http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/10/R5891394/R5891394.html
ตามที่ท่านถามมานะครับ
ก่อนอื่นขอชี้แจงครับว่าการออกแบบสินค้าหนึ่งๆมีองค์ประกอบหลายประการ ถังน้ำก็เช่นกัน องค์ประกอบหลักๆคงมี
1) วัสดุที่จะใช้ผลิต
2) กรรมวิธีที่ใช้ผลิต
3) รูปแบบที่จะทำการผลิต
และยังมีอื่นๆที่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้ผสมปนเปกัน ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาสนองความต้องการของตลาด
สำหรับคำถามที่ท่านถามนะครับว่า วัสดุต่างกันหรือไม่ ระหว่างถัง DOS และ S.....Stone
เบื้องต้นขณะนี้ DOS มีวัสดุอยู่ 4 กลุ่ม คือ
กลุ่ม Silver nano titanium กลุ่มนี้ DOS และ SCG Plastic (เครือซิเมนต์ไทย)ร่วมกันพัฒนาขึ้นมา มีสมบัติสูงกว่า Elixir Base ทั่วไป คือมี Silver nano Titanium ที่สามารถยับยั้งเชื้อโรคได้ และเป็นเอกสิทธิ์ เฉพาะ DOS เท่านั้น รายอื่นไม่มีนะครับ ระวังการแอบอ้าง
กลุ่ม Elixir มี 2 กลุ่มย่อย
กลุ่มสีเรียบ รับประกัน 15 ปี
กลุ่มสีแกรนิต รับประกัน 20 ปี
ในประเภทนี้มีผู้ผลิตบางรายที่ได้รับสิทธิ์ ซื้อวัตถุดิบ จาก SCG ได้ โดยต้องรักษามาตรฐานให้ได้ตามข้อกำหนด หากไม่ได้มีโอกาสที่จะถุกระงับการซื้อ ซึ่งปัจจุบันก็มีแล้ว ในบางยี่ห้อ ที่เคยมี Elixir แต่ตอนหลังไม่มี
ประเภทนี้ต้องดูดีๆนะครับเพราะมีการทำเลียนแบบคล้ายๆกัน และบางที่แอบอ้างใช้ชื่อที่ทำให้ผู้บริโภคสับสน เช่น......NANO........
กลุ่มที่สามกลุ่มโปร่งแสง เป็นรุ่น ECO ขอ DOS แต่วัตถุดิบเกรดดี จาก SCG เหมือนกัน กลุ่มนี้รับประกัน 12 ปี (ใช้ในร่มจะดีกว่าใช้กลางแจ้ง)
กลุ่มที่ 4 แทบจะไม่ใช้ทำถังน้ำบนดินแล้ว เพราะเป็นกลุ่ม เม็ดพลาสติกคุณภาพดี ที่เป็นพื้นฐานของกลุ่มทั้งสามข้างต้น มาจาก SCG เหมือนกัน คุณภาพดีครับ แต่ยังดีไม่พอสำหรับมาตรฐาน DOS ที่จะเอามาทำถังเก็บน้ำบนดิน
ดังนั้นหากถามว่าเหมือนกันหรือไม่ ต้องดูครับ ว่ากำลังเทียบกับ ตระกูล Silver nano Titanium หรือเปล่า ถ้าใช่ .......รับรอง ต่าง แน่ๆครับ
เทคโนโลยีที่ใช้ผลิต มีคนบอกว่า DOS ใส่ โฟม เพื่อลดต้นทุน
ขอเรียนว่า เป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงบางส่วนครับ จริงอยู่ที่การใส่เทคโนโลยี Porous - Tek อาจทำให้ดูเหมือนโฟม ในชั้นกลางของถัง แต่จริงๆแล้ว เป็นความจงใจในการออกแบบให้ ชั้นดังกล่าวสามารถ รับแรงกระแทก เล็กๆน้อยๆ ได้ดีขึ้น โดยถังไม่รั่วหรือแตก อันนี้เหมือนการออกแบบรถยนต์น่ะครับ เมื่อก่อนรถต้องหนาๆ บุบยาก แต่พอชนกันแรงๆคนในรถจะช้ำใน และเสียชีวิตหรือพิการได้ง่าย ตอนหลังรถจะบุบ(ในส่วนที่ควรบุบ)ได้มากขึ้น แต่ในห้องโดยสาร จะแข็งแรงไม่บุบง่าย ผู้โดยสารก็ปลอดภัยขึ้น สำหรับถังส่วนนี้คือผนังชั้นในครับ
(เอามาแทรกเพื่ออธิบายเพิ่มเติม จาก คคห.ข้างล่าง)เรื่องถังบุบนี้ เป็นเรื่องของการลดความเสียหายขณะขนส่งและติดตั้งน่ะครับ เนื่องจากสภาวะการขนส่งขนย้ายของช่างบ้านเรา บางครั้งขาดความระมัดระวัง หากออกแบบให้ถังให้ตัว(บุบหรือทนกระแทก)ไม่ได้ก้จะมีโอกาสให้เกิดรอยร้าวในเนื้องาน พอใช้งานไปนานๆอาจมีปัญหาได้
เจ้า Porous-tek นี้ เมื่อถูกแรงกระแทกจากชั้นนอก เขาจะส่งผ่านแรงมายังชั้นที่สอง และบุบหรือยุบตัวในชั้นนี้ โดยชั้นนอกเสียหายน้อย และชั้นในจะเสียหายน้อยมาก หรือ ไม่เสียหาย ถังก็จะไม่รั่วครับ
ประการที่ สาม คือรูปแบบที่จะผลิต อันนี้ขอเรียนว่าเป็นงานศิลป์ครับ ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์จะใส่ใจในเรื่องพวกนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า งานวิศวกรรม หลากหลายรูปแบบ ที่ ท่านผู้นำองค์กรสูงสุด มานั่งช่วยวิจารณ์ ปรับแก้แบบกันหน้าจอ ฝ่ายออกแบบ (ที่พวกเราล้อกันเล่นว่า พี่เค้ามา สแครช หน้าจอ คือแกมาจิ้มหน้าจอแล้วลากนิ้วไปมา เพื่อให้พวกเราเข้าใจว่าจะปรับแบบอย่างไร)
ทั้งสามประการนี้ทำให้ สินค้าที่ออกมา มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไปครับ
ท่านอาจสงสัยว่าผมป็นใคร ทำไมรู้เยอะ
ผมเป็นทีม ออกแบบครับ
ขณะเดียวกันในสื่อสู่ Public ผมคือ วิศวกร สุขาภิบาล ที่ตรงไป ตรงมา ยินดีให้คำตอบกับ ทุกคนที่เดือดร้อน ในงานที่ผมช่วยได้ และอยากเรียกร้องเพื่อนร่วมวิชาชีพ โปรดให้ความเป็นกลางในวิชาชีพ ด้วยครับ เว้นแต่ คุณจะบอกว่า คุณเป็น.......ฐานะ PR (หน้าม้า) ของ ใครสักคน
แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 10:58:29
แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 51 14:57:07
จากคุณ :
bluefalcon
- [
29 ต.ค. 51 14:55:36
]