ความคิดเห็นที่ 1 Wash down ก็คือระบบส้วมราด แต่กดน้ำให้มันราดลงจากถังเอง ไม่มีการหมุนภายในชักโครก แค่ราดตรงๆลงไป ถ้าราดน้อย ( 3 ลิตร) ก็ล้างได้น้อย ถ้าราดมาก (6ลิตร) ก็สะอาดมากขึ้น หลายๆยี่ห้อก็เลยมีระบบกดน้ำน้อยเพื่อล้างถ่ายเบา และกดน้ำมากเพื่อล้างถ่ายหนัก เขาเรียกรวมว่ารุ่นประหยัดน้ำ ข้อเสียของ Wash down คือช่องลึกและซอกมุมเยอะ แต่ก็มีบางรุ่นที่หลุมไม่ลึกเท่าไหรและไม่ค่อยมีซอกมุม ทำให้ทำความสะอาดง่าย Siphon หรือระบบกาลักน้ำ ใช้ระบบให้น้ำหมุนวนแล้วค่อยๆลดระดับจนเกิดแรงดึงของสายน้ำลงไปเรียกว่า Siphon ดัง "โคร๊ก"ระบบนี้จะใช้น้ำเยอะ ส่วนใหญ่ใช้ประมาณ 9 ลิตรต่อครั้ง (บางรุ่นใช้แค่ 6 ลิตรก็มี แต่ถังพักจะสูงเพื่อให้มีแรงดันน้ำเพิ่ม) ถ้าใช้น้ำน้อยกว่านี้ มันก็จะไม่มีแรงดึง ชิ้นเดียวกับ 2 ชิ้นเป็นเรื่องของดีไซน์ ชิ้นเดียวจะมีถังพักน้ำต่ำและรวมเป็นท่อนเดียวกับที่นั่ง ดูทันสมัย แต่ความที่มันมีฐานพักน้ำต่ำ ทำให้ต้องใช้น้ำเยอะในแต่ละครั้ง (9 ลิตร) 2 ชิ้นจะมีถังพักน้ำสูงกว่า ตอนที่ชักโครกก็จะมีแรงดันสูงกว่า ในระบบ Siphon ยังแยกเป็นระบบย่อยๆอีก ตอนที่ชักโครกและน้ำไหลวนค่อยลดระดับ อาจมีท่อน้ำอีกท่ออยู่ล่างสุดของหลุมชักโครก ท่อนี้จะคอยพ่นน้ำให้มีแรงชักโครกมากขึ้น เรียกระบบว่า jet  ส่วนใหญ่จะเจอในแบบชิ้นเดียว ถ้ากดปุ่มชักโครกค้าง น้ำจากท่อนี้ก็ช่วยส่งสิ่งขับถ่ายลงไปได้อีก ทำให้ไม่ต้องกดชักโครก 2 ครั้ง เสียน้ำ 2 ที จากคุณ : MirrorLake - [ 1 ก.ย. 51 14:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วแบบไหนดีกว่ากันคะ ยี่ห้อไหนพอแนะนำได้มั้ยคะ เพราะกำลังทำห้องน้ำใหม่เหมือนกัน ไม่มีความรู้เลยคะ เห็นกระทู้แล้วเข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนค่ะ จากคุณ : mayosamurai - [ 1 ก.ย. 51 15:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เดินดูแบบต่างๆใน HP หรือบุญถาวรเลยครับ ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น จะเอาแบบประหยัดน้ำก็เป็น wash down แต่ถ้าจะเอาแบบสวยงามก็ siphon ถ้าห้องน้ำกว้าง แบบชิ้นเดียวที่รูปร่างแบนๆหน่อยก็ดูสวย แต่จะกินพื้นที่หน่อย แต่ถ้าห้องน้ำแคบ ก็อาจต้องเลือกแบบรูปทรงที่กระทัดรัด จากคุณ : MirrorLake - [ 1 ก.ย. 51 15:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งซื้อเมื่อเดือน สองเดือนที่ผ่านมา เดินหลายที่ ถามหลายคน ได้ความว่า ชอบดีไซน์แบบไหนให้ซื้อแบบนั้น เพราะมันกดลง ทั้งสองระบบ พนักงานส่วนใหญ่เขาบอกมาอย่างนี้จริง ๆ ค่ะ ที่มีขายอยู่ส่วนมาก จะเป็นระบบ wash down ระบบนี้เสียงจะดังกว่า แต่สามารถตักน้ำราดได้ในกรณีที่น้ำไม่ไหล แต่ถ้าเป็น Siphon จะตักน้ำราดไม่ลง (แต่ตักน้ำใส่ถ้งพักน้ำก่อนแล้วค่อยกดก็ได้ค่ะ ไม่เห็นยากเนอะ) ส่วน Siphon jet จะสังเกตจากมันจะมีรูเล็ก ๆ ด้านล่างอีก 1 รู ส่วนชิ้นเดียวจะตัดปัญหาเรื่องน้ำรั่ว น้ำหยด รูปทรงสวยกว่า (ในความคิดเรา) แต่ก็ราคาแพง บางคนยังบอกว่า มันเงียบกว่าที่เป็น 2 ชิ้นด้วย (แต่ไม่เคยลองฟังซะที) สำหรับรุ่นที่ เป็น Duo flush จะเป็น wash down แนะนำให้ซื้อยี่ห้อที่มีอะไหล่ ที่หาซื้อได้ทั่วไป และอย่าลืมดูว่ารุ่นนั้น ๆ ติดตั้งที่ระยะห่าง (จากกำแพง) ตามมาตรฐานที่บ้านเราใช้กันหรือเปล่านะคะ จากคุณ : เด็กหญิงนั่งส้วม - [ 2 ก.ย. 51 11:42:17 A:203.154.9.5 X: TicketID:165268 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อดีข้อเสียอีกอย่าง แบบ wash down มีน้ำขังในโถน้อย การเก็บกลิ่นไม่ดี เขาอกแบบให้มันมีน้อยจะได้ล้างลงได้ง่าย ส่วนแบบที่เหลือมีน้ำเหลืออยู่เยอะกว่า ออกแบบให้เยอะเพื่อให้เกิดแรง siphon ตอนที่มันหมุนวน จากคุณ : MirrorLake - [ 2 ก.ย. 51 12:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โถแบบประหยัดน้ำ 3.50 ลิตร ผมเคยใช้ ไม่ค่อยหมดจด ต้องกดสองครั้งทุกที เสียน้ำไป 7.0 ลิตร สุดท้ายมาลงที่แบบ มาตรฐาน คือ 6.0 ลิตร หรือมากกว่าครับ น้ำ supply เข้าชักโครก  ต้องมีแรงดันประมาณ 30 - 40 ปอนด์ ครับ ไม่งั้น มันจะเข้าช้า ไม่ทันใจ หรือไม่ก็ ใช้ อุปกรณ์ ของ fillpro ครับ ราคา 300 บาทมั้ง   น้ำมากน้อย ไหลเข้าแรงเท่ากัน เรื่อง ตำแหน่งวางชักโครกนี่สำคัญมากครับ มีสามเรื่องที่ต้องระวังคือ 1 ระยะเคลีย จาก ผนังที่ปูกระเบื้องแล้ว มาถึง จุดกึ่งกลางของรูท่อน้ำโสโครก 2. ระยะเคลีย ของ ตัวโถ กับ ด้านข้าง(กรณี ติดตั้ง ใกล้ ผนัง หรือ เคว์นเตอร์) 3. รูเข้า ท่อน้ำ ดี เพื่อเข้า ตัวโถ ชักโครก และรูน้ำดี ของสายชำระ ระยะเคลีย ทั่วๆไป จากผนังปูกระเบื้องแล้ว มาถึง center ของรูท่อโสโครกคือ 12 นิ้ว แต่สุขภัณฑ์ บางรุ่น มันมีระยะเพียง 8 นิ้ว  หรือ 10 นิ้วครับ น้อยราย ครับ แต่ต้องระวังให้จงหนัก อีกอย่างแม้คู่มือ บอกว่า 12 นิ้ว (มักจะเขียนว่า 30.50  ซม. ) แต่เอาเข้าจริง เป็น 28.50 ซม. ครับ ผมเจอมาแล้ว ต้องสกัดพื้น ย้าย ท่อโสโครกแทบแย่ ถ้าจะเอาให้แน่ๆ ต้อง วัดดูที่ร้านครับ ให้เขาจับหงายดู แล้ววัดเอาครับ ทีนี้ การวัด ต้องทดระยะ ของโถเก็บน้ำด้วย (ถ้าจะซื้อแบบ มีโถเก็บน้ำแยกชิ้น) อาจดูยุ่ง ยากไปนิด  ต้องยอม ครับ ผมเคยเจอ sale หลายคน กระตื้อรือล้นที่จะขายของแต่ไม่มีความรู้ รีบบอกว่า... “โอ้ยยยย อย่างนี้มันมาตรฐาน มีคู่มือติดตั้งให้เรียบร้อย ดูตามคู่มือ ไม่มีผิดพลาดดอก”...   ผมได้แต่ยิ้มๆ ( Kru ติดชักโครก มาร่วมร้อยตัวแล้ว) ไม่เห็นคู่มือมันตรงกับของจริงซักรุ่น เพี้ยนมากน้อยต่างกันครับ (ขณะเดียวกัน เขาก็มองผม ว่า คงจะเพิ่งเคยซื้อชักโครกเป็นตัวแรกในชีวิตมั้ง) เรื่อง รูน้ำดีก็เช่นกัน ทั่วๆ ไปรูน้ำดีที่จะเข้าโถน้ำ  จะอยู่ทาง ซ้ายของตัวโถ (ดูจาก การหันหน้าเข้ามองโถ) ดังนั้น ท่อสายชำระ จะต้องอยู่ ใกล้ๆ กันด้วย โดยรู supply สายชำระ ควรห่าง รู เข้าโถ ประมาณ 12.5 – 15.0  ซม อย่าห่างกว่านั้น  จะทำให้ไม่สวย ใกล้เกินกว่า 10 ซม จะขัน อุปกรณ์ ไม่ได้ และต้องอยู่ ต่ำกว่า ตัวโถเก็บน้ำ 15- 20 ซม สูงกว่านี้ ขันอุปกรณ์ไม่ได้ ต่ำมากเกินไป สายน้ำดี ของโถชำระจะยาวไม่พอ ทีนี้ ถ้าเรา ติดตั้งโถ ชิด ผนังทางซ้าย  เราจะวางสายชำระไว้ทางซ้ายไม่สะดวก ต้องแก้โดย ย้ายสายชำระ มาไว้ทาง ขวาของตัวโถ (เมื่อเรามองเข้าไป) การต่อท่อน้ำดี ที่ออกมาจากผนัง ต้อง เตรียมการให้มันออกมาทางขวาด้วย ไม่งั้น  งานท่อ จากผนังจะออกมาไม่สวย ระยะ การวาง หัวสายชำระ ควรวางสูงจากพื้น  55 – 65 ซม ระยะแนะนำคือ 60 ซม ถ้าเจ้าของบ้านตัวเล็ก หรือ ไม่สูง  ให้ใช้ระยะ 55 ซม ถ้าตัวโตสูงใหญ่ ควรใช้ 65 ซมครับ ระยะเคลียของช่องที่จะติดตั้ง โถชักโครก  อย่างน้อยที่สุด จะต้องมี 75 ซมครับ ตัวโถ จะกว้าง  40 – 55 ซม ครับ  และจะเหลือ ช่องว่างทางซ้าย- ขวาข้างละ  15 ซมครับ ทำให้นั่งแล้วไม่อึดอัด   ของฝรั่ง ใช้ 32 นิ้ว up หรือ 81.50 ซมครับ  ตามห้าง ใช้ระยะเคลีย 1.0 เมตรครับ บ้านไทย ใช้ 75 ซม ครับ ผมเคยใช้ 60 ซม แต่ดูอึดอัดไปนิดหนึ่ง ไม่ค่อยเหมาะ ญี่ปุ่น ใช้ 55 – 60 ซม ครับ ที่ดิน เขาแพงมาก 60 ซม. ของเขา เห็นว่าหรูแล้ว (ถึงแซวกันว่า ส้วมญี่ปุ่น ต้องถอยหลังเข้าไงครับ) จากคุณ : น้าพร - [ 3 ก.ย. 51 11:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถามถึง ข้อดีข้อเสีย นั้น ผมขอแนะนำว่า ให้ใช้รุ่น ทั่วๆ ไปที่ชาวบ้านเขาใช้กัน ไม่งั้นเกิน 10 ปีขึ้นไป หาอะหลั่ยไม่ได้ เช่น ฝารองนั่ง กะอุปกรณ์ภายในครับ คนรู้จักผม ต้องซื้อฝารองนั่งชุดละ 4,700 บาท ขณะที่ตัวโถ ราคา 16,000 บาท เมื่อ 12 ปีที่แล้ว อย่างนี้  เปลี่ยนโถใหม่ดีกว่า ราคา โถใหม่ ที่สวยพอดูได้ ไม่เกิน 5,000 ครับ โถบางรุ่น อุปกรณ์ภายใน สุดพิสดาร  แล้ว จะเปลี่ยนอย่างไร ถ้าในท้องตลาดไม่มีขาย จากคุณ : น้าพร - [ 3 ก.ย. 51 11:51:54 ]