ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าห้ามไม่ได้หรอก นอกจากทำความสะอาด ล้างบ่อยๆ แต่มีตะไคร่ก็ดีนะครับ เพราะบางครั้งจะเป็นอาหารของปลาได้ด้วยและก็มีส่วนช่วยในการสร้างอ๊อกซิเจนในน้ำ แต่ถ้ายืนยันจะไม่ให้มีรอท่านต่อไปนะครับ จากคุณ : T (heang) - [ 7 พ.ย. 51 14:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตะไคร่น้ำเป็นของดีเลยนะครับ น่าจะเก็บไว้ ส่วนถ้าไม่อยากให้มี รอข้างล่างครับ จากคุณ : Dr.GTO - [ 7 พ.ย. 51 15:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลักษณะเหมือนบ่อน้ำเล็กๆของเราเลยค่ะ ไม่ได้เลี้ยงปลาอะไรเลย แต่ก็มีหางนกยูง คางคกปี้แล้วปู๊ดลูกๆไว้ประจำ ที่สำคัญเป็นแหล่งน้ำของนกต่างๆที่วนเวียนมาจิบๆน้ำที่นี่ เราเคยเห็นนกแปลกๆด้วยนะคะ นกกระยาง(ไม่รู้ใช่หรือปล่าว ตัวสีขาว ขายาวๆ)ก็เคยมากินน้ำที่บ่อเราและยืนจ้องเขมือบปลาๆในบ่อด้วย เราแอบดูเรื่อย เพื่อนบอกมีน้ำยาให้ใส่ลงไปน่ะค่ะ บอกจะเอามาให้ แต่เราไม่เอา ปล่อยไว้ตามธรรมชาติดีกว่าค่ะ วันดีคืนดีอารมณ์ดีๆเราก็ช้อนออกบ้าง... จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 7 พ.ย. 51 15:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บ่อบัว บ่อปลา ตากแดด ก็จะมีตะไคร่มาเกาะ ต้องซื้อน้ำยากำจัดตะไคร่มาใช้ ขวดละประมาณ ๓๐๐บาท มีไม่กี่ร้อยซีซี ซื้อได้ตามร้านขายปลาทั่วไป เราเคยใช้ และสังเกตสูงข้างขวด เห็นว่ามีคอปเปอร์ฯอยู่ด้วย ครั้งหนึ่ง ค้นโน่นค้นนี่ เจอสูตรทางเคมีของจุนสี เลยลองซื้อมาใส่ เอ๊ะ ได้ผล ประหยัด ไม่แพง ใช้ได้จริง ตามมาชมได้ที่นี่http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/08/J6865858/J6865858.html จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 7 พ.ย. 51 15:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คือจะล้างเปลียนน้ำบ่อยๆคงไม่ไหวครับบ่อค่อนข้างใหญ่ จากคุณ : De'Satan - [ 7 พ.ย. 51 15:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ ^ เป็นวิธีที่น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : De'Satan - [ 7 พ.ย. 51 15:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใส่ปลาชัคเกอร์ลงไปครับ  พี่แกกินตระไคร่น้ำเรียบวุธ  แต่ต้องเสริมอาหารเม็ดให้ด้วยนะครับหากตัวใหญ่ขึ้นแล้ว   จริง ๆ ตะไคร่น้ำมีส่วนดีที่จะให้อ็อกซิเจนกับน้ำในบ่อ  แต่ตะไคร่น้ำบางชนิดกลับสร้างมลพิษให้บ่อ  ที่บ้านมีบ่อเช่นกัน แต่มีตะไคร่น้ำสีเขียวออกแนวส้มเหลือง  กลับทำให้บ่อปลามีมลพิษ ปลาต้องขึ้นมาลอยคอ  เลยนำปลาซัคเกอร์ที่เลี้ยงไว้อีกที่มาลง  แป๊บเดียวตะไคร่น้ำเกลี้ยงบ่อ  สภาพน้ำก็ดีขึ้นด้วยครับ จากคุณ : สุกรชำเลือง - [ 7 พ.ย. 51 16:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้ว ตะไคร่ก็เป็นพืชชนิดหนึ่งซึ่งเติบโตขึ้นจากการเปลี่ยนของเสียที่ได้จากการย่อยของแบคทีเรียในน้ำซึ่งย่อยของเสียที่ปล่อยมาจากปลาอีกทีหนึ่ง ทางที่ดีในการลดตะไคร่ทางธรรมชาติก็คือการหาพืชอื่นๆมาเลี้ยงเพื่อนดึงธาตุที่จำเป็นต่อการเติบโตเช่นโพแทสเซียมออกไปจากบ่อครับ แต่ยังไงก็คงห้ามได้ไม่ทั้งหมด ได้แค่ลดจำนวนลงเท่านั้นละครับ ลองเพิ่มไม้น้ำดูนะครับ อาจจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ต้องระหว่างสาหร่ายบางประเภทที่ติดมาด้วยนะครับ คราวนี้อาจจะมีพืชที่น่ารำคาญมากกว่าเดิม ลองดูครับ จากคุณ : superoui - [ 7 พ.ย. 51 16:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขออนุญาตให้ข้อมูลอีกด้านนะคะ จากประสบการณ์ที่เลี้ยงปลาบ่อมานาน พบว่าปลาซัคเกอร์นั้น ไม่ได้ช่วยเรื่องการทำความสะอาดบ่อ หรือกำจัดตะไคร่ได้อย่างมีนัยสำคัญเท่าไหร่ค่ะ หนำซ้ำยังแย่งอาหารปลาหลักในบ่อ แถมรบกวนปลาหลักด้วย เช่น หากปลาหลักอ่อนแอ มันจะมาดูดมือกที่ผนังข้างลำตัวปลา เพราะธรรมชาติปลาจะขับเมือก เมื่อระบบร่างกายมีปัญหา   หรือในเวลากลางคืนซัคเกอร์มหาภัยนี่ จะรบกวนถิ่นหรือโซนอยู่อาศัยของปลาหลักค่ะ และในกรณีที่ท่านต้นโพธิ์แนะนำนั้น หากบ่อมีขนาดกว้างใหญ่ ปริมาณน้ำมากๆ ต้องระวังการใช้สารจำพวกดร็อปแพลงตอน หรือสารกำจัดตะไคร่น้ำด้วยนะคะ ถ้าใช้ต้องระมัดระวัง เพราะโดยปกติการเสื่อมสลายของผนังเซลในพืชจำพวกตะไคร่ จะค่อยเป็นค่อยไป หมุนเวียนกัน แต่ถ้ามีการดร็อปไปหมดทั้งบ่อ จะทำให้กระบวนการไนตริฟิเคชั่นไม่สามารถจัดการได้ทัน (Nitrification Process = กระบวนการย่อยสลายของเสียเช่นพวกแอมโมเนีย ไนไตรท์ ในน้ำโดยแอโรบิคแบคทีเรีย) ผลที่ตามมาคือปริมาณของเสียจะเพิ่มขึ้น ตะไคร่ส่วนนึงที่เน่าตกลงก้นบ่อ เกิดการสะสมของแอมโมเนีย และกลายเป็นไนไตรท์ ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งไนไตรท์และแอมโมเนียมีความเป็นพิษต่อปลาหรือสัตว์น้ำสวยงามมากมหาศาล สำหรับบ่อของจขกท. ที่ว่าเป็นบ่อใหญ่ ไม่ทราบว่าน้ำเขียว หรือไม่ ถ้าน้ำไม่เขียว แต่มีตะไคร่เกาะผนังหรือก้นบ่อ  มันก็เป็นเรื่องสมดุลย์นิเวศในบ่อ ที่ถ้าไม่รบกวนสายตาก็ปล่อยๆไปเถอะค่ะ หากรำคาญนักก็เอาแบบน้าต้นโพธิ์ว่าก็ได้ แต่อย่างที่บอกต้องระวังปริมาณการใช้ หรือควรมีเทคนิคการบำบัดน้ำภายหลังการใช้เคมีที่ดีพอ และต้องทำใจว่าหากบ่อเลี้ยงเป็นบ่อที่ใช้ระบบกรองแบบไบโอโลจิคอล (พวกที่กั้นช่องแล้วใส่มีเดียวซับเสตรทลงไปให้แบคทีเรียชนิดดีเกาะ) กระบวนการจะถูกตัดทอนลง ทำให้อาจต้องเซ็ตอัพระบบบำบัดน้ำกันใหม่ค่ะ แต่ถ้ากรณีนี้ มีน้ำเขียวด้วย คงต้องหาทางพรางแสงแดดให้มากกว่าร่มไม้ที่มีอยู่ หรือไม่ก็อาจจะต้องพัฒนาระบบกรองให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ที่บ้านดิฉันใช้วิธีปลูกต้นไม้พรางแดดตะวันตก แล้วก็ใช้ UV เพิ่มในระบบกรองแบบไบโอโลจิคอล พยายามไม่ไปยุ่งกับทุกเคมี 6ปีแล้ว น้ำใสปิ๊งๆๆๆๆๆๆ ปลาไม่มีเป็นโรค (ยกเว้นตอนน้องหมาที่บ้านตกลงไปตายแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน งานนั้นไปเกือบหมดบ่อ) จากคุณ : ถึกสมร ขจรอึด - [ 7 พ.ย. 51 17:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หมาตกไปตายในบ่อปลาได้นี่แสดงว่าขนาดบ่อไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย จากคุณ : n_jack - [ 7 พ.ย. 51 19:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่บ้าน เจอแน่นอน เพราะโดนแดดพอสมควร ก็ว่าจะตักมาผึ่งแดด ทอดกินแกล้มบรรยากาศซะเลย เอ่อ หมาตกไปตาย นั่นเขาเรียกทะเลสาบ อิ อิ จากคุณ : Double07 - [ 7 พ.ย. 51 20:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณถึกสมร ขจรอึดช่วยบอกรายละเอียดเรื่องใช้ UV เพิ่ม..ตรงข้อความที่ว่า... ที่บ้านดิฉันใช้วิธีปลูกต้นไม้พรางแดดตะวันตก แล้วก็ใช้ UV เพิ่มในระบบกรองแบบไบโอโลจิคอล ขอบคุณค่ะ จากคุณ : k_puiky - [ 7 พ.ย. 51 22:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ่งปลาที่บ้านก็มีตะไคร้ขึ้นหนามาก ๆ จนน่ากลัวเพราะมันรวมตัวกันเป็นเม็ด ๆ สีเขียวหยกอ่อน และซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จากคุณ : เม่นแคระ - [ 8 พ.ย. 51 00:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 12 ที่ถามหลังไมค์มา ตอบให้แล้วนะคะ จากคุณ : ถึกสมร ขจรอึด - [ 8 พ.ย. 51 00:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้โอโซนคะ ไม่ต้องใช้สารเคมีด้วย จากคุณ : อองนิค (อองนิค) - [ 8 พ.ย. 51 08:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใส่หลอด uv น่าจะช่วยได้นะถ่าบ่อไม่ใหญ่มาก  แนะนำให้ไปถามร้านขายปลาดูคับ จากคุณ : หนึ่งหยดแดง - [ 8 พ.ย. 51 11:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณถึกสมร ขจรอึดครับ น้ำในบ่อไม่เขียวครับเพราะมีระบบกรองอยู่ แต่อาจต้องลองหลายๆวิธีดูครับ ได้ความรู้ดีจริงๆครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : De'Satan - [ 10 พ.ย. 51 12:49:32 ]