ความคิดเห็นที่ 1 เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ จากคุณ : changcp - [ 1 ก.ย. 51 17:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชีวิตมันไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงวันไหน เพราะฉะนั้น ทำทุกวันให้มีความสุขคับ  วันข้างหน้าเป็นยังไงค่อยว่ากัน  แต่ต้องไม่ลืมบอกตัวเองไว้เสมอว่า "อย่าเสียใจกับอะไรที่เราเลือกเอง" จากคุณ : i_am_np - [ 1 ก.ย. 51 18:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เก็บเงิน 1 ล้านได้นี่เก่งนะครับ แต่อยากบอกว่ามันไม่ได้มากมายซะจนใช้ยังไงก็ไม่หมด ถ้าจะเอาไปลงทุน คุณคาดคะเนหรือยังว่ากิจการที่จะทำ ต้องใช้เงินลงทุนก้อนแรกเท่าไหร่ และเงินหมุนเวียนต่อเดือนเท่าไหร่ อยากให้คิดแบบเลวร้ายเลยว่าถ้าขายไม่ได้จะทนได้กี่เดือน แล้วช่วงเวลาระหว่างนั้น เราจะมีเงินใช้ยังชีพพอรึเปล่า คือเราสนับสนุนคนที่มีความฝันนะ และเราก็อยากทำธุรกิจของตัวเองเหมือนกัน แต่ในความรู้สึกเรา ร้านกาแฟ หรือร้านซาลาเปา มันเป็นเทรนด์รึเปล่า มันใช่สิ่งที่คุณถนัด หรือชอบจริงๆรึเปล่า ถ้าแก่นของธุรกิจมาจากความสามารถพิเศษส่วนตัวของคุณ มันอาจจะสำเร็จง่ายหน่อย แต่ถ้าต้องพึงพาสูตรอร่อยของคนอื่น ธุรกิจอาจเหนือยหน่อยนะ จากคุณ : ปันคุน (ปันคุน) - [ 1 ก.ย. 51 18:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ของแบบนี้ต้องลองครับ อาจจะขาดทุน เสมอตัว หรือกำไลเรี่ยราดเลยก็ได้ ค้าขายส่วนมากขึ้นกับทำเลครับ ถ้าคิดว่าทำเลดีรับรอง มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว จากคุณ : Rapter - [ 1 ก.ย. 51 18:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1 ล้าน ทำอะไรไม่ได้เลย จากคุณ : สีไม้น้ำ - [ 1 ก.ย. 51 18:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีรุ่นน้องที่ออฟฟิศค่ะ เบื่องานประจำเหมือนกัน เลยไปลงทุนทำร้านกาแฟกับแฟน ให้แฟนขาย+บริหาร แต่ตัวเองก็ยังทำงานประจำนะคะ น้องเค้าบอกว่ารอให้อยู่ตัว และแน่ใจได้ว่า มีลูกค้าและขายได้จริง สักระยะแล้วถึงจะลาออกค่ะ เผื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจนะคะ จากคุณ : j (judie) - [ 1 ก.ย. 51 18:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คิด ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ  แต่ไม่มีเงินเก็บซักบาท  กว่าจะเก็บได้แค่พันเดียวนี่เลือดตาแทบกระเด็น คุณ จขกท. เก่งจังเลย  สู้ ๆ จากคุณ : biebie999 - [ 1 ก.ย. 51 18:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยคิดเหมือนกันเลย เริ่มเก็บเงินอย่างจริงจังประมาณ 3 ปี เนื่องด้วยจะซื้อบ้าน ทำให้มีเงินเก็บเป็นก้อนได้ พอเก็บได้หลักล้าน ก้อคิดว่าจะลาออกจากงานประจำ มาทำอะไรเอง แต่ตอนนี้นำเงินไปซื้อบ้านส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ลงทุน สนับสนุนให้ทำธุรกิจ แต่ต้องทำวิเคราะห์ทางการเงิน การตลาด  ทำ Break Even ,cash flow ดีๆ ค่ะ จากคุณ : Nelah30 - [ 1 ก.ย. 51 18:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ควรออกจากงานโดยไม่จำเป็น เพราะการทำงานทำให้มีรายได้ ทุกเดือน ถ้าไม่มีความสุขในงาน  ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คิดทางบวกเพิ่มขึ้น  ศึกษาธรรมะดูบ้าง  ปรับวิธีทำงาน ฯลฯ จะช่วยให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น  เพราะทุกข์ลดน้อยลง +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ วงเงินที่ต้องมีเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณ  มี 3 เรื่องที่เกี่ยวข้องกัน คือ 1. ต้องหาตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อปีที่จะใช้หลังเกษียณ 2. จะมีอายุยืนเท่าไหร่หลังเกษียณ 3. ปัญหาอัตราเงินเฟ้อในช่วงเกษียณ ข้อแรก เงินที่จะพอใช้หลังเกษียณจนถึงวันสุดท้าย จะใช้ประมาณ 50 % ของรายจ่ายปีสุดท้ายก่อนเกษียณ ข้อสอง ข้อมูลสำรวจปัจจุบันบอกว่า ผช. จะมีอายุประมาณ 70-75  ปี ผญ. จะมีอายุประมาณ 75-80 ปี ข้อสาม ถ้าเงินเฟ้อแค่ 3 % ต่อปี ผ่านไป 10 ปี เงินต้นเหลือ 70 % ถ้าเงินเฟ้อแค่ 3 % ต่อปี ผ่านไป 20 ปี เงินต้นเหลือ 40 % ถ้าเงินเฟ้อมากกว่านี้  ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มมากกว่า 3 % ค่อนข้างแน่ หลักการให้มีเงินพอใช้หลังเกษียณจนถึงวันจากโลกนี้ไป ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การใช้ชีวิต ( Life Style ) และการนำเงินไปลงทุน  หรือทำกิจการส่วนตัว ตัวอย่าง ใช้เงินปีละ 10 % จากเงินต้น แต่ได้เงินเพิ่มจากการลงทุน 5 % จะมีเงินใช้เพียง 14 ปี ถ้าใช้เงินปีละ 6 % จากเงินต้น แต่ได้เงินเพิ่มจากการลงทุน 5 % จะมีเงินใช้ถึง 36  ปี ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เงิน 1 ล้าน แม้จะเป็นเงินพอสมควรในปีนี้ (51) แต่อายุแค่ 33 ปี  ยังอีกนานกว่าจะถึง 75-80 ปี ถึงไม่มีหนี้สิน  อยู่อย่างประหยัด  ก็อาจมีปัญหาได้ เพราะในอนาคตเงินเฟ้อน่าจะมากกว่า 5 % และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าน้ำมันแพงขึ้นเรื่อย ๆ และน้ำมันมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง จาก จขกท. การเปิดร้านกาแฟสดและขายซาลาเปา รายได้สักเดือนละ 20,000 บาทก็พอแล้ว..... น่าจะมีรายได้ไม่แน่นอนในอนาคต เพราะเป็นอาชีพที่คนนิยมทำเป็นธุรกิจส่วนตัว แต่เนื่องจากคู่แข่งเยอะ เป็นของกินที่ราคาแพง อาจทำให้คนชลอการทานอาหารประเภทนี้  นาน ๆ ทานที อาจทำให้รายได้ไม่แน่นอนหรือลดลงเรื่อย ๆ ได้ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ การลงทุนทำธุรกิจ ควรเริ่มจากธุรกิจเล็ก ๆ ก่อน อย่าลงทุนครั้งแรกด้วยเงินก้อนใหญ่ ๆ ถ้าธุรกิจดี  มีช่องทางเติบโต  ค่อยเพิ่มเงินลงทุน ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ในอนาคตสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต คือ 2 ในปัจจัยสี่  ได้แก่ ที่อยู่อาศัยและอาหาร แค่มีที่ดิน ที่น้ำไม่ท่วม  ชลประทานเข้าถึง สัก 5-10 ไร่ ก็จะมีที่ดินไว้ปลูกบ้านอยู่  มีที่หลับนอน มีที่ดินไว้ปลูกผักสวนครัวต่าง ๆ  ผลไม้  ไว้กินทุกวัน เหลือยังขายได้ เลี้ยง เป็ด ไก่  เพื่อมีไข่ไว้ทาน ขุดบ่อเลี้ยงปลา  เพื่อกินเป็นอาหาร  และเหลือยังขายได้ ฯลฯ คนเรามีบ้านอยู่ + มีอาหารกินทุกวัน เงินทองก็ไม่ต้องใช้ น่าจะสามารถมีชีวิตแบบพอเพียง  อย่างมีความสุข ไปจนถึงวันตายได้ ลองอ่านและคิดดูนะครับ  อาจได้ประโยชน์บ้างครับ +++++++++++++++++++++++++++++++++ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน แนะนำให้ลองซื้อหนังสือ "ออมก่อน  รวยกว่า" ของ นวพร  เรืองสกุล มาอ่าน  ราคาประมาณ 150.-  บาท จะได้มีความรู้บ้างในเรื่องการออม  การวางแผนการเงินส่วนบุคคล   การลงทุน ขอให้โชคดีครับ แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 51 18:58:42 จากคุณ : Learn and Live - [ 1 ก.ย. 51 18:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คิดเยอะๆครับ ความฝัน ความอยาก กับความจริงในชีวิตต่างกันนะ ตอบจากความเห็นส่วนตัวว่าอย่าดีกว่าครับ จากคุณ : F WAVE - [ 1 ก.ย. 51 19:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก็ทำงานไปด้วย แบ่งเวลามาทำร้านด้วยก็ได้นิ คุณคิดว่าออกมาแล้วมันจะได้กำไรขนาดนั้นหรอ (ในช่วงเดือนแรกๆ) ร้านค้าน่ะ กว่าทุกอย่างจะลงตัว กว่าลูกค้าจะติด กว่าจะคืนทุน ใหนทุกๆเดือนยังต้องมีเงินจ่ายค่าต่างๆอีก (อย่างค่าของ ค่าจ้างลูกจ้าง ค่าเช่าร้าน) ลองนึกดู ค่าเซ้งที่ เท่าไร ตกแต่งร้าน โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ต่างๆ ถ้าออกจากงานมาเลยเราว่ามันเสี่ยงเกินไปอ่ะ แต่ถ้าทำร้านไปด้วย ทำงานประจำด้วยอย่างน้อยก็ยังมีเงินเดือนทุกๆเดือนอยู่อ่ะค่ะ ท่าทาง จขกท จะเบื่อจริงๆ ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆคิด จากคุณ : คิน * คาเนะ - [ 1 ก.ย. 51 19:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อเด็กๆ เคยคิดว่า ถ้ามีเงิน 1 ล้าน เราคงจะรวยน่าดู เมื่อเดือนก่อน มีเงิน 1 ล้าน คิดว่าน้อยจัง เมื่อนำไปจ่ายค่าบ้าน ราคา 5 ล้าน เงินจะมาก...จะน้อยอยู่ที่ตัวเรามองค่ะ แต่มีเงินมาก ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขมาก สู้มีเงินน้อยหน่อย แต่มากด้วยความสุขดีกว่าค่ะ ขอให้ท้ายสุด ได้ทางออกที่มีความสุขนะคะ ^-^ จากคุณ : pugka - [ 1 ก.ย. 51 19:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่าเพียงพอค่ะ เราเห็นคนขายก๋วยเตี๋ยวแบบแฟรนไซน์ ที่สะพานลอยหน้าหมู่บ้าน เค้าลงทุน 5 หมื่น พร้อมอุปกรณ์ทุกอย่าง และได้รับการอบรมการปรุง สอนการคำนวณต่างๆ และเทคนิคการขายด้วย เค้าขายดีนะคะ เราคิดว่า จขกท ขายกาแฟ แต่มีน้ำปั่นด้วย และน้ำอื่นๆ ที่หลากหลาย ก็น่าจะขายดีนะคะ ลองเปิดร้านแล้วจ้างคนที่ไว้ใจได้มาขายก่อน ส่วนกลางวันก็ทำงาน ถ้าขายดี ค่อยลาออกค่ะ เป็นเจ้าของกิจการของตนเอง ย่อมมีโอกาสที่จะร่ำรวยกว่าอยู่แล้วค่ะ สู้ สู้ ค่ะ จากคุณ : MeMeBe - [ 1 ก.ย. 51 20:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่มเติมจากคห.บน ๆ คิดเรื่องเจ็บป่วยด้วยครับ เจอกับตัวเองเลย ออกจากงานตอนต้นปี 49 กะว่าจะทำอะไรเล็ก ๆ กับเพื่อน พออะไร ๆ มันยืดเยื้อ ต่างคนต่างแยกย้าย เพื่อนก็กลับไปทำงานต่างจังหวัด ตัวเองก็มีงานก็อกแก็กไปตามเรื่อง เมื่อปีก่อน (ปี 50 ปลายปี) ป่วย หลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องขยายหลอดเลือดใส่ขดลวด ค่าใช้จ่ายแสนกว่าบาท ถ้าหนักกว่านี้แล้วต้องทำ bypass คงอีกหลายตัง ดีว่าตอนออกมาทำประกันสังคมแบบประกันตนเองทัน ค่าใช้จ่ายประกันสังคมออกให้หมด ไม่งั้นล้านนึงแบบจขกท. ถ้าป่วยหนัก ๆ รักษาแป๊บ ๆ ก็หมดแล้ว คิดเรื่องค่ารักษาพยาบาล กับรอบคอบเรื่องประกันสังคมเผื่อไว้ด้วย ถ้าขาดหลังออกจากงานเกินระยะที่กำหนดอาจมีปัญหา อายุเข้าเลข 4 อาการป่วยที่สะสมมาสมัยวันรุ่นชักเริ่มถามหา ตอนตัดสินใจออกจากงาน ก็มีคนเตือนให้ทำแบบคห.บน ๆ ให้ทำคู่ไปจนเข้าที่แล้วค่อยตัดสินใจออกอีกทีครับ แต่ตอนนั้นตัดสินใจปุบปับ ก็ได้อย่างเสียอย่างนะ... ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : NmL - [ 1 ก.ย. 51 20:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้ต้องลองจริงๆ ครับ บอกไม่ได้ แต่ก่อนลองต้องเตรียมข้อมูลดีๆ - ทำเล - รสชาติอาหารของเราเข้าขั่นให้ลูกค้าทานได้ทุกวัน หรือวันเว้นวันโดยไม่เบื่อได้ไหม ถ้ารสชาติธรรมดามากๆ ต้องไปขายเน้นทำเลแถว Office ครับ - มีทุนเผื่อ ไปไม่รอด อย่าลงทุนใหญ่ๆ เริ่มทำจากเล็กๆ ไม่กี่หมื่น แล้วค่อยขยายๆ ไป ไม่เสียหลายครับ สู้ๆครับ จากคุณ : Kong - [ 1 ก.ย. 51 20:34:26 A:58.8.252.188 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เก่งน๊าเก็บได้เป็นล้าน เราอ่ะมีแต่หนีไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 1 ก.ย. 51 20:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้อยไป จากคุณ : ส/305 - [ 1 ก.ย. 51 21:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อยากให้ลองทำแบบยังไม่ลาออกน่ะคะ เรากับแฟนเคยลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ขาดทุนไป 3 แสนกว่า ส่วนครั้งที่ 2 ดูดี รายได้เหลือเดือนละ 30000 ในช่วง 2 ปีแรก หลังจากนั้นเริ่มน้อยลงเรื่อยแต่พอประคับประคองได้เรื่อย โดยแฟนอยู่ร้าน เราทำงานประจำ ก็อยู่มาอีก 6 ปีโดยประมาณก็ไม่คุ้มเวลาที่ต้องดูแล สุดท้ายเลิก แฟนก็ออกมาทำงานบริษัท ตอนนี้รายได้ 2 คนดีขึ้นมาบานเลย เราว่ามันแล้วแต่ดวงด้วยนะ ถ้าดวงดี ก็ไปฉลุย ประสบการณ์และความรู้เข้าใจในสิ่งที่จะทำก็สำคัญ แค่ชอบอย่างเดียวไม่พอ ถึงตอนนั้นจริงงานส่วนตัวก็เครียดไปอีกแบบ เพราะได้มากเราได้เอง เสียหรือขาดทุนก็เรารับเอง ต้องคิดเผื่อข้อนี้ด้วยคะ จากคุณ : Lesson - [ 1 ก.ย. 51 21:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ทำเลไหนคะ ? มีแหล่งซื้อเม็ดกาแฟถูกไหม ? กะว่าขายได้วันละเท่าไหร่ ? คือเห็นเขาขายๆกัน ส่วนใหญ่ net สุดท้ายไม่ได้อะไรเยอะนะ ยกเว้นร้านที่เด่นๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเงินหมุน คือเหมือนมีเงินผ่านมือเยอะ อยากให้คิดดีๆ ถ้าคิดทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็แล้วแต่ เพราะชีวิตเป็นของเรา แต่เก็บเงินเก่งมาก อายุเท่านี้เก็บได้ขนาดนี้แล้ว และท้ายสุด ที่ทำงานทุกที่มีสิ่งน่าเบื่อ อยู่ที่เราจะบริหารมันอย่างไร จากคุณ : สารภีดง - [ 1 ก.ย. 51 22:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งานนี้คุยกันยาว เรื่องของแต่ละคนมีที่มาต่างกัน ผมออกจากงานประจำได้ 4 ปีแล้ว มีเงินเก็บน้อยกว่า จขกท.เยอะ แต่อาศัยเตรียมการมาก่อน พูดง่ายๆ คือ ผมไม่ออกมานับ 1-2-3  แต่ผมออกมานับ 5-6-7 ครับ  เพราะผมเริ่มลองงานของผมก่อนออกจากงานประจำ จนสักพักค่อยๆออก แต่รุ่นพี่ก่อนหน้านั้น ออกมาได้ 1 ล้าน ตอนนี้เหลือไม่เท่าไร เพราะไม่ได้วางแผนให้ลุ่มลึก ไม่ได้สร้างฐานก่อนทำจริง รวมทั้งหนักไม่เอา เบาไม่สู้ อย่าเห็นใจครับ ณ วันนี้ ผมมีความสุขดี มีทุกอย่างที่เราควรจะมี เพราะผมวางความคิดฝันแค่พอตัวครับ  คุยกันเรื่องนี้สนุกดีครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : pixa - [ 1 ก.ย. 51 22:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามีเงิน 1 ล้านแล้วออกจากงานเลย มี 2 แบบค่ะ แบบที่ 1 วางแผนไว้อย่างดีแล้ว จะเกิดอะไรในอนาคตถือว่าเต็มที่แล้ว แบบที่ 2 ไม่คิดอะไรมาก ลูกบ้า จะเกิดอะไรในอนาคตถือว่าเต็มที่แล้ว สรุป คือ น่าจะทำงานประจำไปก่อน แล้วทำธุรกิจอื่นเสริม จนคิดว่ารายได้นิ่งแล้ว ค่อยลาออกดีกว่าค่ะ (ส่วนตัวไม่คิดลาออกจากงานประจำ เพราะทำด้วยใจรัก แล้วก็มีความสุขด้วย เลยได้รายได้ทั้งประจำแล้วก็ธุรกิจเสริมค่ะ) ก็ขอให้ จขกท คิดให้รอบคอบ แล้วก็ตัดสินใจ เพราะเราทำดีที่สุดแล้วนั่นเอง โชคดีค่ะ จากคุณ : อนินดิตา (anindita) - [ 1 ก.ย. 51 22:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าทำได้อย่างที่คิด ก็น่าจะอยู่ได้  รู้จักตัวเองดีใช่ไหม คิดเรื่องป้องกันความเสี่ยง พวกประกันต่างๆ คนเราสมัยนี้ เป็นอะไรได้ง่ายๆ เกิดจากสภาพสังคม วิถีชีวิต ลองไปดูกระทู้แนะนำสวนลุม การจะมีชีวิตที่เป็นสุขปราศจากโรคภัย บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราพยายามหาทรัพย์สิน เพื่อปกป้องเรา แต่ในอีกนัยยะ มันกำลังทำลายเราเหมือนกัน จากคุณ : พ่อไม้ - [ 1 ก.ย. 51 23:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ชอบงานที่ทำ หรือไม่ชอบที่ทำงานคะ  ถ้าไม่ชอบที่ทำงานก็เปลี่ยนงาน ถ้าไม่ชอบงานที่ทำก็ลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดูก่อน    อย่าเพิ่งออกจากงาน ณ ตอนนี้คิดดูดีๆ ก่อนว่าไม่อยากทำงานเพราะอะไร แล้วแก้ตรงนั้น จขกท อาจค่อยๆ ลองทำไป หาทำเลดีๆ และเลือกเอาที่ชอบจริงๆ แล้วค่อยออกจากงานนะคะ จะได้ไม่ต้องนึกอยากย้อนเวลา    ดิฉันเคยออกจากงานมาขายก๋วยเตี๋ยว พระเจ้า เกิดมาไม่เคยที่จะต้องออกแรงกาย ลำบากกายสุดๆ เลยไม่คิดจะเอาอีกแล้ว ถ้าจะต้องค้าขาย จะเอาอะไรที่ใช่กับตัวเองค่ะ     ตามคห ด้านบน เงินล้าน หมดเร็วจริงๆ  นับถือจขกท จริงๆ เก็บเงินเก่งจัง จากคุณ : แต้มดาว - [ 2 ก.ย. 51 00:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แบบ #21 แนะนำครับ ตอนผม 26 ผมเคยคิดแบบเดียวกับพี่ แต่ผมออกมาเลยไม่คิดอะไรมาก แต่มันไม่ได้ดีอย่างที่คิดว่า จากมีเงิน 1 ล้าน เหลือ 1 แสนภายในปีกว่าๆ เพราะไม่ได้ว่าแผนไว้อย่างรอบคอบ แต่โชคดีมากที่ยังพยุงตัวกลับมาได้ เพราะฉนั้นแนะนำแบบ คห#21 ให้ทำงานประจำไป ลองทำธุรกิจไป พออยู่ตัวคิดว่ากำไรเฉลี่ย 20000 บาทต่อเดือนแล้วอยู่ได้ ค่อยออกมาครับ จากคุณ : vitchy8873 - [ 2 ก.ย. 51 00:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเป็นงานที่รักและถนัดบวกกับทำเลเหมาะสมก็น่าจะอยู่รอดได้ครับ 5-6 ปีก่อนผมก็เก็บเงินได้ล้านกว่าบาท แล้วก็ลองออกมาทำงานอิสระ งานก็ไม่เยอะนัก มีงานทำประมาณ 40-50% เมื่อเทียบกับตอนเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่สำคัญคือไม่ควรมีภาระหนี้สิน เพราะเงินเข้ามาไม่แน่นอน แต่เฉลี่ยแล้วก็ไม่ต่ำกว่าเงินเดือนที่เคยได้รับ ตอนนี้ก็ยังอยู่ได้โดยไม่เคยไปแตะต้องเงินที่เคยมีอยู่ ถ้ามีงานทำเต็มมือแบบอยู่บริษัทคงรวยแน่ๆ มีข้อเสียคือไม่มีเครดิตในการกู้เงิน เพราะไม่มีรายได้ประจำ ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ มีเงินเก็บมากแค่ไหนก็ไม่มีน้ำหนัก จากคุณ : freefeel - [ 2 ก.ย. 51 00:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าออกไปทำธ.ส่วนตัวแล้ว จะกลับมาเป็นลูกจ้างลำบากนะครับ จากคุณ : keab (keab_h) - [ 2 ก.ย. 51 00:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เปิดหน้า มหาลัยครับ แถวมหาลัยผม ผมไปถามเค้าว่าขายได้วันเท่าไร เขาบอกว่าได้วันละ 2000-2500 บาท แล้วถามต่อว่าค่าเช่าที่เท่าไร (เช่าทีหน้าบ้านคนอื่นเล็กๆ) เขาบอกว่าเช่าเดือนละ 1500 บาท ก็ลองบวกลบคุณหาร ดูครับว่าเดือนนึงมีรายได้เท่าไร ขายแก่วละประมาณ 20 บาทครับ แต่ช่วย แต่ช่วงปิดเทอม เขาบอกว่าขายได้ประมาณ 1000 บาท จากคุณ : goblue - [ 2 ก.ย. 51 01:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 "รายได้สักเดือนละ 20,000 บาทก็พอแล้ว" รายรับ หรือ กำไรครับ?? ถ้ากำไร 20,000 / เดือน แสดงว่าขายได้ประมาณ 500 - 1,000 แก้ว / เดือน ประมาณ วันละ 20 แก้ว ฟังดูเหมือนไม่เยอะ น่าจะทำได้ อันนี้มันอยู่ที่หลายปัจจัยมากกกกก - ทำเลดีๆ (ค่าเช่าเดือนละ 30,000 - 50,000 บาท จ่ายล่วงหน้า 3 เดือน) - บาริสต้่าฝีมือดี (10,000 - 30,000 / เดือน) - พนักงานทั่วไป 2 x 7,000 / เดือน - ค่าตกแต่งร้านตอนเริ่ม (200,000 - 500,000) - ค่าอุปกรณ์ (100,000 - 300,000) อันนี้ผมประมาณจากที่เคยไปกินร้านเล็กๆ ประมาณ 10 โต๊ะ พนักงานรวมคนชงกาแฟประมาณ 4 คน (ไม่รู้มีที่หลังร้านอีกหรือเปล่า เผื่อ +1 ละกัน) กาแฟเย็นราคาประมาณ 50 - 80 บาท/แก้ว (เย็น/ปั่น) กาแฟร้อนราคาประมาณ 35 - 70  บาท/แก้ว เงินเริ่มต้น คงต้องหาค่าเช่าล่วงหน้า 3 x 30,000 - 3 x 50,000 ประมาณ 1 - 1.5 แสน ค่าอุปกรณ์และตกแต่ง ประมาณ 4-6 แสน (กะเอากลางๆ) ค่าวัตถุดิบเดือนแรก ประมาณ 1-2 หมื่น คร่าวๆ คงต้องลงทุน เกือบๆล้าน แต่ถ้าทำแล้ว ไปได้ ก็ติดลมบนไปเลย ถามว่า ลงทุนน้อยๆ ตกแต่งร้านพอดูได้ ร้านเล็กๆ ไม่ดีกว่าเหรอ อันนี้ ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่า ลงทุนน้อย ก็ขายได้น้อย หรือขายไม่ได้เลยอ่ะ มันต้องเงิน ต่อ เงิน เงินน้อย ก็ต้องหวังฟลุก ถูกหวยเอาครับ ผมอยู่เชียงใหม่ ร้านกาแฟเยอะมากกกกกกกกกก ร้านมีชื่อเสียง แต่ถ้าไปอยู่ทำเลไม่ดี ก็อยู่เงียบๆไปซัก 3-4 เดือน แล้วก็ปิดไป ร้านเล็กๆ ที่เปิดขำๆ ก็ขำไม่ออก ลองมาเดินเล่นแถว ถ. นิมมานเหมินทร์ ดูได้ครับ ซอยไหนไม่มี ร้านกาแฟ นี่แปลกมากๆ ไม่ได้ตั้งใจบั่นทอนความรู้สึกนะครับ แต่ผมว่า ถ้าเป็นคนเคยค้า เคยขาย คงไม่ถามแบบนี้ ยังไงก็คิดเยอะๆ ดีกว่าครับ ผมเองเป็นคนชอบกินกาแฟ แต่ไม่ค่อยนิยมไปร้านใหม่ๆ เท่าไรนัก เพราะบางที รสชาติอาจจะยังไม่อยู่ตัว ต้องรอให้เปิดนานสักหน่อย ค่อยไปลอง ถ้าเอาปลอดภัย ก็ทำงานไปด้่วย ทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ดีกว่าครับ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 2 ก.ย. 51 01:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำงานที่เดิมไปก่อน ถ้ามีเวลาว่าง ส-อ ก็ไปเปิดร้านกาแฟเสริม จากคุณ : delta- force - [ 2 ก.ย. 51 07:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เราคิดว่า แทบทุกคนจะมีความคิดแบบคุณนี่แหละค่ะ อยากเป็นนายตัวเอง อยากเป็นเจ้าของกิจการ เพราะว่าทำงานประจำจะต้องเจอกับปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่องงาน เรื่องคน เรื่องเจ้านาย เราเองก็เป็นค่ะ แต่ยังต้องทนทำงานต่อไป เพราะเรารู้ตัวเราดีว่า ไม่มีความ สามารถในการค้าขาย (แม้ที่บ้านจะมีกิจการค้าขายก็ตาม) ถ้าให้แนะนำ อยากให้ทดลองดูก่อน โดยที่ยังไม่ลาออกจากงานประจำ คุณลองไปขาย ในวันเสาร์-อาทิตย์ดูก่อนดีมั้ย ดูว่ารายได้เป็นยังไง รู้สึกชอบมั้ย เพราะบางที พอทำเข้าจริงๆ คุณอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะการค้าขายก็มีอุปสรรคของมัน เหมือนกันค่ะ ส่วนเงิน 1 ล้านบาท เราว่ายังไม่พอหรอกค่ะหากจะลาออกไปทำอะไร ในตอนนี้ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีอีกด้วย อยากให้ลองคิดให้ดีก่อนค่ะ จากคุณ : บานไม่รู้โรย - [ 2 ก.ย. 51 07:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชื่นชม จกท.ด้วยอีกคน เก็บเงินเก่งจัง เพราะทำงานมา10กว่าปีมีไม่ถึงหลักแสนเลย เง้อ.... ภาวะเงินเฟ้อเงิน 1 ล้านสำหรับปี51 เราว่าน่ากลัวนะ    อย่างที่หลาย คห.ก่อนนี้พูดไว้ได้หลักคิดเยอะเลย เห็นด้วยกับทุก คห. ยังงัยก็เอาใจช่วยนะคะ รออ่าน คห.ต่อไปน่าจะได้อะไรดี ๆ เยอะ ห้องนี้เค้าน่ารักกันทุกคนค่า........ จากคุณ : หนูดาหลานยายเหงี่ยม - [ 2 ก.ย. 51 09:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คิดเหมือนคห. 28 รายได้หรือว่า กำไร คะ เดือนละ 2 หมื่น?? ถ้ารายได้..ก็ต้องคิดว่า จะต้องขาย กาแฟ แก้วละ กี่บาท เดือนละกี่แก้ว ถึงจะได้ 2 หมื่น.. ถ้าจำนวนแก้วที่คิดไว้ มากไป.. ก็เอาราคาซาลาเปา ที่คิดจะทำ มาหาร ว่า จะต้องขายลูกละกี่บาท แล้วจะต้องขายได้กี่ลูก ถึงจะได้รายได้อย่างที่คิดไว้.. แล้วทั้งกาแฟ และซาลาเปา ทำเองหรือต้องไปรับของคนอื่นมาขาย.. ถ้าทำเอง อร่อยขนาดขายได้รึเปล่า? ของกินที่ทำแบบกินเอง กับทำแบบ mass product สูตรจะเปลี่ยนไปนะคะ.. ถ้าพื้นฐาน ไม่เคยทำเรื่องค้าขายมาก่อน ขอให้พิจารณาดีดีค่ะ จากคุณ : อมยิ้มนิดนิด - [ 2 ก.ย. 51 09:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาสนับสนุนอีกเสียงค่ะ ว่าลองทำธุรกิจควบคู่ไปกับงานประจำก่อน เพราะเงิน 1 ล้านเมื่อนำมาประกอบธุรกิจ มันจะไม่เยอะอย่างที่คิดค่ะ เพราะมันจะมีค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงมากมายทั้งจากตัวธุรกิจเอง และตัวของจขกทด้วยค่ะ  ช่วงแรกจะเหนื่อยมากหน่อยเพราะต้องทำ 2 งาน แต่อย่างน้อยเมื่อเจ็บป่วยหรือมีเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ยังมีหน่วยงานหรือบริษัทรองรับและรับผิดชอบในตัวเราค่ะ จากคุณ : mattnoi - [ 2 ก.ย. 51 10:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้า.......จะลาออกจริง ควรจ่ายประกันสังคมต่อ จะได้ช่วยในแง่การประกันสุขภาพและเงินออมได้บ้าง จากคุณ : กำเบ้อ (kumbur) - [ 2 ก.ย. 51 10:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอออกความเห็นบ้างค่ะ แนะนำให้เปิดร้านไอศครีม กาแฟสด เบเกอรี่ เล็กๆ ค่ะ ลองดูทำเลใกล้สถานศึกษานะคะ เพราะจะได้ลูกค้าหลายกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ลงทุนไม่เยอะหรอกตู้แช่ขอได้ ตู้เย็นก็ยืมได้ มีเคาน์เตอร์เล็กๆ จัดร้านน่ารักๆ ก็พอแล้ว อย่าลงทุนเยอะนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เปิดอยู่ค่ะ(ตจว.) ทุกวันนี้ก็เลี้ยงตัวรอดค่ะ จากคุณ : tagoya - [ 2 ก.ย. 51 10:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ความมั่นใจเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก คือ ความพร้อมของคุณ ผมเพิ่งทำธูรกิจเองได้ครบ 2 ปี บอกได้เลยว่า ต้องเรียนรู้เยอะมาก และต้องทำงาน เกินกว่า ที่คิดว่าจะทำ และพูดได้เลยว่ายังไม่ประสีประสาอะไรเท่าไร ดังนั้น อ่านเฉยๆ เพราะมีหลายท่านตอบกระจ่างแจ้งไปแล้ว แถมมีประสบการณ์จริงในการค้าขาย สำหรับผมนั้น ขายคำปรึกษาครับ ส่วนตัว ผมให้น้ำหนักเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่าย การออมเงินของพวกนักการเงินในระดับหนึ่ง เพราะวิถีชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใช้เป็นแนวพอไหว แต่อย่าไปเกาะมันเสียจนรู้สึกว่า "ตกลงชาตินี้ จะได้รีไทร์แบบสบายไหม" พวกนักการเงินเขาต้องพูดแบบนั้น เพราะต้องการดึงเม็ดเงินของเรา ฟังหู ไว้หู แล้วเอามาปรับ ไม่งั้นท้อเปล่าๆ ได้มาก เก็บให้มาก ได้น้อย ก็เก็บให้มาก โฮ่ๆ ตบท้ายว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ต้องมีแหล่งรายได้สำรอง หรือสภาพคล่องอย่างมที่ข้างบนว่า ขอพาดพิงนิด เช่น ขายของโรงเรียนนี่ ค่าเทอมขึ้น นักเรียนลาออกอื้อครับ หรือลดค่าขนม เอามากิน หรีอกลับไปกินบ้านครับ จากคุณ : Double07 - [ 2 ก.ย. 51 14:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แบ่งเวลา ขยัน อย่าออกจากงานประจำโดยไม่มีเหตุอันควร การลงทุนมีความเสี่ยง บราๆๆๆๆ   ใจเย็นๆค่อยๆคิดครับ จากคุณ : เม็กนีโต้ - [ 2 ก.ย. 51 15:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับหลายๆท่านนะ งานประจำ อย่าพึ่งทิ้งเด็ดขาดครับ ทำไปเรือยๆก่อน แล้วลองเปิดร้านกาแฟตามที่คุณต้องการดู ลองทำไปสัก 1-2 ปี คอยดูว่าไปไหวมั้ย ถ้าไปได้ดี ก็ค่อยลาออกมา แต่ถ้าไม่ดี เราก็ยังมีงานประจำรองรับอยู่นะครับ จากคุณ : นายประทีป - [ 2 ก.ย. 51 16:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ลองไปหาที่ที่สวนจตุจักรแล้วลองเปิดเสาร์อาทิตย์ก่อนก็ได้นิครับ ผมไปสวนเกือบทุกอาทิตย์คิดว่าของกิน ขายได้แน่นอน ขนาดไม่อร่อยยังขายได้เลยครับ แต่ถ้าอร่อยจริงแล้วไม่แพงมากผมว่าขายดีแน่นอน แล้วเราก็ยังทำงานที่เดิมได้ด้วย ได้เงินสองทางด้วยนะครับ จากคุณ : เด็กราชดำเนิน (เด็กราชดำเนิน) - [ 2 ก.ย. 51 17:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมลองมาแล้วสมัยทำงานประจำลองเช็คดูร้านแถวที่ทำงานคำนวนดูกำไรดีมาก ลองทำดูปรากฎว่ามีปัญหาครับ คือกำไรที่คิดว่าจะได้มันน้อยครับ เพราะลืมคำนวน ค่าที่ค่าคนงานค่าแก้วค่านมลงในต้นทุนด้วยทำให้กำไรที่ได้เหลือเดือนละแค่ 8,000 บาท ยังรวมค่าแรงตัวเอง (เงินเดือนเกือบ 50,000 บาท) คู่แข่งเยอะครับทำให้ยอดถูกแบ่งไปและไม่แน่นอน ถ้าได้ทำเลดีและผูกขาดก็สนับสนุนครับ แนะนำในโรงพยาบาลใหญ่ ขายได้ทั้งวันครับ แต่ทำเลไม่ดีอย่าทำครับ เหนื่อยเปล่า แต่ถ้าเงินเดือนเดิมไม่มากก็พอทำได้ แต่ถ้ามีเงินจะทำเล่นๆก็ทำได้ไว้เป็นที่นั่งรวมเพื่อนๆเสาร์อาทิตย์ ธุรกิจไม่ได้มีเท่านี้ครับมีอีกหลายอย่างที่น่าทำ ผมออกจากงานมาแล้วครับที่เงินเดือน 50,000 บาท ตอนนี้รายได้รวมๆหลายๆอย่างที่ทำได้เดือนละเกือบสองแสนแล้วครับ ขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจออกมา ให้กำลังใจคนที่กำลังคิดจะทำธุรกิจลุยครับอย่าถอย หาไอเดียใหม่ๆแล้วลุยเลยครับ เอาใจช่วย จากคุณ : scadee - [ 2 ก.ย. 51 23:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มีเงิน  มีแรง  มีลมหายใจ เมื่ออยากทำ  ทำไมไม่ทำ อย่ารอจนวันหน้า มีเงิน  มากขึ้น แต่ไม่มีแรง  หรือบางที ก็ไม่มีลมหายใจแล้ว จากคุณ : bolton fanclub - [ 2 ก.ย. 51 23:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าไม่ได้มีปัญหากับบริษัท เป็นที่น่าอึดอัดหัวจิตหัวใจ ก็อย่าออกเลย ยุคนี้สมัยนี้ทำไรก็ลำบาก เปิดธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องง่ายแต่ไปรอดยาก ยิ่งร้านกาแฟ เป็นธุรกิจที่ใครๆ ก็คิดได้(ไม่ได้ดูถูกกันนะคะ) มีคนเปิดเยอะ คู่แข่งเยอะอันนี้ไม่แนะนำ แต่ถ้าหาเปิดร้านซาลาเปา มีสูตรที่อร่อยจริงๆ มาจากฮ่องกง ปรุงรสชาติใส้ข้างในได้อร่อยมาก เนื้อซาลาเปานุ่มไม่เหมือนใคร ก็น่าสนใจ สุดท้ายไม่แนะนำให้ออกจากที่ทำงานเก่า ให้ลองทำดูก่อน ดูตลาดสัก 3 เดือน(อย่างต่ำ) ถ้าไปรอดค่อยออกจากงานก็ได้ แอบจับปลา 2 มือบ้าง ไม่ผิดหรอก เราก็เคย จากคุณ : นักค้านักขาย - [ 3 ก.ย. 51 02:27:43 A:124.120.94.184 X: TicketID:179277 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เงิน 1 ล้าน ไม่เยอะนะคะ  ไม่ระวังแป๊บเดียวหมด   น่าจะอดทนทำและเก็บเงินต่อไปอีกหน่อยก่อน   หรือหาอาชีพเสริม อย่างอื่น ค่อย ๆ ลองทำไปก่อน ...ค้าขายจะไม่ค่อยได้หยุด เหมือนทำงานประจำนะคะ จะเหนื่อย ถ้าเป็นไปได้ มีซัก 5 ล้าน ค่อย ออก จะ เสี่ยงน้อยหน่อย  ถ้าเจ็บป่วยเจอค่ารักษา เดี๋ยวนี้ บางโรค เป็นล้านนะคะ... จากคุณ : thai orchid - [ 3 ก.ย. 51 13:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมอยากบอกว่ามันเหนื่อยมากครับ มันต้องมองหลายจุดครับ ไม่ว่าจะเป็น - แบบของร้านของคุณ แบบหรูหรา หรือ แบบชาวบ้านสบายๆ - ทำเลที่ตั้ง ร้านแบบนี้ก็ต้องดูทำเลแบบนี้ ดูดีๆครับ - ของที่จะขาย พยายามงัดไม้เด็ดที่คุณมีมาเป็นตัวเปิดโรงครับ แล้วไม้รองๆค่อยตามมา - คู่แข่ง ต้องดูดีๆครับ ว่าแถวนั้นมีมากน้อยแค่ไหน เค้าขายอะไร บริหารงานยังไง คู่แข่งจะเป็นตัวสอนคุณได้ดีครับ ความจริงเรื่องนี้มันพูดกันยาวถ้าจะเอาเป็นเรื่องเป็นราวครับ แต่ฟังจากคำถาม เข้าใจว่าคุณอาจจะไม่เคยค้าขายเลย เอาแบบนี้แล้วกัีนครับ ลองศึกษาจากคู่แข่งดูดีกว่าครับ ดูว่าร้านไหนขายดีแบบจัด ๆ เ้ค้ามีอะไรดี แล้วค่อยนำจุดเด่นๆมาประยุกเข้ากับร้้านเรา อาจจะเป็นวิธีที่ดูขี้โกงไปนิดนึง แต่ก็น่าจะลดความเสี่ยงคนคุณลงได้บ้าง จากคุณ : [-NezoLos-] - [ 3 ก.ย. 51 14:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่าทำธุรกิจของคุณให้คู่กับงานไปก่อน สิ้นเดือนก็ได้เงินเดือน ส่วนรายได้จากธุรกิจของคุณก็ได้อีก ลองจ้างลูกจ้างมาขายก่อน เย็นคุณค่อยกลับมาดูแล ดูต่อไปเรื่อย ๆ เพราะว่าถ้าธุรกิจของคุณไปไม่ได้คุณยังมีงานอยู่ ตัวผมเองกลางวันทำงานประจำ ตอนเย็น (19.00 – 21.30) เปิดห้องซ้อมดนตรีที่บ้าน และก็ยังมีรายได้เสริมจากการที่มีคนมาเช่าเครื่องไปออกงาน ซึ่งบางครั้งก็ลาพักร้อนแบกเครื่องไปงานเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่งานเครื่องเช่าจะตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าช่วงหน้างานก็จะลาพักร้อนบ่อย แต่ช่วงนี้จะไม่ลาเกินเดือนละ 1วัน คือถ้าผมลาพักร้อนไปแล้ว 1วัน บังเอิญมีงานเข้ามาอีกผมก็จะส่งงานให้พรรคพวกไปทำโดยตรงเลย ผมเองก็ไม่เสียงาน (กลัวเจ้านายเพ่งเล็ง) ลูกค้าที่มาติดต่อเช่าเครื่องก็ไม่ผิดหวัง ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ ห้องซ้อมจะเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.30 น. สองวันนี้ก็เห็นรายได้เป็นกอบเป็นกำหน่อย ใจจริงผมก็อยากออกจากงานประจำเหมือนกัน เพราะเบื่อมาก แต่ก็พยายามทนทำให้ได้นานที่สุด ส่วนห้องซ้อมดนตรีผมมีโครงการที่จะขยายเพิ่มอีก 1ห้อง (ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง) ผมเองเคยเป็นนักดนตรีมาก่อน เรียกได้ว่าดนตรีคือชีวิตของผมเลย ตอนนี้ก็ลุยเดินหน้าต่อไปงานประจำไม่ให้เสีย งานเสริมก็ให้ไปได้ดี จากคุณ : Puisound - [ 3 ก.ย. 51 15:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หมอดู confirm (คอนเฟิร์ม)   ธุรกิจที่ดี ทำแล้วรวย จะต้อง เป็นธุรกิจ  ในรูปแบบใหม่ ที่ทุกคนทำได้ 1.  ต้องเป็นงานที่สองรองจากงานที่หนึ่ง 2.  ต้องนอกเวลางานที่หนึ่ง 3.  ต้องมีรายได้มากกว่า  100,000  บาท / เดือน ในเวลาไม่กี่เดือน ธุรกิจดี ทำแล้วรวย confirm (คอนเฟิร์ม)     รายระเอียดเพิ่มเติม http://offto.net/sanooklife sanooklife2008@gmail.com จากคุณ : tar (auttasit1) - [ 9 ต.ค. 51 03:01:55 ]