PANTIP.COM : R7195802 ช่างบอกไม่ต้องติด Safe-T-Cut ก็ได้ []

ความคิดเห็นที่ 13

ต้องขออภัย หากข้อมูลผมที่ผิดพลาดไป เนื่องจากไม่ได้เรียนจบด้านไฟฟ้ามาโดย แต่ก็เรียนไฟฟ้ามาพอสมควร

เรื่องความเร็วหรือความไว ผมไม่ได้มีเจตนาใดๆครับ ว่ามันจะทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด ในการเลือกอุปกรณ์ เพราะฉนั้น น่าจะเข้าใจว่า ผมหมายถึงความไวในการตัดไฟ เมื่อเกิดการดูดคน คงไม่มีใครไปคิดว่า ความเร็วเป็นกี่เมตรต่อวินาที เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดูด นะครับ เพราะเจตนา เพื่อจะบอกว่า เวลาโดดดูดแล้วอุปกรณ์จะตัดไฟได้เร็วเพียงใด

สำหรับคำตอบของคุณชายภีม นั้น ผมไม่เข้าใจครับ คำว่าทำไม่ได้นั้นหมายถึงอะไรครับ เพราะเจ้าของบ้านก็เดินไฟสามเฟสเข้ามาที่บ้านอยู่แล้ว การจะแยกไฟฟ้าแต่ละเฟสออกจากกัน เพื่อควบคุมการใช้งานนั้น ก็น่าจะทำได้นะครับ แต่ในกรณีนี้คือช่างไฟเดินไฟเสร็จไปแล้ว การแบ่งแยกอาจจะทำไม่ได้ แต่หากเริ่มออกแบบตั้งแต่ต้น การแยก load center ให้แบ่งตามการใช้งาน และตามเฟสของไฟฟ้าแต่ละเส้นก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ หากเรารู้ว่า ส่วนไหนที่ใช้ไฟไม่มาก เช่น ส่วนที่เป็น ปลั๊กไฟ และเครื่องทำน้ำอุ่น เราก็ให้ส่วนนั้น มี ELCB เพื่อความปลอดภัย ส่วนของเครื่องปรับอากาศ หรือส่วนอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ก็ไม่จำเป็นต้องมี

ผมพูดถึง ความไวในการตัดบ้างนะครับ ผมเองก็ไม่เชี่ยวชาญ เรื่องนี้ แต่การโฆษณา ในเรื่องความไว ว่า 0.03 วินาทีนั้น ก็ไม่ค่อยจะได้เห็นว่า เป็นสิ่งจำเป็นในการเลือกซื้อ ELCB เพราะส่วนใหญ่ ผู้ขายจะเน้นไปที่ กระแสไฟฟ้าที่สูญหายไป จากการที่รั่วลงดิน หรือรั่วลงสู่ตัวคนมากกว่า ว่าหายไป 5 MA หรือ 10 MA ซึ่ง ELCB ส่วนใหญ่ ก็จะมีขนาดที่ 10 MA ซึ่งอาจจะเป็นมาตรฐานของผู้ผลิต ว่าหากผลิตมาที่ 5 MA อาจจะทำให้มันทำงานบ่อยๆ หากมีการทำไปใช้งานในที่เปียกชื้น จนผู้ใช้อาจจะรำคาญ จึงผลิตมาที่ 10MA แต่ Safe-t-CUT กลับผลิตมาที่ 5 MA และใช้ตัวเลขนี้ ในการโฆษณาว่า แม้ไฟรั่วเพียงน้อยนิด ก็สั่งให้ตัดไฟได้

จากประสบการณ์ตรง ที่โดดไฟดูดมาเอง จากเครื่องตัดไฟหลายๆยี่ห้อ ทั้ง Safe-t-CUT , SafetyCent - Nationnal ELCB , Clipsal ELCB ทำให้ทราบว่า เครื่องตัดไฟประเภท Safe-t-CUT จะตัดไฟได้ไวกว่า กล่าวคือ ความรู้สึกที่โดนไฟดูด จะน้อยกว่า การใช้ ELCB ส่วนเรื่อง 0.01 หรือ 0.03 วินาทีนั้น ผมก็คิดเหมือนกันว่า มนุษย์ไม่มีทางแยกได้หรอกครับว่า 0.01 หรือ 0.03 มันต่างกันแค่ไหน

เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมเคยประสบมา เช่น หมากัดสายไฟ และเราเดินไปเหยียบ เราพอรับรู้ได้นิดหน่อย เหมือนมีมดกัด Safe-t-CUT ก็ตัดการทำงานไปแล้ว ตอนนั้นแถบไม่รู้ว่าโดนไฟดูด

หรือ สายไฟเครื่องตัดหญ้า มันเปื่อย ผมตัดหญ้าไป ก็จับสายไฟเพื่อลากให้หลบเครื่องตัดหญ้า ก็โดนไฟดูด แต่ Clipsal ELCB ก็ตัดไฟ แต่ครั้งนั้น เรารู้สึกได้ว่าโดนไฟดูด แต่ไม่มากนัก แต่สัมผัสได้

เจ้าของกระทู้ลองพิจรณาเอาเองนะครับ ผมอาจจะพิมพ์ผิดไปบ้างขออภัย แต่ไม่ใช่ภาษาไทย คงจะไม่ซีเรียสนะครับ

ความเห็นของผมคือ Safe-t-CUT อาจจะไม่จำเป็นเหมือนที่ช่างไฟบอก เพราะจะควบคุมทั้งบ้าน คงลำบาก เพราะใช้ไฟมากและไม่จำเป็นต้องป้องกันทั้งหมด เพียงแต่ ระบบปลั๊กไฟในบ้าน เราจะป้องกันได้อย่างไร เนื่องจากเราไม่แน่ใจว่า เมื่อไหร่ สายไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจะชำรุด จนเราเดินไปเหยียบ หรือเด็กๆ เอาอะไรไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น ตรงนี้ต่างหาก ที่เราจะออกแบบให้มีระบบป้องกันได้อย่างไร ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน หากสามารถใส่ ELCB เข้าไปเพิ่มเติมได้ ก็จะเป็นเรื่องดีครับ มีระบบสองชั้น ดีกว่าชั้นเดียว เพราะเรื่องนี้พลาดไม่ได้ครับ ไม่มีการแก้ตัวอีกเป็นครั้งที่สอง บ้านผมมีเด็ก ผมก็ป้องกันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จำทำได้ครับ ป้องกันดีกว่าแก้ไขทีหลังครับ

ผิดพลาดตามหลักของช่างไฟฟ้าไปบ้าง แต่เจตนาเหมือนเดิมนะครับ คือหวังดีสำหรับการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า และขโมยเข้าบ้านครับ

จากคุณ : พ่อน้องอิคคิว - [ วันลอยกระทง 11:11:28 ]