ความคิดเห็นที่ 1 ถูกค่ะ เห็นด้วย จากคุณ : ป้าแมงฯ - [ 12 ธ.ค. 51 10:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืม...เมื่อวานก็เห็นใจ จขกท. กระทู้นั้นนะ แต่เท่าที่อ่านของคุณซาร่ามา มันก็...เออ จริงๆดั้ว จากคุณ : เส้นเล็กต้มยำใส่ถั่วงอกดิบ - [ 12 ธ.ค. 51 11:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ชอบใจคุณซาร่าจังเลยค่ะ ยกให้ 2 points เลยค่ะ จากคุณ : เ จ้ า ช า ย เ อ เ ด รี ย ล - [ 12 ธ.ค. 51 11:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...โชคดี กระทู้นั้น ผม ไม่ได้ว่า ซาร่า ... ... แต่ผมว่า เจ้า จอร์จ  ตัวดี ... ... มันไม่แมน เลย ... ... อ้อ  อยู่ในข้อ 103 โน่น ... ... เข้าใจว่า รักครอบครัว ... ... แต่ มันต้องลำแข้ง ตัวเอง  ไม่ใช่ไปเอาเงินแม่.. ... ไปเบียดเงินน้อง ... ... แน่จริง ไปหาเอง ไปผ่อนกับ แบ๊งค์ โน่น .... จากคุณ : ซีมาสเตอร์ - [ 12 ธ.ค. 51 11:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณคุณนภชลมากค่ะ เราอ่านแล้ว น้ำตาไหล... T_T ใช่ค่ะ.... อ่านแล้ว อยากให้คุณผู้ชาย.. ลองค่อยๆ นึกถึงความรู้สึกของลูกผู้หญิง ที่ใช้ชีวิตอยู่กับคุณดูนะคะ การรักเมีย.. ไม่จำเป็นต้องเนรคุณแม่..... และ..... การรักแม่ ... ไม่จำเป็นต้องทำให้เมียเจ็บ.... มีทางออกเยอะแยะมากมาย ที่คุณเลือกได้ โดยไม่ทำให้ใครเจ็บช้ำค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 51 11:12:48 จากคุณ : แม่น้องเบสท์ - [ 12 ธ.ค. 51 11:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยอย่างยิ่ง.. จากคุณ : patapril - [ 12 ธ.ค. 51 11:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะซื้อบ้านไหม ถ้าสามีคิดว่าคุณงกสมบัติ ตอบตามหัวข้อกระทู้ค่ะ สามีคุณไม่ควรเอาเงินแม่มาซื้อบ้านค่ะ ถ้ายังไม่สามารถซื้อบ้านได้ โดยไม่ใช้เงินของแม่ ก็ควรชะลอการซื้อไปก่อน โอกาสที่แม่หาเงินได้น้อยลงทุกวัน ท่านต้องเก็บไว้ยามแก่เฒ่า แต่โอกาสที่สามีคุณหาเงินได้ยังมีอีกยาวไกล หวังว่าคุณซาร่าห์จะแนะนำจอร์จให้รู้จักซื้อบ้านด้วยเงินของตัวเองนะคะ จากคุณ : กิ่งกานดา - [ 12 ธ.ค. 51 11:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยค่ะ มีคนส่งลิ้งค์กระทู้นั้นมาให้อ่านเมื่อเช้า อ่านแล้วก็มองในมุมของผู้หญิงคนนึง สมมติว่าเราต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก แถมไม่ได้จดทะเบียนกับสามีอีก เป็นไปได้ว่าเราก็คงกังวลกับอนาคตของตัวเองไม่น้อย เพราะไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ต้องแบมือขอเงินสามี ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน วันหน้าหากสามีทิ้ง เราจะทำยังไง จะกินจะอยู่ จะเอาอะไรเลี้ยงลูก  อายุมากขึ้นจะหางานทำก็ยากขึ้นไปด้วย ใครก็ต้องอยากมีทรัพย์สินให้อุ่นใจไว้ทั้งนั้นแหละ ส่วนคุณผู้ชาย เกรงใจแม่และน้องนั้นเป็นเรื่องถูกต้องค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่วิธีแก้ปัญหาก็ง่ายนิดเดียว แค่ยอมกู้แบงค์เสียดอกเบี้ยเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้าเท่านั้นเอง จากคุณ : พจมารร้าย - [ 12 ธ.ค. 51 11:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากกระทู้ต้นเรื่องเลย ถ้าเราเป็นภรรยา คงเสียใจน่าดูถ้ารู้ว่าสามีคิดอย่างนี้ "กำลังจะซื้อบ้านครับอยู่กับแฟน แต่ผมจ่ายคนเดียว"--->ภรรยาทำงานบ้าน เลี้ยงลูก(ของสามี)อยู่ที่บ้าน คุณสามีจ่ายเงินเดือนให้กี่หมื่นคะ เธอถึงจะมีเงินมาช่วยคุณผ่อนบ้านได้ อยากทราบว่าถ้าเลิกกันไป (อนาคต) เขาก็จะมีสิทธิ์ในตัวบ้านด้วยใช่ไหมครับ หรือจะแบ่งทรัพย์สมบัติกันอย่างไร ถ้าไม่สามารถเจรจากันได้--->จากประโยคนี้ ไม่รู้ภรรยาหรือคุณสามีกันแน่ที่งกสมบัติ ตลกดี (ที่ถามแบบนี้เพราะทะเลาะกันบ่อยๆ น่ะครับ เลยคิดมาก ต้องกู้เงินเยอะมาซื้อบ้านด้วย แถมเราก็จ่ายคนเดียวทั้งหมด) -->ย้ำอีกว่าจ่ายคนเดียว ลองภรรยาขอทำงานนอกบ้านแล้วให้คุณสามีอยู่บ้านเลี้ยงลูกแทน แล้วเธอพูดประโยคนี้กับคุณบ้าง จะรู้สึกยังไงไม่ทราบคะ เห็นด้วยกับค.ห. 4 ค่ะ ไม่แมนเลย จากคุณ : พจมารร้าย - [ 12 ธ.ค. 51 11:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถูกต้องค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง แก้ปัญหาง่ายนิดเดียวฝากคุณจอร์จไปพิจารณาด้วย จากคุณ : Nokori - [ 12 ธ.ค. 51 11:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วย สนุนสนุนคุณซ่าร่า จากคุณ : ภูตจิ๋ว - [ 12 ธ.ค. 51 11:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "ซาร่าคงเสียใจมาก ถ้าจอร์จ เอาเรื่องที่ซาร่าทำ แล้วจอร์จ ไม่พอใจ มาถามใครก็ไม่รู้ ร้อยพ่อ พันแม่ บางคนเข้าใจซาร่า บางคนด่าซาร่า แถมบางคนยังบอกให้ทิ้งซาร่าอีก" โดนมั่กๆ บางครั้งเรื่องของคน 2 คนผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของคน 2 คนนะ....ตอนผมอ่านกระทู้นู้นก็ยังนึกอยู่ ถ้าภรรยาของเค้ามาอ่านกระทู้ที่มีคนแสดงความคิดเห็นมากมาย แล้วภรรยาของเค้าจะคิดยังไง การตัดสินใจบางเรื่องซึ่งมันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวกับความรู้สึกมากๆ ผมว่าคนนอนคุยกันน่าจะออกมาได้ดีกว่าคนนั่งคุยกัน เพราะอย่างน้อยคน 2 คนนั้นคือคนที่ตัดสินใจมาร่วมชีวิตกันแล้ว..... เป็นกำลังใจให้ทั้่งคู่ผ่านอุปสรรคของชีวิตไปได้ด้วยดีครับ ผมชอบประโยคนี้จัง "คำว่า เป็นแม่ที่ดีของลูก เป็นเมียที่ดีของผม มีค่ามากกว่าคำชมว่า ซาร่าสวยซะอีก" จากคุณ : นายขนมจีน - [ 12 ธ.ค. 51 11:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แตกต่างความคิดได้ แต่อย่าแตกแยกกัน งงจะขัดแย้งกันทำไม ให้ได้บ้านมาก็พอ ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำให้เต็มที่ ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ยอมๆกันบ้างทั้งชายและหญิง เพื่อตัวเองและครอบครัวครับ จากคุณ : JIRASAK1459 - [ 12 ธ.ค. 51 11:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับผม  ทรัพย์สมบัติ==>ชื่อเมีย หนี้สิน==>ชื่อผม 5555 จากคุณ : Noo_Lek@TheKop - [ 12 ธ.ค. 51 11:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืม...พ่อกะแม่ผมทะเลาะกันบ่อยมากๆเลย แม่อารมณ์ร้อนมาก แต่มีคำนึงที่พ่อพูดเสมอๆ โดยที่แม่ไม่รู้ก็คือ "แกรู้มั้ย แม่แกน่ะดีมากนะ แม่เลี้ยงลูกให้เป็นคนดีได้ทุกคนเลย เอาใจใส่ลูกทุกอย่าง แม้ว่าพวกแกจะมีโรคประจำตัวร้ายแรง แต่แม่ก็ไม่เคยปริปากบ่นที่จะช่วยชีวิตพวกแกเลย" คุณจขกท.ครับ ผมโคตระปลื้มแทนแม่เลย แม่...ที่รีดผ้า ซักผ้า บ่นมั่ง ตีมั่ง แม่บ้านคนนี้ที่ทำให้ครอบครัวเรามีวันนี้ ทำให้ผมไม่ติดยา แม่บ้านที่ยืนเคียงข้างพ่อเสมอ แม้ว่าพ่อจะทำธุรกิจล้มเหลว วันนี้ครอบครัวผมเลยให้รางวัลชีวิตกับแม่บ้านคนนี้คือ บ้านครับ บ้านที่แม่รอมา 25 ปี บ้านที่แม่จะได้เลือกผ้าม่านเอง ดีไซน์เองตามอารมณ์ศิลปินของแม่ ตั้งใจเลี้ยงลูก เป็นแม่บ้านที่ดีนะครับ ผมเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็ต้องเห็นคุณค่าของคุณอย่างแน่นอน จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 12 ธ.ค. 51 11:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วเห็นภาพเลยคะ ตอนเรามีลูกคนโต เราลาออกจากงานมาเลี้ยง  เหนือ่ยโครตๆๆ กว่าจะกลับไปหางานได้ แทบรากเลือด คนที่สองเลี้ยงเองได้สีห้าเดือน แล้วฝากแม่เลี้ยง  ทำงานสบายกว่าเลี้ยงลุกร้อยเท่า ทุกวันนี้ยังสำนึกบุญคุณแม่เสมอ เราเห็นว่าถ้าจะซื้อบ้านโดยเอาเงินแม่ ควรใส่ชื่อแม่ แล้วให้สามีผ่อนแม่ ส่วนภรรยา ก้อสมควรได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีจากสามี ด้วย เราเคยอยู่ในสภาพเดียวกับคุณได้ประมาณสองปี  รู้ดีว่าการแบมือ ขอเงินสามีโดยที่เราไม่ได้มีรายได้ มันรู้สึกดูถูกตัวเองมากกกก เหมือนคุณค่าของเรามันน้อยลงไปเลย  เราเลยหางานใหม่แหละ อยากให้สามีทุกท่านที่มีภรรยาที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว รักและใส่ใจ ความรู้สึกของคนที่อยู่ที่บ้านให้มาก ๆ นะคะ อย่าคิดว่า คนที่เหนื่อย คือคนหาเงินเข้าบ้าน แล้วคนที่อยู่บ้านอะ อยู่สบายนะ  เห็นใจกันด้วย ยืนยันว่าเลี้ยงลูกพร้อมรับภาระงานบ้าน เหนื่อยกว่าออกนอกบ้านทำงาน ร้อยเท่า จากคุณ : nano&bible - [ 12 ธ.ค. 51 11:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ให้ Give ซาร่าไปเลยค่ะ เห็นด้วยมากๆ จากคุณ : bodiamond1 - [ 12 ธ.ค. 51 12:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ของแบบนี้มันก็พูดยากเหมือนกันนะ ถ้าคิดจะมองไปที่ฝ่ายไหนมันก็ถูกทั้งนั้นแหละ มองไปที่ฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงก็จะถูกเพราะต้องเลี้ยงลูกต้องการความมั่นคง แล้วถ้ามองไปที่ฝ่ายชายละ ในฐานะคนผ่อนบ้านทำไมเราต้องมาแบกรับภาระดอกเบี้ยเป็นล้านด้วยถ้าเรามีแหล่งเงินที่ไม่เสียดอก มองไปที่แม่ซึ่งก็หวังดีกับลูกอยากให้ลูกมีบ้านไม่ต้องผ่อนแบบเสียดอกเบี้ยให้เหนื่อย บางคนอาจจะคิดว่าเงินแม่อย่าไปเอาของท่านเลย แต่แม่บางคนอาจจะมีความสุขถ้าได้ทำเพื่อลูก มากกว่าที่จะเก็บเงินไว้ทำเพื่อตัวเอง ดังนั้นเรื่องนี้มันต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยถอยหลังออกมาคนละนิด นั่งคุยกันดีๆ ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมมันไม่เป็นเรื่องดีหรอกครับ แล้วถ้าเลือกแบบใดแบบนึงจะแก้ปัญหาแม่กับเมียหมางกันอย่างไรต่อไป  ถ้าคุณเป็นชายจะเลือกแม่หรือเลือกเมีย  แล้วถ้าคุณเป็นหญิงจะเลือกแม่หรือเลือกสามี ครับ ปล.อันนี้เป็นความเห็นในส่วนของผมเองที่แชร์ความรู้สึกกับเรื่องนี้ครับ จากคุณ : ตุลาฮาเฮ - [ 12 ธ.ค. 51 12:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ม่าวานยังไปร่วมชงที่ทู้นู้นอยู่เรย วานนี้มีทู้นี้มาอิก อ่านไปอ่านมาก็จริง เฮ้อออออ สาธุขออย่าให้เราต้องเจอแบบนี้เรย (หวังลมๆ แล้งๆ) จากคุณ : สวยใสในที่มืด - [ 12 ธ.ค. 51 12:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราอยู่ข้าง ซาร่าค่ะ  ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราไม่เอาิเงินแม่ ซื้อบ้านด้วยตัวเอง และส่งเงินให้แม่เท่าที่ได้ ทุกเดือน ( ไม่ว่ามากหรือน้อย แม่ทุกคนต้องชื่นใจค่ะ )  ถึงแม้แม่จะเตรียมเงินไว้ให้เรา เราก็จะไม่เอา เราจะหาเองก่อน ชื่อบ้านควรเป็นของเมีย เพราะคุณมีลูกค่ะ ส่วนบ้านแม่และน้องสาวก็ช่วยผ่อนอีกหลังไปเลยค่ะ การแยกมาเป็นสิ่งที่ดีกว่าแน่นอน การอยู่รวมกันยังไงก็มีปัญหาค่ะ ราคาบ้านก็ลงไปเรื่อย ๆ ซื้ออยู่ใกล้ ๆ กันก็ได้ค่ะ หากยังต้องดูแลกันอยู่ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ค่ะ มีแต่จะทำหรือไม่เท่านั้น.. จากคุณ : pllgamma - [ 12 ธ.ค. 51 12:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณนะคะที่เข้าใจซาร่า สารภาพว่าตอนแรกก่อนที่จะโพส คิดอยู่หลายตลบ ความอยากแสดงความคิดเห็นก็เยอะ ความกลัวว่าจะทำให้ใครขัดเคืองก็มาก เรื่องปัญหาของเขา ซาร่าไม่บังอาจช่วยคิดค่ะ เพราะรายละเอียดต่างๆ เราไม่รู้เรื่องด้วย แถมอ่านความข้างเดียวอีกต่างหาก แค่ไม่ชอบ ที่บอกว่า หาเงินคนเดียว ทำงานคนเดียว ออกเงินคนเดียว จ่ายเองคนเดียว มันเหมือนกับว่าสมบัติ เงินทอง มีค่ามากกว่าความรัก ความซื่อสัตย์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีให้ลูกและสามี คนเราสมัยนี้หรือสมัยไหน ก็ยกย่องกันที่เงินทั้งนั้นแหละ ยกย่องไม่ว่า แต่อย่าเหยียบย่ำกันที่เงินเลย เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าแบมือขอเงินสามีนี่แหละ ทำให้ซาร่าต้องหาหนทางที่จะอยู่บ้านเลี้ยงลูกด้วย และสามารถหาเงินเข้าบ้านได้ด้วย แต่คนที่ไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ ก็ไม่สมควรโดนเหยียบย่ำ เพราะงานของแม่ มีค่ามากกว่างานใดๆในโลก จากคุณ : นภชล - [ 12 ธ.ค. 51 12:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณซาร่าต้องเข้าใจนะครับ...........ผู้หญิง หรือ แม่บ้าน หรือ ภรรยาดีๆอย่างคุณซาร่ามีเยอะ ที่รู้จักหน้าที่ของตนเอง แบ่งเบาภาระของสามี มีเรื่องทุกข์ร้อนก็คอยปลอบช่วยแก้ไข ร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่เคยทิ้งกัน เป็นแม่ศรีเรือนดูแลลูกและบ้านเรือนไม่เคยบกพร่อง รักครอบครัว รวมทั้งรักครอบครัวฝ่ายสามีด้วย  ...มีเหตุมีผล(ข้อนี้สำคัญมาก..สำหรับผู้ชายอย่างผม) . ..ภรรยาแบบนี้มีรึใครจะไม่รัก ถ้าเป็นผม ผมรักตายเลย หญิงอื่นนอกจากภรรยาที่แสนดีแบบนี้แล้วก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว บ้านเล็กบ้านน้อย กิ๊กเกิ๊กอะไรก็จะไม่มีเป็นอันขาด . . แต่ก็มีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งที่ตรงกันข้าม .......คือผมเข้าใจหัวอกลูกผู้ชายด้วยกันที่มีภรรยาแบบตรงกันข้ามที่กล่าวมานั้นอ่ะครับ บางครั้งอาจจะเรียกว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ่งถ้ามีเจ้าตัวเล็กเป็นโซ่คล้องคอด้วยแล้ว....ผู้ชายคนนั้นก็เหมือนตกนรกดีๆนี่เองครับ จากคุณ : man1nat - [ 12 ธ.ค. 51 13:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบทู้นี้จัง โดนใจ ^__^ ให้ give ไป 3 คะแนนเลยยยยย จากคุณ : annieake - [ 12 ธ.ค. 51 13:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาบอกว่าเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ จากคุณ : หนมโมจิ - [ 12 ธ.ค. 51 14:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โดนใจเป็นที่สุด ขอบคุณค่ะ ซาร่า อึดอัดใจมาตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้วค่ะ คือ ปัญหาของคุณคืออะไรกันแน่ ถ้าคุณบอกภรรยางก หรือตกลงกันไม่ได้ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่ภรรยาไม่ได้ทำงานแล้วคุณต้องทำงานหาเงินคนเดียวนี่คะ แต่ก็ดีแล้วที่คุณบอกว่าพยายามรักษาความสัมพันธ์โดยไม่บอกให้แม่รู้ ไหนๆเธอก็เป็นแม่ของลูกคุณแล้ว อย่าแบ่งเธอ แบ่งฉันเลยค่ะ หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อนะคะ คุณโชคดีอยู่แล้วที่มีแม่ที่แสนประเสิรฐ ไม่งั้นปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้คงไม่ได้มีแต่เพียงแค่นี้แน่ เพราะฉะนั้น ไม่ยากหรอกค่ะ สร้างครอบครัวที่แสนสุขให้กับลูกของคุณดีกว่านะคะ ชีวิตมันสั้นนะคะ ไม่ว่าจะอยู่บ้านเช่า ซื้อสด ซื้อผ่อน ก็ไม่สำคัญเท่ากับความรักที่มีให้กันในครอบครัวหรอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 51 14:30:16 จากคุณ : Better Off - [ 12 ธ.ค. 51 14:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านโพสของคุณซาร่าไป น้ำตาก็ซึมไป (แอบนางเอกเล็กน้อย) โดนใจมากๆเลยค่ะ ที่กระทู้นู่นดิฉันก็ใส่ความคิดเห็นในฐานะที่เป็นเมีย เป็นแม่เหมือนกัน เพราะข้อความของคุณ จขกท (นู๊น) ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า ถ้าดิฉันเป็นภรรยาของเค้า ดิฉันคงเจ็บปวดพิลึกกับคำพูดที่แสดงออกให้เห็นถึงค่าของภรรยาเค้าในสายตาของเค้าเอง คุณ จขกท (นู๊นนน) เป็นคนดี รักแม่ รักครอบครัว และดูจะรักเมีย (เพราะก็ฟังที่เมียพูด แล้วเอามาคิด ถึงแม้จะด่าอยู่หลายคำ และไม่อยากให้เมียถูกคนในครอบครัวมองไม่ดี)   แต่ก็มีหลายข้อความแสดงการดูถูก และอคติกับเมียที่เป็นแม่ของลูกตัวเองอย่างเด่นชัด ดิฉันก็วิจารณ์ไม่ได้มาก เพราะไม่ได้เป็นหนึ่งในครอบครัวของเค้า ไม่รู้หรอกค่ะ ยิ่งเศร้าใจหนักที่เห็นคุณผู้ชายมากมายเข้ามาบอกให้เลิกกับเมีย ผู้หญิงเห็นแก่ตัวคนนี้ไปเลย ถ้าเป็น...จะถีบส่ง...และอื่นๆ ทำไมทัศนคติของผู้ชาย (หลายคน) ที่มีต่อผู้หญิงถึงได้เป็นแค่เพียงสิ่งของ และที่ระบายความใคร่เท่านั้นเองล่ะค่ะ  เศร้าค่ะ อ่านแล้วเศร้ามาก...... ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่อยากออกมาเลี้ยงลูกเองใจแทบขาด ใครมันจะดูแลลูกเราได้ดีกว่าเราเองคะ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายมากมาย ดิฉันจึงทำตามที่ใจต้องการไม่ได้ จริงๆ สามีก็บอกว่าเค้าจะเลี้ยงครอบครัวเอง แต่จะให้ดิฉันเห็นคนที่ตัวเองรัก ทำงานตรากตรำอยู่คนเดียวก็ไม่ไหว ดิฉันต้องไปกราบแม่ของตัวเอง ให้ช่วยเลี้ยงหลานให้หน่อย พอเลิกงานก็กลับบ้านไปเลี้ยงต่อ แล้วก็กลับบ้านไปดูแลสามีต่อ ทุกวันต้องหอบเครื่องปั๊มนมหนัก 5-6 กิโล ขึ้นรถ ลงเรือ ช่วงแรกๆ ต้องตื่นทุก 2-3 ชม. ตี 2 ตี 3 ก็ต้องปั๊มนม บางทีก็เผลอหลับทั้งๆที่เครื่องปั๊มนมก็ยังคาเต้าอยู่ .... ใครไม่เคยปั๊มนมไม่รู้หรอก ว่ากว่าเต้านมจะด้านชา มันเจ็บปวดมากขนาดไหน... ไม่รวมถึงการดูแลอื่นๆ จิปาถะอีกมากมาย การเป็นเมีย เป็นแม่มันลำบากขนาดนี้ ทำไมคุณผู้ชายอีกหลายๆคนถึงได้ใจร้าย มองเมียเป็นเพียงวัตถุขนาดนี้คะ  (อ๊ายยยยยยยยยย...ไม่ไหวแล้วน้ำตาไหลไม่หยุด)   โชคดีจริงๆ ที่สามีดิฉันเป็นคนดี รักพ่อ รักแม่เค้า รักลูก รักเมียของเค้า และเคารพพ่อแม่ของดิฉัน  ผู้หญิงเราจะต้องการอะไรนอกจากคำพูดดีๆ ความรู้สึกดีๆ จากคุณผู้ชายล่ะคะ เศร้า.... ปล. เห็นด้วยกับคุณ man1nat นะคะว่าผู้หญิงก็มีดี ไม่ดี ผู้ชายเองก็มีดี ไม่ดี  แต่นี่ก็คือข้อความจากใจของผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ จากคุณ : mattnoi - [ 12 ธ.ค. 51 14:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จดทะเบียน แต่งงาน ชื่อบ้านเป็นของใครก็ได้ มันกลายเป็นสินสมรส เงินที่ซื้อก็กู้เอาดีที่สุด ดอกเบี้ยตอนนี้ถูก เงินที่แม่มีเอาไปลงทุนเถอะ ให้ผลประโยชน์มันงอกเงย ซื้อหุ้นดีๆ สักตัว จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ซื้อแบบลืมไปเลยสัก 3-5 ปี ไม่ต้องคิดจะขายคืน ได้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยหลายเท่าตัว ความระมัดระวังของทั้งสองฝ่ายเป็นเรื่องดี  ก็มองให้มันเป็นเรื่องดี ทำอะไรก็ให้ชัดเจน จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ถ้ามัวแต่มาคิดว่าเอ็งงก เอ็งงก เอ็งงก สักวันก็คงอยู่กันไม่ได้ จากคุณ : TingTing - [ 12 ธ.ค. 51 14:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าอ่านกันดีๆ  ไม่มานั่งตั้งแง่กัน...  ประเด็นมันอยู่แค่กระจี๊ดเดียวเอง นั่นคือ..  เงินแม่+ เงินน้องสาว.. เพราะฉะนั้น..  มันผิดอยู่แล้วล่ะ ถ้าจะเอาไปใส่ชื่อเมีย  แต่ถ้าจขกท.นั้นกู้ซื้อเองหมด  ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ถามว่าตามกรณีของกระทู้นั้น  ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่า  คุณผู้หญิงที่คิดแบบนั้น  เอาเงินแม่ผัวน้องผัวของตัวเองที่เก็บเอาไว้  ยืนยันว่าจะเอาๆๆๆ  ไม่อยากจะพูดหรอกนะ  แต่น่าจะคิดได้ด้วยตัวเอง... พยายามแยกประเด็นกันหน่อยน่าจะดีนะ  ไม่ใช่ว่าจะเฮไหนก็เฮตามกันไป  ผมเห็นคคห.ของคุณเด็กหัดเดินในกระทู้นั้น  ผมยังนึกชื่นชมเลยว่า ถ้าทุกคนหาภรรยาที่ดีอย่างคุณได้  คงจะดีไม่น้อย  คนที่รับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัว  คุณคิดหรือว่ามันสามารถเป็นกันได้ง่ายๆ  ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน ค่าช๊อปปิ้ง ค่าแม่บ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าผ่อนรถผ่อนบ้าน ค่าน้ำมัน ค่าเครื่องสำอาง ค่าของแต่งกาย ค่าบุฟเฟต์ตามโรงแรม ค่าใช้จ่ายวันหยุดเทศกาล ค่าใช้จ่ายบ้านฝ่ายหญิง ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ  วันนึงๆตื่นเช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้านก็ยังต้องมานั่งคิดค่าใช้จ่ายต่ออีก  นี่ยังไม่นับว่าปีหน้าเศรษฐกิจไำม่ดีอีกนะเนี่ย... ที่กล่าวไปทั้งหมดข้างต้นนั่นน่ะ...  ผมยินดีจ่ายทั้งหมดนั่นนะ  เพราะนั่นเป็นเงินที่ผมหามาเอง  ไม่ได้ไปทำให้พ่อแม่พี่น้องเดือดร้อน  ผมเล่นห้องก้นครัว เพื่อที่จะหาร้านอาหาร หาบุฟเฟต์ตามโรงแรม เพื่อที่จะพาแฟนไปทานข้าว  ผมเล่นห้องโต๊ะแป้ง  เพื่อที่จะดูวันลดราคาเสื้อผ้า เครื่องสำอาง แล้วก็พาเธอไปช๊อปปิ้ง  ผมเล่นห้องบลู เพื่อที่จะดูว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนกัน พักที่ไหนดี ผมเล่นห้องชายคา เพื่อที่จะดูวิธีที่จะทำให้บ้านเราสวยงาม มีความสุข.. ..เกิดเป็นผู้ชาย มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก  ผมทำทุกอย่างตามที่กล่าวมาข้างบนนั้น  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แฟนผมก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ที่บ้านผมต้องมาก่อน... ปล. ค่าจ้างแม่บ้านหนึ่งคนประมาณ6-7พันบาท  ค่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าซักอบได้ประมาณไม่เกิน3หมื่นบาท  ค่าเครื่องมือทำกับข้าว ค่าตู้เย็น ค่าโน่นค่านี่  มีอะไรที่มันซื้อแล้วสะดวกก็ซื้อไป  ผมว่าเลี้ยงลูกมันก็ไม่เห็นจะลำบากขนาดนั้นมั๊ง  ว่างๆก็อุ้มลูกไปเดินเซ็นทรัลเวิร์ด  เดินเข้าซาร่าซื้อเสื้อผ้าซักสองสามชุด เสร็จแล้วเดินไปกินข้าวชั้นโรงหนัง  อืม..  เป็นผม ผมก็เอานะ..  วันไหนปวดเมื่อย ก็เอาลูกฝากให้แม่เลี้ยงให้หน่อย ไปสปาที่เฮลท์แลนด์ซักสองชั่วโมง หรือว่าวันไหนหน้าตาหมองคล้ำ ก็แวะไปทำหน้าที่นิติพลที่สยามซักหน่อย ทำเสร็จหิวๆก็เดินข้ามไปกินข้าวพารากอน เฮ้อ..เซ็งจัง... ปล.อีกที..  นี่ก็สิ้นปีแล้ว ต้องหาเยียร์แพลนเนอร์ใบใหม่มาเตรียมไว้  เนี่ยต้องนั่งลอกตารางของปีนี้ ว่าเดือนไหนวันไหน มีอะไรลดราคา มีโปรอะไรเดือนไหนบ้าง เพราะมันจะตรงกันทุกเดือนของทุกปี เฮ้อ.. เกิดเป็นผู้ชายอะนะ ใครว่าสบาย..ฟระ จากคุณ : nai_aoum - [ 12 ธ.ค. 51 16:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จะซื้อบ้านไหม ถ้าสามีคิดว่าคุณงกสมบัติ ตอบ .. ไม่ซื้อหรอกค่ะ เผลอๆเอาเลือดหัวมันออกด้วย เผื่อจะมีความคิดดีๆเกิดขึ้นบ้าง จะซื้อบ้านซุกหัวนอนเองทั้งที ไม่ควรเบียดเบียนเงินบุพการี  พ่อแม่ฟูมฟักตั้งแต่ยังเเป็นตัวอ่อน จนป่านนี้ตีนกาชักเหยียบหน้า  ตอบแทนบุญคุณท่านหรือยัง หรือ ทำอะไรให้ท่านภาคภูมิใจหรือยัง พ่อแม่แก่ปูนนี้แล้วควรจะได้พักผ่อน เราสบายลอยตัวแต่พ่อแม่ยังลำบากต่อ โห..  ใครกันแน่งก ??? จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล - [ 12 ธ.ค. 51 16:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่เห็นบาดใจผมเลยครับ... ผมก็ลาออกมาเลี้ยงลูก 2 คน... เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว เช็ดอ๊วก อุ้มเรอ เด็กๆ ครับ... ตอนนี้ก็อยู่บ้านทำงานบ้านบ้าง รับส่งลูก แถมยังทำงาน(หาเงิน) ที่บ้านอีกต่างหาก ภรรยาผมจะทำยังไงกับชื่อบ้าน ชื่อเจ้าของรถ ผมก็ไม่เห็นจะแคร์ มีแ่ต่เค้าอยากให้ใส่ชื่อผมด้วย เงินเดือนที่ได้ผมก็ให้ภรรยาจัดการหมด... เรื่องงก... ผมว่าก็จริงของเค้านะ อะไรที่ผมไม่ได้หามาเอง ผมไม่อยากได้ครับ แต่ถ้าจะให้เองก็เอา... ส่วนเรื่องยุให้เลิกนั่นผมก็ว่าเกินไป จขกท.นั้นก็บอกแล้วว่าภรรยาเขาดีทุกอย่าง เว้นแต่เรื่องนี้เรื่องเดียว... ก็น่าจะคุยกันได้ ชีวิตคู่ใหม่ๆ ก็อย่างนีแ้หละ กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด นานๆ ไปก็ขี้เกียจจะคิดเอง... ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ำทำไปเถอะครับ อย่ามาแบ่งแยก ทวงบุญคุณอะไรกันเลย... จากคุณ : w@@n - [ 12 ธ.ค. 51 16:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอ่อ...ขออนุญาตคุณ "ซาร่า" นะคะ คุณ nai_aoum คะ ดิฉันอ่านข้อความของกระทู้นู๊นนนน (จำชื่อคุณ จขกท ไม่ได้อ่ะ ขี้เกียจกลับไปดูแล้ว) ไม่เห็นมีข้อความไหนบอกว่า ภรรยาของเจ้าของกระทู้บอกว่า จะเอาเงินแม่และน้องสาวของสามีเพื่อมาซื้อบ้านให้ได้นี่คะ เพียงแต่เค้ามีปัญหาว่า ไม่อยากให้มีชื่อน้องสาวร่วมเป็นเจ้าของบ้าน แต่ถ้าเป็นชื่อแม่ของสามี คุณภรรยาเค้าก็โอเคนี่คะ (ลองดูที่ข้อความที่ 68 ของกระทู้นู๊นนนน นะคะ) ดิฉันว่าเราไม่ได้หลงประเด็นหรอกค่ะ เพราะว่าคำตอบของผู้ที่เข้ามาตอบมากกว่าครึ่งก็สนับสนุนให้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่าไปเอาเงินคุณแม่ ก็ตอบกันไปหมดแล้วอย่างชัดเจน จะไปพูดซ้ำทำไมล่ะคะ แต่ที่มาขึ้นประเด็นใหม่นี่ เพราะพวกเรา (อย่างน้อยก็ดิฉันแหล่ะค่ะ) เห็นว่า คำพูดหรือภาษาเขียนของคุณ Stimpack (ในที่สุดก็ต้องกลับไปอ่านอีกจนได้ง่ะ) ที่กล่าวถึงภรรยานั้น ในฐานะที่เป็นเมีย และเป็นแม่เหมือนกัน รู้สึกเจ็บแปลกๆ ค่ะ ก็เลยอยากจะร่วมแชร์อะไรบางอย่างกับท่านทั้งหลายเท่านั้นเอง (เท่านั้นเอ๊งงงงงงงงงงงงงงง จริงๆ นะ) จากคุณ : mattnoi - [ 12 ธ.ค. 51 16:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านแล้วน้ำตาซึมทั้งของคุณนภชล และคุณ mattnoi อยู่ในสถานะเดียวกันเลยค่ะ  หาคนเลี้ยงลูกไม่ได้  แม่สามีที่อยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ทำงาน แถมบ้านอยู่ติดกันอีกไม่ยอมเลี้ยงลูกให้ (หลานคนอื่นก็ไม่เลี้ยง กลัวเหนื่อย)  ตัดสินใจ อยู่นานว่าจะออกมาเลี้ยงลูกดีมั้ย  ไม่อยากมาแบมือขอเงินสามี เป็นคนไร้ค่า เสียดาย เงินเดือนที่คิดว่าถ้าลาออกมาเลี้ยงลูก คงกลับไปหางานแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว   สุดท้ายตัดใจจ้างพี่เลี้ยงลูกที่เงินเดือนมากกว่าคนจบ ป.ตรี  แต่ฟ้าเข้าข้างได้พี่เลี้ยงดี รักลูก ดูแลลูกดีทุกอย่างทำให้เรากลับมาทำงานได้อย่างสบายใจ  ตอนนี้พี่เลี้ยงอยู่จน เลี้ยงลูกคนที่ 2 แล้ว   ผู้ชายไม่เคยรู้หรอกว่าการเป็นเมียและแม่มันหนื่อยแค่ไหน  อ่าน คห. บนตอนปั๊มนมแล้ว น้ำตาไหลเองเลย  ขอบอกว่าใครไม่เคยปั๊มนมจะไม่รู้หรอกว่ามันต้องใช้ความอดทนแค่ ไหน  หลับคาเครื่องปั๊มนมก็ทำมาแล้วค่ะ  ยิ่งกลับมาทำงานแล้วคัดเต้านม แต่ไม่สามารถ ปลีกเวลาไปปั๊มนมได้  ขอบอกว่ามันทรมานมากๆ  ต้องตื่นทุกๆ 2-3 ชม.กลางคืนต้อง ตื่นนอนเพื่อปั๊มนม ผู้หญิงทุกคนที่มีลูกต้องการหลักประกันค่ะ  อย่าหาว่างกเลย  ทุกคนต้องการหลักประกัน ให้ตัวเองและลูกทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 51 16:32:23 จากคุณ : Minnie On The Road - [ 12 ธ.ค. 51 16:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขออนุญาตจขกท.ครับ ..ใช้สิทธิ์พาดพิงครับ.. ตอบคุณคคห.31ครับ...  กลับไปดูกระทู้นู้น คคห.ที่68  อืม.. เข้าใจแล้วครับ... ถ้าตามนั้นก็โอเคครับ.. เพียงแต่ว่า..  สังคมในครอบครัวแต่ละครอบครัว ไม่มีครอบครัวไหนเหมือนกันหรอก  การที่จะเอาบ้านใคร ผัวใคร เมียใคร มาเปรียบกันว่า บ้านไหนเป็นยังไง มันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ในโลกนี้หรอกครับ  คนเราในโลกล้านพ่อแสนแม่ วิจารณ์กันแบบนี้ มันไม่ได้ความจริงอะไรหรอก  ต่อให้คนรู้จักกัน เห็นหน้ากันทุกวัน เราก็ไม่สามารถรู้ตื้นลึกหนาบาง ความเป็นไปต่างๆของครอบครัวคนอื่นได้หรอก  คนที่เขาอยากอยู่บ้าน ทำสวนปลูกต้นไม้ เลี้ยงลูก ทำนู่นทำนี่ ตกแต่งบ้าน มันก็มีเยอะแยะ..  คนที่เขาชอบทำงาน เป็นเวิร์กกิ้งวูแมน ชอบออกสังคม มันก็มีเยอะแยะ..  คนที่อยากอยู่บ้านเฉยๆ มีคนรับใช้คอยทำงาน ว่างๆก็ออกไปสังสรรค์ ไปช๊อปปิ้ง มันก็มีเยอะแยะ.. มันมีอะไรตายตัวแน่นอนหรือ  ชีวิตมันไม่ใช่ 1+1=2 เสมอไปหรอกคุณ... จากคุณ : nai_aoum - [ 12 ธ.ค. 51 17:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อืม...คนละมุม จากคุณ : ยูซ่า@ยากูซ่า - [ 12 ธ.ค. 51 18:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ได้ใจ ตอนคลอดลูกแล้วเลี้ยงเองอยู่บ้าน โครตระเหนื่อย เดี๋ยวแว้ แว้กินนมแม่ทุกสองชั่วโมง ไม่ยอมกินนมชงจนโต พ่อมันกว่าจะกลับบ้านปาไปสี่ทุ่มทุกวัน เพราะกลับบ้านมาแล้วไม่อยากมาเลี้ยงลูกแบเบาะ ขอแค่มาชื่นชมก็พอ เรากลับไปทำงานไม่ได้เพราะลูกกินนมแม่ เลี้ยงเอง ทำงานบ้านเอง ไม่มีเงินเดือน จนลูกอายุขวบนึงถึงพอจะไปทำงานนอกบ้านได้ ถึงงานจะหนักจะเครียดแต่สบายกว่าเลี้ยงลูกเยอะเลย ถึงจะรักลูกแต่ถ้าเลือกได้ก็จะเลือกทำงานนอกบ้าน ถ้าเกิดมารวยชี้นิ้วสั่งได้ก็คงจะเลี้ยงลูกได้เพราะมีเงินจ้างคนมาช่วยเลี้ยง ประเด็นคือพ่อมันขี้เกียจไม่ชอบเลี้ยงลูก ดิฉันก็เป็นคนงก นึกถึงที่บ้านหลังแรกก็เคยนึกว่าเราไม่จดทะเบียนกัน ถ้าพ่อมันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วบ้านจะตกเป็นสมบัติพ่อเขาละสิทีนี้ ก็เลยบอกให้พ่อมันไปจดทะเบียนรับรองบุตรกันเหนียว ถึงเขาจะยอมไปจด แต่เขาบอกว่า พ่อแม่เขาไม่มาโกงบ้านของเธอหรอกไม่ต้องกลัว ซึ่งใจก็คิดว่าถึงบ้านเขาจะผ่อนแต่เราต้องมีสิทธิ์พึงได้ เพราะเราต้องเลี้ยงลูก ทำงานบ้านเป็นคนใช้ อย่างนั้นสมบัติที่เธอหามามันต้องเป็นของฉันด้วย มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ตอนนี้กลับกัน ดิฉันทำงานแล้ว และผ่อนบ้านหลังใหม่เอง  อันนี้สมบัติส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพ่อมัน 555 จากคุณ : แต้มดาว - [ 12 ธ.ค. 51 18:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จากกระทู้โน้น คุณ Stimpack นี่ เขียนอะไรไม่เขียนทีเดียวให้ละเอียดๆไปเลย เซ็งเป็ด ปัญหานั้นง่ายนิดเดียว กู้แบงค์ จดทะเบียน จบ...(ทำไมต้องไปเอาเงินแม่+น้องด้วย) สมบัติพ่อแม่ปั๋วเราๆไม่เคยไปยุ่งเลยอ่ะ ปั๋วเราเอาไปลงทุนซื้อบ้าน ได้กำไรมา เรายังไม่รู้เลยว่าเป็นเงินเท่าไหร่(รู้แบบคร่าวๆอ่ะ) เค้าบอกแค่ว่าเก็บไว้ให้ลูกเรียนมหาวิทยาลัย(อย่าให้รู้ว่าเอาไปให้กิ๊กนะเมิง ตายแน่) ตอบทู้ คุณนภชล (aka SARA) เห็นด้วยอย่างมาก ชีวิตแม่บ้านไม่ใช่นั่งกระดิกส๊งติงอยู่เฉยๆดูทีวีทุกวันนะยะ ถึงเดี๊ยนจะแอบงีบกลางวันมั่ง แต่พอตื่นขึ้นมาก็รีบงกๆๆไปทำกับข้าว เตรียมไว้ให้คุณๆแดรกรับประทานนะเคอะ... ดูชีวิตประจำวันของน้องแล่ดคนงามมั่ง เช้าก็ตื่นแต่เช้า มาทำแซนวิชให้ลูกให้ปั๋ว เสร็จแล้วไปส่งลูกชายที่โรงเรียน กลับมาแช่ผ้า รดน้ำสนามหญ้า ทานอาหารเช้า เอาผ้าเข้าเครื่อง ล้างจาน เก็บจานที่ล้างเมื่อคืน เอาผ้าตาก... แว้บมาเช็คพันทิปหน่อยนึง ทำความสะอาดบ้าน แบ่งเป็นห้องๆไป ทำแม่มทีเดียวเหนื่อยตายห่ะ อ้าว บ่ายสองแล้วเร๊อะ กินกลางวันหน่อย เก็บผ้า รีดผ้า แน่ะ ลูกกลับมาแระ ต้องเตรียมของกินให้ลูก.. ทำอาหาร เย็นๆดูแลสวน เก็บใบไม้ ถอนหญ้าเรื่อยเปื่อย ค่ำๆรอคุณปั๋วกลับ บางทีกลับดึกก็รอเตรียมอาหารเย็นให้ กว่าจะนอนก็ 4ทุ่ม 5ทุ่ม ปล. แต่วันนี้เค้าไปช้อป Jim Thompson Sale ต่อด้วยเซนทรัลทั้งวันอ่ะ จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 12 ธ.ค. 51 19:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จริงค่ะ คนเป็นแม่ หรือ เมีย บางคนก็เหลือรับจริงๆ เราเองก็เคยพบเห็น ซึ่งเราไม่รู้ว่า ภรรยาของเจ้าของกระทู้นั้นเป็นไง แต่เขาเองก็บอกว่า เรื่องอื่นๆดีหมด เป็นแม่ที่ดี แต่เราแค่ไม่ชอบที่คนเป็นสามี ย้ำมาก ว่า ทำงานคนเดียว หาเงินคนเดียว เมียไม่ได้ทำงาน อ่านแล้วสงสารลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีคุณค่าในสายตาสามีเอาเสียเลย แต่ถ้าเมียประเภท ผลาญเงิน เลี้ยงลูกด้วยวัตถุ จับลูกให้สนองความอยากของตัวเอง แบบนั้นเราไม่ยกย่องแน่ค่ะ รู้ไหมคะว่า มดลูกของผู้หญิงทำอะไรได้บ้าง มันสามารถ สร้างความสุข ให้คุณผู้ชายขึ้นสวรรค์ชั้นสูง มันสามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตน้อยๆ มันสามารถสร้างความเจ็บปวดให้ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของมัน และในบางครั้งมันก็มอบอันตรายในรูปแบบต่างๆมาให้ทั้งโรคร้าย และภัยทางเพศ ถ้าเราเลือกได้ เราอยากเกิดเป็นผู้ชาย เหน็ดเหนื่อยนอกบ้านทำงานเลี้ยงครอบครัวให้ดีที่สุด แต่เราก็ภูมิใจที่เกิดเป็นผู้หญิงนะคะ เพราะเราสามารถทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ แต่ผู้ชายไม่สามารถทำได้เหมือนผู้หญิงอย่างเราๆ เรารักพ่อของเรามากๆเลยนะคะขอบอก พ่อของเราทำงานหาเงินมาเท่าไหร่ก็ให้แม่เราหมด พ่อไม่เคยเจ้าชู้ พ่อไม่เคยดุหรือตีลูก พ่อคลานเข่าให้เราขี่หลัง พ่อนั่งหาเหาให้เรา พ่อนั่งซักผ้าเปื้อนเลือดให้เราตอนเราขาหักตอนอายุ 14 ส่วนแม่เราดุ ขี้บ่น เอาแต่ใจ ไม่ได้ดังใจก็ร้องไห้ ขัดใจก็ร้องไห้ ทำให้ทุกๆคนต้องตามใจแม่เพราะไม่อยากให้แม่ร้องไห้ แต่พ่อ เรา และน้องรักแม่มาก และยอมตามใจแม่ เพราะรู้ว่าแม่บ่นก็เพราะอยากให้เราได้ดี เอาแต่ใจเพราะแม่คิดว่าถ้าทุกคนตามใจทุกคนก็จะได้ดี เราชื่นชมหลายๆความเห็นที่เล่าการทำหน้าที่สามี พวกคุณเป็นคนดีมากๆๆๆเลยค่ะ เราชื่นใจแทนภรรยาพวกคุณมากเธอเหล่านั้น ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งตลอดชีวิตไปแล้ว เราเองก็คิดว่าความโชคดีต่างๆในชีวิตที่ได้รับมานั้นเพราะ พ่อ... การที่ชีวิตเราไม่ตกเหว ออกนอกเส้นทางเพราะ แม่ และเราชื่นชม สามีดีๆ ทุกคนค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 12 ธ.ค. 51 20:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โหย....โดนมากๆค่ะ เห็นด้วยที่สุด!!! ไม่ได้เห็นกระทู้นั้นตั้งแต่แรก แต่อ่านก่อนกระทู้คุณ อ่านแล้วปรี๊ดมากมาย อยากจะตอบเค้าแบบที่คุณเขียนเป๊ะเลย(แต่ไม่มีปัญญาเขียนได้อย่างคุณ) จากคุณ : smileline - [ 12 ธ.ค. 51 22:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 39 บอกได้อย่างหนึ่งว่า แต่ละคนมีความคิดของตัวเองเช่นนี้ ไม่มีใครเห็นใจใคร ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด จากคุณ : Vancin - [ 12 ธ.ค. 51 22:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โดน.................ได้ใจ จากคุณ : นางฟ้า - [ 12 ธ.ค. 51 23:12:40 A:125.25.15.145 X: TicketID:196986 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อไปคงมีกระทู้  จะซื้อบ้านแต่สามีงกจัง ทำนองภรรยาพอคลอดลูกแล้วกลับไปทำงาน สามีก็ลาออกเพราะอยากมาเลี้ยงลูก พยายามเลี้ยงอย่างดีที่สุด เพราะทุกอย่างเพื่อลูก แถมทำงานบ้านทุกอย่าง ซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน อาหารการกิน ทำก็ไม่ค่อยจะเป็นแต่พยายามเพื่อคนที่รัก ส่วนภรรยาก็ทำงานหาเงินเลี้ยงทุกคน ทั้งลูก สามี แถม พ่อแม่ ของตัวเอง และสามี  แสนเหนื่อย  หาเงินตัวคนเดียว ไปทำงานแต่เช้า กลับก็ดึก อยากจะอยู่เล่นกับลูก ก็กลัวจะอดตายไหนจะค่านมลูก ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าโทรศัพท์ สามีก็ดันมาลาออกอีก พอจะซื้อบ้าน คุณแม่ภรรยาก็กลัวเสียดอกเบี้ยให้แบ้งค์ เอาเงินออมของแม่และที่เป็นของลูกชายอีกคนมาให้ลูกสาวซื้อบ้านแล้วผ่อนกับแม่จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย พอคุณสามีรู้ก็บอกว่าให้ใส่ชื่อตัวเองกับภรรยาพอ  กลัวว่าพอน้องชายภรรยาแต่งงานแล้วได้น้องสะใภ้ไม่ดี มาทวงบ้านจะยุ่ง ฝ่ายภรรยา ก็เลยต่อว่าสามีว่า "งก น้องชายก็แสนดี คงไม่ทำอะไรอย่างนี้ ฉันทำงานสายตัวแทบขาดทั้งที่เป็นผู้หญิง เธอไม่ยอมเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย อยู่แต่บ้านเลี้ยงลูก ไม่เคยคิดจะหาเงินช่วยฉันเลยตั้งแต่มีลูก ยังมางกอีก เป็นผู้ชายยังไง คนอื่นมีแต่ทำงานหาเงิน เป็นหัวหน้าครอบครัว นี่เธอมาเกาะเมียกิน" อย่างนี้ฉันไปอยู่กับลูกสองคนดีกว่า เฮ้อเหนื่อยจัง คิดว่าสามีแบบนี้เป็นยังไง แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 51 23:27:44 จากคุณ : จัน ท่าข้าม (จัน ท่าข้าม) - [ 12 ธ.ค. 51 23:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตัดปัญหาเรื่องใครดี ใครไม่ดีออกไปเถอะค่ะ คิดแล้วเก๊กซิมแทน เอาเป็นว่า เงินแม่เป็นของแม่คนเดียวเท่านั้น แม้ว่าแม่ตั้งใจให้ลูกคนละครึ่ง ก็รอให้แม่ไปสวรรค์ก่อนค่อยแบ่งกัน อย่าไปแตะ เพราะเกิดแม่ไม่สบายหนัก ๆ อาจจะไม่เหลือแบ่งให้ซักบาทนะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าซ่าร่าหรือจอร์จ ก็ห้ามแตะเงินแม่จอร์จนะ ถ้าอยากได้บ้านก็ซื้อเองค่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องมานั่งน้อยใจว่าบ้านชื่อใคร ใครผ่อน ใครทำงาน ใครดี ใครไม่ดี ใครเสียสละ ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ ใครมั่นคงไม่มั่นคง ปล. อ่านกระทู้แล้วอย่าคิดมากค่ะ เรามาสนใจเค้าซะมากมาย ป่านนี้เจ้าของกระทู้นอนกอดลูกกอดเมียสบายไปแล้ว จากคุณ : papa mama love u - [ 13 ธ.ค. 51 00:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 41 น่าสนใจ ผมคิดว่าถ้าเป็นแบบกรณีที่ความคิดเห็นที่ 41 ว่า สามีโดนยำเละ มันจะตรงกันข้ามกับกรณีที่กำลังพูดนี้ครับ เชื่อผมสิ จากคุณ : ตุลาฮาเฮ - [ 13 ธ.ค. 51 00:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กะทู้นั้น เค้าอยากซื้อบ้าน แยกห้อง จะได้ xxx กันได้สะดวกม่ายใช่เหรอ จากคุณ : WWF 3.16 - [ 13 ธ.ค. 51 04:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถูกที่สุด คิดเหมือน จขกท. ตั้งแต่อ่านกะทู้โน้นแล้วอ่ะ จากคุณ : copypaste - [ 13 ธ.ค. 51 16:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : นู๋กำไร - [ 14 ธ.ค. 51 00:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอ.. กระทู้ที่คุณจอร์จมาถาม เค้ามาถามว่าทำอย่างไรดีที่มีปัญหาเกิดขึ้นไม่ใช่หรือครับ เค้าไม่ไดว่าภรรยาเค้าที่ไม่ได้ทำงานนะ แต่เค้าว่าภรรยาเค้าในเรื่องที่แม่เค้าอุตส่าห์หวังดีให้เงินกู้ซื้อบ้าน โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่ภรรยากลับว่าแม่เค้าหวังฮุบสมบัติ ผมว่าที่เค้าโดนว่าก็เพราะไม่ต้องการให้ใครเจ็บช้ำนะ ใครเป็นเจ้าตัวก็คงเลือกยาก นั่นก็แม่ นี่ก็เมีย คนไม่เกี่ยวข้องก็เห็นว่าไม่แมนเลย แต่อยากรู้ว่าคนแมนๆนี่จะตัดสินใจยังไง ถ้าไม่เสนอแนะทางออกให้เค้าก็อย่าไปว่าเขาเลยครับ ตำหนิคนอื่นน่ะมันง่าย แต่แก้ปัญหาน่ะมันยากกว่า จากคุณ : ยักคุง - [ 14 ธ.ค. 51 02:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่ใช่ค่ะ คุณยักคุง พวกเราไม่ได้ว่าคุณ จขกท.โน้นเรื่อง ปัญหาที่มาปร฿กษา เพียงแต่เรารู้สึกไม่ดีกับคำว่า ทำงานคนเดียว หาเงินคนเดียว กู้เงินคนเดียว เมียไม่ได้ทำงาน ไม่มีอาชีพ งก   โลภ ไม่ใช่เงินของมัน บลาๆๆ อะไรพวกนี้ค่ะ เป็นคำที่ไม่ให้เกียรติ คนที่ทำหน้าที่แม่ของลูกเขาเลย เหมือนเขาไม่เห็นคุณค่าของเธอ เราเสียใจแทนภรรยาเขาค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 14 ธ.ค. 51 09:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ...ตาม # 47 ยักคุง  - [ 14 ธ.ค. 51 02:10:26 ]   ..."คนไม่เกี่ยวข้องก็เห็นว่าไม่แมนเลย แต่อยากรู้ว่าคนแมนๆนี่จะตัดสินใจยังไง".... ...ไม่เห็นคำตอบ หรือ ครับ ...  "...เข้าใจว่า รักครอบครัว ... ... แต่ มันต้องลำแข้ง ตัวเอง  ไม่ใช่ไปเอาเงินแม่.. ... ไปเบียดเงินน้อง ... ... แน่จริง ไปหาเอง ไปผ่อนกับ แบ๊งค์ โน่น " จากคุณ : ซีมาสเตอร์ - [ 14 ธ.ค. 51 18:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามอ่านมาจากอีกกระทู้นึงครับ  คล้ายๆกับครอบครัวผมเลย... เราแต่งงานกัน  ผมขโมยชีวิตเมืองกรุงและงานที่เธอรักมา  เอาวุฒิการศึกษาปริญญาโทของเธอมา...เลี้ยงลูกชายที่น่ารักและซนเป็นลิงหนึ่งคน ลองคิดดูนะครับ  จากผู้หญิงทำงานเก่งๆคนนึง  ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานมากมาย  เธอภูมิใจในตัวเองมาก (และแน่นอนว่าผมก็ภูมิใจในตัวเธอเช่นกัน) ...วันนี้กลายเป็นแม่บ้าน full time คอยดูแลเรื่องหลังบ้านให้ผมและลูก  ไม่ได้พักเลย  เหนี่อยกว่าแม่ที่ทำงานนอกบ้านแล้วส่งลูกไปเนอสเซอรี่อีกนะครับ...คิดดูดีๆครับ แต่ปัญหาผมก็หนักเหมือนกัน  ทะเลาะกับที่บ้าน (ธุรกิจครอบครัว) บ้านแตกเลย  ต้องหาเงินมาหมุนในธุรกิจเอง  เงินหมั้นเงินแต่งงานก็ทุบกระปุกมาหมุนมันหมด (ธุรกิจซื้อมาขายไป...แต่ซื้อเงินสด  ขายเงินเชื่อ)  เหนี่อยจนไม่คิดว่าจะผ่านจนมามีวันนี้ได้ครับ มาวันนี้(สองปีผ่านไป)...เรามีรถยนต์ดีๆใช้(หมดแล้ว)  มีคอนโดหนึ่งที่เล็กๆ(หมดแล้วเหมือนกัน)  และกำลังโอนบ้านแลนด์เจ็ดล้านกว่าๆ (ผ่อนเอาครับ)  และเพิ่งจ่ายเงินสำรองค่ารักษาพยาบาลพ่อตาไปหนึ่งล้านบาทเศษ (บอลลูนและบายพาสหัวใจที่โรงพยาบาลดังแถวพระรามเก้า) ...ทั้งหมดนี้ผม "ไม่เคย" คิดว่าผมเป็นคนสร้างมาคนเดียวเลยนะ  มันเป็นผลงานของเราทั้งคู่  มันแค่เป็นหน้าที่ที่เรา "แบ่งกัน" ดูแลครอบครัวของเรา  ให้ไปได้ดีที่สุดแค่นั้นเอง  ...อยากให้สามีจขกทอ่านจังครับ จากคุณ : ให้เกียรติเธอครับ (jelly_fish) - [ 14 ธ.ค. 51 23:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านกระทู้โน้นตอนนั้น ไม่อยากออกความเห็น เพราะ .... รู้สึกว่าคุณผู้ชายจขกท. เหมือนไม่รักภรรยาตัวเองเลย ขอไม่ออกความเห็นมากกว่านี้ เรื่องในครอบครัว เป็นเรื่องของคนใน ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า หากภรรยาเค้ารู้ เค้าจะเสียใจแค่ไหน เราคิดย้อนถึงตัวเราว่า หากสามีเราคิดอย่างนี้กับเรา เราคงจะไม่อยู่กับเค้าแน่นอน อย่าว่าแต่ซื้อบ้านเลยค่ะ จากคุณ : jungkorn - [ 15 ธ.ค. 51 10:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใช่ เราเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ถึงได้แนะนำให้ซื้อ โดยยอมกู้แบงก์ จะได้ไม่ต้องเอาเงินของแม่มาเกี่ยว และบ้านนี้ให้ภรรยาไป และไม่เห็นด้วย ที่หลายความเห็นแนะนำให้เลิก ทั้งที่ภรรยาไม่ได้ทำงานก็จริง แต่เธอทำหน้าที่แม่ของลูก เลี้ยงลูกคุณอยู่ ทำหน้าที่ภรรยาที่คอยดูแลสามี อย่าเสียใจไปเลยค่ะ เลี้ยงลูกและมีจุดยืนต่อไปดีแล้ว เพราะเราทำเพื่อครอบครัวเรา แต่ก็ยืนยันอีกเช่นกันว่า ไม่ควรไปเอาเงินส่วนของแม่มาอยู่ดี กู้ดีกว่าสบายใจค่ะ จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย - [ 15 ธ.ค. 51 11:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านกระทู้ฝั่งโน้น มาตั้งแต่กระทู้แรกที่มาถาม เท่าที่อ่านดู ความเห็นส่วนใหญ่แนะนำให้จดทะเบียนรับรองลูก หรือใส่ชื่อแฟนในเจ้าของบ้านด้วย เพื่อความมั่นคงของแฟนจขกท. ซึ่งในฐานะผู้หญิงก็เห็นด้วยนะ แต่เริ่มมาแรงตอนที่มีเรื่องเงินของคุณแม่ จขกท.โน้น และเรื่องการนำชื่อน้องสาวเข้ามาเป็นเจ้าบ้านร่วมนี่เอง หลายๆคนรวมถึงจขกท. โน้นมองว่าฝ่ายหญิงงกสมบัติ เรื่องนี้มันก็พูดยาก ไม่รู้จักก็ไม่ขอวิจารณ์ แต่น่าเห็นใจฝ่ายหญิง เกิดเลิกกันไปล่ะ ขนาดจขกท. โน้นเองก็แสดงความเห็นว่ากลัวเลิกกันไปเพราะทะเลาะกันบ่อยแล้วบ้านจะต้องแบ่งให้แฟนด้วย แสดงว่าสถานการณ์ก็ไม่น่าไว้ใจ ไม่แปลกที่ฝ่ายหญิงจะรู้สึกไม่มั่นคง งานการก็ไม่ได้ทำ ลูกเกิดมาตั้งปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการรับรองบุตรอีก ฮ่วย    เท่าที่อ่านดู ฝ่ายหญิงไม่ได้ไปเรียกร้องให้จขกท. เค้าไปขอเงินแม่มา เพราะมีประโยคที่ทางภรรยาเค้าบอกว่าถ้าไม่มีปัญญาซื้อเองก็ไม่ต้องซื้อไม่ใช่หรือคะ  เป็นความมีน้ำใจของคุณแม่ที่เสนอให้ลูกชายซึ่งเป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่เราก็เห็นด้วยกับคนอื่นๆค่ะ ว่าถ้าแนวโน้มความสัมพันธ์ของคู่พวกเค้ามันไม่ค่อยดีก็อย่าเอาใครๆเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ถ้าไม่พร้อมจริงๆก็ไม่ควรซื้อ ขนาดยังไม่ซื้อยังอคติกับแฟนขนาดนี้ เดี๋ยวซื้อบ้านเสร็จพาลเลิกกันจะวุ่นวายไปกันหมด   ปล 1. เราเป็นผู้หญิงทำงาน(กินเยอะ สามีหาเลี้ยงไม่ไหวค่ะ) กลางวันฝากลูกที่เนอร์สเซอรี่ ขนาดเลี้ยงเองแค่ตอนเลิกงานจนเอาเข้านอนยังรู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ เพราะงั้นขอชื่นชมความเสียสละของคุณซาร่ากับแม่ๆคนอื่นๆที่ยอมเป็นแม่บ้านเต็มเวลามากๆค่ะ  ปล. 2 ไม่ได้ไปตอบในกท. โน้นเพราะอ่านแล้วเซ็งค่ะ แต่ตอบที่นี่เพราะขึนกระทู้แนะนำ เผื่อทางโน้นจะตามเข้ามาอ่านเอง จะได้รู้ว่าตัวเอง ....แค่ไหน (อยากเติมอะไรเติมเองเลยค่ะ) จากคุณ : นุ่มนิ่มขนปุกปุย - [ 15 ธ.ค. 51 12:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เราอ่านมาตั้งแต่ที่ จขกท ผู้ชายเขียน ตอนแรกเรารู้สึกว่า ผู้หญิงเป็นคนไม่ดีเลย ถ้าเป็นเรามาอ่าน เราคง ปรี๊ดแตกใส่สามีเรามากๆๆๆๆๆๆ เขียนไม่ให้เกียรติ์กันเลยอะ (ถ้าเราเข้าใจผิดก้ขออภัยด้วย) ยิ่งอ่านของคุณซาร่าแล้ว เรายิ่งเห็นใจ เราเป็นผู้หญิงคนนึง ที่ตั้งใจเลยว่า จะไม่ยอมลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านแน่นอน ตอนนี้ก็กังวลเหมือนกันค่ะ ว่าถ้ามีลูก ใครจะเลี้ยง แต่เราคงไม่ลาออกแน่นอน เรากลัวไม่มีค่าอะ จากคุณ : JewJangg - [ 15 ธ.ค. 51 14:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่รู้จะเขียนอธิบายยังงัยดี เอาเป็นว่าโดนมากค่ะกระทู้นี้ อ่านแล้วโดนใจสุด ๆ จากคุณ : หลานตานี - [ 15 ธ.ค. 51 14:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เย้ย....มีคนเข้าใจผิดว่า ซาร่าเป็นภรรยา เจ้าของกระทู้โน้นด้วย หลังไมค์มาให้กำลังใจเยอะแยะ ซาร่าขอแก้ตัวว่าไม่ใช่นะคะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวเขาเลยสักนิด...แค่เข้ามายุ่งนิดหน่อย ตามประสาคนชอบ...เรื่องชาวบ้าน เอิ๊กๆๆ ไม่ใช่ค่ะ...แค่สงสารหัวอกลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามีเห็นว่าตัวเองเป็น จุดศูนย์รวมของโลก อันตัวพี่นี้ใหญ่กว่าใครเขา  ส่วนเมียพี่หูหนา ปัญญาเบา วันๆเกาะผัวกินช่างโง่เง่า   สมบัติเรามันยังเหมาใส่ชื่อมัน พี่หาเงินส่งเสียให้เมียลูก  ให้มันนั่งแคะขี้มูกนอนสุขสันต์ พอมีเงินซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน  ดูสิมันยังงกขอร่วมแจม มันก็แค่เลี้ยงลูกหัวกระเซิง  นั่งระเริงงานบ้านช่างสุขแสน พี่ถอดเสื้อใส่ตะกร้าแหม..อิแฟน  ทำพี่แค้นมันรีบซักให้ทันที มันอยากได้เสื้อใหม่แต่มันคิด   รออีกนิดอาจจะเซลล์เซฟกระเป๋า พี่กลับบ้านเห็นถุงแดงแค้นไม่เบา  เมิงโง่เง่างานไม่ทำระ...บำ เมีย ลูกปวดอึปวดท้องร้องลั่นบ้าน  มันรีบคลานเป็นควายให้ลูกขี่ โถ..อิบ้าลงทุนถึงเพียงนี้   ถ้าเป็นพี่แค่ลุกหนีก็ไม่ได้ยิน อยู่กับบ้านงานไม่ทำช่างไร้ค่า  เหมือนอิบ้าให้ผัวด่าทุกเช้าค่ำ อยากได้อยากมีต้องเก็บคำ  คำผัวด่าทิ่มตำให้ช้ำใจ ไม่ได้ดั่งใจพี่ไล่ด่า  พี่บอกว่าออกไปเลยนี่บ้านกรู ทนเจ็บช้ำอยู่กับมันในรูหนู  พอได้อยู่บ้านใหญ่พี่ทวงบุญคุณ เห็นใจกันเถอะหนาบรรดาผัว   คนที่มีแต่ตัวไร้งานหนุน ทุกวันนี้ทำเพื่อลูกและเพื่อคุณ  แค่เจือจุนด้วยรักและน้ำใจ สงสารคนเป็นเมียที่ต้องอยู่กับบ้านเพื่อดูแลลูก ดูแลบ้าน ดูแลคนที่เธอรักเถอะนะคะ เธอทำเงินไม่ได้ แต่เธอทำในสิ่งที่เงินทำไม่ได้นะคะ ใครจะรักลูกคุณเท่ากับเมียคุณคะ จากคุณ : นภชล - [ 15 ธ.ค. 51 14:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถูกใจเอาไป3give เลยค่ะ จากคุณ : เรือนทรายในสายหมอก - [ 15 ธ.ค. 51 14:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 .........                 คูหา 56 ....ดั๊นยังนึกว่า.....เมีย จขกท. มาเอง .... จากคุณ : เจ๊ เชพบ๊ะ - [ 15 ธ.ค. 51 15:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถูกใจให้ give เหมือนกันค่ะ จากคุณ : หมวย (potmetha) - [ 15 ธ.ค. 51 15:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขึ้นทู้แนะนำ ยังงง ๆ จั่วหัวแบบนี้มันเกี่ยวกับห้องชายคาตรงไหนฟระ!! พอไปอ่าน link ที่มาแปะก่อนแล้วตามด้วยทู้ซาร่า  แหม๋ม ๆ ของขึ้น  เห็นด้วย กับ ซ่าร่า แจก Give เต็มสตรีมเลย   ตอบคุณสามีทู้โน้น  ตอบมันทู้นี่แหละ คุณสามีทู้โน้นคะ  อิฉั๊นเข้าใจค่ะคุณ ว่าเมื่อไหร่ที่รายได้ หามาได้แค่ทางเดียว มันจะตรึงตัวไปหมด รายรับ รายจ่าย ไม่ต้องถามถึงเงินเก็บ ยิ่งมีลูกเข้าไป กี่ปากเข้าไปล่ะนั่น เพราะฉนั้นอะไรที่พอจะลดรายจ่ายได้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะอยากได้ แต่ถ้าคุณเอาส่วนของแม่และน้องมา อิฉั๊นว่ามันไม่แมนนนนน...... ถึงแม่คุณจะเต็มใจสุด ๆ ก็เหอะ    เห็นด้วยกับ คห.หลายคห. ที่ทู้โน้นว่าเอาเงินแม่คุณมาหาร 3 แล้วเอาส่วนของคุณมา ที่หลือก็ผ่อนแบงค์ไป อย่างงี๊ "YES"  อย่าลืมว่าคุณเป็นลูกชายของแม่ เป็นพี่ชายน้องๆ เป็นพ่อลูก เป็นสามี และ ที่สำคัญคุณเป็นผู้ชายยยยย.......   ส่วนน้องจะมาอยู่ด้วยรึเปล่า เราว่า น้องคุณกะเมียคุณเข้ากันได้มากแค่ไหน เดี๋ยวนี้สังคมเราเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น อันนี้น่าเห็นใจ      ตอบ คุณซ่าร่า อิฉั๊นดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณเขียน บทบัญญัติ คำว่า "แม่บ้าน" ออกมาได้เห็นภาพและตรงใจ สุดๆ เป็นการบอกให้สังคมอีกฝากฝั่งที่เค้าพูดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว ได้รับรู้ ว่าไอ้อาชีพนี่ดูเหมือนง่าย สบาย มันคือศูนย์รวมแห่งจักรวาลเล็ก ๆ ในครอบครัวคุณจริง ๆ      เหนื่อย.....ไม่เคยพิมพ์อะไรยืดยาวขนาดนี้จริง ๆ พับเผื่อย... จากคุณ : หนูดาหลานยายเหงี่ยม - [ 15 ธ.ค. 51 15:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ทู้นี้โดยใจมากมาย หลายหัวข้อก็โดน giveหมดอะ สะใจมากมายสำหรับอิฉันตรงใจ ครบถ้วน ใช่ๆๆๆๆ จากคุณ : เบรานิ่ง - [ 15 ธ.ค. 51 16:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมก็ให้เมียเป็นแม่บ้านเหมือนกัน ทำงานเย็บผ้าเล็กๆน้อยๆ ได้เดือนละ3-5พัน เคยเงินช็อต แฟนก็บอกเนี่ยมีอยู่หมื่นนึง เงินเก็บ ผมล่ะซึ้งเลย เงินเดือนผมก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง แต่ทุกอย่างผมจ่ายให้หมดนะ แต่คนภายนอกก็ชอบถามว่าแฟนทำอะไร ทำไมไม่ไปหางานทำ ถามบ่อยจนเบื่อมาก อยากจะบอกว่ากูจะให้มันเป็นแม่บ้านโว้ย กูขี้เกียจซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน แต่ห้องน้ำผมล้างเองนะ แบบล้างสะอาดกว่าแฟนอะ เมียผมก็เซ็งเหมือนกัันที่มีแต่คนถาม ผมก็เซ็งที่ต้องตอบ เป็นแม่บ้านนี้มันผิดตรงไหนวะ กูไม่ได้ไปขอเงินมรึงซะหน่อย บางทีเมียก็ถึงขั้นร้องไห้เลย เวลาเจอถามบ่อยๆ ไปๆมาๆก็จะกลายมาทะเลาะกันเองอีก จากคุณ : Goodty - [ 15 ธ.ค. 51 17:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาบอกเก็บเข้าคลังไปแล้ว5555 จากคุณ : เบรานิ่ง - [ 15 ธ.ค. 51 18:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ซาร่า เป็นแม่บ้าน เจ๋งโพ๊ค ค้า แต่สามีนนนี่เป็นแม่บ้านคะ นนนี่หาเงินเข้าบ้านคนเดียว สามี อายุมาก มีโรคประจำตัว ให้ทำงานบ้านแทน แบบนี้เป็นงัย ละคะ งงกะตัวเองเหมือนกัน ใครเป็นแบบ นนนี่บ้าง จากคุณ : นนนี่ - [ 15 ธ.ค. 51 21:23:15 A:124.121.18.185 X: TicketID:182041 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เริ่มจะกลายเป็น desperate housewife ไปซะแล้ว แห่ะๆ ก็ขอให้ตกลงกันได้ และเรื่องก็ลงเอยด้วยดีละกันครับ จากคุณ : PEDestrain - [ 15 ธ.ค. 51 21:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วยอย่างที่สุดค่ะ เราเป็นแฟนบล็อคคุณซาร่ามาซักพักแล้ว พอมาอ่านกระทู้นี้รู้สึกได้เลยว่าอุดมการณ์เดียวกันค่ะ เราฉุนมากกับการที่เจ้าของกระทู้เก่าเน้นย้ำว่าเมียเค้างานก็ไม่ได้ทำ เงินก็ไม่ได้หา ส่วนตัวเราว่าเมียเจ้าของกระทู้โน้น น่าจะเป็นภรรยาที่ดีนะคะ ดูจากข้อความที่เค้าว่าอย่างอื่นดีหมด และการที่เค้าบอกสามีว่า ถ้าไม่มีปัญญาหาเงินเองก็ไม่ต้องซื้อบ้านค่ะ แสดงว่าเค้าสนับสนุนให้สามีกู้ธนาคาร ไม่ใช่ใช้เงินแม่ค่ะ ถ้าเค้างกสมบัติจริงเค้าคงบอกให้ฮุบเงินแม่มาแล้วค่ะ เพราะจริงถ้าคิดจะฮุบมาเฉยๆไม่ต้องผ่อนก็ได้ ถ้าสามีตายก็ไม่มีหนี้ทิ้งให้เค้าปวดหัว แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 21:55:57 จากคุณ : MyAiChan - [ 15 ธ.ค. 51 21:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่ใช่แม่บ้าน ยังไม่ได้แต่งงาน แต่อยากยกกิ๊ฟให้หมดฟ้าเลยค่ะ อ่านแล้วเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่บ้านขึ้นอีกเป็นกองเลย และที่สำคัญ ต่อไปนี้เวลาเจอแม่บ้าน ก็รู้แล้วว่าจะชมเธอว่าอะไร จากคุณ : แมวบอส - [ 15 ธ.ค. 51 22:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านทั้งสองกระทู้แล้วค่ะ ก็เห็นใจทั้งสองกรณี กรณีแรก เราว่าคุณผู้ชายอาจกำลังอยู่ในสภาวะเครียด แล้วไม่รู้จะพูดกับใคร ซึ่งเดิมอาจจะพูดกับภรรยาได้ แต่ตอนนี้กลายเป็นคู่กรณี จริงๆ เรื่องก็แก้ไขได้ แต่อารมณ์ที่อยากจะพูดกับใครสักคน มันเลยทำให้เกิดกระทู้นั้น..เราคิดแบบนี้นะ กรณีซาร่าห์..^_^ ชีวิตนั้น เหมือนซาร่าห์มานั่งอยู่ที่บ้านเราเลยค่ะ ต่างกันตรงที่   สามีก็ยินดีช่วย ถ้าเขาปลีกตัวจากงานประจำที่ทำมาช่วยได้ และเรารู้ว่า"คุณค่า"ของตัวเอง ไม่ได้หายไปไหน พอๆกับคำว่า"แม่บ้าน" มีคุณค่ามากๆในสายตาของเขาและครอบครัวของเราทั้งคู่ ไม่ว่าจะมีซาร่าห์และจอร์จอีกกี่คู่  ขอให้ผ่านสภาวะแบบนี้ไปให้ได้นะคะ ขอให้ความรักชนะทุกสิ่งและอยู่กับทุกครอบครัว ปล.ขอบคุณซาร่าห์ค่ะ ที่ปลุกชีวิต"แม่บ้าน" จากคุณ : anavrin - [ 16 ธ.ค. 51 00:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านความเห็น 50 แล้วน้ำตาไหลเลย.........ฮือ  ฮือ  ฮือ จากคุณ : noonoon - [ 16 ธ.ค. 51 00:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ ซาร่า เป็นภรรยาที่ดีจริงๆครับ คงต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราจะรู้ว่าหน้าที่ใครก็มีความสำคัญทั้งนั้งไม่ว่าจะหาเงินหาไม่หาเงิน ทุกวันนี้ผมก็เห็นใจและรักภรรยาผมมาก ทุกวันหลังเลิกงานผมต้องรีบกลับมาเลี้ยงลูก (สองคน) ให้เธออยู่เฉยๆอยากทำอะไรก็ทำไป พอตอนเช้าก้อนทำงานก็จัดแจงลูกตื่นเพื่อไปโรงเรียนให้เรียบร้อย ไม่กล้ารบกวนเธอ ทุกวันนี้ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวสบายและมีความสุขครับ อ้อ เสาร์-อาทิตย์ยังต้องไปเรียนโททั้งวัน ปล่อยให้เธอนอนดูลูกอยู่บ้าน ส่งสารเธอเหมือนกันที่ทั้งวันไม่ค่อยได้ออกไปไหน พอผมกลับมาลูกมันเล่นมอมแมมไปหมดเลย ผมเลยต้องรีบทำความสะอาดทั้งลูกและบ้านก่อนเข้านอนเพื่อทำงานในวันรุ่งขึ้นต่อไป ผมเข้าใจครับว่าตอนที่เธอดูลูกคงเหนื่อยมาก ฉะนั้นถ้าผมมีเวลาเมื่อไหร่จะไม่ให้เธอเหนื่อยเลยครับ จริงๆแล้วถ้าเธอพอมีเวลา (ไม่นอนมากเกินไป) ก็แค่อยากให้สอนการบ้านลูกบ้าง ก็เท่านั้นเอง อ้อ วันหนึ่ง เธอบอกว่าชอบหมาอยากเลี้ยง ผมค้านสุดตัวเพราะแค่นี้ก็เหนื่อยมากแล้วแต่สุดท้ายก็ห้ามไม่ได้ ทุกวันนี้เลยต้องเลี้ยงดูเจ้าหมาเพิ่มอีกหนึ่งตัว ทั้งอาบน้ำและให้อาหารตอนเลิกงานแล้ว (ดูท่ามันหิวมากไม่รู้ว่าตอนกลางวันได้กินอะไรหรือเปล่า) เหนื่อยเพิ่มอีกนิดหน่อยแต่ก็ยังสู้เพื่อลูกและภรรยาที่แสนจะน่ารักครับ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 51 09:59:56 จากคุณ : sweety home - [ 16 ธ.ค. 51 09:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ครอบครัวผม เป็นครอบครัวข้าราชการ ... ส่วนใหญ่ภรรยา ก็มักจะไม่มีงานทำ ถ้าไม่ได้เป็นข้าราชการด้วยกัน ... และมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนในบ้าน และเลี้ยงลูก ... น้องสาวผม แต่งงานกับคนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการและตั้งท้อง ก่อนหน้านั้นน้องสาวก็ทำงานที่กรุงเทพกับแฟน พอท้อง ก็แพ้อากาศที่กรุงเทพอย่างรุนแรง ต้องไปอยู่บ้านที่ ตจว. คลอดเสร็จก็พาลูกกลับมาหางานทำ แต่หลานผมก็แพ้อากาศที่กรุงเทพเหมือนกัน อาการเดียวกับที่น้องผมเป็นตอนท้องเค้า ทำให้ต้องกลับ ตจว. อีกครั้ง ทำให้แยกกับสามี ก็มีบ้างที่สามีกลับบ้านบ้าง สุดท้าย น้องก็มีลูก 2 คนเป็นผู้ชาย ซนยังกับลิง ซนมาก ซนจริงๆ ... ตอนเด็กๆ ค่าใช้จ่ายมันยังไม่เยอะ น้องเขยก็ส่งเสียได้ และอีกทางคือผมส่งเสียหลานๆด้วย ... จนเมื่อไม่นาน งานที่น้องเขยทำ(ขับวินรถตู้) เงินมันได้น้อยมากเนื่องจากรัฐบาลมีรถเมล์ฟรี ... ทำให้น้องเขยเครียด และรับภาระการเช่ารถไม่ไหว พ่อผม ก็ได้จากไป รออยุ่บนสวรรค์ และเหลือเงินไว้ให้ลูกๆ ก้อนเล็กๆ ... เลยลงความเห็นว่า จะออกรถตู้ให้น้องเขย เพราะค่าเช่าจะได้ถูกลงเยอะมาก จ่ายแค่ค่าผ่อน ซึ่งไหวแน่นอน ... ผมกำลังจะไปซื้อรถตู้ น้องสาวก็โทรมาบอกว่า น้องเขยมีผู้หญิงคนอื่น ... และความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเข้าขั้นแย่ น้องเขยต่อว่าน้องผมสารพัด ทั้งเรื่องอ้วน เรื่องท้องลาย และที่สำคัญเรื่อง แบมือแบเท้า ขอเงิน ไม่ยอมทำงานช่วยกัน ... ด้วยความที่ครอบครัวผมกับน้องเขยแตกต่างกัน เพราะพวกผมจะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าผู้หญิงไม่ได้ทำงาน แต่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เพราะมันเป็นภาระที่หนักมากๆ แค่ผมอยู่กับหลานไม่กี่ชั่วโมง ผมยังรับมือพวกเค้าไม่ไหวเลย ... แต่ครอบครัวน้องเขยเป็นครอบครัวทำงาน หาเช้ากินค่ำเหมือนครอบครัว ตจว. ทั่วไป ที่เค้าคิดว่า ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน ... สุดท้าย น้องกับน้องเขยก็มีปัญหากันที่เคลียร์กันไม่ได้ทุกวันนี้ เพราะเรื่องปัญหาผู้หญิง พฤติกรรมของน้องเขย และความไม่เข้าใจกันเรื่องเลี้ยงลูก เรื่องการทำงาน ... " อยากให้ทุกท่านเห็นใจคนที่เลี้ยงลูกคนเดียวด้วยครับ ว่ามันหนักมากแค่ไหน เพราะผมเห็นน้องผมเลี้ยงลูกแล้ว เป็นผม ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ ...ลองคิดดูว่าเด็กชาย 2 คนอายุห่างกัน ปีกว่า ...ตอนนี้ 3 ขวบกว่า กับ 5 ขวบ และทั้งสองคน ความซนลิงชิดซ้ายแน่ๆ ...น้องผมรับมือมาได้อย่างไรคนเดียวตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มท้อง " ผู้ชายที่ไม่ได้เลี้ยงลูกอาจจะไม่เข้าใจครับ แค่ปล่อยน้ำเชื้อ ใครก็ทำได้ครับ ... ดังนั้น ถ้าคุณปล่อยน้ำเชื้อใส่เค้าแล้ว ถ้าคุณต้องทำงานคนเดียวก็ยอมรับไปเถอะครับ เพราะภาระความเป็นแม่หนักหนามากครับ ... อ้อ เมื่อแฟนคุณโดนคุณปล่อยน้ำเชื้อใส่แล้ว ...หากแฟนคุณมีร่างกายที่ไม่เหมือนตอนก่อนปล่อย ...อย่ารังเกียจเธอเลยครับ ผู้หญิงอยากสวยทุกคนล่ะครับ แต่ในเมื่อร่างกายมันเปลี่ยนแบบนั้น เค้าก็เครียดหนักเหมือนกันครับ ... ขออนุญาต จขกท. นะครับ ...มาร่วมเรียกร้องสิทธิแม่ครับ ... สงสารน้องเต็มทน จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 16 ธ.ค. 51 10:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เราว่าทัศนคติที่ดีของสามีต่อภรรยาจะแปรผกผันกับระดับความรักที่มีให้เธอค่ะ ถ้ากำลังรักกันหวานเจี๊ยบบ เรื่องแค่นี้คุณจอร์ชไม่เอามาบ่นหรอก แต่นี้อาจจะเริ่มมีเรื่องระหองระแหง ฝ่ายภรรเมียก็เริ่มระแวงว่าจะโดนทิ้งก็อยากจะหาหลักประกัน ฝ่ายสามีก็เริ่มเบื่อเลยยิ่งเห็นข้อเสียของภรรยามากขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : meddy - [ 16 ธ.ค. 51 10:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 73 นานาจิตตัง ทุกเรื่องมักจะมองได้หลายมุม แล้วแต่ว่าจะมองจากมุมไหน ถ้าเอาความจริงๆเน้นๆเลยเนี่ย ไม่มีใครรู้เกินเค้าคน 2 คนหรอกค่ะ พวกเราได้แต่ออกความคิดเห็นจากมุมของพวกเราต่างๆ กันไป ตามจินตนาการ ประสบการณ์และความรู้สึก เท่าที่ฟังดู เจ้าของกระทู้คงกำลัง งงๆ ถ้ากลับเข้ามาอ่านอีกที ว่าทำไม ความเห็น มันเยอะแยะ ไปหมด หรือไม่ก็ ไม่กลับมาอ่านอีกเลย จริงๆ เรื่องของสามี ภรรยา มันก็ต้องมีแบบนี้บ้างละค่ะ ไอ้เรื่อง นินทา ว่าร้ายสามี/ ภรรยานั้น เป็นเรื่องปกติของครอบครัวค่ะ เพียงแต่ว่า เอาไปพูดกับใคร แค่นั้น เอาง่ายๆ ถ้ามีลูก แล้วลูกทำดี แม่ก็จะบอกว่า ดีแล้วลูก สมกับที่เป็นลูกของแม่ แต่ถ้าลูกคนเดิมทำไม่ดี แม่ก็จะบอกว่า นิสัยม่ายดีเหมือนพ่อเลย หุ หุ หุ มองให้เป็นเรื่องง่ายๆ ยอมๆ หยวนๆ กันไป รักกันบ้าง โกรธกันบ้าง เคืองกันบ้าง แต่เราก็ยังอยู่ด้วยกัน ดีกว่าต้องมาโกรธเคืองกันมากมาย อารมณ์เสีย โชว์แต่ด้านร้ายๆให้แก่กัน มันคงไม่ช่วยให้ชีวิตมีความสุขขึ้นหรอกค่ะ จากคุณ : ธาร - [ 16 ธ.ค. 51 11:29:46 A:125.24.201.56 X: TicketID:017529 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านเรื่องคุณเล็บขบ ลงพุงแล้วสงสารน้องสาวคุณมากๆค่ะ ถ้าน้องเขยคุณเอาเรื่องอ้วน ท้องลาย มาเป็นเรื่องหาเหตุมีเมียน้อยก็เลวมากเลย น้องสาวคุณคงอกไหม้ไส้ขม ท้องมันไม่ลายเองหรอกค่ะถ้าไม่มีลูกของเขามาอาศัยนอนซะคนละ9 เดือน เป็นกำลังให้น้องสาวคุณผ่านเรื่องเลวร้ายไปได้นะคะ ส่วนคุณ sweet home อ่านๆดูเราว่าคุณเหนื่อยกว่าภรรยาอีกนะคะนี่ อิอิ จากคุณ : นภชล - [ 16 ธ.ค. 51 11:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คุณนนนี่เจ๋งมากกว่าซาร่าอีกค่ะ แบบนี้สิคะผู้หญิงยุคนี้ แต่อย่าทำให้สามีเครียดนะคะ คิดว่าการที่เขาต้องทำหน้าที่สลับกับคุณนนนี่เขาเองก็คงไม่สบายใจหรอกค่ะ ผู้ชายยังไงก็อยากทำหน้าที่เสาหลักให้สมบูรณ์กันทุกคน หากทำไม่ได้ ก็เหมือนเขาไม่เต็มร้อย นั่นทำให้เขาไม่สบายใจอยู่แล้ว เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 16 ธ.ค. 51 11:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถูกใจให้กิฟ จขกท ค่ะ   ไปอ่านมาแล้วกระทู้นั้น บอกตรงๆนะผู้ชายแบบนั้นนี่จ้างให้ดิฉันก็ไม่เอมาทำสามี (พ่อของลูก)  แฟนเค้าก็บอกอยู่ว่าไม่มีเงินก็ไม่ต้องซื้อ ยังจะมาเน้นอยู่ได้ว่าแฟนหวังสมบัติ ..ตัวมันเองนั่นล่ะ ดูระริกระรี้อยากใช้เงินแม่เงินน้องมันนัก  แถมมีลูกแล้ว ยังไม่ยอมจดทะเบียน แค่รับรองบุตร ..(ถ้า ญ ไม่ได้รวยมากจนไม่อยากจดกับมัน ) เราว่าไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยอ่ะ สงสารเมียเค้ามากเลยค่ะ คิดดู อีตัวนอนให้เอายังได้เงิน นี่ทั้งให้เอาฟรีๆ มีลูกให้เลี้ยงลูกให้ ทำความสะอาดบ้านให้ แต่โห้ดูดิ  พูดซะยังกะเมียมาเกาะมานกิน มาติดหนี้อะไรมันงั้นแหละ  อยากจะบอกว่า คนแบบนี้ มีผูเหญิงหลงผิดมาเอาทำ ผ ก็บุญแล้วนะเฟ้ย เราเองยังไม่ได้แต่งงานหรอกค่ะ แต่แฟนเราเพิ่งซื้อบ้านก็เอาชื่อเราใส่ไปด้วยทั้งๆที่ไม่ได้จ่ายซักสตางค์ บอกแฟนไว้เลยว่าหาคนใช้ให้ชั้นด้วยไม่งั้นไม่แต่ง อยู่บ้านเราดีๆ มีคนขับรถคนรับใช้ จะกินน้ำยังไม่ต้องรินเองเลย ถ้าแต่งไปต้องเป็นคนใช้เองนี่ไม่แต่งดีก่า  ดังนั้น สามีทั้งหลายควรเห็นใจภรรยาที่เสียสละ มาทำงานที่ไม่มีใครอยากมาทำให้ฟรี กันให้มากๆนะ อย่านึกว่าเป็นคนหาเงิน สมัยนี้ ญ ก็หาเงินได้ไม่น้อยกว่า ช หาเลย เพียงแต่ใคร จะเสียสละมากพอที่จะให้ career path หมดหน้าตักกับชีวิตครอบครัว เท่านั้นเอง จากคุณ : cardiogenic - [ 16 ธ.ค. 51 13:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ แหะๆ กลับมาอ่านที่ตัวเองตอบแล้วรู้สึกว่าแรงแฮะ ถ้าใครรุสึกว่าแรงไปก็ไม่ต้องสนใจนะคะ ขอโทษด้วย แต่อ่านเรื่องนั้นแล้ว มานของขึ้นจริงๆค่ะ จากคุณ : cardiogenic - [ 16 ธ.ค. 51 13:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขึ้นกระทู้แนะนำเลยนะคะ อิๆ เวลาเปลี่ยนใจคนก็เปลี่ยนแต่จะไปในทางดีขึ้นหรือเลวลงเท่านั้น เรื่องอย่างนี้บางทีก็พูดยากนะคะ เพื่อนเราส่วนมากก็เป็นแม่บ้าน บางคนน่ารักมากเอาใจใส่ครอบครัวดีทุกอย่าง แต่บางคนเห็นแล้ว รู้สึกสงสารฝ่ายชายเลย  เรื่องทะเลาะกันบางทีประเด็นไม่ได้ อยู่ที่ใครหาเงินหรือไม่ได้หาหรอก แต่เวลาเครียดมากๆเจออีกคนงี่ เง่าใส่บางทีมันก็ระเบิดใส่ได้หมดทุกเรื่องแหล่ะค่ะ  เราคนนอกไม่รู้ ตื้นลึกหนาหรอก ปล.สาวๆท่านใดยังไม่แต่งงานดูไว้สักนิดก็ดีนะคะ อย่าไปตกลงใจ อยู่กินกันก่อนโดยที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำอะไรเป็นการให้เกียรติ แรกๆก็สุขล่ะค่ะ แต่นานวันเข้ามันจะมีแต่คำว่าทุกข์ๆๆๆ  เพราะผู้ ชายบางคนสะกดคำว่ารับผิดชอบไม่ค่อยเป็น ชีวิตจริงไม่เหมือน นิยายที่แบบว่าได้อยู่ด้วยกันก็จบแบบมีความสุข ที่จริงแล้วการแต่ง งานมันเพิ่งจะเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล - [ 16 ธ.ค. 51 14:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ก็เห็นด้วยนะคะ แต่ในมุมมองของเรา เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองอ่ะ เราไม่เคยคิดว่าจะเอาสมบัติของเค้ามาเป็นของเรา จะซื้อบ้าน ซื้อรถเหรอ ก็เอาซิ แต่เราไม่ผ่อนนะ แล้วก็ไม่ต้องใส่ชื่อเราด้วย แล้วถ้าเราจะซื้อเราจัดการเอง จากคุณ : สุดท้ายด้วยรัก - [ 16 ธ.ค. 51 15:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โอ๊ย ... โดนใจ ให้ไปเลย 3 กิ๊ฟ ... จากคุณ : chocoatt - [ 16 ธ.ค. 51 17:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เราอ่านกระทู้นั้น แต่แรกแล้ว แต่ไม่เม้นท์อะ ถูกใจกระทู้นี้มาก เราก็แม่บ้านเหมือนกัน แต่ไม่มีลูก (กำลังพยายาม) เห็นใจแม่บ้านทุก ๆ คนเลยค่ะ เราจำเป็นต้องลาออกจากงาน เพราะว่าสามีทำงานประเทศอื่น เราไม่อยากแยกกันอยู่นาน ๆ เพราะฉะนั้นหน้าที่หลักคือดูแลสามี บางครั้งเวลาจำเป็นต้องใช้เงินแล้วต้องขอเค้า รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าเลยค่ะ อยากกลับไปทำงานเหมือนกัน แต่เป็นครอบครัวแล้ว แยกกันอยู่มันก็ไม่ดีนะคะ จากคุณ : just another day - [ 16 ธ.ค. 51 19:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อ่านกระทู้นู้นแล้วปรี๊ดแตกค่ะ ไม่ชอบผู้ชาย...ขอเงินแม่ใช้ ไม่ชอบผู้ชาย...พูดกับภรรยาว่า "เมิง" เฮ้อ... ถ้าใครไม่เคยเป็นแม่บ้าน ไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ว่าเหนื่อยขนาดไหน การที่ผู้หญิงคนนึง มาอยู่กับผู้ชายคนนึง ลาออกจากงาน อยู่บ้านเลี้ยงลูก ต้องทิ้งสังคมที่เคยมี คุณผู้ชายรู้มั๊ยคะ ว่าคุณ "เ อ า ชี วิ ต" ของเค้ามาทั้งชีวิตนะ จากคุณ : pammap - [ 16 ธ.ค. 51 22:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 83 โอ๊ะ.... แอบได้กลิ่นอายชานเรือนนะคะ อิอิ ขอแซวหน่อย.... เขียนได้โดนใจคุณแม่บ้าน สาวๆ สวยๆ อย่างดิฉันมากเลยค่า (คนที่รู้จักดิฉัน กรุณาปิดประตูเบาๆ ไปแหวะกันนอกห้องนะคะ) อ่านกระทู้คุณผู้ชายมาหลายวัน เคยตอบไปหนนึงว่าถ้าจะเลือกซื้อแบบนี้ให้ใส่ชื่อลูกได้มั้ย แต่หาความเห็นตัวเองไม่เจอซะงั้น.... อ่านไปๆ รู้สึกถึงน้ำเสียงไม่ค่อยปรองดองของเขากันเลยค่ะ บ้างก็ว่า คุยไปด่าไป ทำไมงกนัก ... อย่างโน้นอย่างนี้ ละเหี่ยใจจริงๆ หลังๆเลยไม่ค่อยเข้าไปอ่านแล้ว เหมือนเขาปักธงอะไรไว้ในใจ.... กระทู้นี้กิฟต์กระจายค่า.... จากคุณ : ชลันธ์ - [ 16 ธ.ค. 51 22:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 84 โดนจังคะ ... กระทู้นี้..... จากคุณ : ปณยา - [ 17 ธ.ค. 51 12:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เหอะๆ เห็นด้วยกับคุณ pammap มากมายเลยค่ะ การที่ผู้หญิงคนนึง มาอยู่กับผู้ชายคนนึง ต้องลาออกจากงาน ต้องทิ้งสังคมที่เคยมี มาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำกับข้าวให้คุณจนหัวฟูหน้ามัน แล้วคุณยังมาคิดแบบนี้อีก เศร้าใจแทนจังเลยค่ะ จากคุณ : pinkypinky-pinkypinky - [ 17 ธ.ค. 51 13:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ถูกใจทู้นี้จัง ใจเค้าใจเรานะค่ะคุณจอร์ช ในทางกลับกันถ้าคุณแม่ของผู้หญิงออกเงินให้แล้วมีข้อแม้ว่าต้องเอาชื่อน้องชายร่วมโอนด้วย  ดิฉันคิดว่าจอร์ชคงจะไม่ยอมเป็นแน่แท้ จากคุณ : Nokori - [ 17 ธ.ค. 51 14:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ถึง..ซาร่า   หนูดา อยากให้จอร์ช มาตอบทู้นี้จัง!! จากคุณ : หนูดาหลานยายเหงี่ยม - [ 17 ธ.ค. 51 16:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 88 จอร์จกระทู้โน้น คงหาทางออกได้แล้วมั้งคะ เห็นหายไปจากกระทู้เลย หรือไม่อีกทีภรรยาเค้าคงมาอ่านแล้วฉะกันเละไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนซาร่าเอง หลังจากยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้ว ตอนนี้งานเข้า...บ้าน บาน บ๊าน บาน เฮ้อ.... จากคุณ : นภชล - [ 17 ธ.ค. 51 20:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โดนใจค่ะ... ผู้ชายบางคนมีเมีย  รักเมีย  แต่เค้าก็ต้องรักแม่และน้องของเค้าด้วย  อันนี้เราไม่เถียง เราเองก็เคยผ่านเรื่องที่เลวร้ายมาเช่นกัน (กับอดีตแฟน) ต่อหน้า(อดีต)แฟน  แม่และน้องของเค้าจะทำเป็นว่ารักเรา  ดีกับเรา  แต่พอลับหลังก็เชิดใส่เรา เวลาคุยโทรศัพท์กับ(อดีต)แฟนเรา  ก็ถามถึงเรา  บอกเป็นห่วงอย่างโน้น  อย่างนี้   แต่....พอถึงวันนึงที่เค้าคิดว่าอดีตแฟนคงจะลงหลักปักฐานกับเราแน่แล้ว   คุณแม่(ตัวร้าย)ก็ยุให้ลูกชายเลิกกะเราซะนี่   นังน้องตัวดีก็ไปเที่ยวพูดกับญาติๆว่า   ถ้าเป็นมัน มันเชื่อแม่แล้ว  แค่ผู้หญิงคนเดียว..(E....เวลลลล..เป็นเมิงบ้างสิ) แต่ ณ วันนั้น  เรายังไม่ได้เลิกกัน   เพราะบังเอิญ (อดีต)แฟนได้รู้ถึงความเลวร้ายที่นังน้องสาวทำกับเรามาตลอด 5 ปีกว่าที่เราคบกัน   และรู้ถึงความอดทนที่เรามีต่อน้องของเค้าว่ามากแค่ไหน แต่ต่อมาเราก็ต้องเลิกกันจนได้!!!  เพราะเราทนมารยาของแม่เค้าไม่ไหว!!!!@###$$!!??## ที่เล่ามาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า  เราคิดว่าเราเห็นใจ แฟนของ จขกท.โน้น แต่เราก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรไว้ใน กท. โน้น  (เพราะเท่าที่อ่านดู คุณแม่ของเค้าก็มีน้ำใจดี) แต่ความรู้สึกของผู้หญิงที่ต้องการความมั่นคง  และไม่อยากมีปัญหาในอนาคต   เราก็เข้าใจ..... เลยเลือกที่จะมาแสดงความคิดในเห็นใน กท. ของคุณดีกว่า ขอบอกว่าคุณเขียนได้โดนใจมากๆ....GIVE 3 ไปเลยค่ะ จากคุณ : La_Or1007 - [ 17 ธ.ค. 51 23:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 90 จอร์จรักแม่หลาย ๆ แต่ไม่ได้หมายความซาร่าจะรักแม่มาก ๆ ด้วยนี่ (หว่า) ไม่ได้ว่าซ่าร่าไม่ดีนะ เพราะเราแต่งงานแล้วเข้าใจว่าการอยู่บ้านคนอื่น ที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ถึงเค้าดีกับเรา ก็ยังรู้สึกอยู่ได้บ้างว่าไม่ส่วนตัว ถ้าได้มีบ้าน ก็ต้องอยากจะมีบ้านที่เป็นของเราสองคนอยู่แล้ว เอาชื่อคนอื่นมาใส่ (พี่น้องตรูก็ไม่ใช่) มันก็ตะขิดตะขวง ขนาดแฟนเรา แม่เราบอกว่าจะออกค่าโอนให้แล้วให้เป็นชื่อเราคนเดียว (แม่เดี๊ยนก็เกินไป หน่อย แหะๆ) แฟนเรายังไม่พอใจเลย เราแต่งงานมาทำงานกับสามี + เป็นแม่บ้านด้วย ยังไม่มีลูก ก็ยังรู้สึกอีกว่าเราไม่ได้ทำอะไรได้เต็มประสิทธิภาพที่มี จะใช้เงินก็บอกเค้า มันก็ไงไม่รู้อ่ะ แล้วตาจอร์จนั่น คำพูดที่ใช้กับเมีย ก็แสนจะให้เกียรติซะจริง ๆ เมิงบ้าง โดดถีบบ้าง น่าพิจารณาตัวเองนะ ว่าเมียเอามาเป็นสามีนี่ก็ประเสริฐแล้ว แล้วจะซื้อบ้านทั้งที่ ต้องมาเอาเงินแม่เงินน้องมาทำมาย ไม่มีก็ยังไม่ต้องซื้อ เศรษฐกิจพอเพียงหน่อยดิ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 18 ธ.ค. 51 10:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ........                         เห็นใจ  คุณเล็บขบ ลงพุง ค่ะ                                             นายน้องเขยนั่น...น่าตบจริงๆ ... จากคุณ : เจ๊ เชพบ๊ะ - [ 18 ธ.ค. 51 14:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ช๊อบ ชอบ อ่านที่คุณซาร่าเขียน... ลึกซึ้ง...กินใจ... ตามมาตั้งแต่ blog บ้าน ... บาน บ๊าน บาน ^^ ที่กระทู้นู้นก็แนะนำไป...ว่าหากเป็นตัวเองจะใส่เป็นชื่อแม่... เงินแม่ บ้านก็ต้องเป็นของแม่จิ... แต่จริงๆ แล้วคนเรานานาจิตตัง ... ต่างคนต่างความคิด... เค้าถึงว่า... "ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า" ตัวเองคิดว่า ...เจ้าของกระทู้นู้น ก็คงคิดไม่ตก เลยอยากมาหาไอเดียเพื่อไปแก้ปัญหา... แต่ว่า...สุดท้ายวิธีแก้ปัญหาก็จะโน้มเอียงไปทางความคิดตัวเองอยู่ดี... การเอาปัญหามา post ก็จะเล่าบนพื้นฐานความคิดตัวเอง... ดังนั้นก็ดาบสองคมดีๆ นี่เอง... สุดท้ายหวังว่าคุณภรรยาเค้าจะไม่มาอ่านเจอ... สุดท้าย... บอกได้แต่ว่า... ปลื้มคุณซาร่าจัง ^^ ลูกสาวคุณซาร่า... สวย น่ารักมากกกกกกก จากคุณ : phefii (phefi) - [ 18 ธ.ค. 51 15:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มาเพิ่มเติม... คุณแฟนบอกว่า "กระทู้เมื่อวาน (ของคุณ Stimpack) กะวันนี้ (ของคุณซาร่า) ทำให้มุมมองต่อชีวิตคู่ มันกว้างขึ้น ดีที่ได้อ่าน" อีกมุมนึงก็ ... ทำให้เห็นว่าแฟนเราน่ารักจัง ^.^ จากคุณ : phefii (phefi) - [ 18 ธ.ค. 51 15:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สรุปซวยทั้งคู่ ถ้าไม่มีเด็ก คงไปทางใครทางมันได้ สบายๆ เหอๆ จากคุณ : NightWolf - [ 18 ธ.ค. 51 19:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 95 อ่าน กท โน้นแล้ว แต่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะยังไม่มีครอบครัวค่ะ เราเองก็เพิ่งซื้อบ้านกับแฟน เงินน่ะลงด้วย แต่ไม่ได้ใส่ชื่อเรา เพราะตอนนี้ยังเรียนอยู่ (อายุเกินแล้วนะค๊า ไม่ต้องตกใจ บรรลุนิติภาวะมานานหลายปีมากกกแล้วค่ะ) ทีนี้แม่เค้าจะให้พี่สาวเค้าเข้ามากู้ร่วมเพื่อจะได้วงเงินที่สูงขึ้น และพี่สาวเค้าจะได้มีชื่ออยู่ในบ้าน แต่เอาแค่ชื่อลงนะคะ เงินไม่ลง อิชั้นก็หัวเด็ดตีนขาดว่า ถ้าทำอย่างนั้น อิชั้นจะไม่เอามันทั้งบ้าน ทั้งแฟนนี่แหละ เลยต้องหาเงินมาโปะส่วนต่าง  อย่างนี้จะจัดว่างกไหมคะ แล้วจัดว่าใจแคบและใจร้ายไหม       อ่านๆดู กท โน้นแล้ว ทำให้สัญญากับตัวเองได้อย่างนึงว่า ชีวิตนี้นอกจากพ่อแม่จะไม่ให้ใคร มาพูดได้ว่าชั้นเลี้ยงเธอนะ เพราะมันเป็นการดูถูกเรามากกกกกกก จากคุณ : ราตริมณิ - [ 19 ธ.ค. 51 04:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่ร้าย ไม่งกค่ะ คุณราตริมณิ คุณลงเงินด้วย แต่ไม่ได้ใส่ชื่อก็ถือว่าเสี่ยง และเชื่อใจมากแล้ว ส่วนพี่สาวที่มากู้ร่วมเพื่อให้ได้วงเงินกู้สูงขึ้นนี่ก็ถือว่าเค้าเชื่อถือเครดิตแฟนคุณเนอะ เพราะสามีเราเคยต้องไปกูร่วมกับพี่สะใภ้ แล้วตอนนี้พี่เขาปล่อยทิ้ง สามีเราเน่าไปเลยค่ะ ตอนนั้นยังไม่แต่งงานกัน ยังไม่รู้จักกันด้วยแหละ ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะควักเงินจ่ายหนี้ให้ ก็กระไร จะทิ้งให้หนี้เน่า เราก็ซวยไปด้วย ไม่รู้ทำไงเหมือนกันค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 19 ธ.ค. 51 11:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ซาร่าซังเขียนสนุกมากๆ จากคุณ : vigor - [ 19 ธ.ค. 51 14:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ภรรยาของจขกท.โน้นเขาก็บอกไว้แล้วนี่ว่า ถ้ามีชื่อแม่หรือน้องเขาไม่เอา เพราะงั้นก็ไม่ต้องซื้อ เช่าอยู่ตบไป.......จบ แต่ไปหาบ้านเช่าที่มีห้องเป็นสัดส่วนหน่อย นอนรวมกันมันก็เกินไป หรือหาห้องเช่าใหม่(ที่อยู่ไม่ไกลกัน)ให้น้อง เพราะดูท่าแล้วภรรยาไม่อยากให้น้องอยู่ด้วย ไม่ว่าน้องคุณจะช่วยออกค่าเช่าหรือช่วยทำงานบ้าน ก็ถ้าคนมันไม่ชอบ มันก็ไม่ชอบหน่ะ ไม่น้องจะแสนดีแค่ใหนก็เถอะ รู้ว่าห่วงน้อง แต่เขาโตแล้ว หาที่อยู่ใกล้ๆกันก็ยังแวะไปมาหาสู่กันได้ เรื่องเงินไม่เห็นด้วยที่จะเอาเงินแม่ ถึงจะบอกว่าเสียดายดอก ที่ต้องให้กับแบงค์ก็เถอะ ปัญหายุ่งยากตามมาทีหลังแน่รับรอง น้องโตแล้ว ทำงานแล้ว รู้ว่าห่วงน้อง แต่ จากคุณ : varada - [ 19 ธ.ค. 51 18:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณคะ เป็นกำลังใจให้คุณซาร่าด้วยคะ จากคุณ : นนนี่ - [ 19 ธ.ค. 51 23:02:55 A:124.121.20.69 X: TicketID:182041 ]

ความคิดเห็นที่ 100 บอก จขกท คำเดียว คุณ "โครตเยี่ยม" เลยค่ะ โดนใจมาก จากคุณ : ppj7777 - [ 20 ธ.ค. 51 01:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 101 กระทู้นี้ สาวๆ ตรึม (แต่ละคนประสบการณ์ชีวิตสูงๆ ทั้งนั้น) แวะมาให้กำลังใจสาวๆ ครับ ผมก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง ก็เลยเข้าใจดี ครับ ............................................................................................ จากคุณ : noom (noom_super) - [ 20 ธ.ค. 51 17:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เขียนได้โดนใจมากๆ จากคุณ : Lilac - [ 20 ธ.ค. 51 21:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ตามอ่านมาทั้งสามกระทู้แล้วครับ "ผมรักแม่ครับ" d^-^b จากคุณ : EdgeMaNizTa - [ 21 ธ.ค. 51 16:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านกระทู้นี้แล้วคิดถึงพี่สาวคนโต  สงสารที่ต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว  ทั้งที่เขาเป็นคนทำงานเก่ง ใครมีภรรยาแบบนี้  ก็น่าจะเห็นใจภรรยาให้มาก  ไม่มีใครอยากมาขอเงินใครใช้หรอก จากคุณ : jedi-jaidee - [ 21 ธ.ค. 51 21:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ^ ^ ^ ^ ใช่ค่ะ ไม่มีใครอยากขอเงินใครใช้ ทุกคนอยากยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเองทั้งนั้น เป็นกำลังใจให้แม่บ้านผู้เสียสละเพื่อครอบครัวค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 22 ธ.ค. 51 08:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อ่านแล้วเข้าใจซาร่ามากค่ะ นั่นก็แม่ นี่ก็เมีย จากคุณ : ปริศนาไขกระจ่างแล้ว - [ 22 ธ.ค. 51 16:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เราชอบกระทู้นี้มากๆเลย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 23 ธ.ค. 51 09:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ดิฉันอ่านมาตั้งแต่วันแรกนะคะ แต่พอดีไม่กล้าออกความเห็น (ยังไม่เคยเป็นทั้งเมีย และแม่) อ่านทู้นั้น .. คือว่าก็อ่านแบบเอาความรู้ค่ะ(เผื่อมีโอกาสได้เป็นเมียหรือแม่ ;p) อ่านไปเรื่อยๆ ถึงได้แอบปรี๊ส แม้เราจะยังไม่เคยเป็น"เมีย"และ"แม่" แต่เราในฐานะ"คนคนนึงที่มีหัวใจ" ไม่ใช่แค่ในฐานะ"ผู้หญิง"คนนึงนะคะ รู้สึกเสียใจแทนภรรยาเจ้าของกระทู้นั้นมากๆ เพราะหลังๆเหมือนเป็นการใส่อารมณ์ว่าภรรยาตัวเอง เริ่มเห็นว่ามีคนเข้าข้างเยอะขึ้น ทีนี้ซัดต่อเลย จริงๆอย่าง คห ๕๐ ค่ะ คุณไม่ได้ให้เกียรติภรรยาคุณเลย ป.ล.ดิฉันอ่านกระทู้นี้แล้วขอบอกว่าอย่างใจดิฉันเลย เลื่อนอ่านจนจบรู้ว่าใครโพสเลยอุ๊ย .. (ตอนแรกแอบคิดว่าเป็นภรรยาเค้าด้วย เพราะในนั้นมี คห นึงของ จขกทนั้น บอกว่ากลัวเมียมาอ่าน อ่านแล้วยังแบบ งานเข้าละ จขกทนั้น) สวัสดี จขกท นะคะ ไม่ได้ไปเยี่ยมบล็อกซะนาน บ้านไปถึงไหนละน๊อ :] จากคุณ : CupidVoiZe - [ 23 ธ.ค. 51 10:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 109 คิดเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ตัวเราเองทำงานก็เงินเดือนเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ ถ้าไม่มีภาระที่บ้าน (เลี้ยงพ่อแม่ญาิติพี่น้อง) ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีแฟน เพราะผู้ชายใจกว้างเดี๋ยวนี้ หายากเหลือเกิน ถ้าไม่ได้ดีจริงๆ ก็ไม่รู้จะแต่งให้ปวดหัวไปทำไม เลี้ยงตัวเองไปวันๆ ดีกว่า จะกินจะใช้อะไรก็ไม่มีใครว่า เพราะชั้นหาได้เองไม่ต้องง้อเงินคนอื่น แต่งไปแล้วให้อยู่บ้าน เราคนนึงแหล่ะที่คิดว่า ไม่ทำแน่ๆ ขอเงินคนอื่นใช้ไม่เป็น   ถ้าความจำเป็นบังคับแบบคุณซาร่าละก็ .. โห.. เครียดแน่ๆ ค่ะ เครียดมากๆ เพราะเห็นตัวอย่างจากน้องสาว ที่รู้จักกันนี่แหล่ะ ไม่ได้ทำงาน สามีดันมีเมียน้อยอีก คราวนี้หมดทางออกเลย จะเลิกก็เลิกไม่ได้   คุณผู้ชายที่ไม่เคยคิดให้ละเอียดลึกซึ้ง ช่วยกลับไปพิจารณาถึงความดีความชอบของเมียตัวเองที่ผ่านๆ มาหน่อยนะ จากคุณ : amuro4ever - [ 23 ธ.ค. 51 15:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อ่านจบ 2 กระทู้  ยิ่งแน่ใจ  ชาตินี้ไม่มีทางลาออกมาทำงานแม่บ้านแน่  กลัวสามีเป็นเหมือน จขกท. นู่น   ขนาดสามีเราเคยขอร้องให้ออมาดูธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง   เรายังไม่เอาเลยค่ะ  ชอบชีวิตการทำงาน  กลัวใครมาพูดได้ว่า  "ทำงานคนเดียว  เมียไม่เคยช่วยผ่อนภาระ ....เมียงก" ขอบคุณ   คุณนภชล จริงๆ  อ่านแล้ว น้ำตาคลอเลย  เลี้ยงลูกลำบากโคตรๆ จริงๆ เลยค่ะ จากคุณ : mawantha - [ 23 ธ.ค. 51 16:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เลี้ยงลูกลำบากแต่ก็มีความสุขไม่ใช่เหรอคะ... แต่ ช. หาเงิน เครียดนอกบ้าน เค้าจะเอาความสุขจากตรงนั้นมาได้ยังไง นอกจากกลับบ้านมา มาเอาความรัก ความสุขจากที่บ้าน เรื่องมันคนละมุมจริงๆ ถึงได้ว่า "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" นี่มันใช้ได้ดีสุดๆ จากคุณ : @KiSsy - [ 23 ธ.ค. 51 19:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 112 โครตรักแฟนเลย ToT จากคุณ : มิ่งกลิ้ง - [ 23 ธ.ค. 51 23:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เอ่อ.. คนละประเด็นกันหรือเปล่าค่ะ กระทู้ก่อนหน้านั้นมันคือเรื่องสมบัติทีคุณภรรยาจะเอาแค่ชื่อตัวเองกะสามีเป็นเจ้าของบ้าน แต่เงินแม่+น้องสาว แต่ประเด็นของกระทู้นี้คือ คุณแม่บ้านก็มีหัวใจ ซึ่งกระทู้ก่อนหน้าเค้าไม่ได้ตั้งใจไปว่าคุณแม่บ้านว่าวันๆเอาแต่ว่างงานไม่ทำอะไรนะคะ เค้าพูดถึงประเด็นสมบัติ จากคุณ : punimka (punimka) - [ 24 ธ.ค. 51 09:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เราเพิ่งเข้ามา ช้าไปป่ะเนี่ย ถูกใจมากๆเลย โหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : แมวมองจ้องจะกินหนู - [ 24 ธ.ค. 51 11:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 กระทู้ที่แล้ว ไม่มีความเห็น แต่กระทู้นี้นี่มันความในใจของแม่บ้านทุกคนเลยอ่ะ รักสามีเพิ่มขึ้นอีก ล้านเท่า เพราะเค้าพูดกับคนอื่น ๆ เสมอว่าเราเป็นแม่ เป็นเมียที่ดี เค้าเลือกไม่ผิดเลย   เราว่าถ้าจะอยู่แบบครอบครัวที่มีความสุขคือ พอใจและรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง และให้เกียรติหน้าที่ของคนอื่นด้วย อย่าดูถูกกันว่างานเธอสบาย งานฉันลำบ่าก ทุกอย่างที่ช่วยกันทำก็เพื่อครอบครัวทั้งนั้น จากคุณ : Purple76 - [ 24 ธ.ค. 51 11:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ไม่มีกิ๊ฟจะให้แล้วล่ะ เพิ่งเข้าไปต่อว่ากระทู้โน้นก่อนมาอ่านกระทู้นี้ อ่านแล้วถูกใจ คุณพูดถึงสิ่งที่ผู้ชายบางคน(เน้นว่า "บางคน")ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี และอวดตัวว่าเป็นเสาหลักของบ้านมองข้ามได้อย่างเห็นภาพ เรื่องของคู่สามี ภรรยานอกจากความรัก ก็ต้องมีความเข้าใจกันให้มาก อย่าถือทิฐิ เปิดใจคุยกัน รับฟังเหตุและผลของกันและกัน ตอนมีความสุขxxx ก็ทำกันอยู่ 2 คน แต่พอมีปัญหาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอามาโพทนาด้วยอ่ะ เป็นผู้ชายที่ไม่แมนเอาซะเลย ..เน๊อะ จากคุณ : iRiSyAuS - [ 24 ธ.ค. 51 13:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อ่านตอนต้นๆ ก็ไม่อินเท่าไร พออ่านๆไป น้ำตาก็ไหล เพราะมันเป็นความจริงที่โลกควรรับรู้ และเห็นคุณค่าของผู้หญิงที่ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ตอนนี้อายุเกือบ 50 แล้ว กลับมาทำงานตอนอายุ 37 ตอนนี้ลูกชายอายุ 15 แล้วจำทุกอย่างช่วงชีวิตที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกได้ดี ถ้าชีวิตตายได้ ร้อยครั้ง ก็ให้ลูกทั้งร้อยชีวิตนั่นแหละ ไม่มีวันหยุด ตื่นตี4 ทุกวัน ต้มขวดนม ซักผ้าอ้อม คั้นน้ำส้ม สามีพูดใส่หน้าว่าแค่เลี้ยงลูกจะไปยากอะไร คนขายกล้วยแขก ยังเลี้ยงลูกไป ขายกล้วยแขกไปได้เลย ว่าแล้วพี่แกก็ออกจากบ้านไปตีเทนนิสตั้งบ่าย ถึงเที่ยงคืน ทำงานครึ่งวันเสร็จก็ relax แต่เราเป็นแม่ ไม่คิดจะทิ้งลูกแม้แต่ นาทีออกไปไหน ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูก จนกระทั่งต้องกลับไปหางานทำเนื่องจากปัญหายอดฮิตของโลกกลมๆใบนี้ สามีมีเมียน้อย จำได้ว่าเลี้ยงลูกไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีโบนัส ฉะนั้นพอเริ่มต้นทำงานใหม่มีแต่ ...อยกับรอยยิ้ม มีแต่ตัวจริงๆ แถมถูกสบประมาทจากอดีตสามีว่า ไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิต ไอ้มนุษย์เงินเดือน ตั้งตัวไม่ได้ (ก็ไม่ได้ทำงาน ลาออกมาเลี้ยงลูก อย่าว่าแต่ตั้งตัวเลย ต้องหางานแบบฉุกละหุกจะได้ไม่อดตาย) แต่ขอบคุณพ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสียดิฉันให้มีความรู้ได้ปริญญา เอาไปสมัครงานใหม่ตอนถูกผัวทิ้ง แต่ดิฉันมองโลกในแง่ดีเสมอ ผู้ชายไม่ได้เลวเหมือนกันทุกคน ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เราคงทำบุญมาน้อย ชาตินี้ขอทำความดีเยอะๆ เพื่อชีวิตที่ดีกว่านี้ในอนาคตหรือชาติหน้า ขอเป็นกำลังใจให้กับคนเป็นแม่ทุกคน ไม่ว่าลูกเราจะหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อย่างไร หรือสวยหล่ออย่างดารา คนเป็นแม่เห็นลูกเป็นแก้วตาดวงใจ ที่น่ารักสุดๆในโลกเลย ใครที่มีลูกชาย ก็ควรอบรมสั่งสอนลูกชายให้เห็นคุณค่าของการแม่ ของการเลี้ยงลูก ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้เป็นกรรมการหรือประธานบริษัทใดๆ หรอกนะ มันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ทุ่มเทแบบไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่ขอเงินเดือน ลืมโบนัส ลืมวันหยุด ไม่มีพักร้อน ตอนนี้ดิฉันตั้งตัวได้แล้ว แต่อดีตสามีก็ยังว่ากระจอก ตอนตกอับกลับมาทำงานเงินเดือนแค่หมื่นเจ็ด ตอนนี้เกือบแปดหมื่นแล้ว กระจอกก็กระจอก รอคนที่เห็นเราเป็นหงส์ คงต้องมีสักคนเถอะน่า ถ้าไม่ตายซะก่อน จากคุณ : ไลลา - [ 24 ธ.ค. 51 16:25:59 A:199.230.163.22 X: TicketID:198772 ]

ความคิดเห็นที่ 118 กระทู้โดนใจเอากิ๊ฟท์ไปเต็ม ๆ จากคุณ : ibisy131 - [ 24 ธ.ค. 51 16:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เข้ามาอ่านอีกรอบ เห็นใจคุณ ไลลา  จังค่ะ แม่ให้ลูกได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ทุ่มเทแค่ไหนก็ทำได้ แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี และเป็นพ่อ ก็ไม่ใช่สักแต่ว่าทำลูก แต่น่าจะช่วยกันเลี้ยงด้วยนะ แม่เราบอกเลยว่าถ้ามีลูกแล้วต้องให้สามีช่วยกันเลี้ยง ให้ช่วยให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อม เช็ดอึ อย่าถือว่าเป็นผู้ชายแล้วบอกว่างานเลี้ยงลูกไม่ใช่งานของตัวเอง เพราะมันก็เป็นความผูกพันระหว่างพ่อลูกอย่างนึงนะ พ่อเราช่วยแม่เลี้ยงเรามา เรายังจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ พ่ออาบน้ำให้เรา ตื่นเช้ามาไปส่งเราที่โรงเรียน พอโตขึ้นมา พ่อจะทำอะไรก็เกรงใจลูก นึกถึงใจลูก เพราะก็เลี้ยงดูมาเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้คุณไลลานะคะ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 24 ธ.ค. 51 18:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เห็นใจคุณไลลาสุดๆเลยค่ะ คุณยังโชคดีนะคะที่ยังมีทางเดินที่ดีๆให้เดิน เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ลูกของพี่เป็นคนดี รักแม่ กตัญญูรู้คุณแม่ นำแต่ความช่นใจมาให้นะคะ จากคุณ : นภชล - [ 24 ธ.ค. 51 18:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 121 จะแจก Give ให้กำลังใจ ไลลา ไม่เห็นมีกล่องรับ..... เป็นกำลังใจให้นะคะ....ไม่รู้ว่าจะพิมพ์อะไรที่มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่านี้....มันจุกอยู่ที่คอ..... จากคุณ : หนูดาหลานยายเหงี่ยม - [ 25 ธ.ค. 51 09:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 122 กระทู้โดนใจอย่างแรง อยากให้สามีได้อ่านได้ฟัง อยากให้ใจคุณไลลาด้วยอ่ะค่ะ ผู้ชายก็ไม่ได้มีเลวซะทุกคน คนดีคนเลวมีทุกซอกทุกมุมของโลกเบี้ยวๆใบนี้แหละค่ะ เราก็เลี้ยงลูก คนเดียวไม่มีแม่บ้านไม่มีญาติพ่อแม่พี่น้องคอยช่วยเหลือเลยจากบ้านมาต่างบ้านต่างเมือง ต่างภาษายิ่งหนักหนา ทุกอย่างมันยุ่งยากเป็นทวีคูณ แต่.เราต้องทำให้ได้ เพราะเรารักลูกรักสามี จากคุณ : แม่สามัญประจำบ้าน (นิงัย) - [ 25 ธ.ค. 51 14:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เห็นด้วยค่ะ แต่ไม่ตอบแล้วค่ะ เมื่อก่อนอ่านกระทู้ทำนองนี้เป็นต้องลุกขึ้นมานึกคำโต้แย้ง เดี๋ยวนี้เหนื่อยค่ะ อ่านแล้วองค์ลง ของขึ้น คอแข็ง ตาขวาง น้ำลายฟูมปาก ไม่ยุ่งดูจะเป็นการดีกับตัวเองมากกว่ายุ่ง คนสมัยนี้รับอะไรครึ่งๆกลางๆ หากจะยึดธรรมเนียมเก่า หญิงชายแบ่งหน้าที่ เมื่อต้องทำหน้าที่ใดก็ทำให้เต็มที่ หนักเอาเบาสู้ ไม่ให้บกพร่อง ช่วยเหลือกันให้ครอบครัวดำเนินไปได้ ไม่มาจ้องจับผิดกัน  เอาแต่คิดล่วงหน้าไว้ ถ้าเลิกกัน.. ก็ยังไม่เลิกคิดทำไม หากในอนาคตมีเหตุต้องเลิกก็ให้เขาบ้าง เขาทิ้งชีวิตมาเป็นทาสรับใช้คุณนะ หากจะรับธรรมเนียมฝรั่งก็รับให้เต็มร้อย ทำงานทั้งสองฝ่าย ผลัดเวรกันเลี้ยงลูก ผลัดกันนอน เมียล้างจาน ตัวเองเช็ดจาน เมียซักผ้าตัวเองทิ้งขยะ แชร์ทุกเรื่องทำอย่างนี้ไหม นี่จะมาครึ่งๆกลางๆ ไทยนิดฝรั่งหน่อย ผสมผเสเลือกแต่ที่ตัวเองสบาย พวกแม่สามีที่เอาแต่ห่วงลูกของตัวเองรังเกียจสะใภ้ก็น่าเบื่อ เมื่อก่อนนี้ตัวเองก็เป็นสะใภ้ของคุณย่าแหละ ลืมแล้วหรือ นี่อะไร จะมาส่งผ่านความคิดบ้าๆว่าสะใภ้ลงเรือนก็เป็นคนอื่น ได้ลูกสะใภ้มา เท่ากับได้ลูกสาวเพิ่ม คิดอย่างนี้สิ แล้วให้ความเมตตาไป  เป็นผู้ใหญ่อะไรไม่มีพรหมวิหาร4 มะ ว่าแล้ว กระทู้แบบนี้อิชั้นอ่านแล้วอาการกำเริบ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 51 15:16:26 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 51 15:14:25 จากคุณ : anthurium - [ 25 ธ.ค. 51 15:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 124 คนเป็นแม่ ย่อมเข้าใจความรู้สึกดี อาจเขียนออกมาไม่ซึ้งเท่าใจคิด อยากให้ผู้หญิงรุ่นใหม่ สอนลูกชาย ในแนวทางที่ใหม่ๆ ให้เกียรติผู้หญิงเพศแม่ เห็นความสำคัญของงานเลี้ยงลูก ช่วยเหลือภรรยาเลี้ยงดูลูกๆ คิดใหม่ทำใหม่ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี อบอุ่นในครอบครัว สังคมจะดีและแข็งแรงเริ่มต้นจากครอบครัว ดิฉันขอนะค่ะ เราจะไม่กล่าวพาดพิงถึงแม่สามีรุ่นเก่า ที่รักลูกชายห่วงแต่ลูกชาย ตาม คห 123 ยังไงๆท่านก็เป็นแม่และเป็นผู้ใหญ่ ดิฉันเองก็เคยเจออะไรร้ายๆเหมือนในละครจากอดีตแม่สามี แต่เราจะมาเริ่มต้นเปลี่ยนทัศนะวิสัย การแชร์ความรับผิดชอบ การเลี้ยงดูลูก เริ่มจากตัวเราและคนใกล้ชิด การแลกเปลี่ยนความเห็นในกระทู้ การเลี้ยงดูลูกชายให้เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงอยากได้เป็นสามี มีความรับผิดชอบ มีน้ำใจ ปลูกฝังความคิดที่ว่าการเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของทั้งสามีและภรรยา ในอนาคตก็จะมีผู้ชายที่เป็นสามีดีๆ เพิ่มขี้นแน่นอน จากคุณ : ไลลา - [ 25 ธ.ค. 51 16:00:19 A:199.230.163.22 X: TicketID:198772 ]

ความคิดเห็นที่ 125 จากประสบการณ์ตัวเอง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องผู้หญิงที่รักเราสองคนเขาแสดง power กันน่ะ เคสผมคือ แม่โอนบ้านให้ผมตั้งนานแล้ว ก่อนแต่งงาน เพราะคิดจะให้ผมอยู่กับเขา แฟนผม ยืนกราน อยากอยู่คนละบ้านกับแม่ และต้องมีบ้านก่อนแต่งงาน ผมจะไปกู้ซื้อบ้านก็ได้ แต่พวกพี่สาวผมลงความเห็นว่า จะบ้าหรือเปล่า เงินก็มีทำไมต้องไปกู้แบงค์ เลยไปซื้อบ้านใหม่ให้แม่อยู่ แม่ผมยอมถอย ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แต่แฟนผมเดินมาอีกก้าว ขอมีชื่อในโฉนดบ้านด้วย เหตุผลก็เหมือนเจ้าของกระทู้ เสียเนื้อเสียตัวแล้ว ก็ต้องได้อะไรมาเป็นหลักประกันชีวิต แต่ความเป็นจริงคือ แฟนผมรวยกว่าผมเสียอีก ตอนนั้นทะเลาะกันแทบตาย ผ่านไป 4 ปี ตอนนี้ กลายเป็นว่า บ้านนั้นไม่ค่อยสะดวกกับชีวิตของเมืยผม เลยมาซื้อที่อื่นอยู่ แม่ผมตอนนี้ไปอยู่ที่ใหม่ก็สะดวกกับชีวิตเขามากกว่า กลายเป็นว่า บ้านที่แย่งกันแทบตายตอนผมจะแต่งงาน ตอนนี้ให้คนอื่นเช่าอยู่ ค่าเช่านิดเดียว ทางแก้ปัญหา ผมว่าคือ ถ้าคุณรักผู้ชายคนนี้จริง และมั่นใจในผู้ชายคนนี้ ก็ยอมๆเขาไปหน่อยเถอะ คนแก่ขี้ใจน้อย อย่าให้คนแก่เขากังวลใจมากเลย ในทางกลับกัน ผมว่า คุณกลับไปทำงานดีกว่า จ้างพี่เลี้ยงเด็กมา เอาเด็กไปส่งบ้านตายายบ้าง บ้านปู่ย่าบ้าง คุ้ัมกว่าเยอะ ก็ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกัน จากคุณ : อวิรุืทธ์ - [ 25 ธ.ค. 51 22:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตบมือให้แนวคิดของคุณไลลาเลยค่ะ เริ่มที่เราก่อน นี่ถ้าซาร่ามีลูกชายก็จะสอนให้เขาให้เป็นสุภาพบุรุษ และจะพยายามไม่เป็นแม่สามีแบบในละครค่ะ พยายาม...แต่ไม่รู้เอาเข้าจริงจะทนเห็นลูกรักคนอื่นมากกว่าเราได้ไหม อิอิ นี่แหละมนุยษ์กิเลสหนา จากคุณ : นภชล - [ 25 ธ.ค. 51 23:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เข้ามาอ่าน ตอนตลาดเกือบวาย กระทู้นั้นผมได้อ่านมาแล้วครับ กระทู้นี้ก็นั่งไล่อ่านนานเชียวกว่าจะครบ ผมขอแสดงความคิดเห็นอย่างนี้แล้วกันครับ ผมว่ามันมีประเด็นอ่อนไหวแฝงอยู่ ตัดคำว่า "เงินแม่" ออกไป มันเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ความรู่สึกระหว่าง แม่ กับ เมีย มันไม่หายไป เข้าใจความรู้ของบรรดา "แม่บ้าน" ดีแล้วครับ จากกระทู้นี้ เห็นด้วยเลย แต่ผมขอเสนอประเด็นต่อยอดหน่อย ขี้เกียจไปแตกประเด็น (หรือใครจะแตกให้ก็ช่วยหน่อยนะครับ) ในวันที่มันมีความขัดแย้งขึ้นระหว่าง "แม่" กับ "เมีย" นี่มันเป็นอะไรที่แบบว่า กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆครับ ไม่อยากโทษว่าใครผิด ใครถูก จริงๆอยากโทษตัวเองด้วยซ้ำไป แต่จะทำอย่างไรได้ครับ นั่นก็แม่ บังเกิดเกล้า นี่ก็เมีย บังเกิดเกล้า เช่นกัน ผมอยากถามความเห็น ของคุณผู้หญิงหน่อย เอาทั้งที่ยังไม่เป็นทั้งเมีย เป็นเมียแล้วแต่ยังไม่เป็นแม่ เป็นแม่แล้วเป็นแม่ผัว อีกต่างหาก คุณๆ มีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร มาถึงตรงจุดนี้หลายท่านอาจจะเห็นแล้ว ว่า ข้อเท็จจริง มันมีหลายขั้น ในจุดนี้มันอาจจะใช่ มันอาจจะถูกใจ แต่ถ้าหลับตาและหยุดคิดเราอาจจะเห็นข้อเท็จจริงมากกว่านั้นก็เป็นได้นะครับ ปล.อย่างไรก็แล้วแต่ คุณ นภชล (จขกท) เขียนกระทู้ได้ดีมากๆครับ พื้นฐานทางด้านภาษาเรียกได้     ว่ายอดเยี่ยม เป็นนักเขียนหรือปล่าวเอ่ย ? จากคุณ : TOKIM - [ 26 ธ.ค. 51 06:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คห#125 ทางแก้ปัญหาที่ คุณ อวิรุทธ์ เสนอมาอาจสามารถแก้ปํญหาเรื่องเงินได้ แต่ดิฉันกลับสงสารเด็กๆ ที่จะต้องไปอยู่กับคนอื่น(จ้างเค้าเลี้ยง) ถึงจะเป็นตายาย ก็ไม่เหมือนอยู่กับพ่อแม่หรอกค่ะ หวังว่าจขกทก่อน คงแก้ปัญหาได้แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น จริงใจกับภรรยาให้มากๆ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคำว่าบ้านมันเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยนะคะ จากคุณ : Better Off - [ 26 ธ.ค. 51 14:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ไปไล่อ่านทั้ง 3 กระทู้เลย ชอบจริงๆ เรื่อง ผ. ผ. เอียๆ เอิ๊กๆๆ เข้าเรื่อง วุ่นวานและสับสนมากๆๆๆๆๆ จะเอาเงินก้อนโน้น มาใส่ตรงนี้ เอาชื่อคนโน้น มายัดตรงนี้ วุ่นวายมาก คงต้องหาทางซื้อเองดีกว่า จบๆ มุมแม่จอร์จ - คงอยากให้ลูกชายมีบ้าน และลูกสาวก็มีบ้าน คนนี้ล่ะที่หวงสมบัติไว้ให้ลูกตัวเอง หรือเปล่า? แป่ว~~ มุมซาร่า - คงอยากเป็นอะไรที่มีแต่ ครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ไม่อยากให้คนอื่นมาเกี่ยวข้องและมีปัญหาทีหลัง (เดานะ) มุมจอร์จ - โดนแม่จอร์จสิงมา 555 จากคุณ : patty_lovely - [ 26 ธ.ค. 51 18:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เข้าใจซาร่า มากมายเคยเป็นซาร่ามาพักนึง ตอนนี้กลายเป็น Bree ใน Desperate Housewives  ไปแล้ว จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด - [ 26 ธ.ค. 51 19:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ใช่ค่ะ คุณ TOKIM ซาร่าเป็นนักเขียนค่ะ เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าขอเงินสามีใช้ เกาะสามีกินนี่แหละค่ะ แต่ก่อนที่จะเป็นนักเขียนก็เป็นชาวเกาะเต็มตัวอยู่พักใหญ่ เลยรู้ซึ้งถึงความเป็นแม่บ้านค่ะ ว่ามันอึดอัด อยากซื้ออะไรก็เกรงใจคนที่บ้านสามี อยากซื้อของเล่นลูกก็ได้ยินพี่สาวสามีมาบ่น ปนนินทา บ้านพี่ชายว่า เอาแต่ซื้อของเล่นแพงๆให้ลูก ก็เลยไม่กล้า จะซื้ออะไรต้องแอบๆ อึดอัดสุดๆค่ะ พอช่วยกันทำมาหากินได้ เราก็ภูมิใจในตัวเอง แต่ไม่อยากให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีไม่เข้าใจในความสำคัญของผู้สวมบทแม่บ้านเพียงอย่างเดียว ถ้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่เข้าใจ ดูถูก มันยิ่งกว่าคนอื่นๆดูถูกเป็นไหนๆ พออ่านกระทู้โน้น ถึงมีกลิ่นอาย ความดูถูกและกดให้ต่ำแทรกอยู่เป็นระยะ มันเศร้าใจค่ะ ภรรยาอย่างเราๆ ไม่ขออะไรมากมาย นอกจาก รัก  เข้าใจ ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ และเราเองก็จะตอบแทนด้วย รัก นับถือ ยกย่อง ชื่นชม ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ ปรนนิบัติ เข้าใจ เป็นกำลังใจ และคอยเคียงข้าง มีบ้างที่บ่น เอาแต่ใจ ขอให้คนเป็นสามีทนๆกันนิดนะคะฮอร์โมนพาไปค่ะ เอิ๊กๆๆ จากคุณ : นภชล - [ 27 ธ.ค. 51 08:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 132 สู้สู้นะคะ เพราะชีวิตคือชีวิต เชื่อได้ว่าทุกครอบครัวมีปัญหานะคะอยู่ที่ว่าอดทนได้แค่ไหน หรือจะเล่าให้ใครฟังบ้าง บางคู่เลิกกันไปแต่งงานใหม่ก็ต้องเจอปัญหาอื่นอีกรับรอง  ไม่มีความสุขใดที่แลกมาด้วยความสุขตลอดนะคะ ถนนยังมีหลุมมีบ่อไม่เรียบตลอดการเดินทาง นานทีมีช่างมาซ่อม ก็จะเรียบ  ใช้ไปสักพักก็ขรุขระอีก เหมือนชีวิตบางครั้งเคลียร์กันได้ก็ราบรื่นมีความสุขดี  ไม่กี่วันก็น้อยใจ ไม่เข้าใจกันอีก เราเปลี่ยนใจคนอื่นไม่ได้นะคะ แต่อดทน หรือเปลี่ยนใจตัวเองได้ค่ะ เป็นทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุข อะไรยอมได้ก็ยอมกันนะคะ สักวันเขาจะยอมเราบ้าง วันนั้นต้องเป็นวันของเรา ให้กำลังใจนะคะ สู้สู้เพื่อลูกค่ะ จากคุณ : ให้กำลังใจผู้หญิงทุกคน (น้องทาโบะค่ะ) - [ 27 ธ.ค. 51 14:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 133 คุณซาร่าครับ ผม จขกท นู้นเองครับ เห็นกระทู้นี้นานแล้ว แต่ไม่ได้โพสต์ตอบ เผอิญว่างานยุ่งสุดๆ ครับ อยากจะชี้แจงว่าใจจริงแล้วไม่เคยคิดดูถูกภรรยาหรอกครับ แต่ที่โพสต์ไปแบบนั้น เพราะเพิ่งทะเลาะกันเล็กน้อยแล้วสรุปไม่ได้ เลยเอามาโพสต์ อารมณ์ค้างๆ ก็เลยเขียนไปแบบนั้น แต่ชีวิตจริงไม่ได้ไปดูถูกอะไรแบบนั้นหรอกครับ คุณซาร่าสบายใจได้ ดีนะครับที่คุณซาร่าเป็นนักเขียนด้วย ไม่แน่ใจมีคนช่วยเลี้ยงลูกหรือเปล่า เอาเวลาไหนหนอมาปลีกตัวเขียนหนังสือ แฟนผมเลี้ยงลูกทั้งวันก็เหนื่อนแล้วครับ กินข้าวก็ไม่ได้ ต้องอยู่ ต้องเฝ้าตลอด ก็เด็ก 1 ขวบนี่นะ เพราะกลางวันทุกคนไปทำงานหมด กลับมาก็ค่ำๆ ทุกวันนี้ภาระอยู่ที่ผมคนเดียว ทำงาน 7 วัน นอนไม่ต่ำกว่าตี 1 เสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปรับจ็อบข้างนอก อ้อ ผมก็เป็นนักเขียนด้วยนะ รับหลายงานครับ รายจ่ายเยอะ งานเยอะ ก็เครียดเป็นธรรมดา ลูกป่วยที่เข้า รพ ก็หมดเป็นหมื่น ความเครียดเลยสุมครับ รู้ตัวว่าโมโหง่าย แฟนเลี้ยงลูกก็เครียด ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้อาบน้ำ ต้องดูตลอด ก็เครียดเหมือนกัน พอปะทะกันทีก็เป็นธรรมดา แต่ก็พยายามปรับก็ดีขึ้นแล้วนะ คำถามเยอะมากๆ เลย ไม่รู้จะตอบใครก่อนดี จากคุณ : Stimpack - [ 29 ธ.ค. 51 22:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เรื่องบ้านนะครับ เคลีย์เข้าใจทุกฝ่ายแล้ว มีชื่อทั้ง 3 คน ผมผ่อนส่วนของน้องหมดก็เป็นชื่อผมกับแฟน ไม่ใช่ว่าผ่อนเองไม่ได้ แต่็เป็นความประสงค์ของทางบ้านครับที่ต้องการช่วยตรงนี้ เพราะที่บ้านแม่ก็เริ่มจาก O ลำบากมาแต่เด็ก ว่าจะสร้างตัวได้ ใช้หนี้หมดก็อายุเยอะแล้ว ที่บ้านไม่ต้องการให้เราเป็นแบบนั้นครับ ไม่อยากให้ติดหนี้ 30 ปี ลองคำนวณดูว่า ค่าผ่อนบ้านเดือนละ 30K จ่ายเงินสดไม่มีดอก จ่าย 12 ปีก็หมด แต่ถ้ากู้แบงค์ ด้วยยอดต่อเดือนเท่ากันต้องจ่ายไป 30 ปี เสียดอกเบี้ยฟรีๆ 18 ปี สิ่งที่ทางบ้านช่วยเพราะต้องการลดภาระและให้เราตั้งต้นครอบครัวได้เร็วครับ เพราะเขารู้ว่าเราทำงานคนเดียว ไม่มีป่วย ไม่มีลา ไม่มีหยุด เมื่อผมผ่อนแม่หมด ผมจะมีเงินเก็บเหลือมาดูแลแม่ และครอบครัวได้เต็มที่ (มองในมุมกลับกันนะครับ) ถ้ากู้แบงค์ก็จะไม่มีเงินหลือเลยเพราะจ่ายรายเดือนก็หมดแล้ว จากคุณ : Stimpack - [ 29 ธ.ค. 51 22:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ขอบอกว่า...ถูกใจ๊ ถูกใจ มากๆ เลยจ้า ซ่าร่า เอาแต้มไปเลย โดนใจสุดๆ ชอบจังเลย จากคุณ : inkbox - [ 30 ธ.ค. 51 04:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เข้ามาแจกกิ๊ฟท์ จขกท. 3 กิ๊ฟท์เลย รับไม่ได้กับ 2 กระทู้ที่อ้างอิงจริงๆ แต่ไม่ได้เม้นท์ เพราะอ่านเม้นท์ของผู้ชายแต่ละคนใน 2 กระทู้นั้นแล้ว...โกรธ สงสัยคนที่โพสว่าฝ่ายภรรยากระทู้โน้นมีแต่คนโสด ช่างไม่เข้าใจความรู้สึกของคนมีครอบครัวและคนที่เป็นภรรยาเลย... อ่านกระทู้นี้แล้ว---โดนใจมากๆ......นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ นึกถึงตัวเองตอนตั้งท้องต้องออกจากงานเพราะยังไม่ผ่านโปรแล้วท้อง ตอนนั้นทั้งเครียด ทั้งกลุ้ม สามีหาเงินคนเดียว...ไม่พอใช้ ตอนนั้นมีทะเลาะกัน เถียงกันบ่อยมากเพราะสามีหาว่าเกาะเค้ากิน แล้วก่อนที่คุณจะเสกเด็กเข้าท้องดิฉัน คุณคิดมั่งไหมว่าต้องรับผิดชอบอะไรหลังจากน้ำแ*กแล้วอ่ะ ก่อนนั้นฉันก็ทำงานเหมือนกันนะ ตอนนี้ทำงานเองแล้ว---อย่าหวังจะมาเอาเปรียบกันอีกเด็ดขาด-- จากคุณ : รสสภัน (Nrostahpan_My) - [ 30 ธ.ค. 51 11:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ดีใจด้วยนะคะกับคุณ Stimpack ที่หาข้อยุติปัญหาได้ เรื่องเงินที่ต้องขอทางบ้านซาร่าไม่ติดใจ ไม่ข้องใจ ไม่อคติใดๆเลยค่ะ เพราะแต่ละครอบครัว มีทางเลือกไม่เหมือนกัน บ้านของซาร่าและจอร์จ ก็มาจากเงินที่ทางบ้านสามีสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ให้ค่ะ แต่นั่นเพราะ ที่ดินตรงที่ซาร่าและจอร์จ ครองเรือนหอกันมานั้น มีค่ามากกว่าจะตั้งเป็นบ้าน เมื่อให้คนอื่นเช่า พ่อแม่สามีก็มีรายได้ต่อเดือนมาก เราจึงย้ายมาสร้างใหม่ และท่านก็ให้เงินมาส่วนหนึ่งเพื่อสร้างบ้าน จุดที่คนส่วนใหญ่ในกระทู้นี้ไม่ชอบใจคือคำต่อว่านานา ที่คุณมีต่อภรรยา แต่เมื่อคุณอธิบายความเครียดให้อ่านก็พอเข้าใจค่ะ คุณรู้ว่าเธอเหนื่อยก็ดีแล้ว เธอรู้ว่าคุณเหนื่อยเพื่อครอบครัวก็ดีแล้ว ขอแค่คุณสองคนเข้าใจกัน เพราะรายละเอียดต่างๆ คุณสองคนรู้ดี สิ่งที่คุณระบายออกมาในกระทู้นั้น ทำให้บางคห. ต่อว่าภรรยาคุณ และยุยงให้เลิกรา คุณปกป้องเธอบ้างก็ดีนะคะ เผื่อว่าบังเอิญเธอมาอ่านเข้า อย่างน้อยเธอก็ไม่เสียความรู้สึกมากนัก ซาร่าอยู่กับบ้าน มีเวลาเลี้ยงลูกค่ะ ตอนคลอดใหม่ๆ เชื่อไหมคะว่ามือข้างหนึ่งอุ้มลูกดูดนมแม่ มืออีกข้างค่อยๆจิ้มโน๊ตบุ๊ค เพื่อส่งต้นฉบับ พอลูกอิ่มจนหลับคาอก ซาร่าค่อยๆวางลูกลงบนเปลโยก ที่ใช้ป้อนข้าว ใช้เท้าโยกๆ ไปในขณะที่มือก็พิมพ์ต้นฉบับไป ผู้หญิงเราสามารถทำงานไปเลี้ยงลูกไปได้ค่ะ นี่เป็นหนึ่งในความภูมิใจที่ซาร่าคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ขอให้คุณและภรรยารักกัน เข้าใจกันนะคะ พอลูกโตขึ้นความเครียดจะลดลงค่ะ พอลูกสื่อสารกับเราเข้าใจ ทุกอย่างจะบางเบาลง หวังว่าเมื่อนั้นคุณจะไม่คิดว่าภรรยาว่างจัดนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอธิบายค่ะ พวกเรา...เป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณนะคะ จากคุณ : นภชล - [ 30 ธ.ค. 51 18:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ขอบคุณซาร่าที่เข้าใจนะครับ ผมอยากจะบอกว่าผมก็คือจอร์จ ปลอมตัวมาเองเอง (เอ้ยไม่ใช่) กระทู้ทั้งของผม (จอร์จ) และซ่าร่ายาวเหยียดมากเลยครับ ทั้งโพสต์ด่าจอร์จ ทั้งด่าซาร่า แต่จอร์จก็ขอน้อมรับผิดแต่ผู้เดียว เพราะถือว่าเป็นคนกลางที่ไม่ได้เรื่อง จอร์จอยากจะบอกซาร่าว่า ทุกวันนี้จอร์จก็ต้องคอยแบกลูกไปด้วยครับ เพราะลูก 1 ขวบเริ่มติดพ่อแล้ว จะไปเติมน้ำ ถัง 5 ลิตร เดินไปข้างนอก มือนึงอุ้มลูก มือนึงถือถังน้ำ จะไปซื้อข้าว น้ำ ก็ต้องคอยแบกไป ลูกก็เริ่มชี้หมา ชี้แมว ถึงหนักก็มีความสุขครับ วันหยุดไปเดินห้างซื้อของ ก็แบกตลอด ยกเว้นเวลาจอจ์จเปิด Notebook อุ้มมานั่งสักพักได้ แต่นั่งนานไม่ได้ เพราะไอ้จอร์จน้อยจะเริ่มดึงสายแลน ดึงเมาส์ เอามือทุบๆ คีย์บอร์ดเล่น ต้นฉบับเละเทะหมดพอดี วันนี้จอร์จสำนึกผิด เลยพาซ่าร่ากับจอร์จน้อยไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้าใหม่ให้แล้ว ซ่าร่ายิ้มใหญ่เลย จอร์จน้อยก็ป่านตลอด ไปดึงเสื้อในห้างเล่นบ้าง วุ่นไปหมด รูดแพงหน่อย แต่ก็มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่จอร์จเองได้ซื้ออะไรนะ ซาร่าก็บอกให้ซื้อให้ตัวเองด้วย จอร์จบอกว่าจอร์จมีลาคอสเยอะแล้ว (ของก๊อปทั้งนั้น) จอร์จยอมให้ซ่าร่ากับลูกนะครับ จอร์จใส่เก่าๆ ไปไม่เป็นไร เสื้อแพงๆ ทั้งนั้น เสียดายตังค์ ซื้อลาคอสต่อไปดีกว่า 555 ว่าแล้วก็ขอไปนั่งปั่นต้นฉบับต่อก่อนนะครับ จอร์จเป็นทั้งนักเขียนและก็เป็น บก ด้วย มีหนังสือต้องตรวจอีกหลายเล่ม หวังว่าซาร่าคงนั่งเขียนเป็นเพื่อนจอร์จนะจ๊ะ จากคุณ : Stimpack - [ 30 ธ.ค. 51 23:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เห็นด้วยกับคุณ นภชล นะคะ คุณ Stimpack ไปอธิบายปกป้องภรรยาคุณในกระทู้โน้นบ้างก็ดี เพราะดูุเหมือนตอนนี้ภรรยาคุณก็ยังถูกต่อว่าอยู่เลยนะคะ จากคุณ : setsu-chin - [ วันสิ้นปี 09:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 140 กลับมาให้กำลังใจคุณ stimpack ที่คิดเร็วเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ จากคุณ : vigor - [ วันสิ้นปี 13:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 141 มีนิ้วโป้งในตัวกี่นิ้ว ขอยกให้คุณซาร่าหมดทั้งตัวเลยค่ะ..... มันเจ๋งมากกก กระทู้นี้......... จากคุณ : wiswis (kwiswis) - [ วันปีใหม่ 15:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 142 มีจอร์จ...มีซาร่า... เป็น.....E - ติ๋ม  ก็ได้...อิอิ...... ทู้นี้ถูกใจติ๋มจิงๆเลยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : La_Or1007 - [ 3 ม.ค. 52 00:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 143 เห็นด้วยกับคุณแล่ด .. กู้แบงค์ .. + จดทะเบียน หากต้องการประหยัดดอก .. ก็นำเงินแม่แค่ "ครึ่งเดียว" มาโปะ ส่วนอีกครึ่ง ก็ให้น้องไปตามเดิม น้องจะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องมีชื่ออยู่ในบ้านด้วย ปล. ทำไมไม่กู้แบงค์ แล้วนำเงินในส่วนของคุณ (อาจจะแค่ไม่กี่หมื่นบาท ) มาลองทำธุรกิจเล็กๆที่ภรรยา(จขกท.ทู้นี้)สามารถทำงานได้ที่บ้านละครับ เธออาจจะมีรายได้เสริมที่ดีก็ได้ .. ได้คลายเครียด คุณสามีก็จะได้ลดภาระทางด้านการเงินลงไปได้ ลูกอายุแค่ขวบเดียว กำลังน่ารักเลย .. อย่าเพิ่งคิดเลิกกันแค่เรื่องสมบัติเลยครับ .. ถ้าเค้ารู้ เค้าคงน้อยใจพ่อแม่เค้านะครับ .. จากคุณ : Top27 - [ 3 ม.ค. 52 10:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 144 โอ้โห คุณ stimpack เป็นพ่อที่น่ารักจังเลย ของซาร่าซื้อแต่ให้ลูกค่ะ ส่วนซาร่าแต่งตัวยังกะพี่เลี้ยงเด็ก ฮ่าๆๆ ชอบมองลูกน่ารักค่ะ ส่วนตัวเองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตัวเดิมๆ พอแล้ว ลูกจะยิ่งน่ารัก มากขึ้นเรื่อยๆ และเขาจะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงเลยล่ะค่ะ จากคุณ : นภชล - [ 4 ม.ค. 52 20:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 145 นั่งไล่อ่านมา 2 กระทู้จนตาลาย ได้ข้อคิดเอาไว้เป็นแนวทางเพียบเลย ป.ล. ยินดีด้วยที่คุณ Stimpack และครอบครัวได้ข้อยุติที่ดีค่ะ จากคุณ : ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน (mix up) - [ 5 ม.ค. 52 08:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 146 วี๊ด...วิ้ว..... Happy Ending จากคุณ : หนูดาหลานยายเหงี่ยม - [ 7 ม.ค. 52 11:04:02 ]