ความคิดเห็นที่ 1 ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ...อยากทราบว่า "ความหมองใจ" ของลูกบ้านอนันดา (ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือคอนโด Ideo ที่กำลังโด่งดัง) เป็นอย่างไรกันบ้าง และเหมือนกับของดิฉันหรือเปล่าน่ะค่ะ... ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะ....อยากได้ข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเพื่อไปคุยกับ... คุณโก้...ชานนท์...เจ้าของบริษัทฯ ...ผู้ซึ่งทราบหรือไม่ทราบ (ก็ไม่รู้นะคะ) ว่า บริษัทฯ ของคุณ..มีทีมงานที่แย่ หรือว่า... หลักการบริหารงานของบริษัทฯ คุณแย่จริงๆ ... มีลิงค์ค่ะ.... http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6936431/R6936431.html จากคุณ : tobezero - [ 5 ก.ย. 51 21:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยโพสน่ะค่ะ...เลยทำผิดๆ ถูกๆ... แต่ยืนยันแนวคิดเดิม...ตามหัวข้อกระทุ้เลยค่ะ... และต่อไป...จะมาเล่าเรื่องต่อ...ให้ฟังค่ะ...แต่ขอให้ไปอ่านข้อความจากกระทู้เดิมก่อนนะคะ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6936431/R6936431.html จากคุณ : tobezero - [ 5 ก.ย. 51 21:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พยายามโพสเนื้อหาของปัญหา ในกระทู้เดียวต่อๆกันไปเถอะค่ะ เพื่อนเค้าจะได้ช่วยกันตอบ ช่วยกันโหวต ให้กระทู้ไปอยู่ตรงแนะนำ จะได้ส่งเสียงดังไปถึงโครงการเค้าได้ง่ายเข้า มาแตกกระทู้ ตั้งกระทู้ย่อยๆหลายๆอัน ทำให้คนที่เค้ามาอ่านทีหลังอาจจะพลาดเนื้อหาที่สำคัญไป แถมยังไม่รู้ว่าควรจะไปตอบหรือไปโหวตที่กระทู้ไหนดี ทำให้เสียงที่ควรจะดัง จะกลายเป็นดับไปได้ซะเปล่าๆ แค่แนะนำนะคะ จากคุณ : Friday February - [ 5 ก.ย. 51 22:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามอ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าปัญหาของ จขกท คืออะไรแน่ เราเองกำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจ "จะซื้อ" บ้านกับอนันดา อยากฟังเรื่องราว ปล.เห็นด้วยกับ คห 3 จากคุณ : เมาไม่จับ - [ 5 ก.ย. 51 23:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตามอ่านมาเลยวัน ยังงงกับการตั้งกระทู้ของคุณจขกท. แนะนำตามคห.3 ค่ะ ให้รวมกันในหัวข้อกระทู้เดียวกันและอธิบายปัญหาต่างๆให้กระจ่าง เพื่อนๆ ในชายคาจะได้ช่วยกันดู ช่วยกันดัน จะได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ พอเสียงดังขึ้น เจ้าของโครงการได้ยินแน่นอน จากคุณ : ปลากัดสีทอง - [ 6 ก.ย. 51 08:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมางงครับ เห็นมาหลายกระทู้มาก ตกลงปัญหามันคืออะไรครับ เอามาลงไว้ในกระทู้เดียวกันสักอันดีมั๊ยครับ เพื่อนๆจะได้รับรู้ข้อมูลแบบไม่งง จากคุณ : มารบูรพา อึ้งเอียะซือ - [ 6 ก.ย. 51 14:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องขออภัยและขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแนะนำเรื่องการตั้งกระทู้ (ที่แตกไปหลายอันน่ะค่ะ) ขอเริ่มเล่านะคะ...ดิฉันซื้อบ้านที่เคยใช้ทำเป็นสำนักงานขายโครงการหนึ่งของอนันดา...ราคา 6 ล้านถ้วน...ตอนที่ตัดสินใจซื้อ เรียกว่า เป็นการตัดสินใจแบบทันทีทันใด คือ ไปดูครั้งแรกไปคนเดียว, ไปดูครั้งที่ 2 (ไปกับแฟน) และตัดสินใจจองเลย...เพราะชอบที่ทำเลใกล้ถนนใหญ่ ข้อมูลที่เซลล์แจ้ง คือ 1. บ้านหลังนี้เป็นบ้านสร้างมาประมาณ 3 ปี ตั้งอยู่นอกบริเวณของโครงการฯ ที่เปิดขาย (ติดๆ กันเป็นบ้านตัวอย่างอีกหลังหนึ่ง) 2. ราคาที่ตกลงซื้อเป็นราคาตามสภาพ (ซึ่งมีการระบุในใบจอง และทำให้เป็นข้อผูดมัดเราไปในตัว) แต่เราได้มีการถามเรื่องการเก็บงานภายในบ้าน (ก่อนจ่ายเงินจอง) มีการชี้ตำแหน่งที่เสียหายในบ้าน...เซลล์ก็บอกว่า จุดนั้นจุดนี้เราจะเก็บให้ แต่ขอให้ระบุตามนี้ไปก่อน เดี๋ยวจะไม่ได้ราคาตามที่ตกลง เพราะราคาที่ตกลงต้องนำเสนอบอร์ดของเค้าอีกที... เราก้อเลยไม่ได้ติดใจอะไร...(ปล. ถ้าไม่ผ่านบอร์ดตามราคาที่ตกลง เค้าก็จะคืนเงินจองให้ ...ก้อเลยสงสัยจัง..ว่าก่อนตกลงราคาตามนี้ ..ทำไมไม่สรุปกันให้ไปให้เด็ดขาดก่อน..แล้วค่อยให้เราจ่ายเงินจอง...แต่ลูกค้ากลับต้องจ่ายเงินจองก่อน...เสียเปรียบวันยังค่ำ) 3. มีการรับประกันบ้านเหมือนการซื้อโครงการตามปกติ หลังจากตกลงจ่ายเงินจอง ณ วันที่ตกลงซื้อ และผลบอร์ดออกว่าตกลงขายในราคาดังกล่าว (เราเริ่มยื่นเรื่องกู้แบงค์ทันที) และจากนั้นมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายและให้เราไปตรวจรับบ้าน 1 ครั้ง ซึ่งต้องมีรายการแก้ไขอย่างแน่นอนและแจ้งว่าจะแก้ไขให้ภายใน 14 วัน หลังวันโอน โดยจะทำเป็นบันทึกข้อตกลงไว้ให้ ระหว่างนี้ดิฉันแวะเข้าไปดูบ้าน (เกือบทุกวัน) เพราะเป็นทางผ่านกลับบ้านอยู่แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน...พอเรื่องกู้แบงค์ผ่าน...ทางโครงการได้ขอนัดวันไปโอน...คือ วันที่ 9 ก.ค. 51 ทั้งๆ ที่งานแก้ไขยังไม่เรียบร้อย...แต่ทางโครงการแจ้งว่า บ้านที่เราซื้อเป็นการซื้อตามสภาพ งานแก้ไขย่อมมีแต่จะแก้ไขให้เสร็จภายใน 14 วัน หลังโอน..ยังงัยขอให้ช่วยโอนได้มั๊ย..เราก้อเห็นว่ารายการไม่เยอะเท่าไหร่ (เพราะโครงการก็เน้นทุกครั้งที่ไปดูบ้านว่าเป็นการซื้อตามสภาพ) และเราอยากได้บ้านเร็วๆ เลยตัดสินใจไปโอนให้ในวันดังกล่าว วันที่ 8 ก.ค. 51 เซลล์ขอให้เข้าไปจ่ายเช็คส่วนต่าง (ราคาบ้าน - เงินที่กู้แบงค์ได้) แต่ดันมีเรื่องเกิดขึ้น 1 เรื่อง (จนถึงปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่ค้างคากันอยู่ และเป็นสาเหตุสำคัญของการมาตั้งกระทู้นี้เลยค่ะ)...เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันเกิดความสงสัยในเรื่องกระจกรอบบ้าน เลยตัดสินใจถามเซลล์อีกครั้ง และเป็นความโชคดีที่ถามน่ะค่ะ...เพราะสงสัยมาตลอด (ขอขอบคุณวิธีการดูกระจกเขียวตัดแสงจากระทู้ในชายคาค่ะ) ...เคยเซลล์ถามมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ซื้อ ซึ่งเธอก้อบอกเสมอว่าเป็น "กระจกเขียวตัดแสง"  แต่วันนี้เธอกลับให้คำตอบว่า "ไม่ใช่เขียวตัดแสง" เราก้อเลย อ้าววววว !!! น้องเคยให้ข้อมูลพี่แบบนี้นะ...ดิฉันขอเรียนว่า บ้านหลังนี้หันหน้าทิศตะวันตกค่ะ และดีไซด์ของบ้านมีกระจกโดยรอบ...บอกตามตรงค่ะว่าเรื่องกระจกเป็นเรื่องที่เราก้อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อเหมือนกัน...เอาไงล่ะ...งั้นไม่โอนนะ...เธอก็บอกว่า เธอจำไม่ได้ที่ให้ข้อมูลไปแบบนั้น..แต่ยังงัยซะ...เธอจะขอรับผิดชอบคำพูดของตัวเองแล้วกัน..โดยการเปลี่ยนกระจกให้ และพอดิฉันถามถึงเอกสารแนบท้าย (ตามที่กล่าวข้างต้น) เธอบอกว่า "กำล้งส่งเซ็นต์ระดับผู้ใหญ่อยู่" (ปล. จนถึงวันนี้...ยังไม่ได้รับเอกสารแนบท้ายฉบับนั้นเลยค่ะ) วันที่ 9 ก.ค. 51 นัดเจอกันที่ สนง.ที่ดิน...ลูกบ้านพร้อม, แบงค์พร้อม...แต่โอนไม่ได้ค่ะ..เพราะเอกสารที่โครงการเตรียมมา ....ไม่พร้อมค่ะ... เป็นอย่างไรค๊ะสำหรับการโครงการระดับนี้ขอนัดลูกค้าโอนแล้วเอกสารฝ่ายตัวเองไม่พร้อม...เหตุผลคือแบงค์ไม่รับจำนองเพราะโครงการไม่เตรียมเอกสารที่ดินอีกแปลงหนึ่งมา...สงสัยใช่มั๊ยค่ะว่าทำไมแบงค์ไม่รับจำนองที่แปลงดิฉัน..เพราะเป็นที่ดินตาบอดน่ะค่ะ ตามที่บอกว่า บ้านที่ซื้ออยู่ติดกับบ้านตัวอย่างอีกหลังหนึ่ง...โดยบ้าน 2 หลังนี้ต้องใช้ทางเข้าออกร่วมกัน...ซึ่งเป็นที่ดินอีกแปลงหนึ่ง (เป็นถนนเข้าบ้าน 2 หลังนี้) ...ซึ่งโครงการมีโฉนดอยู่ (แต่มาทราบวันที่ไปโอนน่ะค่ะ..ว่าติดจำนองกับ บ.หลักทรัพย์หรือแบงค์อะไรจำไม่ได้น่ะค่ะ...พอดีเอกสารอยู่ที่ บริษัทฯ ไม่ได้เอากลับมาบ้าน)...สิ่งที่เราสงสัยและแบงค์เองก้อ "งง" ในหลักการบริหารงานของบริษัทอนันดา (ตามที่ตั้งกระทู้ข้างบน) น่ะค่ะ ...ว่า "คุณทราบอยู่แล้วว่าต้องเตรียมโฉนดนี้มา..ทำไม ไม่เตรียม ?".....เสียเวลาเราลางาน..เสียเวลาทุกคน...หรือว่า....ตั้งใจอะไร ?...สรุปว่า วันนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย...ลางานฟรี...+ เสียความรู้สึก แต่ยังอีกค่ะ...ช่วงบ่าย ขณะกำลังขับรถกลับบ้านจาก สนง.ที่ดิน ...หลังจากโทรไปต่อว่าเซลล์เรื่องวันนี้...ซักพักเซลล์โทรมาแจ้งว่า..ขอให้เรากลับไปที่ดินอีกครั้งตอนบ่ายเพื่อโอนได้มั๊ย...เราก้อบอกว่าไม่ได้...เพราะแฟนเราไม่ว่างแล้ว แต่เธอบอกว่าเธอจะเตรียมเอกสารอะไรซักอย่างไปให้แฟนเราเซ็นต์หากไม่สะดวกที่กลับไปที่ สนง.ที่ดิน ....แต่เราโทรปรึกษาแบงค์...และเราทราบจากแบงค์เหมือนกันว่าทางโครงการก้อโทรบอกแบงค์เช่นเดียวกัน ... แต่พี่ ผจก. ที่แบงค์ บอกว่า "เป็นไปไม่ได้" ที่ทางโครงการจะไปปลอดภาระจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวได้ทันในช่วงบ่าย (เพราะเพิ่งแยกจากกันไม่ถึง 1 ชม. เลยค่ะ) ..พอเราปฏิเสธโครงการไป ...โครงการเลยขอนัดใหม่...วันศุกร์ที่ 11 ก.ค.51... จากคุณ : tobezero - [ 6 ก.ย. 51 20:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วันที่ 11 ก.ค. 51 การโอนบ้านเสร็จเรียบร้อยทุกประการ และทำให้ดิฉันทราบว่า ที่ดินแปลงที่เป็นทางเข้าออกของบ้าน เรียกว่า "สามารยทรัพย์" (ต้องขออภัยหากอ้างอิงชื่อไม่ถูก เพราะพอดีเอกสารการโอนอยู่ที่ที่ทำงาน ไม่ได้นำกลับมาน่ะค่ะ) หมายถึง ที่ดินสาธารณะที่ยินยอมให้บุคคลใช้ประโยชน์ได้ (ตรงนี้เราจะได้เอกสารอีกฉบับที่เค้า "จดภาระจำยอม" ที่ยินยอมให้ที่ดินผืนของเราใข้ประโยชน์ เช่น เป็นทางเข้าออกได้) สรุปแล้ว...ตลอดหลังการโอน..ดิฉันติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขงานบ้านโดยตลอด ..เรียกว่า เข้าไปดูบ้านเกือบทุกวัน (ดูตอนเย็นๆ) และโทรคุยกับเซลล์ตลอด... จนมาถึงวันหนึ่ง เซลล์มาบอกว่า..หนูลาออกแล้วนะคะ...5555 อึ้งค่ะ (และวันเป็นวันที่เลยกำหนด 14 วัน หลังโอนแล้วด้วย) ....แล้วใครจะตามงานให้ล่ะเนี่ย...เธอก้อว่า...ไม่เป็นไรค่ะหนูฝากเรื่องไว้แล้ว...คุณสิ..ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว...ไม่ว่าจะเรื่องงานซ่อม...งานกระจก (ปล. สามารถอ่านได้จากกระทู้ข้างบนนะคะว่า คุณสิ คือใคร) ตอนนั้นคิดแค่ว่า....เอาล่ะซิ...สังหรณ์ใจ...สงสัยจะซวยแล้วล่ะซิ.....นึกออกใช่ใหมคะ... บอกตามตรงค่ะว่ามาถึงตรงนี้...ประสาทจะกิน..คิดมาก...สงสัยโดนโดดเดี่ยวแล้วซิเรา หลังจากที่เซลล์ออกไปแล้ว...พยายามโทรหาตลอด ..รับบ้างไม่รับบ้าง...เซลล์ก็บ่นโครงการให้ฟังอย่างโน้นอย่างนี้...แต่เธอก้อบอกว่า "ติดตามงานบ้านเราให้ตลอด ...คุณสิรับทราบแล้ว" ....แต่ขอบอกนะคะว่าโครงการนี้มีดีค่ะ ตรงที่ช่างน่ะค่ะ...ช่างที่แก้ไขงาน (ต่อไปเรียกว่า พี่ ด.)...ดีมากๆๆ ค่ะ ช่วยประสานงานดี...ขอให้มาเปิดประตูบ้านให้ดู..ก้อขี่มอเตอร์ไซด์มาเปิดให้ (ปัจจุบัน..หลังโอนบ้านแล้วดิฉ้นยังไม่มีกุญแจเข้าบ้านเลยค่ะ) ตอนนี้...ภายในบ้าน...ดิฉันได้ทำโน่นทำนี่ (จ้างช่าง โดยจ่ายเงินเอง) เสร็จไปหลายอย่างแล้วค่ะ...แต่ยังไม่มีความคืบหน้าจากโครงการเท่าไหร่เลยค่ะ และล่าสุด (ตามที่เล่าในกระทู้เก่า) ....วันเสาร์ที่ 6 ก.ย. 51 (10 โมงเช้า) ดิฉันเข้าไปที่ สนญ. อนันดา ตามนัด..เพื่อเซ็นต์เอกสารเรื่องกระจกตัดแสง (ดิฉันได้ถามถึงเนื้อความในเอกสารนี้ตั้งแต่เย็นวันศุกร์แล้ว คุณสิ...แกก็ว่าเพื่อเป็นการรับทราบระหว่างลูกบ้าน, โครงการ, และเซลล์ ว่า เซลล์จะรับผิดชอบ ...เราก้อคิดว่า เอกสารมันควรมีการรับทราบทั้ง 3 ฝ่าย) ...และในวันนี้...ดิฉันก็หวังอย่างยิ่งว่าจะเจอคุณสิ..เพื่อคุยเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่ไม่เจอค่ะ..แกได้ฝากเอกสารกับ พนง. ให้ดิฉ้นเซ็นต์ ...พออ่านข้อความก็รู้สึกติดใจ เพราะข้อความในเอกสารเป็นข้อความที่เหมือนดิฉันเป็นคนออกเอง.... แต่เขียนถึงอนันดาในเรื่องที่เซลล์ได้บอกไว้ว่าบ้านที่ซื้อเป็นกระจกตัดแสง แล้วลงชื่อโดย ดิฉัน.. น่ะค่ะ..เลยโทรไปหาคุณสิ..ถึงเนื้อความในเอกสารว่า "ทำไมเป็นอย่างนี้" แกก้อบอกว่าเรื่องทั้งหมดนั้น "ผู้ใหญ่" รู้เรื่องแล้ว ที่ทำแบบนี้เพื่อเป็นเหมือนเอกสารอ้างอิงในแง่กฎหมายและการขอทำเบิกเงินไปจ่ายค่ากระจกตัดแสงให้ Supplier เท่านั้นเอง...ส่วนเรื่องที่เซลล์จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องกระจกนั้นได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว สรุปแล้ว...ดิฉันต้องเซ็นต์ค่ะ..เพื่อแลกกับการได้บ้านที่มีกระจกเขียวตัดแสงน่ะค่ะ... นี่แหละค่ะ..ซื้อบ้านโครงการฯ จากคุณ : tobezero - [ 6 ก.ย. 51 22:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ แล้วมีรายละเอียดเยอะกว่านี้น่ะค่ะ..และเราได้เล่าผ่านกระทู้แล้ว..แต่ไม่ทราบว่าหายไปไหน...เลยเป็นสาเหตุที่ตั้งกระทู้ไปหลายครั้งน่ะค่ะ...ถ้าทำให้เพื่อนๆ ในนี้หงุดหงิด..ต้องขอโทษด้วยค่ะ.. จากคุณ : tobezero - [ 6 ก.ย. 51 22:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอ้ มาตามอ่านแล้ว โครงการทำไว้เยอะมากๆเลยนะคะ เราว่าทำหนังสือแจ้ง สคบ เถอะค่ะแล้วสำเนาหนังสือฉบับเดียวกันส่งถึงเจ้าของบริษัทน่ะค่ะ ถ้าเค้ายังไม่รับรู้อีก หนังสือพิมพ์ในประเทศนี้ก็มีหลายฉบับอยู่ค่ะ หรือ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ก็ยังมี จากคุณ : Friday February - [ 6 ก.ย. 51 23:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เซ็งแทนจขกท.จริงๆ จากคุณ : สามารถ - [ 6 ก.ย. 51 23:50:08 A:125.24.242.90 X: TicketID:186593 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ..สำหรับกำลังใจ... ดิฉันอยากได้ความคิดเห็นจากทุกท่าน และจากคุณมารบูรพา อึ้งเอียะซือ ที่ถ้าดิฉันจำไม่ผิด..ก้อซื้อบ้านสำนักงานขายเหมือนกันน่ะค่ะ...แต่บ้านคุณสวยและเพอร์เฟคมากค่ะ.... จากคุณ : tobezero - [ 7 ก.ย. 51 00:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จริงๆ แล้วมีเรื่องเล่าอีกนะคะ... ตามที่บอก...ว่าดิฉันเข้าไปดูบ้านเกือบทุกวัน ย้อนหลัง...วันศุกร์ที่ 5 ก.ย. 51 หลังจากคุยกับคุณสิ...พอเลิกงานปั๊ป...ดิฉันก้อขับรถไปดูบ้านตามปกติ...ไม่มีอะไรผิดสังเกต ...และวันนี้นึกอย่างไรไม่รู้...เลยขับไปคุยกับพี่ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งก็เคยขับรถเข้าไปคุยด้วยบ่อยๆ ...เลยทำให้ทราบว่า พวกลูกบ้านในโครงการฯ มีนัดคุยกับคุณสิ ในวันเสาร์ ..ก็เลยเล่าเรื่องปัญหาต่างๆ ของเราให้ฟ้ง ซึ่งแกก็บอกว่า พวกพี่ๆ ก้อมีนัดคุยกับคุณสิเหมือนกัน (เรื่องปัญหาภายในหมู่บ้านฯ เช่น ขโมยขึ้นบ้านหลังหนึ่ง ..เสียหายไปหลาย, และอื่นๆ ) ...หลังจากนั้นดิฉันก้อขับรถกลับออกมา...เพื่อกลับบ้าน แต่โอ้ ....พอผ่านบ้านของเรา...อนันดาจ๋า...ทำไมบ้านฉันถึงเปิดไฟที่ห้องนอนใหญ่ชั้น 2 (ในอนาคตคือห้องนอนของดิฉัน)....ถามว่ากลัวผีมั๊ย...กลัวค่ะ...แต่นี่มันไม่ใช่ผีแน่...เพราะก่อนเข้าไปคุยกับพี่ๆ ในโครงการฯ .. ดิฉันเข้าไปดูบริเวณบ้านจนถึง 6 โมง กว่าๆ ...แล้วจึงขับเข้าไปข้างในหมู่บ้านฯ เพื่อคุยกับพวกพี่ๆ ...เนี่ย ! ประมาณทุ่มเศษๆ ฟ้ามืด..แล้วใครมาเปิดไฟบ้านเรา (วะ) ดิฉันจึงขับรถไปจอดหน้าประตูบ้าน...บีบแตร..กระพริบไฟสูง...โดยหวังว่า..คนที่อยู่ข้างในคงตกใจแล้ว..ชะโงกมาดูที่หน้าต่าง แต่เงียบค่ะ.......(แต่ก็ไม่เสี่ยงที่จะเข้าไปเรียกหน้าประตูตัวบ้านหรอกค่ะ) ในใจคิดว่า...หรือเป็ยพวกคนงานที่เข้าไปซ่อมบ้านแล้วลืมปิดไฟในห้องฯ...หรือเปล่า? ...คิดต่างๆ นาๆ ณ ตอนนั้น ... จริงๆ ดิฉันพยายามถ่ายรูปจากกล้องมือถือ แต่ไม่สามารถค่ะ..เพราะสเปคกล้องต่ำ... พอวันรุ่งขึ้น (ตามนัดกับคุณสิ) ดิฉันขับรถไปดูที่บ้าน...ไปชะเง้อข้างบ้าน...มองดูไฟชั้นบน..มันก้อไม่ได้ไฟเปิดทิ้งไว้นินา...พอไปดูรอบๆ บ้าน.. 555 ในห้องครัว..มีรอยเท้า..ของผู้ใดไม่ทราบเต็มเลยค่ะ...ไปดูที่ประตูครัวหลังบ้าน...มีรอยงัดด้วยค่ะ... ดิฉ้นเลยให้ พนง. ที่คุณสุสั่งเรื่องไว้...มาดูที่บ้าน...เพื่อให้เธอเห็นร่องรอยต่างๆ ...และเธอก้อเห็นเช่นเดียวกับที่ดิฉันเห็น..และแจ้งว่าจะรายงานให้คุณสิทราบ...(ปล.น้องเธอน่ารักนะคะ..โทรถามให้ตลอด..ตอนที่เข้ามาดูบ้านว่า..มีใครเข้ามามั้ย..มีคนงาน (คุณ ด. เข้ามาทำอะไรหรือเปล่า) .... ดิฉันก้อบอกไปว่า...ถ้าเป็นคุณ ด. ดิฉันจะจำได้เพราะพี่แกจะขี่มอเตอร์ไซด์มาและพูดจาดีเสมอ..แต่ตอนที่ดิฉันขับรถเข้ามาจอด (ตอนที่เห็นไฟ) หน้าบ้านไม่มีอะไรซักอย่าง...ผีหรือ...ไม่ใช่แน่นอน...น้องเค้าก็แจ้งว่าถ้าเป็นอย่างนี้..ขอให้เราแจ้งยามของ สนง.ที่อยู่ใกล้ๆ...จะได้มาตรวจสอบ...แต่ตอนนั้นมันลึมนึกไปน่ะค่ะ...ไม่งั้นจะได้หลักฐานชั้นดีทึเดียว แต่ที่เราหวังคือ...ทางโครงการฯ ควรจะพิจารณาตรวจสอบเรื่องนี้และแจ้งความคืบหน้าให้เราทราบน่ะค่ะ... จากคุณ : tobezero - [ 7 ก.ย. 51 01:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาอ่านและทำความเข้าใจและเห็นใจมากครับ (ขอบคุณที่รวบมาไว้ครับ ที่อยากรู้มากเพราะน้องกำลังสนใจที่ ม.มัลดีฟครับ) ของผมเป็นการซื้อบ้านที่เคยทำเป็นสำนักงานเหมือนคุณเลย 1. บ้านหลังนี้เป็นบ้านสร้างมาประมาณ 3 ปี (อายุบ้านผมก็น่าจะพอๆกัน ที่ดีคือเราจะรู้แล้วว่าบ้านจะไม่ทรุดไปกว่านี้ ของผมดินทรุดโครงการเค้าก็ต้องปรับดินโดยรอบใหม่ให้-ไม่งั้นไม่รับโอน) 2. ราคาที่ตกลงซื้อเป็นราคาตามสภาพ (6 ล้านที่คุณจ่ายไปนี่ เป็นราคาตามสภาพที่ค่อนข้างสูงนะ ขอถามว่าเขาลดราคาจากปรกติมากหรือเปล่าครับ) 3. มีการรับประกันบ้านเหมือนการซื้อโครงการตามปกติ (รับประกันกี่ปี รับประกันเฉพาะโครงสร้างหรือทั้งหมดครับ) ที่บอกว่าวันที่ 11 ก.ค. 51 การโอนบ้านแล้ว นี่คือเท่ากับรับบ้านแล้วหรือเปล่าครับ (ขอโทษที่ถามอย่างไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะไม่ค่อยรู้จริงๆครับ อย่างบ้านผมมีเพื่อนที่เป็นทนายช่วยดูพวกเอกสารให้ เพราะเพื่อนบอกโง่ๆเซ่อๆเดี๋ยวมีปัญหา แล้วโชคดีที่บ้านที่ซื้อไม่ค่อยมีปัญหาอะไรด้วย) ไม่ทราบว่าปัญหาทุกอย่างที่มี มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรแนบด้วยหรือเปล่าครับ แต่นาทีนี้ไม่ว่ามีหรือไม่แจ้ง สคบ เถอะครับเห็นเพื่อนบอกว่ากฎหมายใหม่จะคุ้มคลองเรามากขึ้น สู้ สู้ นะครับ เอาใจช่วยและขอโหวตให้ด้วยจะได้รับรู้โดยทั่วกัน จากคุณ : มารบูรพา อึ้งเอียะซือ - [ 7 ก.ย. 51 19:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ คุณมารฯ อึ้ง... บ้านหลังนี้ เนื้อที่ 96.6 ตรว. ค่ะ ...ตามที่บอก..ตอนไปดูครั้งแรก (ไปคนเดียว) เซลล์คนแรกพาไปดูบ้านโครงการฯ ข้างใน (หมู่บ้านจริงของโครงการที่บอกว่า จขกท เข้าไปคุยกับพี่ๆ ในหมู่บ้านมาน่ะค่ะ) ซึ่งเหลือว่างอยู่ 2-3 แปลง แต่ดิฉันยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เค้าเลยถามงบประมาณของเรา พอบอกไป เค้าก็เลยพามาดูบ้าน สนง.ขาย และบ้านตัวอย่าง นี้แหละค่ะ ...ราคาตอนที่บอกครั้งแรก คือ 6.5 ล้านบาท...ซึ่งถ้าเราสนใจจริงๆ จะคุยราคาต่อรองให้ได้อีก น่าจะจบเต็มที่เลยที่ 6 ล้าน ....หลังจากนั้นเราก้อมีการ Survey หมู่บ้านที่เราสนใจหลายๆ แห่ง สุดท้ายก้อคุยกับแฟนว่า "เออ มีหลังนี้อีกหลังน๊ะที่น่าใจ" เลยติดต่อมาที่ สนญ. ของอนันดา ว่าจะขอนัดเซลล์คนดังกล่าวเพื่อดูบ้านอีกที ทางอนันดาฯ ก้อให้เบอร์มือถือของน้องคนนี้มา ซึ่งเราก้อพยายามติดต่อไป แต่ติดต่อไม่ได้ เลยโทรกลับไปที่ สนญ.อีกครั้ง เค้าเลยบอกว่าให้เข้ามาดูบ้านได้เลย จะมีเซลล์ใหม่พาไปดู เพราะคนเก่ากำลังจะลาออกแล้วน่ะ (ถ้าจำไม่ผิด เราไปถึงเกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว) ...พอเซลล์เปิดราคา ..เป็นราคาใหม่ค่ะ...6.8 ล้าน ..เราก้อ อ้าว...ครั้งที่แล้ว น้องเค้าบอกพี่แค่ 6.5 เอง...สรุปแล้ว พอต่อรองได้ที่ราคา 6 ถ้วน กลับต้องเป็นการซื้อตามสภาพ (แต่เราได้มีการชี้จุดเสียหาย ซึ่งเซลล์ก้อบอกว่าจะดูแลให้..ตามกระทู้ที่เคยเล่าแล้วข้างบนน่ะค่ะ...และมีการถามเรื่องกระจกตัดแสงตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ)...อันนี้เป็นที่มาที่ไปในเรื่องขอราคาบ้านน่ะค่ะ ปล. เราคิดเสมอว่าราคานี้คือราคาที่เรายอมรับ เพราะเราชอบในเรื่องทำเลและเนื้อที่ที่มากขึ้น (ถึงแม้จะไม่ถูกเท่าไหร่นัก) แต่เราก้อคิดว่า...ตามข้อตกลงของการซื้อขาย ที่เราพยายามที่จะตามเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร...แต่กลับไม่เคยได้ ....แต่กระนั้นด้วยคำบอกกล่าวของเซลล์บวกกับชื่อเสียงของอนันดาฯ ที่เราเชื่อใจ .. เหล่านี้เลยกลายเป็นสิ่งที่เราได้รับจากการซื้อบ้านของอนันดาค่ะ อนึ่ง...ดิฉันเคยหาข้อมูลตอนที่เปิดขายโครงการนี้...ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.99 ML. (จากการที่เข้าไปคุยกับพี่ๆ ข้างในโครงการฯ ทราบมาว่า ได้เนื้อที่อยู่ที่ 54-59 ตรว.) สำหรับเรื่องการรับประกันบ้าน...เซลล์แจ้งว่า..เราจะได้รับเหมือนการซื้อบ้านใหม่ในโครงการฯ น่ะค่ะ (ทั้งโครงสร้างและตัวบ้านตามกฎหมายเลยค่ะ...และจะเริ่มนับ..ตั้งแต่วันรับมอบบ้าน) แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ ...ที่นัดไปเซ็นต์เอกสารเรื่องกระจกตัดแสง...คุณสิ..เธอให้ พนง.นำแฟ้มเอกสารที่มีใบรับกันปลวก, กุญแจบ้าน(ที่ดิฉันตรวจแล้วว่า "มันไม่ครบทุกดอก...ขาดที่ประตูหลังบ้าน...ทีมีคนงัดเข้ามา).. มีเอกสารอ้างอิง 1 หน้ากระดาษ A4 แจ้งเบอร์ สน.บางพลี, การประปา, การไฟฟ้า ฯลฯ แล้วก้อจะให้ Remote แอร์ใหม่ 5 ตัว (จริงๆ แล้ว Remote แอร์เนี่ย ..เราเกือบไม่ได้น่ะค่ะ..แต่ดิฉันแจ้งเซลล์ไปก่อนหน้านี้...เพราะตอนไปตรวจบ้านครั้งแรก...ทั้งบ้านมีแอร์ (ตามสภาพ) ที่ติดมากับตัวบ้าน 5 ตัว ยี่ห้อ Saijo ..แต่ในบ้านกลับมี RM เจ๊งๆ 1 ตัวที่ทิ้งไว้ให้) และมีเอกสารอื่นๆ ที่ไม่ค่อยจะมีสาระสักเท่าไหร่นักอีก (จำได้ว่า ส่วนใหญ่เป็นเอกสารขั้นแฟ้ม) แค่พอเห็น..ก้ออารมณ์เสียแล้วค่ะ...บวกกับการเซ็นต์เอกสารเรื่องกระจกตัดแสง...ดิฉันเลยแจ้งน้องเค้าไปว่า "ไม่ขอรับแฟ้ม (ที่มีกุญแจบ้านให้เรา)" เพราะกลัวว่าถ้ารับมาแล้ว..เดี๋ยวโครงการฯ จะหาว่าเรา "รับมอบบ้านมาแล้ว" เพราะดิฉ้นเห็นเอกสาร A4 ที่เหน็บอยู่หน้าแรกตรงปกแฟ้มน่ะค่ะ...ประมาณข้อความว่า...ให้ลูกบ้านเซ็นต์รับแฟ้ม) ...ดิฉันไม่อยากให้น้องคนนี้ลำบากใจก่อนน่ะค่ะ ..ถ้าเธอจะต้องพูดออกมาว่า "พี่คะ ..ช่วยเซ็นต์รับด้วย" หลังจากนั้น..ก้อพาน้องเค้ามาดูร่องรอยการเดิน (ด้วยรอยเท้าในห้องครัว)  และชี้จุดตรงที่ประตูถูกงัด... ตามที่บอกในกระทู้ข้างบนน่ะค่ะ... และพรุ่งนี้ก้อตั้งใจว่าจะติดตามผลต่อน่ะค่ะ...ว่าเป็นอย่างไร .แล้วจะมาเขียนเล่าความคืบหน้าให้ฟังตลอดค่ะ จากคุณ : tobezero - [ 7 ก.ย. 51 21:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาช่วยโหวตกระทู้ สู้ๆ เอาใจช่วยนะ ขอให้เรื่องจบลงด้วยดี และได้อยู่บ้านใหม่อย่างมีความสุขนะครับ จากคุณ : ไอติมชาเขียว (ไอติมชาเขียวถั่วแดงเย็น) - [ 8 ก.ย. 51 11:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาอีกทีก่อนออกตจว.ครับ เรื่องกระจกตัดแสงนี่ก็สำคัญครับ ของผมเป็นบ้านริมสวน สามด้านไม่ชนกับบ้านใคร แล้วแบบบ้านเป็นแบบกระจกรอบด้าน ผมเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่บ้านซะส่วนใหญ่ และเป็นมนุษย์ขี้ร้อน ถ้าไม่ได้กระจกเขียวลดแสงคงต้องเปิดแอร์ทั้งวัน อย่ายอมในสิทธิ์ที่เราควรจะได้ครับ หกล้านไม่ใช่เงินบาทสองบาท ขอให้ปัญหาทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีครับ จากคุณ : มารบูรพา อึ้งเอียะซือ - [ 8 ก.ย. 51 13:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะ..คุณไอติม + คุณอึ้ง...สำหรับกำลังใจและความคิดเห็น วันนี้ (จันทร์ที่ 8 กย.) ดิฉันโทรหาคุณสิช่วงก่อนเที่ยง 2 ครั้งค่ะ...ติดค่ะ..แต่ไม่รับเหมือนเดิม...พอเที่ยง..ระงับใจโกรธไปทานข้าวกลางวัน...ช่วงบ่ายๆ เลยโทรหาหัวหน้าช่าง...ถามความคืบหน้า...แกก้อบอกว่า คุณสิยังไม่มีการสั่งงานอะไรมาเรื่องกระจกฯ เลย เพราะตอนเที่ยงเพิ่งจะคุยกัน...ไอ้เราก้อคิดในใจว่า...เฮ้อ...ถ้าเค้าถือโทรศัพท์มือถือตลอด (ตามชื่อของมันว่า "โทรศัพท์มือถือ")...เค้าควรจะรู้ว่าเราโทรไปตามเรื่องอะไร...แต่ตลอดวันนี้...กลับไม่มี Call จากคุณสิกลับมาเลย......แต่มี.....จากใครรู้มั๊ยค๊ะ.....จากเซลล์คนที่ลาออกไปน่ะค่ะ...ขำๆๆๆๆๆๆ เธอโทรมาเวลา 15:52 น. (เวลาในถือถือของดิฉัน) ...แล้วพูดว่าเธอตามเรื่องให้แล้ว..เรื่องกระจก...เพราะเมื่อกี้...คุณสิเพิ่งโทรหาเธอ...ขอให้เธอไปเซ็นต์เอกสารรับทราบว่าเธอจะเป็นคนรับผิดชอบค่ากระจกฯ โดยเธอบอกว่านัดกันวันพุธ...ดิฉันก็เลยเล่าให้ฟังว่า ดิฉันก็เพิ่งไปเซ็นต์เอกสารมาเมื่อวันเสาร์ (โดยเล่าให้เธอฟังว่ารายละเอียดในเอกสารเป็นอย่างไร (ตามกระทู้ข้างบน)...จากนั้นจึงได้ติดตามเรื่องเอกสารที่จะต้องให้ลูกบ้านตอนส่งมอบบ้านอื่นๆ (ซึ่งเธอเคยบอกว่าจะให้ดิฉัน) เช่น ใบรับประกันฯ ต่างๆ เช่น การรับประกันโครงสร้าง, การรับประกันตัวบ้าน, การรับประกันไฟฟ้าประปา, การรับประกันแอร์, การรับประกันปลวก รวมถึงการตามเอกสารสัญญาแนบท้ายฯ หลังโอน ซึ่งเธอบอกว่าจะตามกับคุณสิให้...สรุปแล้ว...สำหรับเรื่องกระจกฯ เลยถามน้องเค้ากลับไปว่า ...ถ้าน้องไม่มาเซ็นต์เอกสารรับรองว่าน้องจะรับผิดชอบโดยหักจากค่าคอมฯ ของน้องเพื่อจ่ายค่ากระจกฯ ให้กับพี่...ทางโครงการฯ เค้าก้อคงไม่แก้ไขงานกระจกฯ ให้พี่ใช่ไหม...แล้วพี่ต้องรอถึงวันพุธให้น้องเข้าไปเซ็นต์...กว่าจะตั้งเบิก...(ที่ผ่านมามันก้อแสนนาน ...อ้างจัง..ไอ้เรื่องการตั้งเบิก..ติดโน่นติดนี่) ..แล้วตอนนี้คิดว่า...คงจะอ้างอีกระมังว่า “ต้องรอน้องมาเซ็นต์เอกสารยินยอม”...อยากถามว่า...ผู้บริหารโครงการอนันดาฯ คะ...เงิน 2 หมื่นบาทเนี่ย...มันเป็นแค่เศษกำไรที่คุณได้จากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกนะคะ..แต่อยากบอกว่ามันมากสำหรับคนที่กำลังเป็นหนี้อย่างดิฉัน...ที่อยากมีบ้านและตั้งใจมาซื้อบ้านของคุณเพราะเชื่อใจในสิ่งที่อนันดาจะให้กับลูกบ้าน ... สำหรับเรื่องเอกสารที่คุณสิ..จะให้เซลล์เซ็นต์นั้น...ดิฉันไม่ทราบว่า “เนื้อความเป็นเช่นไร” และน้องเค้าก้อบอกว่าไม่ทราบเหมือนกัน...ดิฉันเลยบอกว่า...พี่อยากให้เรื่องจบเร็วๆ และไม่ยากเลย ไม่ต้องรอถึงวันพุธเลย..แค่ให้คุณสิส่งแฟ็กซ์เอกสารมา...น้องเซ็นต์กลับไป..ซึ่งเธอก็บอกว่าอนันดาไม่ยอม..ต้องให้เข้าไปเซ็นต์เองอีก (มีข้อแม้เสียเหลือเกิน) เราก็แนะนำไปว่า...งั้นน้องก้อส่งแฟ็กซ์บัตรประชาชนของน้อง + ขีดฆ่าแล้วเซ็นต์กำกับว่า “บัตรนี้ใช้เพื่ออะไร”  ....สรุปแล้ว...ไม่มีคำตอบกลับมาจากน้องเค้า...บอกเพียงว่า...เด๋ว.....น้อง...โทรคุยกับพี่สิเองค่ะ... แล้วจะโทรบอกพี่อีกทีนะคะ...ปัดกันซะวุ่นไปหมด...บอกตามตรงว่า ....เบื่อ..จิง จิง...ใจดีให้ก้อเป็นแบบนี้...ผ่อนผันก้อแล้ว....ทำใจเย็นก้อแล้ว......เหลือเพียงอย่างเดียว...ทำใจ...แต่มาคิดไปคิดมา...มันคงต้อง... ? ....กันไปข้างหนึ่ง.....หนี้แห่งนี้...มีแต่คำว่า “................” ที่เล่ามาคือความคืบหน้าของวันนี้ค่ะ (ดิฉันไม่เคยปิดมือถือ...เพราะฉะนั้น....ตอนนี้ยังรอทราบความคืบหน้าจากคุณสิและน้องเซลล์เสมอค่ะ...เผื่อจะโทรมา... 5555) จากคุณ : tobezero - [ 8 ก.ย. 51 20:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องราวเต็มๆ ของคุณ tobezero (หลังจากตามอ่านมาทุกกระทู้) ขอบคุณที่เข้ามา Share ประสบการณ์กับโครงการใหญ่อีกโครงการหนึ่ง ส่วนตัวไม่มีประสบการณ์เรื่องที่ดินตาบอด + การดำเนินการของที่ดินนอกโครงการแบบนี้ เลยไม่ขอเสนอความเห็นใดๆ นอกจากให้กำลังใจคุณ tobezero ให้สู้ต่อไป และถึงที่สุด เพราะเท่าที่อ่านมา คุณ tobezero ใจเย็นและทำถูก สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เอาใจช่วยนะครับ มีอะไรคืบหน้าเข้ามาเล่าสู่กันฟังนะครับ จะติดตามต่อไป ^_^ จากคุณ : Kong - [ 9 ก.ย. 51 11:17:54 A:58.8.191.181 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะคุณ Kong สำหรับกำลังใจที่ให้...ในยามที่ไม่มีแม้แต่เงาของผู้บริหารฯ มาเหลียวแล ขอเล่าความคืบหน้าต่อนะคะ...วันนี้ (อังคารที่ 9 ก.ย.)...ดิฉันโทรหาคุณสิ 1 ครั้ง ตอน 11 โมง กว่าๆ ไม่รับค่ะ...เลยโทรอีกทีตอนประมาณก่อนเที่ยง (ซัก 11:45 ประมาณนั้น) ...ติดค่ะ แต่ดังอยู่นาน ซักพักนึง...แกรับสายค่ะ....ดิฉันก้ออุตส่าห์ใจเย็น...ถามว่า "ไม่ทราบว่าความคืบหน้าเรื่องกระจกฯ เป็นอย่างไรบ้างคะ....แกพูดดีเหมือนเดิมว่า พรุ่งนี้ (พุธที่ 10) เซลล์จะมาเซ็นต์เอกสารให้ครับ ถ้าเซลล์เซ็นต์เรียบร้อยก้อจะดำเนินงานเรื่องกระจกฯ ให้ ....ดิฉันก็ถามต่อ...ทำนองว่า...จะเป็นไปได้มั๊ย...ที่จะแฟ็กซ์เอกสารให้เซลล์เซ็นต์ก่อนพร้อมกับให้แฟกซ์แนบสำเนาบัตร ปชช. กำกับว่าเพื่อทำธุรกรรมอะไร จากนั้นค่อยให้เซ็นต์ตัวจริงอีกที ...เพราะถ้าเผื่อว่าพรุ่งนี้เซลล์ไม่มา..แล้วดิฉันไม่ต้องรอต่อไปอย่างไม่มีกำหนดหรือ...แกก็ว่าทางฝ่ายกฎหมายของอนันดาไม่ยอม (แต่ข้อมูลที่ได้จากพี่ๆ ในหมู่บ้านฯ ทราบว่า คุณสิ ก็เป็นทนายความ...ในแง่มุมของเราเลยไม่เดาไม่ออกและไม่สามารถทราบได้ว่า ฝ่ายกฎหมายที่ว่าคือใคร)...สรุปแล้ว...ต้องให้เซลล์มาเซ็นต์..เลยถามต่อถึงเวลานัดหมาย...แกก้อว่าที่เซลล์บอกกับแกไว้คือช่วงเย็นๆ ของวันพุธ พอวางหูจากคุณสิซักพักใหญ่ๆ...เกือบบ่าย 2 โมง ดิฉันโทรหาเซลล์..ถามเค้าว่าพรุ่งนี้จะไปเซ็นต์เอกสารกี่โมง...เธอว่าจะซัก 10-11 โมงเช้า ...ตอนนั้นคิดในใจ...ทำไมบอกไม่ตรงกัน (ว๊ะ)...แต่เธอก้อยืนยันว่าเธอจะรับผิดชอบเรื่องกระจกฯ โดยการจะไปเซ็นต์เอกสารให้น๊ะ แถมบอกว่าเธอขอให้ทางคุณสิส่งแฟ็กซ์เอกสารให้เธอดูก่อน...แต่ก็ยังไม่เห็นได้รับเลย... วันนี้หลังเลิกงาน (ทั้งๆ ที่ไม่สบาย เป็นไข้) ..ดิฉันยังคงแวะไปดูบ้านตามปกติ...มีการซ่อมสีที่รั้วแล้ว งานก็ ok ดี ในระดับหนึ่งแต่ก็ยังมีจุดที่ไม่เรียบร้อยอยู่ดี คือ..รอยทุบพื้นเพื่อติดกลอนล็อกยังอยู่เหมือนเดิม (อยู่แบบนี้มาประมาณเกือบ 1 เดือนเห็นจะได้) แบบว่าไม่ต้องเรียกช่างมาดูหรอก...เด็กๆ เห็นยังประณามคุณภาพงานได้เลยค่ะ....รวมถึงจุดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรั้ว (แต่ไม่อยากพูดถึงเพราะจะทำให้ ‘รมณ์..บ่จอย...ยิ่งกว่าเดิม)....คิดโน่นคิดนี่....ขับรถออกจากบ้าน.....จนเกือบถึงถนนใหญ่แล้ว...นึกถึงสิ่งที่เราได้รับและสิ่งที่คุณสิพูดกับเรา (บวกกับผลงานอันน่าจดจำในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา) คิดแล้วมันช่างหลักลอยเหลือเกิน เลยเลี้ยวรถกลับทันที ทั้งๆ ที่อีกนิดเดียวจะถึงถนนใหญ่แล้ว.....กอรปกับตั้งแต่คุยกับคุณสิมาซักระยะหนึ่งแล้ว....ยังไม่เคยประสบพบหน้าคุณสิเลยซักครั้ง...แค่อารมณ์แห่งความคิดถึงนั้น....รถมันก้อมาจอดหน้า สนญ.ของอนันดาแล้วค่ะ (ตรงข้ามบ้านที่ดิฉันซื้อนั่นแหละค่ะ)...เข้าไป...คุณสิกลับหรือยังคะ...ยังค่ะ...ช่วยบอกด้วยนะคะว่าดิฉันมาพบ..ยังไม่ทันได้บอกชื่อ....(สนทนากับน้องสาวคนสวย..สงสัยจะเป็น Reception)...อ้าว...วันเสาร์พี่ยังไม่ได้เจอแกหรือคะ...โถ โถ โถ ..ไม่อยากพูดอะไร เด็กน้อยเอ๋ย.... วันเสาร์น่ะ..เห็นๆ อยู่...ถ้าจำกันได้  น้องเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่หรือคะว่า.....คุณสิฝากเอกสารนี่  (ยื่นแฟ้มกระดาษให้.....ข้างในมีกระดาษคำร้อง 1 แผ่น...เรื่องกระจกตัดแสง...อ้างอิงตาม คห.8) แล้วให้พี่เซ็นต์น่ะค่ะ...แล้วพี่จะได้เจอคุณสิมั๊ยล่ะวันนั้นน่ะ...น่ารักนะคะ...อัธยาศัยดี...เฮ้อออออ...ไม่อยาก Said)...แต่พี่ไม่โทษน้องนะคะ...เพราะวันนี้หลังจากที่ได้เจอคุณสิ...ได้คุยกัน...ได้เห็นได้ยินได้ฟังในสิ่งที่คุณสิพูด....คุณโก้ชานนท์คะ...คุณจะรู้มั๊ยนะว่าดิฉันรู้สึกอย่างไรต่อองค์กรของคุณ..... หลังจากขับรถออกมาจาก สนญ.อนันดา....ดิฉันโทรหาเซลล์เวลา 18:32 (เวลาในมือถือของดิฉัน) เพื่อ Confirm เวลานัดหมายกับทางอนันดาฯ ในวันพรุ่งนี้ และแจ้งว่าพรุ่งนี้ดิฉันจะไปด้วย...รวมถึงการสอบถามและพูดคุยเรื่องต่างๆ โดยใช้เวลาคุยทั้งสิ้นประมาณ 1 ชม. 28 นาที (ตามข้อมูลเวลาในมือถือ) ...บอกตามตรงว่าดิฉันไม่ทราบว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร....เซลล์แจ้งว่า อนันดาฯ ไม่จ่ายค่าคอมฯ ให้เธอมาซักระยะหนึ่งแล้ว หลังจากทราบว่าเธอจะลาออก..และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมาย..เกี่ยวกับอนันดาฯ (ขอบอกว่ามากมายจริงๆ ค่ะ)..แต่เธอก็บอกว่า....พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเพราะหนูได้คุยกับทางผู้ใหญ่แล้ว...ว่าจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายเรื่องกระจกตัดแสงของพี่โดยการหักจากค่าคอมฯ ของหนูที่ยังไม่ได้รับจากอนันดา แถมยังมีส่วนต่างฯ อีก(ทราบจากการบอกเล่าจากเซลล์ว่าเป็นเงินพอประมาณ) ซึ่งวันนี้ดิฉันได้ถามคุณสิแล้ว ..ตอนเจอแก... แกก็ยืนยันว่าค่าคอมฯ ของน้องเค้ามากกว่าค่ากระจกฯ ของดิฉัน .....แล้วถ้าคุณเป็นดิฉัน...จะรู้สึกอย่างไรกับอนันดาคะ ? สำหรับตอนนี้โดยส่วนตัว...ดิฉันไม่อยากคิดในแง่ลบ เลยขออนุญาตข้ามไปก่อน (แต่ถ้าสถานการณ์มันแย่จริงๆ จะย้อนกลับมาเล่าให้ฟังค่ะ...ว่าเซลล์กล่าวถึงอนันดาว่าอย่างไร)... เพราะ ณ ขณะนี้...ดิฉันไม่ทราบหมือนกันว่าใครพูดจริง ใครสาดโคลนใส่กันบ้าง...แต่ดิฉันซื้อบ้านอนันดาฯ...และตอนนี้ครอบครัวดิฉันกำลังเดือนร้อนค่ะ.....เลยอยากให้เจ้าของบริษัทฯ รับทราบความเดือนร้อนของลูกบ้านบ้างจากระทู้ที่ตั้งขึ้น...และดิฉันอยากทราบว่า "เมื่อไหร่...ความสุขที่ดิฉันและครอบครัวจะได้รับในการซื้อบ้านใหม่...จะมาถึง ?" จากคุณ : tobezero - [ 10 ก.ย. 51 01:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากอ่านเสร็จ เห้อออออออ ทำไมเป็นกันแบบนี้น่ะ ท่านเจ้าของโครงการได้เงินจากเรามหาศาล แต่เรานั้นเป็นหนี้อีกเกือบ20-30 ปี ทำไมถึงโยนภาระความเดือดร้อนมาให้เราอย่างนั้นล่ะค่ะ โหวตค่ะ เพื่อส่งเสียงให้ดังถึงเจ้าของโครงการอนันดา และเป็นกำลังใจให้พี่จขกท.น่ะค่ะ จากคุณ : ปลากัดสีทอง - [ 12 ก.ย. 51 15:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สู้ค่ะๆ  โหวตให้ด้วยนะ  จะได้ประจานไปทั่วๆ จากคุณ : HappyHippo - [ 12 ก.ย. 51 18:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จริงๆ เจ้าของกระทู้ไม่น่าไปโอนให้ทางโครงการก่อนเลยคะ โอนก่อนที่บ้านจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อย เหมือนกับตกกับดักของโครงการไปเต็มๆๆๆๆ คะ โครงการเนี่ยก็ไม่น่าเลยนะคะ ชอบเกลี้ยกล่อมให้ลูกค้าโอน ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้เงินเร็วๆ เซล์ก็อยากได้ค่าคอม โครงการก็อยากได้ตัง แนะนำให้ปรึกษาพูดคุยกับผู้จัดการโครงการหรือผู้บริหารระดับสูงนะคะ เพื่อให้ช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย ส่วนหนึ่งก็มาจากความชุ่ย ความไม่ใส่ใจของบุคลากรของโครงการ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : kittycool (kittycool) - [ 12 ก.ย. 51 19:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเห็นใจจริงๆ  ทำไมโครงการใหญ่ระดับนี้ยังทำกันแบบนี้ได้ เงินแค่ไม่กี่หมื่นบาททำไมไม่ Support ความรู้สึกของลูกค้า จิตวิญญาณและความรู้สึกของลูกค้ามีค่ากว่าสิ่งที่พวกคุณทำกันมากนักแล้วจะเอาบรรทัดฐานที่ไหนมารับประกันให้กับผู้บริโภค พวกเราก็ต้องคิดขนาดโครงการระดับนี้ยังเป็นแบบนี้แล้วโครงการที่เล็กกว่านี้ล่ะจะเป็นอย่างไร(ทั้งๆที่อาจจะมีความรับผิดชอบมากกว่า)  "ชีวิตคนหนึ่งคนจะซื้อบ้านในฝันได้ซักกี่หลัง" เราขอโหวตให้  ในเมื่อเรื่องถึงขนาดนี้แล้วใจเย็นๆ น๊ะครับขอให้ปัญหาผ่านไปได้ด้วยดี เอาใจช่วย จากคุณ : Aui-tui (Aui-tui) - [ 12 ก.ย. 51 19:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นอกเหนือจากเรื่องกระจกแล้ว มีปัญหาอื่นๆ ที่เป็นปัญหาใหญ่อีกไหมครับ? จากคุณ : saengchot - [ 12 ก.ย. 51 22:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท.ยังรักและรู้สึกดีกับบ้าน และโครงการนี้อยู่เหรอคะ เราขึ้นเป็น blacklist เลย ให้ตายก็ไม่ซื้อ อะไรจะมั่วกันได้ขนาดนี้ สคบ.คงเป็นที่พึ่งให้ จขกท.ได้ค่ะ โครงการพวกนี้กลัว สคบ.ที่สุด แจ้งไปเลยค่ะ เรื่องเดินไวแน่นอน อ่านดูแล้ว รู้สึกสงสาร จขกท.จัง จากคุณ : ฮิปโปฟันผุ - [ 13 ก.ย. 51 01:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นใจนะคับ เป็นกำลังใจให้ ใครซื้อบ้านใหม่ก็ไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้หรอกเนอะ สู้ๆคับ จากคุณ : oatrice - [ 13 ก.ย. 51 11:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากค่ะสำหรับความคิดเห็น + กำลังใจจากทุกท่าน ผ่านมาหลายวัน...ไม่ได้มาเล่าความคืบหน้าตั้งแต่วันพุธ (ที่ไปเจอเซลล์ และการพูดคุยกับโครงการอนันดาฯ แบบพร้อมหน้าพร้อมตา) เริ่มเลยนะคะ...วันพุธที่ 10 ก.ย. 51...เซลล์มาหาดิฉันที่บริษัทฯ ประมาณบ่าย 2 โมง (รู้สึกรักเธอจังที่มา...เพราะเธอทำงานที่อื่นๆ แล้ว คงต้องหาเวลาสับหลีก..ถึงแม้เธอจะมาล่าช้าไป...แต่ก็ขอขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ)....หลังจากนั้นเราขับรถไปที่ สนญ.อนันดาด้วยกัน...พอไปถึงหน้าบริษัทอนันดาฯ ....น้องเซลล์โทรหาคุณสิ..ว่ามาถึงแล้ว....พอเข้าไป...เธอให้ดิฉันเข้าไปนั่งรอไปห้องประชุมคนเดียว...ซักพักใหญ่ๆ (เกือบครึ่งชั่วโมง)...ก็เข้ามา..โดยถือเอกสาร (ที่โครงการฯ ให้ดิฉันเซ็นต์เมื่อวันเสาร์) งข้ามาด้วย....แล้วมานั่งเขียนร่างเอกสารในสมุดของเธอ..ดิฉันเลยถามว่า “แล้วไหนล่ะเอกสารที่โครงการฯ จะให้น้องเซ็นต์”...เธอก็ว่า “ไม่มี..คุณสิไม่ได้เตรียมไว้ แต่จะให้หนูเซ็นต์ในใบที่พี่เซ็นต์ไว้เมื่อวันก่อน (ใบที่โครงการฯ ให้ดิฉันเซ็นต์เมื่อวันเสาร์)...แต่หนูว่ามันไม่ใช่...ไม่เกี่ยวกันเลย” ...เราก้อ “เฮ้อ...มันจะอะไรกันนักหนา..โครงการอนันดาฯ คุณขอให้คนเข้ามาเซ็นต์เอกสารสำคัญที่มันกำลังเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ดิฉันได้รับความเดือนร้อนและร้องเรียนมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว....แต่...คุณกลับไม่เตรียมการอะไรเลย...แล้วนี่คุณจะมาไม้ไหนอีก (ว๊ะ)”...ซักพัก...เธอก้อบอกว่า “เดี๋ยว เธอออกไปพิมพ์ที่หน้าคอมฯ เลยดีกว่า” แล้วก้อออกไป....(ดิฉันไม่ได้มารยาทแย่เกินไปใช่มั๊ยคะ..ที่จะแอบมองว่าข้างนอกห้อง...แล้วมองว่าตรงที่เซลล์กำลังนั่งพิมพ์เอกสารอยู่มีใครบ้าง....ดิฉันเห็นคุณสิยืนอยู่...น้องเซลล์นั่งพิมพ์เอกสารอยู่...แล้วก้อมีคุณผู้หญิงอีก 2-3 ท่าน...แต่มีคนหนึ่งที่ดิฉันจำได้ว่า เซลล์เคยบอกว่า เธอคนนี้ คือ ผจก.ฝ่ายขายที่เป็นหัวหน้าเธอ.....อึ้งมั๊ยคะ....คุณๆ ท่านๆ....มันจะอะไรกันนัก (ว๊ะ) เนี่ย!!!!! กลเม็ดมากเหลือกัน...มาเจอพร้อมกันก้อแล้ว...เพื่อเซ็นต์เอกสาร...ไหนเลยทำไมไม่เตรียมเอกสารให้เซ็นต์.....เรื่องจะได้จบๆ...ช่างมีเงื่อนงำสิ้นดี...5555 คุณโก้ชานนท์...จะรู้มั๊ยเนี่ย? ............. รู้...ไม่รู้.....รู้...ไม่รู้.....รู้...ไม่รู้.....รู้...ไม่รู้.....รู้...ไม่รู้.....รู้...ไม่รู้.....แต่ฉัน...ชัง..เธอ....อนันดา !!!!! ....หลังจากนั่งรอเซลล์นั่งพิมพ์เอกสารที่ตัวเองต้องเซ็นต์ (พิมพ์เอง เซ็นต์เอง)......ซักพักหนึ่ง (ผ่านไปเกือบ 1 ชม.) ...ก้อมีบุคคลท่านหนึ่ง...จากการแนะนำตัวอันสุภาพ (ชมจากใจจริงค่ะ) ชื่อ คุณวอ...จนท.ท่านนี้บอกว่า ได้รับมอบหมายให้มาดูแล Case ของดิฉัน จากนั้นก็ถามรายละเอียดต่างๆ เรื่องบ้านของดิฉัน.......ดิฉันก้อเล่าให้ฟังตั้งแต่แรก...ซื้อ โอน ทอดทิ้ง...... และก็พูดขอโทษขอโพยต่างๆ เกี่ยวกับขั้นตอนของบริษัทฯ โดยรับปากว่าจะดูแลดิฉันในเรื่องที่เกิดขึ้น...พูดคุยกันพอประมาณ...ดิฉันและน้องเซลล์ก้อกลับออกจากอนันดาฯ ด้วยสัญญา (ปากเปล่า) จาก พนง. ท่านนี้มากมาย พร้อมกับเอกสารที่น้องเซลล์ต้องร่างและเซ็นต์ชื่อ โดยมีดิฉันเซ็นต์กำกับร่วมด้วย (ถ้าทุกอย่างไม่เรียบร้อยตามคำมั่นสัญญาของอนันดาฯ ...ทุกท่านจะได้เห็นเอกสารทุกอย่างในหน้ากระทู้นี้ค่ะ) พอมาถึง Off. ของดิฉัน...เรา (ดิฉันและน้องเซลล์) นั่งคุยกันอีก 1 ชม. เศษๆ ถึงอนันดาฯ ค่ะ... จากคุณ : tobezero - [ 13 ก.ย. 51 20:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณ คห. 23 ดิฉันโง่เองน่ะค่ะ......ที่ไปโอนบ้านฯ ให้โครงการก่อน....จึงทำให้ต้องเป็นเช่นนี้... แต่ ณ ตอนนั้น...เราคิดว่าเราซื้อบ้านของวินด์มิลล์ (ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น "อนันดา") กอปรกับบ้านที่ซื้อก้อไม่ได้ราคาต่ำต้อยซะจนน่าเกลียด...ถึงแม้ว่าจะไม่เทียบเท่าบ้านในวินด์มิลล์ที่มีมูลค่าเป็น 10-40 หรือ 50 ล้านบาท แต่ด้วยความเป็น "อนันดา"... เราเลยคิดว่าเราจะได้รับบ้านของเราในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดน่ะค่ะ...ก้อเลยไปโอน..แต่กลับต้องพบกับเรื่องแย่ๆ แบบนี้แหละค่ะ เพราะฉะนั้น...ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่จะมาเสริมความเชื่อให้แก่คนซื้อบ้านใหม่ว่า "อย่าโอนเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีไหนทั้งสิ้น" อย่าเชื่อในคำพูดของคนที่เกี่ยวข้องกับการโอนบ้านของท่าน ไม่ว่าจะเป็นแบงค์. เซลล์ หรือโครงการฯ ค่ะ.. จากคุณ : tobezero - [ 13 ก.ย. 51 21:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณ คน.25 นอกเหนือจากเรื่องกระจกแล้ว..ดิฉันก้อไม่ได้ติดใจเรื่องงานซ่อมอื่นๆ มากนักหรอกค่ะ..เพราะเห็นว่ามันไม่ได้ยากหรือเหนือบากกว่าแรงที่จะทำ...อย่างเช่น งานรั้ว...ตามที่บอก..มันแค่เรื่องง่ายๆ ถ้าคิดจะทำ (แต่ไม่ทำอ่ะ)...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ถ้าดิฉันแจ้งแล้วแจ้งอีก...แล้วไม่คิดจะทำ..ดิฉันยินดีจ่ายเงินเองเพื่อทำค่ะ...เพราะมันรู้สึกรำคาญ...แบบว่ามันไม่ทำให้ (ตรู) ทำเองก็ได้ (ว๊ะ) จากคุณ : tobezero - [ 13 ก.ย. 51 21:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอให้เค้าแก้ไขให้ตามคำมั่นสัญญานะคะ ตามมาเอาใจช่วยสุดๆเลยค่ะ หัวอกเดียวกับกับสมัยเรา ยังไงก็รักษาสุขภาพนะคะ อย่าคิดถึงมันตลอดเวลานะคะ เดี๋ยวเครียดตาย ไปดูหนังทำบุญบ้างแผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร(โครงการนี้) ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก อิอิ นอกเรื่องเลยเรา ซ่อมบ้านเสร็จอย่าลืมเอาภาพมาให้ชมนะคะ แล้วจะคอยติดตามข่าวค่ะ จากคุณ : tookbus - [ 13 ก.ย. 51 23:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นใจจริง ๆ ค่ะ เพราะในครั้งแรก เราก็ไปวางเงินกับโครงการอนันดา เหมือนกัน ทุกวันนี้ ไม่ได้เงินคืนค่ะ ตั้ง 5 หมื่นแน่ะ แต่พอเห็นทุกข์ของคุณ tobezero แล้ว ไม่เสียดายเงินเลย ของเรานะ บ้านยังไม่ลงเสาเลยให้เราไปโอนก่อนแถมเราต้องเอาเงินไปวางให้ครบ ตามราคาบ้าน มันแปลก ๆ ค่ะ เหมือนเราจ่ายเงินครบแต่ การสร้างบ้านโครงการต้องไปติดต่อกับธนาคาร ธนาคาร จะจ่าย เป็นงวด ๆ ตามระยะเวลาสร้าง รายละเอียดมีอีกเยอะ ต้องไปถามพี่สาวก่อน ตอนนั้น โมโหหน้ามืด ไม่สนใจรายละเอียด เลย บอกพี่สาวว่าช่างมัน ทิ้งมันไปเถอะ อย่าเดินหน้าเลย ยอมเสียเงิน ตอนนี้ Happy ค่ะ อยู่บ้านนี้ ได้บ้านโครงการอื่น ถึงจะไม่ดังมาก แต่ สบายใจสุด ๆ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 51 20:10:55 จากคุณ : jimyai - [ 14 ก.ย. 51 20:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่มีความรู้พอจะช่วยได้ โหวตให้แทนละกันนะค่ะ จากคุณ : giguru - [ 15 ก.ย. 51 09:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะ..คห.31+32 ทุกวันนี้ดิฉันก้อพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องบ้านมากจนมากระทบเรื่องอื่นๆ ค่ะ...อันไหนโอนอ่อนได้...ผ่อนผ้นได้ (ถ้าไม่ใช่สาระสำคัญ) ดิฉัน..ก็จะไม่อยากเก็บมาเป็นทุกข์...อยากให้จบๆ ไป จากคุณ : tobezero - [ 15 ก.ย. 51 19:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดิฉันอยากเล่าให้ทุกท่านทราบความคืบหน้าเรื่อยๆ ค่ะ...เริ่มเลยนะคะ หลังจากเหตุการณ์วันพุธที่ผ่านมา...คุณวอ..ติดตามงานดีค่ะ...โทรบอกความคืบหน้าให้ทราบตลอดว่าได้ติดตามเรื่องอะไรให้บ้างแล้ว...บอกตามตรงว่า...ประทับใจน้องท่านนี้มากๆ ค่ะ...และรู้สึกว่าช่างเป็นความโชคดีเหลือเกินที่ "อนันดา" ได้มีบุคลากรอย่างน้องท่านนี้มาร่วมงานด้วย (ทราบว่ามาจาก LH)... น้องท่านนี้โทรแจ้งความคืบหน้าให้ดิฉ้นทราบวันพฤหัสฯ 1 ครั้ง, วันศุกร์ 1 ครั้ง...(ขอไม่พูดรายละเอียดแล้วกันนะค๊ะ) และวันนี้..น้องท่านนี้ก็โทรมาแจ้งความคืบหน้าอีกว่า...จะเริ่มทำงานเรื่องกระจกให้ดิฉันวันไหน...คาดว่าจะเสร็จสิ้นวันไหน...ส่วนเรื่องงานแก้ไขอื่นๆ ...ช่างได้เริ่มเข้าไปทำให้แล้ว....ดิฉันรู้สึกขอบคุณจากใจจริงมากๆ ค่ะ.... แต่พอวันนี้ดิฉันเข้าไปดูบ้าน (ตามที่บอกว่าเข้าไปดูเกือบทุกวัน...ถึงแม้ว่าเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์นี้จะไม่ได้ไปดูเลยเพราะต้องทำงาน)....แต่ถึงกระนั้น...ดิฉันยังมองไม่เห็นในข้อแตกต่างระหว่างสิ่งที่ดิฉันได้เห็นก่อนหน้านี้ (วันพฤหัสฯ ที่ 11)...กับสิ่งที่ได้เห็นในวันนี้เลยค่ะ...นอกจากที่..."ล้อเลื่อนเปิดประตูรั้วที่คุณมาแต้มสี...จากสีเดิมคือสีเหล็ก (ตามธรรมชาติ) ของมัน...มาเป็น "สีดำ" (แถมยังแต้มแค่ด้านที่ลูกบ้านจะเห็น..ถ้าขับรถเข้าบ้าน..นั่นคือ..แต้มเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น ด้านหลังยังเป็นสีเหล็กตามธรรมชาติเดิมๆ เลยค่ะ)... สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดิฉันพบเห็นในช่วงระหว่างเวลา 17.40-18.20 น. ของวันนี้ (วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.51) ค่ะ... จากคุณ : tobezero - [ 15 ก.ย. 51 20:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามที่บอก...สิ่งที่เห็นคือการเก็บงานที่ได้รับจากโครงการฯ ....อย่างไรก็ตาม..ดิฉันก็ยังรู้สึกดีๆ กับสิ่งที่น้องวอท่านนี้.....ติดตามงานให้ค่ะ...ตลอดเวลาตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาจนถึงวันนี้... จากคุณ : tobezero - [ 15 ก.ย. 51 20:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โห ฟังแล้วกลุ้มแทน เฝ้าแต่รอไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้กับบ้านตัวเองครับ จากคุณ : straw_man - [ 16 ก.ย. 51 07:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ใจร้ายกันจริงๆ ไม่มีจรรยาบรรณเอาซะเลย จากคุณ : มนุษย์เงินเดือน - [ 16 ก.ย. 51 19:24:16 A:125.24.194.127 X: TicketID:185472 ]

ความคิดเห็นที่ 39 วันนี้ (อังคารที่ 16 ก.ย. 51) ...ดิฉันขอเล่าความคืบหน้าต่อเลยนะคะ วันนี้คุณวอโทรมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ...ข่าวดีค่ะ..ว่า Supplier คือ Windsor ได้เข้าไปติดตั้งกระจกตัดแสงให้พี่แล้วนะครับ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดที่แจ้งไว้...และคาดว่าพรุ่งนี้น่าจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยสำหรับเรื่องกระจก...ดิฉันบอกตามตรงค่ะว่า "ดีใจมาก" และคิดว่ามันจะทำให้เราสามารถลืมภาพที่อนันดาทำกับเราไว้ได้...ก้อเลยบอกไปว่าจะเข้าไปดู (ตามที่บอก...ดิฉันแวะเข้าไปดูเกือบทุกวันอยู่แล้ว)...คุณวอก้อยังบอกอีกว่าถ้าพี่เข้าไปดูบ้าน....มันอาจจะยังไม่เสร็จเรียบร้อยนะครับ...ดิฉันก็ว่า "ไม่เป็นไร เข้าใจ" พอเลิกงาน 5 โมงเย็น...ดิฉันก็ขับรถเข้าไปดูบ้านตามปกติ...พอเข้าไปถึง...เห็นกระจกวางอยู่ (ตามที่คุณวอบอก...ว่ายังเปลี่ยนให้ไม่เสร็จ) ดิฉันเลยเดินดูรอบๆ บ้าน...บานด้านล่างบางบานเปลี่ยนให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ..ด้านหน้าบ้านจุดที่เป็นโถงบันไดก็เปลี่ยนแล้ว..แต่ด้านบน..ดิฉันมองไม่เห็นค่ะว่าเปลี่ยนหรือยัง...จากนั้นดิฉันก็เลยไปดูกระจกที่ถูกเปลี่ยนออก (กระจกเก่า) ...แล้วไปดูกระจกใหม่.....55555555555......ความแตกต่าง...บังเกิดค่ะ....กระจกทั้งเก่าและใหม่ที่วางพิงผนังไว้...กระจกเก่าหนาค่ะ...แต่ของใหม่...บางมากค่ะ...เอาแล้วซิ....บอกตามตรงว่า “อารมณ์”  มัน “ปี๊ด” ขึ้นมาทันที....ทุกท่านคิดว่าอย่างไรคะ...กระจกเก่าหนาประมาณ 5-6 มิลลิเมตร..แต่ของใหม่ 3 มิลลิเมตรเองค่ะ....เขียวตัดแสงตามที่ Request เลยค่ะ แต่มันช่างผิดสเปคของบ้านมากๆ เลยค่ะ (ต่อไปนี้ดิฉันจะเริ่มเชื่อใจโครงการอนันดาฯ ได้อีกมั๊ยค๊ะเนี่ย) แต่อย่างไรก็ตาม...สำหรับดิฉัน ณ ตอนนี้ “กระจกตัดแสงตามคำมั่นสัญญาของอนันดา” มัน “คม” ซะจนมันตัดอารมณ์และความรู้สึกของลูกบ้าน “อนันดา” อย่างดิฉันขาดไม่มีชิ้นดีเลยค่ะ... ขอถามอีกครั้งค่ะ...ถ้าท่านเป็นดิฉัน..ท่านจะรู้สึกอย่างไรค๊ะ? หลังจากระงับอารมณ์ได้....ดิฉันตัดสินใจโทรหาคุณวอ....เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น...คุณวอบอกว่าจะให้คุณสุ (แกคือผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณสิ และมีลูกน้องคือคุณ ด. ที่แสนดี)....ให้มาดูที่หน้างานเพราะกำลังประชุมอยู่...ดิฉันก้อบอกเธอว่าจะ “รอ” ค่ะ...รอซักพัก...พี่ ด. ที่แสนดีก็มาค่ะ..(บอกแล้วไงคะว่าแก “ดี”) ...แกคงมาแทนน่ะค่ะ...ดิฉันก็บอกแกเรื่องกระจกฯ...แกเอาตลับเมตรมาวัด...หน้าหงิกๆๆๆๆๆ....แล้วก้อโทรหาคุณสิ....5555.....บอกว่า “กระจกตัดแสงที่ช่างเตรียมมามัน 3 มม. จริงๆ) จากนั้นก้อวางสายมือถือกันไป... ซักพัก..คุณวอโทรหาดิฉัน...ดิฉันเลยบอกว่า “อย่างไรก็ตามขอให้คุณวอเข้ามาดูกระจก เพราะจะได้เห็นพร้อมกัน”...ซึ่งคุณวอก้อมาและเห็นสภาพกระจกตามที่ดิฉันเล่าให้ฟัง...(ปล. ดิฉันรอคุณวอไม่นานหรอกค่ะ...เพราะบ้านที่ดิฉันซื้ออยู่ตรงข้าม สนญ.ของ บ.อนันดาฯ ไงค๊ะ)....จากนั้นเราได้มีการพูดคุยกันอยู่ซักพัก คุณวอแจ้งว่าพรุ่งนี้จะติดตามงานให้แล้วจะโทรแจ้งความคืบหน้าให้ดิฉันทราบค่ะ...ขอบคุณคุณวอเหลือเกิน......ดิฉันรอข่าวดีจากคุณวอเสมอค่ะ จากคุณ : tobezero - [ 16 ก.ย. 51 22:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกำลังใจให้นะคะ ทำไมผู้ประกอบการชอบเอาเปรียบผู้บริโภคตัวเล็กๆก็ไม่รู้ ซื้อบ้านหลังหนึ่งยอมเป็นหนี้เกือบทั้งชีวิต แค่บริษัททำตามสัญญาที่ให้ คงไม่ทำให้กำไรน้อยลงหรอก บริษัทที่ทำธุรกิจ ควรมีคุณธรรม จรรยาบรรณในการทำธุรกิจนะคะ ขอร้องล่ะคะ บุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำอะไรก็ควรนึกถึงใจเค้า ใจเราบ้าง หากคุณซื้อบ้านแล้วโดนอย่างนี้ คุณจะเป็นอย่าง จขกท ท่านนี้มั๊ย จากคุณ : แม่ปลาทอง (แม่ปลาทอง) - [ 17 ก.ย. 51 08:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เซ็งกับเรื่องกระจกด้วยคน อะไรจะลักลั่นขนาดนั้นนะ -__-' จากคุณ : มินเอง - [ 17 ก.ย. 51 12:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ้าว ยังไม่จบ เทคนิคของผู้ประกอบการ นี่มันแพรวพราวดีจังเลยนะคะ น่าจะเอาไปทำเป็นพ็อคเก็ตบุ๊คขาย จากคุณ : ฮิปโปฟันผุ - [ 17 ก.ย. 51 13:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วรู้สึกเซ็งแทนอย่างบอกไม่ถูก ช่างเห็นแก่ได้กันจริงๆ   อย่างงี้ต้องฟ้องและประจานกันไปเลย จากคุณ : Atom07 - [ 17 ก.ย. 51 16:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณ....คุณ “แม่ปลาทอง, คุณมิน, คุณฮิปโปฯ และคุณ Atom07”....มากๆ ค่ะสำหรับกำลังใจและความคิดเห็น แม่ปลาทองค๊ะ...ดิฉันน่ะ..ได้ถามคุณ ด. และคุณวอแล้ว...ว่าถ้าคุณเป็นดิฉัน...คุณจะรู้สึกอย่างไร...ที่โดนกระทำเช่นนี้...ทุกท่านได้แต่ "ยิ้มแหย..แหย" ค่ะ...แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกชื่นชมคุณวอ คือ เธอได้บอกกล่าวขอโทษขอโพยว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ได้เข้ามาเช็คงาน (เมื่อวานนี้ที่ช่าง Windsor มาติดตั้งกระจกตัดแสง)...ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ามองลึกลงไป...เธอเป็นผู้มารับงานต่อจากท่านอื่นๆ ที่ทิ้งงาน (เศษสวะ) ไว้ให้...ดิฉันเลยโกรธเธอไม่ลงเลยค่ะ...ในทางตรงกันข้าม..ดิฉันกลับมีความรู้สึก "แย่มากๆ" กับโครงการอนันดามากกว่า...ที่กำลังมองเห็นผลกำไรของธุรกิจมากกว่าสิ่งที่ควรจะปฏิบัติต่อลูกค้า... ไม่ใช่ว่า...พอธุรกิจเริ่ม "ฟู" การเอาใจใส่ลูกค้าก็เริ่ม "แฟ่บ" ตามไปด้วย... จากคุณ : tobezero - [ 17 ก.ย. 51 20:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณฮิปโปค๊ะ... โดยส่วนตัว..ดิฉันอยากให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีค่ะ..และควรจะจบตั้งนานแล้ว...ดิฉันใจดีก็มาก (ตามที่เล่า) แต่โครงการเค้าก็มีกลยุทธ์มากมายเช่นกัน (ตามที่เล่าอีกเช่นกัน)....ถ้าจะต้องเขียนเป็น Pocket Book จริงๆ มันคงได้ซักเล่มเห็นจะได้มังค๊ะ....เพราะขนาดที่มาโพสต์เนี่ย...ยังไม่ได้เล่ารายละเอียดลึกๆ ของสิ่งที่เจอมาเลยค่ะ จากคุณ : tobezero - [ 17 ก.ย. 51 20:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โครงการสุดยอด แ ย ่ มากๆเลย ยังไงก็ติดตามเรื่องราวผ่านทางพันทิปตลอดครับ จากคุณ : straw_man - [ 18 ก.ย. 51 08:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 กระจกบาง แต่บาดได้ใจ กระจกตัดแสดง และตัดความรู้สึกดีๆ กับโครงการไป คุ้มรึเปล่าครับ อ น ด ที่เคารพ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆนะครับคุณ tobezero เชียร์ให้เขียนเป็นเรื่องเป็นราว แล้วพอจบเรื่องก็ตีพิมพ์วางขาย อย่างน้อยก็จะได้เอาเวลาเครียด เบื่อ เซ็ง โกรธ และเสียความรู้สึก ไปสร้างสรรค์งานประพันธ์ ผมว่าก็ไม่เลวนะครับ เชื่อว่าปัญหาจะแก้ได้ด้วยดี แค่กว่าปัญหาจะคลี่คลาย เราอาจจะได้รับบาดแผล เล็กบ้าง ลึกบ้าง แต่สุดท้าย ไม่มีแผลไหนที่่รักษาไม่หายหรอกครับ สู้ๆครับผม! ^_^ จากคุณ : Kong - [ 18 ก.ย. 51 13:23:36 A:58.136.127.61 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ลงชื่อว่า ติดตามอยู่ครับ จากคุณ : saengchot - [ 18 ก.ย. 51 22:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ด้วยความที่อยู่วงการวัสดุก่อสร้าง รู้เลยค่ะว่ายี่ห้อไหน ใส่ใจกับคุณภาพหรือสักแต่ว่าต้องการของราคาถูกเท่านั้นจริงๆ โดยไม่ใส่ใจรายละเอียดอื่นใด เฮ้อ ... จากคุณ : ยูโด - [ 18 ก.ย. 51 22:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณอีกครั้งค่ะ..ทุกๆ ท่าน...ที่ผ่านมาอ่านและให้กำลังใจตลอดเวลา เห็นด้วยกับคำพูดของคุณ Kong ค่ะ..."กระจกบ้านฉัน" บาง แต่ บาด ใจ.....ตัด แสง แต่ กลับ ตัด ความ รู้ สึก จาก ใจ.... จากคุณ : tobezero - [ 18 ก.ย. 51 23:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นใจจริงๆค่ะ ของเราว่าโครงการที่อยู่แย่แล้วนะคะ มาเจอโครงการนี้ เล่ห์กล แพรวพราวมาก ขอยกนิ้วให้ แต่ยังไงก็จะมาโหวตให้เรื่อยๆ เผื่อเจ้าของโครงการจะได้รู้ซึ้งถึงสุภาษิตโบราณที่ว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" นะคะ คุณ จขกท. อึดมากที่สู้รบกับโครงการได้มาจนถึงขนาดนี้ ทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านในอนาคต จะได้จดจำชื่อโครงการ, เจ้าของผู้ประกอบการ เอาไว้ในใจ จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยเหมือน จขกท.ค่ะ ถ้าโครงการไม่รีบจัดการจบให้เรียบร้อยและด้วยดีอย่างนี้ คนจะได้ยิ่งรับทราบ และจดจำไปอีกนาน (ดีนะ ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาด้วย) จากคุณ : แทนPMT - [ 19 ก.ย. 51 09:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่า กว่าจะอ่านจบ ตาแห้งเลยค่ะ ^^" อ่านแล้วเครียดแทนเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เล่ห์กลทำมัยมันเยอะแยะมากมายขนาดนี้ เราเองก็คิดเรื่องบ้านหรือคอนโดอยู่เหมือนกันค่ะ เข้ามาเจอข้อมูลแบบนี้แล้ว กลัวจริงๆ เฮ้อ... จะมีโครงการไหนที่ไว้ใจได้ 100% บ้างน๊า กลัวจะเจอแบบ จขกท. จริงๆเลยค่ะ เงินก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่ ไม่เห็นใจกันบ้างเลย T^T จากคุณ : BabeMIMI - [ 19 ก.ย. 51 17:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณค่ะ....คุณแทนPMT สำหรับสุภาษิตไทย "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" .... ดิฉันเองก็หวังเหลือเกินว่า "คุณโก้ ชานนท์" จะผ่านเข้ามาในห้องชายคาด้วยตนเอง หรือได้รับข้อมูลของกระทู้นี้จาก จนท.ฝ่ายใดก็ตามแต่...ของบริษัทอนันดาฯ แล้วได้ลองทบทวนถึงความหมายของสุภาษิตนี้ว่า....คนในยุคก่อนๆ เข้าอยากจะสอนอะไรคนรุ่นหลังผ่านคำพูดดังกล่าว.... จากคุณ : tobezero - [ 19 ก.ย. 51 20:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สำหรับเรื่องบ้าน...วันนี้ (ศุกร์ที่ 19 ก.ย. 51)....คุณวอโทรแจ้งความคืบหน้าดังนี้ 1) ช่างทีมคุณสุ (คุณ ด.) ได้เริ่มเข้ามาแก้ไขงานให้แล้ว เช่น งานรั้ว และเรื่องอื่นๆ ที่ดิฉันแจ้งไว้ 2) เรื่องการเปลี่ยนกระจกตัดแสงฯ ใหม่เพื่อให้ถูกต้อง ตรงตามสเปค...ตอนนี้เรื่องผ่านแล้ว คาดว่าจะสามารถสั่งของได้วันจันทร์หรืออังคารหน้า...และคาดว่าช่างจะเข้าเริ่มงานติดตั้งได้ประมาณวันพุธหน้าค่ะ 3) ได้ติดตามเรื่องการโอนเอกสารฯ ของไฟฟ้า+ประปาเสร็จเรียบร้อยแล้ว บอกตามตรงว่า...แค่เห็นสายเข้าจากคุณวอตอนนี้...ดิฉันลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ...ว่าจะเป็นอย่างไร....แต่วันนี้....ข้อความตามที่คุณวอแจ้ง....รู้สึกดีมากๆ ค่ะ...แต่ดิฉันยังพึงระลึกเสมอว่า "มันเป็นแค่คำพูดเท่านั้น" และวันนี้ดิฉันเข้าไปดูบ้านตอนประมาณ 1 ทุ่มเศษๆ ...ไป Late กว่าทุกวันเพราะติดงาน...มันมืดแล้วค่ะ..เลยมองไม่ค่อยเห็นอะไรซักเท่าไรนัก...แต่พรุ่งนี้ดิฉันจะไปดูอีกทีเพื่อดูความคืบหน้าตามที่คุณวอแจ้ง...แล้วดิฉันจะมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบค่ะ จากคุณ : tobezero - [ 19 ก.ย. 51 21:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ทั้งหมดนี้ผมยกความไม่เอาไหนของชานนท์ผู้บริหาร ดูภายนอกเหมือนจะดีแต่ความจริงบริหารได้แย่ ไปตุยให้รู้เรื่องรู้ราวไปเลยครับ ผมกะจะซื้อโครงการมัลดีฟ ตอนนี้ไม่ซ้งไม่ซื้อมันแล้ว เอาเงินไปให้บริษัทอื่นดีกว่า จากคุณ : PR หนุ่ม (PR หนุ่ม) - [ 19 ก.ย. 51 23:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 ก.ย. 51 06:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เป็นกำลังใจให้ขอให้เรื่องจบด้วยดีครับ จากคุณ : ตี๋อินเตอร์ - [ 20 ก.ย. 51 11:58:46 A:58.8.230.118 X: TicketID:184471 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ ขอให้ทุกอย่างจบดั่งใจเรานะครับ จากคุณ : รักแม่มาก - [ 21 ก.ย. 51 21:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณค่ะ คุณ PR หนุ่ม....จริงๆ อยากเข้าไปคุยกับคุณชานนท์เหมือนกันค่ะ...(อยากมากๆ ด้วย) ....เคยถามเซลล์แล้ว...น้องเค้าบอกว่า พี่เข้าไปไม่ถึงตัวคุณชานนท์หรอกค่ะ..เพราะจะมีคนระดับรองๆ คอยสกัดเรื่องเอาไว้...ซึ่งก็เป็นจริงค่ะ...เพราะแค่เข้าไปคุยกับคุณสิ (ระดับเจ้าหน้าที่บริหารหลังโอน) เธอยังทำหน้าทำตาและแสดงกิริยาไม่ค่อยดีเลยค่ะ...รับเรื่อง แล้วปัดไปปัดมาค่ะ...เซ็งงงงงงงงงงงง ถ้าคุณ PR หนุ่ม...ยังอยากซื้อโครงการนี้เพราะชอบในแบบบ้านหรือ Location ... ดิฉันก็อยากให้ทบทวนโดยละเอียดและอย่าได้หลงเชื่อคำพูดใดๆ จากโครงการฯ เป็นอันขาด...โดยเฉพาะเรื่อง "การโอนก่อนบ้านเสร็จ" จากคุณ : tobezero - [ 22 ก.ย. 51 13:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณค่ะ...คุณ Mr.Fusion, คุณตี๋อินเตอร์, คุณรักแม่มาก...สำหรับกำลังใจค่ะ... ดิฉันเองก็อยากให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีและรวดเร็ว...เราเองก็อยากได้บ้านตามระยะเวลาอันควร....แต่ ณ ตอนนี้เป็นเวลา 2 เดือนกว่าแล้วนับจากวันโอน (โอนวันที่ 11 ก.ค.51)....นานมากแล้วน๊ะค๊ะ... จากคุณ : tobezero - [ 22 ก.ย. 51 13:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอเล่าความคืบหน้าหลังจากไปดูบ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาต่อเลยนะคะ... ดิฉันเข้าไปดูบ้านตอนช่วงสายๆ ของวันเสาร์....พอเดินดู..เริ่มจากหน้าบ้าน...เดินไปด้านข้างบ้าน...ทุกอย่างก็ OK ดี...(เพราะยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมจากเรื่องกระจก 3 มม. ตามที่เล่าข้างบน...ซึ่งอันนี้ดิฉันรับได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะ) แต่พอเดินไปที่หลังบ้าน ...พบสิ่งผิดสังเกตค่ะ....นั่นคือ...รอยงัดหน้าต่างบานเกล็ด (จุดที่ใกล้ที่สุดและติดกับประตูครัวหลังบ้าน) มีสภาพ คือ อลูมิเนียมมีเผยอออกและกระจกบานเกล็ดมีรอยร้าว....ดิฉันเห็นแล้วก็รู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก...ไม่รู้มันจะอะไรกันนักหนา...ก่อนหน้านี้....ในช่วงหลังโอนบ้านแล้ว เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง..ตอนนั้นคนที่งัดบานเกล็ด...งัดซะจนกระจกบานล่างตกแตกกระจายที่พื้นหลังบ้านเต็มไปหมด และดิฉันได้ให้เซลล์เข้ามาดูแล้ว...เรื่องตอนนั้นจบลงที่โครงการอนันดาฯ มาเปลี่ยนกระจก (เฉพาะบานเกล็ดบานล่าง) ที่แตกให้ใหม่ (เป็นกระจกสีออกเขียวๆ แต่ตัดแสงหรือเปล่า..ไม่อาจทราบได้) โดยที่กระจกบานเกล็ดอื่นๆ ที่เหนือขึ้นไปเป็นสีใสๆ....ลองนึกภาพหน้าต่างบานเกล็ดดูนะคะ....โห่ โห่ โห่...งาม แต๊ แต๊ เจ้า... (ปล. ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ค่ะ) บอกตามตรงนะคะ...ทุกวันนี้..ดิฉันไม่อยากนึกเลยค่ะว่านอกจากช่างที่เข้ามาแก้ไขงานต่างๆ แล้ว...ยังมีใครที่เข้าออกบ้านดิฉันอีกและไม่ทราบด้วยว่าเข้าไปทำอะไรกัน ? ...แต่อย่างว่าแหละค่ะ...มันแค่เรื่องง่ายๆ ...แค่งัดบานเกล็ด แล้วเอามือล้วงเข้าไปปลดล็อกลูกบิดประตูหลังบ้าน ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้านได้... Easy Easy ค่ะ....คุณโก้ชานนท์รูปหล่อข๋า...เห็นด้วยกับดิฉันมั๊ยค๊ะ.... จากคุณ : tobezero - [ 23 ก.ย. 51 20:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สำหรับวันนี้ (อังคารที่ 23 ก.ย.51)...คุณวอโทรมาบอกช่วงบ่ายๆ ว่า ช่างได้ตัดกระจกเสร็จเรียบร้อย ถูกต้องตรงตามสเปค 5 มม. แล้ว...และกระจกได้วางไว้ให้พี่มาตรวจสอบก่อนการติดตั้งในวันพรุ่งนี้... พอตอนเย็นหลังเลิกงาน...ดิฉันได้เข้าไปที่บ้าน...ทุกอย่าง OK ค่ะ..กระจกถูกต้อง ตรงตามสเปค...รู้สึกขอบคุณคุณวอจากใจจริงค่ะที่สามารถติดตามงานได้ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ตั้งแต่รู้จักกันค่ะ (แตกต่างสิ้นดีกับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา) ซึ่งดิฉันคิดว่า...ถ้างานบริการหลังการขายของบริษัทอนันดาฯ เป็นดังเช่นการกระทำหรือพฤติกรรม รวมถึงกิริยามารยาทของเจ้าหน้าที่ท่านนี้ที่ปฏิบ้ติต่อลูกค้า...มันอาจจะลบล้างความ...????....(ที่ผ่านมา) ของอนันดาฯ ได้...ไม่ใช่เฉพาะแต่ดิฉันเพียงคนเดียว อาจจะกับลูกค้าท่านอื่นๆ ด้วยที่ถูกกระทำเช่นเดียวกับดิฉัน แต่ไม่สามารถมาแจ้งไว้ในห้องชายคานี้ได้... หลังจากเข้าไปดูบ้านได้ซักพัก...คุณวอได้โทรเข้ามาหาดิฉันเพื่อติดตามผลอีกว่าเป็นอย่างไร (ประทับใจสุดๆ เฉพาะกับคุณวอเท่านั้น)....พอคุยกันสักพัก...ได้ความว่า...งานกระจกฯ น่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ไม่เกิน 2 วัน (ยังไม่รวมการเก็บงานอื่นๆ) แค่คิดก็ ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....ดิฉัน จะ ได้ บ้าน แล้ว.....555555.... หวังว่า...จะไม่มีอะไร "ตุกติก" กันอีกแล้วน๊ะ...คุณโก้รูปหล่อ จากคุณ : tobezero - [ 23 ก.ย. 51 21:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จะขอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะกะทู้ของคุณ tobezero หรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ ทำให้ตอนนี้อนันดามี อะไรดีๆมาแก้เกมส์แล้วครับ ตอนนี้ผมซึ่งอยู่ในโครงการ sport life ได้รับ จม. มาแจ้งว่า Sport city ที่ได้เคยสัญญากับลูกค้าว่า "จะ" สามารถใช้งานสระว่ายน้ำได้ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว  คือปี2550 นั้น ในจดหมายที่ได้รับยืนยันว่า "จะ" สามารถใช้งานได้ในต้นปีหน้าครับ ซึ่งนอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังสามารถใช้งาน fitness ได้อีกด้วยนะ โดยไม่เก็บค่าสมาชิกของคนในหมู่บ้านเป็นเวลา สอง ปี 2552-53 ก็ไม่รู้ว่าเขาแก้ปัญหาเรื่อง Sport city กันเสร็จสิ้นแล้ว อย่างจริงใจ หรือจากการประจานปัญหาที่มาจากหลายโครงการ เช่น ปัญหาของคุณ tobezero ก็ตาม เราเองก็เริ่มยินดีมายิดหน่อยที่ anada สามารถทำตามคำพูดที่ให้คำมั่นได้สำเร็จแล้ว (หลังจากรอคอยมานานมาก) หลังว่าภาพลักษณ์แย่ๆของผู้บริหารคงจะไม่ปรากฏขึ้นมาอีกนะ จากคุณ : straw_man - [ 29 ก.ย. 51 15:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ยินดีกับคุณ Straw_man ด้วยค่ะที่กำลังจะได้ใช้ Sport City แล้ว...สำหรับดิฉันถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกบ้านของ Sport Life .... และไม่ถูกจัดเข้าเป็นลูกบ้านของโครงการไหนๆ ของอนันดาเลย...ก็แอบน้อยใจอยู่เหมือนกันค่ะเพราะตอนที่คุยกับเซลล์..ดิฉันเคยถามเรื่องการใช้บริการที่ Sport City ...เซลล์บอกจะดูแลให้...เช่น ได้เข้าไปใช้สระว่ายน้ำ เช่นเดียวกับลูกบ้าน Sport Life ได้รับ แต่ Fitness, โยคะร้อน ฯลฯ ต้องเสียตังค์...ดิฉันก็ว่าไม่เป็นไร..รับได้..ยินดีจ่าย....คิดว่าบ้านกับ Sport City ก็ไม่ได้ไกลกันเกินไปนัก ....ถ้าสามารถเข้าไปใช้บริการว่ายน้ำได้ ก็ถือว่า OK....แต่ตอนนี้ "ไม่มีหวัง" อย่างที่ว่าแล้วค่ะ...เซลล์ก็ลาออกไปแล้ว...จะไปตามเรื่องนี้กับใครได้... ส่วนเรื่องกระจกฯ...รู้สึกดีใจมากค่ะเพราะการติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ยังเหลือแต่การเก็บงานต่างๆ ที่ทางอนันดาฯ จะต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนการตรวจรับมอบบ้านของดิฉันค่ะ จากคุณ : tobezero - [ 29 ก.ย. 51 20:38:38 ]