พอดีไปอ่านมาเลยเอามาอชร์กันครับจากกรุงเทพธุรกิจ
ไม่แนใจว่าจะมีผลต่อโครงการของ Ananda ทางตรงหรือทางอ้อมอย่างไรแต่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นข่าวที่ดีเท่าไหร่สำหรับคนจองบ้านหรือคอนโดของโครงการนี้ไว้
อนันดาฯ หาพันธมิตรใหม่หนุนเงินทุน หลังจากพรูเด็นเชียลฯ อเมริกา ส่อมีปัญหาหลังกำไรไตรมาส 3 พลาดเป้า
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : จากกรณีที่ พรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล อิงค์ บริษัทประกันรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า ผลประกอบการประจำไตรมาส 3 จะพลาดเป้า ผลพวงนี้แวดวงการเงิน และธุรกิจอสังหาฯ มองว่าอาจจะกระทบต่อเครือข่ายที่ลงทุนผ่านกองทุนเพื่อการลงทุน หรือฟันด์ที่อยู่ในเครือข่าย
ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้ามาลงทุนในไทยด้วยรวมถึงการเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในนามของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทีเอ็มดับบลิว เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ 1 ภายใต้การบริหารงานของไพร์มอเมริกา เรียลเอสเตท อินเวสเตอร์ จากสหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพรูเด็นเชียลฯ เช่นกัน ด้วยเม็ดเงิน 154 ล้านยูโร
นายชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถที่จะตอบอะไรแทนพรูเด็นเชียลฯ ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากโครงการที่ลงทุนไปแล้วมีผลตอบแทนกลับเข้ามาที่ดีน่าจะเป็นแรงดึงดูดเม็ดเงินจากฟันด์ต่างชาติในการขยายธุรกิจได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับฟันด์ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของไพร์ม อเมริกาฯ ตลอดว่า พร้อมที่จะขยายการลงทุนในอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มทางธุรกิจ รวมไปถึงการเข้าไปซื้อทรัพย์สินที่มีปัญหามาพัฒนาต่อเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
แต่จากการที่พรูเด็นเชียล ประกาศว่ามีปัญหา รวมถึงการเกิดวิกฤติการเงินที่ขณะนี้ได้ลุกลามไปทั่วโลกนั้น ทำให้ฟันด์ที่จะมาลงทุนต้องคัดเลือกมากขึ้น และอาจทำให้แผนการขยายธุรกิจของอนันดาฯ สะดุด ทำให้ต้องหาทางออกด้วยการหาพันธมิตรทางการเงินใหม่เพื่อใช้เป็นแหล่งทุน
"ขณะนี้เราได้มีการคุยกับพาร์ทนอร์รายอื่นๆ เพราะการทำธุรกิจก็ต้องปรับตัวและหาทางออก หากเกิดปัญหาที่อาจกระทบต่อแผนธุรกิจ " นายชานนท์ กล่าว พร้อมย้ำว่า โครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งแนวสูงและแนวราบนั้นยังคงเดินหน้าต่อไป
ด้าน นายถนอมศักดิ์ แก้วเขียว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจบ้านจัดสรร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น อาจทำให้เป้าหมายการพัฒนาบ้านต้องยืดเวลาออกไป ทั้งนี้ เดิมที่สัญญากับทีเอ็มดับบลิวฯ ว่า ภายใน 5 ปีที่เริ่มจากปี 2550 จะทำบ้านขายทั้งสิ้น 3,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 11,000 ล้านบาท มีจำนวนโครงการที่พัฒนาทั้งสิ้น 6 โครงการ
ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายบ้านไม่น้อย 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2552 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,000-2,500 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 600-800 ยูนิต และล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการ มัลดีฟส์ บีช บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ จำนวน 811 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท รวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท ใช้เวลาในการพัฒนา 4 ปี แบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ บ้านแฝด 553 ยูนิต หรือ 60%, ทาวน์เฮ้าส์ 175 ยูนิต หรือ 30% และ บ้านเดี่ยว 83 ยูนิต หรือ 10%
ทั้งนี้ได้เปิดขายล็อตแรกจำนวน 108 ยูนิต และขายไปได้แล้ว 87 ยูนิต และในวันที่ 18-19 ตุลาคมนี้ จะเปิดอีกล็อตประมาณ 40 ยูนิต พร้อมกับจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายร่วมกับธนาคารกรุงไทย อยู่ฟรี 1 ปี
http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/15/news_303358.php
จากคุณ :
TheSS
- [
15 ต.ค. 51 21:00:16
]