Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    +*+*+คนมีลูก.. คนกำลังจะมีลูก..และคนที่ยังไม่มี... สำคัญมากลองอ่าน *+*+

    ไปเจอมา ได้แง่คิดดีอ่ะค่ะ

    โปรดอ่านให้จบ เป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านอุทาหรณ์จากการยัดเยียดการเรียนเกินไป ทำให้เด็กสติขาดเรื่องจริงที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต



    หวัดดีค่ะ... ก่อนอื่นจะเล่าเรื่องให้ฟังค่ะ...เพิ่งได้รับทราบมาเ หมือนกันจากปากของเพื่อนทั้ง
    น้ำตา...และคิดว่ามีประโยชน์ไม่มากก็น้อย...เพื่อนคน นี้ไม่ได้ติดต่อมานานประมาณเกือบๆ 4 ปีเห็น
    จะได้...คือไม่สนิทเท่าไร แต่พูดคุยกันได้ และตอนนี้เพื่อนมีลูกแล้วค่ะ...แต่มีเพื่อนน้อย เพื่อนแต่งงาน
    กับวิศกร(สามี)ที่เก่งมากค่ะ และตัวเพื่อนเองก็จบมหาลัยเอกชน ก็เกียรตินิยมอันดับ
    2ด้านภาษาต่างประเทศค่ะ คือเหมาะสมถึงไม่รวยมาก แต่ก็เกินปานกลางนะคะ พอแต่งงานก็ไม่ได้ติดต่อ
    ใคร แต่ทราบว่ามีลูก ณ. ปัจจุบันก็ 5 ขวบกว่าแล้วค่ะ ได้โทรไปหาเพื่อน เพระตอนนี้เรามีลูก 4 ขวบ
    กว่าค่ะ ก็หาข้อมูลเรื่องการเรียนในนี้เป็นหลัก และอาศัยถามคนอื่นด้วย และไม่อายที่จะถามด้วย เพราะ
    คิดว่ายิ่งรู้มาก ก็ยิ่งดี จึงได้โทรไปหาเพื่อนค่ะ และถามเรื่องลูก สิ่งที่ได้รับ คือ การปล่อยโฮอย่างแรง
    ร้องไห้จะเป็นจะตายเดียวนั้น เราก็ตกใจ เฮ้ยแกเป็นไรว ่า เป็นไร....



    มันบอกว่ามันอึดอัด มันจะบ้าอยู่แล้ว ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ทุกวันนี้มันถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิด...
    'ผิดอย่างร้ายกาจ' จากครอบครัวสามี และ แม่ตัวเอง มันปรึกษาใครก็ไม่ได้ เพราะพื้นฐานคือ...ทั้ง
    สามีและเพื่อน เป็นคนเสียเงินเท่าไรเท่ากัน แต่อายหรือไม่สมบูรณ์ไม่ได้ ดังนั้นมันจึงไม่ปรึกษาใครเลย
    เพราะมันอายและไม่อยากให้ใครดูถูกมัน เรื่องคือ... ลูกชายเข้าเรียนตอน 3 ขวบกว่านิดๆ ได้เข้า
    เรียนในระดับโรงเรียนดังเลย ค่าเทอมเป็นแสน คอมพร้อม เพื่อนดี สังคมดูดี เพอร์เฟ็กและโรงเรียน
    เป็นที่หมายตามักมาก ...ให้ข้อมูลผิดนิดค่ะ คือลูกชายเพื่อน อายุจะ 7 ขวบแล้วค่ะ ที่นี้โรงเรียนดัง ก็
    พ่อแม่ต่างก็ผลักและดันกันสุดฤทธิ์(มันบอกอย่างนี้ค่ ะ) เงินพร้อมซะอย่าง ก็คุยกันต้องติวอย่างนั้น ต้องครู
    คนนี้ ฝรั่งคนนี้ ต้องเรียนนี้เสริม เจ๋งค่ะ เพื่อนก็เป็นเช่นนั้น และมันบอกว่าก็มีการเม้มที่เด็ดๆ ไว้ไม่บอก
    ใครก็มี........ฮื่อ....



    ที่นี้... ลูกเรียนวันจันทร์ – ศุกร์ ยัน 6 โมงเย็น และเป็นอย่างงี้ มาตั้งแต่ อนุบาล 1 ถึง 3... เข้านอน ไม่เกิน 3 ทุ่ม เพราะต้องตื่นเช้าไปส่ง ตื่นตอน... ตี 5 ครึ่ง เพราะเพื่อนมีบ้านในหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่นอกเขตและห่างจากโรงเรียนค่อนข้างมาก ออกจากบ้านไม่เกิน 6 โมงเช้าเท่า
    นั้น และไปถึงโรงเรียน ประมาณเกือบ 7 โมง วันเสาร์...เรียนพิเศษเสริม เริ่ม 8 โมงเช้าถึง บ่ายโมง และ ตอนบ่าย 3 เรียนว่ายน้ำ จึงได้กลับบ้าน ส่วนวันอาทิตย์... ครึ่งวันเช้าเรียนที่สถาบันคุมองต์เสริม ครึ่งวันหลังผักผ่อน... ตอน 1 ทุ่มวันอาทิตย์ต้องทบทวนงานและเตรียมความพร้อมเพื่อไ ปเรียน
    วันจันทร์ และแนะนำจากพ่อและแม่ ไม่เกิน 3 ทุ่มเข้านอน



    และเหตุการณ์ที่มันเล่าแบบสะเทือนใจตอนหลังคือ....ลู กไม่มีเพื่อนในหมูบ้านเลยสัก
    คนเดียว...เพราะไม่ได้คุยกับใครอยู่แล้วสังคมเมืองขอ งแท้ ปั่นแต่จักรยานของเค้าเท่านั้น วันนั้น...
    วันอาทิตย์ลูกก็ปั่นจักยานไม่ยอมเข้าบ้าน แม่ก็เรียกให้มาอาบน้ำได้แล้ว 6 โมงเย็นแล้ว เตรียมกินข้าว
    และทบทวนการบ้าน. ลูกก็ไม่ฟัง เพื่อนและสามีโมโห บอกว่า เสียงดังนะคะ ....เข้าบ้านเดียวนี้ เข้า
    บ้านเลย ทำไมดื้ออย่างนี้ ยิ่งโตยิ่งดื้อ (เพื่อนว่าลูก) จะไม่ให้ขี่จักรยานอีกต่อไป ตัวสามีก็ไปดึงจักรยาน
    ออกจากลูกและแม่มาจับลูกเข้าบ้าน สามีบอกว่า... ป๋าจะโยนจักรยานทิ้งซะถ้าทำอย่างนี้อีก ลูกชายเข้า
    ไปกอดขาพ่อ... และยกมือไหว้ ป๋าอย่าทำ หนูไม่มีเพื่อนที่ไหน จักรยานคือ เพื่อนของหนู หนูมีจักรยาน
    เป็นเพื่อนเท่านั้น... ป๋าอย่าทำนะ ทั้งเพื่อนและสามีก็ไม่ใส่ใจอะไร เพียงต้องการให้เข้าไปอ่านหนังสือ
    เท่านั้น



    และ... อีกเหตุการณ์หนึ่งกว่าจะจับใจความได้มันร้องไห้ไม่หย ุดเพื่อนร้องไห้เหมือนจุด
    พลุเลย...ลูกกลับจากบ้าน คุยกับพ่อและแม่ อยากดู อุลตร้าแมน มดเอ๊กช์ บ้าง เพื่อนๆคุยกัน
    ที่โรงเรียน... เค้าไม่รู้เรื่องเลย เพื่อนยังบอกว่าที่บ้านไม่มีทีวีหรือไง (เด็กอนุบาลนะค่ะ)ทำให้เค้าไม่
    มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ... เค้าได้ดูแต่การ์ตูนเสริมความรู้ เช่น ถ้าดู UBC ก็ประมาณ ดอร่า หมาบลู
    ประมาณนี้... สามีและเพื่อนบอกว่า ลูกอย่าทำตัวไร้สาระได้หรือเปล่า ตอนนี้เพื่อนๆ ลูกอยากทำอะไรก็
    ปล่อยเค้าไป การ์ตูนมีแต่ความรุนแรงไม่เสริมความรู้อะไรเลย เราได้เปรียบ...เราใช้เวลาทบทวน
    และเรียน... ในขณะที่คนอื่นเค้าไร้สาระ... ลูกลองคิดดู...โตขึ้นลูกก็จะเป็นนายของคนพวกนี้ และคน
    พวกนี้จะไม่เหนือลูกเด็ดขาด การสอนจะประมาณนี้ตลอด... แต่เพื่อนบอกว่า เค้าและสามีทำดีที่สุดและ
    ให้ในสิ่งที่ดีที่สุด ที่คนทั่วไปบางทีก็ให้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป...



    ที่นี้หนักสุด... ต้องติว เข้า ป. 1 ที่นี้เวลาเล่นแทบน้อยมาก...แต่ก็ได้ติดที่ ป. 1 ตามที่หวังไว้
    แต่ก็ต้องเรียนเสริมเหมือนเดิม... ฯลฯ จนถึงวันที่ลูกทนไม่ได้... จนลูกโกรธจนตัวสั่น... และพูดว่า
    เค้าจะไม่เป็นคนดี... เค้าเบื่อที่สุดแล้ว... เค้าอยากเล่นฟุตบอล...เค้าอยากวิ่งเล่น... อยาก
    ดูการ์ตูน...อยากอ่านขายหัวเราะให้พ่อแม่อนุญาตอ่านใ ห้ฟัง... เค้าเกลียดพ่อและแม่...ทำไม
    ต้องบังคับ... ทำไมต้องอาย... ทำไม เค้าจะเป็นคนชั่ว...(เพื่อนมันบอกว่า ลูกพูดจนลิ้นพันกัน ตัวสั่น
    ไปหมด จับลำดับคำพูดยาก (ป1) อะไรก็พูดๆๆๆๆ ออกมา ร้องไห้ หน้าแดง กำหมัด ขว้างข้าวของ
    เสียงดัง ในระหว่างนั้น สามีและเพื่อนก็ใช้เสียงดังเพื่อหยุดพฤติกรรม แต่ไม่เป็นผล ยิ่งดัง ก็ยิ่งดังใส่
    จนเด็กเป็นลม คงสะสมมานาน



    พอผ่านไปสักระยะ... จนทางโรงเรียนมีจดหมายมาถึงเพื่อเชิญผู้ปกครองไปพบ พอไปถึง
    โรงเรียน ทางครูบอกว่า... ตอนนี้น้องมีอาการเหม่อลอย...ไม่มองกระดาน... และไม่มีปฎิสัมพันธ์กับ
    เพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว...ให้ทำอะไรทำได้หมด แต่ทำไปอย่างให้จบไป ไม่มีอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย บาง
    ครั้งก็มีน้ำตาเอ่อ... แต่ไม่ไหลออกมาเป็นระยะ และพูดน้อยลง ใช้สายตาและท่าทางคิด
    มากขึ้น....ฯลฯ เพื่อนและสามีไม่ยอมรับและไม่เชื่อ ก็สักพักใหญ่ๆ จึงไปพบหมอที่สมิติเวช หมอ
    แจ้งว่า...น้องกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างแรง บวกกับเก็บกดภายในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกมานาน...จน
    ระเบิดออกมาเหมือนคนเสียสติ เค้าไม่ได้บ้า... หรือพิการทางสมอง...แต่เค้าปิดกั้นทุกสิ่งทุก
    อย่างเอง... ไม่รับเอง... ไม่เอาเอง...ซึ่งตรงนี้น่าวิตกคือ แล้วเมื่อไรเค้าจะรับ และเปิดใจกลับ
    มาเหมือนเดิม สมาธิและจิตใจได้ถูกตัดด้วยตัวเค้าเอง...เค้าอยากอยู ่แต่ในโลกจินตนาการที่เค้าคิดว่า
    นั้นคือความสุขของเค้า...ไม่อยากออกมาเลยด้วยซ้ำ... คงต้องใช้เวลามากเพราะถ้าเรารู้ว่าเค้า
    สมาธิสั้น... เรามีทางแก้ ถ้าเค้าเป็นดาวน์...เรารู้วิธี แต่เค้าเลือกเองที่จะปิดตัวเองอย่าง
    เด็ดขาด...ถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นคนวิกลจริตทางความคิ ดในอนาคต ทุกวันนี้ผลคือ...สามีก็ยอมรับใน
    ระดับหนึ่ง แต่ก็เริ่มโทษภรรยา มากกว่าโทษตัวเอง ตอนนี้มันรับกรรมเต็มๆ ลูกไม่สามารถเรียนได้แล้ว
    คะ ...ต้องพบจิตแพทย์เด็กโดยตรง ถึงตรงนี้ มันบอกว่ามันเรียกลูกกลับมาไม่ได้แล้วจริงๆ มันเศร้ามาก
    ค่ะมันก็กำชับไม่ให้ดิฉันบอกใครเพระมันอาย...



    แต่เรื่องนี้มีความรู้มาก ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าอาย ...เมื่อทุกท่านได้อ่านเรื่องนี้จบแล้ว อย่าเก็บ
    เรื่องนี้เอาไว้คนเดียว...กรุณาส่งเมลล์ ไปบอกกับใครก็ได้หรือญาติพี่น้องของเราก็ได้เผื่อว่า เหตุการณ์ที่
    เล่ามานี้จะได้ไม่เกิดกับบุคคลที่ท่านรัก... เป็นรายต่อไป ..........

    จากคุณ : เจ้าหญิงจอมแก่น - [ 25 ส.ค. 51 17:14:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom