ความคิดเห็นที่ 1 เราซื้อรถก่อน อาจเพราะตอนมีรถมีที่อยู่อ่ะ และรถก็จำเป็นด้วยตอนนั้น อีกอย่างถ้าไม่ซื้อรถก่อน คงไม่ได้ซื้อ เพราะบ้านแพงกว่า เวลาซื้อบ้านแล้ว แทบจะหาซื้ออะไรอย่างอื่นๆแพงๆอีกไม่ได้เลย จากคุณ : ไร่ปลายตะวัน - [ 15 ก.ย. 51 18:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันต้องดูทั้งสองอย่างประกอบกันครับ ถ้าบ้านอยู่ไกลไม่มีรถก็ลำบาก ถ้าไม่อยากซื้อรถก็หาบ้านใกล้ตัวเมืองแต่ก็แพง หาซื้อรถราคาซัก 4 แสนนิดๆ (ถ้าไม่ติดยี่ห้อนะ) ป้ายแดงก็มีเยอะแยะแต่ราคานี้น่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา แล้วก็หาบ้านซัก 1 นิดๆก็พอได้อยู่ ผ่อน 2 คนนี่ แล้วก็อย่างที่คห.1 บอก ซื้อบ้านแล้วมักจะไม่มีเงินซื้ออะไรแพงๆได้อีกเลย ส่วนตัวก็ทำแบบที่บอกแต่เราซื้อรถมาแล้ว 2 ปีถึงตัดใจซื้อบ้านนะ (ผ่อนคนเดียว) แบบกลัวจะแพงไปกว่านี้น่ะแค่นี้ก็เพิ่มจากที่เคยดูมาแสนเต็มๆ ปีเดียวเอง อ้ออย่าลืมเผื่อค่าน้ำมันด้วยนะ แต่ถ้าเป็นผมตอนนี้ก็หาบ้านใกล้ตัวเมืองแต่แพงดีกว่า ค่ารถ+น้ำมัน+ค่าดูแล เดือนนึงหลายอยู่ จากคุณ : Goodty - [ 15 ก.ย. 51 18:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ห้องเช่าแถวบ้านมีแต่รถแพงๆ ยังนึกเลยว่าเอ ทำไมเค้าไม่เอาเงินที่ซื้อรถแพงไปซื้อบ้านนะ อ่านในเวปต่างๆเลยถึงบางอ้อ ว่า รถขับไปคนเห็นแต่บ้านยกไปให้ใครดูไม่ได้ ต่างจิตต่างใจแล้วกัน เราเอาบ้านก่อน จากคุณ : คุณม้าน้ำ - [ 15 ก.ย. 51 19:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ก่อนคิดว่าจะซื้อบ้านก่อน แต่ถ้าถามใหม่ .... จะตอบว่ารถก่อนครับ เนื่องจาก บ้านผ่อนนานมาก .... ถ้าผ่อนบ้านก่อน โอกาสซื้อรถคงน้อยครับ ... เอาเงินส่งบ้านหมด จากคุณ : นายแมงเม่า - [ 15 ก.ย. 51 19:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้รู้ทางการเงินแนะนำไว้ว่า ถ้าไม่อยากเครียดและขาดสภาพคล่อง ไม่ควรผ่อนสิ่งของใหญ่ ๆ  เช่น บ้านและรถยนต์ พร้อมกัน และต้องผ่อนไม่เกิน 30-40 % ของรายได้ ช่วงดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ให้ผ่อนแบบดอกเบี้ยคงที่ 3-5 ปี (เพราะดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1 % ทำให้ต้องมีภาระผ่อนเพิ่มขึ้น 6-7 %) ช่วงดอกเบี้ยเป็นขาลง ให้ผ่อนดอกเบี้ยแบบลอยตัว ควรมีเงินออมไว้อย่างน้อย 3-6 เดือน ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ป่วย  อุบัติเหตุ  ตกงาน ฯลฯ จะได้มีสภาพคล่อง  ไม่ต้องไปกู้เงินให้เสียดอกเบี้ยแพง ๆ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ลองอ่านดูนะครับ  อาจได้ประโยชน์บ้างครับ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N6993217/N6993217.html เพิ่มเติมลิ้งค์ "ห้องชานเรือน" แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 51 19:48:00 จากคุณ : Learn and Live - [ 15 ก.ย. 51 19:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ของผมซื้อรถก่อนครับ กะว่ารถกำลังจะหมดก็ซื้อบ้าน ช่วงที่ต้องผ่อนพร้อมๆกัน ก็ขาดสภาพคล่องจริงๆแหละ จากคุณ : Donkey - [ 15 ก.ย. 51 20:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขึ้นอยู่กับสภาพและหลายๆปัจจัยครับ ถ้ามีรถแล้วช่วยหาเงินได้ก็ควรซื้อก่อน เพราะบ้านหาเงินให้ไม่ได้ยกเว้นจะให้คนเช่า เป็นหนี้ 5 ปี กับ 20 ปีนี่ต่างกันเยอะ อีกอย่างถ้าบ้านอยู่ไกล เดินทางไม่สะดวกก็ต้องซื้อรถอยู่ดี มันก็พูดยากครับ ถ้าคุณเทียบระหว่างคอนโดในเมือง ใกล้ป้ายรถเมล์หรือรถไฟฟ้า กับรถยนต์ ผมคงแนะนำให้ซื้อคอนโดก่อนแน่ๆ แต่เดี๋ยวนี้บ้านแต่ละโครงการไม่ใช่ใกล้ๆ แถมจากปากหมู่บ้านไปจนกว่าจะถึงตัวบ้านนี่ก็เดินไม่ไหวเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณทำงานที่บ้านหรือบ้านไม่ไกลที่ทำงาน มีโรงเรียนใกล้ๆสำหรับลูกในอนาคต จะซื้อบ้านก่อนก็ได้ครับ จากคุณ : คนรู้มาก - [ 15 ก.ย. 51 20:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราเลือกซื้อรถก่อนค่ะ เพราะทำงานที่ต้องเดินทางไปหลายที่ ถ้าไม่มีรถจะลำบากมากๆ ถือว่ารถคันนี้ช่วยเราทำงานหาเงินซื้อบ้านเหมือนกันนะ พอเก็บเงินได้สักพัก ผ่อนรถใกล้ๆจะหมดก็เริ่มผ่อนบ้านต่อ เรารู้สึกว่าพอซื้อบ้านแล้วเงินแต่ละเดือนไม่ค่อยเหลือเลย จากคุณ : nameshiro - [ 15 ก.ย. 51 20:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราซื้อบ้านก่อนค่ะ จากคุณ : Friday February - [ 15 ก.ย. 51 20:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยคิดเหมือนกันว่า รถ หรือ บ้านดี สุดท้าย รถ ก่อน แต่มาย้อนคิดอีกที อยากทำบ้านมากกว่าอะ เซ็งๆๆๆๆๆ จากคุณ : PP - [ 15 ก.ย. 51 21:12:17 A:202.149.24.161 X: TicketID:187405 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซื้อ รถ มา ทำ อะไร ครับ ??????? ถ้า รถเป็น ส่วนหนึ่งของอาชีพ ซื้อรถเลย แต่ถ้ารถ เป็นแค่ พาหนะ พาไปทำงาน ผมว่าซื้อบ้านก่อนดีกว่านะครับ เพราะ รถ ค่า ดูแลรักษา สูงพอควร ราคารถวันนี้ 1ล้าน ปีหน้า คนที่1 ล้านจะเหลือ 9แสน ปีต่อไป 8แสน 7แสน โดยการตีของประกันนะ แต่บ้านถ้าทำเลดีดี อัตรา การขึ้นราคาบ้าน กับวัสดุอุปกรณ์ สร้างบ้านมันขึ้นแบบถีบตัว ไม่เหมือนราคารถนะครับ จะตอบคำถามนี้ได้ จขกท ต้องตอบโจทย์ ตัวเองก่อน ว่า ซื้อรถ แล้ว ได้อะไรต่อยอดจากรถไหม ถ้าได้ต่อยอด เยอะ ก็ เอา รถ ถ้าได้ไม่เยอะ ก็ เอา บ้าน เท่านั้นเองครับ จากคุณ : Gixz - [ 15 ก.ย. 51 21:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เลือกซื้อคอนโดในเมือง ใกล้รถไฟฟ้าก่อนค่ะ ตั้งใจจะไม่ซื้อรถ ผ่านไปสามปี มีลูก เลยซื้อรถเพราะจำเป็นค่ะ ข้อดีคือชีวิตมีการปรับตัวกับรายจ่ายในส่วนของค่าบ้านมาแล้วสามปี มีการจัดสรรเงินบางส่วนไปลงทุนและเป็นเงินเก็บ พอตัดสินใจซื้อรถ ก็มีเงินเก็บจำนวนหนึ่งพร้อมแล้ว ตอนนี้ต้องปรับการเงินให้รองรับค่าใช้จ่ายของรถที่ตามมาค่ะ จากคุณ : Ganit - [ 15 ก.ย. 51 21:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รถติดแกสมือสองครับ จากคุณ : ปะป๋าน้องมุก - [ 15 ก.ย. 51 23:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 15 ก.ย. 51 23:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ซื้อบ้านก่อน  บ้านที่ซื้อแต่ก่อน ราคา 1 ล้าน เดี๋ยวนี้ 1.7 ล้านแล้ว ให้เช่าเดือนละ 6000   กะว่าจะซื้อรถด้วยค่าเช่าบ้าน ดันเอาไปท่องเที่ยวซะเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ เปลี่ยนใจ  ซื้อบ้านอีกหลัง ให้เช่าดีกว่า  แก่ไป เก็บเงินค่าเช่าสองหลังสบาย ๆ ไม่ต้องทำงานหนัก 55555 จากคุณ : jutanan - [ 15 ก.ย. 51 23:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใช่ๆๆๆๆ เห็นด้วยกับคห. 11 จขกท.ต้องถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อรถเพื่ออะไร ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของงานก็ซื้อเลย เพราะซื้อแล้วรถก็ช่วยเราหาเงิน เหมือนเงินต่อเงิน จากคุณ : น้อยหน่าฮอทเมล์ - [ 15 ก.ย. 51 23:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถูกใจ 11 ซื้อบ้านก่อนค่ะ ซื้อรถ ผ่อน ค่าน้ำมัน ค่ารักษา ค่าซ่อม บลาๆๆๆ กลัวจะเก็บเงินซื้อบ้านไม่ทัน ไม่มีที่ซุกหัวนอน อายุก็แก่ลงทุกวัน จากคุณ : muaypery - [ 16 ก.ย. 51 00:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องดูว่าอะไรสำคัญกว่ากันอ่ะคะ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 16 ก.ย. 51 00:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมซื้อรถก่อนครับ เพราะตอนเริ่มทำงาน มันจำเป็นต้องใช้รถก่อนนิ ที่บ้านก็ยังไม่ได้ไล่ให้ไปอยู่ที่อื่นนิ เสร็จแล้วมีเงินเก็บเยอะๆ เมื่อชีวิตเราพร้อมจริงๆ ก็ซื้อบ้านเลย ตอนนี้เพิ่งซื้อบ้านมา ค่าใช้จ่ายมหาศาลเลย ถ้าไม่มีรถมาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเราก็คงจะไม่มีบ้านอยู่อย่างทุกวันนี้ ผมก็เคยเช่าคอนโดก่อนซื้อบ้านด้วยเหมือนกันนะครับ ด้วยวิธีคิดที่ว่า ผมยังไม่พร้อมจะเป็นหนี้ก้อนโต และค่าเช่าคอนโดกับค่าดอกเบี้ยบ้านมันก็พอๆกันเลย เลยเช่าไปสักพักใหญ่ๆก่อนที่จะพร้อมซื้อบ้านจริงๆ จากคุณ : vitchy8873 - [ 16 ก.ย. 51 00:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราซื้อรถก่อน  ตอนนี้ก็กำลังจะซื้อบ้านแล้วค่ะ จากคุณ : ao_siripen - [ 16 ก.ย. 51 07:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะดูจากความจำเป็นของผู้ซื้อเป็นหลัก อย่างกรณีถ้าผู้ซื้อเป็นเซลล์ เรื่องรถจำเป็นสำหรับหน้าที่การงาน รถก็น่าจะมาก่อน แต่ถ้าอย่างคนที่นั่ง TAXI/รถเมล์/รถไฟฟ้า/รถไฟใต้ดินได้ เรื่องบ้านก็น่าจะมาก่อน จากคุณ : เด็กชายกวางตุ้ง - [ 16 ก.ย. 51 08:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มอเตอร์ไซด์ + บ้าน ไม่สะดวกเท่ารถ แต่ก็สบายพอควร ขับขี่ปลอดภัย จากคุณ : อีกทางเลือก - [ 16 ก.ย. 51 08:17:42 A:210.21.230.126 X: TicketID:186916 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ก่อนก้อคิดแบบนี้แหละ....แต่ผลสรุปจากความคิดตัวเอง บ้าน........นานๆไปทำเลดีขายได้ราคาแน่นอนแล้วยิ่งช่วงนี้วัสดุก้อกำลังแพงขึ้นทุกวันแล้วอนาคตจะไม่แพงกว่านี้หรือ รถ..........สะดวก สะบาย แต่ น้ำมันก้อแพงขึ้นทุกวัน ถ้าซื้อวันนี้ ..ไม่มีทางที่จะขายได้ราคามากกว่าซื้อแน่นอนในอนาคต ทุกวันนี้ก้อเลยตัดสินใจซื้อคอนใจกลางเมือง..ไปมาสะดวก..แต่ก้อไม่ค่อยชอบหรอกค่ะอยากได้บ้านเหมือนกันแต่ตัวคนเดียวไปอยู่นอกเมืองคงอันตรายแน่ๆและงบก้อไม่ถึง....555 จากคุณ : nn-note - [ 16 ก.ย. 51 09:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราซื้อรถก่อน เหตุผลเล็กๆ แบบไม่คิดมากคือสะดวก สบาย ทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว เวลาฝนตก วันไหนต้องกลับดึก ก็สบายกว่า ปลอดภัยกว่านั่งแท็กซี่นิดนึง (หน้าตาไม่ดีหรอก แต่กลัวแท็กซี่) วันหยุดอยากไปเที่ยวก็สะดวกดี ช่วงผ่อนรถ ก็แบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วนๆ ค่า 1 2 3 4 แยกบัญชีไว้เลยค่ะ ค่าดาวน์บ้าน ,ค่าคลอดลูก, ค่าเทอมลูก, ค่าใช้จ่ายตอนแก่ พอเราผ่อนรถหมด ประกาสอิสรภาพอยู่ 2 ปี ช่วงนี้สบายสุดๆ อิอิอิ ตอนนี้ทำงานใช้หนี้บ้านอยู่ คาดว่าคงอีกยาววววววววว ชีวิตคนเราสั้นนักค่ะ อะไรที่ทำให้เรามีความสุข + พิจารณาแล้วว่าไหว (สบายๆ อย่าตึงมาก) ก็ซื้อๆ ไปค่ะ บ้านก่อนก็ได้ รถก่อนก็ได้ แล้วแต่ชอบค่ะ จากคุณ : ข้าวแรมฟืน - [ 16 ก.ย. 51 09:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าซื้อบ้านก่อนน่าจะเหมาะกว่ามั้ง  ปัจจัย 4 สำคัญกว่าความสะดวกแน่นอนครับ แต่ผมมีรถก่อนมีบ้าน  ออกทำนองว่าจะได้ขับรถเข้าไปดูบ้านที่กำลังสร้างได้อ่ะครับ จากคุณ : Devil9590 - [ 16 ก.ย. 51 10:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราซื้อรถก่อน เพราะตอนนี้ไม่มีรถใช้ แล้วก็มีลูก ย้ายบ้านเพราะเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ก็ไปนอนอยู่อพารท์เมนท์นาน 8 เดือน ก็รู้ว่าคงอยู่อย่างนี้ไปตลอดไม่ไหว ห้อง 4*5 ม. อยู่ลำบากจริงๆ ก็ซื้อบ้าน เราว่า สถานการณ์ของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ซื้อตามๆกันคงไม่ได้ บางคนโชคดีพ่อแม่มีบ้านให้อยู่ ก็อยู่กับพ่อแม่ ก็ซื้อรถก่อน บางคนไม่มีบ้าน ก็ต้องซื้อบ้านก่อน แถมดันขับรถไม่เป็นอีก 555 โชคดีไป ไม่ต้องมาคิดเรื่องรถ โชคร้ายหน่อยก็คือ อยากมีมันทั้ง 2 อย่าง อันนี้เหนื่อยแน่ เราว่าอย่าไปคิดว่าอะไรมันจะตก หรือ อะไรมันจะคุ้ม มากนักก็ดี ดูว่าอะไรที่เราต้องการ ผ่อน 4 ปี อยู่อพาร์ทเม้นท์ก็ไม่แปลก ผ่อน 30ปี ไม่มีรถขับก็ไม่แปลก ดู lifestyle เป็นหลักดีกว่า จากคุณ : L'hivre - [ 16 ก.ย. 51 10:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 1. vespa 2. volvo 3. home จากคุณ : kapolo_club - [ 16 ก.ย. 51 11:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ถ้าลองคิดดูให้ดีแล้วซื้อยังไงก็ไม่มีวันขาดทุน แถมมันก็มีแต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ แถมเราจะทำอะไรก็ได้ มันอาจจะต้องหนักหน่อยในช่วงแรก แต่ถ้าผ่านพ้นมันไปมันก็สบาย ต่างจากรถมันอาจจะดีตรงที่ว่าสะดวกเวลาที่จะไปไหนมาไหน แต่ถ้าหากถ้าลองคิดให้ดีนำมันเดี๋ยวนี้มีแต่จะแพงขึ้น ถ้าหากให้เทียบแล้วไหนจะค่าผ่อนรถ ค่านำมันอีก และอีกทั้งค่าประกันรถ มันก็ไม่ได้ต่างจากการผ่อนบ้านสักเท่าไหร่นัก เพราะอย่างน้อยบ้านก็มียังมีโฉนดที่ดิน อยู่กับเราไปได้ยาวนาน แต่ถ้าเมื่อลองเทียบรถดูแล้วมันก็เหมือนกับของนอกกาย เหมือนกับมือถือเพื่อความอำนวยสะดวก บ้านมันเปรียบเสมือนสถานที่ที่พักพิง คงไม่มีที่ไหนแน่ทีเราอยู่แล้วอุ่นใจ ถ้านั่นไม่บ้านของเราเอง link แนะนำ เป็น link เกี่ยวกับบ้าน ว่าทำไมเราถึงควรที่จะซื้อ http://www.my1sthome.in.th/madeeasy-content4.asp จากคุณ : Homeluver (homeluver) - [ 16 ก.ย. 51 14:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เคยมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน วางเงินจองรถไปแล้ว (อยากได้มากๆ เป็นความฝันอันสูงสุดทีเดียวที่อยากจะมีรถใหม่ป้ายแดงเป็นของตัวเอง) จองไปได้ไม่ถึงสัปดาห์ คุณแม่ที่รักก็มาบอกว่าไปเจอบ้านพร้อมที่ดิน 50 ตรว. เจ้าของประกาศขาย (ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับบ้านคุณน้า) แม่อยากได้มาก ราคา 1 ล้าน 5 แสน (ไม่ใช่บ้านทาวน์เฮ้าส์ ไม่ไช่บ้านโครงการ) ก็เลยลองติดต่อเจ้าของบ้าน ไปดูบ้าน ติดต่อธนาคาร ช่วงระหว่างการดำเนินการติดต่ออยู่นั้น นอนไม่หลับเลย เพราะคิดอยู่เสมอว่าได้อย่างก็เสียอย่าง ไม่สามารถผ่อนทั้ง 2 อย่างพร้อมๆกันได้ แล้วเซลล์ที่ศูนย์รถก็โทรมาเร่งให้ยื่นเอกสารส่งไฟแนนซ์ ก็ขอผลัดผ่อน บอกเซลล์ไปตรงๆเลยว่ากำลังทำเรื่องกู้ซื้อบ้านกับธนาคารอยู่ ถ้าผ่านก็ไม่เอารถ ไม่เอาเงินจองคืน แต่ถ้าไม่ผ่านจะเข้าไปส่งเอกสารให้ถึงที่เลย ขอให้เค้ารอก่อน(ประมาณว่า ถ้าไม่ให้คำตอบภายในสิ้นเดือนนี้ จะไม่ได้ราคารถเท่าเดิม อาจจะเพิ่ม 10000-20000 บาท ซึ่งตรงนี้ก็ยอมเซลล์อีก ขอให้เค้ารอ) ช่วงนั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เครียดลงกระเพาะ หายใจไม่เต็มปอดเลย ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้บอกที่บ้านด้วย กลัวว่าจะกดดัน ทำให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจ พอกู้ผ่าน พ่อกับแม่ดีใจมาก (เพราะไม่คิดว่าจะผ่าน กู้คนเดียว ฐานเงินเดือนไม่ถึง 20000 ด้วย ดีว่าที่บริษัทมีสัญญากับทางธนาคารเลยได้เต็มตามราคาประเมิณ) แต่เราเศร้า น้ำตาตกใน เสียดายรถ คิดว่าคงไม่มีโอกาสซื้อรถแล้ว คิดในแง่ดี ปลอบใจตัวเองว่า "ได้มีบ้านเป็นของตัวเองตอนที่ยังไม่ถึง 30 นี่ เจ๋งจริงๆเลย เพื่อนๆในรุ่นยังไม่มีใครทำได้เลย" เล่ามาซะยาว สรุปว่า ซื้อบ้านก่อน ก็โอกาสมันมาพร้อมๆกันแล้วพอต้องเลือก ก็ขอเลือกทำตามใจพ่อกับแม่ก่อน ตั้งใจไว้ว่าหมดภาระใหญ่นี้เมื่อไหร่จะตามใจตัวเอง ถึงตอนนั้นอาจจะไม่อยากได้รถแล้วก็ได้ คงเก็บเงินแล้วไปเที่ยวทั่วประเทศ เที่ยวรอบโลกดีกว่า (ว่าแต่จะไปไหวไหมนี่) จากคุณ : euthopia - [ 17 ก.ย. 51 01:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เราซื้อรถก่อน ตอนนั้นมีคนบอกกับเราว่า รถใช้ขับไปทำมาหากินได้ ขับไปหาตังค์ได้ แต่บ้านน่ะ มีก็ใช้ซุกหัวนอน ถ้าเงินยังไม่ถึงจริงๆ แล้วต้องตัดสินใจเลือก ก็ควรซื้อรถเพื่อหาเงิน เก้บเงินก่อน และรถผ่อนเต็มที่ก็5-6 ปี ถ้าอยากให้เร็วก็ 4 ปี หมดแล้วก็ค่อยเอาบ้านต่อก็ได้ แต่ถ้าเอาบ้านก่อน ต้องผ่อนระยะยาว แล้วถ้าบ้านไม่หมด ผ่อนรถเพิ่มอีกอย่างก็ไม่ไหวแน่ๆ จากคุณ : rbgirl - [ 17 ก.ย. 51 10:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ของเราคิดเหมือน คห.30 เลยค่ะ ผ่อนรถ 4 ปี ตอนนี้เพิ่งรถหมด เริ่มๆ มองหาบ้านแล้วค่ะ จากคุณ : ม๊ามี๊@มะหมี่ (ม๊ามี๊@มะหมี่) - [ 20 ก.ย. 51 12:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขึ้นอยู่ว่าทำงานมานานรึยัง ฐานเงินเดือนเท่าไร ถ้าใช้ขับไปทำงานธรรมดา ซื้อรถมือสองดี ๆ ใช้ให้ถนอม ๆ หน่อยผ่อนไม่หนัก น่าจะมีเงินเหลือเก็บไว้ดาวบ้านได้และใช้จ่ายอย่างอื่น พอเงินเดือนเพิ่มขึ้นค่อยขยับขยาย จากคุณ : แมวจอมซน - [ 20 ก.ย. 51 14:17:26 A:124.121.36.146 X: TicketID:187888 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ซื้อบ้าน   เราขี่จยย.ไปทำงาน   เมียเลี้ยงลูกอยู่บ้าน   เปิดกิจการเล็กๆน้อยๆในหมู่บ้านใหญ่ หาซื้อรถมือ 2 สภาพ 85% บ้านก็หาเงินได้นะคับ  ยิ่งช่วงน้ำมันแพงๆนี่ผมว่าดีกว่ารถด้วยนะ จากคุณ : ปลาหัววุ้น - [ 21 ก.ย. 51 23:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งเข้าใจว่าการซื้อบ้านต้องดูให้รอบคอบ และละเอียด ไม่งั้นเราอาจโดนหรอกได้ จากคุณ : love Airline (love Airline) - [ 22 ก.ย. 51 15:12:52 ]