ความคิดเห็นที่ 1 คุณก็ลองคิดดูซิครับว่าหากใช้เข็มเจาะ กับเข็มตอก ส่วนต่างราคาห่างกันเท่าไหร่ อย่างโรงรถของผม เสาโรงรถแค่3ต้น ส่วนต่างเข็มเจาะ-เข็มตอก ต่างกันอยู่3หมื่นบาท ผมไม่คิดมากเลย จ่ายไปเลยทีเดียว คิดซะว่าซื้อจักรยานคันนึงมาจอดที่บ้าน (ผมเป็นคนชอบเล่นจักรยานครับ ผมเคยคิดแบบนี้) จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 31 ต.ค. 51 09:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณเหล่านั้งเคียวห่วย  ได้ยินว่ากำลังสร้างบ้านและลงเสาเข็มเสร็จไปแล้ว   ขอถามต่อครับคือ ถ้าลงเข็มอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีกอย่างใช่มั้ยครับ   สมมติถ้าลงเข็มเจาะอย่างเดียวตามภาพก็ไม่จำเป็นต้องใช้เข็มตอกอีกต่อไปใช่หรือไม่ครับ   พอดีช่างไม่ได้ประเมินว่าถ้าเป็นเข็มตอกต้องใช้ทั้งหมดกี่ต้นครับ   ไม่ทราบว่าเราสามารถคำนวณจำนวนเข็มตอกได้หรือไม่ครับมีหลักคิดหรือเปล่าครับ   และท้ายที่สุดแล้วเรื่องการทรุดนี่เข็มตอกกับเข็มเจาะสามารถรองรับการทรุดได้เท่ากันหรือไม่ครับ     ถามเยอะเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เลยครับอาศํยเพิ่งเริ่มอ่านกระทู้เก่าๆแต่ยังไม่แน่ใจครับว่าเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า จากคุณ : little_mellow (little_mellow) - [ 31 ต.ค. 51 10:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ควรให้ผู้รับเหมาทำตามแบบที่ว่านี้ โครงสร้างด้านหลังน่าจะอยู่ไม่ได้เพราะแรงบิดสูง ส่วนที่จอดรถมีดาดฟ้า และศาลากับลานซักล้าง ถ้าออกแบบรอยต่อเสาเข็มไม่ดี หรือก่อสร้างคลาดเคลื่อน มีโอกาสเสียหายเยอะ ควรให้วิศวกรออกแบบ จากคุณ : KittySP - [ 31 ต.ค. 51 13:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณ KittySP ครับติดตามผลงานมานานครับ ^^ คนที่รับงานนี้เขาเป็นวิศวกรครับ หาใน google แล้วพบว่ามีรายชื่อสอบผ่านแล้วด้วย   คิดว่าน่าจะไว้ใจได้นะครับถ้าเป็นวิศวกรเองที่ออกแบบลักษณะนี้มาให้ครับ แต่คุณ KittSP พูดเกี่ยวกับโครงสร้างด้านหลังแล้วเริ่มวิตกเลยครับ ลืมบอกไปครับว่าตรงห้องครัวที่เพิ่มจะแค่สีม่วงครับไม่ได้ยาวตลอดแนว  ไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ครับและควรต่อเติมอย่างไรครับ ขอบคุณมากครับ     อืม ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดว่า เข็มตอกใช้แทนเข็มเจาะได้หรือไม่ครับ  เพราะถ้าใช้แทนกันได้นี่อาจจะเลือกที่ทำให้ประหยัดงบดีกว่าครับ ตามที่คุณเหล่านั้งเคียวห่วย ตอบมาประหยัดได้หลายหมื่นเลยครับ แก้ไขรูปเพื่อให้ชัดขึ้นสำหรับแต่ละพื้นที่ครับ จากคุณ : little_mellow (little_mellow) - [ 31 ต.ค. 51 13:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องเข็มเรื่องฐานรากงานก่อสร้างนี่ ผมไม่ใคร่รู้เท่าไหร่ครับ ให้ผู้ที่รู้จริงแน่ชัดมาตอบดีกว่าครับ ครั้นจะถามพ่อผมแล้วมาตอบให้ก็ไม่อยู่ซะด้วยซิ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 31 ต.ค. 51 15:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมอ่านแล้วก็แปลก ๆ และเห็นด้วยกับ KittySP อย่างมากว่าโครงสร้างจะเกิดความเครียดมาก ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ทำกับเจ้านี้เลยเพราะออกแบบได้เพี้ยนมาก เช่น ศาลาพักผ่อน น้ำหนักนิดเดียว จะใส่เข็มเจาะไปทำไม เข็มตอกไม่ได้ใช้แทนเข็มเจาะ โดยเฉพาะเข็มตอกสั้นๆ แต่เข็มตอกจะเหมาะสำหรับโครงสร้างบางอย่าง ที่แยกจากตัวบ้านโดยเด็ดขาด การทรุดของสิ่งปลูกสร้าง ไม่ได้เป็นสิ่งน่ากังวล แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ การทรุดไม่เท่ากัน เช่น ศาลาพักผ่อน หรือ โรงรถ มันจะทรุดสักปีละ 2 เซ็น ก็ไม่เห็นเป็นไร 10 ปี ก็อาจจะ 15-20 เซนติเมตร และพื้นดินมันก็ทรุดไปพร้อม ๆ กัน มันก็ไม่รู้สึกอะไร จะมีส่วนหลังบ้านเท่านั้น ที่จำเป็นต้องยึด และการใช้เข็มเจาะที่ดี ก็ต้องสร้างที่ริม ไม่ใช้ให้รับน้ำหนักตรงกลางแบบที่เขียนมา เพราะหากน้ำหนักรอบ ๆ ด้านของเสาไม่เท่ากัน ก็จะเกิดความเสียหายได้ มันไม่เหมือนกับเสาทางด่วนนะครับ ที่น้ำหนักมันกระจายเท่ากันหมด จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 31 ต.ค. 51 15:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณเหล่านั้งเคียวห่วย ที่แวะเข้ามาตอบอีกครั้ง แต่ครั้นจะให้รบกวนถึงคุณพ่ออันนี้คงไม่ต้องนะครับ  ขอแค่คร่าวๆหรือคนที่พอรู้ว่างแวะมาตอบก็ขอบคุณแล้วครับ คุณผู้เฒ่าสายลม --> อธิบายทำให้ผมเห็นภาพและพอเข้าใจขึ้นมาอีกระดับนึงเลยครับ  ปกติไม่รู้เรื่องพวกนี้ และก็ไม่ค่อยเข้าใจด้วยนะครับทั้งที่พยายามจะทำความเข้าใจ 5555 T_T   ตอนนี้ส่วนที่น่าห่วงที่สุดน่าจะเป็นห้องครัวที่เพิ่มขึ้นมานะสิครับ แม้ว่าจะไม่ติดกับโครงสร้างเดิมแต่ก็เกิดความเครียด (น่าเป็นศัพท์ทางวิศวะ ไม่ใช่ศํพท์ของความรู้สึกคน)   ส่วนอื่นๆนั้นก็น่าจะที่จะใช้เข็มตอกสั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วสิครับ   วิศวกรคนนี้บอกว่าเคยทำอุโมงมาก่อนนะครับ จำไม่ได้จังหวัดใด จากแบบข้างต้นไม่แน่ใจว่าบอกความรู้ ความชำนาญได้ระดับใดครับ แต่นามสกุลดังครับ   แอบไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้หรือเปล่าเลย   ก็ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆความเห็นครับ -/\- จากคุณ : little_mellow (little_mellow) - [ 31 ต.ค. 51 15:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำหนักจากโครงสร้าง มันถ่ายไปเรื่อยๆจากหลังคาหรือพื้น ลงมาที่คาน จากคานลงมาที่เสา และฐานราก จากฐานรากลงไปที่ดิน ฐานรากจะเป็นแบบไหนก็ทำให้ตัวโครงสร้างทรุดครับ ไม่ว่าจะเป็นฐานรากแผ่, ฐานรากเข็มสั้น หรือฐานรากเข็มยาว เพียงแต่ว่ามันจะทรุดมากทรุดน้อยไม่เท่ากันและสภาพดินที่ต่างกันก็ทำให้การทรุดไม่เท่ากัน คุณอาจจะทำบ้านสามสี่ชั้น โดยไม่ใช้เสาเข็มก็ได้.. ถ้าคุณสามารถทำให้มันทรุดไปพร้อมๆกันทั้งหลังได้.. ซึ่งก็เหมือนกับอาคารของคุณย้ายตำแหน่งในแนวดิ่ง.. ทำให้อาคารไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ปัญหาที่พบกับงานฐานรากก็คือ การใช้ฐานรากไม่เหมือนกัน หรือการต่อเติมระหว่างฐานรากเก่ากับฐานรากใหม่..(ฐานรากใหม่ ดินจะยังรับน้ำหนักไม่เต็มที่ ทำให้มีการทรุดที่จะก่อตัวเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา มากกว่าฐานรากเก่า) การที่แต่ละส่วนของโครงสร้างทรุดไม่เท่ากันนี้แหละ ที่จะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย เพราะมันรั้งกันไว้ (อันนึงจะทรุดอีกอันไม่ยอมลงตาม) แนะนำว่า ถ้าเป็นการต่อเติม ก็ควรจะแยกโครงสร้างออกจากกันครับ.. แล้วหาทางปิดรอยต่อเอา จะทำให้ไม่เกิดปัญหาทางโครงสร้างขึ้น จากคุณ : pisity - [ 1 พ.ย. 51 01:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ผมว่า น่าเป็นห่วงครัวด้านหลัง ลองนึกดูว่า ถ้ายกครัวลอยขึ้น จะเป็นแบบศาลพระภูมิที่มีเสาเดียว แต่ขนาดของสัดส่วนระหว่างครัวกับขนาดเสาเข็มแล้ว สัดส่วนมันใหญ่กว่าสัดส่วนของศาลพระภูมิเทียบกับขนาดของเสาศาลมาก ดังนั้น แนวโน้มจะเกิดน้ำหนักไม่สมดุลมีมาก ผมไม่เห็นแบบว่าในเสาเข็มเจาะและฐานราก ได้เสริมเหล็กพิเศษไว้รับแรงดัดที่จะเกิดจากน้ำหนักไม่สมดุลหรือไม่ ปัญหาอย่างหนึ่งคือ การต่อเติมนี้ขออนุญาตไม่ได้ หากขอได้ถูกต้อง วิศวกรก็จะต้องลงนามรับรองในแบบและรายการคำนวณ ประกอบการยื่นขออนุญาต เมื่อได้รับอนุญาตและก่อสร้างแล้ว หากเกิดความเสียหาย วิศวกรจะรับผิดชอบ ถูกถอนใบอนุญาตและอาจมีโทษอาญา ถ้ามีคนได้รับอันตราย ในการเลือกใช้วิศวกร ควรขอดูใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ก.ว.) หรือถามหมายเลขทะเบียนใบอนุญาตฯ ซึ่งวิศวกรโยธา จะมีสามระดับ ระดับต้น ได้แก่ ภาคีวิศวกร (ภย.XXXXX) สูงขึ้นก็เป็น สามัญวิศวกร (สย. XXXX) แล้วก็วุฒิวิศวกร (วย. XXXX) หากไม่มีใบอนุญาต แสดงว่าสอบไม่ผ่านวิชาวิศวกรรมหลัก แต่สามารถจบปริญญาตรีได้ เนื่องจากมีวิชาเลือกในสาขาอื่นจนได้หน่วยกิตครบ จบมาแล้วเป็นผู้ออกแบบไม่ได้ เป็นผู้ควบคุมงานไม่ได้ ตามประกาศรับวิศวกร จึงอาจมีระบุแถมท้ายว่า มีใบ ก.ว. และบางแห่ง มีวิศวกรในบริษัทจำนวนมาก ถ้าใครมีใบ ก.ว. จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ต้องเชื่อว่า หลายคนไม่มีใบ ก.ว. เพราะสอบวิชาหลักไม่ผ่าน จากคุณ : KittySP - [ 1 พ.ย. 51 11:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมต่ออีกอย่าง โรงรถ คงทำไว้จอดรถสองคัน (กะเอาเพราะไม่มีระยะ) ทีนี้ เวลาจอดรถคันเดียว น้ำหนักรถจะถ่วงด้านเดียว ถ้ารถหนักหนึ่งตัน ระยะแขนโมเมนต์จากศูนย์กลางรถถึงศูนย์กลางเสาเข็ม สมมติสักสองเมตร โมเมนต์จากน้ำหนักรถจะบิดเสาเข็มเจาะ = 1000*2 = 2000 กก.-ม. ต่อเสาสองต้น หรือ 1000 กก.-ม. ต่อเสาหนึ่งต้น ที่เสาเจ็มเจาะขนาด 35 ซม. ต้องรับ โมเมนต์นี้ เกิดทุกครั้งที่รถเข้าออก โยกเสาเข็มเจาะไปมาจนกว่าจะหัก ทางแก้คือ ขับรถสองคันขึ้นลงให้พร้อมกันก็แล้วกัน และอย่างที่คุณถึกสมรฯ (ขออนุญาต) เคยบอกไว้ ทำที่จอดรถบนเสาเข็มเจาะ ซักพัก รถต้องปีนขึ้นเพราะที่จอดรถไม่ทรุด แต่พื้นข้างหน้าที่จอดรถมันทรุด ที่จริงก็แก้ได้ แต่ต้องพิจารณาพื้นที่ด้วย ว่าอาคารอยู่ที่ใหน ทรุดเร็วช้าเท่าไร ควรใช้โครงสร้างอะไร ผมเคยออกแบบที่จอดรถหน้าตึกบนเสาเข็มตอก แต่เป็นพื้นที่ที่ทรุดตัวน้อย ก็ใช้โครงสร้างง่ายๆ ช่วย นานๆ ผ่านไปที ก็แวะดูงานที่ออกแบบไว้ พบว่าจนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังใช้งานดีอยู่ จากคุณ : KittySP - [ 1 พ.ย. 51 18:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณ pisity ครับที่อธิบายรายละเอียดให้เข้าใจมากขึ้น ตอนนี้เข็ดแล้วครับสำหรับการยึดกับโครงสร้างเดิม  แต่กลัวโครงสร้างใหม่ที่จะทรุดเร็วกว่าโครงสร้างเก่า  เดาว่าตอนนี้โครงสร้างเก่าทรุดอยู่ตัวระยะนึงแล้ว แต่มีแนวโน้มทรุดต่อ  ทุกหลังในโครงการนี้เห็นมีรูโหว่รอบบ้านเลยเพราะพื้นทรุดครับ  บางหลังลานจอดรถเป็นแอ่งเลยครับ คุณ KittySp --> ขอบคุณที่ช่วยอธิบายเกี่ยวกับวิศวกรครับ เพิ่งจะรู้จริงๆก็จากที่อธิบายมานี้นะครับ คิดว่าถ้าจบหลักสูตรมาแล้วน่าจะทำงานได้ทุกคนเพียงแต่เก่งมาก เก่งน้อย เรื่องครัวจากที่ทุกคนเห็นค่อนข้างตรงกัน เริ่มจะหวั่นๆครับ ครัวที่เพิ่มนั้นที่จริงแล้วคงไม่ได้ใช้ทำครัว แม่บ้านอยากจะย้ายพวกตู้เย็น เครื่องซํกผ้าหรือไว้เก็บของอื่นๆครับ  ไม่แน่ใจว่าพวกอุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นตัวถ่วงน้ำหนักเลยหรือเปล่า   แต่ยกตัวอย่างศาลพระภูมินี่เห็นภาพเลยครับ รอยปะนั้นเข้าใจว่าผู้รับเหมาจะเอาคานมายึดเข็มเจาะครับ แต่ดูแนวแล้วกลัวเรื่องความไม่สมดุลของคานที่จะทำให้ครัวเอียงภายหลังเหมือนกัน  กำลังคุยในรายละเอียดอีกวันสองวันนี้ครับ คงมีความคืบหน้ามาสอบถามอีกครั้งครับ โรงรถนั้นไว้จอดสองคันใช่ตามที่เข้าใจครับ  ตอนนี้กำลังคิดว่าจะยอมเสียเพิ่มเข็มเจาะเป็นสี่ต้นเลยดีมั้ยสำหรับโรงรถเพื่อให้รับน้ำหนักได้เต็มที่ครับ ไม่งั้นต้องจอดและออกพร้อมกันนี่ไม่สะดวกแน่ครับ   แต่ก็แอบกลัวว่าต้องปีนขึ้นที่จอดรถตามที่คุณถึกสมรและคุณ KittSP บอกไว้เหมือนกัน   หมู่บ้านผมอยู่มัณฑนาตรงที่มอเตอร์เวย์ตัดวงแหวน  ดินแถวนั้นน่าจะทรุดเร็วเพราะถมจากที่นาเดิมแค่ไม่ถึงปีก็ก่อสร้างแล้วครับ เลยกลัวเรื่องทรุดมากๆครับ จากคุณ : little_mellow (little_mellow) - [ 1 พ.ย. 51 21:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดินแถวมอเตอร์เวย์ตัดวงแหวน  ทรุดเร็วไม่ใช่เพราะการถมจากที่นาเดิม แต่เป็นเพราะดินข้างล่าง เคยเป็นป่าจากในอดีต มีน้ำในดินมาก ดูจากการทำสนามบิน การถมได้ทำการดึงน้ำจากใต้ดินเร่งให้ดินทรุดตัว และได้คำนวณการทรุดตัวของทางวิ่งเอาไว้ ว่าอีกกี่ปี จะต้องเสริมยกระดับทางวิ่งใหม่ เป็นผม จะใช้เสาเข็มสั้น แยกโครงสร้างในส่วนครัวเท่านั้น โรงรถทำหลังคาให้สูงไว้เผื่อการทรุดตัว ศาลาทำแบบยกขึ้นได้ โดยตั้งบนฐานรากเข็มสั้น นอกนั้น ปล่อยตามธรรมชาติ ทรุดตัว ก็เสริมดินเข้าไป ประหยัดค่าเสาเข็มเจาะได้ตั้งเยอะ การใช้เสาเข็มเจาะทำที่จอดรถ ก็ต้องยอมรับว่า สักปีสองปี ต้องเสริมทางรถขึ้นที่จอด โดยจะต้องเสริมมากขึ้นทุกปี จากถนนหน้าบ้านที่ทรุดตัวด้วยเช่นกัน ปัญหาอีกอย่าง คือ การมีโพรงใต้บ้านหรือโครงสร้างเสาเข็มเจาะ จะเป็นที่อยู่ของสัตว์ ดังที่มีหลายกระทู้ถาม จากคุณ : KittySP - [ 2 พ.ย. 51 11:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณ KittySP อีกครั้งที่แวะมาช่วยอธิบายให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่เดิมครับ  ได้ประเด็นใหม่เรื่องโพรงใต้บ้านคิดอีกเรีองเลยครับ 55555 จากคุณ : little_mellow (little_mellow) - [ 3 พ.ย. 51 22:03:00 ]