ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าไม่มีเงินเลยซักบาท ก็ไม่แนะนำให้ซื้อบ้านตอนนี้ค่ะ เพราะซื้อบ้านมีค่าใช้จ่ายจุกจิกที่ตามมาอีกเยอะ อย่างน้อยมุ้งลวดเหล็กดัดก็หลายหมื่นแล้ว แถมยังความเสี่ยงว่าการเงินของคุณอาจจะชงักในบางช่วง เนื่องจากมีเหตุการใช้เงินเร่งด่วนด้วย รอให้พร้อมก่อนดีกว่าค่ะ จากคุณ : ฝนโอ่ง - [ 13 ส.ค. 51 22:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราอ่ะ ไม่มีสักบาท แถมหนี้อีก นิ๊ดหน่อย อยากบอกว่า  ของอย่างนี้ มันอยู่ที่ดวงอ่ะ จากคุณ : ภูเก็ต-ป่าตอง - [ 13 ส.ค. 51 23:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ซื้อบ้านมือสองอาจจะได้ ถ้าเกิดขอกู้ไปมากกว่าราคาซื้อขายจริงแล้วแบงค์ให้ แต่บ้านใหม่คงยาก อย่างน้อยก็ต้องมีเงินมัดจำ เงินจ่ายตอนทำสัญญา เงินดาวน์ เสร็จแล้วตอนโอนก็ยังต้องจ่ายค่าจิปาถะอีกเยอะแยะ ค่าธรรมเนียมโน่นนี่ ค่าขอน้ำไฟฟ้า สุดท้ายแล้วยังต้องตกแต่งบ้านอีก มุ้งลวด เหล็กดัด แอร์ เฟอร์นิเจอร์ ถ้ายังไม่มีเงินเก็บก็อย่ารีบเลย เกิดปัญหาจะลำบาก ตอนนี้ดอกเบี้ยก็ยังไม่นิ่ง จากคุณ : TingTing - [ 13 ส.ค. 51 23:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าซื้อครับลองเก็บเงินให้ได้เท่าจำนวนเงินที่จะผ่อนไหวซักปีแล้วค่อยคิดซื้อครับ ถ้ายังเก็บไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อครับ จากคุณ : scadee - [ 13 ส.ค. 51 23:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็ไม่มีเงินเก็บซักบาทเลยน่ะ เพราะเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ มีเป็นต้องไปเที่ยวไม่ก็ช๊อปปิ้ง เลยต้องซื้อบ้านอ่ะ ระหว่างผ่อนดาวน์ก็เงินไปเรื่อยๆ ไว้จ่ายค่าจุกจิก ในบัญชีเราไม่มีเงินเก็บเลยน่ะ แต่มีเงินเข้าทุกเดือนอ่ะ ก็กู้ผ่านน่ะ จากคุณ : พระอาทิตย์สีส้ม - [ 13 ส.ค. 51 23:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยพ่อแม่เราซื้อบ้าน ก้อไม่มีเงินเก็บเลยเหมือนกันค่ะ แต่โชคดีที่เพื่อนพ่อคนนั้นคนนี้ให้ยืม ให้เลยบ้าง แถมตอนที่ซื้อ เจ้าของหมู่บ้านก้อใจดี สงสาร มีการลดให้พิเศษอีก เลยพอมีเงินมาซื้อของเข้าบ้าน ทาสีบ้าน ปูกระเบื้อง ติดเหล็กดัด แล้วก้อทำกันสาดหลังบ้านเป็นครัวง่ายๆ พอมาสมัยเรา เมื่อปีกลาย ไปทำจอง ทำสัญญา ผ่อนดาวน์คอนโดไว้โครงการนึง มีเงินเก็บแบบพอดีค่าทำสัญญาพอดี ส่วนตอนจองใช้รูดบัตรเครดิตเอา ส่วนผ่อนดาวน์ก้ออาศัยเงินเดือนชนเดือนเอา เหนื่อยมากๆค่ะ ทุกๆเดือนต้องมานั่งคิดว่าจะหมุนเงินยังไงดี จัดสรรปันส่วน กองนี้ให้แม่ จ่ายค่าผ่อนดาวน์ ใช้หนี้ต่างๆ จนบางเดือนเหลือเงินใช้สองสามพันเองก้อมี (เงินเดือนเราไม่ได้น้อยนะ เยอะพอควรเลยล่ะ) จนวันนึงคิดว่าจะเปลี่ยยมาซื้อบ้านแทน ตอนนี้โชคดีค่ะ ได้เงินก้อนจากที่ขายดาวน์ไปมาเป็นทุนไว้ซื้อบ้าน ตอนนี้เลยเรียนรู้ได้เลยล่ะว่า การจะซื้อบ้าน ต้องมีเงินซักก้อนล่ะค่ะ ไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และที่สำคัญ ควรจะมีเงินเก็บก้อนนึง ที่มีจำนวนเท่ากับเงินที่เราต้องผ่อนค่าบ้านทั้งหมด 6 เดือน เก็บสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินเลยล่ะ อันนี้ไม่รวมค่าพวกที่ใช้ทำเหล็กดัด ซื้อเฟอร์เข้าบ้านด้วยนะคะ เพราะไม่งั้นจะเหนื่อยมากๆเหมือนตอนเราซื้อคอนโด ตอนนี้ของเราก้อเพิ่งวางจองบ้านไปล่ะ รอ pre approve อยู่คงมีเวลาเก็บเงินซักพ้กก่อนบ้านจะโอนล่ะค่ะ สำหรับ จขกท ถ้าดูแล้วมีเพื่อน มีญาติใจดี ที่พอจะหยิบยื่นเงินให้ได้ ก็ไม่น่าจะลำบากนะ แต่ถ้าตัวคนเดียวไม่มีใครเลย แถมเงินเก็บก้อไม่มี เราว่ารอก่อนเถอะค่ะ อย่าเพิ่งเสี่ยงเลย มันเหนื่อย จากคุณ : Friday February - [ 13 ส.ค. 51 23:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสี่ยงเหมือนกันนะคะ เพราะตัวเองก็เคยเสี่ยงมาแล้ว แต่คำนวนกับจขกท ไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่า จะซื้อบ้านราคาเท่าไร คร่าวๆ ก็คือ ถ้าช่วงผ่อนดาวน์ อาจจะหนักหน่อย พอผ่านช่วงนั้นได้ กู้ผ่าน(ก็จ่ายไปตามดอกเบี้ยที่ยอมจะเสีย) ซื้อตอนนี้ ราคา (ค่อนข้างแพงเนื่องจากวัสดุแพง) แต่ว่า ถ้ารอ ก็ไม่แน่ ในอนาคต อาจจะแพงกว่านี้ จขกท พูดว่า ต่อให้กู้ได้ 100% ก็ไม่มีเงินสดทำสัญญาหรือจ่ายค่าโน่นค่านี่จิปาถะ (จริงๆ โอนบ้านก็เพิ่มอีกนิดนึง อดใจสู้ก็ผ่านไปได้ เองแล่ะนะ แต่ก็ขึ้นกับจขกท วินัยการใช้จ่ายเงินอย่างไรด้วย อีกอย่าง จะแนะนำยังไงล่ะ คุณชอบความเพอรเฟค แบบซื้อบ้านแล้วย้ายไปอยู่แล้วต้องเพียบพร้อม ก็อาจจะจ่ายเพิ่มเยอะโข (ถ้าแบบเรา รอไปปีกว่า กว่าจะมีปั๊มน้ำ อาบน้ำเย็นไปก่อน อ่ะไรทำนองเนี้ย ก็ต้องอดทน พอสมควร กว่าจะมีแอร์ แต่อะไรที่จำเป็นก็ต้องตกแต่งก่อน เช่น มุ้งลวด ม่าน (ก็โข อยู่ดี) ลองดูละกันนะคะ ว่า มีแบคอัพ แพลน อะไรบ้าง ถ้าเผื่อ ผ่อนดาวน์ ไม่ไหว (สมมติดาวน์เยอะ) จากคุณ : pikulkeaw - [ 14 ส.ค. 51 01:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราคิดว่า ควรจะมีเงินเก็บบ้างเผื่อฉุกเฉิน หรือค่าใช้จ่ายเรื่องบ้านที่ตามมาน่าจะดีกว่านะคะ จากคุณ : กล้วยไม้ชายเขา - [ 14 ส.ค. 51 01:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็ไม่มีแต่ก็ต้องซื้อ เอาบ้านที่ไม่เกินตัวเกินไป ผมก็ได้เงินพอๆกับคุณเลย ผ่อนดาวน์ไปเรื่อย+ยังเหลือเงินเก็บไว้วันโอนได้ด้วย อยู่แล้วก็ค่อยๆทยอยซื้อของเดือนละชิ้นสองชิ้น ผมทำสัญญาไว้ตอนต้นปี ตอนนี้มาคิดก็คิดถูกแล้วที่ซื้อไว้เพราะผ่านมา 6 เดือนราคาขึ้นไปแล้ว 3 แสน!! ถ้ารอเก็บเงินได้ซักก้อนราคาบ้านก็ขยับหนีไปอีก ไม่ใช่ว่าแนะนำให้ทำตาม อันนี้แล้วแต่เจ้าตัวจะวิเคราะห์เอาเองนะครับ จากคุณ : Vic[Junior] - [ 14 ส.ค. 51 01:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ควรมีเงินเก็บนะครับ ไม่งั้น อกแตกตายแน่ เชื่อผม จากคุณ : Gixz - [ 14 ส.ค. 51 04:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็ไม่มีนะไอ้เงินเก็บเนี่ย...มีแต่เงินหมุนๆกันหัวปั่นเลย แต่เหมือนดวงดีไงไม่รู้ครับ(ไม่ค่อยเชื่อ)เวลาจะใช้เงินมากๆออเดอร์ก็จะเข้าตาม  เลยหมุนไปได้.... จากคุณ : delta- force - [ 14 ส.ค. 51 07:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมพึ่งยื่นกู้ซื้อบ้านไปราคา 4.8 ล้านกับ 3 ธนาคาร เงินเก็บแสนกว่าๆ แต่มีเก็บในรูปแบบ กองทุน ที่ดินทำเลดีในเชียงใหม่ 2-3 แปลง ซึ่งพร้อมจะผ่องถ่ายเป็นเงินสดได้ทันที แบงค์ดูแล้วให้ผ่านภายใน 2 อาทิตย์ทั้ง 3 แบงค์ จากคุณ : จอ จุ๋น - [ 14 ส.ค. 51 09:30:04 A:210.246.156.23 X: TicketID:080027 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ซื้อเมื่อพร้อม .... ดีที่สุด จากคุณ : นายแมงเม่า - [ 14 ส.ค. 51 09:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คิดดูดีๆนะคะ ตัวเองก็ซื้อTHเล็กไว้เหมือนกัน ก่อนซื้อก็มีตังค์เตรียมไว้ประมาณ 2 แสน แต่พอเอาเข้าจริงมันจะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างทั้งค่าโอน ค่าอากร ค่าธรรมเนียมต่างๆทั้งกรมที่ดินและแบงค์ มุ้งลวด เหล็กดัด ผ้าม่าน กันสาด ต่อเติม(โดยเฉพาะTH) ยังไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ก็แทบไม่เหลือแล้วค่ะ เอาใจช่วยนะคะ แต่อยากให้เตรียมตัว เตรียมกำลังก่อน ยิ่งเศษฐกิจแบบนี้ อยากให้มีความสุขกับบ้านใหม่ มากกว่าเป็นทุกข์นะคะ จากคุณ : แมวตัวอ้วนสีฟ้า (แมวตัวอ้วนสีฟ้า) - [ 14 ส.ค. 51 09:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แนะนำลองไปอ่านและใช้ข้อมูลใน Blog ของผมก่อนตัดสินใจครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rogthai&group=2 จากคุณ : rogthai (rogthai) - [ 14 ส.ค. 51 09:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เงินสำรอง...เราว่าจำเป็นนะคะ จากคุณ : tzippy - [ 14 ส.ค. 51 11:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ควรมีเงินเก็บ สำหรับหมุนเวียน ซัก 1 แสน  สำหรับค่าเบ็ดเตล็ด ควรมีเงินเก็บสำหรับค่าผ่อน + ค่ากิน อย่างน้อย 6 เดือน เพือความสบายใจ ตอนนี้เราเอาเงินเก็บทั้งหมดของเราไปดาวน์ เพื่อจะผ่อน เครียดมากกกกกกกก จากคุณ : ซามาร่า-ไม่เคยหลับ - [ 14 ส.ค. 51 12:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราซื้อบ้าน 4.5 ล้าน จ่ายเงินสดวันโอนไปล้านนึง เหลือเงินลงทุนใน LTF สลากออมทรัพย์ ทองอีกประมาณล้านนึง แต่ไม่มีเงินสดแต่งบาท เพราะคิดว่าจะไปหาเอาดาบหน้าค่ะ ไม่กล้าซื้อบ้านโดยไม่มีเงินสำรองเพราะกลัวค่ะ จากคุณ : PattyBoop - [ 14 ส.ค. 51 13:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่มีเหมือนกันค่ะ  ตอนซื้อ เพราะอยากได้ และ อยากเปลี่ยนมาอยู่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าสมันอายุมากแล้ว และเราเป็นภูมิอแพ้ด้วย ไม่โปร่งโล่ง เลยอยากเปลี่ยนพอดีมาเจอ บ้านเดี่ยว เนื้อที่เยอะ แต่ราคาไม่แพงโอเวอร์ เลยตกลงจอง แล้วคิดว่าจะขายบ้านเดิม  แหะๆๆตอนจองอยากให้กู้ผ่านเพราะ อยากได้บ้านมาก อ้อเราไม่ได้ซื้อเองหรอกนะ สามีซื้อน่ะ แต่เราเป็นคนจัดการเรื่องเงินๆทองๆเอง... สรุปกู้บ้านผ่าน แต่บ้านเดิมยังขายไม่ออก  โห เครียดมากเพราะว่า กลัวไม่มีเงินตกแต่ง ไม่มีเงินผ่อนบ้านใหม่ เพราะไม่มีเงินจริงๆๆ ส่วนแฟนเราตอนแรกเขากลัวกู้ไม่ผ่านมากกว่า แต่เราคิดว่าไงๆๆ ก็ผ่านอยู่แล้ว เพราะเครดิตเขาดีมากๆๆ  แต่เขาไม่ค่อยมั่นใจเท่านั้น เองเราก็เลยเชื่อไงแบบซื้อใหม่ก่อน ค่อยขายเก่าที่หลัง แต่ผลสุดท้าย คงจะโชคช่วยที่ โอนบ้านใหม่ไม่เท่าไหร่ บ้านเก่าก็ขาย ได้พอดี  เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยนะคะ เพราะถ้าขายไม่ออก บ้านใหม่ก็คงยังไม่ได้มาอยู่แถมต้องผ่อนบ้านใหม่ด้วย  คิดแล้วยัง เสียวไม่หาย.....จริงๆนะ จากคุณ : หยาดรุ้ง - [ 14 ส.ค. 51 13:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถามประมาณ อยากไปแข่งยกน้ำหนักกีฬาโอลิมปิก แต่ไม่เคยซ้อมเลย จะมีความหวังไหมเนี่ย หุ หุ ล้อเล่นนะคับ อย่าคิดน้อย..... จากคุณ : blue label - [ 14 ส.ค. 51 13:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขนาดมีเงินเก็บไว้ พอมีบ้านเงินเก็บที่มีหมดเกลี้ยง อย่าเสี่ยงซื้อโดยไม่มีเก็บดีกว่าค่ะ ยังไม่มีก็เก็บไปก่อน ไม่ต้องรีบร้อน แต่ต้องเก็บให้ได้จริงๆ จากคุณ : ปริศนาไขกระจ่างแล้ว - [ 14 ส.ค. 51 16:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ของผมก็ไม่มีเงินเก็บเลย เพระส่งให้ที่บ้านหมดไม่เคยมีเงินเก็บเลย ขึ้นอยู่กับหมู่บ้านที่เราจะซื้อว่าจะช่วยเราได้ขนาดไหน ของผมหมู่บ้านอัพราคาขึ้นไปเพื่อให้กู้ได้เงินเพิ่มขึ้น แบบว่ายังมีเงินเหลือเอาไว้ซื้อของเข้าบ้านอีกต่างหาก เช่นสมมุติราคาบ้านจริงๆ 1.6 ล้าน แต่แบงค์อนุมัติเงินกู้ให้ 1.74 ล้าน หักค่าประกัน ค่าโอน ค่าอื่นๆ ก็เหลือเงินซื้อของเข้าบ้านได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรายรับ รายจ่ายที่เข้าทุกเดือนด้วยนะครับ ถ้าเหลือพอก็ไม่มีปัญหา จากคุณ : เปิ้ล (Thai_Tornado) - [ 14 ส.ค. 51 16:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จริงแล้วเหมือนผมเลย ผมก็กำลังจะยื่นกู้ซื้อบ้านมือสองอยู่ครับ แต่ก่อนอื่นต้องประเมินรายรับตัวเราก่อนครับ ผมสนับสนุนให้คุณลองดูนะ เพราะอาจจะเหมือนผมก็ได้ รายได้พอ ๆ กัน ปกติผมจะส่งบ้านและใช้จ่ายเรื่อยเปื่อยหมดไปแต่ละเดือน เพราะผมเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ ยกเว้นจะเก็บเป็นสิ่งของอย่างอื่นเท่านั้น อย่างน้อยหากมานั่งคิดๆ ไปแล้วตอนนี้เช่าอยู่ตกเดือนละเกือบ 4000 บาท หากเพิ่มอีกนิดหน่อยมาผ่อนเองดีกว่า อีกอย่าง หากคุณกู้ผ่านและมีมันขึ้นมาแล้ว ยังไงคุณก็ต้องกัดฟันรักษามันจนได้แหละ แล้วการที่เรามีภาระ ทำให้เรามีความอดทนต่ออะไร ๆ มากขึ้นครับ ลองเลยครับ ไม่ต้องฟังใครมาก วิ่งไปธนาคารปรึกษาเบื้องต้นก่อนเลยครับ จากคุณ : SPORTERO (SPORTERO) - [ 14 ส.ค. 51 17:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคณทุกๆความเห็นค่ะ โครงการที่เราไปดู ไม่ช่วยอะไรเลย อัพราคาก็ไม่ช่วย ส่วนลดก็ไม่มี ของแถมก็ไม่ให้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นหมู่บ้านที่ดูดีที่สุดในย่านที่เราเล็งไว้ ก็จะหนีไปซื้อที่อื่นเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็คงต้องทำอย่างที่หลายๆท่านบอกค่ะ ก้มกน้าก้มตาใช้หนี้ เก็บเงินไปสักพักดีกว่า สร้างความมั่นใจให้ตัวเองสักนิดก็ยังดีค่ะ ตอนนี้ไม่ไหว...ท้อเหลือเกิน จากคุณ : delicious - [ 14 ส.ค. 51 18:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อย่าเพิ่งท้อค่ะ เงินเดือนคุณขนาดนั้น เยอะกว่าเราอีก เก็บแป๊บเดียวก็ได้เป็นแสนแล้วค่ะ เราก็เป็นคนนึงที่มีเงินเก็บอยู่ไม่มาก แต่ก็กัดฟันซื้อบ้านจนได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : chinnosuke - [ 14 ส.ค. 51 21:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนซื้อหลังแรกเมื่อ สิบสามปีที่แล้ว ก็ไม่มีเงินเก็บ  ตอนนี้ซื้อหลังที่สองก้ยังคงไม่มีเงินเก็บ  ซื้อรถเปลี่ยนรถสี่คัน ก็เลยมีชะตาแบบนี้  แต่ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้วไม่เปลี่ยนรถแล้วค่ะ  กำลังจะโอนบ้านก็เลยจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเอาไว้เผื่อฉุกเฉินเป็นค่าผ่อนบ้านซัก หกเดือน มันคงอยู่ที่จขกท ถ้าคิดว่าสามารถผ่อนได้  อยากซื้อบ้านเพราะกลัวราคาบ้านจะขึ้น  แล้วรายได้เราขึ้นตามไม่ทัน  ถ้ากังวลเรื่องค่าโอน สามารถต่อรองกับแบงค์ได้  ค่ามิเตอร์น้ำ ไฟ ค่าส่วนกลางล่วงหน้าก็ต่อรองโครงการได้ เราจะเสียเงินตอนโอนไม่เท่าไหร่เอง ถ้าไม่มีเงินเก็บก็หาโครงการบ้านที่ใช้เงินทำสัญญาไม่มาก และให้ผ่อนดาวน์ได้ ระหว่างผ่อนดาวน์ก้กันเงินไว้ส่วนหนึ่งเผื่อซื้อของเข้าบ้าน จะทำเป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ แล้วมันก็จะผ่านไปได้อีกครั้ง  สู้ๆ จากคุณ : แต้มดาว - [ 14 ส.ค. 51 21:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เพิ่งโอนครับ ยอมรับว่าตอนซื้อคืออารมณ์อยากได้บ้าน ก็เลยหาดูใน net นี่แหละครับ แล้วก็ได้มาหลังนึง โชคดีที่เจ้าของบ้านเป็นคนค่อนข้างรวยผมเลยได้ ทาวเฮ้าส์ 43 ตารางวา มาในราคา 1150000 บาท ผมยื่นกู้ได้เงินมา 1500000 บาท เหลือเงินแต่งบ้าน 350000 บาทครับ ส่วนบ้านที่ต้องปรับปรุงทางโครงการ L&H ก็ใจดีทำให้ใหม่หมด ตอนนี้รอบ้านเสร็จก็ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู้ได้ เพื่อนยังแซวว่า มรึงซื้อบ้านยังไงวะ กำไรตั้ง สามแสนกว่า! ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสครับ จากคุณ : ลูกหนี้รายใหม่ (n_jack) - [ 14 ส.ค. 51 22:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มายกมือชูจั๊กกะแร้ว่าตอนซื้อบ้านเราไม่มีเงินสักบาทเดียวจ้า ตอนนั้นเงินเดือนเหลือ 8,000 กว่า ๆ  ซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองราคา 950,000 บาท  ยื่นกู้ ธอส.750,000 บาท กู้สหกรณ์ 250,000 บาท เหลือ 50,000 บาท ไว้เป็นค่าโอนกับปรับปรุงบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ ผ่อนมา 3 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแล้ว  หักเบ็ดเสร็จเหลือเงินเดือนละ 4,000 บาท  ก็อยู่ได้จ้า จากคุณ : biebie999 - [ 15 ส.ค. 51 11:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ซื้อได้ครับ  ผมทำได้มาแล้ว ผมเริ่มจากผ่อนเงินดาวส์ 6 เดือน กับเจ้าของโครงการบ้านก่อน ช่วงที่ผ่อนดาวส์ ก็ทำสเตรจเมนท์ไปด้วย โดยการโอนเงินเข้า-ออก หลายๆแบงค์ แล้วก็เอาไปจ่ายเป็นค่าผ่อนดาวส์กับเจ้าของโครงการ เมื่อถึงเวลาบ้านสร้างเสร็จ ก็เอาไปเข้าธนาคาร ธนาคารให้ไม่หมดตามที่ต้องการกู้ เหลืออีกแสนกว่าบ้าน เมื่อธนาคารอนุมัติแล้ว ส่วนเกินเราก็ไปผ่อนต่อกับเจ้าของบ้านอีก ผมโชคดีที่ซื้อจากเจ้าของโครงการเป็นเศรษฐีบ้านนอก ใจดี เค้าสร้างบ้านด้วยเงินสดเขา แล้วจึงขายให้เราไปเข้าธนาคาร ส่วนที่เหลือ ก็มาผ่อนต่อกับเขาไปอีก เหมือนกับต้องผ่อนดาวส์ต่อไปอีก และก็ต้องผ่อนบ้านกับธนาคารด้วย แต่ก็หมุนเงินมาทัน ด้วยการกู้เงินจากสินเชื่อบุคคลเป็นแสนเลยเผื่อมาผ่อนต่อกับเจ้าของโครงการ หากอยากได้จริงๆ มันต้องทำครับ เพื่อเราจะได้มีบ้านของเราอยู่  ถามว่าช่วงนั้นเหนื่อยมั๊ย เหนื่อยครับ และมีความเสี่ยงด้วย แต่มาถึงตอนนี้แล้ว ภูมิใจครับ ที่เราทำได้ และก็มีความสุขกับบ้านที่เราอยู่ด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : อาร์ (pcom22) - [ 18 ส.ค. 51 14:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เราก็เป็นอีกคนนึงที่ตอนซื้อบ้านไม่เงินเก็บแถมยังเป็นหนี้อีกแสนกว่าๆ แต่เราอึดอัดที่จะอยู่บ้านแฟนก็เลยหาบ้านกันก็ได้บ้านในราคา 925000 บาทกู้ธอส.สวัสดิการ 100% แฟนกู้สหกรณ์อีกประมาณ 200000 บาทไว้ทำเรื่องโอนและซื้อเฟอร์นิเจอร์เราใช้เฟอร์นิจอร์ของ K_nc___t ราคาก็กลางๆ ค่ะ แต่ถ้าจขกท.จะซื้อเราแนะนำเฟอร์บางอย่างไม่ต้องยี่ห้อก็ได้เพราะสิ้นเปลืองเปล่าๆ ราคาก็ต่างกันหลายบาทอยู่เอาไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า เราตามใจแฟนเค้าอยากได้เราก็เลยซื้อค่ะ ก็ค่อยๆ เพิ่มเติมกันไปใช้บริการซื้อสินค้าเงินผ่อนบ้าง แต่สิ่งที่อยากแนะนำและสำคัญมากๆ กว่าเงินสำรองก็คือเรื่องการตรวจรับบ้าน เลือกบ้าน เพราะเรากับแฟนใจร้อนอยากได้บ้านอะไรก็ยอมเค้ารับปากจะทำให้ แต่ไม่ได้เป็นลายลักอักษรเราก็โอนบ้านแล้วตอนนี้ก็เลยมานั่งเสียใจ เฮ้อ..ไม่น่าเลย อีกเรื่องนึงนะคะถ้าพอจะเลือกได้ก็มองหาเพื่อนบ้านดีดี การคมนาคมสะดวก อาหารหาทานง่าย ซอยไม่เปลี่ยว และที่สำคัญถ้าเป็นหมู่บ้านที่เปิดเฟสเพิ่มเติมก็ลองถามเฟสก่อนหน้านี้ว่าหมู่บ้านรับผิดชอบดีไหม ของเราจ่ายค่าสาธารณูปโภคไป 3 ปี 12000 บาท กวาดถนน (ไม่มีเลย) รปภ. (เมา+หลับ) ซ่อมถนน (ลาดยางมะตอยไม่แจ้งก่อนบ้านไหนจอดรถไว้หน้าบ้านก็เว้นช่องไว้...น่าเกลียด) สรุปแล้วได้แค่เก็บขยะสัปดาห์ละ 2 วันค่ะที่ยังคงเก็บอยู่ ดูด้วยนะคะว่ามีโรงงานตั้งอยู่มากรึเปล่าเพราะจะมีกลิ่น หรือเสียงดังรบกวนได้ (บ้านเราเสียงไม่ค่อยมี มีแต่กลิ่นฤดูร้อนเหม็นสุดๆ ไมเกรนขึ้นเลย อยากมาทำงานทุกวันไม่ต้องหยุดเลยจะดีกว่าอ่ะ) ความคิดเห็นของเราอาจจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะที่ทนอ่านเราเองยังเซ็งเลย จากคุณ : mumu_pig - [ 20 ส.ค. 51 08:10:28 ]