู้สึก ความเห็นผมคือ อยู่ที่ว่า ผู้ที่มีไว้ในครอบครอง ผู้นำเสนอ มีทัศนคติ และเจตนาอย่างไร มากกว่าครับ จากคุณ : ช่องว่าง - [ 20 มิ.ย. 51 11:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณหมาเนย ไม่รู้ว่ามีพระพุทธรูป ปางนี้ จริง ก็เลยเอามาโวย เจ้าของบ้านอาจเห็นพระพุทธรูปปางนี้เ้ป็นแค่ของประดับ เพราะฝรั่งก็เอาเศียรพระพุทธรูปมาวางประดับห้องรับแขก ยิ่งถ้าเจ้าของบ้านเอามาวางในห้องนอน เพราะคงเห็นว่าสวย เหมาะกับห้อง แต่บางคนก็มองว่ามันก็ไม่เหมาะจริงๆ เพราะห้องนอนคงไม่เอาไว้แค่นอนหลับ ทั้งนี้มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล เลื่อนลงมายิ่งเห็นคนประชดคุณหมาเนยว่าจะเอียดเกินไปอีกแฮะ ถ้าใครมองเห็นภาพหนึ่งแล้วสนใจก็คงกวาดสายตาทั้งภาพว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร จากคุณ : oddie - [ 20 มิ.ย. 51 11:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แล้วหนังสือ Room จะออกมาชี้แจงอะไรมั้ยครับ จะรอดูตอนจบ จากคุณ : สสารนิยม - [ 20 มิ.ย. 51 11:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นตั้งแต่เค้ายังโพสต์ไม่เสร็จ ดูแค่รูปที่บอกว่าดูที่ปลายเตียง  เราก็ม๊องง มอง มันมีอะไร จขกท มองเห็นได้ไง ตาดีเนอะ จากคุณ : คิน * คาเนะ - [ 20 มิ.ย. 51 11:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตลกกระบวนการคิดของแต่ละคนจัง ความคิดเห็นแรกๆก็จะมีคนด่าว่าไม่เหมาะสม แต่พอมีคนมาค้าน เข้าสักหน่อยตวามคิดเห็นหลังๆก็จะไปในทางเดียวกันหมด อย่างนี้เค้าเรียกว่าพวกมากลากไปหรือป่าวอ่ะอ่านแล้วดูงงๆๆอ่ะ จากคุณ : ~AnTNiTa~ - [ 20 มิ.ย. 51 11:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นเรา เรารับไม่ได้แฮะ จากคุณ : golfkid - [ 20 มิ.ย. 51 11:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ยอมรับในความคิดเห็นของผู้อื่น เอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ ดีซะอีกคนจะได้รู้ว่ามีนิกายนี้อยู่ ไม่ได้ศึกษาด่ากันอย่างเดียว ===============================ข้อความเอามาจากเว็บที่มีลิงค์ไว้ พระ ดร.มโน ได้อธิบายให้ฟังว่า พระพุทธรูปปางเสพสมไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นจากผลงานของศิลปินยุคสมัยนี้ผู้มีจิตลามก และผู้สร้างก็มิได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ พระพุทธศาสนาแต่ประการใด แต่สร้างขึ้นด้วยความเคารพบูชาในพระพุทธศาสนา ไม่น้อยกว่าชาวพุทธในประเทศไทยเช่นกัน พระพุทธรูปปางนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๖๐๐-๙๐๐ หรือไม่ต่ำกว่า ๑,๒๐๐ ปี มาแล้ว พระ ดร.มโน (เมตฺตานนฺโท ภิกฺขุ) ที่ปรึกษาเลขาธิการใหญ่องค์การสมัชชา ศาสนาเพื่อสันติภาพโลก ฝ่ายกิจการพระพุทธศาสนา และอาจารย์พิเศษทางพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จากคุณ : a-ผู้ชั่วร้าย - [ 20 มิ.ย. 51 11:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 มิ.ย. 51 11:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มันเล็กก็จริง แต่รูปนี้พระพุทธรูปอยู่ปลายสายตาพอดี เห็นก่อนเลื่อนลงมาดูรูปขยายอีกค่ะ แม้จะรู้อยู่แล้วว่ามีนิกายนี้อยู่ และมีความหมายในเชิงปรัชญา แต่การจั่วว่าเป็น บ้านแห่งอารมณ์และความหลงไหล และวางรูปปั้นนี้ไว้เหมือนของแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง แสดงว่าเจ้าของอาจจะคิดแค่เอาไว้สื่ออารมณ์ก็ได้ (ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ในพื้นที่ส่วนตัว) แต่การเอามาลงหนังสือ ควรตรวจสอบก่อนนำมาเผยแพร่จริงๆค่ะ โดยเฉพาะในเมืองไทย ที่ไม่รู้จักนิกายนี้แพร่หลาย จากคุณ : Rita (RitaChiang) - [ 20 มิ.ย. 51 12:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดูดีๆ เป็นปาง มารผจญ ไม่ใช่เหรอครับนั่น มารที่เป็นสตรี  สังเกตุดีๆ พระองค์ไม่ได้มี"อารมร์ร่วม"ด้วยเลย ไหนๆfocusแล้ว ก็เข้าไปให้ถึง สายตา+สมาธิ ของท่านด้วย -เบิกตา เปิดใจ อภัยมาร- จากคุณ : กะโฮ่ - [ 20 มิ.ย. 51 12:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พวกเรานิตยสารรูม ยอมรับความผิดพลาดในครั้งนี้ครับ ทุกครั้งที่ทางกองบก.ไปถ่ายบ้านใครก็ตามพวกเราจะระวังเรื่องความเหมาะสมทางภาพที่เคารพทุกอย่าง ทุกภาพที่ถ่ายออกมากพวกเรามีทีมงานตรวจสอบถึง 5 ชั้นด้วยกัน คือ ทีมที่ไปถ่าย หัวหน้ากอง บรรณาธิการ ฝ่ายศิลป์ และทีมผลิต โดยทุกขั้นตอนพวกเราระวังเรื่องนี้มากครับ ครั้งนี้พวกเรายอมรับผิดจริงๆครับ เพราะมีผู้อ่านที่หวังดีได้แจ้งมาทางบริษัทแล้ว และพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างไร ได้ประชุมกันถึงเริ่องนี้ถึงแม้ว่าพระพุทธรูปปรางนี้จะมีอยู่ในโลกจริง แต่ความไม่เหมาะสมกับการนับถือของชาวพุทธ(ไทย)เช่นเรา ทำให้เราต้องพิจารณาให้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามผมฝากถึงผู้ที่ตำหนิคุณเจเจนะครับ ว่าไม่ใช้ความผิดของเธอเพราะพวกเราทีมงานได้ขอเข้าไปถ่ายในบ้านพักของเธอถึงเป็นที่ส่วนบุคคล เธอมีสิทธิอย่างเต็มที่ครับ แต่เป็นพวกเราที่ผิดพลาดกันเอง ขอน้อมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียวครับ จากคุณ : รัฐพล(หัวหน้ากองนิตยสารรูม) (TSviq) - [ 20 มิ.ย. 51 12:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เพิ่งรู้ว่ามีพระพุทธรูปปรางนี้ด้วย ความรู้ใหม่ จากคุณ : Pจังจัง - [ 20 มิ.ย. 51 12:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ได้รับรู้ถึงรสนิยมเจ้าของบ้านเลยว่าเป็นยังไง จากคุณ : แปลกจัง - [ 20 มิ.ย. 51 12:45:26 A:203.156.166.43 X: TicketID:146672 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ปางนี้ มีมานาน แล้ว และเคยเห็นมานาน แล้ว ด้วย ครับ คห.55 กอง บก. มาแล้ว     โดยส่วนตัวคุณ   และ เจ้าของ บ้าน ไม่ ผิดเลย นะ ครับ มันเกิดจากความ ละเอียดอ่อน ของ ผู้อ่านมากกว่า ครับ จากคุณ : otto - [ 20 มิ.ย. 51 12:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ท่านให้ดูที่เจตนา จากคุณ : pspvs - [ 20 มิ.ย. 51 13:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มองมันเป็นเพียงรูปปันสิครับพระอยู่ใจใจครับการแสดงออกของพวกท่านท้ังหลายกำลังแสดงถึง การยึดติดลองคิดดูนะครับถ้าโลกนี้ไม้มีรูปปันพระพุธรูปเรายังนับถือกันอยู่หรือเปล่า ผมว่ายังนับถือใช้ใหม่ครับ มองเป็นเพียงรูปปันก็จบ ขนาดสาศนาคริสต์ยังเอารูปพระเยซูไปทำลงเศื่อใส่กันหลา เพราะ เขาสอนไม่ให้นับถือรูปเคารบครับ  ผมว่าอยู่ที่มุมมองของทุกคนครับ จากคุณ : ioboy - [ 20 มิ.ย. 51 13:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เปลี่ยนที่ตั้งของพระพุทธรูปหน่อยก็ดีนะครับ ไว้ปลายเตียง ไม่เหมาะครับ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 51 13:19:34 จากคุณ : Maxymillion (Maxymillion) - [ 20 มิ.ย. 51 13:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มัวแต่มองจ้องผิดคนอื่นเขา ตัวเราเป็นอย่างไรไม่เคยรู้ จิตคิดเลวอย่างไรไม่เคยดู เรื่องคนอื่นเที่ยวรู้ไปรอบทิศ พุทธทาส จากคุณ : blue label - [ 20 มิ.ย. 51 13:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หลุดมาได้ไง ตากล้อง คนเช็คพร๊อพ ไม่น่าจะหลุดนะครับ สงสัยไม่มีวิจารณญาณ ผมอยู่เมืองนอกมานาน ก็เคยเห็นบ้านฝรั่งที่เอาพระพุทธรูปไปแต่ง แต่ของเค้าไม่อุบาทขนาดนี้นะครับ เค้าบอกว่าพระพุทธรูปเหมือนของเก่าเอามาแต่งบ้านได้มีค่าควรแก่การซื้อหา อันนี้พอไหว แต่แบบในรูปรับไม่ได้ครับ จริงๆจะบอกว่าคนทำงานด้านนี้ไม่น่าปล่อยให้หลุด ยิ่งที่เมืองไทยด้วย ไม่น่าเลย ชุ่ยมากๆ เจ้าของห้องคนออกแบบคนวางพร๊อพ น่าโดนด่าที่สุด จากคุณ : giorin (giorin) - [ 20 มิ.ย. 51 13:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อย่างน้อยทางนิตยสารก้อออกมา ขอโทษแล้ว  เราก้อเป็นคนนึงที่เป็นสมาชิกหนังสือในเครือนี้  รู้สึกดีใจที่ไม่ปล่อยปะละเลยเรื่องนี้......... จากคุณ : ดุ๊กกะดุ๋ย - [ 20 มิ.ย. 51 13:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ติดที่คนไปยึดติด  พุทธแบบตันตระ  มีการแทรกปรัชญาลงไปบางอย่าง ต้องไปศึกษาดู .... ว่ากันตามจริง สมัยหลังพุทธกาล 300 ปี แม้ในยุคพระเจ้าอโศก  ไม่มีชาวพุทธคนไหน กล้าสร้างรูปพระพุทธองค์ขึ้นมาด้วยซ้ำ   จะเป็นรูปธรรมจักร กับกวางหมอบ เพราะืถือว่าไม่กล้าสร้างเป็นการลดเกียรติพระพุทธศาสดาไป  เสมอพวกเทพ ที่คนปั้น ภายหลังต่างหาก ชาวกรีก มาสนใจเลยปั้นไว้อย่างงานศิลป์... รูปเคารพ เลยเกิดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่จริง พระพุทธเจ้าบอกว่า  สิ่งที่สืบเนื่องด้วยพระตถาคตไม่มี และพระธรรมจะเป็น ตัวแทนพระศาสดาสืบแทน...   แก่นของพุทธศาสนา คือละการยึดมั่นถือมั่น    แต่คนที่ไม่เข้าใจ ก็ยึดไปแทนซะนี่ จากคุณ : นบนอบ - [ 20 มิ.ย. 51 14:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ตัวกูของกู....มันคิดกันอย่างนั้น...กูนี่หล่ะถูก... เป็นต้นแบบของความถูกต้อง คนอื่น นิกายอื่นผิดหมด... ไปหาว่าเขาหลบหลู่... ...เอ้อ...คนเรา.....นะ....มันไม่รับอะไรแล้ว เคยท่องจำมาอย่างนี้ ถ้าผิดไปจากทีท่องจำ ก็คือผิด.... จากคุณ : minimalist - [ 20 มิ.ย. 51 14:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 67 จะอะไรมากมายครับ พระบางนิกายยังแต่งงานมีลูกมีเมียได้เลย จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 20 มิ.ย. 51 14:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ...อืม.. หลายอย่างในโลกก็เปลี่ยนไปอะครับ เรื่องภาพที่หลุดออกมาทางนิตยสารขอโทษ เป็นมารยาทที่ดีและสมควรครับ และเรื่องสิทธิของแต่ละบุคคลก็ห้ามกันไม่ได้ครับ ศาสนาและความเชื่อเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เป็นเรื่องของอัธยาศรัยของแต่ละคนที่ต่างกันตามการสั่งสมที่มีมาอะครับ ส่วนเรื่อง นิกาย ต่างๆนั้น  เป็นเรื่องของปุถุชนในยุคหลังๆสร้างขึ้นมา เพราะครั้งพุทธกาลไม่มี  มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พยายามแยกนิกายออกมา  และผลก้คือ อย่างไร หาอ่านในพระไตรปิฏกกันเองครับ อินเดียก่อน พุทธศาสนาล่มสลายก็เพราะมี นิกายมากมายมิใช่หรือครับ ยิ่งมากก็ยิ่งเพี้ยนผิด เราคงต้องหันกลับมาถามตัวเองกันนะครับ  ว่าเราเป็นพุทธศาสนิกชนแบบไหน เราเข้าใจไตรสรณะคมน์มากน้อยแค่ไหน เรารู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแค่ไหนครับ  เราเข้าใจคำสอนแค่ไหน เรารู้จักพระอริยสงฆ์สาวกของพระสุคตกันไหม เรามีศีลไหม มีกัลยาณธรรม มีคุณธรรมแค่ไหน มีที่พึ่งคือ ไตรสรณะคมน์กันไหม  สิ่งใดควรไม่ควร ใคร่ครวญด้วยปัญญากันได้ไหม หรือเราแยกแยะอะไรไม่ได้เลยอันนี้คงตอบกันเองได้นะครับ จากคุณ : นายสะพายเป้ (นายสะพายเป้) - [ 20 มิ.ย. 51 14:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เปิดหนังสือ... กระเทือนถึงหิมพานต์ ~ จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 20 มิ.ย. 51 15:00:19 A:203.107.203.147 X: TicketID:175673 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มิน่าล่ะ..ถึงวางไว้ในห้องนอน อิ อิ จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง - [ 20 มิ.ย. 51 15:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คงเป็นที่แน่ชัดว่าปางนี้มีจริง แต่...... เจตนาเจ้าของห้องคืออะไร วางไว้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา หรือว่าแปลกไม่เหมือนใครแค่ประดับห้องเฉยๆ?? คำตอบคงเดาได้ไม่ยาก ดูจากสถานที่ทิศทางและองค์ประกอบบนโต๊ะ จากคุณ : Henley - [ 20 มิ.ย. 51 15:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีค่ะ    ดิฉันนวลวรรณ สุพฤฒิพานิชย์ บรรณาธิการบริหารนิตยสารรูม ขอรับผิดชอบกับเรื่องทั้งหมดค่ะ และก็ต้องขอขอบคุณที่ได้ติเตียนและตักเตือนมาบอกค่ะ และทางทีมงานทุกคนไม่มีใครเห็นภาพนี้ ซึ่งเกิดจากความสะเพร่า ทำให้ประมาทและตรวจทานได้ไม่รอบคอบ ซึ่งถ้าเราเห็นจะต้องนำออกหรือรีทัชออกอย่างแน่นอนค่ะ เพราะโดยส่วนตัวดิฉันก็ถือกับเรื่องนี้มาก เมื่อเห็นภาพทุกคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก และครั้งนี้ดิฉันถือว่าตัวเองได้ทำผิดอย่างร้ายแรงที่ปล่อยให้ภาพหลุดออกมา โดยปกติแล้วเราให้ความสำคัญและไม่ละเลยเรื่องแบบนี้อย่างเด็ดขาด เรามีหลายฝ่ายที่ทำหน้าที่ตรวจทานภาพซ้ำอีกรอบให้ เพื่อไม่ให้รูปเคารพไม่ว่าจะในศาสนาใดออกมาในทางที่ไม่เหมาะควร ครั้งนี้ดิฉันต้องขอโทษเป็นอย่างมากและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ นวลวรรณ สุพฤฒิพานิชย์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร ROOM จากคุณ : นวลวรรณ (TSviq) - [ 20 มิ.ย. 51 15:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ คิดดีหรือคิดไม่ดี อยู่ที่เราจะปฏิบัติที่เราจะคิดที่คนส่วนใหญ๋พูดว่าเมืองไทยเมืองพุทธ ซึ่งผมได้ยินมา ประมาณ 40 กว่าปีแต่กลับเห็นว่า ที่ผ่านมา ทำไม ศีลธรรมกลับเสื่อมทรามลง ไม่เป็นอย่างที่พูดกัน อย่างโบราณ บอกไว้ว่า มือถือสาก ปากถือศีล กรณีการตั้งกระทู้แบบนี้ ควรจะระวังด้วยว่ามีทั้ง ส่วนดี และส่วนเสีย ซึ่งหากคนที่ผ่านมาอ่านและไม่เข้าใจหรืออ่านแต่ไม่รู้รายละเอียด เกี่ยวกับปางพระพุทธรูป ต่างๆ สังคมก็คงประณาม เจ้าของบ้านไปก่อนแล้ว และขอชมว่า เจ้าของกระทู้ มีสายตาที่เยี่ยมมาก ที่สามารถมองเห็น และนำมาเป็นประเด็น ให้คนได้ศึกษา และวิจารณ์ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย หากกระทู้ดังกล่าว ทำให้ บุคคลที่ถูกกล่าวถึง เสื่อมเสีย ในสายตาคนอื่น  เห็นด้วยกับ คห 24 จากคุณ : pat_kay - [ 20 มิ.ย. 51 15:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ก็ไม่สมควรแหละ แต่เท่าที่ดูทางทีมงานก็ไม่ได้ตั้งใจ  ผมว่าการทำงาน  อาจมีหลุดๆได้บ้าง  แต่ถ้ารับผิดชอบแบบนี้ผมว่า   ดีทีเดียว    สำหรับ   "คนทำงาน"  และคน  "เสพงาน" เล่มนี้ก็ซื้อเหมือนกัน   เล่มนี้เนื้อหาดี(ขอชม)   แต่บางเล่มดูเนื้อหาบางไปหน่อย5555   รวมๆเล่มนี้โอเค ตั้งใจทำงานต่อไป  จขกท. ตาไวมากๆ  ดีครับช่วยๆกันดูตวรจสอบ  สิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นในสังคมเรานะ (แต่ไม่ใช่จ้องจะจับผิดอันนั้นก็เกินไป) แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 14:35:13 จากคุณ : เม็กนีโต้ - [ 20 มิ.ย. 51 17:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ใน elle decor ฉบับครบรอบก็มี ดูดีดี จากคุณ : อ๋องซ่า - [ 20 มิ.ย. 51 17:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 บก เขาออกมาขอโทษแล้ว ก็ให้อภัยกันเถอะครับ ดูท่าเขาไม่ได้ตั้งใจ จากคุณ : หมวย เรเควี่ยม - [ 20 มิ.ย. 51 17:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องก็จบลงด้วยดี   ว่าแล้วก็ไปหาซื้อ room เล่มนี้มาอ่านซะหน่อยดีกว่า จากคุณ : หมาร่า V2 - [ 20 มิ.ย. 51 18:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เพิ่งรู้ว่ามีปางนี้ด้วย มีทู้นี้ก็ดีเปิดกะลาข้าพเจ้านะเนี่ย จากคุณ : เมี๊ยวหง่าว - [ 20 มิ.ย. 51 18:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นิตยสาร คุณไม่ผิดหรอก.... เนื้อหาคุณนำเสนอเรื่องบ้าน เรื่องการตกแต่ง.. ไม่ได้ตั้งใจจะมานำเสนอเรื่องที่วิจารณ์กันนี้แต่อย่างใด... แต่บังเอิญว่ามีคนตาดี ซูมเข้าไปเห็น...ของประดับชิ้นนี้ของเจ้าของบ้านเท่านั้นเอง...เลยเป็นเรื่อง...ทั้งที่ไม่ควรเป็นเรื่อง... เพราะยังไงปางของพระพุทธรูปนั้น มันมีอยู่จริง...ในนิกายอื่นๆ ที่ไม่ใช่เถรวาท ที่ไทยนับถือ...เท่านั้นเอง... จากคุณ : minimalist - [ 20 มิ.ย. 51 19:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ซื้อหนังสือมาอ่าน แต่ก็ยังไม่สังเกตเห็นเลยอ่ะ ช่างสังเกต ตาดีมากๆเลยค่า คุณเจ้าฃองกระทู้ กลับไปดูที่เล่มดีก่า จากคุณ : Let'sListenSilent - [ 20 มิ.ย. 51 20:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อืมก็ว่ากันไป แต่ผมชอบนิตยสารรูมนะ ซื้อบ้านมา ก็ได้เล่มนี้แหละที่แนะนำอะไรหลายๆอย่าง เล่มที่มีปัญหาอยู่นี้ก็มีเพราะเป็นเล่มล่าสุด บอกตรงๆว่าผมมองไม่เห็นพระพุทธรูปอะ เจ้าของกระทูสายตาเยี่ยมจริงๆ จากคุณ : บอย - [ 20 มิ.ย. 51 20:03:29 A:124.120.58.69 X: TicketID:177035 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เป็นสมาชิก Room ด้วย แต่ว่าไม่เห็นพระพุทธรูปองค์นี้เลย ตาดีกันจริงๆ ยังไง คุณ คุณ จากนิตยสาร Room เค้าก็ออกมายอมรับผิดแต่โดยดีและ ก็ดีค่ะที่เอามาบอกกล่าวกัน ในนี้ ต่อไปก็เป็นบทเรียนให้ทีมงานระวังมากขึ้น ระวังได้ไปถึงหนังสือเล่มอื่นด้วย ถึงจะเป็นปางที่มีจริงๆ นิกายอื่นยังไงก็ตาม แต่ก็ยอมรับเถอะว่า ดูแล้วก็สะกิดหัวใจชาวไทยพุทธ ยังไงอยู่นา จากคุณ : Tripradap - [ 20 มิ.ย. 51 20:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ความคิดเห็นที่ 19   http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/06/22/03.php จากคุณ : ทำลิงค์ให้ (nickyblood)   - [ 20 มิ.ย. 51 08:54:23 ]     ....การเปลี่ยนแปลงมาตลอด เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย คือ แรงศรัทธาของประชาชน การรู้จักศาสนาโดยเฉพาะความเชื่อของเราแต่เพียงอย่างเดียวนั้น อันตรายเสมอ ในขณะที่เราเชื่อว่าศาสนาของเราถูกต้องบริสุทธิ์ ชาวพุทธวัชรยาน เขาก็เชื่อเช่นเดียวกัน ใครเล่าจะเป็นผู้ตัดสินได้ว่าใครถูกใครผิด" ********* พระพุทธศาสนา ทีวิธีตรวจสอบความถูกต้องจัดเจน   ไม่ใช่จะไม่มีหลักเกณฑ์เลอะเลือนไป จนไม่มีวิธีวินิจฉัย ก็หาไม่ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=6272&Z=6348 ...                       ลักษณะวินิจฉัยพระธรรมวินัย             [๕๒๓] ครั้งนั้น พระมหาปชาบดีโคตมี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคม ได้ยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า ขอประทานพระวโรกาสพระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงธรรมโดยย่อ ที่หม่อมฉันฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคแล้ว เป็นผู้เดียวจะพึงหลีกออก ไม่ประมาท มีความเพียรมีตนส่งไปอยู่             พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรโคตมี เธอพึงรู้ธรรมเหล่าใดว่า ธรรมเหล่านี้ เป็นไปเพื่อความกำหนัด ไม่ใช่เพื่อคลายความกำหนัด เป็นไปเพื่อความประกอบ ไม่ใช่เพื่อความพราก เป็นไปเพื่อความสะสม ไม่ใช่เพื่อความไม่สะสม เป็นไปเพื่อความมักมาก ไม่ใช่เพื่อความมักน้อย เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ ไม่ใช่เพื่อความสันโดษ เป็นไปเพื่อความคลุกคลีด้วยหมู่ ไม่ใช่เพื่อความสงัด เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน ไม่ใช่เพื่อปรารภความเพียร เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก ไม่ใช่เพื่อความเลี้ยงง่าย ดูกรโคตมี เธอพึงทรงจำธรรมเหล่านั้นไว้โดยส่วนเดียวว่า นั่นไม่ใช่ธรรม นั่นไม่ใช่วินัย นั่นไม่ใช่สัตถุศาสน์             ดูกรโคตมี อนึ่ง เธอพึงรู้ธรรมเหล่าใดว่า ธรรมเหล่านี้ เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด ไม่ใช่เพื่อมีความกำหนัด เป็นไปเพื่อความพราก ไม่ใช่เพื่อความประกอบ เป็นไปเพื่อความไม่สะสม ไม่ใช่เพื่อความสะสม เป็นไปเพื่อความมักน้อย ไม่ใช่เพื่อความมักมาก เป็นไปเพื่อความสันโดษ ไม่ใช่เพื่อความไม่สันโดษ เป็นไปเพื่อความสงัด ไม่ใช่เพื่อความคลุกคลีด้วยหมู่ เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร ไม่ใช่เพื่อความเกียจคร้าน เป็นไปเพื่อความเลี้ยงง่าย ไม่ใช่เพื่อความเลี้ยงยาก ดูกรโคตมี เธอพึงทรงจำธรรมเหล่านั้นไว้โดยส่วนเดียวว่า นั่นเป็นธรรม นั่นเป็นวินัย นั่นเป็นสัตถุศาสน์ ฯ             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗  บรรทัดที่ ๖๒๗๒ - ๖๓๔๘.  หน้าที่  ๒๕๙ - ๒๖๒. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=6272&Z=6348&pagebreak=0             สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๗ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=7&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD http://www.84000.org/tipitaka/read/?index_7  บันทึก  ๒๗  กรกฎาคม  พ.ศ. ๒๕๔๖     การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ.     หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com จากคุณ : วงกลม - [ 20 มิ.ย. 51 20:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 โอ๊ะโอ... มีงี้ด้วยแฮะ .. ..- -".. จากคุณ : กลิ่นพยอม - [ 20 มิ.ย. 51 20:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เข้ามาดู เฉย เฉย จากคุณ : Natalie J (Natalie J) - [ 20 มิ.ย. 51 21:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คนมือถือสากปากถือศิล อ่ะ เจอมานักต่อนัก ทำไงก็ได้ให้ตัวเองดูดีไว้ก่อน หลายๆ ความเห็นในที่นี้มีประโยชน์ เเละให้ข้อคิดที่กว้างไกล เเต่ ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าคนรับข้อมูลยังเเคบอยู่ ส่วนตัวเราเองเห็นรูปปั้นนี้ มาตั้งนานนม (เกิน ๑๕ ปีเเล้ว)เเต่ไม่อยากคิด ตุกติก ว่าจะถ่ายรูปมาประณาม หรือ โชว์อะไรใคร เพราะ อย่างที่หลายๆ คห. พยายามจะบอก ก็คือ ทำไม คนอื่นเขาจะต้องนับถือ เเละ เคารพ สิ่งเดียวกับฉัน เขาคงไม่ได้อยากจะเคารพสิ่งนั้น เพียงเพื่อที่จะต้องการ กวนบาทาใครสักหน่อย เเล้วฉัน จะเต้นเเร้งเต้นกา ไปทำไมเนี่ย เง้ออ.. ศาสนาเนี่ยเเล่ะ อีกขั้วโลกนึงมันถึงยังยิงกันอยู่ทุกวันนี้ เดือดร้อน ใครถ้าไม่ใช่ลูกเด็กเล็กเเดง -_- จากคุณ : กลับชาติมาเกิด - [ 20 มิ.ย. 51 22:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โหย รับไม่ได้เลยแบบนี้ จากคุณ : RoppongiHills - [ 20 มิ.ย. 51 22:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 รูปปั้นทั้งหลายมีไว้เพื่อบูชาและระลึกถึงในสิ่งที่ดีงามและธรรมะของพระพุทธองค์มิใช่หรือ ความสวยงามหรือศิลปไม่ควรจะเป็นการเสี่ยงต่อการทำลายหรือไขว้เขว จขกท.อาจจะไม่ได้โง่หรือไง่ที่จะรู้ว่ามีนิกงนิกายที่ว่านี้ แต่อาจะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมเลยอาจจะนำภาพมาให้ดูเพื่อจะเตือนสติแก่พวกเราชาวพุทธและชอบของตกแต่งว่าจะทำอะไรให้คิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ การชื่นชอบงานศิลบไม่ได้มีแต่งานที่ส่อไปทางลามกอย่างเดียวมีงานอื่นเยอะแยะที่บ่งบอกรสนิยมเพื่อโชว์ความล้ำลึกทางอามณ์ศิลป ในโลกนี้เราจะเห็นว่าแตะละศาสนามีนิกายแปลกๆเพี้ยนๆเยอะ รูปปั้นแบบนี้อาจจะมาจากกลุ่มนิกายเหล่านั้นก็ได้ แล้วเราควรส่งเสริมโดยการซื้อมันมาโชว์หรือ เจ้าของอาจจะไม่ได้นับถือพุทธก็ได้หรือนับถือพุทธแต่พิเรนท์ บางคนก็ต้องการโชว์เพื่อให้เกิดคำถามแล้วจะได้อธิบายว่ามีที่มาอย่างไรแล้วจะได้อวดภูมรู้อย่างนั้นหรือ ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจก็จริงแต่การแสดงออกมันบอกให้เห็นอะไรบางอย่างมิฉะนั้นมันจะเอารูปปั้นพระไว้ปลายตี_เรอะ เราคนไทยนะครับวัฒนธรรมสิ่งที่ดีงามควรรักษาไว้สิ่งไหนมันทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ดีควรงดซะดีกว่า การตีความเข้าข้างเจ้าของบ้านแล้วเหยียดเจ้าของกระทู้มันดูแปลกๆอยู่นา ขอชื่นชมทีมงานหนังสือที่ตามเข้ามาขอโทษเพราะเขาตระหนักว่าถูกผิดหรือเผลอเรอก็แล้วแต่แต่เมื่อมีคนที่มีความรู้สึกว่าถูกเหยีดหยามทางศาสน(แม้เพียง1 คน) ไม่ชอบใจเราเขาก็มาขอโทษยังไงก็เป็นถือการให้เกียติและแคร์ความรู้สึกที่ดีต่อกัน สังคมจะดำเนินไปด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันใช่หรือไม่ เราควรจะช่วยกันระงับสิ่งที่มีผลเสียและเลือกทำแต่สิ่งที่ดีงาม การพบเห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะดีแล้วนำมาบอกกล่าวจะเป็นสิ่งที่น่ากระทำกว่าถูกตำหนิ สิ่งที่มีมานานแล้วแต่ไม่ดีสมควรที่จะนำมันมาสู่รุ่นเราและลูกหลานต่อไปหรือครับ จากคุณ : greang - [ 21 มิ.ย. 51 00:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โห  ขอโหวตหน่อยเถอะ จากคุณ : >*< Princess Kitty >*< - [ 21 มิ.ย. 51 00:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คงชอบผ้าเหลืองอ่ะ จากคุณ : OmO_M@Y - [ 21 มิ.ย. 51 01:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 91 นี่หล่ะน๊า...เขาว่า มี ตาไว้คั่นหู มีหูไว้ประดับหัว.... มีตามีหูไว้เป็นเหตุ...หาได้มีสติ ไตร่ตรองใดๆ...กับการรู้ การเห็น รับรู้สิ่งนั้น...ก็เดือดร้อนกันใหญ่...เพียงเพราะตาเห็น แล้วใจก็คร่ำครวญ เป็นเหตุเพราะสติไม่รับรู้ ไม่เข้าใจในสภาวะของมัน...ไม่ทำความเข้าใจสภาวะของมันที่เกิดขึ้น นอกจากที่ตนเองเข้าใจ หรือถูกสอนให้รับรู้ว่านี่คือผิด นี่คือถูก...แบบนี้ถือว่าไม่ชอบ แบบนี้ถือว่าชอบ...ไม่สามารถที่จะใช้หลักโยนิโสมนสิการ เพื่อไตร่ตรองในสิ่งที่ตนเห็นให้เกิดความกระจ่าง เพื่อระงับจิตใจตนเองไม่ให้ขุ่นมัว...ไปตามจิตปรุงแต่งที่ผิดๆ... ไม่ใช่เรื่องจริงจิ๊ง.....5555555 ส่วนนิตยสาร ถ้าผมเป็นเจ้าของหัวหนังสือนี้ ผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อนแหละ...รึว่าไม่จริง...มันเสียหายอะไรกับการขอโทษ...ให้พูดอีกสิบครั้งก็ยังได้...จริงเท็จ ตนเองผิดหรือไม่ ไม่รู้ ขอโทษไว้ก่อน....อันนี้เข้าใจได้ เป็นธรรมดา...(ไม่ว่ากันนะ...มองไปทางลบนิดนึง5555 คือผมเห็นว่าเขาไม่ผิด แล้วไม่มีเจตนา ก็ไม่ต้องขอโทษอะไรก็ได้...) จากคุณ : minimalist - [ 21 มิ.ย. 51 02:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ไม่เข้าใจว่าทำไมยังมีความเห็นท้ายๆหลายอัน ที่เหมือนอ่านแค่เนื้อความของจขกท.แล้วโพสเลย โดยไม่ได้ดูเนื้อหาความเห็นที่เค้าถกกันไป เฮ้อ จากคุณ : dans Juillet - [ 21 มิ.ย. 51 02:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ตอนแรกที่ดูก็คิดว่าเขาต่อว่าที่เอาพระพุทธรูปไปตั้งวางใว้ปลายเตียง แต่มาดูอีกรูปตกใจเลย ถ้าไม่ซุมภาพนี้ให้ดูเราก็ไม่เห็นนะเนี่ย จากคุณ : ตั๊กแตนทอด - [ 21 มิ.ย. 51 02:37:48 A:89.246.221.90 X: TicketID:122234 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ จำได้ว่า เรื่องเดียวกันนี้มีผู้นำไปตั้งกระทู้แล้วในห้องศาสนา และเราก็เคยเข้าไปตอบแล้ว หลังจากเราตอบ ก็ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไรกันต่อจากนั้นค่ะ คือ รูปเคารพที่เห็นอุ้มผู้หญิงอยู่นั้น โดยความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่พระพุทธรูป ค่ะ แต่เป็นเทวรูป ของ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระมหาโพธิสัตว์องค์หนึ่งในศาสนาพุทธนิกายวัชรยานตันตระของทิเบต ลักษณะของรูปเคารพ ถ้ามองให้ดีๆ นอกจากส่วนพระเศียรที่ดูคล้ายพระพุทธรูปแล้ว ก็ไม่มีเครื่องบ่งชี้อื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพระพุทธรูป ไม่ว่าจะเป็นจีวร หรือ ลีลาท่าทางต่างๆ ที่มีศัพท์เรียกกันว่า มุทรา (Mudra) น่ะค่ะ และที่จริง เทวรูปพระโพธิสัตว์องค์นี้ มีหลายแบบ หลายปาง แบบทั่วไปที่ชาวทิเบตนิยมบูชากัน ก็ไม่ใช่อย่างนี้ ส่วนแบบที่เห็นนี้ เป็นแบบที่เดิมผู้ศึกษาทางตันตระในทิเบตเอาไว้สำหรับฝึกสมาธิ ไม่ใช่แบบที่เอาไว้ตั้งบูชากันทั่วไปค่ะ รูปเคารพลักษณะนี้ ในทางตันตระ มิได้มองว่าเป็นเรื่องหยาบคายอะไรค่ะ ในทางตันตระนั้น การสังวาส เป็นสัญลักษณ์ของการหลอมรวมกันเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ในรูปนี้ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ทรงสังวาสกับพระชายาของพระองค์ คือ พระนางธรรมวัชรา พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ทรงเป็นสัญลักษณ์ของ ความดีงาม ในทางวัชรยาน สังวาสกับ พระธรรมวัชรา ซึ่งทรงเป็นสัญลักษณ์ของ แสงแห่งธรรมะ เป็นปริศนาธรรมที่แสดงถึง ความดีงามที่หลอมรวมเข้ากับประกายแสงแห่งธรรม เป็นลักษณะของวัตถุธรรมที่ใช้ในการฝึกสมาธิของวัชรยานตันตระ ไม่ใช่รูปเคารพที่ชาวทิเบตนิยมบูชากันทั่วไป ดังกล่าวแล้วค่ะ แต่เหตุที่พวกเราได้เห็นรูปเคารพพวกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะฝรั่งที่จิตใจลามก ไม่เข้าใจปรัชญาตันตระ มองว่าเป็นงานศิลปะ Erotic ก็เลยนิยมไปซื้อหามาแต่งบ้าน ความนิยมนี้ก็ตกมาถึงคนไทยดังที่เห็นนั่นหละค่ะ แถมนิดนึง พระสมันตภัทรโพธิสัตว์นี้ คนจีนจะรู้จักกันดีค่ะ ในนาม โผวเอี้ยง (แต้จิ๋ว) หรือ ผู่เสียน (จีนกลาง) ประเทศจีนเพิ่งสร้างเทวรูปของท่านองค์ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานบนยอดเขาง้อไบ๊ ในเสฉวนเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองค่ะ รูปข้างล่างนี้ คือรูปมณฑล หรือ Mandala ของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ตามแบบวัชรยานตันตระของทิเบต ที่ทำให้เกิดรูปเคารพที่อยู่ในกระทู้นี้ค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 21 มิ.ย. 51 03:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอาภาพมาให้ชม จากคุณ : นีละปอย~* - [ 21 มิ.ย. 51 04:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อีกรูป จากคุณ : นีละปอย~* - [ 21 มิ.ย. 51 04:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 97 นี่อีก จากคุณ : นีละปอย~* - [ 21 มิ.ย. 51 04:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อีกนิด จากคุณ : นีละปอย~* - [ 21 มิ.ย. 51 04:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 99 พอแล้วครับ ขี้เกียจลดขนาดรูป เพียงแต่อยากเสนอว่า ยังมีอะไรที่เราไม่เคยเห็นอีกเยอะ เห็นแล้วก็สักแต่ว่าเห็น ทำใจ สบาย สบาย สบาย แล้วก็ สบาย ครับ จากคุณ : มาจากห้องศาสนาครับ (นีละปอย~*) - [ 21 มิ.ย. 51 04:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 100 กระจ่างแล้วค่ะ เทวรูป ไม่ใช่ พระพุทธรูป จากคุณ : เมี๊ยวหง่าว - [ 21 มิ.ย. 51 08:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 101 รับทราบครับว่าไม่ใช่พระพุทธรูป แบบนี้เรื่องน่าจะจบได้แล้วนะครับ ขอบคุณสมาชิกจากห้องศาสนาด้วยครับที่มาไขข้อข้องใจชาวชายคา ส่วน จขกท ก็มีส่วนดีนะครับที่เอามาเผยแพร่เพราะทำให้หลายคน (รวมทั้งผม) ที่ไม่เคยได้รับรู้ว่ามีเทวรูปแบบนี้ได้รู้ว่ามีอีกหลายสิ่งที่เราไม่เคยเห็น จากคุณ : Ekanat - [ 21 มิ.ย. 51 08:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ปิดกระทู้เลยครับ  มากคนมากความ จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 21 มิ.ย. 51 08:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อ้าว....! จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 21 มิ.ย. 51 09:53:28 A:203.107.203.83 X: TicketID:175673 ]

ความคิดเห็นที่ 104 มองแง่บวก ดีจัง ได้ความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณคุณหนอนดาวเรือง ..ในโลกนี้มีอะไรมากมายที่เราไม่รู้ อย่ายึดเอาความรู้ในส่วนของเราเป็นเกณฑ์ตัดสิน....ขัดใจก็พิจารณาแค่เป็นรูปรสกลิ่นเสียงก็พอ จากคุณ : นิพพานัง - [ 21 มิ.ย. 51 10:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ศาสนาพุทธเป็นของใครหรือคะ เป็นของเราชาวไทยซึ่งเป็นพุทธมามกะผู้ถือเคร่งในศาสนาแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ ลองมองออกไปยังโลกกว้างดูแล้วท่านจะเห็นถึงความแตกต่างหลากหลายมากมายในคำสอนของแต่ละศาสนา ไม่ว่าจะเป็คริสต์ ยิว อิสลาม ล้วนแล้วแต่มีคำสอนที่แตกแขนงแยกย่อยออกมาอีกมากมาย ตามความเชื่อของผู้ที่ตีความ มนุษย์เราเป็สัตว์ประเสริฐซึ่งมีความสามารถที่จะพินิจพิเคราะห์และเลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมกับตนที่สุด สิทธิ์ของการเลือกที่จะเชื่อ อยู่ในมือของเรา แต่อย่าลืมว่าทุกศาสนาล้วนแล้วแต่มุ่งให้คนเป็นคนดี สังคมเป็นชุมชนแห่งสันติ กันทั้งสิ้น การยึดมั่นถือมั่น ไม่ไดทำให้ศาสนาเจริญขึ้น แต่ทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกเพิ่มขึ้นเท่านั้น จากคุณ : หนูสิงห์แดงตัวน้อย - [ 21 มิ.ย. 51 10:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เราเองมองว่า กระทู้นี้ดีที่ทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ และถ้าไม่มีเจ้าของกระทู้มาโพสเรื่องนี้ เราก็คงไม่รู้ในเรื่องที่ไม่เคยใฝ่รู้มาก่อน ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ ที่เห็นในสิ่งที่รู้สึกไม่ชอบมาพากล เอามาให้สาธารณะชน ได้วิพากษ์วิจารณ์ และในที่สุดก็มีผู้รู้จริง มาให้ข้อเท็จจริง สำหรับนิตยสารรูม เราว่าเขาก็แสดงความรับผิดชอบได้ดี และเร็ว แต่แอบสงสารทีมงานที่ไปในวันนั้น จะโดนเละไหมเนี่ย ป่านนี้เจ้าของกระทู้ แอบเสียใจอยู่มั้งที่มีคนต่อว่าบ้างนิดหน่อย... สบายใจเถอะคะ ไม่มีอะไร จากคุณ : นภชล - [ 21 มิ.ย. 51 11:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เล่มนี้เราอ่านจนจบไปแล้ว แต่ไม่ทันสังเกตเลย เข้ากระทู้นี้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก จากคุณ : nameshiro - [ 21 มิ.ย. 51 12:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 108 จบได้ยัง จากคุณ : Double07 - [ 21 มิ.ย. 51 13:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พระพุทธรูปถึงจะเป็นวัตถุก็เป็นองค์แทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากปฏิบัติต่อพระพุทธรูปไม่ถูกอาจนำโทษภัยมาสู่ตัวเองโดยคาดไม่ถึงก็ได้กลับ การมาตอบข้อความกระทบกระเทียบกันด้วยโทสะก็เป็นโทษเช่นกัน จากคุณ : rigor - [ 21 มิ.ย. 51 13:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ไม่เห็นด้วยเช่นกันค่ะ คุณขายหนังสือในไทยคุณ ให้หนังสือแบบนี้ออกมา ก็เหมือนคุณทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ หรือว่าคุณ ไม่นับถือศาสนาพุทธให้ภาพแบบนี้ ออกมา ก็ไม่เดือดร้อนใจอะไร ขอประนาม ค่ะ จากคุณ : noname - [ 21 มิ.ย. 51 13:14:53 A:117.47.83.196 X: TicketID:173089 ]

ความคิดเห็นที่ 111 คุณไม่ขยาย ... ผมก็ไม่เห็นครับ จากคุณ : Top27 - [ 21 มิ.ย. 51 13:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 112 แค่อยากจะมาบอกว่า เคยเห็นนานแล้วครับ ตอนนั้นเจอเนื่องจาก สนใจพุทธนิกายวัชรยาน รูปเคารพที่เห็นเป็นพระพุทธเจ้านะครับ ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ รูปในความเห็นที่ 94 ยิ่งชัดเจนว่าเปนพระพุทธเจ้า แต่ไม่ใช่พระศากยมุนีพุทธเจ้า (พระสมณโคดม ที่เรานับถืออยู่) แต่ความคิดเห็นถัด ๆ มา ไม่ใช่รูปพระพุทธเจ้า สังเกตจากบนเศียรจะมีสิ่งที่คล้าย ๆ มงกุฏอยู่ (หากเป็นนิกายมหายาน จะเป็นหมวกห้าแฉก มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เรียกว่า เบญจพุทธมาลา) แต่ในรูปที่ 94 และรูปที่อยู่ในนิตยสาร เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนครับ ตามความเชื่อของนิกายวัชรยาน พระพุทธเจ้าพระองค์นี้มีพระนามว่า พระอทิพุทธเจ้า มีพระวรกายสีน้ำเงิน เป็นพระพุทธเจ้าที่อุบัติมาพร้อมกับโลก อยู่ชั่วนิรันดร เป็นต้นกำเนิดของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระธยานิพุทธะ 5 พระองค์ ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวพุทธนิกายมหายาน ได้แก่ พระไวโรจน์พุทธ พระอักโษภยพุทธ พระรัตนสัมภาวพุทธ พระอมิตภพุทธ พระอโมฆสิทธิ   http://www.mahayana.in.th/buddapic/buddha/artibud.html ผมอยากบอกแบบนี้ครับ ก่อนที่จะต่อว่าสิ่งใด อย่าได้นำความเชื่อ ความเข้าใจ ความรู้สึกส่วนตัวของคุณเองมาตัดสินครับ ลองศึกษาข้อมูลดูก่อน ศึกษาให้ลึกพอ ว่าสิ่งที่เห็นมีความหมายอย่างที่เราคิดหรือเปล่า มีแนวคิดใด ๆ ที่ลึกลงไปกว่านั้นไหม จึงจะถือได้ว่าเป็นชาวพุทธที่เหมาะสมนะครับ จากคุณ : [Zero] - [ 21 มิ.ย. 51 19:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 113 และที่ว่าไม่มีจีวรบนพระวรกายเลย ก็ลองไปอ่านสาเหตุในลิ้งที่ลงไว้นะครับ แล้วก็ลองไปดูภาพเคารพของพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ ด้วยก็ดีครับ ประดับความรู้ไว้ ไม่เสียหายอะไร สิ่งที่เห็น คงไม่ใช่การเสพสังวาส ในรูปแบบของมนุษย์ อย่างที่เรา ๆ รู้จัก แต่เป็นปริศนาธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ จากคุณ : [Zero] - [ 21 มิ.ย. 51 19:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 114 นิกายวัชรยานสาระสำคัญคือการลุเข้าสู่พุทธภาวะอย่างฉับพลัน ประเด็นเรื่องรูปเคารพรูปนั้นเป็นกุศโลบายแสดงถึงสภาวะของการรู้แจ้ง ด้วยการหลอมรวมกันระหว่างมหาปัญญากับมหาเมตตา รูปแทนพระพุทธะให้ความหมายของ"มหาปัญญา" รูปแทนนางตาราให้ความหมายของมหา"เมตตา" เรื่องนี้ถ้าใครยึดถือเอาแต่เปลือกและกระพี้ของศาสนาพุทธก็จะมองว่าเป็นการลบหลู่ แต่ถ้าพยายามมองให้สูงกว่านั้นพยายามหาเหตุผลว่าคนคิดรูปเคารพนี้แต่แรกคิดขึ้นมาเพราะอะไรก็อาจจะเข้าใจได้ไม่ยาก ส่วนฝรั่งที่ไม่เข้าใจความหมายก็เอาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ความผิดจึงตกอยู่กับวัชรยานฝ่ายเดียว ดังนั้นการที่ใครคนใดคนหนึ่งจะว่าใครตำหนิใครในเรื่องต่างๆควรจะรู้แจ้งในเหตุผลในเรื่องนั้นๆเสียก่อน จากคุณ : ปราณรัก - [ 21 มิ.ย. 51 19:36:26 A:125.25.109.226 X: TicketID:179592 ]

ความคิดเห็นที่ 115 โลกแคบกันจัง แค่นี้เอามาเป็นเรื่องใหญ่โต เซงงงงง   แต่ก็ดีนะได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย แต่ขอล่ะ อย่ายึดติดกับประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แล้วต้องห้ามโน้นห้ามนี่   สังคมนี้มันเปิดกว้าง อย่าไปปิดมันเลย   ถ้าทำเราคงไม่ต่างอะไรกับพม่า จากคุณ : landon - [ 21 มิ.ย. 51 21:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 116 จะเป็นยังไงก็เอากันให้เหมาะๆเลือกที่กันให้ดีๆก็แล้วกัน เพราะ สัตว์โลกก็ย่อมเป็นไปตามกรรมอย่างแน่นอน จากคุณ : psvp - [ 21 มิ.ย. 51 22:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ตาดีมากๆ แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้รู้อะไรๆมากขึ้นค่ะ แล้วก็ขอชมทางนิตยสารที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดครั้งนี้ ใครๆก็พลาดกันได้ค่ะ อย่าคิดมาก ผิดแล้วยอมรับผิดและหาวิธีแก้ไขก็ดีแล้วละค่ะ จากคุณ : Sodakim - [ 21 มิ.ย. 51 23:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ผมมองแค่ว่าทำไมวางไว้ปลายเตียง...!!! ผมว่าเรื่องนี้มันก็คล้ายกับเรื่องแมว ถูกทิ้งบนเกาะร้างล่ะคับ... จากคุณ : evolution989 - [ 21 มิ.ย. 51 23:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แบบว่าฉบับนี้ซื้อ นี่ถ้าไม่มีกระทู้นี้  จะไม่รู้เลยนะเนี่ย เด๋วต้องไปเปิดดูหน่อยซะละ  ปกติอ่านเนื้อหาและมองภาพรวม ๆ มากกว่า จากคุณ : น้องหนูสะดิ้งน้อย - [ 22 มิ.ย. 51 01:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ประเด็นน่าจะเป็นเรื่องของความเหมาะสมนะ ไม่ใช่ประเด็นที่แก่นกระพี้ศาสนาอะไรนู่นอย่างที่มีบางคนพยายามออกมาแสดงภูมิ หนังสือลงเป็นรูปประกอบ ไม่ใช่เป็นข้อมูล ไม่มีอะไรอ้างอิง แล้วก็ไม่ใช่หน้าที่คนอ่านที่จะต้องตามไปรู้ทุกเรื่องในโลกด้วย คนส่วนใหญ่พอเห็นแล้วจะรู้สึกยังไง เหมาะสมที่จะเอามาตีพิมพ์หรือไม่ อันนี้ต่างหากที่เป็นเรื่องอ่อนไหวที่ต้องคิดถึงมากกว่าการที่ใครจะพากันออกมาอวดตัวว่ามีความรู้ มีปํญญา หูตากว้างไกล อย่าคิดถึงแต่ตัวเองมากกว่าคนส่วนมาก โปรดเข้าใจความเป็นจริงด้วยว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นอย่างไร มีวัฒนธรรมอย่างไร สมมติถ้ามีคนเอาเท้ามาวางไว้บนหัวพ่อแม่คุณในบ้านคุณแล้วบอกว่าวัฒนธรรมเค้าถือว่าเป็นการให้เกียรติ จะยอมได้หรือเปล่า ความรู้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ความเหมาะสมก็อีกเรื่อง แยกให้ออกระหว่างเรื่องของความรู้กับความเหมาะสม อะไรมีน้ำหนักมากกว่า กรณีนี้เป็นความผิดพลาดก็ต้องยอมรับว่าผิดพลาด หนังสือออกสู่สาธารณชนในวงกว้างควรระมัดระวังมากกว่านี้ การออกมาขอโทษก็สมควรแล้ว และอยากให้ขอโทษในหนังสือฉบับต่อไปเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วย จากคุณ : อืมม - [ 22 มิ.ย. 51 02:39:27 A:125.24.212.106 X: TicketID:162832 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ประเด็นเรื่องความผิด...ผมไม่ได้มองว่าหนังสือผิดนะ หน้าที่ของสื่อคือนำเสนอในมุมมองที่สื่อเห็นว่าควรนำเสนอและภาพที่มีปัญหานั้นก็ไม่ได้เน้นตรงเรื่องรูปเคารพนั้น คนที่ผิดคือตัวเจ้าของบ้านที่ใช้รูปเคารพนั้นอย่างไม่เข้าใจความหมาย(ถ้าเข้าใจคงไม่ตั้งไว้ปลายเท้า) ประเด็นเรื่องความเหมาะสม...ถ้าความเหมาะสมที่เป็นความเชื่อความเข้าใจใดๆมันคลาดเคลื่อนจากจุดประสงค์ที่แท้จริง การออกมาให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ ไม่เช่นนั้นคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยก็คงจะกราบไหว้ต้นกล้วยหรือแผ่นคูลฟีเวอร์กันไปเรื่อยๆ การที่มีผู้อ่านบางคนตาแหลมคมแล้วจุดประเด็นนี้ขึ้นมามันก็เป็นการดีที่ทำให้หลายคนได้รู้ที่มาที่ไปของรูปเคารพนี้มากขึ้น หากใครบางคนคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของคนอ่านที่จะต้องตามไปรู้ทุกเรื่องแล้วจะเข้ามาในกระทู้นี้หาด้ามพระแสงขรรค์อะไรมิทราบ เรื่องอะไรที่ตนเองไม่รู้ก็ควรยอมรับว่ายังเขลาอยู่ อะไรที่รู้คลาดเคลื่อนก็ควรเปิดรับความรู้ใหม่ จากคุณ : ปราณรัก - [ 22 มิ.ย. 51 04:27:36 A:125.25.133.149 X: TicketID:179592 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เจ้าของบ้าน====>สิทธิของเขา นั่นในบ้านเขานะ เขาจะแต่งให้เป็นนรกภูมิก็ได้ นิตยสาร===>ไม่ได้ตั้งใจ ผิดพลาด ออกมาขอโทษแล้ว ควรจบได้แล้ว รูปปั้นนั้น===>นิกายนั้นมีอยู่จริง เราไม่นับถือ แต่สาวกที่นับถือแบบนี้เขามี อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จขกท.===>ไม่รู้ไม่ผิด คิดว่าเป็นการลบหลู่ ตอนนี้คงได้รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ความตกใจกับภาพที่เห็น เลยต้องเอามาบอกต่อ สรุป ไม่มีใครผิดหรอก แค่มองกันคนละด้าน ควรขอบคุณเหล่า สมาชิกที่มาจากห้องศาสนา ที่เข้ามาให้ความรู้ จากคุณ : varada - [ 22 มิ.ย. 51 10:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เอาเป็นว่า ถ้าคิดว่าพวกเราเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ก็น่าจะทำสิ่งที่ไม่เกิดคำถามกับเด็ก ๆ ในทางที่ไม่ดีให้เกิดขึ้นไม่ได้เหรอ แล้วอีกอย่าง ที่นี่ก็ประเทศไทย สังคมส่วนใหญ่รับได้หรือไม่ เจ้าของหนังสือน่าจะทราบดี แล้วมันก็ไม่ควรทำแบบนั้น เพื่อนผมมีรูปคนยืนเหยียบบนหัวพระเยซู อยู่ที่ ห้องนอนมัน ผมยังตำหนิมันเลย แต่นั่นคือ เขาไม่ได้เผยแพร่ไปที่ไหน อันจะเกินการส่วนตัว ก็ยังพอรับได้ แต่นี่มัน ออกมาสู่สายตาคนอื่น ๆ ก็น่าจะใช้สมอง ไตร่ตรองหน่อย จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 22 มิ.ย. 51 11:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ต่างคนต่างมีเหตุผลกันไปของแต่ละคน แต่ผมได้ความรู้(จากที่เคยไม่รู้) จากกระทู้นี้ นะครับ ก็ขอขอบคุณสมาชิกจากห้องศาสนาด้วยอีกคนนะครับ จากคุณ : kuntucky - [ 22 มิ.ย. 51 11:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เราว่าพระพุทธรูป ไม่ควรถูกเอามาเป็นของแต่งห้องอ่ะค่ะ  ไม่ว่าจะปางอะไรก็ตาม ควรจะเป็นเครื่องหมายของความเคารพมากกว่า หรือพูดง่ายๆว่าควรจะวางให้ถูกที่ถูกทางกว่านี้หน่อย ปล. พิมพ์ตกค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 22:24:52 จากคุณ : tawis - [ 22 มิ.ย. 51 13:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 126 .....เมี๊ยววววว ......คนไทยนี่แหละน๊า ขี้ตื่นกันจิ๊งงง555555 จากคุณ : คิระ - [ 22 มิ.ย. 51 16:28:56 A:58.64.90.215 X: TicketID:167093 ]

ความคิดเห็นที่ 127 บางคนอ่านหัวกระทู้เสร็จแล้วก็ลากเม้าส์มาด่าเลย...555 จริงอย่างที่บางความเห็นว่าไว้เลย ไม่เคยคิดจะอ่านเอารายละเอียด คิดแต่จะด่ากันท่าเดียว จากคุณ : ไม่เข้าพวก - [ 22 มิ.ย. 51 17:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 128 กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร ก็มี กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ ปัจจุบันได้เกิดแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ ๒๕๐๐ ปีก่อนบรรจุไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในประเทศพัฒนาแล้ว เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) จากคุณ : superpunch - [ 22 มิ.ย. 51 17:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 129 หายไปเลย.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 22 มิ.ย. 51 18:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 130 จขกท. ตั้งชื่อสมาชิก หมาเนย มีนัย  แอบ แฝง หรือ ่ปาว หมกหมุ่น หรอ...   นี่เมือง พุทธ  นะ (อันนี้ผม แซว เล่น ไม่ได้จริง จัง) บอกตามตรง  พอเลื่อนลงมาเจอ รูป แบบนั้น ก็งงๆ เหมือนกัน แต่ วูบ แรก ที่คิด คือ มัน พระพุทธรูป ปาง อะไร วะ หรือ  มันปั้น เอามัน พอเลื่อน ลงมาอ่าน คห.ล่างๆ โอ้ว... ความรู้ ทั้ง นั้น...ขอบคุณ หลายๆ ความเห็นที่ ให้ ข้อมูล ส่วนคนที่บอกไม่เหมาะ กับเมืองพุทธ นี่ผมว่าไม่ไหว นะ อะไร  จะ ตึง ปานนั้น จากคุณ : Mr.Kito - [ 22 มิ.ย. 51 20:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ถือว่า พระพุทธรุปรูปนี้ เป็นความรู้ใหม่ ไม่ยักกะรู้ ว่ามีแบบนี้ด้วย.. จากคุณ : Kassie K - [ 22 มิ.ย. 51 20:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 132 โอวว เกิดมาเพิ่งเคยเห็นแหะ ได้ออกจากกะลามาอีกก้าวหนึ่งแล้วเรา จากคุณ : โซก๊อกจูอาช - [ 22 มิ.ย. 51 21:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อึ้งอ่ะดิ.....อิอิ จากคุณ : evolution989 - [ 22 มิ.ย. 51 21:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ขอแย้งความคิดเห็นในค.ห.๑๑๒ นิดนึง ในด้านข้อมูลนะคะ คือ link ที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น มีความเข้าใจสับสน ระหว่างพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ กับพระอาทิพุทธเจ้าค่ะ และแม้แต่รูปที่ลงอยู่ใน link นั้น ก็เป็นรูปของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ไม่ใช่รูปพระอาทิพุทธเจ้าค่ะ พระอาทิพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ผู้สร้างโลก และเป็นแหล่งกำเนิดแห่งพระธยานิพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ดังกล่าวนั้น ไม่มีรูปเคารพในลักษณะเช่นนั้นค่ะ ตรงกันข้าม พระอาทิพุทธเจ้า จะปรากฏในลักษณะของพระพุทธรูปทรงเครื่องเสมอ link นั้น เราไม่ทราบว่า ผู้เรียบเรียงเอาข้อมูลมาจากที่ใด เป็นการแปลความจากภาษาจีนแล้วใช้คำศัพท์เฉพาะที่คลาดเคลื่อนหรือไม่ สำหรับเราการที่เราระบุว่ารูปเคารพนั้นเป็นพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เรายึดถือตามข้อมูลสากลที่รับรู้กันทั่วโลกสำหรับผู้สนใจมหายานโดยทั่วไปค่ะ ถ้าหากว่าผู้สนใจในเรื่องนี้ ต้องการเปรียบเทียบกับข้อมูลที่แตกต่างไปจากที่คุณ [Zero] เสนอ ก็สามารถ search หาภาพพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ได้ โดยใช้คำว่า Samantabhadra Bodhisattva ไม่ว่าจะเสิร์ชจาก yahoo หรือ google ก็จะได้ออกมาคล้ายกันค่ะ เช่น ภาพในค.ห.๙๔ เราได้จาก yahoo ค่ะ สำหรับตัวอย่างรูปข้างล่างนี้ คือรูปเคารพพระอาทิพุทธเจ้า ที่ชาวทิเบตทั่วไปนิยมบูชากันค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 22 มิ.ย. 51 22:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง อย่าเรียกว่าเป็นปางหนึ่งในศาสนาเลย ผู้ที่สร้างปางนี้ขึ้นมา น่าจะเรียกว่า "มารศาสนา" จะสมควรกว่า ป่านนี้คงตกนรกขุมลึกๆไปแล้ว จากคุณ : kittipo - [ 22 มิ.ย. 51 22:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ได้อ่านความเห็น ของคุณหนอนดาวเรืองอีกครั้ง กลายเป็นผมสับสนหนักยิ่งขึ้นครับ ขอคุยด้วยนอกรอบ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของกระทู้นี้แล้วกันนะครับ คือผมเองก็ยังเข้าใจว่า รูปเคารพนั้นเป็นรูปพระพุทธเจ้านะครับ จากลักษณะของพระเศียร ยิ่งถ้าดูรูปในลิ้งนี้ http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/06/22/03.php ยิ่งเห็นได้ถึงพุทธลักษณะที่ชัดเจนเลยนะครับ ซึ่งแทยไม่เคยเห็นในรูปเคารพของพระโพธิสัตว์เลย และบทความที่กล่าวถึงนั้นก็ไม่ได้พูดถึงว่า เป็นรูปเคารพของพระโพธิสัตว์เลยนะครับ หรือว่าข้อมูลจะผิดอีกก็ไม่ทราบ ในบางเวปจะมีการเรียกพระอาทิพุทธ เป็น พระสมัตภัทรพุทธะ เช่นในเวปนี้ (ดูในหัวข้อวัชรยานครับ) http://www.watnongsai.com/index.php/index.php?mo=3&art=34784 เป็นไปได้ไหรือไม่ว่าอาจทำให้เกิดความสับสนระหว่าง พระสมันตภัทรพุทธ กับ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ซึ่งเกิดจากอำนาจญาณของ พระไวโรจนพุทธ หรือข้อมูลจะผิดอีก? สงสัยต้องปรึกษาจากซือเจ็กที่ศึกษาเรื่องนี้อยู่อีกซักหน่อย ว่าผมเองเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่านะครับ แม้แต่ภาพในความเห็นที่ 134 ผมเองก็ยังมองเป็นพระโพธิสัตว์เลยนะครับ แต่ไม่รู้ว่าองค์ไหน จากเทริด 5 แฉก ที่อยู่บนเศียร ซึ่งถ้าในมหายาน จะเป็นเบญพุทธมาลา เห็นได้ชัดและบ่อย ๆ จากรูปเคารพของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ซึ่งในหมวกหรือมงกุฏลักษณะ ห้าแฉกนี้ จะมีรูปพระพุทธรูปอยู่ ห้าพระองค์ ซึ่งก็คือพระธยานิพุทธทั้ง 5 พระองค์ นั่นเอง หากเป็นพระสมันตภัทธโพธิสัตว์ของมหายาน ก็คงจะดูได้ง่ายกว่า เพราะมักจะทรงช้าง (ไม่ทรงช้างก็มี) และมักจะมาคู่กับพระมัชชูศรีโพธิสัตว์ ซึ่งทรงสิงห์ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ คุณหนอนดาวเรือง จะลองไปค้นดูครับ จากคุณ : [Zero] - [ 23 มิ.ย. 51 01:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ตอบ คุณ [Zero] นอกรอบเช่นกัน และขออนุญาตจขกท. และสมาชิกห้องนี้ ใช้พื้นที่ในกระทู้นี้อีกครั้งค่ะ เผื่อว่า อาจมีอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจได้บ้าง ค่ะ ปัญหาของรูปเคารพพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ในรูปแบบของวัชรยานตันตระ ที่อยู่ในกระทู้นี้ คือส่วนพระเศียร ที่ดูคล้ายกับพระพุทธรูปจริงๆ แต่ในวิชาพุทธประติมานวิทยา (Buddhist Iconography) จะไม่มองแค่นั้น แล้วอนุมานว่า เป็นพระพุทธรูปค่ะ ถ้าจะบอกว่า รูปเคารพใดเป็นพระพุทธรูป รูปเคารพนั้นๆ ก็จะต้องมีจีวร และ มุทรา (Mudra) คือลีลาท่าทาง หรือปางต่างๆ เช่น ปางสมาธิ ปางมารวิชัย ปางประทานอภัย ฯลฯ ที่มีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์ต่างๆ ในพุทธประวัติ จึงจะถือเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า คือพระพุทธรูปค่ะ ในพุทธประวัติ ไม่ว่านิกายใด ไม่มีเหตุการณ์ใดที่กล่าวถึงการสังวาสระหว่างพระพุทธองค์กับสตรีนางใดนางหนึ่งเลย เพราะฉะนั้น เมื่อคำนึงถึงหลักความจริงข้อนี้ รูปเคารพที่เป็นปัญหากันอยู่นี้ก็ขาดจากความเป็นพระพุทธรูปไปค่ะ และ ถ้ารูปเคารพนี้ เป็นของสร้างขึ้นใหม่ ก็อาจพูดได้ว่า เป็นพระพุทธรูปที่ถูกผู้มีจิตหยาบช้าเอามาบิดเบือน แต่เมื่อเป็นของที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก็เป็นอันอ้างไม่ได้อีกหละค่ะ ว่าเป็นพระพุทธรูป รูปเคารพของ มหาวีระ ศาสดาในศาสนาเชน ก็แลดูคล้ายพระพุทธรูปเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะส่วนพระเศียร เหมือนมาก แถมยังนั่งสมาธิเหมือนกันอีก จนคนไทยบางคน เผลอเอามาบูชา นึกว่าเป็นพระพุทธรูปก็มี แต่จริงๆ แล้ว ข้อแตกต่างระหว่างพระพุทธรูปกับมหาวีระก็คือ รูปมหาวีระนั้นเปลือย ไม่ห่มจีวร ดังนั้นก็เป็นพระพุทธรูปไม่ได้อีกแหละค่ะ ความจริง รูปเคารพที่เป็นประเด็นในกระทู้นี้ ค่อนข้างถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกแยกพอสมควรเหมือนกัน เมื่อเทียบกับเทวรูปพระโพธิสัตว์โดยทั่วๆ ไปในศิลปะทิเบต เพราะท่านไม่ทรงเครื่อง ในขณะที่เทวรูปพระโพธิสัตว์โดยทั่วๆ ไปนั้น ทรงเครื่องหมด แม้แต่พระมหากาล ในปางสังวาส เช่นในค.ห.๙๗ ก็ทรงเครื่อง และแม้แต่เทวรูปพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ที่คนทิเบตทั่วๆ ไปบูชากันอยู่ ก็ทรงเครื่องเช่นกันค่ะ แต่เหตุที่ในรูปตันตระนี้ เปลือย ก็เพราะเป็นปริศนาธรรมที่แนะให้ตระหนักถึงการละวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น เหมือนสำนวนคนไทยเราว่า ถอดหัวโขนออก น่ะค่ะ เพราะเสื้อผ้าการแต่งกายนี่ มันเป็นสัญลักษณ์ของยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นการยึดมั่นถือมั่นอย่างนึงเหมือนกันในทางปรัชญา แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 03:17:04 จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 มิ.ย. 51 02:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 138 กรณีลิงค์ ของนสพ.คมชัดลึก ที่เป็นการอธิบายของ พระ ดร.มโน นั้น เราขอเสนอดังนี้ค่ะ การอธิบายนั้น ไม่ทราบว่า มีพื้นฐานมาจากที่ใด โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงพระนางตารา (Tara) ว่าเป็นชายาของพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า หรือแม้แต่พระอาทิพุทธเจ้านั้น เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ผู้ศึกษามหายานทุกคน รู้กันดีว่าพระนางตารานั้น เป็น ศักติ (Shakti) ของพระธยานิพุทธไวโรจนะ ทั้ง ๕ พระองค์ แต่เป็นในทางปรัชญาเท่านั้น บทบาทที่ชัดเจนของพระโพธิสัตว์เพศหญิงองค์นี้ คือการเป็นศักติของ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระมหาโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกัปป์นี้ ที่มีพระพุทธเจ้า คือ พระศรีศากยมุนีครองอยู่ค่ะ (เนื่องจากทางมหายานถือว่า พระศรีศากยมุนี หรือพระพุทธเจ้าของเถรวาทนั้นแบ่งภาคมาจากพระธยานิพุทธอมิตาภะ ซึ่งมีพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญที่สุด) พระนางตารา ปรากฏในรูปเสพสม น้อยมาก เพราะแม้ในทางตันตระ ก็ไม่นิยมสร้างเทวรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในปางสังวาส ปกติเทวรูปของพระนางที่ชาวทิเบตและผู้สนใจมหายานทั่วโลกคุ้นตากัน คือตามภาพประกอบข้างล่างนี้ค่ะ พระนางเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ความปลอดภัย และความอุดมสมบูรณ์ ปกติมี ๒๑ วรรณะ (พระวรกายมี ๒๑ สีแบ่งตามภาคต่างๆ) แต่ที่นิยมบูชากัน คือ พระสิตตตารา (ตาราขาว) และ พระศยามตารา (ตาราเขียว) ค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 มิ.ย. 51 02:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 139 "แม้แต่ภาพในความเห็นที่ 134 ผมเองก็ยังมองเป็นพระโพธิสัตว์เลยนะครับ แต่ไม่รู้ว่าองค์ไหน จากเทริด 5 แฉก ที่อยู่บนเศียร ซึ่งถ้าในมหายาน จะเป็นเบญพุทธมาลา เห็นได้ชัดและบ่อย ๆ จากรูปเคารพของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ซึ่งในหมวกหรือมงกุฏลักษณะ ห้าแฉกนี้ จะมีรูปพระพุทธรูปอยู่ ห้าพระองค์ ซึ่งก็คือพระธยานิพุทธทั้ง 5 พระองค์ นั่นเอง" ถ้าคุณ [Zero] ดูภาพพระนางตาราในค.ห.ข้างบน ก็จะเห็นว่า ท่านสวมศิราภรณ์ ๕ แฉกเหมือนกัน และถ้าคุณได้ไปเห็นเทวรูปทิเบตในร้านขายเทวรูปที่เนปาล ก็จะเห็นว่า แทบทุกองค์ทรงสวมศิราภรณ์ชนิดนี้เหมือนกันหมดเลยค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือ ศิราภรณ์หรือเทริด ๕ แฉกนี้ ไม่ได้เป็นเบญจพุทธมาลาแต่อย่างใดเลยค่ะ เป็นแต่เพียงศิราภรณ์ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะปาละ (Pala) ของอินเดียเมื่อพุทธศตวรรษที่ ๑๕ เป็นต้นมา ที่ชอบทำศิราภรณ์เป็น ๕ แฉก แบบนี้หละค่ะ ศิลปะปาละที่ทำศิราภรณ์แบบนี้ เป็นศิลปะมหายาน และก็เริ่มทำกับพระพุทธรูปทรงเครื่อง ซึ่งมักจะหมายถึงพระอาทิพุทธเจ้าด้วยค่ะ ใครที่รับศิลปะมหายานไปจากอินเดีย ก็แน่นอนว่า จะได้รับเอารูปแบบศิราภรณ์ ๕ แฉกนี้ไปด้วย ดังนั้น ถ้าไปดูเทวรูปพระโพธิสัตว์จีนแบบดั้งเดิม ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่พระกษิติครรภ์เท่านั้นหรอกค่ะที่สวมศิราภรณ์ ๕ แฉก จริงๆ แล้ว พระกษิติครรภ์แบบจีน คือ ตี่จั่งอ๊วง หรือตี้จั้งหวางผู่ซา นั้น ที่คุณพูดก็ถูกต้อง คือท่านสวมหมวกจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่ศิราภรณ์ หมวกแบบนั้น เป็นหมวกสำหรับพระจีน เพราะพระกษิติครรภ์นั้นท่านแต่งกายแบบพระจีนค่ะ ขอรบกวนพื้นที่กระทู้นี้เท่านี้นะคะ เพราะออกนอกประเด็นแล้ว ถ้าคุณ [Zero] หรือท่านใดสนใจ ก็ไปตั้งกระทู้คุยกันเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ก็น่าจะดีค่ะ เพราะแม้แต่เทวรูปพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ปางที่เป็นประเด็นในกระทู้นี้ ก็ยังมีสมาชิกในห้องศาสนาอีกมาก ที่ยังคงเข้าใจผิดอยู่ว่าเป็นพระพุทธรูปเหมือนกัน รูปข้างล่างนี้ คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ทิเบตเรียกว่า Chenresie ค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 มิ.ย. 51 03:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณนะคะที่มาช่วยอธิบาย มาเก็บความรู้เพิ่มค่ะ ^ ^ จากคุณ : นราเกตต์ - [ 23 มิ.ย. 51 07:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เอาง่ายๆนะครับ   ผมมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่รูปเคารพใดๆ หรือความเห็นที่แตกต่างทางความคิด แต่เป็นเรื่องของสื่อที่จำเป็นจะต้องกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร จะจริงไม่จริงก็ตาม สื่อจำเป็นจะต้องนึกถึงผลที่จะตามมาด้วยครับ ว่าถ้าเกิดเหตุขึ้นเหมือนเหตุการณ์นี้ จะรับผิดชอบหรือแก้ไขต่อสิ่งที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหรือไม่ คราวต่อไปควรเพิ่มความระมัดระวังในการนำเสนอครับ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยง ความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น ครับ โหวต จากคุณ : blueframe - [ 23 มิ.ย. 51 10:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 142 บางคนก็หย่อนเกินไปจนเรียกว่าไม่ใส่ใจในศาสนาเลยมากกว่า...สื่อต้องคิดมากๆก่อนจะเผยแพร่ข้อมูลใดๆครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 23 มิ.ย. 51 13:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ขอบคุณคุณ หนอนดาวเรืองมากครับ สำหรับข้อมูลที่อธิบายให้ทราบ แล้วประเด็นในเรื่องที่ว่า พระนามของพระอาทิพุทธเจ้าที่ปรากฏอยู่ในเวปของนิกายวัชรยาน ซึ่งไปพ้องกับพระนามของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่นหากใช้ คำค้นหาใน google ว่า "Samantabhadra buddha" ก็จะเจอรูปเคารพทั้งภาพวาด และรูปหล่อลอยตัว ซึ่งคล้ายกับรูปที่มีประเด็นในกระทู้นี้มากเลยนะครับ อีกทั้งเมื่อผมค้นหาตามคุณ หนอนดาวเรือง โดยใช้คำว่า Samantabhadra Bodhisattva แล้วเข้าไปดูรายละเอียดรูปที่คล้ายพระพุทธเจ้าที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ ในรายละเอียดหลายเวปกลับไม่มีคำว่า Bodhisattva เลยนะครับ ในเรื่องของพระมหาวีระ ผมเคยเห็นรูปเคารพเช่นกันครับ แต่เศียรของรูปเคารพพระมหาวีระ จะไม่เหมือนกับพระพุทธเจ้าครับ คือไม่มีสัญลักษณ์ โลกุตระ(ไม่ทราบว่าบางแบบจะมีหรือไม่) สัญลักษณ์แห่งความหลุดพ้น และลักษณะพระเกษาที่เป็นก้นหอยนั้น จะไม่เป็นระเบียบเหมือนพระพุทธเจ้าครับ ผมสันนิษฐานว่า เส้นผมที่เป็นตุ่มนั้น น่าจะเกิดจากการจำลองเอาการถอนผม ของศาสนาเชน จึงทำให้เกิดรูปเป็นเช่นนั้น (ไม่มั่นใจข้อมูลที่แน่ชัดครับ) และไม่มีจีวรเพราะพระมหาวีระ ไม่สวมผ้าใด ๆ อยากขอยืนยันว่ารูปที่คล้ายพระพุทธเจ้า ที่มีพระวรกายสีน้ำเงิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้าแน่นอนใช่ไหมครับ และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องมาจาก ความเชื่อของนิกายวัชรยานโดยตรงเลยหรือเปล่าครับ เพราะดูแล้วขัดกับลักษณะของพระโพธิสัตว์มากเลยครับ ขอบคุณ คุณหนอนดาวเรือง มากครับ จากคุณ : [Zero] - [ 23 มิ.ย. 51 13:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ไม่โหวตและ ฮิฮิ จากคุณ : Tripradap - [ 23 มิ.ย. 51 14:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 145 1.ได้ความรู้จากกะทู้นี้เยอะเลย 2.ได้รู้ว่าตัวเองเริ่มสายตาไม่ค่อยดีแล้ว (เพราะซื้อเล่มนี้มาเหมือนกันแต่ก็ไม่เคยสังเกตุเห็น) 3.ได้รู้ว่า "เดี๋ยวนี้สังคมไทยเป็นสังคมที่ เอะอะอะไรก็ขอโวยไว้ก่อน"  และเป็นสังคมที่ดัดจริตมากๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อยากผอม - [ 23 มิ.ย. 51 15:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ยิ่งอ่านยิ่งงง แต่มันส์ดี จากคุณ : I Believe inTrue LoVe - [ 23 มิ.ย. 51 16:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เห็นด้วยกับ คุณอยากผอม ทุกประการ จากคุณ : audy (audy) - [ 23 มิ.ย. 51 17:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 148 อ่านจนจบ  ขอขอบคุณ 1. จขกท.  ที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้น และมีคนเข้ามาให้ความรู้มากมาย    ถ้าคุณไม่เริ่ม  ก็คงไม่ได้รับความรู้นี้ 2. คุณคห. 94  ที่นำความรู้มาเปิดสมอง 3. คุณ คห. 95  ที่นำรูปมาเปิดตาให้กว้างขึ้น 4. สุดท้าย  ขอบคุณกองบรรณาธิการนิตยสารที่เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ อย่างกล้าหาญ สมเป็นสื่อสาธารณะ   เราอยู่กันอย่างคนไทย   อภัยกันนะคะ..... จากคุณ : ตาวาว - [ 23 มิ.ย. 51 19:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 149 หันปลายเท้าไปทางพระด้วยหรือป่าวครับ จากคุณ : TaDeaw - [ 23 มิ.ย. 51 20:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 150 กระุู้ทู้นี้ทำให้เรารู้ว่า.. คนที่บอกว่านับถือศาสนาพุทธ แต่กลับเข้าไม่ถึงศาสนาพุทธดีพอ ซึ่งก็เหมือนกับเราที่นับถือศาสนาพุทธ แต่่รู้จักแค่การสวดมนต์ ทำบุญตักบาตร ศีล 5 ก็ไม่ครบ ประวัติของศาสนาก็แทบจะไม่รู้เลย วันสำคัญต่างๆ ก็ไม่ได้ร่วม... ก็แค่จะบอกว่ายังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่เราไม่เคยรู้เลยเกี่ยวกับศาสนาพุทธ  ทั้งๆที่เราก็บอกใครต่อใครว่าเราคือคนพุทธ จากคุณ : เบคอนแฮม - [ 24 มิ.ย. 51 02:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ตอบ ค.ห.ที่ ๑๔๓ ของคุณ [Zero] ค่ะ ประเด็นเรื่องเกี่ยวกับพระสมันตภัทรโพธิสัตว์นี้ คงต้องรบกวนคุณไปค้นในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ตรงใกล้ๆ วัดพระแก้วน่ะค่ะ ไปค้นหนังสือเรื่อง พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน ของ ศ.ดร.ผาสุข อินทราวุธ ก็จะได้ทราบคำตอบที่แน่นอนค่ะ เพราะหนังสือเล่มนั้น เป็นตำราที่ใช้อ้างอิงกันเป็นหลักในวงการประวัติศาสตร์ศิลปะของไทยเราค่ะ ส่วนที่คุณเสนอว่า : "อยากขอยืนยันว่ารูปที่คล้ายพระพุทธเจ้า ที่มีพระวรกายสีน้ำเงิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้าแน่นอนใช่ไหมครับ และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องมาจาก ความเชื่อของนิกายวัชรยานโดยตรงเลยหรือเปล่าครับ เพราะดูแล้วขัดกับลักษณะของพระโพธิสัตว์มากเลยครับ" ยืนยันว่า ตามความรู้ของเรา ไม่ใช่พระพุทธเจ้าค่ะ และได้อธิบายแล้วว่า เป็นลักษณะรูปเคารพที่แปลกแยกกับเทวรูปพระโพธิสัตว์ทั่วไป เพราะเป็นรูปปริศนาธรรมที่เอาไว้บำเพ็ฐสมาธิในทางตันตระดังกล่าวแล้ว ไม่ใช่รูปสำหรับบูชากันทั่วไปค่ะ เผอิญตอนนี้มีหนังสือเล่มนึงใกล้ตัว คือ Short Description of Gods, Goddesses and Ritual Objects of Buddhism and Hinduism in Nepal จัดพิมพ์โดย Handicraft Association of Nepal เป็นคู่มือสำหรับชาวต่างประเทศที่สนใจศิลปะมหายานใช้เวลาไปเลือกหาซื้อพระพุทธรูป เทวรูปต่างๆ ในเนปาลและทิเบตโดยเฉพาะ ซึ่งมีมาตรฐานและไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เค้าบอกไว้อย่างนี้ค่ะ ตามรูปที่เอามาให้ดู Samanta Bhadra There are three groups with sixteen Bodhisatwas. Among these three groups one group is headed by Samanta Bhadra (Universal Goodness). So he is important as the leader of sixteen Bodhisatwas. He is not less important than the Futhre Buddha Maitreya who is head of the two other lists of Bodhisatwas. He embraced by his consort "Dharmavajra" แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 02:53:51 จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 24 มิ.ย. 51 02:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ^ ^ ^ ขอบคุณที่นำความรู้นี้มาเผยแพร่นะคะ แต่ถึงจะแบบนั้นก็ไม่เหมาะสมค่ะ   ใครจะไปพิจารณาลึกซึ้งขนาดนั้นว่า นี่เป็นสัญลักษณ์พระพุทธเจ้า  นั่นไม่ใช่   เพราะดูเผินๆ บวกกับท่านั่งขัดสมาธิ  แล้วยังพระเศียรเป็นปุ่มรัศมีอีก เฮ้อ..........เป็นพุทธมาตั้งแต่เกิด  เพิ่งเห็นอะไรที่มันอุจาดคาตาแบบนี้ ฮึ่มมม... จะไม่สนับสนุน ROOM อีกแล้ว จากคุณ : Wendy Darling - [ 24 มิ.ย. 51 07:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ขอบคุณ คุณหนอนดาวเรืองมากครับ จากคุณ : [Zero] - [ 24 มิ.ย. 51 08:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 154 สังคมมันเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ .. ถ้ามีคนแบบคุณ jj มากๆ ผมว่ามันน่าเศร้านะ.. T_T แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 09:05:29 จากคุณ : นายแว่นธรรมดา - [ 24 มิ.ย. 51 09:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ต่างคนต่างมีมุมมองที่แตกต่างกัน  อย่าถึงกับต่อว่ากันเลยครับ... คคห.72 บก.ออกมาขอโทษแล้วก็น่าจะให้อภัยกัน  แต่ก็อยากให้ระวังมากขึ้น หากกรณีนี้ไปเกี่ยวกับศาสนาบางศาสนาเหมือนที่เป็นเรื่องดังไปทั่วโลกละก็... ทั้งบก.ทั้งทีมงานคงต้องลี้ภัยกันตลอดชีวิตเลยนะครับ! จากคุณ : Uncle Tee - [ 24 มิ.ย. 51 12:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 156 คุณ Wendy Darling คห.ที่ 152 กล้าพูดว่าเป็นพุทธมาตั้งแต่เกิด แต่กลับไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรบ้าง รู้จักคำว่าให้อภัยหรือเปล่า ทำผิดครั้งเดียวจะให้เค้าเลิกขายกันเลยรึไง แล้วอีกอย่างเค้าก็ขอโทษแล้วด้วย ถ้าสังคมมีแต่คนแบบคุณคงแย่ .....ถามจริงตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำอะไรผิดเลยรึไง คห.154 คุณได้อ่านป่ะว่าเค้าคุยกันถึงไหนแล้ว ไปว่าเจ้าของบ้านเค้าทำไม นี่อ่านหัวข้อแล้วลากมาด่าเลยใช่ป่ะ จากคุณ : JE (roomno31) - [ 24 มิ.ย. 51 16:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 157 เป็นกระทู้ที่ได้ความรุ้ดี จากคุณ : Iheringi - [ 24 มิ.ย. 51 16:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 158 คห.7 ไปกินฟางไปๆๆๆๆ จากคุณ : ไม่รู้นะแล้วแต่ (jumpffish) - [ 24 มิ.ย. 51 19:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ส่วนตัวเรามองว่านิตยสารเลิ่นเล่อ แต่ออกมารับผิดชอบดี ขอชื่นชมค่ะ คุณหนอนดาวเรืองและคุณ[Zero] ก็ทำให้ได้เปิดหูเปิดตามากขึ้นอย่างมีสาระ ขอบขอบคุณมากๆค่ะ คุณจขกท เราก็ขอชื่นชมนะคะ เพราะเราก่อนจะอ่านจบ เมือ่เห็นภาพนั้นก็คิดว่าเป็นพระพุทธรูป ก็รู้สึกไม่ดี เหมือนโดนทำร้ายจิตใจกับสิ่งที่เราเคารพ การพบเห็นสิ่งไม่เหมาะสมในสังคมสมควรลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างถูกแล้วค่ะ อย่าปล่อยให้คิดแต่ว่าที่ไหนก็มีแล้วปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาเหมือนยาเสพติด เด็กมันคิดว่าเพื่อนมันก็เสพไม่เห็นเป็นไร คนแก่คร่ำครึเล่นยาไม่เป็นเอง เราควรทำิอะไรซักอย่างถุกแล้วค่ะ ไม่ต้องเสียใจกับคำพูดเสียดสีของคนอื่นนะคะ เราขอชื่นชมค่ะ พอได้รับความรู้จากคุณหนอนดาวเรืองแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้นบ้างมั้ยคะ อย่าปล่อยให้ใจหมองมัวเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : บางเวลา - [ 24 มิ.ย. 51 23:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ห้องศาสนาเดินสายมาห้องชายคา....แล้วห้องศาสนาจะเหงาไหม....เล่นเดินขบวนเป็นพันธมิตรกันมาเลย... จากคุณ : เม่นแคระ - [ 24 มิ.ย. 51 23:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ขอบคุณเจ้าของกระทู้และทุกท่านครับ ผมอ่าน Room เล่มนี้เหมือนกัน และยอมรับว่าไม่เห็นตรงนี้เลย (ทั้งๆที่ scan ละเอียดเหมือนกันเพราะว่ากะลังจะซื้อโคมไฟหัวเตียงอยุ่ -_-'') ขอบคุณทุกๆท่านที่ออกมาให้ควา่มรุ้ ความเข้าใจ เปิดกะลาให้ผมอีกนิดนึง จะว่าไปผมรุ้สึกเหมือนเข้าใจคำสอนของศาสนาพุทธขึ้นมาอีกนิดนึงเลยทีเดียว ชื่นชม Room ด้วยครับ ที่มาขอโทษ ขออภัย แค่อยากจะบอกว่า ผมชอบกระทู้นี้ครับ จากคุณ : +One Side Love+ - [ 25 มิ.ย. 51 09:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 162 คุณ Wendy Darling เว่อร์ไปป่าวอ่ะครับ...No Comment สำหรับความคิดอย่างคุณนะครับ อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงเรื่องเล่าที่ว่าพระ2รูปจะข้ามแม่น้ำแล้วต้องอุ้มผู้หญิงคนนึงไปด้วย พอข้ามได้ พระคนที่อุ้มมาก็วางผู้หญิงแล้วแยกย้ายกับเธอ ส่วนพระอีกคนมัวแต่คิดว่าที่พระรูปแรกทำมันถูกต้องแล้วเหรอ พระรูปแรกจึงบอกว่า เราได้วางผู้หญิงคนนั้นลงตั้งนานแล้ว แต่ทำไมท่านถึงยังไม่วางลงเสียที(ถ้าจำคลาดเคลื่อนต้องขอโทษด้วยนะครับ) ตราบใดที่เรายังยึดติดกับรูปเคารพอะไรพวกนี้ จนหลงลืมคำสอนของพระพุทธองค์ที่เป็นแก่นจริงๆ ก็คงจะไปไม่ได้ไกลกันนักหรอกครับ ก็มัวแต่มานั่งด่าอยู่ในห้องเนี้ยะแหละ จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 25 มิ.ย. 51 11:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 163 แปลกดี ทำไมไม่ด่าเจ้าของห้องเนอะ จากคุณ : มินเอง - [ 25 มิ.ย. 51 13:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ เจ้าของบ้าน ห้องมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ในบ้านของตัวเอง นิตยสาร ไม่รอบคอบ ไม่ตรวจตราให้ดี แต่ได้ออกมายอมรับแล้ว ถือว่ามีความรับผิดชอบ จากคุณ : Ganit - [ 25 มิ.ย. 51 17:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 165 สุดท้าย... ก็กระจ่าง รู้แจ้งซึ่งปัญญา.... ว่าไม่ใช่พระพุทธรูปของพระพุทธเจ้า กรุณาปล่อยวาง และเดินทางสายกลางเถิดครับ อย่าถือไว้อีกเลย... ครับ ^_^ จากคุณ : ชายน้อย (shinnong) - [ 25 มิ.ย. 51 21:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 166 ทีนี้ จขกท  ก็จะเห็นแจ้งรู้จริงไปเลยว่าสมาธิมาปัญญาเกิดลงมือค้นหาให้รู้ไปเลยค่ะอย่าให้ใครมาหมิ่นใด้ว่าเป็นพุทธแค่บัตรประชาชนกับสวดมนต์ไม่จบบทไหนๆๆก็ไหนๆๆแล้วอย่าให้เกิดความว่างปล่าวกับตัวเองหาอะไรใส่ตัวซักหน่อยเอาไว้เป็นเกราะ จากคุณ : ถุงแป้งร่ำ - [ 26 มิ.ย. 51 10:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 167 ผมขำชื่อ จขกท คับ หมาเนย... จากคุณ : กอบ (JieBoJai) - [ 26 มิ.ย. 51 18:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 168 กระทู้นี้ได้ความรู้ บวกกับทำใจให้กว้าง จากคุณ : soda.jazz - [ 27 มิ.ย. 51 08:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 169 การที่อ้างว่า นิกายนั้นนิกายนี้ ผมว่า หนังสือขายคนไทยนะครับ ยังไงก็ไม่เหมาะสม คุณทำขายคนไทยรึเปล่าล่ะครับ ถ้าขายฝรั่ง คนไทยไม่เห้น ก้อีกเรื่องนึง แต่นี่ขายคนไทยครับ จะมาอ้างม่ายได้ๆ มะถูกๆ จากคุณ : คนไทยหนอคนไทย (spygame) - [ 27 มิ.ย. 51 11:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 170 อย่าใช้คำว่า "คนไทย" พร่ำเพรื่อ เพราะผมก็ "คนไทย" แต่ไม่ได้คิดแบบคุณ 169 จากคุณ : reloid - [ 27 มิ.ย. 51 11:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ขอบคุณจขกท คุณเป็นคนช่างสังเกตุมากเลย ได้อะไรจากกระทู้นี้เยอะมาก ยอมรับว่าเราไม่รู้มาก่อนว่ามีปางเเบบนี้ จากคุณ : yaoicuty - [ 27 มิ.ย. 51 18:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ไม่ทราบว่าจะตกใจอะไรกันครับ ก็แค่ภาพการสังวาสของพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธมหายาน นิกายวัชรยานตันตระ เรียกภาพเหล่านี้ว่า "ยับยัม หรือยับยุม" ซึ่งเป็นเรื่องของแนวคิดในการผนวกพลังทั้งชายหญิงเข้าด้วยกัน หากมองด้วยจิตใจไม่หยาบช้าลามก มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ท่านทั้งหลายศาสนาพุทธไม่ได้มีนิกายเถรวาทเพียงนิกายเดียวในโลกนะครับ เปิดใจให้กว้างหน่อยซิ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 11:36:31 จากคุณ : ปรัญญาปารมิตา - [ 28 มิ.ย. 51 08:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 173 ยังไงก็แล้วแต่....นี่คือบทเรียนของการเป็นสื่อ อยู่บ้านเมืองไหน วัฒนธรรมเค้าอย่างไรก็ควรจะระวังในเรื่องนั้นๆ...น่าจะดีใจที่กรอบของวัฒนธรรมยังแข็งแรง แต่ก็ยังหน้าหวั่นกับหลายคห ที่แสดงให้เห็นว่าความเสื่อมกำลังเยือน ชอบทีคุณหนอนดาวเรืองเขียนใน คห94.......... ที่แสดงให้เห็นว่าแต่เหตุที่พวกเราได้เห็นรูปเคารพพวกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะฝรั่งที่จิตใจลามก ไม่เข้าใจปรัชญาตันตระ มองว่าเป็นงานศิลปะ Erotic ก็เลยนิยมไปซื้อหามาแต่งบ้าน ความนิยมนี้ก็ตกมาถึงคนไทยดังที่เห็นนั่นหละค่ะ ย้ำตรงที่..."ความนิยมนี้ก็ตกมาถึงคนไทยดังที่เห็นนั่นหละคะ" ถูกต้องที่สุด...เสื่อมจริงๆ จากคุณ : มะยม - [ 28 มิ.ย. 51 09:54:46 A:24.215.242.132 X: TicketID:112262 ]

ความคิดเห็นที่ 174 เห็นเหมือนคุณมะยมครับ ดูตวามเห้นของหลายๆคนแล้วหวั่นเหมือนกัน ถึงจะเป็นปริศนาธรรมก็เถอะควรจะหลีกเลี่ยงแนว erotic มีมาแต่โบราณแล้วก็ไม่เป็นไร มีปริศนาธรรมเยอะแยะที่ดูเข้าใจง่ายไม่ต้องให้วิจารณ์ในทางเสื่อม การที่มีการติติงเป็นการดีไม่ใช่หรือ แต่บางคนมองเป็นความฉลาดน้อยเข้าใจธรรมะแค่เปลือกซึ่งไม่ใช่ครับผมว่าส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่ามันต้องมีความหมายสักอย่าง ประเด็นมันอยู่ที่ว่าไม่ควรเอามาไว้เป็นเครื่องตกแต่งมากกว่าครับ อย่าว่ากันเลยครับเราควรเดินตามรอยบรรพบุรุษกันบ้างอย่าลึกซึ้งหรือทันสมัยเปิดกว้างเกินไป บางท่านมองในด้านดีเกินไปแต่ผลกระทบอาจจะหนักกว่าที่คิดครับ เอาเป็นว่าเป็นดังผู้รู้อธิบายแต่ไม่ควรทำให้เป็นที่นิยมเพื่อรักษาน้ำใจผู้ที่ไม่ชอบซึ่งน่าจะเป็นคนส่วนใหญ่ของชาวพุธโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ครับ จากคุณ : greang - [ 28 มิ.ย. 51 22:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ผมยังอุดหนุน ROOM เหมือนเดิม จากคุณ : Octo (Octo) - [ 29 มิ.ย. 51 00:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 176 คนที่ต่อว่าเจ้าของบ้าน ต้องไปทำความเข้าใจก่อน เรื่องของความเชื่อทางศาสนาของแต่ละบุคคล.......อาจเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมก็ได้ ขึ้นอยู่กับเจตนาของเจ้าของบ้าน ซึ่งเชื่อว่า คนที่วิจารณ์ไม่มีใครรู้เจตนาของเจ้าของบ้าน ส่วนใหญ่ใช้ความคิดของตนเองมาตัดสินเอาเอง ถ้าเกิดว่าเจ้าของบ้านมาบอกเจตนาแล้วค่อยวิจารณ์อันนี้ถือว่าเข้าใจได้ เรื่องสิทธิส่วนบุคคล....บ้านคือสถานที่ส่วนบุคคล บุคคลสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ภายในบ้านของตัวเอง โดยไม่ได้ไปเบียดเบียนให้บุคคลอื่นเกิดความเดือดร้อน ถือว่าเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้โดยชอบธรรม โดยรวมก็คือคนที่ต่อว่าเจ้าของบ้าน คือคนที่ไม่เข้าถึงเรื่องศาสนา คือการปล่อยวาง เรื่องกฎหมาย คือสิทธิส่วนบุคคล และอาจไม่เข้าถึง หรือไม่เข้าใจในอีกหลายๆเรื่องในชีวิตประจำวัน จากคุณ : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม (จอมโจรสาว) - [ 1 ก.ค. 51 23:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ไม่จำเป็นต้องหาข้อสรุปว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เพราะคนอ่านคนดูแต่ละคนจะเป็นคนตัดสิน ...คิดต่างไม่ใช่ความผิด ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน...ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องฟันธง ส่วนสำนักพิมพ์อ่านกระทู้นี้แล้วเก็บไว้พิจารณาต่อไปแล้วแต่วิจารณญาณ จบได้แล้วกระทู้นี้... จากคุณ : reloid - [ 2 ก.ค. 51 09:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 178 ก็ถือว่า ถ้า จขกท. ไม่เปิดประเด็นนี้ หลายคนที่ไม่เคยรู้ว่ามีแบบนี้ ก็ได้รู้เสียทีไงคะ พอไปเห็นที่อื่นจะได้ไม่ตกใจ คุณพระช่วยกล้วยทอดอีก ขอบคุณท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยกันถกวาทะ นำข้อมูลมาแบ่งปัน นิตยสารเขาก็ออกมาขอโทษแล้ว ต่อไปก็คงรอบคอบเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องของเจ้าของห้อง อิฉันเห็นว่าห้องของเขา เขาจะแต่งอย่างไรก็สิทธิ์ของเขา เขาจะนับถืออะไรก็เรื่องส่วนตัวค่ะ ....ไปล่ะ  แวะมาแจม จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน - [ 3 ก.ค. 51 02:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 179 ถ้าไม่ซูม ผมก็มองไม่เห็นเหมือนกัน จากคุณ : bigwores - [ 3 ก.ค. 51 11:16:01 ]