ความคิดเห็นที่ 1 1.2 สาย N ของการไฟฟ้าช่างต่อที่บาร์ของตู้เมนแล้วโยง  N ไปที่ G ตามรูปถูกต้องหรือไม่คะ หรือควรให้ N ของการไฟฟ้าต่อลงที่ G บาร์ของตู้ดีกว่าคะ สองอย่างแตกต่างอย่างไรคะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 14 ธ.ค. 51 14:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกรูปค่ะ ลูกเซอร์กิต จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 14 ธ.ค. 51 14:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1.3 สังเกตว่าช่างมีการต่อสาย เชื่อมสายด้วยเทบพันสายไฟหลายจุด อยากทราบว่าการต่อสายภายในตู้แบบนี้มีความปลอดภัยหรือไม่คะ มีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่คะ และการเดินสายไฟแอร์เข้าตู้หากมีการต่อสายภายในรางก่อนเข้าตู้จะปลอดภัยหรือไม่คะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 14 ธ.ค. 51 14:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 2. ช่างปักแท่งทองแดงยาว 2.4 ม เป็นเหล็กหุ้มทองแดงยึดสายด้วยแคลมป์ แต่ปักไม่จมลงพื้นดิน จะลอยอยู่บนพื้นดินประมาณ 1 ฟุต ช่างแนะนำให้หล่อปริเวณที่ยึดสายด้วยปูนค่ะ แบบนี้ใช้ได้หรือไม่คะ และเรามีวิธีเช็คว่าสายดินใช้การได้แล้วอย่างไรบ้างคะ 3.ในการเดินสายไฟ 2 เฟสมีข้อควรต้องระวังหรือต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษหรือไม่คะ อยากขอคำแนะนำวิธีตรวจสอบการทำงานของช่างเรื่องมาตราฐานความปลอดภัย ความถูกต้องของการทำงานด้วยค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 14 ธ.ค. 51 14:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านมาเหมือน จขกท. พอที่จะรู้เรื่องไฟฟ้ามาบ้างส่วน แต่ไม่เข้าใจทั้งหมด ผมสงสัยว่า ถ้าไฟฟ้าขัดข้อง จขกท. ซ่อมเองหรือเปล่า ถ้าซ่อมเองก็ให้ช่างเปลี่ยนสีสายไฟได้ครับ ถ้ายังต้องใช้บริการช่างไฟในการช่อมไฟฟ้าอยู่ ก็รอให้ช่างเดินไฟให้เรียบร้อย ทดสอบผ่าน ก็ใช้ได้แล้วครับ เดินไฟตามรูปช่างไฟที่ไหนก็ดูออกครับ ข้อ2 ทำตามช่างแนะนำ ข้อ3 ระวังเรื่องเดียว คือขนาดสายไฟ อย่าเล็กเกินไป จากคุณ : ส/305 - [ 14 ธ.ค. 51 15:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่ผม อ่านที่คุณเจ้าของกระทู้เล่ามา เเละ รูปภาพที่โพสนั้น ช่างไฟฟ้าที่เดินบ้านคุณถือว่าเดินได้มาตราฐานนะครับ เเท่งสายดิน ความยาว 2.4 เมตรตอกลงได้เท่าไรก็ตัดส่วนที่โผล่ออกมาทิ้งไปครับ( กรณีของคุณ เหลือ 30 ซ.ม. ก็ต้ดทิ้งเเละทําการหล่อหุ้มปูนปิดให้เรียบร้อย ) อีกอย่างโดยส่วนตัว ผมมักจะไม่ใช้ตัวหัวใจที่ ล๊อคสายดิน ที่ให้มาเพราะมักจะล๊อคสายได้ไม่เเน่นเท่าที่ควร ผมจะใช้ตัวเเคล็มป์รัดสายไฟเเบบ ทองเหลือง ที่เรียกว่า สปีตโบ๊ท ที่อยากจะเเนะนําตือ ควรทําการเเยกสายโทรศัพท์, สายสัญญานTV,สายLAN ( ถ้ามี )ในห้องต่างๆ ให้เเยกออกมาจากตู้เมนครับ โดยให้มาอยู่เเยกต่างหากใกล้ๆกันครับ( ส่วนใหญ่มักจะใส่ในกล่องกันน้ำ ) แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 51 17:08:37 จากคุณ : pinhead2000 - [ 14 ธ.ค. 51 17:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นไปได้ก็แยกแค่สายโทรศัทพ์ ออกไปจากทางเดินสายไฟฟ้าดีที่สุดครับ ส่วนสายไฟผิดสีนี่คงแก้ยากแล้วครับ................. เพระอะไรเหรอครับ นอกจากสัญญานรบกวนจากสายไฟฟ้าแล้ว ถ้าเกิดมีการลัดวงจรในทางเดินสายไฟที่มีสายโทรศัพท์อยู่ด้วย แรงดันอาจวิ่งไปที่เครื่องใช้โทรศัทพ์,โมเดม,คอมพิวเตอร์ อาจจะต้องซ่อมยกบ้านเลยก็ได้นะครับ 2. ควรตอกให้มิดดินครับ โบปูนปิด ป้องกันหลุด ถ้าให้ดีก็ทำช่อง (ฝาส้วมทองเหลืองราคาไม่ถึงร้อย)ไว้ตรวจดูเผื่อว่าอนาคตมันจะหลุดรึป่วว 3. ก็คงตรงรอยต่อต่างๆ เนี้ยเหละครับถ้าหลวมเวลาใช้ไฟจะเกิดความร้อนมากเลยครับ อีกอย่าง............ที่ดูจากรูปตามขอบรูร้อยสายไฟที่ตัดออกจะมีความคมให้ช่างหายางกันบาดมารองทุกจุดเลยนะครับอันตรายมาก .........เบรกเกอร์กันดูด( ELCB)สามตัวนี่ใช้ที่ไหนบ้างครับ....เยอะดีจัง .........อย่าลืมดูที่ตู้ไฟชั้นสอง และชั้นสามด้วยนะครับ....เยอะดีจัง จากคุณ : noom_super - [ 14 ธ.ค. 51 19:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในภาพเท่าทีพิจารณาดู การต่อเป็นไปตามาตรฐานครับ แต่เรื่องสีของสาย คาดว่าช่างไฟฟ้าที่มาทำระบบไฟบ้านคุณจขกท. คงยึดมาตรฐานเก่า เพราะสมัยก่อนสายLจะเป็นสายสีขาวซะส่วนใหญ่ซึ่งที่เคยเห็นในแผงไฟยุกต์ก่อนๆจะเป็นแบบนี้ แต่มาตรฐานการไฟฟ้าเรื่องที่ให้สายสีดำเป็นLเพิ่งจะมามีการบัญญัติขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลักการของเขาคือสีขาวเป็นสีที่สะอาดสีแห่งความปลอดภัย เขาจึงกำหนดให้เป็นNและให้ดำเป็นL ซึ่งช่างบางรายอาจจะติดหลักการแบบเก่าๆ แต่สำหรับวงจร1เฟสที่บ้านใหม่ของผมใช้ดำเป็นLขาวN ส่วนที่บ้านจขกท. เรื่องการใช้สีผิด คงจะแก้ยากแล้วครับ เพราะถ้าแก้มันจะยุ่งยากอีก ถึงแม้จะใช้สีขาวเป็นLขอขอให้เป็นสีเดียวทั้งบ้านเท่านี้ก็พอแล้วครับ สายดินที่ช่างต่อก็ถูกต้องแล้วครับ ส่วนเรื่องหลักดิน ที่ช่างตอกลงไปไม่หมดนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าติดกับหินหรือโครงสร้างอะไรสักอย่างข้างใต้ ก็โบกปูนทับไปเลยก็ได้ครับ เพื่อจะได้แน่นๆ ส่วนแคลมป์แบบนั้น ผมไม่ค่อยจะแนะนำให้ใครใช้ครับ เพราะมันจะไม่ค่อยแน่น ถ้าต่อโดยการบัคกรีได้ จะยิ่งดีมากเลยครับ สายโทรศัพท์ เหมือนที่หลายๆท่านกล่าวมา แนะนำให้แยกออกครับเพราะไม่ควรที่จะเอามารวมกันในตู้ไฟ อาจจะร้อยลงในรางร้อยสายโทรศัพท์ แล้วไปรวมกันที่กล่องพลาสติดชนิดมีฝาปิด แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 51 21:00:19 จากคุณ : KanichiKoong - [ 14 ธ.ค. 51 20:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1.1 ตามความเห็นอื่นข้างบน  ถ้าจะแก้ให้ถูกต้องก็ต้องต่อสายอย่างที่ว่า ไม่ต้องแก้จะดีกว่า แต่ทำให้เหมือนกันทั้งอาคาร เพื่อสะดวกและความ ปลอดภัยในการบำรุงรักษา เวลามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบ คุณก็ให้ข้อมูลแก่ช่างชุดอื่นที่จะมาทำได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร 1.2 ต่อถูกต้องดีแล้ว และ นิวตรัล-กราวด์ ต่อถึงกันเฉพาะที่ตู้เมนเท่านั้น ส่วนตู้อื่น(ชั้นสองและสาม) ที่ดึงไฟจากตู้นี้ไม่ต้องต่อถึงกัน 1.3 ให้ดีคือไม่ต่อสาย แต่เมื่อต่อไปแล้วอย่างที่เห็น เพียงแต่ให้ช่างต่อ สายให้เรียบร้อยปลอดภัย ส่วนการต่อในรางผมว่าไม่ดี เพราะ ถึงเวลา สายช้อต เราเปิดตู้ก็ไม่เห็น หาไม่เจอว่าอยู่ไหน จุดต่อสาย ควรเป็นจุด ที่สามารถเปิดและเข้าถึงเพื่อแก้ไขได้ 2 ตามความเห็นอื่นข้างบน 3 เข้าใจว่าเป็นคำถามเกี่ยวกับไฟ สามเฟส ข้อควรระวัง คือ ไม่สลับสาย และ เรียงเฟสให้ถูกต้อง ให้ช่างเช็คได้ครับ การเรียงเฟสมีผลต่อการหมุนของอุปกรณ์ไฟฟ้า สามเฟสครับ จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) - [ 14 ธ.ค. 51 22:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อควรระวังเกี่ยวกับระบบไฟ3เฟส แบบที่คุณหมูทองกล่าวมาครับ ต้องระวังในเรื่องการสลับสาย R S T เพราะการต่อสลับเพียง1เส้น จะทำให้โหลด3เฟสประเภทมอเตอร์หมุนทวนทันที การที่เราจะรู้ ได้ว่าเฟสทั้ง3เรียงกันถูกหรือไม่ เราจะทราบได้จากเครื่องมือชนิดหนึ่ง เรียกว่าเครื่องตรวจวัดลำดับเฟสซึ่งช่างไฟที่ปฏิบัติงานของระบบ3เฟส จะมีใช้อยู่ ของผมเองก็มีแต่ของผมเป็นรุ่นดั่งเดิมแบบมอเตอร์ ทำงาน โดยการต่อสายเข้ากับแต่ละเฟส แล้วสังเกตุจากเข็ม ซึ่งถ้าเราเรียง เฟสถูกมอเตอร์ก็จะหมุนเข็มตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าเราเรียงเฟสไม่ถูก แม้แต่เฟสเดียว มอเตอร์จะหมุนทวนทันที หลักการทำงานของเจ้าเครื่อง ตรวจวัดลำดับเฟสก็เช่นเดียวกันกับมอเตอร์3เฟส ส่วนในภาพที่แนบมาเป็นรุ่นแบบดิจิตอล วิธีสังเกตุค่าก็เหมือนกับรุ่นที่เป็นมอเตอร์ คือถ้าเรียงเฟสถูก ลูกศรก็จะแสดงออกมาในการหมุนแบบตามเข็ม นาฬิกา แต่ถ้าเรียงเฟสผิด ลูกศรก็จะแสดงภาพของการหมุนแบบทวน จากคุณ : KanichiKoong - [ 15 ธ.ค. 51 00:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำนะคะ ขอถามเรื่องวิธีการแก้ไขสายโทรศัพท์หน่อยนะคะ หากช่างเดินไว้ในรางแต่ละชั้นแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝาราง เราพอจะย้าสายออกมาได้อย่างไรบ้างคะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 15 ธ.ค. 51 07:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้เเนะนําให้ย้ายสายออกจากในรางวาย์เวย์ เเต่ให้เเยกสายออกมาจากตัวตู้ไฟเมน โดยทําตู้ หรือ กล่องเล็กๆ ให้เก็บอยุ่ในกล่องนั้นใกล้ๆกับคู้ไฟเมน เพราะเวลาเรารื้อ ตรวจเช็คสายโทรศัพท์สามารถทํางานได้ง่ายกว่าครับ+ในอนาคตคุณอาจจะต้องมี ตู้สาขาโทรศัพท์จะได้ต่อสายฯจากจุดนี้ในเวลkติตั้งตู้สาขาโทรศัพท์ มันเสียวโดนไฟดูดเอาครับ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 08:01:15 จากคุณ : pinhead2000 - [ 15 ธ.ค. 51 07:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใช้เป็นตู้เเบบนี้ครับ  จะเป็นเหล็ก หรือ พสากติกก็ได้นะอยู่ที่สภาพหน้างาน ลองปรึกษากับช่างไฟฟ่ากับช่างก่อสร้างบ้านคุณในการเก็บสายโทรศัพท์,สายTV,สายLAN ( กรณีเน้นเรื่องความสวยงาม ) ขนาดก็ปรึกษาดูเอาเองครับ จากคุณ : pinhead2000 - [ 15 ธ.ค. 51 08:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 1.1 จะเปลี่ยนสีให้เป็นไปตามมาตรฐานก็ได้ แต่ถ้าต้องต่อสายมากก็ไม่เป็นไร ก็ให้มีป้ายปิดบอกไว้ที่ตู้กำกับไ้ว้ด้วย ความจริงสายขนาดใหญ่ที่ไม่มีสีที่เป็นสายสีดำ ช่างควรจะใส่ปลอกสีบอกลำดับเฟสไว้ให้ด้วยนะครับ (ดำ แดง น้ำเงิน ขาว เขียว) 1.2 ถูกต้องแล้วครับต้องมีสายต่อฝาก ระหว่าง N และ G ที่ตู้เมนเท่านั้น ที่ตู้ย่อยอื่นห้ามต่ออย่างนี้ 1.3 การต่อสายควรใช้ สลิปต่อสายแล้วใช้คีมย้ำ แล้วพันด้วยเทปพันสายน่าจะเป็นการต่อสายที่ดีที่สุด 2 ควรยึดสายทองแดงกับหลักดินด้วยวิธีเชื่อมด้วยความร้อน (exothermic welding) จะดีที่สุด  ควรจะปักให้จมลงพื้นดิน แล้วค่อยหล่อปูนรอบบริเวณหลักดินที่โผล่ออกมา และเช็คว่าความต้านทานระหว่างหลักดินกับดินไม่ควรเกิน 5 โอห์ม โดยวัดจากเครื่องมือวัดค่าความต้านทานดิน 3 วิธีการตรวจสอบควรหาผู้รู้มาช่วยตรวจสอบช่างดีกว่าครับ บางทีคุณอาจจะไม่ได้ระบบไฟฟ้าที่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุด ที่คุณสมควรได้เมื่อเทียบกับเงินที่เสียไป ปล ตรงตู้ที่เจาะรูร้อยสายออกไป ช่างควรจะใส่ยางกันบาดป้องกันความคมของตู้บาดสายด้วยนะครับ อย่างอื่นๆก็คล้ายๆความคิดเห็นข้างบนครับ จากคุณ : safety first - [ 15 ธ.ค. 51 09:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ สายโทรศัพท์ที่เห็นในรูปเป็นสายภายในบ้านแต่ละจุดที่จะต่อเข้าตู้สาขาซึ่งจะวางอยู่ติดกับตู้เมนค่ะ แสดงว่าเราสามารถทิ้งสายไว้ในรางวายเวย์ได้เพียงแต่ไม่ควรให้ผ่านหรืออยู่ในตู้เมนใช่ไหมคะ ส่วนสายโทรศัพท์ที่มาจากนอกบ้าน(ต่อกับสายขององค์การ)เพื่อเข้าตู้สาขา เราสามารถทิ้งสายในรางวายเวย์ได้เช่นกัน หรือว่าควรแยกออกมาอยู่ในรางโทรศัพท์ต่างหากแล้วเดินรางขนานไปกับรางวายเวย์ดีคะ มีคำถามเรื่องสายดินค่ะ บ้านเป็นตึกแถวภายในซอยค่ะ เราตอกสายดินใว้นอกตัวบ้านที่บริเวณหน้าบ้านด้านข้างเสาได้หรือไม่คะ จะมีปัญหาของหายหรือโดนขโมยใช้ไฟหรือไม่คะ แท่งทองแดงยึดกับสายดินด้วยแคลมป์ทองเหลือง 2 สกรูค่ะ วิธีเชื่อมด้วยความร้อน (exothermic welding) มีขั้นตอนอย่างไรคะ ไม่ทราบว่าท่านใดพอจะมีภาพตัวอย่างหรือไม่คะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 15 ธ.ค. 51 19:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 .......ทั่วไปสายของโทรศัพท์เขาจะไม่ให้ผ่านไปในตู้ไฟฟ้าครับ  แต่เดินในรางเดียวกันได้ (ถ้าแยกได้จะดีมากครับ แต่ก็ใช้เงินทั้งนั้น)        ในกรณีนี้ควรต่อรางเดินแยกไปที่กล่องต่อสายโทรศัพท์โดยเฉพาะเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย       หลักดิน/สายต่อหลักดิน  ควรติดตั้งห่างจากตัวบ้านประมาณ 0.6-1 เมตร  แต่กรณีนี้พื้นที่น้อย ติดตั้งตรงนั้นก็ได้ครับ  ดูความเหมาะสมหน้างานอีกที  เรื่องหายนี้คงน้อยมากครับ   สายไฟให้เดินท่อร้อยสายจากตู้ไฟและฝังปูนช่วงสั้นๆ ก่อนเข้าหลักดินจะได้ไม่ล่อตาล่อใจครับ          ส่วนวิธีการใช้  exothermic welding ให้ศึกษาตามลิงค์นี้ครับ http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2006/11/R4848685/R4848685.html จากคุณ : arm_cc - [ 15 ธ.ค. 51 21:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ........สวัสดีครับ คุณ safety first  ไม่เห็นในเวบนานเลย  เห็นแสดงเทคนิคงานติดตั้งไฟฟ้าเล็กๆ น้อยๆ (แต่ต้องใส่ใจ) มาฝากเพื่อนๆ ห้องชายคาด้วย  ได้ประสบการณ์อะไรดีๆ ก็แบ่งปั่นกันด้วยนะครับ ปล. ยางรองกันสายบาด ควรใส่ก่อนเดินสายไฟครับ เพราะประโยชน์สูงสุดของมันคือช่วยป้องกันฉนวนชำรุดขณะดึงสาย    แต่เห็นช่างไฟส่วนใหญ่ใส่ทีหลังทุกที ??? เฮ้อออออ...... จากคุณ : arm_cc - [ 15 ธ.ค. 51 21:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รบกวนสอบถามเรื่อง การต่อสาย N และ G ที่ตู้เมนค่ะ สงสัยว่าทำไม " นิวตรัล-กราวน์ต่อถึงกันเฉพาะที่ตู้เมนเท่านั้น ส่วนตู้อื่น(ชั้นสองและสาม) ที่ดึงไฟจากตู้นี้ไม่ต้องต่อถึงกัน " "สายต่อฝาก ระหว่าง N และ G ที่ตู้เมนเท่านั้น ที่ตู้ย่อยอื่นห้ามต่ออย่างนี้ " เนื่องจากสอบถามทางสแควร์ดึแล้วได้รับคำอธิบายว่า เราสามารถต่อสายนิวทรัล-กราวน์ที่ตู้ย่อย(ชั้นสองและสาม)ได้เช่นกันหรือจะไม่ต่อก็ได้ โดยที่บ้านต้องมีหลักดินเพียงหลักเดียวค่ะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 17 ธ.ค. 51 07:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห.18 ลองไปดูที่นี่ครับ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R7260408/R7260408.html จากคุณ : noom_super - [ 17 ธ.ค. 51 08:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองดูตัวอย่างของคอนซูเมอร์ยูนิต หรือ โหลดเซนต์เตอร์ 1 เฟส ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R7255370/R7255370.html ตามมาตรฐานแล้ว N กับ G ต่อถึงกันที่เมนสวิทต์จุดเดียวครับ จากคุณ : arm_cc - [ 17 ธ.ค. 51 23:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณคุณ noom_super และ คุณ arm_cc สำหรับลิงค์นะคะ ลองไล่อ่านดูแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลที่ทางการไฟฟ้าให้ต่อได้เฉพาะที่ตู้เมนค่ะ ที่บ้านช่างต่อสายให้ทั้งตู้ชั้นสองและชั้นสามที่เป็นตู้ย่อยค่ะตามรูป ช่างอธิบายว่าสามารถทำได้ค่ะ พอสอบถามทางสแควร์ดีก็ได้รับคำตอบว่าทำได้ไม่เกิดผลเสียในคอนเซ็ปท์ที่ว่าที่บ้านมีหลักดินหลักเดียว ซึ่งเป็นคำตอบที่ขัดแย้งกับมาตราฐานของการไฟฟ้าเลยเกิดข้อสงสัยว่าจริงๆแล้วเราสามารถต่อได้หรือไม่ได้ค่ะ เพราะอะไรและทำไมจึงต้องต่อที่ตู้เมนจุดเดียวค่ะ เราพอจะสอบถามทางการไฟฟ้าได้หรือไม่คะ และหากเราต้องการติดต่อผู้ที่มีความรู้ทางการไฟฟ้าช่วยตรวจสอบงานไฟฟ้าของที่บ้านเราสามารถติดต่อที่หน่วยงานใดได้บ้างคะ ตอนนี้ที่บ้านมีหลักดินหลักเดียวค่ะ เครื่องทำน้ำอุ่นและแอร์ใช้สายไฟที่มีกราวนด์เดินออกจากตู้ตามในรูปค่ะ ปั๊มน้ำเป็นปลั๊กสองขามีกราวนด์ใช้กับเต้ารับแบบเยอรมันค่ะ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆที่มีสายดินคิดว่าจะตัดต่อปลั๊กสองขาเดิมเป็นปลั๊กสามขาแทนค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำนะคะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 18 ธ.ค. 51 07:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ด้านบนเป็นรูปตู้ย่อยชั้นสองค่ะ รูปนี้ตู้ย่อยชั้นสามคะ จากคุณ : จขกท (~melody*lane#) - [ 18 ธ.ค. 51 07:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 .........เหตุผลหลักคือ ต้องการให้กระแสที่เกิดจากความผิดพร่องลงดินไหลในส่วนของสายดินอย่างเดียว เพื่อให้เครื่องป้องกันไฟรั่วทำงานประสานลำดับการป้องกันอย่างถูกต้องครับ               ซึ่งหมายความว่าถ้าต้นทางคุณติดตั้งเบรกเกอร์กันไฟรั่วไฟดูดหรือ RCBO ขนาด 30 mA คุมโหลดเซนเตอร์ปลายทาง  และที่ตู้ปลายทางก็ติดตั้ง RCBO ด้วยเหมือนกัน ซึ่งปรกติต้องมีค่าความไวจะน้อยกว่า 30 mA เพื่อเป็นการจัดลำดับการป้องกัน เช่น 10 mA     ถ้าเราไม่ต่อประสานศักย์ของ N และ G ที่ตู้ไฟปลายทางแต่ลากสายดินไปให้  เมื่อเกิดไฟรั่วแล้ว RCBO 10 mA ไม่ทำงาน (ซึ่งปรกติควรทำงานแต่ถ้า RCBO เสีย) แล้วยังมี RCBO ต้นทางค่อย buckup ให้อยู่ คือ ตัดไฟรั่วให้แทน RCBO ปลายทาง          แต่ถ้าเราประสานศักย์ของ N และ G เข้าด้วยกันที่ปลายทางด้วย   RCBO 30 mA มีโอกาสไม่ทำงานสูง (ไม่เป็น Buckup ให้ RCBO 10 mA) เพราะ กระแสรั่วไหลไปไหลในสาย N มากกว่าสายดิน เพราะสาย N มีค่าอิมพีแดนซ์ต่ำกว่า กระแสจึงไหลได้ดีกว่า RCBO ต้นทางไม่สามารถตรวจจับได้ จากคุณ : arm_cc - [ 18 ธ.ค. 51 21:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ........นอกจากนี้ถ้าสาย N ขาด ระหว่างตู้ต้นทางและปลายทาง กระแสที่เคยไหลในสาย N จะไปไหลในสายดินแทนครับ   และทั่วไปสายดินจะเท่าหรือเล็กกว่าสาย N    ถ้ากระแสใน N มีค่าสูงแต่ต้องไปไหลในสายดินที่มีขนาดเล็กกว่าแทน  เหตุการณ์อาจทำให้สายดินร้อนหรือไหม้ได้ครับ จากคุณ : arm_cc - [ 18 ธ.ค. 51 21:57:12 ]